Skip to content
ศรราม ซัดอีกดอก : ทองที่ มอส ปฏิภาณ ซื้อให้ น้องวีจิ ตอนนี้หมดไปแล้ว !

ศรราม ซัดอีกดอก : ทองที่ มอส ปฏิภาณ ซื้อให้ น้องวีจิ ตอนนี้หมดไปแล้ว !

จากเรื่องภายในครอบครัวเงิน ๆ ทอง ๆ ผัว ๆ เมีย ๆ ที่ไม่น่าจะมีอะไรมากมาย เมื่อกลายเป็นสงครามทางโซเชียลออกสู่สาธารณะแล้ว ดูเหมือนจะลุกลามจนบานปลายไปไกล …

หลังจากที่พระเอกเหินฟ้า หนุ่ม ศรราม ได้ออกมาประกาศยุติความสัมพันธ์กับอดีตภรรยา ติ้ก บิ๊กบราเธอร์ โดยได้โพสต์ใบหย่าที่ระบุวันที่ 20 มกราคม 2020 พร้อมกับข้อความแรง ๆ ที่ว่า ขอให้เจ้าหนี้ไปทวงเงินกับ ติ๊ก โดยตรง ไม่ต้องมาทวงกับตัวเองอีกต่อไปเพราะได้หย่าขาดกันไปนานแล้ว

วันถัดมา (4 กันยายน 2020) ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ออกมาเคลื่อนไหวในอินสตาแกรม โดยเธอโพสต์รูปสุนัขสองตัว พร้อมกับแคปชั่นสุดเดือดว่า “อิจฉาหมา หมามันยังรักลูก แล้ว … ล่ะ” พร้อมทั้งแท็กถึงศรราม คล้ายกับจะให้รู้กันไปเลยว่าเธอจะส่งข้อความนี้ถึงใคร !

อีกไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น พระเอกเหินฟ้า ศรรามก็อัดคลิปแฉอดีตภรรยาตัวเองลงไอจี เป็นคลิปที่ศรรามโทร. ไปคุยกับบุคคลปลายสายซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในฐานะผู้จ้างงาน โดยสรุปเนื้อหา คือ ติ๊กได้ขอให้บุคคลปลายสายโอนเงินเข้าไปที่บัญชีของเธอ โดยไม่ต้องโอนเข้าบัญชีศรราม ซึ่งศรรามพูดเอาไว้ในคลิปว่าตัวเองไม่รู้เรื่องเงินจำนวน 55,000 บาท ที่โอนมาให้ติ๊กก่อนหน้านี้เลย …

โดยในโพสต์ดังกล่าว มอส ปฏิภาณ ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า “เดี๋ยวส่ง 2 สาวไปเลี้ยง วีจิ” ก่อนที่ศรรามจะเข้ามาตอบอย่างฉับไวว่า …

“ทองของขวัญวันเกิดวีจิหมดไปแล้ว แต่เดชะบุญพี่ปรีชาที่ดูแลบ้าน ซื้อล็อกเกตทองที่มีรูปวีจิที่มึงให้คืนมา กูจะรักษาอย่างดี เพื่อวันนึงจะให้วีจิแล้วบอกว่า ลุงมอสให้หนูเป็นของขวัญนะลูกรัก … ขอบพระคุณมากนะครับเพื่อนรัก”

ด้าน ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ เมื่อเห็นตัวเองโดนอดีตสามีปล่อยคลิปแฉเด็ดหัวก็อดรนทนไม่ได้ ออกมาฟาดกลับแรง ๆ ว่า “ระวังความหายนะกลับหาตัวพี่เอง ถ้าไม่หยุด” และอีกประโยคสุดเดือดที่ว่า “เดี๋ยวสังคมจะรู้ว่าคนเล่นบทรักเมียลูกมากจะเป็นยังไง”

ทั้งนี้ เมื่อย้อนไทม์ไลน์กลับไปตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เราจะพบปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่เกิดขึ้นหลายครั้งหลายครา โดยแต่ละเหตุการณ์ก็จบลงไปแบบไม่เคลียร์ในสายตาของคนที่ติดตามข่าว …

เริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2020 ตอนเช้าตรู่ ศรรามเข้าแจ้งความเงินหายจากธนาคาร 4.5 แสนบาท ซึ่งต่อมาธนาคารกสิกรไทยได้ออกมาระบุว่า กล้องวงจรปิดที่ตู่ ATM จับภาพได้ว่าคนใกล้ตัวศรรามเป็นคนกดเงินออกไปเอง จากนั้นเรื่องก็เงียบไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้จะมีชาวเน็ตจำนวนหนึ่งไปคอมเมนต์ถามเจ้าตัวแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ

ในวันที่ 20 มกราคม 2020 ศรราม – ติ๊ก ได้ไปจดทะเบียนหย่ากันตามกฎหมาย ถัดจากวันที่เป็นข่าวเงินหาย 4 วัน (ศรรามเพิ่งได้เปิดเผยใบหย่าเมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมานี้เอง)

ต่อมาในเดือนมีนาคม ก็มีเรื่องหน้ากากอนามัยเข้ามาอีก โดยเจ้าของสหคลินิก ย่าน มีนบุรี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.หัวหมาก ว่า ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ยึดเงินมัดจำค่าสั่งซื้อหน้ากากอนามัยจำนวน 9 แสนบาท และไม่ส่งของตามที่ตกลงกันไว้ ติดต่อขอเงินคืนก็ติดต่อไม่ได้

บทสรุปของเรื่องนี้คือ ศรรามจ่ายเงินค่ามัดจำคืน พร้อมทั้งอ้างว่าภรรยาของเขาไม่ได้มีเจตนาโกงเงิน เพียงแต่ตัดสินใจหยุดทำธุรกิจ เนื่องจากมีกฎหมายให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมมาพอดี … อย่างไรก็ตามหลายคนก็สงสัยว่า “ทำไมติ๊กไม่คืนเงิน ?” ต้องรอให้เจ้าทุกข์เข้ามาแจ้งความกับตำรวจจนกลายเป็นข่าวใหญ่โต

ซึ่งระหว่างนั้นเองก็มีข่าวว่าทั้งคู่หย่าขาดกันแล้ว แต่เมื่อมีนักข่าวไปสัมภาษณ์ทั้งคู่ก็พูดไปในทำนองที่ว่า “หย่าแก้เคล็ด”

อัลบั้มรูป ศรราม – ติ๊ก 10 ภาพ

Source: 1