Skip to content
เรื่องย่อละคร แม่อายสะอื้น นำแสดงโดย ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ และ อ๋อม อรรคพันธ์

แม่อายสะอื้น เรื่องย่อ (2560) – ละคร ช่อง 7 HD

แม่อายสะอื้น เรื่องย่อ : เรื่องราวของหญิงสาวที่สวยที่สุดของหมู่บ้านหนึ่งในอำเภอแม่อาย ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้เธอต้องมาหาเงินที่กรุงเทพฯ และมันเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมเกิดคาดคิด …

ผู้กำกับฯ : ปัญญา ชุ่มฤทธิ์
ผู้ผลิต : มีเดีย สตูดิโอ
ช่อง : 7HD
ออกอากาศ : จันทร์-อังคาร 20.20 น.
ตอนแรก : 22 มกราคม 2018

เรื่องย่อ แม่อายสะอื้น

1

ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอแม่อาย มีหญิงสาวที่สวยที่สุดของหมู่บ้านคนหนึ่งนามว่า ดาวนิล (รับบทโดย ปุ๊กลุก ฝนทิพย์) เธอเป็นลูกสาวของคำปัน (รับบทโดย สรพงษ์ ชาตรี) ครูสอนการแสดงศิลปะล้านนา ดาวนิลเป็นคนที่มีฝีมือในการรำดาบ และชาวบ้านก็ให้ความชื่นชมฝีมือรำดาบของเธอเป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าคำปันผู้เป็นพ่อ ภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้เหลือเกิน

แต่ในทางตรงข้าม ช่อเอื้อง (รับบทโดย มะเหมี่ยว พรชดา) ลูกสาวคนเล็ก ที่คำปันพยายามฝึกหัดให้ตีกลองสะบัดชัย แต่ฝีมือการตีไม่เคยเป็นโล้เป็นพาย ขัดใจผู้เป็นพ่อยิ่งนัก ช่อเอื้องจึงมักถูกตำหนิอยู่เสมอ

คณะละครของคำปันมีคู่แข่งคือคณะละครของหนานเมือง (รับบทโดย สมชาย ศักดิกุล) แต่ด้วยความที่คณะของหนานเมือง ไม่มีนักแสดงที่มีความสามารถเทียบได้กับดาวนิล จึงทำให้คณะของหนานเมืองมีงานน้อยกว่ามากนัก เป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้หนานเมืองอิจฉา และไม่ชอบหน้าคำปัน ไม่เพียงเท่านั้น ยังหาทางกลั่นแกล้งคณะละครของคำปันทุกครั้งเมื่อมีโอกาส

และไม่แต่เพียงผู้เป็นพ่อเท่านั้นที่ไม่ถูกกัน ด้านลูกสาวของหนานเมืองชื่อรินคำ ก็มักจะต้องหาเรื่องทะเลาะกับช่อเอื้องทุกครั้งที่เจอหน้า ทำให้ยิ่งตอกย้ำความขัดแย้งเข้าไปอีก

ทอน ลูกชายผู้ใหญ่บ้านที่แอบชอบดาวนิลอยู่ ชวนให้ไปแสดงในงานเปิดรีสอร์ทใหม่ในตัวเมือง และในคืนที่ดาวนิลได้ไปแสดงในงานเปิดรีสอร์ทนั้นเอง รินคำกับหนานเมืองก็ตามไปแกล้งคณะของคำปัน โดยรินคำหลอกดาวนิลไปขังไว้ในห้องเก็บของ แต่แล้วทรงพล (รับบทโดย อ๋อม อรรคพันธ์) ก็ผ่านมาเจอพอดีจึงช่วยเอาไว้ได้ แต่ไม่ทันได้ขอบคุณ ทรงพลก็เดินออกไปก่อน

ดาวนิลได้พบทรงพลอีกครั้งเมื่อเริ่มการแสดง เธอได้รู้ว่า ที่แท้ทรงพลคือนักธุรกิจที่มาจากกรุงเทพฯ หลังจบการแสดง ดาวนิลได้สร้างความประทับใจกับคนดูเป็นอย่างมาก จนแขกในงานต่างปรบมือให้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ดาวนิลดีใจที่สุด หากแต่เป็นคำชมของทรงพลที่ฝากเพื่อนมาบอกเธอนั่นเอง

ไม่ว่าอย่างไร ด้วยความที่ถูกกลั่นแกล้งบ่อย ๆ จากหนานเมืองและรินคำ ทำให้งานแสดงของคณะคำปันน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่งฐานะการเงินเริ่มมีปัญหา ดาวนิลจึงพยายามหางานเพิ่ม แต่สุดท้ายก็โดน ายศักดิ์ นายหน้าหางานฉวยโอกาสจะปลุกปล้ำ ดาวนิลไม่ยอม และทำร้ายอ้ายศักดิ์เพื่อป้องกันตัวและหนีออกมาได้

ได้ที หนานเมืองจึงฉวยโอกาสร่วมมือกับอ้ายศักดิ์ เล่นงานคณะละครของคำปัน โดยการตัดช่องทางทั้งหมด ในที่สุดคณะคำปันก็ไม่มีงานแสดงอีกเลย เมื่อไม่มีงานแสดง ฐานะของคณะละครของคำปันก็ย่ำแย่หนักยิ่งกว่าเดิม เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ดวงตาของคำปันเริ่มมองเห็นได้เลือนลางลงไปทุกที ๆ ดาวนิลกลัดกลุ้มใจเป็นอันมาก ด้วยความที่เป็นห่วงพ่อ

วิไล ที่กลับมาเยี่ยมป้าบัว ผู้เป็นแม่ รู้เรื่องดาวนิลต้องการใช้เงิน ก็ชวนดาวนิลเข้าไปทำงานกับตัวเองที่กรุงเทพฯ แม้ว่าตอนแรกดาวนิลจะปฏิเสธ แต่เมื่อโดนวิไลใช้อุบายล่อหลอกว่า มีงานแสดงให้ดาวนิลไปแสดงที่กรุงเทพฯ เธอจึงตัดสินใจไป แม้ว่าคำปันกับช่อเอื้องจะไม่เห็นด้วยก็ตาม

ตัดมาที่ ทรงพล ที่กำลังคบหาอยู่กับ จิดาภา สาวไฮโซที่เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่สุด ทรงพลขอจิดาภาแต่งงาน แต่ทั้งคู่มีปากเสียงกันเรื่องการจัดงานแต่งงาน จนจิดาภาบอกเลิกทรงพล แม้ใครจะเข้ามาช่วยอย่างไรก็ไม่เป็นผล เพราะเบื้องหลังมี สาวน้อย ที่ไม่เคยชอบหน้าจิดาภา ขัดขวางความรักของทรงพลอยู่ทุกทาง

เมื่อดาวนิลมาถึงกรุงเทพฯ ก็พบว่าสิ่งที่วิไลบอกเป็นสิ่งหลอกลวงทั้งหมด เธอกลับถูกหลอกให้มาทำงานขายบริการ ดาวนิลถูกบังคับให้บริการแขกที่มาเที่ยว และใช้กำลังข่มขืนเธอ

แต่เดชะบุญคนในร้านคนหนึ่งสงสารเธอ และพยายามช่วยโดยโน้มน้าวให้เฮียเจ้าของร้านยอมขายดาวนิลให้กับร้านใหม่ ที่เป็นแค่สถานที่เที่ยวสำหรับผู้ชาย แม้ว่าที่ใหม่ดาวนิลจะไม่ต้องขายบริการ แต่ก็โดนบังคับให้มานั่งกินเหล้ากับแขก ดาวนิลต้องจำใจทำงานที่นี่ เพื่อชดใช้ค่าตัวที่วิไลขายเธอให้กับเฮียเจ้าของร้าน

2

ทรงพลอ่านข่าวเจอข่าวเรื่องจิดาภามีผู้ชายคนใหม่ ก็เสียใจเป็นอย่างมาก พี่ชายของเขาจึงพาทรงพลไปเที่ยว เพื่อจะได้ลืมความเสียใจ และนี่เองเป็นเหตุให้ดาวนิลได้เจอทรงพลอีกครั้ง

ดาวนิลที่ลึก ๆ ก็ชอบทรงพลอยู่ก่อนแล้ว ก็ดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เจอ แต่ก็อายสถานภาพที่ตัวเองเป็นอยู่ ผู้จัดการร้านสั่งให้ดาวนิลมาดูแลทรงพล แต่ด้วยความเมาจึงทำให้เขาจำดาวนิลไม่ได้ และคืนนั้นเอง ดาวนิลยอมเป็นของทรงพลด้วยความเต็มอกเต็มใจ

เมื่อตะวันรุ่ง ทรงพลทิ้งเงินจำนวนมากเอาไว้ให้เป็นค่าตัว และไม่เอยปากพูดกับดาวนิลสักคำ นั่นเป็นเพราะเขารู้สึกไม่ดีกับเหตุการณ์เมื่อคืน ดาวนิลเก็บเงินนั้นไว้ และสัญญากับตัวเองว่า ถ้าเธอได้เจอทรงพลอีกเธอต้องอยู่ในสถานภาพที่ดีกว่านี้ ไม่ยอมให้เขามาดูถูกเธอได้

คำปันได้แต่ทวงถามว่าเมื่อไรดาวนิลจะกลับบ้าน และช่วงหลังดาวนิลก็ไม่ค่อยรับโทรศัพท์ เพราะความอายทำให้ไม่กล้าเผชิญหน้ากับพ่อ และต้องปิดบังความจริงเรื่องงานที่ทำอยู่

เวลาผ่านไป ดาวนิลทำงานจนสามารถใช้คืนค่าตัวได้ครบ เธอวางแผนจะเดินทางกลับบ้าน แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับชีวิตเธออีกครั้ง เมื่อเธอรู้ตัวว่าตัวเอง ท้อง !

วิไลพาดาวนิลไปทำแท้ง ดาวนิลไม่ยอม เพราะรู้ว่าลูกที่เกิดน่าจะเป็นลูกของทรงพล แต่วิไลก็ให้คนพาดาวนิลไปจนได้ แต่บังเอิญว่าตำรวจได้ทลายคลินิกเถื่อนในเวลานั้นพอดี ในจังหวะเดียวกับที่ดาวนิลถูกบังคับให้ไปที่นั่นพอดี

ดาวนิลถูกพาตัวนำส่งโรงพยาบาล โดยมีหมอเทวัญ (พี่ชายทรงพล) เป็นเจ้าของไข้ ระหว่างนั้นเอง ดาวนิลก็พูดว่าเธอไม่ต้องการทำลายชีวิตลูกที่เกิดจากความรัก หมอเทวัญเกิดความเห็นใจ จึงพามาอาศัยอยู่กับคุณนายติ๊ด เจ้าของร้านเสื้อ ที่มีนิสัยขี้เหนียวจนหาตัวยากคนหนึ่ง

ตอนแรก คุณนายติ๊ดคิดว่า ดาวนิลเป็นเมียน้อยของหมอเทวัญ จึงรับไว้ทำงานหวังเอาหน้า แต่พอรู้ความจริงว่า ดาวนิลเป็นแค่คนที่เทวัญช่วยไว้ ก็แกล้งโดยการใช้ดาวนิลให้ทำงานหนัก

ในท้ายที่สุด เหตุน่าสลดใจก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อดาวนิลคลอดลูกก่อนกำหนด และเด็กออกมาพิการ !

ดาวนิลโทษตัวเองที่กินเหล้าตอนทำงานในช่วงที่ตั้งท้อง และเคยโดนหลอกให้กินยาทำแท้ง ทำให้ลูกออกมาพิการ และดาวนิลโดนไล่จากคุณนายติ๊ด ทำให้เธอไม่มีที่ไป จึงตัดสินใจพาลูกกลับบ้าน

ดาวนิลกลับมาแม่อาย ท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทาของทุกคนที่มีเด็กมาด้วย ดาวนิลกดดันมากที่พ่อถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามขากชาวบ้าน จึงตัดสินใจโกหกทุกคนว่า เป็นลูกของเพื่อนที่ตายไปแล้ว

3

หมอเทวัญมาหาดาวนิลที่ร้าน แต่ไม่เจอดาวนิล คุณนายติ๊ดจึงโกหกว่า ดาวนิลกลับไปเยี่ยมบ้าน แต่ด้วยความกลัวว่าเทวัญจะรู้ว่าตัวเองเป็นคนไล่ดาวนิล เลยติดต่อดาวนิล และขอร้องต่าง ๆ นานา ให้ดาวนิลกลับมาทำงาน ตอนแรกเธอยังสองจิตสองใจ แต่เมื่อคุณนายติ๊ดเสนอให้เงินเพิ่ม เธอจึงตัดสินใจกลับมากรุงเทพฯอีกครั้ง

โชคชะตานำพาให้ หลิวหลิว สไตลิสต์ชื่อดัง เกิดสะดุดตากับความสวยของดาวนิล จนชักนำเข้าสู่วงการบันเทิง โดยหลิวหลิวทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัว หลิวหลิวสร้างประวัติของดาวนิลขึ้นมาใหม่ และเริ่มปั้นดาวนิลจนเริ่มมีงานมากขึ้น

เมื่อเธอเริ่มมีชื่อเสียง ก็ได้งานถ่ายแบบของโรงแรมทรงพล ดาวนิลดีใจที่ได้เจอทรงพลอีกครั้งในฐานะใหม่ที่ดีกว่าเดิม และด้วยความอ่อนโยนของดาวนิล ทำให้ทรงพลเกิดความรักในตัวดาวนิล แต่แล้วจิดาภาก็เกิดอาการหวงก้าง เมื่อรู้ว่าทรงพลคบกับดาวนิล ก็พยายามจะกลับมาหาเขา ดาวนิลจึงทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ทั้งคู่กลับมาคบกันอีก

ดาวนิลเริ่มมีงานในวงการมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมประวัติใหม่ที่ไม่มีใครสงสัย ดาวนิลหลงในความสุข ความหรูหรา ประกอบกับความรักที่มีต่อทรงพล จนทำให้เธอลืม พ่อ น้อง และลูกพิการของเธอที่แม่อายไปอย่างสนิทใจ

คำปันได้แต่เฝ้ารอคอยลูกด้วยความหวัง แต่ลูกสาวก็หายไปอีกครั้ง ในขณะเดียวกัน ตาของคำปันเริ่มมืดบอดลง แต่คำปันไม่ยอมเข้ารับการผ่าตัด เฝ้าแต่รอคอยดาวนิลพาไปหาหมอตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้

ช่อเอื้องพยายามติดต่อพี่สาวทุกทางแต่ก็ติดต่อไม่ได้ เธอจึงจำใจขายของที่มีอยู่ และปิดคณะการแสดงเพราะแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว ดูเหมือนว่า ในขณะที่ดาวนิลกำลังระเริงแสงสีอยู่ที่เมืองกรุง แต่คนที่แม่อายกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

ทรงพลพาดาวนิลไปที่บ้านเพื่อรู้จักกับสาวน้อย แต่คนที่ดาวนิลได้เจอก่อนกลับเป็นเทวัญ เทวัญทำเป็นไม่รู้จักดาวนิล และต้องปกปิดความเสียใจที่ว่า ผู้หญิงที่ตัวเองแอบรักกลายมาเป็นแฟนของน้องชาย

ช่อเอื้องที่วัน ๆ เห็นพ่อที่เริ่มป่วยกระเสาะกระแสะ บ่นเป็นห่วงลูกสาวที่หายไป ได้แต่คิดว่า คงเป็นเพราะมีเรื่องเดือดร้อน เลยทำให้ไม่สามารถติดต่อกลับมาได้ ทอนเห็นดาวนิลในทีวีก็แอบมาบอกช่อเอื้อง แต่ช่อเอื้องตัดสินใจที่จะไม่บอกเรื่องนี้กับพ่อ แล้วเดินทางมาตามดาวนิลที่กรุงเทพฯด้วยตัวเอง

ช่อเอื้องมาถึงกรุงเทพฯ ด้วยความที่ไม่รู้อะไรเลย จึงดักรอดาวนิลที่สถานีโทรทัศน์ แต่มีนักข่าวมากมายดาวนิลจึงทำเป็นไม่รู้จักช่อเอื้อง และรีบขึ้นรถขับออกไป ช่อเอื้องมองตามรถพี่ไปอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ทั้งผิดหวังและเสียใจ แม้จะดูสวยผิดตาไปมาก แต่เธอมั่นใจว่า นี่คือพี่สาวของเธอจริง ๆ

ช่อเอื้องพกพาความเสียใจเดินข้ามถนนอย่างเหม่อลอย และถูกรถของเทวัญชน ที่โรงพยาบาลช่อเอื้องได้รู้ว่า ดาวนิลเป็นแฟนของทรงพลน้องชายเทวัญ ช่อเอื้องจึงตัดสินใจกลับแม่อาย และไม่บอกความจริงกับพ่อ เธอโกหกพ่อว่าพบดาวนิลแล้ว และสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง ที่ไม่ติดต่อมาเพราะงานยุ่งมาก คำปันฟังแล้วค่อยคลายกังวล ช่อเอื้องได้แต่เก็บความช้ำใจไว้คนเดียว

คำปันที่ตอนนี้ตาแทบจะบอดสนิท บังคับช่อเอื้องให้พาไปหาดาวนิลที่กรุงเทพฯ ช่อเอื้องไม่ยอมทำตาม คำปันเลยแอบไปกับกลอง (ลูกดาวนิล) โดยนัดคนรู้จักที่กรุงเทพฯให้มารับที่ท่ารถ แต่ด้วยความที่ติดต่อผิดพลาดทำให้คลาดกันที่สถานีขนส่ง

คำปันที่ไม่มีเงินและติดต่อใครไม่ได้ ต้องพาหลานไปนอนรอที่ศาลาริมทาง ช่อเอื้องตามคำปันหาจนเจอ นักเลงติดยาแถวนั้นพยายามมาหาเรื่อง ระหว่างนั้นเอง วรรณา ที่เป็นคนแถวนั้นก็เข้ามาช่วย และพาช่อเอื้อง คำปัน และกลองไปอยู่ที่บ้านของเธอที่สลัมแถวนั้น คำปันเล่าให้วรรณาฟังเรื่องมาตามหาลูกสาวชื่อดาวนิล ช่อเอื้องแอบเล่าความจริงให้วรรณาฟัง วรรณาบอกช่อเอื้องว่าจะหาทางพาช่อเอื้องไปพบกับดาวนิลให้ได้

ช่อเอื้องตามไปเจอพี่สาวที่งานแถลงข่าวงานหนึ่ง แต่เหมือนเดิม ดาวนิลไม่อยากฟังเรื่องพ่อ เพราะกลัวว่าทรงพลที่ยืนอยู่ตรงนั้นจะได้ยิน ช่อเอื้องผิดหวังมากที่พี่สาวเป็นแบบนี้

ช่อเอื้องตัดสินใจโทรหาเทวัญ ดาวนิลตกใจมากที่เห็นช่อเอื้องที่บ้าน เทวัญบอกว่าช่อเอื้องขอมาอาศัยอยู่ด้วย ช่อเอื้องบอกดาวนิลว่า เธอจะอยู่ที่นี่จนกว่าดาวนิลจะยอมรับกับทุกคนว่า เธอคือน้องที่มาจากแม่อาย ดาวนิลกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อสาวน้อยเอ็นดูช่อเอื้องที่เป็นเพียงคนงานในบ้าน

ระหว่างนั้น สาวน้อยเห็นความผิดปกติของดาวนิลกับช่อเอื้อง ในที่สุดช่อเอื้องตัดสินใจบอกความจริงกับเทวัญ เทวัญปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทั้งหมด เทวัญจึงเตือนให้ดาวนิลบอกความจริง แต่ดาวนิลกลัวจะเสียทรงพลไป อีกทางหนึ่ง สาวน้อยจับผิดว่าดาวนิลกับเทวัญดูมีความสนิทสนมกัน จึงบอกกับทรงพล ทำให้ทรงพลเริ่มเกิดระแวงขึ้น

ยิ่งนานวันเข้า ช่อเอื้องก็เริ่มรู้สึกว่าดาวนิลเปลี่ยนไปมาก ยิ่งคุยกับวรรณาแล้วรู้ว่าพ่อเองก็เริ่มอยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่ไหว เธอจึงคิดจะยอมแพ้และกลับบ้าน สาวน้อยสงสารจึงแอบให้ไปรับพ่อกับหลานมาอยู่ด้วย ดาวนิลยิ่งเครียดหนักเมื่อ เจอพ่อที่ตาบอด และลูกชายที่ขาพิการพร้อมหน้า

ดาวนิลทุกข์ใจกับความรู้สึกผิดที่ทิ้งพ่อกับลูก ถึงกับตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่หลิวหลิวมาช่วยไว้ได้ทัน ดาวนิลไม่ยอมบอกทรงพลว่าอยากตายเพราะเรื่องอะไร เทวัญโกรธที่ดาวนิลไม่ยอมรับความจริง ทรงพลมองความผิดปกติของพี่ชายกับคนรัก ด้วยความสงสัยมากขึ้นทุกที

ทรงวุฒิ (น้องชายทรงพล) ชอบช่อเอื้อง แต่เธอไม่เล่นด้วย ทรงวุฒิจึงคิดแผนพาช่อเอื้องไปโรงแรมที่กระบี่ ทรงพลตามลงไปเรื่องงานและพาดาวนิลไปด้วย โดยไม่รู้ว่าเทวัญพักที่นั่นอยู่ก่อนแล้ว

ในงานเลี้ยงของโรงแรม ช่อเอื้องขึ้นรำฟ้อนผางเพื่อให้กระทบใจดาวนิลที่เคยรำชุดนี้ด้วยกัน ดาวนิลรู้สึกกดดันอย่างหนัก วิ่งลงทะเลหวังให้จมน้ำตายแต่เทวัญมาช่วยไว้ทันอีก และทรงพลขอดาวนิลหมั้นในคืนนั้น ดาวนิลที่กำลังจะพูดความจริงเรื่องพ่อ แต่กลับไม่ได้พูด

คุณนายติ๊ดเห็นข่าวดาวนิลก็เกิดความอิจฉา จึงติดต่อหาจิดาภา และบอกว่าทรงพลกำลังโดนดาวนิลหลอก คุณนายติ๊ดมาแฉความจริงเรื่องดาวนิลมีลูกโดยอ้างถึงเทวัญ แต่ด้านเทวัญปฏิเสธเพื่อช่วยดาวนิล คุณนายติ๊ดกับจิดาภาต้องยอมถอย

สาวน้อยพยายามเตือนให้ทรงพลฟังหูไว้หู แต่ทรงพลตัดปัญหาด้วยการประกาศจะแต่งงานกับดาวนิล ช่อเอื้องเสียใจมากที่ดาวนิลปิดบังความจริงเรื่องลูกอีกเรื่องหนึ่ง ดาวนิลเริ่มจนหนทาง เมื่อความจริงเริ่มมัดตัว

ช่อเอื้องแม้จะโกรธแต่ก็อดสงสารพี่สาวไม่ได้ ช่อเอื้องแอบมาคุบกับดาวนิล ทำให้จิดาภาเริ่มเอะใจในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จิดาภาให้คุณนายติ๊ดไปสืบเรื่องนี้ คุณนายติ๊ดหาหลักฐานมาจนรู้ว่าดาวนิลเป็นพี่น้องกับช่อเอื้อง

จิดาภาเอาเรื่องนี้ไปบอกต่อหน้าทรงพล รวมถึงคนอื่น ๆ ในบ้าน ดาวนิลคิดว่าทุกอย่างคงจบสิ้น แต่เป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อช่อเอื้องปฏิเสธต่อหน้าทุกคนว่า ผู้หญิงสกปรกอย่างดาวนิลไม่ใช่พี่ดาวนิลผู้งดงามของเธอ ดาวนิลปวดร้าวที่น้องพูดแบบนั้น แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ดาวนิลไม่รู้จะทำยังไง อยากจะบอกความจริงกับพ่อแต่ก็กลัวว่าจะเสียทรงพลไป ช่อเอื้องพยายามชวนพ่อและหลานกลับบ้าน แต่คำปันกลับดื้อไม่ยอมกลับ เพราะยังอยากตามหาดาวนิลให้เจอ

4

ทรงพลที่เริ่มไม่เชื่อใจดาวนิล พยายามหาทางคาดคั้นประวัติดาวนิลจากหลิวหลิว โดยใช้เงินเป็นตัวล่อ และด้วยที่ระยะหลัง ดาวนิลมีปัญหามากมาย จนงานเริ่มน้อยลง หลิวหลิวเลยตัดสินใจบอกว่าประวัติดาวนิลทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก

ช่อเอื้องเจอกับวิไลด้วยความบังเอิญ วิไลบอกความจริงว่า กลองเป็นลูกที่เกิดจากการขายตัวของดาวนิล ช่อเอื้องแทบล้มทั้งยืน ดาวนิลร้องไห้ไม่หยุด ขอร้องน้องว่าอย่าบอกพ่อเพราะกลัวพ่อจะเสียใจ

วิไลถูกซื้อตัวจากคุณนายติ๊ดเพื่อแฉดาวนิล แต่วิไลกลับเปลี่ยนใจในในนาทีสุดท้าย ดาวนิลจึงรอดพ้นจากการถูกประจานกลางกองถ่าย แต่ทรงพลได้ยินที่วิไลคุยกับช่อเอื้องเรื่องลูก ก็เข้าใจว่าดาวนิลเคยท้องกับพี่ชายตัวเองมาก่อน

ทรงพลเริ่มเชื่อมโยงเรื่องราวกับสิ่งที่หลิวหลิวพูด ยังไม่ทันที่ดาวนิลที่ตั้งใจมาบอกความจริงจะได้พูดอะไร ทรงพลก็พูดทุกอย่างขึ้นมา และต่อว่าดาวนิลว่าเป็นผู้หญิงใจแตกที่ปิดบังว่าตัวเองมีลูก ดาวนิลเสียใจมากที่ถูกทรงพลพูดดูถูก จึงบอกความจริงทั้งน้ำตาว่า กลองคือลูกของทรงพล ทุกคนตกตะลึง ทรงพลรับไม่ได้ หนีไปทันที สาวน้อยถึงกับเป็นลมล้มพับไป

ช่อเอื้องทั้งสงสารทั้งเกลียดชังพี่ตัวเองที่ปิดบังทุกอย่าง ดาวนิลบอกว่าการเป็นแค่ดาวนิล ลูกพ่อครูคำปันในคณะรำไม่มีค่า ไม่มีความหมายสำหรับชีวิตที่นี่เพราะเธอโดนดูถูก โดนเหยียดหยามมาตลอด สองพี่น้องโต้เถียงกันโดยไม่รู้เลยว่า คำปันแอบได้ยินทุกคำพูดด้วยหัวใจที่แตกสลาย เมื่อรู้ว่าลูกสาวทั้งสองคนโกหกตนมาตลอดเวลา

คำปันหนีออกไปกับกลองด้วยใจที่เจ็บช้ำ ดาวนิลช็อกนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล ช่อเอื้องกับทรงวุฒิพยายามตามหาคำปัน แต่ไม่พบ เทวัญมาเตือนสติทรงพล คำปันถูกพากลับมาแม่อายในสภาพจิตใจบอบช้ำ และเพ้อถึงแต่ดาวนิล จนตายในอ้อมกอดช่อเอื้องนั้นเอง

ดาวนิลฟื้นขึ้นมาเจอทรงพล แต่ทรงพลยังทำใจให้อภัยกับความผิดของดาวนิลไม่ได้ เขาบอกดาวนิลว่า ความรักของเขาไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรวย ความจน แต่ผู้หญิงที่ขาดคุณธรรมทำลายพ่อ ทำลายครอบครัวของตัวเองเช่นนี้ เขารับไม่ได้ ดาวนิลเสียใจมาก ที่อดทนมาทุกอย่าง แต่ทรงพลกลับไม่ยอมรับ ดาวนิลหมดสติไปอีกครั้ง

ดาวนิลฟื้นมาในวันสวดศพพ่อวันสุดท้าย หลิวหลิวตัดสินใจบอกเรื่องคำปัน ดาวนิลไม่เชื่อว่าพ่อจะตาย แต่พอมาถึงแม่อาย ภาพโลงศพของพ่อทำให้ดาวนิลร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด ดาวนิลแหวกฝูงชนเข้าไปรถขนศพ ชาวบ้านต่างพากันรังเกียจพากันสาปแช่ง ขบวนแห่ศพเคลื่อนไปโดยไม่มีใครสนใจ ปล่อยให้ดาวนิลทรุดลงสะอื้นอยู่ตามลำพัง จนกลองที่บวชเป็นเณรเป็นคนเดินพาแม่เข้าไปที่งาน

ที่หน้าเมรุ ช่อเอื้องตั้งใจตีกลองสะบัดชัยอย่างสุดฝีมือต่อหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ดาวนิลเดินมาพร้อมดาบสิบสองเล่มในมือ ดาวนิลกราบหน้ารูปพ่อ ขอให้พ่ออภัย ก่อนจะฟ้อนดาบอย่างงดงามชดช้อยที่สุดหาใครมาเปรียบปราน

ทรงพลมองดาวนิลแล้วหยิบแหวนหมั้นออกมามอง คิดให้อภัย ดาวนิลรำมาจนถึงท่าสีไคล ก่อนจะใช้ดาบปาดคอตัวเองตายลงต่อหน้ารูปพ่อ ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่ดาวนิลทำลงไป ช่อเอื้องร้องไห้กอดพี่สาวแล้วพูดว่า อย่าทิ้งเธอไปอีก !!!

นักแสดงนำ

ดาวนิล : ปุ๊กลุก ฝนทิพย์
ทรงพล : อ๋อม อรรคพันธ์
คำปัน : สรพงษ์ ชาตรี
ช่อเอื้อง : มะเหมี่ยว พรชดา

Source: mediastudio.co.th