คอนสแตนติน ฟอลคอน เป็นหนึ่งในผู้มีตัวตนอยู่จริงในหน้าประวัติศาสตร์ ที่ถูกนำมาเป็นตัวเดินเรื่องใน ละคร บุพเพสันนิวาส เขาเป็นนักเดินทางที่เสาะแสวงหาการผจญภัย และยังเป็นพ่อค้าชาวกรีก ที่เดินเรือไปทำการค้าขายในที่ต่างๆ
แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่า คือ การที่เขาสามารถไต่เต้าขึ้นมาจนเป็นถึงขุนนางคนสนิทของ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ถึงขั้นได้รับยศสูงสุดเป็นถึง เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ซึ่งถือเป็นยศสูงสุดสำหรับข้าราชการในยุคนั้น
และบทบาทสำคัญยิ่งของเขา ก็คือ ด้านเศรษฐกิจและการฑูต การพัฒนาด้านการค้าขายให้ประเทศสยาม และยังมีไมตรีสัมพันธ์กับต่างประเทศเป็นอย่างดี ว่าที่จริง ฟอลคอน คือคนสำคัญในการพัฒนาประเทศสยามในเวลานั้น เลยทีเดียว
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การเมืองภายในก็เป็นเรื่องที่ทำให้ ฟอลคอน ต้องตกที่นั่งลำบาก เพราะความ ฟะรังคี ที่อยู่ดีๆกระโดดข้ามหัวคนเป็นจำนวนมากขึ้นมา แถมยังเป็นคนต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ย่อมสร้างความไม่พอใจให้กับขุนนางคนไทย รวมถึงประชาชนชาวสยามในเวลานั้นจำนวนไม่น้อยอีกด้วย
แม่มะลิ หรือ มารี กีมาร์ กับ ฟอลคอน
ในที่สุด ในปลายรัชสมัยของ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ผู้ที่ให้การสนับสนุนเขามาโดยตลอด ได้เกิดประชวรล้มป่วยอย่างหนัก พระเพทราชา จึงขึ้นมาเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ซึ่งในเวลานั้น ก็เกิดการโกลาหลของขั้วอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินเกิดขึ้น
และจุดจบอันอัปยศของ ฟอลคอน ฟะรังคีคนแรกที่ได้ดิบได้ดีในเมืองไทยก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อมีการกล่าวหาว่า เขาได้ใช้องค์รัชทายาทเป็นหุ่นเชิด เพื่อที่จะมาเป็นผู้ปกครองกรุงศรีอยุธยาเสียเอง และประกอบกับความไม่พอใจ และความหวาดระแวง ที่มีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ในพระนครเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดการจับตัวฟอลคอน รวมทั้งผู้ติดตาม และราชนิกูลองค์อื่นๆ ที่ถูกมองว่าเป็นภัยต่อแผ่นดิน นำไปประหารชีวิตเสียให้สิ้น
โดยมีบันทึกไว้ว่า วันประหารมีขึ้นใน วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2231
และผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกำจัด คอนสแตนติน ฟอลคอน ก็คือ คุณหลวงสรศักดิ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการยึดอำนาจให้ พระเพทราชา ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ นั่นเอง
และนี่เองที่เชื่อมโยงกับ จดหมายของ แม่มะลิ หรือ มารี กีมาร์ ที่เขียนถึง พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 หลังฟอลคอนตาย โดยได้บรรยายถึงความยากลำบากของตัวเอง ที่โดนดูถูกเหยียดหยาม ไร้เกียรติ และยากจนข้นแค้นอย่างแสนสาหัส
Source : ch3thailand