แทบักเรียลเอสเตท
ฮงจีอา (รับบทโดย จางนารา) เป็นหมอผีและเจ้าของแทบักเรียลเอสเตท บริษัทนายหน้าขายบ้านที่รับจัดการให้เฉพาะบ้านที่มีผีสิงเท่านั้น โดยจะทำพิธีไล่วิญญาณให้ฟรี หลังจากนั้นก็จะขายบ้านดังกล่าวในราคาตลาด โดยจะคิดค่าบริการจากเปอร์เซ็นต์ของราคาบ้านที่ขายได้ เหมือนกับนายหน้าขายบ้านทั่วไป
ที่โรงพยาบาลแดกุกในยามค่ำคืนอันแสนวังเวงไร้ผู้คน ฮงจีอาก้าวเท้าลงจากรถ SUV ทรงเหลี่ยมสีดำ ในมือเธอถืออุปกรณ์คล้ายปืน ซึ่งมองไปมองมาก็คล้ายเครื่องยิงลูกแม็กขนาดใหญ่ ภายในนั้นถูกบรรจุด้วยกระสุนที่มีลักษณะเป็นแผ่นสีขาว เอาไว้สร้างภาวะเรือนกระจกขังวิญญาณ
ฮงจีอาเดินเข้ามาภายในโรงพยาบาล ทันใดนั้น ไอเย็นก็ออกมาจากปากและจมูกของเธอ นั่นแสดงว่าวิญญาณปรากฏตัวอยู่ใกล้ ๆ เธอแล้ว ชั่วอึดใจเดียววิญญาณชายหนุ่มก็ปรากฏมาอยู่เบื้องหน้าของเธอ … ฮงจีอาใช้ปืนยิงกระสุนเรือนกระจกขังวิญญาณออกไปทันที เพื่อบล็อกทางให้วิญญาณผีตนนั้นมุ่งไปยังทิศทางที่เธอกำหนด จนท้ายที่สุดมันก็ขึ้นมาบนดาดฟ้าของโรงพยาบาล
ที่ดาดฟ้า ฮยองชิกเด็กหนุ่มที่ทำหน้าที่เป็นร่างทรงกำลังยืนรออยู่ภายในเกลือที่ถูกโรยเป็นวงกลมโดยรอบ (เกลือเอาไว้กันวิญญาณไม่ให้หนีออกไปได้ ทำหน้าที่สร้างเรือนกระจกขังวิญญาณเช่นเดียวกัน) เมื่อฮงจีอาส่งสัญญาณ ฮยองชิกก็ดึงสร้อยคอกันผีของเขาออก แล้ววิญญาณก็พุ่งเข้าไปสิงร่างเขาทันที … ฮงจีอาต่อสู้กับผีที่สิงในร่างฮยองชิกพักใหญ่ จากนั้นเธอก็คว้าเอาปิ่นปักผมปลดปล่อยวิญญาณออกมาแทงไปที่หน้าอกของฮยองชิก แล้ววิญญาณก็ถูกปลดปล่อย โดยในช่วงนี้เองเธอจะได้รับความทรงจำบางส่วนของวิญญาณ … แล้วพิธีการไล่ผีก็จบลง
การไล่ผีในแบบฮงจีอาจำเป็นต้องใช้ร่างทรง เพราะเธอไม่สามารถจัดการกับวิญญาณโดยตรงได้ ดังนั้น จึงต้องทำให้วิญญาณเข้าไปสิงในร่างคนทรงก่อนถึงจะทำการปลดปล่อยวิญญาณได้นั่นเอง
ทีนี้ ปมที่ฮงจีอายังแก้ไม่ตกก็คือ วิญญาณแม่ของเธอที่สิงอยู่ที่ออฟฟิศแทบักเรียลเอสเตท ซึ่งชั้น 2 ก็เป็นบ้านของเธอด้วย แม่ของเธอสิงอยู่ที่นี่และไม่ได้รับการปลดปล่อย เพราะเธอยังหาร่างทรงที่มีพลังแข็งแกร่งพอที่จะต่อกรกับแม่ของเธอได้
หมอผีนักวิทยาศาสตร์ !!?
โออินบอม (รับบทโดย จองยงฮวา) เป็นนักต้มตุ๋นที่หากินโดยการหลอกว่าตัวเองเป็นหมอผี ที่อาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์ในการไล่ผี (หืม …) วิธีการคือเขาจะใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อหลอกเจ้าของบ้านว่าที่บ้านมีผีสิง เช่น ใช้โฮโลแกรมหลอกเป็นวิญญาณ หรือการแอบติดลำโพงเพื่อให้ส่งเสียงหลอกว่ามีผี หรือการทำให้ไฟติด ๆ ดับ ๆ เป็นต้น
เมื่อเจ้าของบ้านเชื่อว่าบ้านตัวเองมีผีสิง โออินบอมก็จะแสดงตัวว่าเขาเป็นนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับพลังงานต่าง ๆ และเขาก็จะเสนอให้เจ้าของบ้านติดตั้งอุปกรณ์ไล่ผีเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งเจ้าของบ้านจะได้ค่าสถานที่ 500 ดอลลาร์ เจ้าของบ้านเมื่อได้รับข้อเสนอแบบนี้ก็มีแต่ได้กับได้ ทั้งได้ไล่ผีแถมได้เงินอีกต่างหาก จึงยอมตกลง
ทีนี้เมื่อถึงเวลาที่โออินบอมต้องมาเก็บอุปกรณ์กลับ เจ้าของบ้านก็จะรู้สึกว่าเครื่องนี้ใช้ไล่ผีได้ผลก็จะขอซื้อต่อ ณ จุดนี้ก็เข้าทางโออินบอมเต็ม ๆ เพราะเขาจะขายอุปกรณ์ไล่ผีลวงโลกได้ในราคาแพง
แต่ความจริงแล้ว ตัวตนของโออินบอมมีอะไรซ่อนอยู่มากกว่าการเป็นนักต่มตุ๋น เพราะเขาคือร่างทรงระดับเทพ ! … ก่อนที่อาของเขาจะเสียชีวิตได้ทิ้งสร้อยเส้นหนึ่งไว้ให้กับแล้วกำชับอย่างหนักแน่นว่า “ห้ามถอดเป็นเด็ดขาด” แต่เขาไม่รู้เลยว่าสร้อยเส้นนั้นคือสร้อยกันผีเข้าสิง
สำนักงานแห่งความฝัน
อาคารสำนักงานดรีม เป็นอาหารสำนักงานให้เช่าที่เริ่มต้นโครงการในช่วงปลายของฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ในเกาหลีใต้ ในตอนนั้นมีการเชิญชวนนักลงทุนให้มาร่วมลงทุนมากมาย และสองคนนั้นก็คือเด็กหนุ่มกู้เงินมาร่วมลงทุน โดยคาดหวังว่าอาคารสำนักงานดรีมแห่งนี้จะทำเงินมากมายให้กับเขา แต่เมื่อฟองสบู่แตก ทุกอย่างก็กลายเป็นความฝันอย่างแท้จริงตลอดกาล
จากนั้นไม่นานก็มีข่าวออกมาว่า เด็กหนุ่มสองคนนั้นกระโดดตึกฆ่าตัวตายพร้อมกัน หลังพวกเขาถูกฟ้องล้มละลาย … และนี่คือประวัติของอาคารสำนักงานดรีม ที่ซึ่งฮงจีอาและโออินบอมได้มาพบกันเป็นครั้งแรก
อาคารสำนักงานดรีมห้อง 401 ในปัจจุบันถูกเจ้าของใหม่ประมูลไปแล้วสร้างจนเสร็จ แต่กิจการไปได้ไม่ดีนักเพราะมีผีสิง ผู้เช่ามาเช่าได้ไม่นานก็เผ่นกันไปหมด เมียเจ้าของห้องจึงขอให้โออินบอมมาไล่ผีให้ แต่ตัวเจ้าของเองก็ไปติดต่อกับแทบักเรียลเอสเตท เพราะเขาต้องการขายตึกในราคาตลาด แถมยังไล่ผีให้ฟรีด้วย
โออินบอมเป็นนักต้มตุ๋นที่หลอกว่าตัวเองเป็นหมอผี แต่ตัวเขาเองกลับไม่เชื่อเรื่องผี เมื่อเห็นฮงจีอาทำพิธีไล่ผีจึงเข้าใจว่าเธอก็เป็นนักต้มตุ๋นเหมือนกับเขา ก็เลยกลายเป็นศึกแย่งลูกค้ากันซะอย่างนั้น
เนื่องจากวิญญาณของที่นี่มี 2 ตน ฮงจีอาจึงต้องเตรียมอุปกรณ์เอาไว้ 2 ชุด ทุกอย่างเหมือนจะดำเนินไปอย่างเรียบร้อย ถ้าไม่มีโออินบอมเข้ามาวุ่นวาย จนในที่สุดเขาเผลอทำสร้อยหลุด เขาจึงโดนผีอีกตนหนึ่งเข้าสิ่ง และกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฮงจีอารู้ว่าเขาก็เป็นคนทรงเช่นเดียวกัน