สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Extracurricular (2020) : เด็กเรียนดีที่ทำธุรกิจมืด ชีวิตต้องเจอปัญหา เมื่อเพื่อนร่วมชั้นเกิดรู้ความลับที่ซ่อนไว้
คำเตือน ! เนื้อหามีการสปอยล์ซีรีส์ Extracurricular (2020) ชมรมลับ ธุรกิจรัก
- EP 1 : นักเรียนดีเด่น
- EP 2 : พ่อ
- EP 3 : จากจุดจบสู่จุดเริ่มต้น
- EP 4 : หุ้นส่วน
- EP 5 : สัญญาณไฟไหม้
- EP 6 : มาเฟีย
- EP 7 : แฟนเช่า
- EP 8 : ลักพาตัว
- EP 9 : ล้างแค้น
- EP 10 : หนีไปด้วยกัน
- สปอยล์ตอนจบ
EP 1 : นักเรียนดีเด่น
โอจีซู (คิมดงฮี) นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนมัธยมคเยวัง ในสายตาของอาจารย์ประจำชั้น เขาคือเด็กนักเรียนในฝัน มีความซื่อสัตย์ ความประพฤติเรียบร้อย ผลการเรียนดีมาก นิสัยเงียบและสุขุม เป็นตัวอย่างที่ดีของคนอื่น ไม่สร้างปัญหาให้ใคร เขาคือแบบฉบับของนักเรียนดีเด่นอย่างแท้จริง
แต่ทว่า ชีวิตอีกด้านของโอจีซู กลับไม่ใช่อย่างที่คนอื่นเห็น เขาต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวเพียงลำพังตั้งแต่ ม.3 พ่อแม่ของเขาแยกทางกัน พ่อที่ติดการพนัน แม่ที่ไม่สนใจลูก และทั้งคู่ก็ทิ้งเขาไห้อยู่โดดเดี่ยวอย่างไม่สนใจใยดี นั่นทำให้เขากลายเป็นเป็นเด็กที่มีปัญหาในการเข้าสังคม วัน ๆ แทบไม่ได้คุยกับใคร ว่าที่จริงเขาแทบไม่สนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเสียด้วยซ้ำ
ถึงอย่างไรก็ตาม โอจีซูก็มีความฝัน เขามุ่งมั่นจะเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยชื่อดังระดับท็อป 3 ของประเทศ แต่ฝันของเขามีราคาแพงมากถึง 90 ล้านวอน (ประมาณ 2.4 ล้านบาท) และเขามีเวลาเหลือไม่มากนักที่จะหาเงินจำนวนนั้นให้ได้ เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
เมื่อไม่มีพ่อแม่ที่คอยสนับสนุนการเงินให้เหมือนเด็กคนอื่น เขาจึงเลือกทำธุรกิจผิดกฎหมาย โดยเป็นธุรกิจดูแลความปลอดภัยให้กับหญิงสาวที่ค้าบริการทางเพศ หรือว่าง่าย ๆ ก็คือเป็นพ่อเล้า 4.0 คอยจัดส่งผู้หญิงให้ลูกค้าโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย
โอจีซูจะสั่งงานอยู่เบื้องหลังผ่านแอปพลิเคชัน เขาติดต่องานผ่านข้อความแชต และใช้แอปแปลงเสียง ส่วน อีวังชอล (ชเวมินซู) ที่โอจีซูเรียกว่าหัวหน้าอี รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลความปลอดภัยให้กับหญิงสาวที่หน้างาน คอยรับส่งสาว ๆ และทำหน้าที่เป็นคนนำเงินไปให้โอจีซูผ่านทางตู้ล็อคเกอร์ โดยผู้หญิงทุกคนจะใส่รีสแบนด์ ที่ใช้เป็นเครื่องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเมื่อเจอพวกลูกค้าโรคจิต ซึ่งสาว ๆ ที่รับงานจะรู้จักและเรียกโอจีซูว่า ลุง ส่วนหัวหน้าอีใช้นามแฝงว่า ตาเฒ่า
และหนึ่งในหญิงบริการก็คือ ซอมินฮี (จองดาบิน) เด็กสาวที่ขายตัวเพื่อนำเงินไปปรนเปรอให้ ควักกีแท แฟนหนุ่มจอมเกเรด้วยสิ่งของราคาแพง ๆ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าคนที่เธอเรียกว่าลุงก็คือจีซู เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอนั่นเอง
กิจวัตรที่ โอจีซู มักจะทำประจำตอนพักเบรคระหว่างคาบเรียนคือการนอน แต่แล้ววันหนึ่ง ดวงตาเขากลับลุกโชนขึ้นมา เมื่อสายตาของเขาสะดุดเข้ากับ แพกยูรี (พัคจูฮยอน) เพื่อนนักเรียนหญิงที่เขาแอบชอบมานาน
เหมือนดั่งโชคชะตาฟ้าลิขิต โจจินอู หรืออาจารย์โจ (พัคฮยอกควอน) อาจารย์ประจำชั้น อาจารย์แนะแนว และรองอาจารย์ใหญ่ ได้เปิดชมรมศึกษาปัญหาสังคม และต้องการให้จีซูเข้าร่วมชมรมนี้ ระหว่างที่จีซูพยายามปฏิเสธ สมาชิกเพียงหนึ่งเดียวของชมรมนี้ก็เดินเข้ามา เธอคือแพกยูรี การได้ใกล้ชิดกับหญิงสาวที่เขาหลงใหล จีซูก็เกิดอาการน้ำท่วมปากยอมเข้าช่วยงานของชมรมไปแบบงง ๆ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตของโอจีซูไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ในวันหยุด เขาตัดสินใจประกาศหยุดธุรกิจมืดของเขาหนึ่งวัน เพราะวันนี้เขามีนัดกับกยูรีที่ร้านกาแฟเพื่อทำงานของชมรม จีซูนำเงินสดที่ซ่อนเอาไว้เป็นจำนวนมากมายหลายล้านวอนในตู้เสื้อผ้าออกมาจำนวนหนึ่ง เขารู้สึกประหม่าเป็นอย่างมากกับนัดครั้งนี้ เพราะมันเป็นนัดครั้งแรกของเขา ว่าที่จริงมันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้าร้านกาแฟด้วยซ้ำ เขาสั่งเอสเปรสโซดับเบิ้ลช็อตตามคำแนะนำที่อ่านจากอินเตอร์เน็ต และดื่มกาแฟแก้วนั้นทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่ารสชาติมันเป็นอย่างไร เมื่อเขาลิ้มรสชาติของมันก็ถึงกับต้องบ้วนออกมา กยูรีรู้สึกแปลกใจปนขำกับความเปิ่นของจีซู
ณ ร้านกาแฟแห่งนั้น เป็นครั้งแรกที่จีซูเผยความลับที่ไม่เคยบอกใครมาก่อนให้กยูรีได้รู้ พ่อแม่หนีเขาไปตั้งแต่เขาอยู่ชั้น ม.3 ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมาหลายปี เมื่อกยูรีได้รู้ดังนั้นก็พูดกับจีซูว่า “ฉันภูมิใจในตัวนาย… นายโคตรสู้ชีวิตเลย” ประโยคเดียวที่ออกจากปากของหญิงสาว ทำให้เขาถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ไม่เคยมีใครพูดว่ารู้สึกภูมิใจในตัวเขามาก่อนเลยในชีวิต
ซอมินฮี ฝืนรับงาน แม้รู้ว่าวันนี้จะไม่มีคนดูแลความปลอดภัยให้ และรู้ว่าลูกค้าคนนี้ติดแบล็คลิสต์ แต่ด้วยความที่เธอต้องการนำเงินไปซื้อของขวัญครบรอบ 100 วันให้ ควักกีแท (นัมยุนซู) แฟนหนุ่มของเธอ แทนของขวัญชิ้นที่ถูกขโมย เธอจึงจำใจฝืนรับงานแม้จะรู้ว่ามันเสี่ยง และมันก็เป็นจริง เธอเจอลูกค้าโรคจิตที่ชอบทำร้ายหญิงสาว ก่อนหน้านี้มันเคยโดนหัวหน้าอีซ้อมจนน่วมมาแล้ว และครั้งนี้มันพาพวกมาด้วยอีก 2 คนเพื่อต้องการเอาคืนหัวหน้าอี มินฮีพยายามส่งข้อความขอความช่วยเหลือ ก่อนจะโดนพวกมันจับมัดและโดนทำร้าย
จีซูได้รับข้อความจากมินฮี เขาพยายามติดต่อไปหาหัวหน้าอีแต่ก็ติดต่อไม่ได้ ตอนนี้เด็กหนุ่มลนลานเป็นอย่างมาก เขารีบไปตามพิกัดจีพีเอส โดยทิ้งกยูรีไว้ที่ร้านกาแฟโดยไม่ได้บอกเธอ เมื่อมาถึงโรงแรมที่มินฮีถูกจับตัว จีซูก็ใช้ไหวพริบ เขาโทรแจ้งตำรวจว่ามีการค้าประเวณีผู้เยาว์ แต่แจ้งเลขห้องคนละห้อง (เพื่อป้องกันตำรวจสืบมาถึงตัว และไม่ให้มินฮีโดนจับ) เมื่อตำรวจมาถึงทำให้ชายโรคจิตกับพวกรีบหนีไป
ระหว่างแพกยูรีอยู่บนรถประจำทาง ข้อความแชตเผยให้เห็นว่า เธอเป็นคนขโมยของขวัญราคาแพงที่มินฮีซื้อให้กีแท และกำลังขายต่อเพื่อเอากำไร แท้จริงแล้วเธอไม่ใช่เด็กสาวใสซื่อจากครอบครัวไฮโซ หากแต่เป็นเด็กสาวที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมอันร้ายกาจ
EP 2 : พ่อ
แพกยูรี เกิดและโตมาในครอบครัวที่มีพ่อแม่เป็นคนกำหนดชีวิตของเธอ วางแผนอนาคตทุกอย่างเอาไว้ให้ และคาดหวังจะให้เธอประสบความสำเร็จตั้งแต่เยาว์วัยเหมือนพวกเขาทั้งคู่ เธอต้องรับแรงกดดันจากการที่ไม่สามารถเป็นตัวของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตาม เธอก็ฝืนทำตามคำพ่อแม่มาตลอด
กยูรีขโมยโทรศัพท์ของจีซูที่ใช้ติดต่องานขณะที่เขากำลังหลับในห้องเรียน เธอพยายามสุ่มหารหัสผ่านแต่มันไม่ได้ผล เธอจึงใช้วิธีการแฮกขั้นเบสิก คือแอบดูรหัสปลดล็อกขณะที่จีซูใช้โทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่ง
จีซูเมื่อรู้ว่าโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่องานหายไป ก็ออกตามหาด้วย Find My Phone มันนำเขากลับไปที่โรงเรียน ซึ่งกีแทและเพื่อน ๆ ร่วมกันจัดงานฉลองครบรอบ 100 วันให้มินฮี (จริง ๆ โทรศัพท์อยู่กับกยูรีที่ห้องแนะแนว) ด้านจีซูก็เข้าใจผิดคิดว่าโทรศัพท์ที่วางอยู่เป็นของเขาจึงรีบเข้าไปเอา แต่เกิดสะดุดหกล้มไปโดนเค้กฉลอง 100 วัน ที่กีแทเตรียมไว้ให้มินฮีหล่นลง กีแทโมโหมากจึงเข้าไปอัดจีซูหลายดอก แต่ก่อนที่กีแทจะฮุคหมัดเข้าที่หน้าจีซู ชายสูงอายุผมสีดอกเลาก็เดินเข้ามาห้ามเอาไว้ ชายผู้นี้คือพ่อของจีซู
พ่อของจีซูชวนเขาไปอยู่ที่อุลซาน และพยายามบอกว่าพ่อเลิกเล่นการพนัน ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว แต่จีซูรู้ทันว่าพ่อของเขามาหาเพียงต้องการเงินเท่านั้น มันเป็นแบบนี้มาตลอด
ตอนนี้กยูรีรู้แล้วว่า จีซูทำธุรกิจอะไร และมีเงินจำนวนมากซ่อนอยู่ จึงออกอุบายจะไปหาจีซูที่ห้องเพื่อหวังจะขโมยเงินทั้งหมด หากแต่เมื่อสบโอกาสเธอกลับรู้สึกผิด จึงเอาเงินเก็บคืนที่เดิม ขณะเดียวกันนั้น พ่อของจีซูก็เข้ามาในห้องพอดี และได้ขโมยเงินทั้งหมดไป ท่ามกลางสายตาของกยูรีที่ซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้า
กยูรีพยายามตั้งสติ ไล่ตามพ่อของจีซูเพื่อหวังเอาเงินคืนมา แต่ก็ไร้ประโยชน์ ขณะเดียวกัน จีซูก็เปิด Find My Phone เพื่อตามหาอีกครั้ง และมันก็ทำให้เขาถึงกับช็อคเมื่อพบว่า คนที่เอาโทรศัพท์ของเขาไปและก่อเรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี้ คือ กยูรี ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาเห็นเงินทั้งหมดที่เขาสะสมเอาไว้อยู่ในมือพ่อตัวเอง พ่อที่ไม่เคยสนใจใยดีลูก พ่อที่ไม่สมควรจะเรียกพ่อเสียด้วยซ้ำ พ่อยิ้มที่มุมปาก แล้วรีบหนีจากไปพร้อมกับเงิน 61 ล้านวอน (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) ที่ลูกตัวเองตั้งใจเก็บไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเข้ามหาวิทยาลัยตามที่ฝัน
วันต่อมา กยูรีประกาศในห้องเรียนว่าเธอกับจีซูเป็นแฟนกัน หลังเลิกเรียนเธอพาจีซูไปที่เครื่องเล่นเบสบอล และได้แนะนำเพื่อนผู้ชายทกล้ามโตหุ่นดีให้จีซูรู้จัก และได้เสนอแผนขยายธุรกิจ ซึ่งจะทำให้เขาเก็บเงินได้มากพอที่จะเอาไปเข้ามหาวิทยาลัยตามที่ตั้งใจ ชดเชยกับเงินที่ถูกพ่อขโมยไป
EP 3 : จากจุดจบสู่จุดเริ่มต้น
จีซูสืบหาที่อยู่พ่อของเขาจนเจอ เขาจึงเดินทางไปอุลซานเพื่อหวังจะเอาเงินคืน กยูรีได้ตามเขาไปด้วย ทั้งสองบุกเข้าไปในบ้านเพื่อหาเงินแต่ก็ไม่พบ ทั้งคู่รอจนรุ่งเช้าอีกวัน พ่อของจีซูก็กลับมาบ้าน จีซูได้ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตพ่อของเขาเพื่อเค้นถึงที่ซ่อนเงิน พ่อของเขาจึงรับว่าได้เอาเงินทั้งหมดไปลงทุนในเงินคริปโตสกุลใหม่ แต่เมื่อเช็คยอดเงินล่าสุดปรากฏว่า เงินที่ลงทุนไปขาดทุนแทบจะเหลือศูนย์
นี่เป็นครั้งแรงที่จีซูคิดจะฆ่าพ่อของตัวเอง พ่อที่ทิ้งลูกเอาไว้ให้เผชิญชีวิตตั้งแต่อยู่ชั้น ม.3 และมาวันนี้ยังทำลายความฝันของเขาจนหมดสิ้น แบบนี้จะเรียกพ่อได้อย่างไร แต่สุดท้ายจีซูก็คิดได้ว่า อย่างไรเขาก็ได้ชื่อว่าพ่อ เขาจึงเดินทางกลับโซลพร้อมกับดวงใจแห่งความสิ้นหวัง ระหว่างทางกลับ กยูรีได้คืนโทรศัพท์ให้เขา
แม้จีซูจะได้โทรศัพท์คืน แต่ดูเหมือนธุรกิจก็ยังไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ หัวหน้าอียืนยันจะไม่ทำงานถ้ายังไม่ได้รับเงินเดือน ว่าที่จริงแม้แต่เงินใช้จ่ายในแต่ละวันจีซูยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ และแม้ว่าเขาจะลองไปทำงานเป็นกรรมกรแบกหาม แต่เงินที่ได้ก็น้อยจนแทบไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
กยูรียังไม่เลิกล้มความพยายามที่จะขอเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับจีซู เมื่อรู้ว่าจีซูมีปัญหาเรื่องเงินเดือนของหัวหน้าอี เธอจึงนำเงินเก็บของเธอมาให้จีซู โดยแลกเปลี่ยนกับส่วนแบกในฐานะหุ้นส่วน แต่จีซูไม่รับข้อเสนอ
ด้านมินฮีกำลังตกที่นั่งลำบาก เธอเริ่มรู้สึกตัวเองด้อยค่าถ้าไม่มีเงินไปปรนเปรอกีแท ส่วนหัวหน้าอีก็ขอให้เธอเลิกทำงานขายตัว ด้วยความเป็นห่วงจากอาการ PTSD (โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง) ซึ่งเป็นผลจากการที่เธอโดนลูกค้าโรคจิตทำร้ายร่างกาย และเธอก็ถูกไล่ออกจากกลุ่มสาวขายบริการ เพราะพูดจาไม่เข้าหู ซังมี หัวหน้ากลุ่ม
เมื่อวันสอบกลางภาคมาถึง จีซูที่ต้องทำงานแบกหามหลังเลิกเรียนทุกวัน กลับทำคะแนนได้เพียง 48 คะแนน ซ้ำยังถูกแชบินล้อว่าโง่ มันทำให้เขาถึงขึดสุดเกินกว่าจะรับไหว จีซูที่เงียบ ๆ กลับระเบิดอารมณ์ออกมาพุ่งหมัดใส่หน้าแชบินอย่างแรง และเดินไปหากยูริพร้อมกับพูดว่า “เป็นหุ้นส่วนกัน”
EP 4 : หุ้นส่วน
ตอนนี้ธุรกิจของจีซูที่มีกยูรีเป็นหุ้นส่วน สามารถดำเนินงานต่อได้อย่างราบรื่น ทั้งสองตกลงส่วนแบ่งกันที่ 70:30 แต่ดูเหมือนตอนนี้จีซูจะกลายเป็นคนหวาดระแวง เขาพกเงินและบัญชีรายรับรายจ่ายไว้กับตัวตลอดเวลา
กยูรียังไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะขยายธุรกิจ เธอตั้งใจจะขยายฐานลูกค้ากลุ่มสาวใหญ่ใจถึง เธอจึงพยายามชวนพวกนักเรียนหนุ่มกล้ามโตมาทำงานด้วย แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งจีซูก็สัมทับว่า กยูรีไม่รู้เรื่องธุรกิจที่เขาทำอยู่ มันเป็นธุรกิจให้บริการด้านความปลอดภัย ผู้ชายไม่ต้องการคนดูแลเรื่องนี้ ถ้าพวกเขาอยากทำงานแบบนี้จริง พวกเขาก็ทำเองได้โดยไม่ต้องผ่านเรา
ลีแฮกยอง (คิมยอจิน) นักสืบหญิงหน่วยอาชญากรรมเด็ก (คนเดียวกับที่จีซูโทรแจ้งเรื่องค้าประเวณีผู้เยาว์) ได้มาสำรวจโรงเรียคเยวัง และด้วยความบังเอิญ นักสืบหญิงได้พบกับมินฮี ทำให้เธอสังเกตเห็นกระเป๋าเป้ของมินฮีที่มีตุ๊กตาและกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งวิบวับติดอยู่ ซึ่งเป็นเป้ที่เหมือนกับของเด็กสาวที่เธอกำลังสงสัยในพฤติกรรม
ด้านแชบินที่โดนจีซูตั๊นหน้าก็แค้นฝั่งหุ้น มาปรึกษากับกีแทถึงวิธีเอาคืนจีซู ซึ่งตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนก่อน เพราะใคร ๆ ก็เข้าใจว่าจีซูคบอยู่กับกยูรี ซึ่งเธอมีสายสัมพันธ์กับรุ่นพี่ ม.6 ดังนั้น การมีเรื่องกับซีจูก็เท่ากับเป็นการก่อสงคราม แต่กีแทบอกว่า ต้องใช้วิธีแกล้งแบบไม่เปิดเผยตัว คนที่โดนแกล้งทุกวันเป็นปี ๆ เมื่อทนไม่ไหวก็ฆ่าตัวตายไปเอง
แชบินร่วมมือกับกีแท เริ่มด้วยการพังเก้าอี้และติดกาวเอาไว้ วันต่อมาก็เอาสีดำราดล็อกเกอร์ และแอบเอาของเล่นผู้ใหญ่ (จิ๋มปลอม) ไปใส่ไว้ในกระเป๋าจีซู แล้วกีแทก็ตีหน้าตายเป็นเด็กดีใช้กลอุบาย หลอกให้อาจารย์ฝ่ายปกครอง (สภานักเรียน) เข้าไปค้นกระเป๋า เพื่อหวังจะให้จีซูอับอาย แต่อาจารย์โจก็บอกกฎว่า การจะค้นกระเป๋านักเรียนต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าตัวก่อน จีซูที่ไม่รู้ว่ามีจิ๋มปลอมอยู่ในกระเป๋า แต่เขารู้ดีว่าถ้าอาจารย์ค้นกระเป๋าต้องเจอหลักฐานบัญชีธุรกิจที่เขาทำอยู่ ทุกอย่างจะต้องจบเห่เป็นแน่ เขาจึงรวบรวมความกล้าลุกขึ้นพร้อมกับพูดว่า “ผมไม่ยอมให้ค้นครับ”
EP 5 : สัญญาณไฟไหม้
อาจารย์ฝ่ายปกครองดูท่าจะโกรธที่จีซูไม่ยอมให้ค้นกระเป๋า จีซูหันหน้าไปมองกยูรี แล้วก็งัดการ์ดการละเมิดสิทธิมนุษยชนออกมาใช้ “มันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะมันคือของส่วนตัวของผม” เมื่ออาจารย์ฝ่ายปกครองได้ฟังดังนั้นก็โมโหหนักขึ้นกว่าเดิม พยายามแย่งกระเป๋าจีซูมาตรวจค้นให้ได้ ในจังหวะนั้นเอง กยูรีได้แอบหลบออกไปกดสัญญาณเตือนไฟไหม้ ทำให้จีซูรอดพ้นวิกฤตจิ๋มปลอมครั้งนี้ไปได้
หน้าจอมอนิเตอร์กล้องวงจรปิด อาจารย์ฝ่ายปกครองและอาจารย์โจ กำลังสอบถามถึงสาเหตุที่กยูรีกดสัญญาณ มันทำให้เดือดร้อนกันทั้งโรงเรียน กยูรีใช้อินเนอร์สร้างดราม่า เธอพูดด้วยเสียงสั่นเครือขณะที่น้ำตาก็ไหลพรากไม่หยุด “หนูไปต่อไม่ไหวแล้วค่ะ หนูต้องเก่งให้ได้ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องเรียน ทั้งเรื่องคบเพื่อน ต้องดีไปหมดทุกอย่าง หนูทนไม่ไหวแล้ว หนูรู้สึกโดดเดี่ยวมากเลย” กยูรีพูดไปพร้อมกับโน้มตัวไปแนบไหล่อาจารย์ฝ่ายปกครอง
กยูรีจัดการอาจารย์ฝ่ายปกครองไปได้ แม้อาจารย์โจจะไม่เชื่อว่านี่เป็นสาเหตุให้กยูรีกดกริ่งสัญญาณ แต่ด้วยจิตวิทยาของความเป็นอาจารย์แนะแนว เมื่อเขามองเข้าไปที่นัยตาของนักเรียนสาว เขาก็รู้ว่าสิ่งที่กยูรีพูด มันเป็นความรู้สึกที่เก็บกดอยู่ภายในใจของเธอจริง ๆ
กยูรีแนะนำจีซูให้เอาเงินไปซ่อนไว้ที่ใต้โซฟาห้องแนะแนว ที่ ๆ เธอใช้ซ่อนของที่ขโมยมาก่อนที่จะนำมันไปขาย
แม่ของกยูรีจอดรถรออยู่ที่หน้าโรงเรียน เธอชวนให้จีซูขึ้นรถมาด้วยเพื่อคุยเรื่องความสัมพันธ์ของเด็กทั้งคู่ แม่ของกยูรีเข้าใจว่า จีซูกับกยูรีมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้ว และมองว่าลูกสาวของเธอไม่ได้ประโยชน์อะไรจากความสัมพันธ์นี้เลย ความรักทำให้ลูกของเธอเปลี่ยนไปในทางลบ วีรกรรมกดกริ่งสัญญาณไฟไหม้ในวันนี้ อาจารย์ใหญ่บอกว่าเกิดจากความเครียดที่โดนกดดันจากพ่อแม่ เป็นสิ่งที่ทำให้เธอขายหน้าเป็นอย่างมาก
กยูรีเมื่อได้ฟังแม่ของเธอก็เกิดความเครียด เธอใช้เล็บนิ้วชี้ขวาจิกที่นิ้วโป้งซ้ายซ้ำ ๆ จนเลือดไหลซึมออกมา เป็นพฤติกรรมที่กยูรีมักจะทำเป็นประจำ เมื่อได้รับแรงกดดันเกินกว่าที่จะรับไหว แม่ของกยูรีเล่าถึงเหตุการณ์ที่กยูรีพยายามฆ่าตัวตายเพื่อเป็นการประชดให้จีซูฟัง แต่กยูรีก็บอกความจริงว่ามันไม่ใช่การประชด แต่เธออยากตายจริง ๆ เพียงแต่ว่าตอนนั้นเธอกรีดข้อมือไม่ตรงตำแหน่งเลยทำให้เธอยังไม่ตาย ทั้งสามนั่งนิ่งเงียบเหมือนถูกสะกดให้อยู่ในภวังค์
ที่ บานาน่าคาราโอเกะคลับ (กลางวันเปิดเป็นคาราโอเกะ กลางคืนเปิดเป็นซ่อง โดยมีกลุ่มมาเฟียเป็นคนคุม) มีการจัดปาร์ตี้วันเกิดให้กีแท และมินฮีได้ให้ของขวัญวันเกิดกีแทเป็นหมวกแก๊ป ซึ่งดูกีแทจะไม่พอใจกับของขวัญราคาถูกที่ได้รับ ในระหว่างจะกลับ มินฮีได้เจอเข้ากับซังมีโดยบังเอิญ แต่ทั้งคู่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้จักกัน ซังมีมาที่นี่เพื่อต้องการพาเด็กในสังกัดเธอมารับงาน หากแต่เธอก็ถูกปฏิเสธไป
กยูรียังไม่ล้มความพยายามในการหาชายขายน้ำคนแรกเข้าสังกัด เธอได้เจอกับ อีแทริม หนุ่มไอดอลฝึกหัดที่อยู่สังกัดของแม่เธอ ตอนนี้แทริมตกอยู่ในสถานย่ำแย่ ด้วยความสามารถในการร้องเพลงที่ไม่มีการพัฒนาจึงถูกปรับตกชั้นไปอยู่คลาสบี ซ้ำค่าเช่าบ้านและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ่าย กยูรีเห็นช่องทาง จึงให้จีซูส่งข้อความ SMS ชวนให้ร่วมงาน แทริมตอบตกลงทันที
กยูรีมานอนค้างที่ห้องของจีซู เธอตื่นเต้นมากกับแทริมชายขายน้ำคนแรกในสังกัด ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี กยูรีดีใจกับผลงานของตัวเองจึงโผเข้าไปกอดจีซูจนล้มลงไปบนที่นอน
วันต่อมา มินฮีโยนหมวกแก๊ปที่ซื้อเป็นของขวัญวันเกิดกีแทให้จีซู แต่กยูรีเห็นเข้าพอดี อาการงอนที่เกิดจากความหึงหวงจึงเริ่มขึ้น เพราะเธอเข้าใจว่ามินฮีชอบจีซูจึงให้ของขวัญ (แต่จริง ๆ แล้ว ที่มินฮีให้ของขวัญจีซูเพราะนอยด์กีแท ที่เห็นสิ่งที่เธอให้เป็นเพียงของราคาถูก) จีซูเห็นท่าทีของกยูรีเปลี่ยนไปจึงพยายามเข้าไปง้อ และขณะที่ทั้งคู่เปิดประตูห้องแนะแนว ทั้งสองก็ต้องตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า มินฮี อยู่ภายในห้องกับร้อยตรี ลีแฮกยอง ตำรวจหญิงจากหน่วยอาชญากรรมเด็ก
EP 6 : มาเฟีย
มินฮีโดนนักสืบลีไล่ต้อนถามถึงเหตุผลที่ไปโรงแรมในวันนั้น มือเท้าของเด็กสาวสั่นเทาไปหมด ในขณะที่จีซูพยายามเข้าขัดขวางโดยการอ้างถึงสิทธิส่วนบุคคลในการตอบคำถาม อ้างไปไกลถึงรัฐธรรม และยังบอกด้วยว่า ตำรวจจะต้องมีหมายศาล ด้านกรียูก็โทรไปร้องเรียนกับผู้บังคับบัญชาของนักสืบลี โดยใส่ความว่ามีการสอบสวนที่เกินกว่าเหตุภายในโรงเรียน นักสืบลีจำต้องล่าถอยกลับไป แต่เซนส์ความเป็นตำรวจของเธอบอกว่า มินฮีน่าจะเชื่อมโยงกับขบวนการค้าประเวณีผู้เยาวฺ์
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กยูรีแนะนำจีซูให้ไล่มินฮีออก เพราะมินฮียังเป็นเยาวชน ที่ตำรวจกัดไม่ปล่อยไม่ใช่เพราะเป็นคดีค้าประเวณีธรรมดา แต่มันเป็นคดีค้าประเวณีผู้เยาว์ ถ้าไม่รีบจัดการมินฮีจะกลายเป็นปัญหาในอนาคต
ที่โรงเรียน กีแทพยายามเค้นจีซูเพื่อหาความจริงว่า ตำรวจมาพบมินฮีด้วยเรื่องอะไร แต่ไม่ว่าจะโดนทำร้ายแค่ไหนจีซูก็ปิดปากเงียบ กยูรีรีบเข้ามาห้าม พร้อมกับใช้มารยาโกหกกีแทว่า ตำรวจมาพบมินฮีเพราะมินฮีไปขโมยของที่ร้านสวารอฟสกี้ ดูเหมือนว่า กยูรีจะปกป้องความลับธุรกิจมืดเอาไว้ได้อีกครั้ง
ตอนนี้มินฮีถูกตัดหางปล่อยวัดเรียบร้อยแล้ว หัวหน้าลีลบข้อมูลในโทรศัพท์ของมินฮีจนหมด และยึดเอารีสแบนด์ที่ใช้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือคืน มินฮีผิดหวังเป็นอย่างมาก
หลังเลิกเรียน จีซูขอร้องให้กยูรีทำหน้าที่ลุงแทนเขาหนึ่งวัน เพราะมินฮีชวนจีซูให้ไปพบหัวหน้าอีกับเธอ ตอนแรกจีซูไม่รู้ว่ามินฮีจะพาเขาไปไหนจึงตอบตกลง แต่เมื่อรู้ว่าต้องมาพบหัวหน้าอี ทำให้จีซูออกอาการไม่สู้ดีนัก มินฮีต้องการเจรจาขอเงินค่าชดเชยที่ไล่เธอออก แต่หัวหน้าอีไม่สามารถติดต่อลุงได้ คำขอของมินฮีจึงไร้การตอบรับ (จีซูที่นั่งอยู่ตรงข้าม แอบเอามือล้วงในกระเป๋ากดตัดสายเรียกเข้าของหัวหน้าอี)
รยูแดยอล หัวหน้าแก๊งมาเฟีย เจ้าของบานาน่าคาราโอเกะคลับ พบข้อความในโทรศัพท์ที่เผยว่า โชมีจอง เมียของตัวเองเรียกใช้บริการผู้ชายขายน้ำ ทำให้เขาโกรธเป็นอย่างมาก จึงได้วางแผนลวงชายคนนั้นมาฆ่า
แทริมเดินทางไปตามนัด แต่กลับพบว่าภายในห้องถูกปิดคลุมไปด้วยพลาสติกเหมือนในซีรีส์เรื่อง Dexter จังหวะนั้นเอง แดยอลกับลูกน้องก็เข้ามาจับแทริมมัดเอาไว้ แต่ก่อนที่แดยอลจะลงมือฆ่า เขาได้เช็คโทรศัพท์แทริมเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ผิดตัว แต่ปรากฏว่า ไม่มีข้อความหรืออะไรในโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับเมียเขาเลย แดยอลจึงเปลี่ยนแผน ให้แทริมพาไปหาพ่อเล้าที่ติดต่องานให้เขาแทน
แทริมเดินมาหาหัวหน้าอี ที่นั่งอยู่กับมินฮีและจีซู พร้อมกับส่งซิกให้หัวหน้าอีคล้ายกับจะบอกว่ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น หัวหน้าอีจึงตามแทริมไป ส่วนมึนฮีก็ไม่วาย พยายามเดินตามเพื่อขอเงินชดเชยของเธออย่างไม่ลดละ แม้หัวหน้าอีพยานามไล่เด็กสาวเพราะรู้ว่ากำลังจะเกิดเรื่องร้าย แต่มินฮีก็ไม่ยอมไป
ตอนนี้เองกลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธปรากฏตัวขึ้น พวกมันเข้ารุมทำร้ายหัวหน้าอี จีซูก็พยายามเข้าช่วยแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ซึ่งก็ทำอะไรไม่ได้มาก และแม้หัวหน้าอีจะเอาพวกมันลงไปได้หลายคน แต่ด้วยจำนวนที่มากเกินรับไหว สุดท้ายหัวหน้าอีโดนขวานของแดยอลจามเข้าที่กลางหลัง จังหวะนั้นจีซูกับมินฮีเข้ามาช่วย หัวหน้าอีรอดจากพญามัจจุราชไปได้ หากแต่จีซูกลับโดนพวกมันจับเอาไว้แทน
แล้วความซวยขั้นสุดก็มาเยือนจีซู เมื่อแดยอลพบว่า ข้อความจากโทรศัพท์เมียเขาถูกส่งไปหาโทรศัพท์ของจีซู หัวหน้ามาเฟียดีใจที่พบตัวชายที่นอนกับเมียของเขาแล้ว
EP 7 : แฟนเช่า
มินฮีโทรไปขอความช่วยเหลือจากนักสืบหญิงลีแฮกยอง ผู้ซึ่งนำตัวเธอและหัวหน้าอีไปส่งโรงพยายาล นักสืบลีพยายามคาดคั้นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มินฮีตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และตอนนี้จีซูก็ถูกพวกคนร้ายจับตัวไป เธอจึงตะวาดใส่นักสืบลีกลับไป โดยขณะเดียวกันอาจารย์โจที่มาถึงโรงพยาบาลก็พามินฮีกลับบ้าน
ลูกน้องของแดยอลเริ่มใช้เลื่อยตัดแขนจีซู แต่ก็โดนขัดจังหวะโดยมีจอง เธอโกรธเป็นอย่างมากที่เห็นแดยอลทำแต่เรื่องไร้สาระ และบอกว่าเธอไม่เคยรู้จักจีซูก่อนเลย นั่นทำให้แดยอลคิดว่าเขาจับมาผิดคนอีกแล้ว จีซูเองก็พยายามอธิบายว่าเขาไม่เคยมีอะไรกับมีจอง เขาเป็นเพียงแค่ตัวกลางในการส่งข้อความเท่านั้น จริง ๆ แล้วมีคนที่อยู่เหนือกว่าเขาที่ใช้นามแฝงว่าลุง
หลังจากที่แดยอลฟังรูปแบบการดำเนินธุรกิจจากปากของจีซูก็เกิดชอบขึ้นมา คิดจะเอามาใช้กับธุรกิจซ่องของตัวเอง จึงสั่งให้จีซูติดต่อไปหาลุงเพื่อขอจีซูมาทำงานกับเขาชั่วคราว จีซูโทรไปหาโทรศัพท์สำรองของลุง
กยูรีตอนนี้อยู่ที่ห้องของจีซูร้อนใจเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถติดต่อจีซูได้ แถมตอนนี้เด็กทั้งหมดในสังกัดนำโดยซังมีได้ถอดตัวออกจากกลุ่มไปหมดแล้ว เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเธอจึงรับทันที หลังจากคุยสักพักจนเธอเริ่มจับสถานการณ์ได้ กยูรีจึงอ้างว่าลุงเป็นหัวหน้ามาเฟียใหญ่ พร้อมกับไม่รับข้อเสนอใด ๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นว่าจะร่วมมือเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกัน ถึงจะยอมให้จีซูไปทำงานที่นั่นชั่วคราว แดยอลจึงรับข้อเสนอ
มินฮีแบกจิตใจอันบอบช้ำนัดเจอกีแท เผยความจริงที่ว่า เงินทั้งหมดที่ใช้ซื้อของขวัญให้เขา ซื้อบุหรี่ ซื้อเหล้า เงินที่พาไปเที่ยว หรือแม้แต่เงินที่ใช้ซื้อถุงยาง เป็นเงินที่ได้จากการที่เธอทำงานเป็นแฟนเช่า (แฟนเช่า = ขายบริการทางเพศ) สาเหตุที่เธอบอกเรื่องนี้ก็เป็นเพียงเพราะเธออยากรู้ว่า กีแทยังรักเธออยู่ไหมถ้ารู้ว่าเธอหาเงินมาปรนเปรอเขาด้วยวิธีไหน แต่สิ่งที่ออกจากปากกีแทคือ เขาจะเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คนอื่นรู้ให้หมด มินฮีมองกีแทด้วยสายตาเรียบเฉย และเดินจากไป
นักสืบลีแอบเอาโทรศัพท์ของหัวหน้าอีที่อยู่บนรถเพื่อมาตรวจสอบ แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้เนื่องมามีรหัสผ่านล็อกเครื่องไว้ เธอจึงส่งเครื่องไปให้กองปราบตรวจสอบ แต่ทางกองปรายก็ไม่สนใจจะสืบเรื่องต่อ
จีซูไม่พอใจกับไอเดียของกยูรีที่ร่วมธุรกิจกับมาเฟียพวกนั้น และเล่าถึงเหตุการณ์เกือบตาย พร้อมกับโชว์ให้ดูบาดแผลที่แขนอันเกิดจากการโดนเลื่อย จีซูไม่พอใจเป็นอย่างมากที่กยูรีหาแต่เรื่องเข้ามา เป็นเพราะเธอไม่เคยออกหน้าเองได้แต่สั่งอยู่เบื้องหลัง กยูรีเองก็พยายามอธิบายว่า ตอนนี้เด็กในสังกัดออกไปหมดแล้ว เธอจึงจำเป็นต้องใช้ซ่องของแดยอลเพื่อทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ แต่เมื่อจีซูต่อว่าเธอไม่หยุด กยูรีจึงออกปากด้วยน้ำตาที่ตลอเบ้าว่า เธอจะเป็นคนจัดการพวกมาเฟียเอง ขอเพียงอย่ามายุ่งก็พอ
EP 8 : ลักพาตัว
1 ปีที่แล้ว… หัวหน้าอีเป็นเพียงชายไร้บ้าน ที่ใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน และอาศัยอาหารหมดอายุจากร้านสะดวกซื้อประทังชีวิต วันหนึ่งจีซูโดนนักเรียนกลุ่มหนึ่งรังแกแเพื่อหวังแย่งเงินจากเขา หัวหน้าอีจึงยื่นมือเข้ามาช่วย จนนักเรียนกลุ่มนั้นหนีไป จีซูเห็นฝีมือจึงแอบเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ให้ จนกลายเป็นหัวหน้าอีในวันนี้
ตัดกลับมา ณ ปัจจุบัน (2020) มินฮีไม่ไปโรงเรียนนับจากวันที่มีเรื่องกับพวกมาเฟีย เธอมาเฝ้าหัวหน้าอีตลอด กีแทพยายามโทรหามินฮีหลายครั้งแต่ก็ไม่รับสาย
จีซูไปหาหัวหน้าอีที่โรงพยาบาลเพื่อจะแอบเอาโทรศัพท์เครื่องใหม่ไปวางไว้ให้ แต่หัวหน้าอีรู้สึกตัวขึ้นมา ทั้งตู่ได้พูดอะไรคุยกันเล็กน้อยที่สื่อให้รู้ว่า หัวหน้าอีรู้ว่าอีกตัวตนหนึ่งของจีซูคือใคร
แดยอลวางแผนอันแยบยลเพื่อสืบหาความจริงเกี่ยวกับลุง เขาสงสัยว่าลุงไม่ใช่หัวหน้าแก๊งมาเฟียจริงตามที่อ้าง แดยอลได้ติดตั้งอุปกรณ์ติดตามจีพีเอสเอาไว้ใต้กล่องสมุนไพร โดยภายในกล่องบรรจุเงินเอาไว้เป็นจำนวนมาก กล่องนี้จะถูกมอบให้ลุง
กยูรีนัดเจอกับแดยอลที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งเพื่อเจรจาธุรกิจ แต่จีซูรู้เรื่องจึงรีบตัดหน้าไปร้านอาหารตามนัดแทน โดยอ้างว่าลุงไม่สะดวกเลยให้เขามาแทน จังหวะเดียวกับที่กยูรีมาถึง เมื่อเดินเข้าไปเห็นเป็นจีซูนั่งอยู่เธอจึงแกล้งเป็นเด็กเสิร์ฟ
แดยอลเริ่มพูดข้อเสนอของเขาที่ต้องการให้จีซูมาทำงานกับเขาเต็มเวลา โดยจีซูต้องออกจากโรงเรียน จีซูรู้ดีว่าข้อเสนอนี้ปฏิเสธไม่ได้ จะหนีก็หนีไม่ได้ ตอนนี้ชีวิตเขามาถึงทางตันจริง ๆ แล้ว ก่อนกลับแดยอลได้เอากล่องสมุนไพรที่บรรจุเงินเอาไว้ข้างฝากไปให้ลุง
ความฝันของจีซูคือการได้เรียนหนังสือจนจบ และได้เข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ นี่คือสิ่งเดียวในชีวิตที่ยึดเหนี่ยวเขา เพราะเขาเชื่อว่ามันจะทำให้เขามีอนาคตและชีวิตที่ดีเป็นปกติเหมือนคนอื่น ๆ แต่ตอนนี้มันจบแล้ว เขาโดนพวกมาเฟียบังคับให้ออกจากโรงเรียน ถ้าเขาไม่ทำตามก็เท่ากับต้องแลกด้วยชีวิต จีซูร้องไห้กับอนาคตที่จากไป เขากลับห้องโดยทิ้งกยูรีกับกล่องสมุนไพรเอาไว้ที่ป้ายรถเมล์ข้างทาง
ด้านกีแทก็พยายามตามหาตัวพ่อเล้าที่อยู่เบื้องหลังมินฮี เขาสืบหาตามแชตที่ประกาศในอินเตอร์เน็ต ตอนนี้แสดงให้เห็นว่า แท้จริงแล้วกีแทรักมินฮีจริง ๆ ไม่ใช่รักเพราะเงินที่เธอทุ่มเปย์ให้เขา
นักสืบหญิงลีกับตำรวจ 2 นาย มาที่โรงพยาบาลเพื่อสอบสวยหาความจริงของคดี เธอตั้งสมมติฐานว่าเบื้องหลังของหัวหน้าอีคือขบวนการค้าประเวณีขนาดใหญ่ หัวหน้าอีที่อาการเริ่มดีขึ้น ก็หนีออกจากโรงพยาบาล มินฮีเห็นเข้าพอดีจึงได้ตามไปด้วย
กยูรีเปิดกล่องสมุนไพรที่วางอยู่ก็พบเงินจำนวนมาก จึงรีบขึ้นแท็กซี่มุ่งหน้าไปที่โรงเรัยน กยูรีนำกล่องเงินมาเก็บไว้ที่โซฟาภายในห้องแนะแนว โดยที่ไม่รู้เลยว่าภายในกล่องมีอุปกรณ์ติดตามซ่อนอยู่ เมื่อหญิงสาวเดินออกมาก็โดนแดยอลกับลูกน้องอุ้มขึ้นรถตู้ทันที
EP 9 : ล้างแค้น
แดยอลโทรหาจีซู ขู่จะฆ่ากยูรีทิ้งหากคิดหนี หลังจากนั้นลูกน้องแดยอลได้มาเอาตัวจีซูไป
กยูรีเริ่มรู้สึกตัว หลังยาสลบเริ่มหมดฤทธิ์ เธอมองหามีดพกที่อยู่ในกระเป๋า เมื่อได้จังหวะเธอจึงแทงเข้าใส่แดยอลจำนวนหลายแผล ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่จีซูถูกพาตัวมาถึง จีซูใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตลูกน้องแดยอล ก่อนจะขับรถคนนั้นพุ่งเข้าชนรถตู้ของแดยอล จีซูเรียกให้กยูรีรีบขึ้นรถ หากแต่สกิลขับรถของจีซูนั้นเหลือรับประทาน ขับเป๋ซ้ายเป๋ขวา ขับชนทุกสิ่ง ทำให้ทั้งคู่หนีไปได้ไม่ไกลนัก เครื่องยนต์ก็เกิดดับลง
กยูรีกับจีซูนั่งบนรถที่ตอนนี้สภาพไม่ต่างจากเศษเหล็ก ทั้งคู่ปรึกษาว่าจะไปไหนต่อดีที่จะปลอดภัยจากพวกมาเฟีย จีซูดูจะลนลานทำอะไรไม่ถูก ส่วนกยูรีหยิบเอาไฟแช็คที่อยู่บนรถมาจุดเล่นซ้ำ ๆ เหมือนเธอกำลังใช้ความคิด
กยูรีจุดไฟเผารถเพื่อทำลายหลักฐาน และทั้งสองก็มาพักที่โรงแรม ภายในห้องพักทั้งคู่กำลังจะได้จูบกัน แต่ก็มีเสียงไซเรนดังขึ้นขัดจังหวะ ทั้งคู่จึงแยกออกจากกัน สักพักเสียงไซเรนเริ่มดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กยูรีจึงบอกว่ามันเป็นเสียงรถพยาบาลไม่ใช่รถตำรวจ จีซูได้ยินดังนั้นจึงหัวเราะลั่นออกมานานนับนาที และพูดขึ้นมาว่า “จะทำอย่างไรต่อดี… ตอนนี้อยากหยุดแล้ว”
รุ่งเช้าอีกวัน ขณะที่จีซูหลับอยู่ กยูรีได้เดินออกจากโรงแรมไปพร้อมกับโทรศัพท์ลุง
หัวหน้าอีกับมินฮีซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเพื่อนเก่าของหัวหน้าอีสมัยยังเป็นทหาร ในใจของหัวหน้าอีตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวคือการแก้แค้นแดยอล แม้มินฮีจะขู่ว่าถ้าหัวหน้าอีไปแก้แค้นพวกมาเฟีย เธอจะเอาเรื่องทั้งหมดไปบอกตำรวจ แต่ก็ไม่อาจทัดทาน หัวหน้าอีจากไปขณะที่มินฮีกำลังหลับ ก่อนจากไปเขาบอกกับเพื่อนทหารว่า “เย็นนี้มากินข้าวด้วยกัน”
ด้วยความเป็นห่วงหัวหน้าอี สิ่งที่ตอนนี้เด็กสาวคิดได้คือไปขอความช่วยเหลือจากนักสืบลี เธอชี้เบาะแสให้นักสืบลีตามหารถตู้ที่มีสติ๊กเกอร์กราฟฟิกรูปการ์ตูนจากกล้องวงจรปิด ในวันเกิดเหตุทะเลาะวิวาท ซึ่งเป็นรถของแดยอล
กยูรีที่ใส่หมวกใส่หน้ากากอนามัยปกปิดใบหน้า เดินทางมาที่บานาน่าคาราโอเกะคลับ เธอจ้างเด็กนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งคนละ 5 หมื่นวอน แลกกับการให้เธอเข้าไปร้องเพลงด้วย กยูรีเข้ามาในร้านได้โดยพวกมาเฟียไม่สงสัย เธออาศัยจังหวะแอบเข้ามาที่ห้องทำงานแดยอล แล้วเอาโทรศัพท์ลุงไปแอบวางไว้ (เพื่อโยนความผิดให้แดยอล ว่าคือลุงที่ตำรวจตามหา) แต่จังหวะนั้นแดยอลเห็นพอดี จึงหวดกยูรีเข้าที่ขา หญิงสาวล้มทั้งยืนทันที
หลังกีแทตามหาพ่อเล้าของมินฮีมานานหลายวัน เขาก็ได้รับการตอบกลับว่า มินฮีทำงานอยู่ที่บานาน่าคาราโอเกะ ไม่รอช้า กีแทเรียกกลุ่มนักเรียนขาลุยมารวมตัวเพื่อจะลุยบานาน่าคาราโอเกะให้ย่อยยับ (กยูรีเป็นคนวางแผนให้กีแทยกพวกมาถล่ม)
ลูกน้องแดยอลกับพวกกีแทเข้าต่อสู้กัน ประหนึ่งนักรบโบราณที่ไร้ปืนไร้มีด มีแต่เพียงเหล็กแป๊ป ไม้หน้าสาม และมือเปล่า ระหว่างนั้น หัวหน้าอีก็ปรากฏตัวขึ้น ที่หมัดของเขามีเหล็กที่เรียกว่าสนับมืออยู่ หัวหน้าอีสู้แบบชนิดที่เรียกว่าไม่รู้จักคำว่ากลัวตาย
จีซูมาช่วยกยูรีจากแดยอลได้ทันอีกครั้ง ตอนนี้เองหมวกที่มินฮีให้เขาหล่นลงที่พื้น เขาเข้าไปพยุงกยูรีหวังจะหนี แต่สายตาเหลือบไปเห็นหัวหน้าอี ก็เกิดสองจิตสองใจ หัวหน้าอีที่กำลังไล่ล่าแดยอล ก็หันกลับมาพูดกับจีซูว่า “เราอย่ามาเจอกันอีกเลย”
หัวหน้าอีต่อสู้กับแดยอลบนดาดฟ้าตึก แม้หัวหน้าอีจะฆ่าแดยอลได้ หากแต่ว่าเขาเองก็บาดเจ็บมากเกินกว่าที่จะยื้อลมหายใจตัวเองเอาไว้ได้
นักสืบลีมาถึงบานาน่าคาราโอเกะคลับตามรอยรถตู้ของแดยอล เธอจึงเรียกกำลังเสริมมาทันที
กีแทเจอหมวกแก๊ปที่มินฮีตั้งใจซื้อให้เขาเป็นของขวัญวันเกิดตกอยู่ (แต่กีแทไม่รู้ว่า มินฮีได้ให้หมวกใบนี้กับจีซูไปแล้ว) กีแทพร้อมผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วิวาทโดนตำรวจจับ ส่วนกยูรีกับจีซูหนีไปได้ก่อน
EP 10 : หนีไปด้วยกัน
ที่สถานีตำรวจ ฝ่ายสืบสวนพยายามเค้นหาที่มาที่ไปกับกีแท ถึงเหตุผลที่ทำให้เขายกพวกไปถล่มร้านบานาน่าคาราโอเกะ สุดท้ายกีแทจึงยอมบอก เขาต้องการล่าตัวพ่อเล้าที่ขายมินฮี แต่นักสืบลีก็ยังสงสัยความเกี่ยวโยงระหว่างกีแทกับหัวหน้าอี ว่าทำไมถึงมาก่อเหตุในเวลาเดียวกัน
หลังเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นมากมาย จีซูอยากหยุดทำธุรกิจ หากแต่กยูรีกลับเห็นตรงข้าม เธอไม่มีทางเลือก เธอทนอยู่บ้านที่มีพ่อแม่ที่คอยกดดันเธอแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ธุรกิจนี้เป็นทางออกของเธอ จีซูจึงยื่นโทรศัพท์ลุงเครื่องสำรองไปให้ กยูรีเดินจากไป
มินฮีรู้ข่าวการตายของหัวหน้าอีก็เสียใจเป็นอย่างมาก
กยูรีใช้เสียงที่บันทึกเอาไว้ของแทริม ขณะตอบรับงานขายบริการ ข่มขู่เอาเงินก้อนใหญ่จากพ่อแม่ของเธอ ถ้าข่าวการขายตัวของเด็กในสังกัดแพร่ออกไปในโซเชียล แผนขอเงินลงทุนของบริษัทจะต้องพังทันที
กยูรีนัดเจอจีซู พร้อมชวนเขาไปซิดนีย์กับเธอเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ตอนนี้เธอมีเงินมากพอที่ใช้ชีวิตของตัวเองแล้ว แต่จีซูปฏิเสธ
ระหว่างนั้น นักสืบลีที่ยังกัดคดีนี้ไม่ปล่อย แม้คดีร้านบานาน่าจะปิดไปแล้ว แต่มีจุดสงสัยหลายอย่างที่ยังไม่คลี่คลาย ระหว่างขับรถไปโรงเรียนคเยวัง นักสืบลีพบโทรศัพท์ที่ติดตั้งแอปติดตามกล่องสมุนไพรโดยบังเอิญ สุดท้ายก็พบเงินจำนวนมากซ่อนอยู่ในโซฟาห้องแนะแนว
นักสืบลีสอบสวนอาจารย์โจ ที่พยายามยืนยันว่าลูกศิษย์ตัวเองเป็นเด็กดี ไม่น่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมร้ายแรงแบบนี้ได้
ที่โรงเรียนมินฮีโดนเพื่อนนักเรียนล้ออย่างหนัก ที่ทำงานขายบริการ
กีแทดักเจอมินฮี พร้อมกับเอาหมวกแก๊ปที่เก็บได้จากร้านบานาน่าให้ดู (กีแทไม่รู้ว่ามินฮีให้หมวกใบนี้กับจีซูไปแล้ว) เด็กสาวเริ่มต่อจิ๊กซอเรื่องราวต่าง ๆ แต่ก็ยังสงสัยว่าจีซูไปที่ร้านบานาน่าทำไม จึงโทรนัดจีซูเพื่อถามหาความจริง
มินฮีพยายามเค้นถามเหตุผลที่จีซูไปที่ร้านบานาน่าในวันนั้น ในท้ายที่สุดจีซูก็ยอมรับสารภาพ ว่าแท้จริงแล้วเขาคือลุง จีซูร้องไห้โฮคุกเข่าจับขาของมินฮีเพื่อแสดงความขอโทษอย่างที่สุด และพยายามปกป้องกยูรีว่าเธอแค่มาช่วยเขาเท่านั้น ตัวเขาเองเป็นคนทำทั้งหมด ที่ทำไปเพราะอยากมีชีวิตปกติเหมือนคนอื่น อยากเรียนจบ อยากเข้ามหาวิทยาลัย อยากมีชีวิตปกติที่ตัวเขาไม่มี มินฮีพูดสั้น ๆ ว่ายกโทษให้แล้วเดินจากไป
มินฮีบันทึกเสียงคำสารภาพของจีซูเอาไว้ในโทรศัพท์ จีซูแอบตามมา ก็พยายามขอให้มินฮีลบเสียงที่บันทึก พร้อมทั้งบอกว่าตัวเขาตั้งใจจะไปมอบตัว กยูรีไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หากแต่มินฮีไม่สนใจคำพูดของเขา ทั้งสองจึงยื้อแย้งโทรศัพท์กัน จนมินฮีพลาดตกบันไดสูง เด็กสาวแน่นิ่งไปพร้อมเลือดกองใหญ่ จีซูตกใจสุดขีด ก่อนจะหยิบโทรศัพท์แล้ววิ่งหนีไป เขาหมดหนทางแล้วจริง ๆ หนทางสุดท้ายที่เขาจพะทำได้ในตอนนี้ คือ โทรหากยูรี เราจะหนีไปด้วยกัน
จีซูกลับมาเก็บข้าวของที่ห้อง ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น จีซูรีบไปเปิดประตูทันที แต่คนที่อยู่หน้าประตูหาใช่กยูรีไม่…
ก่อนหน้านี้ กีแทไปที่ร้านบานาน่าอีกครั้ง เพื่อถามว่ามินฮีเป็นเด็กที่ทำงานที่ร้านนี้หรือเปล่า มีจองจึงบอกความจริงทั้งหมดให้กีแทรู้ ว่าแท้จริงแล้ว จีซูกับกยูรีคือคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด
กีแทมาหาจีซูที่ห้อง ทั้งสองโต้เถียงกันพักใหญ่ ก่อนที่กีแทจะหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหามินฮี แต่กลับกลายเป็นว่า เสียงเรียกเข้ากลับดังขึ้นในกระเป๋าเป้ของจีซู ความโกรธเริ่มเข้าครอบงำ กีแทเทกระเป๋าจีซูออกมา ก็พบโทรศัพท์ของมินฮีในสภาพหน้าจอแตกและเต็มไปด้วยคราบเลือด กีแทไม่รอช้าอัดใส่จีซูทันที ก่อนจะคว้ากรรไกรจ้วงแทงที่หน้าอก 3-4 แผล แต่ก่อนที่กีแทจะจ้วงแผลต่อไป กยูรีก็เข้ามาใช้วัตถุตีเข้ากลางหัวกีแทจนแน่นิ่งไป
กยูรีพยายามประคองจีซูหนี เลือดเปรอะไปทั่วทั้งทางเดิน สภาพเป็นตายเท่ากัน
มินฮีถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เธอยังไม่ตาย หากแต่สภาพจิตใจบอบช้ำเกินกว่าเด็กสาวคนหนึ่งจะรับไหว น้ำตาไหลออกมาขณะมินฮีนอนอยู่บนเปลกู้ชีพ ข้าง ๆ เธอนั้นมีอาจารย์โจที่รีบมาดูอาการลูกศิษย์ของตัวเอง
จังหวะเวลาใกล้เคียงกันนั้น นักสืบลีก็ตามมาที่ห้องของจีซู หากแต่ไร้วี่แววผู้ใดอยู่แล้ว เหลือทิ้งไว้แต่เพียงสภาพห้องที่ข้าวของกระจัดกระจายจากการต่อสู้ คราบเลือดที่เต็มทั่วบริเวณลากยาวไปจนถึงทางเดิน
จบ
สปอยล์ตอนจบ ชมรมลับ ธุรกิจรัก
- โอจีซู รอดตายจากการโดนควักกีแทจ้วงแทงด้วยกรรไกร จากการช่วยเหลือของแพกยูรี
- แพกยูรี แบล็กเมล์เงินจากพ่อแม่ของเธอได้ ทำให้มีเงินจะออกมาใช้ชีวิตของตัวเองได้ตามต้องการ
- ซอมินฮี รอดตายจากอุบัติเหตุตกบันไดตอนแย่งโทรศัพท์กับโอจีซู
- นักสืบลีแฮกยอง ยึดเงินที่โอจีซูกับแพกยูรีซ่อนเอาไว้ใต้โซฟาห้องแนะแนวได้ และตามโอจีซูมาถึงห้องพัก แต่เจอเพียงร่องรอยการต่อสู้กับคราบเลือด
- หัวหน้าอี ตายบนดาดฟ้าร้านบานาน่าคาราโอเกะ หลังแก้แค้นรยูแดยอล หัวหน้าแก๊งมาเฟียสำเร็จ
- ควักกีแท สุดท้ายรู้ว่าตัวเองโง่โดนหลอกมาตลอด ด้วยความโกรธคว้ากรรไกรจ้วงแทงโอจีซู แต่ก็ถูกแพกยูรีตีกบาลจนสลบ แต่หนีไปได้ก่อนที่นักสืบลีแฮกยองจะมาเจอ
- อาจารย์โจ ยังเชื่อว่าโอจีซูกับแพกยูรีไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจค้าหญิงบริการ แม้จะพบเงินที่เชื่อมโยงกับแก๊งมาเฟียที่ใต้โซฟาห้องแนะแนว
จุดสังเกต
ตอนที่จีซูนั่งตรงทางเดิน เหมือนตัวเขาจะไปต่อไม่ไหว เขาได้เงยหน้าขึ้นเหมือนตกใจที่ได้เห็นใครบางคน และคน ๆ นั้นน่าจะเป็นคนอุ้มจีซูหนี เพราะตอนที่นักสืบลีมายืนมองตรงทางเดินนั้น มีรองเท้าตกทิ้งอยู่ข้างหนึ่ง
เรียงลำดับความเป็นไปได้ว่าคนที่มาช่วยจะเป็น 1) อาจารย์โจ 2) พ่อของจีซู 3) แม่ของจีซู ส่วนจริง ๆ จะเป็นตามนี้หรือเปล่า คงต้องรอต่อไปอีก 1 ปี ถ้ามีการสร้างซีซั่น 2
รับชม ซีรีส์ Extracurricular (2020) ชมรมลับ ธุรกิจรัก ได้ที่ : Netflix Thailand