Skip to content
ในคืนหนาว แสงดาวยังอุ่น เรื่องย่อ | ละครช่อง 7 HD

ในคืนหนาว แสงดาวยังอุ่น เรื่องย่อ | ละครช่อง 7 HD

ในคืนหนาว แสงดาวยังอุ่น เรื่องย่อ : เรื่องราวความรักของนางแบบสาวที่ความทรงจำจางหายไป กับชายหนุ่มผู้ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อลืมรักครั้งแรกให้จงได้

  • บทประพันธ์ : ศตรัศมิ์
  • บทโทรทัศน์ : ปณธี
  • ผู้กำกับฯ : สยาม น่วมเศรษฐี
  • ผู้ผลิต : บริษัท พอดีคำ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด
  • ออกอากาศ : วันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทาง ช่อง 7 HD เริ่มตอนแรก 5 ธ.ค. 2561

ในคืนหนาว แสงดาวยังอุ่น เรื่องย่อ

ลวิตา (แคท เซฟฟานี่) นางแบบสาวชื่อดัง ตกจากระเบียงห้องพักในคอนโดมิเนียมหรูใจกลางกรุง เดชะบุญที่เธอไม่เสียชีวิต เพราะโชคดีที่ตกลงบนฟูกที่คนงานกำลังขนย้ายอยู่เบื้องล่าง

แต่อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บก็หนักหนาพอสมควร จากการตรวจสอบห้องพักของนางแบบสาว เจ้าหน้าที่ตำรวจพบไดอารี่วางอยู่บนโต๊ะ หน้าสุดท้ายมีข้อความที่เขียนในเชิงสิ้นหวัง โศกเศร้า ตัดพ้อเรื่องความรัก พาดพิงถึงแฟนหนุ่ม ชวนให้เข้าใจว่าบันทึกหน้าสุดท้ายนั้น เป็นเหมือนจดหมายลาตาย

ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมุ่งประเด็นเหตุการณ์นี้ไปที่การจงใจฆ่าตัวตาย ไม่ใช่อุบัติเหตุหรือการพยายามฆาตกรรม ไตรภพ (บอส จักรพันธ์) นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ซึ่งเป็นคนรักของลวิตาตกเป็นจำเลยสังคม โทษฐานเป็นต้นเหตุให้นางแบบสาวคิดสั้น บรรดาแฟนคลับต่างไม่พอใจ โลกโซเชียลต่างรุมต่อว่าเขาอย่างหนัก

5 วันต่อมา ลวิตาฟื้นขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าโรงพยาบาล พ่อแม่และเพื่อนสนิทของหล่อนต่างมาเยี่ยมด้วยความดีใจ เช่นเดียวกับไตรภพที่รีบรุดมายังโรงพยาบาล คนเจ็บจดจำพ่อแม่และเพื่อนสนิทได้ ทว่าคนเดียวที่ลวิตาจำไม่ได้ คือ ไตรภพ คนรักของเธอเอง

ตลอดเวลาที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ไตรภพมาเยี่ยมแทบทุกคืน ด้วยความหวังว่าเธอจะจำเขาได้

แต่ตอนนี้ ลวิตา ไม่หลงเหลือความทรงจำใด ๆ เกี่ยวกับเขาเลย ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า ตัวเองตกลงมาจากระเบียงห้องพักได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้น ทำไมหล่อนถึงเขียนไดอารี่ที่มีเนื้อหาเศร้าเช่นนี้ เธอพยายามทบทวนความทรงจำ แต่ภาพที่ผุดขึ้นมานั้นเหมือนจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจาย มองไม่ออกว่าภาพรวมคืออะไร

ที่สำคัญ… เธอไม่เชื่อว่าตัวเองจะคิดสั้นฆ่าตัวตายเพราะเรื่องความรัก ทางเดียวที่จะค้นหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับความจำของตัวเอง และทำไมเธอถึงหลงลืมเรื่องราวของไตรภพ นั่นคือการย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อีกครั้ง

ลวิตาพบรักกับไตรภพเมื่อครั้งที่ทั้งคู่เคยเป็นแขกรับเชิญรายการท่องเที่ยว ซึ่งพาไปเที่ยวเมืองเล็ก ๆ ริมแม่น้ำโขงอย่างเชียงคาน ดังนั้นหากจะย้อนกลับไปจุดเริ่มต้น… หล่อนต้องกลับไปที่เมืองนั้นอีกครั้ง

อีกฟากหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ปวัตร (หลุยส์ เฮสดาร์ซัน) นักเปียโน และครูสอนเปียโนหนุ่มหล่อกำลังเตรียมตัวจะขอ นรี (เนย ปภาดา) น้องสาวตามกฎหมายแต่ต่างสายเลือดแต่งงาน หลังจากทั้งสองแอบคบหาดูใจกันอยู่เงียบ ๆ มานานพักใหญ่ โดยไม่บอกให้พ่อแม่รู้

แม่ของปวัตรแต่งงานกับพ่อของนรีมานานนับสิบปี เขากับหญิงสาวจึงกลายเป็นพี่น้องกัน แต่ทว่าความรู้สึกที่เขามีให้เธอ หาใช่อย่างพี่ชายที่มีต่อน้องสาว

ปวัตรเตรียมการทุกอย่างไว้เพียบพร้อม มั่นใจว่าจะเป็นคำคืนที่สวยงาม แต่เมื่อเขาพูดเรื่องการแต่งงาน นรีกลับปฏิเสธ และขอให้ยุติความสัมพันธ์ เรื่องระหว่างเธอกับเขามันเป็นไปไม่ได้ พ่อของเธอไม่มีทางยอมรับความรักครั้งนี้ ต่อให้ไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือด แต่ก็เป็นครอบครัวเดียวกันมานานนับสิบปี

เธอรู้ว่าพ่อจะต้องคัดค้านอย่างสุดกำลังแน่… ที่สำคัญกว่านั้น คือเธอรู้ใจตัวเองแล้วว่าไม่มีวันรักเขาอย่างคนรักได้ หล่อนพยายามแล้วที่จะรักเขา แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าไม่อาจบังคับใจตัวเองให้รักเขาแบบนั้นได้ เพราะลึก ๆ แล้ว เธอเผลอใจไปรักผู้ชายอีกคน

ปวัตรผิดหวังอย่างมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาออกจากบ้านไปอยู่ที่คอนโดของ ทรงพล (แชป วรากร) เพื่อนสนิทผู้เป็นสถาปนิกหนุ่ม และเป็นเจ้าของบริษัทรับออกแบบและสร้างบ้านชื่อดัง

ทรงพลพยายามถามปวัตรว่ามีปัญหาอะไรถึงไม่กลับบ้าน แต่ปวัตรไม่ตอบ เขาเคยสัญญากับนรีไว้ว่าจะไม่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ที่มีให้ใครฟัง เนื่องจากฝ่ายหญิงกลัวเรื่องจะไปเข้าหูบุพการี และต่อให้ทรงพลเป็นเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ ปวัตรก็ไม่คิดจะผิดสัญญากับหญิงสาว

ต่อมาปวัตรตัดสินใจหาห้องเช่าในคอนโดแห่งเดียวกัน เพื่อจะพักอยู่ชั่วคราวโดยไม่รบกวนเพื่อน เขาไม่อาจกลับไปอยู่ร่วมชายคากับนรีได้ ไม่อาจวางตัวเป็นพี่ชายที่แสนดี อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ แผลเขายังสดใหม่เกินกว่าจะทนเห็นหน้าน้องสาวทุกวัน

ลวิตารักษาตัวนานนับเดือนจนอาการดีขึ้น และสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ชีวิตหล่อนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หล่อนฝันร้ายแทบทุกคืน ฝันเห็นภาพตัวเองถูกโยนตกลงมาจากระเบียงห้องซ้ำ ๆ แต่ไม่เคยเห็นใบหน้าของคนที่ทำร้ายว่าเป็นใคร

หลังออกจากโรงพยาบาล เธอตั้งท่าจะกลับไปที่คอนโดมิเนียมก่อน แต่แล้วก็ได้รู้ว่า คุณหญิงมยุรา (ตุ๊ก ดวงตา) มารดาจอมเจ้ากี้เจ้าการได้จัดการปล่อยห้องของเธอให้คนอื่นเช่าไปแล้ว โดยมยุราให้เหตุผลว่า ไม่อยากให้ลูกสาวกลับไปอยู่ที่ห้องนั้นคนเดียว เพราะเป็นห่วง

ลวิตาไปที่ห้องพักและพบว่าคนเช่าคือปวัตร หล่อนยื่นข้อเสนอว่าจะคืนเงินค่ามัดจำและเงินค่าเช่าล่วงหน้าให้เขา พร้อมทั้งจะจ่ายเงินชดเชย แลกกับการให้เขาย้ายออกไปจากห้องของเธอ แต่ทว่าปวัตรปฏิเสธ เขาไม่ได้สนใจเงินชดเชยที่เธอเสนอ เขาแค่ต้องการห้องพักที่อยู่สบาย ไม่ต้องกลับไปอยู่บ้าน และตอนนี้เขาเจอห้องที่เขาต้องการแล้ว เขาไม่ยอมย้ายออกจนกว่าจะหมดสัญญาเช่า ซึ่งนานถึงหนึ่งปี

ระหว่างที่เจรจากับปวัตรอยู่นั้น จู่ ๆ ลวิตาก็มองเห็นความทรงจำบางอย่าง เธอเห็นภาพตัวเองถูกใครคนหนึ่งจับโยนออกจากระเบียงห้องพัก ความกลัวทำให้ลวิตาตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก ออกอาการเหมือนคนช็อคไปชั่วขณะ จนปวัตรต้องนั่งอยู่ข้าง ๆ เป็นเพื่อนทั้งที่ไม่อยากทำแบบนั้นแม้แต่น้อย

หลังกลับออกมาจากคอนโด ลวิตาคิดว่าไหน ๆ ก็ไม่มีห้องอยู่แล้ว จึงตัดสินใจใช้เวลาช่วงนั้นกลับไปค้นหาความจริงที่เชียงคาน เธอไปค้างที่บ้านเพื่อนนางแบบคนสนิทคืนหนึ่ง และเดินทางไปเชียงคานช่วงสายของวันรุ่งขึ้น

เวลานับเดือน ตั้งแต่ปวัตรย้ายออกจากบ้านมาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกดีขึ้นบ้าง เขาไม่ได้คุยกับนรีเลย แต่ก็ยังหวังว่าสักวันหล่อนจะกลับมาหาเขา ระหว่างนั้นปวัตรพานักเรียนไปซื้อเปียโน ที่ร้านขายเปียโนของเพื่อนรุ่นพี่อย่างตุลย์

ลุงป่านพ่อของตุลย์เป็นช่างซ่อมเปียโนยุคแรก ๆ และเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของปวัตรมาตั้งแต่ยังหนุ่ม ต่อมาภรรยาของลุงป่านเสียชีวิต ลุงจึงยกร้านเปียโนให้ลูกชาย และไปเปิดโฮมสเตย์ที่เชียงคานเพื่อสานฝันให้ภรรยาผู้ล่วงลับซึ่งมีภูมิลำเนาเป็นคนเชียงคาน ส่วนตุลย์ก็ดูแลร้านอยู่ที่กรุงเทพฯ รับช่วงกิจการต่อจากบิดา

เนื่องจากไม่ได้เจอกันนาน ตุลย์จึงชวนปวัตรไปหาที่นั่งดื่มตอนดึก และแนะให้ชวนทรงพลไปด้วย ปวัตรจึงแวะไปหาทรงพลที่บริษัท โดยไปช่วงค่ำเพื่อจะได้เลี่ยงการเผชิญหน้ากับนรี ซึ่งทำงานเป็นฝ่ายบัญชีอยู่ที่บริษัทของทรงพล

ภายในออฟฟิศเงียบสนิท ปวัตรจึงเดินไปที่ห้องทำงานของเพื่อน ประตูห้องทำงานเปิดอยู่ และภาพที่เขามองเห็นคือทรงพลกำลังจูบกับนรี

ปวัตรช็อกกับภาพที่เห็น เขาถอยหลังออกมาเงียบ ๆ ผู้ชายที่นรีรักคือทรงพล

ในโลกนี้มีผู้ชายอีกมากมายให้เธอรัก ทำไมต้องเป็นเพื่อนรักของเขาด้วย ปวัตรไปดื่มเหล้ากับตุลย์สองคนโดยไร้เงาทรงพล ตุลย์เห็นรุ่นน้องเครียด ๆ จึงแนะนำว่าถ้ามีเรื่องไม่สบายใจ ให้ไปพักผ่อนในที่สงบ ๆ บ้าง พร้อมทั้งแนะนำให้ไปเที่ยวเชียงคาน ไปช่วยงานที่โฮมสเตย์ของพ่อตนซึ่งป่านนี้คงวุ่นวายน่าดูเพราะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

ทรงพลมีใจให้นรีมานานแล้ว แต่เขาเองเป็นพ่อหม้าย เคยหย่ามาแล้ว จึงขยาดกับการมีครอบครัว ที่สำคัญคือนรีเป็นน้องสาวของเพื่อนรัก และเท่าที่เห็นปวัตรก็ค่อนข้างหวงน้องสาว ทรงพลจึงได้แต่วางตัวเป็นเจ้านายของหญิงสาวยามอยู่ในที่ทำงาน และวางตัวเป็นพี่ชายยามอยู่นอกออฟฟิศ แต่สุดท้ายเขาก็ห้ามใจตัวเองไว้ไม่ไหว ยิ่งจับไต๋ได้ว่านรีเองก็มีใจตรงกัน เขาจึงเผลอทำรุ่มร่ามใส่ จูบเธออย่างลืมตัว

เขาละอายแก่ใจและคิดว่าควรทำทุกอย่างให้ถูกต้อง จึงตั้งใจจะคุยกับปวัตรเรื่องนี้ เมื่อกลับถึงคอนโดกลับพบว่า ปวัตรมายืนรออยู่ที่หน้าห้องในสภาพมึนเมาแต่ยังครองสติได้ ทรงพลตัดสินใจสารภาพกับเพื่อนว่าเขารักนรี และหากปวัตรไม่ว่าอะไร เขาอยากจะเดินหน้าจีบนรี สานสัมพันธ์กับหล่อนอย่างจริงจัง

ปวัตรได้แต่ยอมรับ เขาจะไปคัดค้านอะไรได้ วันรุ่งขึ้น ปวัตรก็ได้ตั๋วเครื่องบินสำหรับเดินทางไปเชียงคาน เขาแค่อยากหนีไปให้ไกลจากทรงพลและนรีสักพัก เผื่อหัวใจที่บอบช้ำจะเข้มแข็งขึ้นบ้าง

ลมหนาว ดาวอุ่น คือโฮมสเตย์บ้านไม้สองชั้นในอำเภอเชียงคานซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของลุงป่าน ลวิตาจองที่พักไว้ที่นี่ระยะยาวเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการฟื้นฟูความทรงจำส่วนที่ขาดหายไป ป่านจำนางแบบสาวได้ทันทีที่พบหน้า และคอยช่วยให้ข้อมูลต่าง ๆ หลังจากรู้ว่าหล่อนความจำเสื่อม

ที่เชียงคาน ลวิตาได้พบกับปวัตร เขามาถึงหลังหล่อนหนึ่งวัน และพักที่ลมหนาวดาวอุ่นในฐานะหลานชายของป่าน ปวัตรเคยเห็นข่าวลวิตากระโดดระเบียงห้องพักเพื่อฆ่าตัวตายประชดรัก เขาไม่ชอบเธอ และตั้งแง่ดูถูกว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่มีมันสมอง ดังนั้น เขาจะแสดงกิริยาอาการต่อเธอด้วยความเย็นชา และหลายครั้งพูดจาเหน็บแนมให้ลวิตารู้สึกเจ็บปวด

ลวิตายังคงเดินหน้าค้นหาความทรงจำส่วนที่ขาดหาย เธอดูคลิปรายการท่องเที่ยวที่เธอกับไตรภพเคยเป็นแขกรับเชิญคู่กัน และเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก จากนั้นเดินทางตามรอยทุกสถานที่หมายรื้อฟื้นภาพอดีต ภาพความฝันร้าย ๆ ชัดเจนขึ้นทีละน้อย และมีเรื่องราวเพิ่มเติมขึ้นเรื่อย ๆ

ลวิตาฝันเห็นกระเป๋าหนังสีน้ำตาลใบหนึ่ง ซึ่งเธอไม่รู้ว่ามันมีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับเธออย่างไร รวมถึงฝันเห็นชายคนหนึ่งถูกฆาตกรรม ด้วยการจับโยนจากตึกร้างแห่งหนึ่ง เป็นการฆาตกรรมแบบเดียวกับที่เกิดกับเธอ แต่เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าผู้ชายที่ถูกฆ่าตายในความฝันคนนั้นเป็นใคร

ระหว่างนั้นความสัมพันธ์ระหว่างลวิตากับปวัตรกลับพัฒนาขึ้น หญิงสาวผู้เดินทางตามหาความทรงจำที่ขาดหาย กับชายหนุ่มผู้ออกเดินทางเพื่อจะลบลืมความทรงจำในอดีต ในค่ำคืนที่ลวิตาฝันร้าย ปวัตรกลับกลายเป็นคนที่อยู่เคียงข้างหล่อน กอดเธอไว้ด้วยความเย็นชาของเขา และนานวันเข้ามันก็กลายเป็นความอบอุ่น

ลวิตาบอกเขาว่าเธอไม่ได้ฆ่าตัวตาย มีคนพยายามฆ่าเธอ เพียงแต่ความทรงจำส่วนนั้นยังเลือนราง ปวัตร จึงตัดสินใจช่วยค้นหาความจริง โดยเริ่มจากการแกะรอยความฝัน

ตลอดเวลาช่วงสั้น ๆ ลวิตาค้นพบว่าหัวใจหวั่นไหวยามอยู่ใกล้ปวัตร ในขณะที่เธอจำความรู้สึกรักที่เคยมีต่อแฟนหนุ่มอย่างไตรภพไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ในเวลานั้น บริษัทของทรงพลได้รับการติดต่อ ให้รีโนเวทบ้านเก่าริมแม่น้ำโขงที่เชียงคานไปเป็นโรงแรม ทรงพลจึงถือโอกาสชวนนรีมาดูสถานที่ ๆ เชียงคาน นรีเองไม่ได้อยากมา เธอรักทรงพลแต่ก็รู้สึกผิดต่อปวัตร กระนั้นสุดท้ายก็ถูกทรงพลมัดมือชกพามาถึงเชียงคานจนได้

สุดท้ายปวัตร ทรงพล และนรี จึงได้พบกันที่เชียงคานอีกครั้ง ในสามคนนี้มีเพียงทรงพลที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไร ไม่รู้ว่าปวัตรกับน้องสาวต่างสายเลือดเคยคบหาดูใจกันมาก่อน เชียงคานเป็นเมืองเล็ก ๆ มีสถานที่เที่ยวยอดนิยมไม่กี่แห่ง ดังนั้น แม้พวกเขาจะไม่ได้พักอยู่ที่เดียวกัน แต่ก็ยังวนเวียนมาพบเจอกันอยู่บ่อยครั้ง สร้างความอึดอัดใจให้ปวัตรและนรีเป็นอย่างมาก

ในอีกทางหนึ่ง ปวัตรก็พบว่าตัวเขาเองเผลอคิดถึงเรื่องของลวิตาบ่อยขึ้น คิดเรื่องรักเก่าของตัวเองน้อยลงจนแทบไม่คิดถึงเลย เขานึกเป็นห่วงแต่เรื่องของนางแบบสาว ยิ่งพยายามช่วยหาความจริง ยิ่งพบว่าปริศนาที่ซ่อนอยู่นั้นน่ากลัว และเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของใครอีกหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีฆาตกรรมนักข่าวอิสระคนหนึ่ง จนเขาอดกังวลใจไม่ได้ว่า ลวิตาจะรับมือกับปัญหานี้ไม่ไหว

อยู่มาวันหนึ่ง ลวิตาฝันร้ายอีก ทว่าคราวนี้ เห็นใบหน้าของคนที่โยนเธอลงจากระเบียงห้องชัดเจน เธอไปที่ร้านรับจ้างวาดภาพที่ถนนคนเดินเชียงคาน และขอให้จิตรกรช่วยสเก็ตช์ภาพตามคำอธิบายของหล่อน จนกระทั่งได้พบคนหน้าเหมือนของคนร้าย

ปวัตรตัดสินใจขอให้ทรงพลช่วยสืบอีกแรง เนื่องจากจำได้ว่าทรงพลมีลูกค้าเป็นนายตำรวจระดับผู้กำกับการนายหนึ่ง เขาใช้สมาร์ทโฟนถ่ายภาพสเก็ตช์ที่ลวิตาได้มา และส่งให้ผู้กำกับการประชาดู เผื่อว่าจะมีภาพชายคนดังกล่าวในฐานข้อมูลอาชญากร

ไม่นานพวกเขาก็ได้ความคืบหน้า ชายที่ลวิตาฝันถึงคืออาชญากรตัวยงที่เกี่ยวพันกับแก๊งค์ค้ายาเสพติดของเสี่ยมนูญ โดยเมื่อเดือนก่อนมีคนพบศพอาชญากรรายนี้ถูกฆ่าถ่วงน้ำอย่างเหี้ยมโหด เป็นอันว่าการตกตึกของลวิตา มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด

ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างลวิตากับปวัตรกำลังคืบหน้า และการค้นหาความจริงกำลังดำเนินไป ก็เริ่มมีคนสังเกตเห็นลวิตากับปวัตร และแอบถ่ายภาพความสนิทสนมของทั้งคู่ขณะอยู่ที่เชียงคาน อัปลงในโซเชียล และภาพดังกล่าวก็ถูกแชร์ไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่านางแบบสาวเลิกกับไตรภพแล้ว และซุ่มปลูกต้นรักต้นใหม่กับชายหนุ่มรูปหล่อที่เชียงคาน

ไตรภพติดต่อลวิตาไม่ได้มาพักใหญ่ ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน พอเขาเห็นข่าวจึงรีบตามมาหาแฟนสาวที่เชียงคาน แต่ไม่ใช่แค่ไตรภพที่ตามลวิตามา ยังมีใครอีกคนที่ถูกส่งมาฆ่าเธอด้วย ลวิตาเกือบถูกฆ่าที่สะพานเลียบริมแม่น้ำโขง โชคดีที่ปวัตรมาช่วยไว้ได้อย่างหวุดหวิด

การมาถึงของไตรภพ ทำให้ทั้งปวัตรและลวิตาต่างได้สติว่าพวกตนไม่อาจรักกันได้ เธอยังมีไตรภพอยู่ทั้งคน ถึงบแม้จะยังจำเขาไม่ได้ แต่เขาก็ยังได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของเธอ คงไม่ยุติธรรมกับใครเลยหากเธอจะปันใจให้ชายอื่น ทั้งที่ยังสวมแหวนหมั้นของคนรักอยู่

ลวิตาตัดสินใจเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อไปพบผู้กำกับการประชา และหาทางจัดการกับเสี่ยมนูญ โดยในเที่ยวบินที่หล่อนเดินทางนี้มีไตรภพ ทรงพล นรี และปวัตรร่วมเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วย

เหตุการณ์กลับตาลปัตร แท้จริงแล้วคนที่มีเอี่ยวกับเสี่ยมนูญ ก็คือนายตำรวจผู้นี้นั่นเอง ลวิตาติดกับและถูกจับตัวไว้ ระหว่างที่กำลังกลัวสุดขีดนั้นภาพความทรงจำทุกอย่างก็หวนกลับมา

ลวิตาจำได้แล้วว่าทำไมหล่อนถึงถูกตามล่าเอาชีวิต หล่อนไปเห็นคนของเสี่ยมนูญจับนักข่าวคนหนึ่งโยนลงมาจากตึก กอปรกับเธอเก็บหลักฐานสำคัญ ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติดที่นักข่าวคนนั้นรวบรวมไว้ได้ ซึ่งหลักฐานดังกล่าวอยู่ในกระเป๋าหนังสีน้ำตาลที่เธอชอบฝันถึง ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงตามไล่ล่าเธอ เมื่อหาหลักฐานไม่เจอ จึงฆ่าเธอ โดยจัดฉากให้ดูเหมือนการฆ่าตัวตาย ประจวบเหมาะกับที่เธอเขียนไดอารี่หน้าสุดท้ายด้วยความเศร้า จึงยิ่งทำให้คนทั่วไปเชื่อว่าเธอกระโดดลงมาเอง

แต่เรื่องราวเหล่านี้ยังไม่น่าเศร้า เท่าการที่เธอจดจำได้ว่า ไตรภพก็มีส่วนเกี่ยวพันกับแก๊งค้ายานี้เช่นกัน

ไตรภพเป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาในแก๊งค้ายา กระนั้นเขาก็ไม่ใช่คนเลวทราม เขาเคยเป็นเด็กส่งยาแลกกับเงิน แต่เมื่อโตขึ้น มีความคิด เขาก็พยายามจะพาตัวเองออกไปจากวงจรอุบาทว์ แต่เสี่ยมนูญไม่ปล่อยเขาง่าย ๆ

เมื่อไตรภพได้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ทำงานถูกกฎหมายเป็นครั้งแรก เขาก็หลงรักในอาชีพนี้ การงานของเขาเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว กระนั้นเขาก็ยังระแวงทุกครั้งว่า วันหนึ่งอดีตมืดดำที่พยายามซ่อนไว้จะถูกเปิดเผย

แล้วก็จริงดังคาด นักข่าวคนนั้นพยายามขุดคุ้ยอดีตของเขา สะกดรอยตามเขา และพยายามจะสาวไปถึงเสี่ยมนูญ สุดท้ายจึงถูกคนของเสี่ยมนูญฆ่าตาย แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น เพราะคนที่บังเอิญเห็นเหตุฆาตกรรมคือแฟนสาวของเขาเอง ไตรภพพยายามปกป้องลวิตา แต่สุดท้ายมนูญก็ส่งคนไปฆ่าเธอ โชคดีที่เธอชะตาแข็ง จึงรอดตายมาได้ราวปาฏิหาริย์

ตอนที่ลวิตาฟื้นขึ้นมาแล้วความจำเสื่อม ลึกลงไปจากความเสียใจคือความดีใจ ไตรภพภาวนาให้เธอจำเรื่องร้าย ๆ เหล่านั้นไม่ได้ไปตลอดชีวิต เพราะรู้ว่าเมื่อใดที่เธอจำได้ เธอจะเกลียดเขา เกลียดอดีตของเขา และหนีไปตลอดกาล

เขาอาจจะโกหกหล่อนหลายเรื่อง ปิดบังอดีตมืดดำของตัวเอง แต่ความรักที่เขามีต่อเธอนั้นเป็นของจริง แต่ดูเหมือนคำภาวนาของเขาไม่เป็นผลอีกตามเคย ในที่สุดลวิตาก็จำทุกอย่างได้ และตอนนี้เธอก็กำลังถูกผู้กำกับการประชาจับตัวไว้ ทางเดียวที่ไตรภพจะช่วยหล่อนได้ คือหาเครื่องมือต่อรองกับเสี่ยมนูญ และเครื่องมือที่ว่านั่น ก็คือมีนาลูกสาวคนเดียวซึ่งเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของมนูญ มีนากำลังป่วยหนักด้วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลซึ่งมนูญเป็นหุ้นส่วนใหญ่

ไตรภพเป็นเด็กกำพร้า เติบโตมาในบ้านของเสี่ยมนูญ ดังนั้นเขากับมีนาจึงสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก มีนาเป็นลูกคนเดียว ขาดแม่ตั้งแต่เด็ก เธอจึงรักไตรภพเหมือนพี่ชายแท้ ๆ และนี่คือเหตุผลเดียวที่มนูญไม่กล้าทำอะไรรุนแรงกับไตรภพ เนื่องจากเห็นแก่ลูกสาวสุดที่รัก

ไตรภพเองก็รักมีนาเหมือนน้องสาวในไส้ เขาดูแลเธอมาตลอด มาเยี่ยมเธอแทบทุกครั้ง ทว่าครั้งนี้เขาจำเป็นต้องใช้มีนาเป็นเครื่องมือ เพื่อช่วยชีวิตผู้หญิงอีกคนที่เขารัก

ในขณะที่ไตรภพกำลังจัดการเสี่ยมนูญ ปวัตรก็กำลังเดินทางไปช่วยลวิตา ทันทีที่เสี่ยมนูญรู้ว่าไตรภพจับลูกสาวเขาเพื่อใช้เป็นเครื่องต่อรอง เขาก็ดิ้นพล่าน รีบโทรศัพท์ไปบอกผู้กำกับการประชาให้ปล่อยตัวลวิตาไปก่อน ค่อยหาทางจัดการใหม่ แต่ประชาคัดค้าน กว่าจะตามหาตัวลวิตาเจอไม่ใช่เรื่องง่าย ยังไงก็ปล่อยไปไม่ได้

เรื่องจึงกลายเป็นว่า เสี่ยมนูญกับผู้กำกับการประชาเริ่มมีปากเสียงกันเอง ความเห็นสวนทาง ความขัดแย้งรุนแรง สุดท้ายมนูญจึงเลือกวิธีแตกหัก เขาส่งลูกน้องไปช่วยลวิตาเพื่อแลกกับชีวิตลูกสาว จากนั้นลูกน้องของประชาและเสี่ยมนูญก็ดวลปืนกัน ผลคือคนของเสี่ยมนูญเป็นฝ่ายชนะ ส่วนประชาและลูกน้องตายเรียบ ปวัตรช่วยลวิตาหนีออกมาได้สำเร็จ กระนั้นหล่อนก็ได้รับบาดเจ็บพอสมควร

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ส่งผลให้ตำรวจสามารถขยายผลจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้สำเร็จ ไตรภพแถลงข่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมทั้งขอถอนตัวจากวงการบันเทิงเป็นการถาวร และถูกกันตัวไว้เป็นพยานสำคัญ ในคดีใหญ่ระดับประเทศคดีนี้

หลังเรื่องเลวร้ายผ่านพ้น ปวัตรก็หายไปจากชีวิตลวิตานานนับปี เขาย้ายออกจากคอนโดมิเนียมของเธอ ไม่มีใครบอกได้ว่าเขาหายไปไหน ลวิตาทำใจแล้วว่าเรื่องของเธอกับเขาคงไม่มีทางเป็นไปได้ เช่นเดียวกับที่ไม่สามารถทำใจให้รักไตรภพได้อีกครั้ง

หญิงสาวกลับไปที่เชียงคานอีกครั้งเมื่อครบ 1 ปี ครั้งนี้ไม่ได้ไปหาความทรงจำ แต่ไปพักผ่อนพร้อมหัวใจที่อัดแน่นด้วยความคิดถึงใครคนหนึ่ง

และที่นั่นเอง ที่เธอได้พบเขาอีกครั้ง เขาผู้เป็นดวงดาวอบอุ่นในคืนมืดอันเหน็บหนาวของเธอ

ติดตามชมละคร ในคืนหนาว แสงดาวยังอุ่น ได้ทุกวันพุธ และพฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 HD ละคร ในคืนหนาว แสงดาวยังอุ่น เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561

รายชื่อนักแสดง ในคืนหนาว แสงดาวยังอุ่น

  • แคท เซฟฟานี่ แสดงเป็น ลวิตา (หลิว)
  • หลุยส์ เฮสดาร์ซัน แสดงเป็น ปวัตร (วัตร)
  • บอส จักรพันธ์ แสดงเป็น ไตรภพ (มิค)
  • แชป วรากร แสดงเป็น ทรงพล (พล)
  • เนย ปภาดา แสดงเป็น นรี
  • เจค ศตวรรษ แสดงเป็น เสี่ยมนูญ
  • วัชระ ปานเอี่ยม แสดงเป็น ลุงป่าน
  • อู ภาณุ แสดงเป็น พี่เอก
  • ตั๊ก วริศรา แสดงเป็น มีนา
  • แพทตี้ พิมพาภรณ์ แสดงเป็น จีน่า
  • ตุ๊ก ดวงตา แสดงเป็น คุณหญิงมยุรา
  • แพร อาภัสสรา แสดงเป็น ชมพูนุช
  • แอนนี่ สรารัตน์ แสดงเป็น แก้ว
  • เอี๊ยม วรรษพร แสดงเป็น โฉมฉาย
  • โย ปราณวรินทร์ แสดงเป็น กชกร
  • กระดุม ธนายง แสดงเป็น ผู้กำกับประชา
  • ป๊อป พลรัตน์ แสดงเป็น อรุณ
  • ปราบ ยุทธพิชัย แสดงเป็น ชัย
  • กันตา ดานาว แสดงเป็น วิภา
  • สุทธิพงษ์ พยัฆสรรค์ แสดงเป็น ชิต
  • ศรีหลอด สีใส แสดงเป็น สมมาตร
  • ศิริปัญญา จันทิหล้า แสดงเป็น ไพรัตน์
  • ชลิดา สุภาพรรณ แสดงเป็น รุจี

Source: CH7HD Drama Society