หลงกลิ่นจันทน์ EP.6 : ว่านรักโดนผู้กำกับพนาสั่งพักงาน แต่ดูเหมือนจะมีใครบางคนพยายามช่วยเธออยู่เบื้องหลัง จนในที่สุดได้กลับมารื้อคดีของจันทน์ …
ว่านรักโดนผู้กำกับพนาสั่งให้พักราชการและย้ายกลับกรุงเทพฯ ด่วน ในข้อหาขโมยทรัพย์สินของทางราชการ
หลังจากโดนเล่นงาน ว่านรักก็ออกไปวิ่งไม่หยุด กระทั่งหมอดินตามมาจนพบและพาตัวว่านรักไปส่งที่ท่ารถเพื่อให้เธอกลับกรุงเทพฯ ว่านรักไม่พอใจที่หมอดินพยายามผลักไสไล่ส่งเธอ จึงตวาดออกไปว่า “ฉันผิดมากนักหรือไงที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรม”
แต่หมอดินก็สวนกลับไปทันควัน “ถ้าความยุติธรรมของอีกคนมันไม่ใช่ความยุติธรรมของอีกคนหนึ่งล่ะ ? เลิกใช้คำพูดสวยหรูที่เอามาจากหนังจากละครได้แล้ว เพราะความยุติธรรมมันไม่มีอยู่จริง” เพราะหมอดินเป็นไม่เชื่อในความยุติธรรม แต่เขาเชื่อในความจริง
ว่านรักไม่ยอมเดินทางกลับกรุงเทพฯ แถมยังไม่ขอความช่วยเหลือจากพ่อที่เป็นนายตำรวจใหญ่อีกด้วย แต่ระหว่างนั้นเองรายการห้องสืบสวนหมายเลข 7 ในการเปิดโปงเรื่องคดีของจันทน์ ว่าคนในดอนหินกาบถูกปิดปากไม่ให้พูดเรื่องการตายของจันทน์ ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมใหญ่ขึ้น
ทุกคนเชื่อว่าว่านรักเป็นคนปล่อยข่าว แต่จริง ๆ แล้วมีคนปริศนาแจ้งเบาะแสคดีของจันทน์ให้รายการ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าว่านรักจะไม่ขอความช่วยเหลือจากพ่อ แต่การนำเสนอของรายการห้องสืบสวนก็เป็นการส่งข่าวให้พ่อเธอรู้โดยอ้อม และมีคำสั่งตรงมาจากเบื้องบนบีบผู้กำกับพนาให้ว่านรักรื้อคดีจันทน์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งว่านรักก็รับคำสั่งไปแบบงง ๆ ว่าทำไมผู้กำกับพนาถึงยอมให้เธอรื้อคดีขึ้นมา
ทศโทร. หาว่านรักเพื่อขอร้องให้หยุดทำคดีนี้เพราะมันอันตราย แต่กลายเป็นว่าคำพูดของทศทำให้ว่านรักหงุดหงิดขึ้นมาซะงั้น ทั้ง ๆ ที่ทศเป็นคนขอให้พ่อเคลียร์ปัญหากับผู้กำกับพนาให้ว่านรัก
เรื่องราวดำเนินไป นำพาให้ว่านรักเจอกับหมอดิน แต่หมอดินแสดงความไม่พอใจที่ว่านรักยังดื้อดึงที่จะอยู่ดอนหินกาบต่อไป ว่านรักอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมหมอดินจึงอยากให้เธอไปจากที่นี่นัก หมอดินจึงบอกว่า “เพราะเธอไม่รู้ไงว่ากำลังสู้กับอะไรอยู่ !” ที่แท้แล้วหมอดินรู้เรื่องทุกอย่างมาตลอด แถมยังรู้ว่าใครเป็นคนทำอีกด้วย
ส่วนผู้กำกับพนาก็ไปถามทางไทว่า “ทำไมถึงไม่บอกว่าแกอยู่ตรงนั้นในคืนนั้น ?” ทางไทตอบแบบซ่อนความรู้สึกเสียใจเอาไว้ในแววตา “เพราะอาไม่เคยเชื่ออะไรผมไง” นั่นหมายความว่าผู้กำกับพนาไม่เคยรู้มาก่อนว่าทางไทรู้ความจริงที่เกิดขึ้นในคืนนั้น
ถัดมาอีกวัน สารวัตรว่ารักเริ่มรื้อคดีนางจันทน์ทันที หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้วถึง 2 ปี ว่านรักมองว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีฆ่าข่มขืนธรรมดา เพราะฆาตกรลงมือจ้วงแทงถึง 14 แผล ซึ่งผิดวิสัยของคนร้ายโดยทั่วไป อีกทั้งรอยถูกมัดที่ข้อมืออาจจะเป็นเพราะถูกทรมานก่อนถูกฆ่า ว่านรักสั่งให้เช็กการทำธุรกรรมกับธนาคารของนางจันทน์เป็นอันดับแรก จากนั้นก็ให้หมวดตรีชัยไปหาข้อมูลของจันทน์ที่ออฟฟิศของนายกอบต. ผู้จัดงานประกวดเทพีดอนหินกาบ
จากนั้นว่านรักก็เดินทางไปหาหมอดินเพื่อขอผลชันสูตรศพนางจันทน์ ปรากฏว่าจันทน์ไม่ได้ถูกล่วงละเมิด (ข่มขืน) ซึ่งตรงกันข้ามกับสำนวนที่ระบุว่าจันทน์ถูกข่มขืน แถมยังได้รู้ว่าสมัยที่จันทน์ยังมีชีวิต ผู้ชายในดอนหินกาบอยากได้เธอกันครึ่งเมือง และยังรู้ว่าสารวัตรนิติกับหมอดินทะเลาะกันเรื่องคดีของจันทน์ในตอนนั้น ซึ่งสารวัตรนิติเป็นประเภทชอบซิกแซกในการทำคดีอยู่แล้ว
ว่านรักสืบไปสืบมาจนได้รู้ว่า จันทน์เก็บผู้ชายในดอนหินกาบไปครึ่งเมืองแล้ว
ในตอนท้าย ท่านนายกเทศมนตรีได้นัดพบกับหมอดิน เพื่อขอให้หมอดินทำคดีนางจันทน์ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับตำรวจ เพื่อให้คดีนี้ปิดลงโดยเร็ว หมอดินจึงถามย้ำนายกเทศมนตรีไปว่า “ท่านจะให้ผมแก้ไขผลการชันสูตรหรือครับ ?”
Photos: ภาพหน้าจอ Ch7HD Thailand