Skip to content
คริสโตเฟอร์ โนแลน กับ 10 อันดับหนังทำเงินของเขา เรื่องอะไรบ้าง ?

คริสโตเฟอร์ โนแลน กับ 10 อันดับหนังทำเงินของเขา เรื่องอะไรบ้าง ?

โดยปกติแล้ว การจะเลือกดูหนังสักเรื่องหนึ่งของคนทั่ว ๆ ไป ก็อาจจะมีเหตุผลมากมายหลายอย่าง แต่สิ่งที่ผู้คนมักมองข้ามก็คือ ผู้กำกับฯ แต่จะมีข้อยกเว้นอยู่บ้างเพียงไม่กี่คน ที่ผู้คนให้ความสนใจในตัวผู้กำกับฯ ก่อนองค์ประกอบอื่น ๆ หนึ่งในนั้นคือ คริสโตเฟอร์ โนแลน

เพราะผลงานที่ผ่าน ๆ มาของผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอังกฤษ วัย 30 ปีคนนี้ เป็นเหมือนเครื่องการันตีคุณภาพของหนัง ซึ่งสิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ถึงฝีมือและชื่อเสียงของเขาก็คือ การที่เขาขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก จากเรื่อง Dunkirk ซึ่งเขาได้รับค่าตัวสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 620 ล้านบาท)

และนี่คือ 10 อันดับหนังทำเงินของเขา …

10 – Following (1998)

รายได้ 48,486 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ทุนสร้าง 6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ภาพยนตร์เรื่องแรกของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ทำหลังจากจบมหาวิทยาลัย ร่วมกับเพื่อน ๆ และคนรู้จัก โดยทำเป็นโปรดักชั่นเล็ก ๆ เป็นหนังขาวดำ ด้วยข้อจำกัดเรื่องเงินทุน หนังเล่าเรื่องของนักเขียนตกงานที่ต้องการหาแรงบันดาลใจให้กับงานเขียนของตัวเอง ด้วยวิธีการอันแปลกประหลาด คือ การเดินตามผู้คนบนท้องถนน จนเหตุการณ์พาเขาเข้าไปสู่วังวนของอาชญากรรม

9 – Memento (2000)

รายได้ 39.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทุนสร้าง 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง Following ทำให้โนแลนได้ทุนจาก New Market Films เพื่อสร้างหนังเรื่อง Memento ที่เล่าเรื่องของ ลีโอนาร์ด เชลบี้ ชายผู้สูญเสียความทรงจำระยะสั้น ที่พยายามแกะรอยตามหาฆาตกรที่ฆ่าภรรยาของเขา

Memento คือผลงานระดับมาสเตอร์พีซของโนแลน ที่ทำให้เขาก้าวเข้าสู่วงการหนังฮอลลีวูดอย่างเต็มตัว เพราะหนังมีวิธีการเล่าเรื่องแบบท้ายเรื่องไปหาต้นเรื่อง และเทคนิคการตัดต่อสลับไปมา ที่เล่าเรื่องระหว่างภาพสีและภาพขาวดำ ทำให้หนังอินดี้เรื่องนี้ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์เป็นอย่างมาก

8 – The Prestige (2006)

รายได้ 109.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทุนสร้าง 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

หนังมายากลแนวดราม่าระทึกขวัญ เป็นเรื่องราวของสองคู่แข่งนักมายากล บนเวทีกลางกรุงลอนดอนปลายศตวรรษที่ 19 ที่ครอบงำจิตใจจากความต้องการ ที่จะแสดงมายากลที่ดีที่สุดบนเวทีของพวกเขา ทั้งสองแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย จนเกิดโศกนาฏกรรมตามมามากมาย

7 – Insomnia (2002)

รายได้ 113.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทุนสร้าง 46 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

หลังจาก Memento ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำให้โนแลนเข้าสู่สตูดิโอยักษ์ใหญ่อย่าง Warner Brothers กับการกำกับหนังเรื่อง Insomnia ที่รีเมกจากหนังของประเทศนอร์เวย์

ตัวหนังเล่าเรื่องราวของ วิล ดอเมอร์ ที่รับหน้าที่สืบคดีฆาตกรรมเด็กสาว แต่เขาเกิดพลาดไปยิงคู่หูของตัวเองตายแล้วทำการอำพรางคดี แต่เด็กสาวกลับเห็นการกระทำของเขาทั้งหมด เลยกลายเป็นว่า วิลจึงถูกฆาตกรขีดเส้นให้เล่นเกมตามที่เจ้าฆาตกรกำหนดไว้ พร้อมกับอาการนอนไม่หลับที่เกิดขึ้น

แม้จะไม่ใช่หนังที่ประสบความสำเร็จมากมายอะไร แต่ถือได้ว่าเป็นก้าวแรกในการทำหนังฟอร์มยักษ์ของ คริสโตเฟอร์ โนแลน นั่นเอง

6 – Batman Begins (2005)

รายได้ 379.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทุนสร้าง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

โนแลนได้รับอนุมัติให้ปลุกชีพซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Batman ด้วยทุนสร้างมหาศาล ผ่านมุมมองอันเป็นเอกลักษณ์ของโนแลนเอง ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของ บรูซ เวนย์ จากการสูญเสียพ่อแม่ ด้วยความเกลียดชังที่อยู่ภายใน แปรเปลี่ยนกลานเป็นแรงผลักดันให้เขาออกมาชำระแค้น

ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเล่าถึงจุดกำเนิดของแบทแมน ว่าแท้จริงแล้วซูเปอร์ฮีโร่นั้นไม่ได้มาจากพลังวิเศษเสมอไป แต่มาจากการฝึกฝนและกำลังทรัพย์ที่สามารถสร้างยุทโธปกรณ์

5 – Dunkirk (2017)

รายได้ 527.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทุนสร้าง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นับว่าเป็นการแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน กับการถ่ายทำด้วยกล้อง IMAX ในสถานที่จริง โดยการใช้ศาสตร์การสร้างภาพยนตร์แบบดั้งเดิม และพึ่งพาการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกให้น้อยที่สุด เพื่อถ่ายทอดสดเรื่องราวการถอนกำลังครั้งใหญ่ของทหารฝ่ายสัมพันธมิตร ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ เมืองดันเคิร์ก

ภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้โนแลนกลายเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่ได้รับค่าตัวในการทำหนังหนึ่งเรื่องมากที่สุดในโลก โดยได้รับค่าตัวนี้สูงถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 620 ล้านบาท)

4 – Interstellar (2014)

รายได้ 692.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทุนสร้าง 165 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

อินเตอร์สเตลล่าร์เป็นภาพยนตร์แนวไซไฟ อาจถือได้ว่าหนังที่ทำตามความฝันของเขาที่จะออกนอกอวกาศ เพราะโนแลนเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Star Wars

Interstellar เป็นเรื่องราวสุดมหัศจรรย์ในอวกาศ แต่เขาได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่สลับซับซ้อน รวมไปถึงพยายามอธิบายหลักการทางวิทยาศาสตร์ในเห็นภาพมากที่สุด พร้อมกับคงความบันเทิงของหนังได้เป็นอย่างดี

3 – Inception (2010)

รายได้ 829.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทุนสร้าง 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Inception ภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวการโจรกรรมทางความฝัน ว่ากันว่าหนังเรื่องนี้เป็นการรวมเอาทุกอย่างของโนแลนใส่เข้าไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความอาร์ตทางแนวคิดเชิงปรัชญา การเล่าเรื่องที่มีความสลับซับซ้อนอย่างการขโมยความฝัน หรือการเข้าสู่ฝันซ้อนฝัน และแม้แต่อุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ ที่ใช้เป็นเครื่องเตือนว่าอันไหนความจริงอันไหนความฝัน

2 – The Dark Knight (2008)

รายได้ 1,038 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทุนสร้าง 185 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นี่คือภาคที่ 2 ของไตรภาคแบทแทนฉบับของโนแลน และได้รับการยกย่องโดยทั่วไปว่า เป็นหนังแบทแมนที่ดีที่สุด เพราะ …

ไม่เพียงแค่จะถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมนุษย์ของแบทแมน แต่มิติของตัวละครตัวร้ายอย่างโจ๊กเกอร์ เขาก็ยังสามารถถ่ายทอดเรื่องราวตัวละครตัวนี้ออกมาได้ดีมาก ๆ ซึ่งก็ต้องยกความดีความชอบให้กับนักแสดงอย่าง ฮีธ เลดเตอร์ (Heath Ledger) ที่สามารถแสดงได้อย่างสมบทบาท จนถูกยกให้เป็นโจ๊กเกอร์ที่ดีที่สุด

ที่สำคัญ โนแลนก็ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ การถ่ายทำแบบใช้ CG ให้น้อยที่สุด อย่างเช่น การสร้างรถ Bat Mobile ขึ้นมาจริง ๆ หรือฉากระเบิดโรงพยาบาลก็เป็นการระเบิดจริง ๆ

1 – The Dark Knight Rises (2012)

รายได้ 1,081 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทุนสร้าง 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

และนี่คือบทสรุปของไตรภาคแบทแมนตามแบบฉบับของ คริสโตเฟอร์ โนแลน และเป็นหนังที่เขาใช้ทุนสร้างมากที่สุดในชีวิตการเป็นผู้กำกับฯ

เป็นการเล่าเรื่องราวหลังเหตุการณ์ใน The Dark Knight 8 ปี ด้วยการปรากฏตัวของตัวร้ายคนใหม่ ที่มีพละกำลังแข็งแกร่ง ฉลาด และเจ้าแผนการ มันแอบอยู่ในมุมมืดของเมืองก็อตแธม และกำลังแอบทำอะไรบางอย่าง ทำให้ บรูซ เวนย์ ต้องกลับมาเป็นแบทแมนอีกครั้ง เพื่อจัดการกับตัวร้ายในครั้งนี้

และแน่นอนว่า โนแลนยังคงการถ่ายทำแบบอนุรักษนิยมเอาไว้เช่นเคย อย่างฉากจี้เครื่องบินตอนเปิดเรื่อง เขาก็เลือกที่จะใช้เครื่องบินจริง ๆ ในการถ่ายทำ 2 และตัวเขาก็ขึ้นเครื่องบินเล็กติดตามไปกำกับด้วยตัวเอง

Source: Box Office Mojo