Skip to content
คะน้า ริญญารัตน์ ปฏิเสธข่าว นางเอกปากเจ่อ ขายบริการ ไม่หยุดขุดคุ้ยฟ้องแน่นอน

คะน้า ริญญารัตน์ ปฏิเสธข่าว นางเอกปากเจ่อ ขายบริการ ไม่หยุดขุดคุ้ยฟ้องแน่นอน

หลังจาก คะน้า ริญญารัตน์ กลายเป็นข่าวอื้อฉาวที่โดนกล่าวหารุนแรงว่า นางเอกปากเจ่อ ขายบริการ ตามที่มีสื่อบันเทิงยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ ทำให้กลายเป็นกระแสคาดเดาไปต่างๆนานา จนสุดท้ายหวยมาออกที่เธอ หลังจากที่ ใบเตย อาร์สยาม ได้ให้สัมภาษณ์ กรณีข่าวดังกล่าว

(เลื่อนดูคลิปแถลงข่าวที่ด้านล่าง)

มาล่าสุด วันนี้ (18 ธ.ค.) ในรายการสนามข่าว 7 สี คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ ได้ออกมาแถลงข่าวเปิดใจ ยืนยันชัดเจนว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง ส่วนเรื่องที่กล่าวหาว่ามีรถยุโรป คะน้าบอกก็มีรถมาก่อนหน้าที่จะเข้าวงการแล้ว เพราะก่อนหน้าทำธุรกิจกับแฟนเก่า หลังจากเลิกกันตัวเองก็ผ่อนรถคันนี้ต่อ และก็มีคันนี้คันเดียวอีกด้วย

“คนที่แอบอ้างเขาเป็นใครคะ ถามว่าข่าวนี้ส่งผลกระทบกับเรารุนแรงมาก กับลูกผู้หญิงคนนึง เวลาคนไม่รู้จักเรา มองเข้ามาเขามองไม่ดีอยู่แล้ว ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะแถลงข่าว เพราะเราชิลชิล แต่กระแสแรงขึ้น ทำให้แม่เครียด ลองคิดถึงความรู้สึกของคนเป็นแม่ ที่คนมาถามว่าลูกขายตัวเหรอเขาจะรู้สึกยังไง การที่คะน้าออกมาพูดเพื่อศักดิ์ศรีของแม่ เลยต้องมาเคลียร์ว่าเราไม่ได้ทำนะ”

ส่วนเรื่องประเด็นที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ค่อยมีงานแต่ทำไมถึงมีกระเป๋าแบรนด์เนมใช้ ก็ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะก็ไม่ได้มีอะไรมากมายขนาดนั้น ส่วนตัวถ้าซื้อเองก็จะซื้อเป็นมือสอง และเธอก็บอกอีกด้วยว่า จริงๆแล้วเธอไม่ได้ทำอาชีพเดียว ยังมีธุรกิจอื่นทำคู่ไปด้วย

“จริงๆ เราก็ไม่ได้ทำอาชีพเดียว คะน้ามีธุรกิจอื่นๆ มีทำจิวเวลรี่ และครีม และก่อนหน้านี้เคยทำธุรกิจกับแฟนเก่า คนใกล้ตัวจะรู้ว่าเราเก็บหอมรอมริบ และเลิกกับแฟน แต่ไม่ขอกล่าวถึงว่าเขาเป็นใคร ยังไง ตอนคบกันเขาก็มีซื้อของแบรนด์เนมให้บ้างในโอกาสพิเศษ และบางอย่างเราซื้อเองแต่เป็นของมือสอง มีไม่กี่ชิ้นหรอก และไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหรา เห็นในข่าวว่าคบเพื่อนไฮโซจริงๆ ไม่มีนะ ก็ยังงงๆ อยู่”

สุดท้ายเธอยังใากบอกไปถึงคนที่ปล่อยข่าว และขุดคุ้ยเรื่องนี้ว่า ถ้ายังไม่หยุดจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

“ถามว่าจะฟ้องร้องไหม หลังจากนี้ถ้ายังมีคนปล่อยข่าวออกมาทำให้เสียชื่อเสียง ยังไม่หยุดขุดคุ้ยเรื่องลักษณะแบบนี้ออกมา เราจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเราไม่ได้ทำอย่างที่ข่าวออกมา”

Source: kanarinyarat_home