Law School ชีวิตนักเรียนกฎหมาย EP.9 : เยซึล (รับบทโดย โกมุนยอง) ตกเป็นจำเลย แต่ไม่มีใครรับเป็นทนายว่าความให้เธอเลย เพราะกลัวอิทธิพลของสมาชิกสภาโก แต่ทั้งเพื่อน ๆ และอาจารย์ที่โรงเรียนกฎหมายก็พยายามช่วยเธออย่างเต็มที่ …
หลังจากที่เยซึลผลักแฟนหนุ่มจอมหัวร้อนของเธอจนหัวฟาดเลือดไหลเป็นทาง ด้วยความตกใจเธอจึงโทร. ไปหาซอลอา แต่ยังไม่ทันที่ซอลอาจะรับสาย ยังจงฮุนก็มาดึงโทรศัพท์ไปจากมือของเยซึลเสียก่อน และสิ่งแรกที่เขาทำคือการโทร. เรียกรถพยาบาล
ที่โรงพยาบาล เยซึลนอนอยู่บนเตียง ในขณะที่ยองชางต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน ท่านสมาชิกสภาโกจึงตรงปรี่เข้ามาหาเยซึลที่นอนอยู่บนเตียง และทำท่าง้างมือจะตบหน้าของเธอ แต่จุนฮวีมาห้ามเอาไว้ จากนั้นตำรวจ (คนเดียวกับที่จับยังจงฮุน) ได้เข้ามาเตรียมจะจับกุมตัวเยซึล
ทันใดนั้นเอง ยังจงฮุนก็เข้ามาขวางการจับกุม พร้อมกับเดินไปกระซิบข้างหูของท่านสมาชิกสภาโกว่า “เธอก็เป็นเหยื่ออาชญากรรมที่ลูกชายท่านเป็นคนก่อเช่นกัน ถ้าเธอถูกจับตัวไป เธอจะต้องให้การเรื่องที่ยองชางแอบถ่ายคลิปอนาจารเอาไว้ และกำลังจะไปปล่อยในอินเทอร์เน็ต สุดท้ายคนที่เป็นฝ่ายเสียก็คือตัวท่านสมาชิกสภาเอง” เมื่อรู้ความเช่นนั้น ท่านสมาชิกสภาโกจำต้องยอมปล่อยเยซึลไป
ซึ่งต่อมายองชางได้สติ แต่แขนข้างหนึ่งขยับเขยื้อนไม่ได้ ต้องทำกายภาพบำบัด … ส่วนเยซึลโดนฟ้องร้องในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในขณะที่สมาชิกสภาโกต้องการให้ตั้งข้อหาพยายามฆ่า แต่ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยาก
แน่นอนแม้ถ้ามองตามข้อเท็จจริง เยซึลเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่เธอก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ เธอจึงเดินทางไปขอโทษยองชางที่โรงพยาบาล ด้วยการคุกเข่าขอโทษจากใจจริง แต่ยองชางก็คือยองชางเขาไม่ยอมยกโทษให้
ขณะที่การฟ้องร้องเยซึลดำเนินไป แต่ไม่มีทนายความคนไหนยอมรับว่าความให้กับเธอเลยสักคนเดียว เพราะกลัวอิทธิพลของสมาชิกสภาโก แม้ทุก ๆ คนรวมถึงอึนซิกจะพยายามอย่างที่สุดแล้วก็ตาม และแม้แต่ทนายของรัฐที่ศาลจัดหาให้ก็ยังลาออกกลางคัน
ย้อนกลับไปตอนที่อาจารย์อึนซอกตกเลือดจนต้องเข้าโรงพยาบาล ทำให้เราได้รู้ว่า ซึงแจเคยเรียนหมอมาก่อนและมีภรรยาที่เป็นสูตินรีแพทย์เช่นเดียวกัน ก่อนที่เขาจะตัดสินใจมาเรียนด้านกฎหมาย
ในขณะที่อึนซอกนินแอดมิตเพื่อดูอาการ โน้ตบุ๊กวินโดวส์ของเธอก็เกิดจอฟ้า (หรือเออเร่อมรณะขึ้นมา) ซึงแจเลยจัดการดูแลให้ ซึ่งทำให้เขาได้เห็นข้อสอบปลายภาควิชากฎหมายกฎหมายแพ่ง ที่อยู่ในโน้ตบุ๊กของอึนซอก แน่นอนว่าเขาเปิดมันดูและใช้มันในการโกงการสอบ !
อย่างไรก็ตาม เซนส์ของอึนซอกก็ทำให้เธอรู้สึกสงสัยคะแนนสอบของซึงแจที่เขาได้คะแนนดีมาก ๆ ดีแบบเพอร์เฟกต์ อึนซอกจึงเอาเรื่องนี้ไปคุยกัยยังจงฮุน ซึ่งต่อมาทำให้เราเข้าใจได้ว่า เมื่อเขาแฮ็กเข้าโน้ตบุ๊กของอึนซอกแล้ว เขาจึงต้องแฮกเข้าโน้ตบุ๊กของอาจารย์คนอื่น ๆ ด้วย เพื่อที่จะทำให้คะแนนในทุกวิชามีความสมดุลกัน (คือทำให้ได้คะแนนสูงทุกวิชา) … แต่พอมาถึงข้อสอบปัจจุบัน ซึงแจกับเลือกที่จะส่งกระดาษเปล่า
ทีนี้ ยังจงฮุนจึงเอาเรื่องต่าง ๆ มาต่อจิ๊กซอว์กัน ทำให้เขารู้ว่าซึงแจซ่อนอยู่ในตู้ในห้องทำงานของเขาในวันเกิดเหตุ ซึ่งซึงแจสามารถเป็นพยานในการยืนยันถิ่นที่อยู่ของเขาได้ … แต่การทำให้ซึงแจเป็นพยานให้ในชั้นศาลมันซับซ้อนกว่านั้นมาก เพราะเท่ากับเขาต้องยอมรับเรื่องการแฮ็กและการโกงข้อสอบ ซึ่งมีโทษร้ายแรง
มาถึงวันพิจารณาคดีนัดที่สี่ของยังจงฮุนในข้อหาฆาตกรรมซอบยองจู ในวันนี้อัยการจินมีหลักฐานเด็ดที่ทำเอายังจงฮุนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างชัดเจน นั่นคือหลักฐานจากเครื่องวัดระดับน้ำตาลของซอบยองจูที่บอกว่า ระดับน้ำตาลของเขาเป็นปรกติ ซึ่งขัดต่อคำให้การของยังจงฮุนที่ระบุว่าซอบยองจูอยู่ในภาวะช็อกจากการขาดน้ำตาล และเขาได้ใส่น้ำตาลลงไปในแก้วกาแฟเพื่อให้ซอบยองจูดื่ม ไม่ใช่ยาไอซ์ แต่ก็นั่นแหละมันขัดกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ !
เรื่องราวดำเนินไป จนมาถึงวันพิจารณาคดีนัดแรกที่เยซึลเป็นจำเลย ขณะที่ทุกคนมาพร้อมตามเวลานัดศาล หากแต่ขาดเพียงหนึ่งคน นั่นก็คือฝ่ายทนายจำเลย เยซึลได้แต่ก้มหน้าด้วยความรู้สึกแย่กับเรื่องที่เกิด
ผ่านไปพักใหญ่ จนศาลถามเยซึลว่าทนายจะมาเมื่อไร ? ทันใดนั้นเอง ยังจงฮุนจึงได้ปรากฏตัวขึ้นในฐานะทนายจำเลย พร้อมแถลงต่อศาลขอใช้ระบบลูกขุนในการตัดสินคดีนี้ !!?