เมื่อ 25 ปีที่แล้ว มีฆาตกรรมต่อเนื่องที่สร้างความสะเทือนขวัญให้กับประชาชนคนเกาหลีเป็นอย่างมาก มีเหยื่อที่ถูกฆ่าตายไปแล้วอย่างน้อย 18 ศพ โดยทุกรายจะอยู่ในสภาพที่ไร้ศีรษะ และมีเด็กผู้บริสุทธิ์หลายรายตกเป็นเหยื่อของมัน ฆาตกรรายนี้จึงถูกตั้งฉายาว่า ‘นักล่าหัว’
สังคมไร้อาชญากรรม
คดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้น ทำให้ประธานาธิบดีต้องมาเยือนสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยตัวเอง ท่านได้กล่าวโทษระบบการสืบสวนของตำรวจที่ไร้ประสิทธิภาพ ทำให้มีความยากลำบากในการสืบหาตัวคนร้าย ท่านประธานาธิบดีจึงประกาศว่าจะดูแลการสืบสวนคดีนี้ด้วยตัวเอง พร้อมทั้งรับปากว่าจะทำให้สังคมเกาหลีเป็นสังคมที่ไร้อาชญากรรม
สังคมไร้อาชญากรรมคืออะไร ? ทางรัฐบาลเตรียมจะออกกฎหมายที่จะให้อำนาจการตรวจสอบ DNA ของตัวอ่อนทารก เพื่อหาพันธุกรรมของตัวอ่อนที่มีแนวโน้มการเป็นจิตเภท โดยอ้างอิงผลงานวิจัยของศาสตราจารย์ ดร. แดเนียล อี. กล่าวคือ คนที่มีอาการจิตเภทเป็นผลมาจากพันธุกรรมที่กลายพันธุ์ ซึ่งเกิดขึ้นในสังคมที่กำลังพัฒนา คนพวกนี้เกิดมาพร้อมกับพันธุกรรม MAOA ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ของมนุษย์ และคนที่อาจกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง พวกเขาจะไม่มีพันธุกรรม MAOA หรืออะไรทำนองนั้นเลย
การศึกษาล่าสุดพบว่า สามารถตรวจสอบพันธุกรรมจิตเภทได้ด้วยการตรวจดีเอ็นเอ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ สามารถตรวจคนที่มีอาการจิตเภท อย่างเช่น พวกบ้าสงคราม หรือฆาตกรต่อเนื่องได้ก่อนพวกเขาจะเกิด
ร่างกฎหมายที่ทางรัฐบาลพยายามผลักดัน จะทำให้รัฐมีอำนาจตามกฎหมายบังคับทำแท้งแม่ของเด็กได้ โดยไม่ต้องรับความยินยอมจากผู้ปกครอง ในกรณีตรวจเจอ DNA และยืนยันว่าเด็กในครรภ์จะเกิดมาพร้อมกับพันธุกรรมจิตเภท
ในที่ประชุมเพื่อพิจารณากฎหมาย ศาสตราจารย์ ดร. แดเนียล อี. ระบุว่าการตรวจดีเอ็นเอคนที่มีอาการจิตเภทมีความแม่นยำ 99% ที่เหลืออีก 1% เรียกว่าพันธุกรรมอัจฉริยะ ซึ่งหมายความว่า DNA ของคนที่มีอาการจิตเภทกับคนอัจฉริยะมีความคล้ายกันมากจนแยกไม่ออก
ยกตัวอย่างว่า สงครามโลกครั้งที่ 2 อาจจะไม่เกิดขึ้นถ้าสามารถยับยั้งการเกิดของฮิตเลอร์ได้ ในทางกลับกัน คนอัจฉริยะอย่างโมซาร์ทก็จะไม่ได้เกิด เพราะดีเอ็นเอบอกว่าเขาอาจกลายเป็นฮิตเลอร์ หรือโลกอาจจะไม่มีคนอย่างไอน์สไตน์ เพราะดีเอ็นเอบอกว่าเขาอาจจะกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง เป็นต้น
ยังไม่นับเรื่องสิทธิมนุษยชนซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงกันไม่จบ ว่าตัวอ่อนทารกถือว่ามีสิทธิมนุษยชนหรือเปล่า ? อีกอย่างการทำแท้งในเกาหลีก็เป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะในทางกฎหมายของเกาหลีถือว่าตัวอ่อนทารกเป็นมนุษย์ ดังนั้นการทำแท้งก็ถือว่าเป็นการฆาตกรรม ซึ่งเป็นที่มาของกฎหมายห้ามทำแท้ง
แต่ด้วยข้อถกเถียงที่หาข้อสรุปที่แน่ชัดไม่ได้ ทำให้สุดท้ายกฎหมายฉบับนี้จึงถูกตีตกไปด้วยคะแนนเสียง 5-4
นักล่าหัว
ศาสตราจารย์อีเป็นคนเกาหลีที่ย้ายไปอยู่อังกฤษมานานหลายปี การกลับมาคราวนี้เขาจึงได้เดินทางมาเยี่ยมเพื่อนเก่าอย่างคุณหมอฮันซอจุน ศัลยแพทย์มือทอง ที่ตอนนี้ภรรยาของเขาท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว
ในเวลาใกล้เคียงกันนั้นก็เกิดคดีฆาตกรรมสุดโหดขึ้น ณ แถบภูเขากูรยอง เหยื่อเป็นครอบครัวที่มาแคมปิ้ง พ่อแม่ถูกฆ่าซึ่งศพได้หายไปจากที่เกิดเหตุ ส่วนลูกชายคนโตบาดเจ็บสาหัส แต่น้องคนเล็กรอดชีวิตมาได้ เพราะหลบอยู่ในกระเป๋าเดินทางและเห็นใบหน้าของฆาตกรรมอย่างชัดเจน
ตำรวจนายหนึ่งซึ่งพยายามเกาะติดคดีนี้ เพราะลูกสาวของเขาก็หายตัวไปอย่างมีปริศนาเช่นกัน เขาไปสอบถามเด็กน้อยผู้รอดชีวิต ด้วยความบังเอิญเขาเกิดไปเห็นโปสเตอร์รูปภาพของคุณหมอฮันซอจุนที่ติดอยู่ที่โรงพยาบาล เด็กน้อยร้องตะโกนออกมาด้วยความแค้นว่าคนนี้แหละคือฆาตกรใจโหดที่ฆ่าพ่อแม่ของเขา ตำรวจจึงขอหมายค้นบ้านของซอจุนในทันที
ตำรวจระดมคนค้นทั่วบ้านแต่ไม่พบอะไร แต่บังเอิญว่าตุ๊กตาหิมะสโนว์แมนที่อยู่ด้านนอกบ้านเกิดล้มลงมา แล้วเผยให้เห็นหัวมนุษย์ถูกเก็บซ่อนอยู่ในนั้น ซอจุนจึงโดนจับในทันที โดยที่ต่อมาภรรยาของเขาเป็นพยานให้ด้วยว่าสามีของเธอคือฆาตกรเจ้าของฉายานักล่าหัว
ซอจุนพูดกับภรรยาว่า ที่เขาแต่งงานและมีลูกกับเธอเพราะว่าเจตจำนงของการสืบพันธุ์ นั่นหมายความว่าลูกของเขาเกิดมาก็ต้องเป็นเหมือนเขา !
ซอจุนถูกตัดสินประหารชีวิต ข้อหาฆาตกรรมและทำลายศพจำนวน 20 ราย)
10 ปีต่อมา … แจฮุนได้เกิดมาพร้อมกับดีเอ็นเอจิตเภทที่มีไอคิวสูงเกิน 160 เขามีความฝันว่าโตขึ้นอยากเป็นหมอ แตด้วยความที่เขาเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมอันแปลกประหลาด ทำให้เขามีปัญหาในการเข้าสังคม เช่น ฆ่าและผ่าท้องกระต่ายเพียงเพราะสงสัยว่ามันท้องหรือมันอ้วน หรือเมื่อเขารู้สึกรำคาญคนรอบข้างแล้วทำอะไรไม่ได้ เขาก็มักจะเกาแขนตัวเองจนเลือดออก
จากเหตุดังกล่าวทำให้ครูเรียกผู้ปกครองมาพบ พ่อเลี้ยงของแจฮุนตบหน้าเขาเพราะทำเรื่องที่น่าอับอาย หลังจากนั้นดีเอ็นเอปีศาจของเขาจึงเปิดเผยตัว เริ่มต้นด้วยการฆ่าสัตว์เลี้ยงที่พ่อของเขารัก และสุดท้ายฆ่าทุกคนในบ้าน !
Photos: ภาพหน้าจอจาก tvN live on TVING