Skip to content
ต้นหอม เล่าเหตุการณ์ เจอชาย 3 คนประกบกลางดึก ไม่แน่ใจ โจรหรือตำรวจ

ต้นหอม ศกุนตลา เจอชาย 3 คนประกบกลางดึก ถาม… นี่โจรหรือตำรวจ ?

เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของประชาชน โดยเฉพาะกับผู้หญิงอย่างเราๆท่านๆ ที่เมื่อเจอเหตุการณ์แบบที่ ต้นหอม ศกุนตลา เจอกลางดึกจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

โดยเธอได้เล่าว่า เวลาประมาณห้าทุ่มถึงเที่ยงคืน เธอกับเลขาส่วนตัว เจอผู้ชาย 3 คนขี่มอเตอร์ไซค์มาประกบ โดยมีลักษณะเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ เข้ามาขอตรวจยาเสพติด แต่ ณ เวลานั้นก็ไม่แน่ใจว่าใช่ตำรวจจริงหรือเปล่า เธอเลยรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะถ้าเธอไม่ปฏิบัติตามก็กลัวจะเป็นการขัดขืนเจ้าหน้าที่ แต่ถ้าเป็นโจรจะทำอย่างไร

โดยเนื้อหาโดยละเอียด มีดังนี้

“มีเรื่องคาใจมาก ก็ลังเลเหมือนกันนะ ว่าจะเก็บไว้หรือจะถามดีมั้ย แต่มาคิดๆอีกคือเราก็อยากหาคำตอบว่า ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้กะชะนีอย่างเราๆอีก จะต้องปฎิบัติตัวอย่างไร

คือมีอยู่คืนหนึ่งช่วงเวลาประมาน 5 ทุ่ม ดิฉันกับเลขาชะนีอ้วนๆนางหนึ่ง นั่งรถด้วยกันมาจากเส้นทางศรีนครินทร์มุ่งหน้าพระราม 9 แถวทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ น่าจะแถวตรงข้ามกรุงเทพกรีฑา เลขาดิฉันติดรถมา กะว่าจะแวะลงกลางทางแล้วนั่งแท็กซี่ต่อกลับบ้านไป ตลอดเส้นทางค่อนข้างมืดรถวิ่งน้อย แต่ดิฉันก็ต้องจำเป็นปล่อยนางลงสักจุดเพื่อที่ดิฉันจะต้องเข้าขวาขึ้นทางด่วน จึงตัดสินใจจอดรถก่อนขึ้นทางด่วน และก็คิดว่านางมีหน้าตาเป็นอาวุธ ลงตรงใหนก็น่าจะปลอดภัย

แต่พอจอดปุ๊บสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ดิฉันจอดรถปุ๊บเลขาเปิดประตูลง จากนั้นมีรถมอเตอร์ไซค์ 2 คัน เป็นผู้ชายทั้งหมด 3 คน ขี่คนเดียว 1 คน (คนนี้สวมหมวกไอ่โม่ง) ประกบรถดิฉันด้านหลัง ส่วนอีก 1 คันที่มากัน 2 คนประกบด้านข้างรถข้างคนขับ และทั้ง 3 คนใส่เสื้อยืดที่เขียนว่าตำรวจ และสวมเสื้อกั๊กสีดำลักษณะคล้ายตำรวจ ชายสามคนบอกว่าเป็นตำรวจ และถามว่าเลขาดิฉันว่า มาส่งยาหรือป่าว (โถอ้วนยังกะแมมมอสไม่น่าเสพยาแน่ๆ) 1 คนด้านหลังพยามขอดูกระเป๋าจากเลขา ในขณะที่ 2 คนที่ขนาบข้างรถดิฉันพยายามทำหน้าเข้ม และบอกให้เปิดประตู ขอให้ดิฉันลงจากรถ ดิฉันตกใจมากเพราะแถวนั้นไม่มีใคร รถก็วิ่งน้อยมาก มีเราเป็นผู้หญิง 2 คน (สวยมาก 1 คน ขี้เหร่สุด 1 คน) กับชายฉกรรจ์ 3 คน

ตอนนั้นกลัวมากคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี กลัวว่าถ้าเป็นโจรเราจะทำยังไง จะฆ่ากูมั้ย แต่ถ้าเขาเป็นตำรวจจริงๆ แล้วเราไม่ให้ความร่วมมือจะมีความผิดหรือไม่ รู้แต่ว่าสถานการณ์แบบนั้นไม่ควรลงจากรถ (เหมือนจะมีสติ) ดิฉันถามไปอย่างซื่อๆ ปนควายๆว่า พี่เป็นตำรวจจริงหรือเปล่า (โจรที่ไหนจะบอกว่ามันเป็นโจรอิหอมอิง่าว!)

คนขับตะโกนบอกคนที่นั่งซ้อนท้ายบอกว่า มึงเอาบัตรให้เขาดูซิ (แล้วทำไมมึงไม่หยิบของมึงออกมาล่ะคะ เป็นตำรวจก็ต้องพกบัตรทุกคนปะ แอบเอะใจเบาๆ) และผู้ชายคนซ้อนก็หยิบบัตรออกมาให้ เอาตรงๆกูดูก็ไม่รู้หรอกว่าบัตรตำรวจจริงไหม???? สภาพคือบัตรแข็งธรรมดาๆเคลือบพลาสติกไม่ต่างกะบัตรนร.ม.ต้น

ดิฉันได้แต่มองตาปริบๆ ก็กลัวว่าถ้าไม่ลงจะขัดขืนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ก็เลยตัดสินใจลงรถ หนึ่งในชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจถามว่า ทำอาชีพอะไร?? ดิฉันรีบตอบแบบไม่ลังเลเลย “หนูเป็นดาราค่ะ!” ตอบไปปุ๊บเขาอึ้ง หน้าสตั้นไป 3 วินาทีอย่างเห็นได้ชัดเจน เออได้ผลวุ้ย! จากนั้น 1 ใน 3 คนถามว่าเป็นดาราชื่ออะไร? (อิดอกโกรธเบาๆ) ดิฉันตอบไปว่าต้นหอมค่ะจากนั้นปฏิกิริยาก็เปลี่ยน เขาบอกอ๋อรู้จักต้นหอมที่มี 2คนกะดีเจต้นหอมอ่ะนะ (เอ่อ….คนเดียวกันมะ)

จากนั้นบรรยากาศกลายเป็นเหมือนคุยเล่น ดิฉันทำตอแหลกลบเกลื่อนความตื่นตูม แต่ในใจไม่ว่าโจรหรือตำรวจกูก็กลัวอยู่ดี ระหว่างนั้นพอดีมีแท็กซี่เปิดไฟว่างมาอยู่คันนึง ดิฉันจึงโบกแล้วก็ให้เลขาขึ้นไปนั่งส่วนผู้ชาย 3 คนปล่อยตัวบอกว่าไปได้ให้ระวังหน่อยแถวนี้มันมืด (ความมืดไม่น่ากลัวเท่าการจู่โจมของพวกพี่อยู่แล้วค่ะ)

คำถามคือถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีกครั้งเราควรต้องทำยังไง และต่อให้เป็นตำรวจจริงเขาสามารถปฏิบัติแบบนี้กับเราที่ไหนก็ได้ใช่หรือไม่ ใครมีความรู้หรือมีญาติเป็นตำรวจฝากช่วยถามทีนะคะ ครั้งหน้าจะได้ให้ความร่วมมืออย่างถูกต้องไม่ตกใจลนลานอีก เวทนาดิฉันเถอะค่ะ !!!!!”

Source: tonhorm sakuuntala tienpairoj