Beyond Evil EP.12 : ความจริงเบื้องหลังเหตุการณ์ต่างๆ ในคืนที่อียูยอนเสียชีวิตเริ่มคลี่คลาย จองเจต้องพยายามระลึกให้ได้ว่า คืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ดงชิกคาดคั้นความจริงกับพัคจองเจว่า คืนวันนั้น เมื่อ 21 ปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้น แต่พัคจองเจก็ยืนยันว่า เขาจำอะไรไม่ได้ และเมื่อโดนกดดันอย่างหนัก อาการทางจิตของเขาก็กำเริบ หายใจไม่ออก จนถูกส่งเข้าโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่ซอนนยอวิเคราะห์ผลการชันสูตรโครงกระดูก เธอกล่าว “ฉันคิดว่าอียูยอนโดนรถชน จากการที่กระดูกหน้าแข้งสองข้างหักหลายจุด กระดูกสันหลังส่วนคอและคอก็หักหลายจุด กระดูกหักแบบนี้ดูเหมือนเกิดจากการชนโดยกันชนรถเก๋ง และเป็นการชนโดยไม่ได้เบรก ส่วนยูยอนก็กำลังยืนนิ่ง ๆ อยู่บนถนนหันหน้าเข้าหารถที่กำลังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว”
จากนั้น การสืบสวนเริ่มใกล้ความจริงเข้าไปเรื่อย ๆ ในที่สุด โจกิลกูต้องยอมรับสารภาพว่า เขาทำตามคำสั่งของ สส.โดแฮวอน และเขาก็รู้ด้วยว่าคนร้ายตัวจริงคือ พัคจองเจ
ระหว่างนั้น พัคจองเจหนีออกมาจากโรงพยาบาล ระหว่างทางบังเอิญไปเจอกับจูวอนที่ขับรถผ่านมาพอดี เขาจึงพาพัคจองเจไปที่บ้านของดงชิก โดยอ้างว่าดงชิกอนุญาตแล้ว
เมื่อส่งพัคจองเจเสร็จ จูวอนก็มาหาดงชิก แล้วบอกว่าเขาพาพัคจองเจไปอยู่ที่ชั้นใต้ดิน เพื่อกดดันพัคจองเจ เพราะที่นั่นเป็นที่ที่พบโครงกระดูกของยูยอน
จากนั้นดงชิกก็กลับมาที่บ้าน เขาลากค้อนปอนด์เข้าไปหาพัคจองเจที่นอนหลับอยู่บนโซฟา แล้วก็เค้นถามเหตุการณ์เมื่อคืนวันนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ในที่สุด พัคจองเจก็ยอมเอ่ยปากออกมาว่า เขาเป็นคนขับรถทับยูยอน ที่นอนอยู่บนพื้น !
แล้วภาพก็เผยให้เห็นความจริงที่เกิดขึ้นในคืนนั้น …
พัคจองเจคบอยู่กับยูยอน พัคจองเจส่งข้อความ SMS นัดยูยอนออกมาพบ เพราะเขากำลังไปเรียนต่อที่อเมริกา แต่ทั้งคู่เกิดทะเลาะกัน ยูยอนเลยเดินกลับบ้านไปคนเดียว ระหว่างทางเธอไปเจอคังจินมุก เธอโดนคังจินมุกจับมัดมือเอาไว้แล้วตัดนิ้วทั้ง 10 นิ้ว แต่เธอสามารถหนีไปได้ ระหว่างทางเธอเห็นคนคันหนึ่งวิ่งผ่านมา จึงยืนขวางกลางถนนเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ด้วยความที่สมัยนั้นไฟถนนยังไม่มี ทำให้รถคันดังกล่าวที่ขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนเธออย่างแรง …
ชายคนขับรถเปิดประตูลงมาดูด้วยความตกใจ เขาคือผู้กำกับฯ สน.มุนจูในเวลานั้น ฮันกีฮวาน พ่อของจูวอน ว่าที่ ผบ.ตร.คนต่อไปของเกาหลี !
พัคจองเจที่กำลังเมายา ขับรถผ่านมาทับร่างของยูยอนซ้ำ ด้วยความตกใจ เขาจึงโทร. เรียกแม่ให้มาช่วย และแม่ก็โทร. เรียก อีชางจิน ให้มาจัดการเก็บกวาดอีกทอดหนึ่ง