Skip to content
เมษา BNK48 กับวัฒนธรรม ไอดอลญี่ปุ่น ที่คนไทยไม่เข้าใจ

เมษา BNK48 กับวัฒนธรรม ไอดอลญี่ปุ่น ที่คนไทยไม่เข้าใจ

กลายเป็นกระแสให้ต้องวิพากษ์วิจารณ์กันต่อไป หลัง เมษา BNK48 ถูกประกาศให้พักงานเป็นเวลา 1 เดือน หลังมีประเด็นเกี่ยวกับผู้ชายหลายต่อหลายครั้ง ล่าสุดก็เป็นการโพสต์คลิป แสดงให้เห็นว่าอยู่กับผู้ชายในร้านนวดแห่งหนึ่ง

โดยมีแฟนคลับ (โอตะ) ออกมาเรียกร้องเป็นจำนวนมากให้เธอลาออกจากวง หรือแม้แต่แสดงความไม่พอใจ ด้วยการเผาและทำลายรูปของ เมษา ผ่านทางสื่อโซเชียลต่างๆ เป็นจำนวนมาก

คำถามที่เกิดขึ้นจากคนนอกที่มองผ่านเข้าไป คือ การมีแฟนเป็นเรื่องร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ?

ไม่เพียงเท่านั้น บางคนถึงกับมองว่า การห้ามมีแฟนเป็นความบ้าคลั่งของแฟนคลับ ที่ต้องการเก็บไอดอลไว้เชยชม ทั้งๆที่ก็เป็นเพียงแค่จินตนาการอันเพ้อเจ้อเท่านั้น

แน่นอนว่า การไม่เห็นด้วยย่อมเกิดขึ้นได้ หากแต่จะดีกว่าไหม ถ้าเรามาทำความเข้าใจรากเหง้าทางวัฒนธรรม อันเป็นต้นกำเนิดของวง BNK48 เสียก่อน นั่นคือการกลับไปที่ AKB48 ที่เป็นต้นแบบจากประเทศญี่ปุ่น ของวง BNK48 ในประเทศไทย

ในญี่ปุ่นนั้น ไอดอล (アイドル) เป็นอะไรที่มากกว่าดาราอย่างที่เราเข้าใจ ในเชิงความรู้สึกลึกๆ ไอดอลเป็นมากกว่าดาราทั่วไป น้องชายของผู้เขียนที่ไปเรียนและอยู่ญี่ปุ่นมา 10 กว่าปี อธิบายเรื่องนี้ว่า

“ไอดอลในความรู้สึกของคนญี่ปุ่น ก็เหมือนกับแม่ชีที่เป็นที่ยึดเหนียวทางจิตวิญญาณ ดังนั้น ลองนึกภาพว่า แม่ชีที่เรานับถือชมชอบ วันหนึ่งเกิดทำสิ่งที่ผิดศีล หรือไปมีแฟน เราจะรู้สึกอย่างไร ความรู้สึกของคนญี่ปุ่นที่ชื่นชอบในตัวไอดอล ก็รู้สึกไม่แตกต่างกัน”

คำถามต่อมาคือ กฎห้ามมีแฟนมีจริงหรือไม่ คำตอบคือ มีจริง แต่ไม่ได้ถูกระบุไว้ในสัญญา เพราะการระบุเรื่องนี้ไว้ในสัญญานั้น ขัดต่อกฎหมายแรงงานของประเทศญี่ปุ่น แต่เป็นที่เข้าใจหรือที่เรียกว่า สัญญาใจ กันระหว่าง บริษัท ไอดอล และแฟนคลับ

ดังจะเห็นได้ว่า อดีตที่เป็นเคสอันโด่งดังของ Minami Minegishi สมาชิกคนสำตัญของ AKB48 ที่เธอต้องออกมาโกนผมขอโทษ หลังจากโดนจับได้ว่า ไปนอนค้างกับผู้ชาย

หรือแม้แต่อดีตเอวีไอดอลอย่าง โซระ อาโออิ ที่เพิ่งประกาศแต่งงานไปเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ยังต้องปรึกษาทีมงาน และทบทวนการประกาศนั้นหลายต่อหลายครั้ง

พูดง่ายๆก็คือ มันเป็นวัฒนธรรมที่รู้กันของไอดอลกับแฟนคลับ แม้ไม่มีกฎอะไรมาบังคับ แต่ไอดอลก็ยังต้องคำนึงถึงความรู้สึกของแฟนคลับอยู่นั่นเอง

แน่นอนว่าเรื่องนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก ว่าเป็นความบ้าคลั่งอย่างเพ้อเจ้อ ที่จะปกป้องจิ้นของแฟนคลับที่มีต่อตัวไอดอลเอาไว้ จะผิดจะถูกก็ว่ากัน แต่มันคือความเป็นจริงของวัฒนธรรมไอดอลญี่ปุ่น

สรุปสุดท้ายแล้ว เรื่องของ เมษา BNK48 มันอยู่เหนือการมีแฟนหรือไม่มีแฟน แต่มันเป็นการให้เกียรติแฟนคลับ แน่นอนว่า ความเข้มข้นเรื่องการมีแฟนของไอดอลในบ้านเรา ไม่จริงจังเหมือนอย่างที่ประเทศญี่ปุ่น แฟนคลับจำนวนหนึ่งมีความเข้าใจในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ เมษา มองข้ามคือ แฟนคลับที่เคยออกมาปกป้องเธอในยามที่เธอตกที่นั่งลำบาก และปล่อยให้เรื่องราวลุกลามใหญ่โต โดยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างที่เป็นอยู่นี้

สิ่งสุดท้ายที่อยู่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด คือ ความจริง เพราะหากเมษาเลือกที่จะออกมาเล่าความจริง ซึ่งไม่ว่าความจริงที่ว่านี้มันคืออะไร เรื่องราวทั้งหมดก็น่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะอย่างน้อยก็เป็นการแสดงความรับผิดชอบที่ไอดอลควรจะทำ และเป็นการแสดงความจริงใจต่อแฟนคลับ

อ่านเพิ่ม: เมษา BNK48 โดนต้นสังกัด สั่งพักงาน 1 เดือน