เมื่อใครได้อ่านเรื่องราวต่อไปนี้ จะเข้าใจเป็นอย่างดีว่า นี่ไม่ได้เป็นการอวยกันจนเกินงาม ที่เราใช้คำว่า นางฟ้าที่แท้จริง กับ ปู ไปรยา ลุนด์เบิร์ก ซึ่งได้เล่าเรื่องราวอันน่าประทับใจ ระหว่างทำหน้าที่ ฑูตสันถวไมตรี UNHCR
โดยเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2560 เฟสบุ๊ค Praya Lundberg ได้โพสต์เรื่องราวของเด็กหญิงผู้ลี้ภัยคนหนึ่งชื่อ นาเม ซึ่งมีเนื้อหา ดังนี้
“นาเม เด็กหญิงผู้ลี้ภัยที่ได้เปลี่ยนชีวิตปูไปตลอดกาล เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญ และปูหวังว่าเรื่องนี้จะทำให้นาเมกลายเป็นวีรบุรุษในหัวใจของทุกคนเช่นกัน
ปูได้ลงพื้นที่เยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัย ได้พบกับนาเม นาเมเดินทาง 3 ช.ม. เพื่อมาพบกับปูที่สำนักงาน UNHCR หลังจากพูดคุยกับนาเม นาเมบอกปูว่า เธอขาพิการและอยู่บ้านซึ่งอยู่ไกลมาก และเดินไปโรงเรียนเองทุกวัน พอปูทราบ ปูของอนุญาต UNHCR ว่าขอเดินกลับไปส่งน้องที่บ้าน โดยที่ปูไม่เคยรู้เลยว่าบ้านน้องอยู่ที่ไหน ไกลเพียงใด ถนนที่เราเดินด้วยกัน เป็นถนนที่ยากลำบากที่สุดเท่าที่ปูเคยเดินมา เพราะเต็มไปด้วยหินและโคลน และต้องเดินขึ้นเขา วันนั้นฝนก็ตก และทำให้การเดินนั้นยากขึ้นไปอีก แต่ละก้าวที่เราเดินด้วยกัน ปูรับรู้ได้ถึงน้ำตาและความเจ็บปวดของนาเม ที่มากเกินกว่าที่ปูจะจินตนาการได้ แต่นาเมไม่บ่นกับปูสักคำ นาเมเดินไปกลับโรงเรียน 5 ชั่วโมงต่อวัน เพียงเพื่อได้ไปเรียนหนังสือ เพราะน้องฝันว่าอยากเป็นครู เพื่อจะได้ช่วยตนเองและแม่ได้ นาเมทำอย่างนี้ทุกวันมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ระหว่างที่เราเดิน ปูไม่สามารถทนเห็นน้องเดินอย่างเจ็บปวดอีกต่อไป จึงถามว่าน้องอยากนั่งรถมั้ย อย่างน้อยเพื่อจะได้ร่นระยะทาง น้องตอบตกลง อย่างไรก็ตาม บ้านน้องอยู่ในที่สูงชันในเขาและรถไม่อาจไปถึงได้ ปูจึงเดินไปส่งน้องต่อที่บ้านซึ่งเป็นส่วนที่ยากที่สุด เพราะแคบ สูงชัน และลื่นมาก ในที่สุดเราก็มาถึงบ้านของน้อง ปูไม่ทราบว่าปูจะบอกได้อย่างไร ว่าปูชื่นชมและเคารพเขาเพราะเราไม่ได้พูดภาษาเดียวกัน สิ่งเดียวที่ปูสามารถคิดคือการก้มลง และล้างเท้าของเธอเพื่อแสดงให้เห็นว่าปูเคารพจิตใจและความเข้มแข็งของน้อง นาเมเป็นหนึ่งในคนที่เข้มแข็งที่สุดที่ปูเคยได้พบเจอ ความตั้งใจและพยายามในด้านการศึกษาของนาเมถือ เป็นความพยายามที่น่ายกย่อง นาเม เด็กหญิงวัย 16 ปีที่คือคนที่ปูจะจดจำและเคารพตลอดไป
เนื่องในวันผู้ลี้ภัยโลกปีนี้ ปูขอระลึกถึงนาเมและผู้ลี้ภัยทั่วโลก และขอให้เรื่องของนาเมอยู่ในใจหลายๆคนเหมือนกับปูค่ะ #PrayaforUNHCR #withrefugees #worldrefugeeday @unhcr.thailand”