Skip to content
ตูน บอดี้สแลม กับเหตุการณ์สุดซึ้ง คุณยายผ้าถุงปลิว

ลูกชาย คุณยายผ้าถุงปลิว น้ำตาซึมที่ได้เห็น ตูน บอดี้สแลม กอดแม่ตัวเอง

ตูน บอดี้สแลม ไม่ใช่เพียงช่วยเหลือผู้ป่วยด้วยการรับเงินบริจาค เพื่อนำไปซื้อเครื่องมือแพทย์เท่านั้น แต่ยังได้สร้างความประทับใจอย่างต่อเนื่องตลอดเส้นทางที่วิ่งผ่าน

นิสัยของพี่ตูนที่เราได้เห็นเสมอคือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ทำให้คนที่ไม่เคยรู้จักเขามาก่อนรู้สึกแปลกใจ เพราะมันขัดกับบุคลิกภายนอก ที่ทั้งผมยาวมีรอยสัก จนวันนี้ พี่ตูนได้กลายขวัญใจมหาชนไปเป็นที่เรียบร้อย

โดยคุณกร ช่างภาพหลักของโครงการ ก้าวคนละก้าว ได้เล่าเรื่องราวอันน่าประทับใจของ คุณยายคนหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า คุณยายผ้าถุงปลิว เอาไว้ดังนี้

“เป็นอีกครั้ง ที่ผมเห็นคุณยายน่ารักอีกท่าน ปกติแล้วเราจะคุ้นตา “ผู้เฒ่าผู้แก่”นั่งประจำตำแหน่ง แต่คุณยายท่านนี้แตกต่าง ต่างจนก้าวนี้คุณยายเหนื่อยสุดๆ พอพี่ตูนมา คุณยายก็รีบสุดชีวิต แต่ก็ไม่ทัน เพราะประตูกับรั้วมันไกลมากนะสิ  “ตูนนนนนน (เสียงเบาๆ) ตูนนนนนน”

คุณยายหันมาถามผมด้วยเสียงเบาๆ ตูนไปแล้วเหรอ ตอนนั้นพี่ตูนเลยไปแล้วครับ แต่จู่ๆคุณยายก็สีหน้าเปลี่ยนครับ จู่ๆแกยิ้ม ในขณะผมหันหลังอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้น พี่ตูนวิ่งผ่านผมจากด้านหลัง พร้อมกับลงไปไหว้คุณยาย คุณยายกอดพี่ตูนด้วยสีหน้ามีความสุขสุดๆ เป็นอีกครั้ง ที่ผมรู้สึกถึงจิตใจพี่เขา นี่สินะอทิวราห์เซอร์วิส”

เมื่อเรื่องราวถูกแชร์ออกไป จนลูกชายของคุณยายผ้าถุงปลิวได้เห็นภาพ และอ่านเรื่องราวดังกล่าว จึงได้เขียนความประทับใจถึง ตูน บอดี้สแลม ว่า

“ผมไม่รู้เลยว่า แม่ผมคอยตูน ผมไม่เคยรู้เลยว่า แม่ผมรู้จักตูน ซึ่งเป็นศิลปิน Rock ผมดีใจที่ตูนกอดแม่

ผมยอมรับเลย ตัวผมเองไม่เคยกอดแม่แบบนั้นเลย มันเป็นภาพที่ประทับใจผม คนแก่คนหนึ่งคอยรอคนๆหนึ่งถึงสองวันเต็มๆ ในขณะที่แกเดินไม่ค่อยจะไหว โขยกเขยกออกมาเรียกผู้ชายคนหนึ่งที่แกภูมิใจและชื่นชอบในความดี จนเขาได้ยินแล้ววิ่งกลับไปทักทายหญิงชราคนหนึ่งซึ่งเป็นแม่ผม ได้จับมือ ได้กอด

ได้พูดคุยถึงเป็นเวลาอันสั้น แต่เป็นเวลาที่มีคุณค่า ตัวผมเองก็ได้เห็นภาพจากการไลฟ์สดโดยบังเอิญเพราะผมต้องทำงานรับราชการอยู่อีกที่หนึ่ง ไม่ค่อยจะได้ไปดูแลคนแก่คนนี้สักเท่าไหร่ แต่กลับมีเทวดามาเติมเต็มความรู้สึกนี้ให้กับผม กอดแม่ผมแทนผม จับมือแม่ผมแทนผม ขอบคุณชายคนนี้ที่ชื่อ ตูน บอดี้สแลม ด้วยทุกคนมีแม่ อยากฝากไว้ว่า หันกลับไปดูแลแกบ้าง อย่าให้เขาคอยใครบางคนที่เขารัก ที่เขาเลี้ยงมา เช่นผม ด้วยที่ว่าติดภารกิจการงานหรืออะไรก็แล้วแต่

ถ้ามีเวลาจงทำกับคนที่เรารัก และผมก็รักตูน รักใจตูนเช่นกัน ไม่ว่าเขาจะวิ่งเหนื่อยแค่ไหนเขาไม่ทิ้งคนที่รอเขา เขาวิ่งกลับไปกอดหญิงชรา ทั้งที่ไม่มีมาลัยเงินสักพวง แสดงให้เห็นว่าตูนสนใจคนชราที่คอยเขามากกว่าเงินบริจากเสียอีก เพราะเพียงแค่คนชราคนหนึ่งที่ชื่นชมเขา คนนั้นคือแม่ผม การวิ่งของตูนมันสอนอะไรกับตัวผมได้หลายอย่าง ซึ่งมากไปกว่าเงินบริจาค การวิ่งของตูนซ่อนปริศนาธรรมชีวิต การวิ่งของตูนซ่อนสัจธรรมชีวิต #ก้าวแต่ละก้าวของเขามันสอนเราอยู่จงดูให้ดี #RockNeverDies”

Source: Korn Pongpaiboonwet