Skip to content
รีแคปสรุปซีรีส์ Love (ft. Marriage and Divorce) EP.1 : ชีวิตคู่ มีชู้ และหย่าร้าง

รีแคปสรุปซีรีส์ Love (ft. Marriage and Divorce) EP.1 : ชีวิตคู่ มีชู้ และหย่าร้าง

ซีรีส์เริ่มต้นขึ้นด้วยภาพในอดีตเมื่อ 3 ปีก่อนของ บูฮเยรยอง (รับบทโดย อีการยอง) กับ พันชาฮยอน (รับบทโดย ซองฮุน) ในคืนวันแต่งงานอันหวานชื่น … ชาฮยอนบอกว่า เขาประทับใจฮเยรยองตั้งแต่แรกเห็น เมื่อตอนที่เขาเห็นเธอตีกลองอยู่ในสตูดิโอโดยบังเอิญ

ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ที่สถานี CSB ในรายการวิทยุ ความรัก ความทรงจำ และบทเพลง ที่มี บูฮเยรยอง เป็นผู้จัดรายการ, ชาพียอง (รับบทโดย พัคจูมี) เป็นโปรดิวเซอร์ และ อีชีอึน (รับบทโดย จอนซูคยอง) เป็นผู้เขียนสคริปต์

ก่อนที่รายการจะเริ่ม 10 นาที อียอนฮี ผู้ช่วยเขียนสคริปต์เข้ามาทำการซักซ้อมกับผู้เข้าชม ทันใดนั้นเอง ประธานพัคซึ่งนั่งเป็นหนึ่งในผู้เข้าชมได้โวยวายใส่ยอนฮีว่า เป็นชู้กับสามีเธอ ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึง … แต่

ยอนฮีก็ไม่สลด ตอกกลับประธานพัคว่าไม่ได้ดีไปกว่าเธอ เพราะก่อนแต่งงานก็คบซ้อนผู้ชายถึง 4 คน เพื่อเลือกคนที่รวยที่สุด ก่อนที่จะปล่อยท้องเพื่อจับผู้ชาย พร้อมทั้งท้าทายให้ประธานพัคหย่ากับสามี เพื่อเธอจะได้ขึ้นมาเป็นภรรยาตามกฎหมายแทน … แต่ก่อนเหตุการณ์จะบานปลายถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน ชาพยองกับฮเยรยองก็เข้ามาห้ามเอาไว้

ทัศนคติเรื่องชีวิตคู่และการหย่าร้าง

หลังเสร็จงาน ทั้ง 3 สาวมานั่งพูดคุยกันที่คาเฟ่ร้านประจำ พูดคุยกันเรื่องยอนฮี และแลกเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองที่มีต่อชีวิตคู่ การมีชู้ และการหย่าร้าง … ฮเยรยองแนะนำให้ชีอึนเปลี่ยนแปลงเรื่องการแต่งตัว จะทำให้ดูดีขึ้นในสายตาของสามี แต่ชีอึนก็อ้างว่านอกจากทำงานที่สถานีแล้ว เธอยังต้องทำงานบ้านและดูแลลูก ๆ ทั้งสอง รวมถึงสามีของเธอ ทำให้ไม่มีเวลาที่จะมาคิดเรื่องการแต่งตัวแต่งหน้า

หลังจากนั้น พวกเธอก็แลกเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อการใช้ชีวิตคู่ ทำให้เห็นว่าแต่ละคนมีมุมมองที่แตกต่างกัน ฮเยรยองเป็นไปตามแนวของผู้หญิงสมัยใหม่ ที่มองตัวเองไม่ใช่เบี้ยล่างของผู้ชายเหมือนในสมัยก่อนอีกต่อไป ดังนั้นจึงมองตัวเองเป็นใหญ่ และการมีลูกถือเป็นภาระที่ทำลายความสุขในการใช้ชีวิตครอบครัว แตกต่างกับชีอึนที่มองเรื่องความรับผิดชอบต่อครอบครัว โดยเฉพาะลูก ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ส่วนพียองก็จะมองกลาง ๆ เธอเป็นภรรยาและคุณแม่ที่พยายามบาลานซ์ทุกอย่าง

ขอหย่าแบบไม่ทันตั้งตัว

อีชีอึน ในวัย 50 ปี ผ่านการใช้ชีวิตคู่มานานกว่า 31 ปี เจอกับสามีตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย โดยส่วนตัวแล้ว ชีอึนทำงานอย่างหนักทั้งในบ้านนอกบ้าน เป็นคนประหยัด แต่งตัวกางเกงเสื้อยืดตัวเดิมซ้ำ ๆ และไม่แต่งหน้า มองดูแล้วเป็นผู้หญิงที่เรียบง่ายแต่ออกแนวน่าเบื่อ แต่ชีวิตคู่ของเธอก็ดูเหมือนดำเนินไปด้วยดีแม้จะไม่หวือหวา

จนกระทั่งวันหนึ่ง ศาสตราจารย์พัคแฮรยอน (รับบทโดย จอนโนมิน) ผู้เป็นสามีของเธอเอ่ยปากขอจบชีวิตคู่ 31 ปี ด้วยการหย่า !

ฉากที่น่าเศร้าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ผู้หญิงที่ยอมทนทุ่มทุกสิ่งอย่างมาอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 31 ปี มาวันหนึ่งเธอโดนทิ้งอย่างไม่ไยดี … ศาสตราจารย์พัคให้เหตุผลเพียงสั้น ๆ ว่า “เราใช้ชีวิตคู่กันมานานมากเกินไป” โดยปฏิเสธเรื่องการมีผู้หญิงคนอื่น … แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขากำลังแอบติดต่อกับใครบางคนอยู่ และนี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจหย่า ?

ว่าที่จริง ชีอึนไม่มีอะไรกับสามีมานานกว่า 2 ปีแล้ว เธอปฏิเสธที่จะมีอะไรด้วย 2-3 ครั้ง จนในที่สุดก็ไม่มีอะไรกันอีกเลยนับจากนั้น … ชีอึนนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น สามีของเธอเซอร์ไพรส์ด้วยการซื้อชุดแบรนด์เนม และชวนไปไดนิ่งกันที่นอกเมือง ระหว่างทางกลับเขาเซอร์ไพรส์เธออีกครั้งด้วยการชวนเข้าโรงแรมที่เขาจองเอาไว้เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ชีอึนแสดงความไม่พอใจ โดยบอกว่าการเข้าโรงแรมเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ทั้งคู่โต้เถียงกัน จนในที่สุดแผนก็ล่ม

ชาพียอง ในวัย 40 ปีกับปมในอดีตของเธอ

แม่ของพียองเดินทางมาจากฟิลิปปินส์เพื่อต้องการเจอหลานสาว (จีอา ลูกสาวของพียอง) เป็นครั้งแรก แต่ดูเหมือนว่าพียองจะมีปมบางอย่างกับแม่ ที่บาดลึกเกินกว่าที่เธอจะให้อภัยได้ พียองไปหาแม่เพียงลำพังด้วยสายตาที่เกลียดชัง พร้อมกับการปฏิเสธให้แม่เจอหลาน และไล่ให้กลับฟิลิปปินส์ไปให้เร็วที่สุด พียองไม่ต้องการให้แม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของเธอ

แต่แม่ของเธอก็ไม่ยอมกลับฟิลิปปินส์ง่าย ๆ เธอติดต่อไปหา ชินยูชิน (รับบทโดย อีแทกอน) แล้วเล่าเรื่องราวในอดีตที่ทำให้พียองโกรธเธอ …

พ่อของพียองไปมีความสัมพันธ์กับเลขาฯ เป็นที่มาของการที่แม่เธอขอหย่า และกีดกันไม่ให้พียองเจอพ่อ จนพ่อของพียองประสบอุบัติเหตุอย่างกะทันหัน พียองมองว่าแม่เห็นแก่ตัวที่ทำร้ายจิตใจเธอไม่ให้เจอพ่อ ทำให้พียองจึงกีดกันไม่ให้แม่เจอหลานเช่นกัน

บูฮเยรยอง การมีลูกและการไม่มีลูก

ทัศนคติเรื่องการมีลูกของฮเยรยองเท่ากับศูนย์ เพราะเธอมองว่าเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต แต่ดูเหมือนว่าสามีและพ่อแม่ของสามีจะมองต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะพ่อสามีที่อยากมีหลานมาก ขนาดที่ว่าถ้าไม่มีหลานท่านจะบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดที่เป็นมรดก

Source: TV Chosun Korea