Skip to content
สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Love (ft. Marriage and Divorce) 2 (2021)

สรุปเนื้อเรื่อง Love ft. Marriage and Divorce 2 (2021) รักแต่งเลิก ซีซั่น 2

Love (ft. Marriage and Divorce) รักแต่งเลิก ซีซั่น 2 : เรื่องราวปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตการแต่งงานของคู่สามีภรรยา 3 คู่ ที่แต่ละคู่อยู่ในช่วงวัยที่แตกต่างกัน …

EP.1 คำสารภาพของเมียน้อย

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นด้วยฉากเซ็กซี่ที่ซาฮยอนกำลังฝันหวานว่ากำลังจิบเตกีล่าอยู่กับซงวอน แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาปรากฏว่าหญิงที่อยู่เบื้องหน้าคือฮเยรยอง เมียหน้าแร็กคูนของเขานั่นเอง

ตัดภาพมาตอนที่ซงวอนรู้ว่าตัวเองท้อง เราจึงได้เห็นว่าเธอมีสีหน้าที่เป็นกังวลมาก ในทางตรงกันข้าม ซาฮยอนกลับตื่นเต้นที่กำลังจะได้เป็นพ่อคน

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง พัคแฮรยอนกำลังไดนิ่งกับกาบิน ซึ่งเธอสารภาพออกมาว่าแท้จริงแล้วที่เธอเลือกที่จะคุยกับพัคแฮรยอนก็เป็นเพราะเธอต้องการลืมแฟนเก่า แม้เธอจะรู้ว่าเขามีเมียและลูกอยู่แล้ว 2 คนก็ตาม แถมยังโชว์สกิลความเป็นเมียน้อยหน้าซื่อออกมา เมื่อพัคแฮรยอนบอกว่าเขาต้องการทิ้งลูกทิ้งเมียเพื่อมาอยู่กับเธอ เพราะถ้าต้องให้เลิกกับเธอเขายอมตายเสียดีกว่า … พูดง่าย ๆ คือเป็นผู้ชายที่เลวได้ปรอทแตกได้ใจจริง ๆ

ส่วนในคู่ของซาพียองกับชินยูชินนั้นเป็นคู่ที่น่าสนใจมากที่สุด … ซาพียองไปว่ายน้ำกับยูชิน แต่ให้บังเอิญว่าซอบัน (หัวหน้าวิศวกรที่สถานีวิทยุ) อยู่ในสระ เธอจึงอายและบอกกับยูชินว่าเธอขอไม่ลงสระเพราะอาย

ซึ่งต่อมาในคืนนั้น ซาพียองฝันถึงซอบัน ซึ่งเป็นฝันออกแนวเซ็กซี่เล็ก ๆ โดยซอบันกับเธอกำลังจะจูบกันที่สระว่ายน้ำ หลังจากที่เธอพยายามว่ายหนีเขาและทำร้ายเขาจนเลือดกำเดาออก

ตัดภาพมาที่ 3 สาวเมียน้อยขณะกำลังไปเที่ยวเกาะเซจูด้วยกัน ก็ให้บังเอิญว่าซงวอนเกิดอาการแพ้ท้องขึ้นมา ในท้ายที่สุด ซงวอนจึงสารภาพกับอามีและนัมกาบินว่าเธอตั้งท้องกับคนที่มีภรรยาอยู่แล้ว ทีนี้ นัมกาบินก็ยอมรับออกมาเช่นกันว่าตัวเธอก็ตกอยู่ในสถานเดียวกัน แต่ฝ่ายชาย (พัคแฮรยอน) พร้อมที่จะทิ้งลูกเมียเพื่อมาอยู่กับเธอ

ส่วนอามีก็ยอมรับว่าเธอก็เป็นเมียน้อยเหมือนกัน แต่สถานการณ์ของเธอแตกต่างกัน เพราะฝ่ายชาย (ยูชิน) ไม่ต้องการทิ้งครอบครัว

ตัดภาพมาที่ทงมี ที่หมายมั่นจะเอาลูกเลี้ยงมาเป็นสามี !!! ก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ยูชินมาสนใจเธอ …

ในตอนท้าย ผีกีริม (สามีของทงมี พ่อของยูชิน) ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นภายในบ้าน !!?????

EP.2 ผีกีริม !!?

ผีกีริมกลับมาที่บ้าน … เพื่อมากินขนมปัง แค่นั้น !!!!!?

ส่วนซงวอนตอนนี้เธอรู้สึกไม่โอเค เพราะความเหลาะแหละของซาฮยอนที่เป็นได้แค่ไม้หลักปักขี้เลน ที่ตอนนี้ฮเยรยองยืนยันที่จะไม่หย่ากับเขา อีกทั้งแม่ของเขาก็มองว่าซงวอนแก่กว่าเขาหลายปี (ซงวอนอายุ 42 ปี) และก็เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว ความตึงเครียดเริ่มเกิดขึ้นในขณะที่ซาฮยอนก็ยังมึน ๆ งง ๆ ไม่รู้จะจัดการเรื่องนี้ยังไงดี

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ซีรีส์ก็เผยให้เห็นภาพยูชินกับทงมีเล่นซ่อนแอบด้วยกัน … เพื่อออ !!!!!???

ต่อมาสาวใช้บ้านทงมีบอกว่าเธอเห็นผีกีริม เธอกลัวมากจนขอลาออกไปเฉยเลย

ด้านอามี ก็เป็นไปตามสูตรเมียน้อย ที่เริ่มต้นด้วยการบอกว่าตัวเองไม่เรียกร้องอะไร แต่คบกันไปคบกันมาก็เรียกร้องนู่นนี่นั่นมากขึ้น ซึ่งมาถึงตอนนี้เธอรู้สึกไม่โอเคที่ยูชินไม่ค่อยสนใจเธอ

ตอนท้ายของเรื่อง สาวใช้ที่บอกว่าขอลาออกเธอกำลังถูพื้นทำความสะอาดอยู่ ทันใดนั้นเองเธอก็ช็อกคาค้างเมื่อเห็นบางอย่างตรงมุมห้อง … ใช่ผีกีริมหรือไม่ !!!!!!?

EP.3 อาหารมื้อสุดท้าย

เยจอง (แม่ของซาฮยอน) นัดคุยกับซงวอน ซึ่งซงวอนสัญญาว่าจะเลิกยุ่งกับซาฮยอน โดยจะขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่กับพี่ชายที่เกาะเซจู เพราะเธอเข้าใจดีว่าตัวเธอเป็นคนก่อเรื่องนี้ขึ้นมา

ปัญหาของซงวอนกับซาฮยอนก็คือ เธอผ่านการแต่งงานมาแล้ว แถมยังอายุมากกว่าถึง 10 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่พันมุนโฮ (พ่อของซาฮยอน) ไม่สามารถยอมรับได้ แต่อย่างไรก็ตาม เยจองพบว่านิสัยของซงวอนต่างกับฮเยรยองราวฟ้ากับเหว จุดนี้นี่เองที่ทำให้ซาฮยอนหลงรักผู้หญิงที่อายุมากกว่า 10 ปีคนนี้ได้ไม่ยาก

ซงวอนเดินทางไปที่โบสถ์ ในใจเธอคิดว่านี่เป็นบาป และมันต้องเป็นบาปที่เธอต้องรับความเสียใจที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ อีกทั้งเธอยังตัดสินใจที่จะเลี้ยงลูกเพียงลำพัง จากนั้นเธอก็นัดคุยกับซาฮยอนเพื่อที่จะขอให้เขายอมรับการตัดสินใจของเธอ

ระหว่างนั้น ฮเยรยองก็ชวนชีอึนไปดื่มกันที่บาร์ ที่นั่นเองเธอพบผู้ชายดูดีคนหนึ่งเข้ามาจีบเธอ แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ปฏิเสธเขาไป (จริง ๆ ต้องเรียกว่าเล่นตัวน่าจะถูกต้องกว่า) เพราะดูท่าทางเธอก็สนใจเขาเช่นกัน

ตัดภาพมาที่ผีกีริม ซึ่งทำให้แม่บ้านของทงมีตัดสินใจลาออก แม่ทงมีจะขึ้นเงินเดือนให้เธอก็ไม่อยู่ต่อ ทงมีจึงมองวิกฤติเป็นโอกาสในการหาเรื่องไปอยู่บ้านยูชินเสียเลย โดยอ้างเรื่องผีกีริมนี้เอง

ฉากหนึ่ง เป็นตอนที่ทงมีกลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้าเพื่อที่จะย้ายมาอยู่ที่บ้านยูชิน เธอทำกับข้าวสำรับใหญ่ จากนั้นก็ทำสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นมา เธอชวนผีกีริมให้นั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกับเธอ

ทงมีกล่าวกับผีกีริมว่า “ผู้อำนวยการจะโกรธแค้นฉันก็ได้แต่ช่วยเปลี่ยนใจเถอะค่ะ ที่ผ่านมาฉันช่วยดูแลคุณมาอย่างยาวนานถึงกว่า 40 ปี ฉันทำทุกอย่างไปเต็มที่แล้วค่ะ ฉันอุทิศวัยสาวให้ไปแล้วฉันต้องอุทิศวัยชราให้อีกเหรอคะ ตอนนี้ขอฉันรู้สึกมีความสุขบ้าง นี่เป็นอาหารมื้อสุดท้ายที่ฉันจะทำให้คุณกิน ทานให้อร่อยแล้วจากไปเถอะค่ะ” ทันใดนั้นเองไฟก็เกิดดับขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่าทงมีจะไม่มีความกลัวเลยสักนิด “ฉันไม่กลัวคุณหรอกค่ะ คนที่ตายไปแล้วจะมาเอาชนะคนเป็นได้ยังไง !!”

ในตอนท้าย นัมกาบินบอกกับแฮรยอนว่าเธอจะไปออกรายการวิทยุของฮเยรยอง เมื่อได้ยินเช่นนั้นแฮรยอนถึงกับตกใจ เพราะเป็นรายการที่ชีอึนทำงานเป็นนักเขียนสคริปต์อยู่ที่นั่น

EP.4 พ่อและสามีที่น่ารังเกียจ

บูฮเยรยองไปพบกับพ่อแม่ของซาฮยอนเพื่อกดดันให้แน่ใจว่า ซงวอน ซึ่งกำลังตั้งท้องจะไม่มายุ่งกับซาฮยอนอีก จากนั้นมุนโฮกับเยจองก็ไปหาซงวอนที่บ้านของเธอ …

มันเรียกว่าเฟิร์สอิมเพรสชั่นสำหรับมุนโฮที่มีต่อซงวอน ด้วยกิริยามารยาทที่ถูกสอนมาเป็นอย่างดี ถึงขนาดที่ว่ามุนโฮชวนซงวอนออกไปกินข้าว แถมยังชวนไปกินของหวานที่บ้านอีกด้วย

มุนโฮคิดในใจเปรียบเทียบว่า ฮเยรยองเหมือนดอกกุหลาบที่เต็มไปด้วยหนาม สวยงามแต่ถ้าอยากเชยชมก็ต้องเสี่ยงกับความเจ็บปวด ส่วนซงวอนนั้นเปรียบเหมือนดอกไลลัก ที่แม้ไม่โดดเด่นสวยงาม แต่สามารถสัมผัสเชยชมได้ไม่รู้เบื่อ จากการที่ได้พบกับซงวอนมันทำให้เขาเข้าใจแล้วว่า ทำไมซาฮยอนถึงได้หลงซงวอนอย่างหัวปักหัวปำแม้ว่าเธอจะอายุมากกว่าถึง 10 ปี … เห็นได้ชัดว่ามุนโฮชอบในตัวซงวอนมากกว่าฮเยรยอง

ทีนี้ก็มาถึงไฮไลต์ หลังจากที่แฮรยอนรู้ว่านัมกาบินจะไปออกรายการวิทยุที่ชีอึนเป็นนักเขียนสคริปต์ เขาก็เกิดความกังวลใจเป็นอย่างมาก แฮรยอนจึงนัดชีอึนเพื่อบอกความจริงว่าผู้หญิงที่เขาคบอยู่คือนัมกาบิน ด้วยเหตุผลที่เขาบอกเรื่องนี้กับชีอึนเป็นเหตุผลที่น่ารังเกียจที่สุด นั่นก็คือเขาต้องการปกป้องนัมกาบิน (เพราะกลัวว่าชีอึนจะไปพูดจาหรือทำอะไรไม่ดีใส่นัมกาบิน) !

ชีอึนได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ มันเป็นความเสียใจที่ไม่รู้จะหาอะไรมาอธิบาย ผู้ชายที่ทำลายครอบครัวตัวเองโดยทิ้งความรู้สึกของผู้หญิงที่คอยซัปพอร์ตเขามายาวนานกว่า 30 ปี เท่านั้นยังไม่พอ ยังหน้าด้านพอที่จะทิ้งลูก ๆ ของตัวเองเพราะกลัวว่าผู้หญิงที่ชื่อนัมกาบินจะเสียใจ ผู้หญิงที่รู้อยู่แล้วว่าตัวเองมาในฐานะชู้ !!!

ในวันที่นัมกาบินมาให้สัมภาษณ์ในรายการ ชีอึนไม่ได้ไปทำงานเพราะเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งหลังจากเสร็จรายการซาพียองได้มาเยี่ยมที่บ้านของชีอึน แล้วได้เล่าถึงลักษณะของนัมกาบิน ซาพียองกล่าวว่า “เธอ (นัมกาบิน) เป็นผู้หญิงที่ดูเป็นผู้หญิงจริง ๆ เธอเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และดูดี”

ไม่เท่านั้น ฮยางกี ลูกสาวคนโตของชีอึนยังมาสัมทับจากที่เธอได้อ่านข่าวในเว็บไซต์ด้วยว่านัมกาบินเป็นนักแสดงที่ดูดี มันทำให้ชีอึนอึอัดใจเป็นอย่างมาก เธอได้แต่บอกออกไปว่า “อย่ามองคนแต่เพียงภายนอก”

ในคืนนั้นเอง ชีอึนนอนร้องไห้อยู่คนเดียว เธอร้องไห้อยู่อย่างนั้นเพราะไม่รู้ว่าเธอควรทำอย่างไรดี นัมกาบิน ผู้หญิงที่ใคร ๆ ต่างก็มองว่าเป็นคนใส ๆ เรียบร้อยมีความเป็นผู้หญิงสูง ทุกคนต่างพากันชื่นชม หากแต่ความเป็นจริงแล้ว เป็นผู้หญิงหน้าด้านที่แย่งสามีของเธอไปอย่างไม่มีความละอายใจเลย

ในขณะที่ชีอึนกำลังคิดไม่ตกอยู่นั้น นัมกาบินที่ได้รู้จากปากของแฮรยอนว่าชีอึนคือเมียเก่าของเขา เธอจึงโทร. ไปหาซาพียองเพื่อขอเบอร์ของชีอึน … นัมกาบินตัดสินใจอยู่นาน จึงโทร. ไปหาชีอึน เมื่อชีอึนได้รู้ว่าปลายสายคือนัมกาบิน ชู้รักของแฮรยอน เธอก็แสดงอาการตกใจออกมา !

EP.5 ความเลวที่สมบูรณ์แบบ ?

นัมกาบินโทร. ไปหาชีอึนเพื่อนัดเจอกัน ซึ่งชีอึนก็ตกลงที่จะเจอกับเธอ

ซาฮยอนไปดินเนอร์กับซงวอนและมันเหมือนกับเป็นดินเนอร์ครั้งสุดท้ายของพวกเขา ในขณะที่ฮเยรยองอยู่ที่บ้าน เธอมองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับความคิดที่ว่า เธอจะนอกใจเช่นกัน เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะทำให้เธอสามารถให้อภัยซาฮยอนและทนใช้ชีวิตคู่กับเขาต่อไปได้

ในขณะที่ซาฮยอนหมอบแหวนให้กับซงวอนแล้วเขาให้สัญญาว่าเขาจะต้องได้พบกับเธอเมื่อวันที่ลูกน้อยลืมตาดูโลก เขาจับมือเธอไว้อย่างแผ่วเบาพร้อมกับเอ่ยออกไปว่า “รักษาสุขภาพให้ดีนะครับ เพื่อรอวันที่เราจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง อย่าลืมผมนะครับ” จากนั้นซงวอนก็ดึงมือกลับไป มันเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ใครไม่ตกอยู่ในสภาพแบบนั้นก็ยากที่จะเข้าใจความรู้สึกนั้นได้ ซงวอนเดินกลับเข้าบ้านไปโดยไม่หันกลับมามองซาฮยอนแม้สักแวบเดียว เธอนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น เธอนั่งอยู่อย่างนั้นพลางพูดกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่า “ไม่เป็นไร ๆ ๆ”

ซึ่งในระหว่างนั้น ทงมีเตรียมแผนการบางอย่างเอาไว้ เพื่อที่จะจัดการกับซาพียอง และทำการรวบหัวรวบหางยูชิน ผู้มีศักดิ์เป็นลูกเลี้ยงของเธอ !

ตัดภาพมาที่เมนคอร์สของตอนนี้ ซึ่งฉากนี้ลากยาวเกือบครึ่งชั่วโมง แต่เป็นช่วงเวลาที่บีบคั้นสุด ๆ … นัมกาบินนัดเจอชีอึนที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งย่านกังนัม เธอมานั่งรอชีอึนก่อนเวลา ระหว่างนั้นเพื่อนของฮยางกีได้เห็นนัมกาบินนั่งอยู่จึงโทร. ไปบอกฮยางกีซึ่งเป็นแฟนคลับของนัมกาบินให้รีบมาขอลายเซ็น ฮยางกีจึงรีบนั่งรถไฟฟ้ามาทันทีเพราะอยู่ไม่ไกลกันมากนัก

ชีอึนมาถึงไม่นานนัก ฮยางกีก็ตามมาเห็นแม่ของเธอนั่งอยู่กับนัมกาบิน ฮยางกีจึงแอบไปนั่งโต๊ะข้าง ๆ เพื่อจะแอบฟังบทสนทนาที่ทั้งคู่ได้คุยกัน จึงทำให้เธอได้รู้เรื่องทุกอย่างว่าแท้จริงแล้ว เมียน้อยของพ่อที่ก้าวเข้ามาทำลายครอบครัวของเธอจนพังไม่เหลือซากก็คือไอดอลของเธอ นัมกาบิน !

ในตอนแรก ฮยางกีตั้งใจจะเข้าไปด่านัมกาบินให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่เธอสะกดกั้นอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้ และนั่งอยู่ต้องนั้นด้วยความขมขื่นใจกับความจริงที่ได้รู้

จากนั้น ฮยางกีก็สอบถามที่อยู่ของนัมกาบินจากเพื่อนของเธอ เมื่อได้ที่อยู่แล้วเธอก็มุ่งหน้าไปที่คอนโดของนัมกาบิน ในระหว่างที่เธอเดินเข้าคอนโดนั้นเอง แฮรยอนกำลังขับรถกลับมาแล้วเกิดเห็นฮยางกีเข้าพอดี เขาจึงเข้าไปขัดขวางแล้วลากเธอขึ้นรถเพื่อพากลับไปส่งที่บ้าน

ความเลวร้ายอันแสนบีบคั้นหัวใจยังไม่จบ เมื่อฮยางกีมาถึงบ้าน เธอแหกปากร้องโวยวายเป็นการใหญ่ถึงความเลวที่แฮรยอนได้ตัดสินใจทำลงไป จากการเลือกที่จะทำลายครอบครัวและไปอยู่กับเมียน้อยนักแสดงมากความสามารถที่ชื่อนัมกาบิน แถมแฮรยอนยังอ้างนู่นนี่นั่นให้ความเลวที่ตัวเองทำดูเป็นสิ่งสวยงาม ตอนหนึ่งฮยางกีใช้สรรพนามเรียกแฮรยอนว่า “มัน” ซึ่งมันทำให้เขาโกรธมาก ง้างมือจะตบหน้าลูกสาว ทันใดนั้นเอง ชีอึนจึงตบหน้าแฮรยอนเพื่อเตือนสติไปสองฉาด แต่แน่นอนว่ามันยังไม่พอกับความเลวที่เขาทำลงไป

แฮรยอนกลับมาที่คอนโดของนัมกาบิน แล้วคำพูดเดิม ๆ ที่ทำให้ตัวเองดูเป็นผู้ชายโรแมนติกก็ออกจากปากเขา “ไม่เป็นไรนะถ้าจะทิ้งผมไป ผมยอมรับการตัดสินใจของคุณ เพราะผมรู้ตัวว่าเป็นพ่อและสามีที่ไม่ดี แต่ตอนนี้ผมรักคุณเพียงคนเดียว” อย่างไรก็ตาม เมื่อศีลเสมอกันก็คบกันได้ นัมกาบินเข้าไปสวมกอดแฮรยอน แล้วพูดตอบกลับไปว่า “ฉันเองก็่เหมือนกันค่ะ”

ในตอนท้าย อามีได้เข้าฉากถ่ายหนังเรื่องหนึ่ง ซึ่งในฉากนั้นใช้โลเคชันเป็นหน้าสถานีวิทยุที่ซาพียองทำงานอยู่ ซาพียองจึงมายืนดู แต่เธอเกิดสะดุดที่เสื้อโค้ตบุนวมที่อามีใส่ซึ่งเหมือนกับเสื้อตัวโปรดสุดหวงของยูชิน ที่เขาอ้างว่าให้เพื่อนไปเมื่อหลายเดือนก่อน ด้วยความสงสัยเธอจึงเข้าไปถามอามีว่าเสื้อตัวนี้ซื้อมาจากที่ไหน ซึ่งอามีก็ตอบว่า “แฟนซื้อให้ค่ะ” และเธอก็สังเกตเห็นรอยตำหนิของเสื้อซึ่งเป็นรอยแบบเดียวกับของเสื้อยูชิน !!?

EP.6 ใส ๆ แย่งสามี

ซาพียองไม่สามารถลบคำพูดของอามี และเสื้อโค้ตบุนวมตัวโปรดของยูชินตัวนั้นออกไปจากห้วงความคิดของเธอได้เลย แต่เธอก็คิดว่า เพื่อนของยูชินน่าจะเป็นคนให้เสื้อโค้ตบุนวมตัวนั้นกับอามี

ระหว่างนั้น ฮเยรยองก็ไปดินเนอร์กับซอดงมา … ส่วนซงวอนกับพันมุนโฮ (พ่อของซาฮยอน) ก็ไปทานอาหารด้วยกัน และดูท่าทางพันมุนโฮจะชอบซงวอนมากว่าฮเยรยอง สะใภ้ตัวจริงของเขาเสียอีก เพราะนิสัยของทั้งสองที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว

นัมกาบินนัดเจอกับชีอึนอีกครั้ง คราวนี้นัมกาบินอยากให้ชีอึนกับเธอมีความรู้สึกที่ดีต่อกันมากขึ้น คล้าย ๆ กับพยายามให้ความสัมพันธ์ของแฮรยอนกับลูก ๆ และชีอึนกลับมาดี เป็นเพียงแต่สถานะอาจจะเปลี่ยนไปอะไรทำนองนั้น พูดง่าย ๆ คือนัมกาบินพยายามทำตัวอินโนเซนส์ใส ๆ ประมาณว่าที่เธอแย่งสามีและทำลายครอบครัวของชีอึน เป็นไปเพราะความอินโนเซนส์ไม่ได้เกิดจากเจตนาร้ายใด ๆ อะไรแบบนั้น (ซึ่งมันก็ดูย้อนแย้งไม่น้อย) แต่ชีอึนปฏิเสธ

ระหว่างนั้น ยูชินเริ่มรู้ว่าสถานการณ์ของเขากับอามีไม่สู้ดีแล้ว ถ้าคบกันต่อไปอาจส่งผลอันร้ายแรงต่อครอบครัว เพราะซาพียองเริ่มสงสัยเรื่องเสื้อโค้ตบุนวม เขาจึงบอกเลิกกับอามี โดยใช้ข้ออ้างว่าอามีกำลังเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง โอกาสที่จะได้พบคนดี ๆ มีอีกมาก เลิกกับเขาน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเธอมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม อามีปฏิเสธ เธออยากจะคบเขาแบบนี้ต่อไป “ฉันจะยังไม่โตพอที่จะยอมรับอะไรที่ฝืนความรู้สึกตัวเองอะไรแบบนี้ได้”

ในคืนนั้นเอง แผนการเคลมลูกเลี้ยงของทงมีเริ่มต้นขึ้นแล้ว เธอวางยานอนหลับในน้ำดื่มของซาพียอง จากนั้นก็แกล้งเป็นนอนเมาอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่น แล้วทำเป็นยั่วเปิดให้ยูชินเห็นขาอ่อน เธอหวังลึก ๆ ว่ายูชินจะเข้ามาอุ้มเธอเข้าห้องนอน แต่ความเป็นจริงคือยูชินเพียงแค่เอาผ้าห่มมาห่มให้เธอก็เท่านั้น มันทำให้ทงมีผิดหวังเป็นอย่างมาก

ถัดมาช่วงกลางวันของอีกวัน ทงมีเปลี่ยนมาเป็นวางยานอนหลับยูชินบ้าง เธอกะจะเคลมยูชินให้ได้ในวันนี้ ทันใดนั้นเองเรื่องแปลกประหลาดก็เกิดขึ้น เมื่อผีกีริม (พ่อของยูชิน) เข้ามาสิงร่างของยูชินขณะที่กำลงนอนหลับใหลอยู่ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ทงมีกำลังจะจูบยูชิน แต่ … ทุกอย่างไม่เกิดขึ้น เพราะเวลานั้นเองซาพียองกลับบ้านมาก่อนเวลา !

แฮรยอนเจอยูชินอยู่กับอามีด้วยท่าทางที่สนิทสนม เขาจึงเอาเรื่องนี้เล่าให้ชีอึนฟัง และด้วยความที่เธอไม่ต้องการให้ครอบครัวของซาพียองต้องพังเหมือนอย่างที่เธอเคยเจอ ชีอึนจึงเอาเรื่องนี้ไปบอกกับซาพียอง

ระหว่างที่ซาพียองกำลังข่มใจและใคร่ครวญเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยูชินก็โทร. มาบอกว่าเขามีนัดไปขี่ม้า ซึ่งอาจจะกลับบ้านดึก แต่ดูเหมือนว่าซาพียองกำลังคิดอะไรมากไปกว่านั้น …

EP.7 ผู้หญิงนนฮยอนดง

ซาพียองขับรถมาที่สนามม้าเพื่อตามมาจับผิดยูชินเรื่องผู้หญิง แต่เมื่อมาถึงเธอถึงกับโล่งอก เมื่อเห็นยูชินขี่ม้าเพียงลำพัง นั่นเป็นเพราะอามีได้รับโทรศัพท์ให้เข้าประชุมด่วน จึงทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

ซาพียองจึงรู้สึกผิดที่ระแวงจนไม่ไว้ใจสามีตัวเองเพียงเพราะคำใส่ความของคนอื่น (ชีอึน) ในขณะที่ยูชินเริ่มรู้สึกว่าการปกปิดความผิดเริ่มนำพาชีวิตครอบครัวของเขาไปสู่จุดเปราะบาง แม้ว่าครั้งนี้เขาจะรอดไปได้จากโชคช่วยและด้วยคำโกหกของตัวเองก็ตาม

ในคืนนั้นเอง ยูชินมาหาอามีด้วยรถเบนซ์ SUV สีขาวคันใหม่ เขามาหาเธอเพื่อบอกลา ณ จุดนี้มันถึงเวลาแล้วที่ต้องจากกัน ยูชินบอกอามีระหว่างนี้ที่ต้องห่างกันขอให้เธอทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการไล่ล่าตามหาฝันของตัวเอง

แน่นอนว่าอามีเสียใจมากร้องไห้ออกมาไม่หยุด เธอบอกว่าชีวิตของเธอไม่ได้ถือว่าความสำเร็จด้านการงานเป็นเป้าหมายของชีวิต แต่เธอให้ความสำคัญกับความรักมากกว่า และความรักของเธอก็คือยูชิน แต่อย่างไรก็ตาม ยูชินตัดสินใจที่จะเลือกครอบครัวของเขาไปแล้ว

ยูชินเรียกแท็กซี่กลับบ้านโดยทิ้งกุญแจรถเบนซ์ SUV คันสีขาวเอาไว้ให้อามีโดยไม่ได้บอกเธอ เมื่ออามีเห็นกุญแจรถวางเอาไว้บนโต๊ะก็แปลกใจ เธอขึ้นไปบนรถเห็นถุงของขวัญวางเอาไว้ที่เบาะนั่งด้านผู้โดยสาร ในถุงมีกระดาษเขียนข้อความจากยูชินเอาไว้ …

“ระหว่างคิดว่าจะซื้อดอกไม้ให้ดีไหม ก็เลยเลือกซื้อกระถางมาแทน เพราะดอกไม้ไม่นานก็เหี่ยวเฉา ถ้าผ่านไป 2 ปีแล้วความรู้สึกของเรายังไม่เปลี่ยนไป ฉันจะกลับไปหาเธอ … ระหว่างนี้ ฉันหวังว่าเธอจะสบายและมีความสุขในรถคันนี้เหมือนกับที่เธอสบายอยู่ในอ้อมแขนฉัน … แม่ว่ากายเราจะห่างกัน แต่อย่าลืมนะว่าหัวใจและจิตวิญญาณเราอยู่ด้วยกันเสมอ ฉันรักเธอนะ” เมื่ออามีได้อ่านจนจบ น้ำตาเธอก็หลั่งไหลออกมาไม่หยุด

ชีวิตหลังจากวันนั้น ยูชินพยายามทำตัวกลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัวตามปกติ แม้ในใจเขาจะยังคิดถึงอามีอยู่ก็ตาม ในทางตรงกันข้าม อามีกลับดื่มเหล้าจนเมามายเพราะอาการของพิษรัก ขวดแอลกอฮอล์วางเกลื่อนกลาดเต็มห้อง

อามีดื่มเหล้าอยู่อย่างนั้นติดต่อกันหลายวัน จนเธอเกิดทำร้ายตัวเองเข้าจากเศษขวดไวน์ที่แตกละเอียด เธอจึงขอเข้าแอดมิตที่โรงพยาบาลกลางชิน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ยูชินเป็นผู้อำนวยการอยู่

ต่อมา เราจะได้เห็นฉากผีกีริมด่าทงมีทางสายตาว่า “นังสารเลว… นังสตอ” เมื่อเห็นเธอคุยกับจีอา หลานสาวผู้น่ารัก

ตัดภาพมาที่พันมุนโฮที่กำลังตามง้อเยจองให้กลับบ้าน เมื่อได้รู้ข่าวจากซงวอนว่าเยจองอยู่ที่บ้านของเธอ เขาจึงรีบเดินทางไปทันที

จังหวะที่พันมุนโฮมาที่บ้านซงวอนนั้น เธอกำลังออกไปสอนภาษาจีนพอดี พันมุนโฮเดินเข้ามาคุกเข่าบนพื้นต่อหน้าเยจองที่นั่งอยู่บนโซฟา เขาถอดอีโก้และความหยิ่งผยองของเขาออกทั้งหมดแล้วกล่าวกับภรรยาว่า “ผมทำผิดไปแล้ว ผมจะขอโทษอยู่แบบนี้จนกว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้น” พันมุนโฮโค้งตัวแทบหัวจะถึงพื้น แสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกผิดอย่างแท้จริง “ผมรู้ว่าทำแบบนี้ไม่สามารถทำให้คุณคลายความอึดอัดที่สั่งสมมานานนับสิบปีได้ … ผมไม่รู้ว่าเราจะอยู่ได้อีกกี่ปี แต่ผมจะพยายามอย่างเต็มที่ด้วยใจของผม ให้อภัยผมสักครั้งนึงนะครับ” และสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อพันมุนโฮหลังน้ำตาลูกผู้ชายออกมา ซึ่งเขาบอกว่ามันเป็นน้ำตาแห่งความสำนึกผิด

แล้วทุกอย่างก็ลงเอยด้วยดี เมื่อสุดท้ายแล้วเยจองก็ยอมใจอ่อน หลังจากนั้น พฤติกรรมของพันมุนโฮก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว จากที่เป็นคนชอบข่มภรรยา ในตอนนี้กลับเอาใจภรรยาแทบทุกกระเบียดนิ้ว

พันมุนโฮกับเยจองพาซงวอนมาทานอาหารที่ร้านอาหารโซแบคซานหลังจากพาเธอไปตรวจครรภ์ตามนัด แต่ช็อตนรกก็เกิดขึ้น เมื่อซาฮยอนมาสั่งอาหารกลับบ้านที่ร้านอาหารแห่งนี้พอดี แล้วเขาก็บังเอิญได้เจอกับซงวอน ทำให้เขาได้เข้ามาร่วมโต๊ะกับพ่อแม่และซงวอนโดยบังเอิญ แต่ไม่แค่นั้น เพราะฮเยรยองก็มาที่ร้านโซแบคซานเช่นเดียวกัน เมื่อเข้ามาที่ร้านพนักงานก็บอกว่าซาฮยอนนั่งอยู่ในห้องส่วนตัว

ฮเยรยองเปิดประตูเข้ามา ทุกคนต่างตกอยู่ในภาวะตกตะลึง โดยเฉพาะซาฮยอน ฮเยรยองตรงเข้าไปจิกผมซงวอนด้วยความโกรธระดับสิบ แล้วหันไปหาพันมุนโฮกัยเยจอง “นี่หลอกฉันกันทั้งบ้านเลยเหรอ !!!” แต่ก่อนที่ฮเยรยองจะสติแตกมากไปกว่านี้ พันมุนโฮได้มาเตือนสติของเธอ สุดท้ายจึงหาทางออกด้วยการให้กลับไปคุยกันที่บ้าน

ฮเยรยองสอบปากคำซงวอนด้วยความโกรธ “คุณดูมีอายุแล้วนะ อายุเท่าไรถึงได้มาเล่นชู้กับผู้ชายที่แต่งงานแล้ว !!?”

EP.8 คนไข้วีไอพีห้องหมายเลขสาม

ฮเยรยองเผชิญหน้ากับซงวอนพร้อมด้วยซาฮยอน, พันมุนโฮ และเยจอง ด้วยความโกรธเธอจึงพยายามซักไซ้ไล่เลียงซงวอนด้วยคำพูดที่ทิ่มแทง ถามถึงเหตุที่ทำไมซาฮยอนถึงไปหลงรักผู้หญิงแก่คราวป้า แต่ในท้ายที่สุด ซงวอนก็เอ่ยคำพูดที่แสดงให้เห็นว่าเธอเองที่เป็นคนผิดทั้งหมด และขอโทษฮเยรยองด้วยใจจริง ทำให้สถานการณ์ลดระดับความตึงเครียดลง …

“เรื่องของเรื่องมันเป็นเพราะฉันหย่ากับอดีตสามีเพราะฉันไม่สามารถมีลูกให้เขาได้ พอฉันได้เจอคุณทนายพัน (ซาฮยอน) ที่ยิม เขาดูบริสุทธิ์และไร้เดียงสามาก มันทำให้ฉันคิดอยากจะทดสอบว่าที่มีลูกไม่ได้มันเป็นปัญหาที่ตัวฉันหรือเปล่า ? … ความจริงฉันเข้าหาเขาด้วยเจตนานั้น แล้วฉันก็ตั้งท้องราวกับปาฏิหาริย์ แค่ครั้งเดียวถึงคุณจะไม่เชื่อก็เถอะ จากนั้นฉันก็เลยขอจบ” ซงวอนยอมรับความผิดทั้งหมดเอาไว้ที่ตัวเอง

แล้วซงวอนก็กล่าวขอโทษฮเยรยอง “ขอโทษค่ะ ทั้งหมดเป็นความเห็นแก่ตัวของฉันเอง จริง ๆ แล้วฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าภรรยาเขากับคุณบูฮเยรยอง ฉันจะใช้ชีวิตด้วยความสำนึกผิดต่อคุณบูฮเยรยองไปตลอดชีวิตค่ะ” คำพูดของซงวอนที่เอ่ยออกมาทุกคำพูด แม้แต่คนที่โกรธจนเลือดขึ้นหน้าอย่างฮเยรยองก็ยังยอมที่จะลดระดับความโกรธของตัวเองลง

เช้าวันถัดมาที่โรงพยาบาลกลางชิน ในการประชุมของแพทย์ ยูชินได้รับรายงานเรื่องอามีที่วอร์กอินเข้ามาขอแอดมิตด้วยความสมัครใจ ยูชินจึงสั่งให้พยาบาลย้ายอามีไปอยู่ห้องวีไอพี โดยอ้างว่าเธอเป็นลูกสาวของเพื่อนที่อยู่ที่อเมริกา

ซึ่งจังหวะเดียวกันนั้นเอง น้าของซาพียองเดินทางมาจากฟิลิปปินส์ เมื่อมาถึงก็พบแม่ของซาพียองนอนหมดสติอยู่บนโซฟา เธอจึงให้ผู้ดูแลโทร. เรียกรถฉุกเฉินเพื่อนำตัวเธอแอดมิตเข้าโรงพยาบาลกลางชินโดยด่วน

เมื่อซาพียองได้รับข่าวร้ายของแม่ เธอก็รีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลทันที แล้วจังหวะนรกก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ณ ตอนนั้น เมื่อซาพียองได้รับการบอกเล่าจากพยาบาลว่ายูชินกำลังอยู่กับคนไข้ที่ชื่ออามีที่ห้องวีไอพี ซาพียองจึงเดินตามไป และเมื่อมาถึงหน้าห้อง ภาพที่เธอเห็นเมื่อมองลอดผ่านกระจกที่ประตูก็ทำให้เธอถึงกับสตั๊นไป ยูชินกอดอยู่กับอามี !!!

เหมือนโลกทั้งใบแหลกสลายลงไปกับตา ซาพียองเกิดอาการวิงเวียนและเป็นลมไม่ได้สติอยู่ที่ทางเดินนั้นเอง … ยูชินดูแลอาการของซาพียองอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเธอได้สติฟื้นขึ้นมา ซาพียองถามยูชินด้วยคำถามที่เขากลัวมาตลอดเวลา …

“อามีคือใคร ? คนไข้วีไอพีห้องหมายเลขสาม”

EP.9 สภาวะพูดไม่ออก

ซาพียองบอกกับยูชินว่าเคยเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องนั้น เธอเห็นยูชินกับอามีกอดกัน ยูชินยอมรับสภาพว่าความผิดทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเขา ขอเสียงบอกว่าจะยอมทำทุกอย่างตามที่เราต้องการ ซาพียองเอ่ยออกไปอย่างไม่ลังเลว่า “หย่ากัน” ซึ่งยูชินก็ยอมตามที่เธอต้องการแบบง่าย ๆ !

แต่ทั้งหมดที่ว่าไปข้างต้นนั้น เป็นเพียงแค่สิ่งที่ซาพียองคิดอยู่ในหัวเท่านั้น ความเป็นจริงแล้วเธอได้แต่นอนนิ่งบนเตียงผู้ป่วยอยู่อย่างนั้น และยิ่งเมื่อได้รู้ว่าแม่ของเธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่เนื้อร้ายได้ลุกลามไปทั่วร่างเกินกว่าจะเยียวยารักษาได้ ยิ่งทำให้เธอยิ่งช็อกหนักจนเกินภาวะที่เรียกว่า “พูดไม่ออก” (คือไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาเป็นคำพูดได้)

ยูชินอธิบายว่า สภาวะพูดไม่ออกของซาพียองนั้น เกิดมาจากการช็อก เพราะเธอรู้สึกผิดที่ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยดูแลแม่ของตัวเองเลย ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีทางรักษานอกจากให้หายเอง

แต่สิ่งที่ทำให้ยูชินแปลกใจก็คือว่า ซาพียองไปยอมสบตากับเขา หรือแม้แต่ให้แตะต้องตัว ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แปลกมาก

นัมกาบินชวนพัคแฮรยอนไปเยี่ยมอามี จึงทำให้ต่อมเผือกของพัคแฮรยอนทำงาน เมื่อได้รู้ว่าอามีเป็นเพื่อนรุ่นน้องของนัมกาบิน เขาจึงนำเรื่องนี้ไปบอกกับชีอึน เพื่อให้ไปบอกกับซาพียองอีกทอดหนึ่ง … ชื่อที่ใช้ในวงการของอามีคือ “ซาบีนา” ซึ่งเป็นชื่ออเมริกันของเธอ

ในคืนนั้น ระหว่างที่ทงมีนอนอยู่กับจีอาอยู่ที่บ้าน ผีกีริมไม่รู้นึกครึ้มอะไร เดินมาตบหน้าทงมีที่กำลังนอนอยู่เพื่อระบายความโกรธ แต่มันเหมือนกับตบลมก็เท่านั้น (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร)

คืนนั้น ซาพียองหวนคิดถึงวันที่เธอทำไม่ดีกับแม่ พูดจาร้าย ๆ กับแม่ มันทำให้เธอแทบหัวใจสลาย น้ำตาเธอไหลออกมาไม่หยุด เธอนอนกอดแม่ที่นอนไร้สติและกำลังจากไปอยู่อย่างนั้น เธอบอกรักแม่และขอให้แม่ยกโทษให้เธอ และทุกอย่างก็กลายเป็นอดีตไปหมดแล้ว เมื่อสัญญาณชีพจรของแม่เธอหมดลง !!!

ลูกสาวที่ร้ายกับแม่มาทั้งชีวิต จวบจนวินาทีสุดท้ายของแม่ถึงจะได้มีโอกาสบอกรักแม่ มันเป็นอะไรที่คำว่าเสียใจสักร้อยครั้งก็ไม่อาจแทนความรู้สึกของซาพียองตอนนี้ได้

EP.10 เมียหลวงลวงสังหาร !

หลังจากซาพียองสูญเสียแม่ของเธอไป ทำให้เธอดำดิ่งลงไปสู่ห้วงแห่งความทุกข์อย่างหาที่สุดไม่ได้ เพราะเธอรู้ดีว่ายิ่งเธอเสียใจมากแค่ไหน ตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่จะต้องเสียใจมากกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า ยังไม่นับเรื่องที่เธอได้รู้ว่ายูชินมีชู้เป็นสาวสวย มันยิ่งทำให้เธอจมอยู่กับด้านมืดของชีวิตแต่งงาน เธอนอนร้องไห้ออกมาไม่หยุด ร้องอยู่อย่างนั้น

วันรุ่งขึ้น ซาพียองตัดสินใจไปดูหน้าอามีที่โรงพยาบาล เมื่อเธอเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบอามีนอนหลับอยู่ ซาพียองยืนมองนานหน้าหญิงสาวที่เป็นชู้กับสามีเธอนานนับนาทีก่อนที่จะเดินออกไป เธอพยายามควบคุมอารมณ์เพื่อกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา ก่อนที่จะไปปลดปล่อยมันบนรถของเธอ มันเป็นความโกรธที่โดนสามีโกหกและหักหลัง ก่อนกลับบ้านเธอแวะไปเอาคำร้องฟ้องหย่าและสิทธิการเลี้ยงดูลูก

เมื่อซาพียองกลับมาถึงบ้านก็บอกกับยูชินว่าเธอต้องการให้จีอาไปเรียนต่อที่แอลเอ แล้วเธอจะลาออกจากงานเพื่อไปอยู่กับจีอาที่นั่น แต่ยูชินไม่เห็นด้วย เขาอ้างเรื่องครอบครัวต้องอยู่พร้อมหน้ากัน และเน้นเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวต้องมาเป็นอันดับแรก

เมื่อข้อเสนอแรกไม่ได้รับการตอบสนอง ซาพียองจึงบอกให้ยูชินช่วยขับรถพาเธอไปส่งหน่อย เมื่ออยู่บนรถซาพียองจึงเผยความจริงกับยูชิน “ไปบ้านอามี ฉันโทร. ไปเช็กมาแล้ว เผื่อคุณจะยังไม่รู้ว่าเธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว” ยูชินตกใจหน้าเหลือสองนิ้ว !

ยูชินแน่นิ่งไปเหมือนโดนสะกดจิต เขาสตั๊นอยู่นานหลายวินาที จนกระทั่งซาพียองย้ำเสียงแข็งโดยความโกรธออกมาอีกครั้ง “จะไปที่บ้านอามีหรือไปที่ศาล ถ้าไม่ไปที่นั่นก็ไปที่ศาลฉันจะไปยื่นฟ้าขอหย่า … คุณก็รู้จักนิสัยฉัน มีแค่สองทางเลือกเท่านั้น เลือกเอา” มาถึง ณ จุดนี้ ยูชินจึงบอกว่าเขาจะจัดการเรื่องให้เธอไปอยู่แอลเอกับจีอา แต่ซาพียองกลับบอกว่ามันเลยจุดนั้นมาแล้ว “ฉันยื่นทางเลือกให้คุณแล้ว แต่คุณไม่รับมันเอง มาถึงตอนนี้มันหมดโอกาสแล้วล่ะ”

ในที่สุดยูชินก็ต้องยอมขับรถไปที่พักของอามีอย่างไม่มีทางเลือก ซาพียองแสดงสีหน้าที่เรียบเฉยเหมือนพยายามควบคุมอารมณ์ความรู้สึกตลอดเวลาที่อยู่บนรถจนมาถึงอพาร์ตเมนต์ของอามี …

“ภรรยาของชินยูชินค่ะ” ซาพียองทักทายอามีที่สีหน้าออกอาการเหวออย่างเห็นได้ชัด จากนั้นทั้งสามคนก็นั่งบนโซฟาที่ห้องรับแขก …

“คุณอามี คุณเป็นอะไรกับสามีของฉันคะ ?”
อามีตอบว่า “เราเป็นคนรักกันค่ะ”
ซาพียองหันไปถามยูชินด้วยคำถามเดียวกันแต่ไม่มีคำตอบกลับมา
“แล้วคุณอามีอายุเท่าไรแล้วคะ ?”
“ถ้าอายุเกาหลีก็ 29 ปีค่ะ”
“อายุห่างกัน 16 ปีเลยนะคะ !” ซาพียองเบือนหน้าไปทางยูชินแล้วพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก เพื่อแสดงออกถึงการประชด “คุณนี่มันน่าอิจฉาจริง ๆ”

แล้วซาพียองก็เล่าเรื่องที่เธอได้เจอกับอามีตอนที่ถ่ายหนังที่หน้าสถานีที่เธอทำงาน “ตอนนั้นฉันถามว่าได้เสื้อบุนวมตัวนั้นมาจากไหน คุณตอบว่าแฟนให้มาเป็นของขวัญ มันช่างบังเอิญจริง ๆ เลยนะคะ แฟนคุณคนนั้นที่แท้ก็คือสามีของฉันเอง”

“แล้วนอกจากเสื้อบุนวมคุณยังได้อะไรอีกคะ ?”
อามีก็ตอบไปแบบอินโนเซนส์ “กระเป๋า รถเบนซ์ ดอกไม้ น้ำหอม”
ถึงคราวที่ซาพียองช็อกบ้างเมื่อได้รู้ว่ายูชินประเคนรถเบนซ์ให้อามี ก่อนที่จะพูดออกไปว่า “คุณอามีคงจะรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นผู้ชายหวาน ๆ งั้นรับไปอยู่ด้วยเลยนะคะ ไม่ต้องห่วง ฉันจะดำเนินการเรื่องเอกสารให้เร็วที่สุด แล้วไม่ต้องออกมาส่งนะคะ อยู่คุยวางแผนอนาคตให้ซาบซึ้งกันไปเลยค่ะ” !!!

ยูชินรีบตามซาพียองออกไป จนไปทันก่อนที่เธอจะขึ้นแท็กซี่ ทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชากกันก่อนที่ซาพียองจะเอ่ยคำที่ไม่เคยออกจากปากเธอมาก่อน “ไอ้ขยะ !!!” คำพูดเดียวแต่มันรุนแรงเหมือนยูชินโดนหมัดซ้ายของเขาทรายแล้วต่อด้วยหมัดขวาของไมค์ไทสันเข้าที่เบ้าหน้า … ส่วนซาพียองร้องไห้บนแท็กซี่มาตลอดทาง ไม่ว่าผู้หญิงจะแกล้งแค่ไหน ณ จุดนี้ก็ต้องมีน้ำตา

ซาพียองมาถึงบ้านแล้วก็เล่าที่เกิดขึ้นกับทงมี เมื่อทงมีรู้ว่ายูชินมีชู้ก็แทบไม่เชื่อหูตัวเอง เธอโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟ ว่าที่จริงโกรธจนออกนอกหน้าซาพียองที่เป็นภรรยาเสียอีก

ยูชินคิดแผนการแก้ปัญหา เขาบอกกับอามีให้ช่วยเขาแก้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้อามีไปที่บ้านเขาเพื่อไปบอกกับซาพียองว่าจริง ๆ แล้วเขาและเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน

ยูชินพายูชินมาที่บ้าน แต่สิ่งที่ได้รับการต้อนรับเป็นอันดับแรกคือความโกรธเกรี้ยวของทงมีที่ลุกขึ้นไปจิกผมอามี จนยูชินต้องเข้ามาห้าม

“ขอโทษค่ะ ทั้งหมดเป็นเพราะฉันเอง ฉันเป็นคนเกาหลีที่โตในอเมริกา เมื่อกลับมาเกาหลีก็ไม่รู้จักใครเลยต้องขอความช่วยเหลือจาก ผอ. ค่ะ เรื่องที่ฉันพูดไปเมื่อกี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดเพราะไม่พอใจที่คุณเข้ามาอย่างกะทันหัน เลยแกล้งตอบไปอย่างนั้น เป็นเพราะความโกรธค่ะ จริง ๆ แล้วความสัมพันธ์ของเราเป็นเหมือนพี่ชายกับน้องสาว” อามีพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนที่ซาพียองจะบอกให้เธอหันมาสบสายตา “ก็พ่อแม่มายืนยันไหมคะ ?” อามีตอบยืนยันโดยไม่ลังเล … แต่

ซาพียองมาเหนือกว่า โดยการขอดูชื่อของยูชินที่บันทึกเอาไว้ในโทรศัพท์ เมื่อมาถึงนะจุดนี้ แผนเกิดแตกซะแล้ว ทันใดนั้นเอง ทงมีก็คว้าแก้วเหล้าสาดใส่หน้าของอามี ก่อนจะคว้าขวดเหล้าทำท่าจะตีอามีด้วยความโกรธ !!!

EP.11 เริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง

ซาพียองขอดูชื่อของยูชินที่บันทึกเอาไว้ในโทรศัพท์อามีเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ อามีกำลังจะหยิบโทรศัพท์ให้แต่ยูชินบอกว่าการดูโทรศัพท์ของคนอื่นเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เขาจึงห้ามอามีและบอกให้เธอกลับบ้านไป จังหวะนี้คนที่เสียอาการกลับไม่ใช่ซาพียอง หากแต่เป็นทงมีที่คว้าเอาขวดเหล้าขึ้นมากะจะฟาดใส่อามี แต่เดชะบุญที่ยูชินเข้ามาขวางเอาไว้ทัน

“ถ้าไปคือการยอมรับว่าเป็นชู้ ควรเปิดโทรศัพท์ให้ดูเพื่อให้หายเข้าใจผิดสิ เพราะถ้าเป็นฉันคงเปิดให้ดูไปแล้ว” ซาพียองพูดด้วยน้ำเสียงและสายตาที่อยากจะเชื่อในสิ่งที่อามีแก้ตัวมาทั้งหมด เธอเพียงต้องการหลักฐานยืนยัน แต่ดูเหมือนสิ่งที่ซาพียองต้องการมันไม่เกิดขึ้น เมื่อยูชินยืนยันจะให้อามีกลับบ้านไป

จังหวะนั้นเอง ทงมีก็โพล่งขึ้นมาว่า “ฉันเคยเชื่อว่าต่อให้ผู้ชายทั้งโลกเป็นพวกโง่เง่าแต่ไม่ใช่กับยูชินคนนี้ นายไม่ควรทำอย่างนี้เลย ฉันสั่งสอนนายมาตลอด โลกนี้จะหาผู้หญิงแบบแม่จีอาได้จากไหนอีก” จากนั้น ยูชินก็เข้าไปเก็บกระเป๋า แล้วบอกว่าไปอยู่ที่บ้านย่านพยองชางสักพัก

ทงมีเองที่ลึก ๆ แล้วก็หวังให้ทั้งคู่เลิกกัน แต่จิตใจส่วนดีก็ทำหน้าที่ในการโน้มน้าวให้ซาพียองดึงยูชินเอาไว้ โดยให้เหตุผลเรื่องความรู้สึกของจีอาที่เพิ่งเสียคุณยายไป ถ้าต้องมารู้ว่าพ่อแม่หย่ากันอีกจิตใจต้องบอบช้ำมาก

ระหว่างนั้น ความซับซ้อนก็เพิ่มเข้ามาอีกเมื่อแม่ของอามีบินตรงมาจากอเมริกา เพื่อจะพาโจอุงไปพบหน้าลูกสาว (อามี) เป็นครั้งแรก แต่การนัดพบกันครั้งนี้ทำให้โจอุงจับได้ว่าอามีกับยูชินคบกัน เรื่องราวมันก็เลยไปกันใหญ่ เมื่อพ่อที่ไม่เคยทำหน้าที่พ่อ จู่ ๆ ก็มาทำหน้าที่พ่อหลังจากเวลาผ่านไปนานหลายสิบปี

โจอุงไปดักรอยูชิน แล้วตะบันหน้าใส่รัว ๆ ไปหลายหมัดด้วยความโกรธ ในขณะที่ยูชินได้รู้ความจริงที่โจอุงเป็นพ่อของอามีก็ได้แต่กล่าวขอโทษ พร้อมทั้งแนะนำว่าอย่าเอาเรื่องนี้ไปคุยกับอามี เพราะสภาวะจิตใจของเธอไม่มั่นคง เพราะก่อนหน้านี้เธอทำร้ายตัวเองด้วยการเอาเศษแก้วกรีดข้อมือจนต้องเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว

ยูชินเองก็พยายามเดินเกมขอคืนดีกับซาพียองอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการไปขอให้ชีอึนเป็นตัวกลางช่วยพูดให้ เพราะแท้จริงแล้วเขารักครอบครัวมากกว่าอามี ที่เขามองว่าเป็นความอยากรู้อยากลองมากกว่าจะเรียกว่าความรัก

ตัดภาพมาที่คู่ของซาฮยอนกันฮเยรยอง หลังจากที่มีช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันและเปิดใจกัน ทำให้พวกเขาได้เห็นส่วนดีของอีกฝ่ายในช่วงเวลาที่ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน จนนำพาไปสู่การตกลงที่จะเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง

ในตอนท้าย ซาพียองที่แสดงท่าทีว่าต้องการหย่ามาตลอด ก็ไปหายูชินที่โรงแรมที่เขาไปว่ายน้ำแล้วโทร. นัดให้เขามาเจอกันที่บุฟเฟต์ของโรงแรม ระหว่างที่นั่งรออยู่นั้น สายตาของเธอก็มองไปเห็นคู่รักคู่หนึ่งที่ดูท่าทางมีความสุขกำลังมานั่งรับประทานอาหารกัน … ทิ้งคำถามเอาไว้ให้ติดตามว่าซาพียองกำลังตัดสินใจทำอะไรต่อไป ?

EP.12 ประตูสู่การหย่าร้าง

ซาพียองนัดเจอกับยูชินที่บุฟเฟต์ของโรงแรมที่เขาไปว่ายน้ำ ยูชินมีท่าทีดีใจเป็นพิเศษเพราะเขาเข้าใจว่าซาพียองมีท่าทีอ่อนลง เขาตักอาหารทานด้วยท่าทางผ่อนคลายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบหลายวัน แต่ทุกอย่างก็หักมุมจนยูชินโยนช้อนอาหารลงบนจาน เมื่อซาพียองเอ่ยขึ้นมาว่า “วันนี้เราจะไปศาลกัน”

ยูชินคิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะเอ่ยขอเวลาให้เขา 3 ปี หลังจากนั้นถ้าซาพียองยังไม่เปลี่ยนใจเขาก็จะหย่าให้ “ตลอด 13 ปีที่แต่งงานกันมาผมไม่เคยทำผิดร้ายแรงยกเว้นครั้งนี้ ต่อให้คุณไม่เชื่อ แต่ยังไงมันก็คือความจริง” แต่ไม่ว่ายูชินจะยกคำสาบานต่อสวรรค์ ซาพียองก็ไม่รับฟัง เธอไม่ต้องการเห็นหน้าหรือแม้แต่ได้ยินเสียงเขาอีกต่อไป เพราะทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องโกหก

จากนั้น ซาพียองก็นั่งรถเบนซ์ของยูชินเพื่อจะไปศาล แต่ยูชินกลับออกนอกเส้นทาง ขับตรงกลับมาที่บ้าน

และหลังจากนี้ก็จะเป็นฉากไดอาล็อกภายในห้องรับแขกความยาว 1 ชั่วโมงกว่า ๆ ของซาพียองกับยูชิน …

ยูชินลงไปคุกเข่าต่อหน้าซาพียอง “ยกโทษให้ผมเถอะ ผมทำผิดมหันต์ … ความผิดพลาดต้องยอมรับและแก้ไขทันทีสิถึงจะถูก จะมาแตกหักและหย่าร้างกันแบบนี้มันถูกแล้วเหรอ ระหว่างเรายังมีจีอาอยู่นะ ต้องรับผิดชอบในฐานะพ่อแม่ให้ถึงที่สุด”
ซาพียองตอกกลับ “การเล่นชู้คือหน้าที่ของผู้ปกครองสินะ !”
“ผมเป็นพ่อและก็เป็นมนุษย์ผู้ชายด้วย จะให้ทำทุกอย่างถูกต้องเป๊ะ ๆ ได้ยังไง มันเป็นเพราะผมอยากรู้อยากลอง แต่มันเป็นความผิดพลาดที่ผมรู้สึกละอาย ถึงได้ยอมทิ้งศักดิ์ศรีมาอ้อนวอนต่อหน้าคุณนี่ไง”
“แต่แก้วที่มันร้าว ถึงคุณจะใช้กาวซ่อมมันให้รูปทรงกลับมาเหมือนเดิม แต่คุณจะลบรอยร้าวมันออกได้ยังไง”
“ผมจะยกทรัพย์สินทุกอย่างที่คุณ”
“ทำอย่างนั้นแล้วบาดแผลและความรู้สึกที่ถูกต่างๆจะหายไปเหรอ”
“แม้ทรัพย์สินจะชดเชยกับบาดแผลไม่ได้ แต่มันก็บอกว่าผมรักคุณมากแค่ไหน”
แต่ไม่ว่ายูชินจะมาไม้ไหน ซาพียองก็ปฏิเสธ !

ช่วงหนึ่ง ซาพียองเล่าย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ในวันนั้น “ฉันแทบไร้สติเมื่อได้รู้ว่าแม่ป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล ฉันโดนน้าด่าและตบหน้าจนฉันลงไปนั่งกับพื้น จากนั้นฉันก็พยายามโทร. หาคุณแต่ก็โทรไม่ติด ฉันเลยถามพยาบาลว่าคุณอยู่ที่ไหน ฉันจะได้รู้ว่าคุณอยู่ห้องวีไอพีของอามี ด้วยความที่อยู่ชั้นเดียวกันฉันเลยเดินไปหา พอไปถึงฉันก็เห็นคุณกอดอยู่กับคนไข้ผู้หญิงผ่านช่องกระจกประตู ฉันตกใจมาก ระหว่างที่เดินออกมาก็คิดมาตลอดว่าอาจจะดูผิด ตอนนั้นเองหัวฉันก็หมุนติ้ว และขาก็หมดเรี่ยวแรงจนทรุดลงไปนั่งกับพื้น ตอนนั้นมันเป็นร่างกายมันไม่ทำตามความคิดของฉัน แล้วคุณก็เดินออกมาจากห้องคนไข้ห้องนั้น แล้วภาพก็ตัดไป”

ศาพียองเล่าต่อทั้งน้ำตา “พอฟื้นขึ้นมาอีกทีก็เห็นคุณรอนบนเตียงด้วยใบหน้ามีความสุข ในตอนนั้นฉันจะเอ่ยปากพูดถามถึงอาการของแม่ แต่มันพูดไม่ออก เรียกว่าช็อกยังน้อยไป ฉันไม่เคยคิดสงสัยคุณเลยสักครั้ง ฉันนึกสงสัยว่าทันเกิดเรื่องแบบนี้กับคุณได้ยังไง เพราะสำหรับฉันคุณคือผู้ชายที่มีความรับผิดชอบทุกอย่าง ไม่เคยพูดจาร้ายสักครั้ง แถมยังเป็นคนอ่อนโยนเสมอ … แม่ฉันกำลังจะตาย และหญิงชู้ของสามีก็นอนอยู่ห้องถัดไป !!!”

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดยูชินก็ยอมหย่าให้ และแม้ซาพียองจะไม่ขอทรัพย์สินอื่นนอกจากแค่ค่าเล่าเรียนของจีอา แต่ยูชินก็ยินดีจะแบ่งทรัพย์สินให้เธอ

ก่อนทั้งคู่จะออกไปศาล ยูชินได้คุกเข่าทั้งน้ำตาเอ่ยความรู้สึกของเขาออกมา “อย่างน้อยผมก็ควรดูแลแม่ของคุณให้ดีกว่านี้ ไปเยี่ยมท่านบ่อย ๆ แต่ผมกลับเอาเวลาไปหาอามี จากนี้ไปผมคงต้องรับโทษนั้น ผมเป็นลูกเขยแม้แต่โทร. ไปยังไม่เคย ยังไม่นับกับที่คุณก็ไม่ติดต่อ แล้วอย่างนี้ท่านจะทำยังไง นี่แหละที่เป็นสาเหตุที่ทำให้อาการท่านทรุดลงอย่างรวดเร็ว”

จากนั้น ยูชินก็ขอร้องให้ซาพียองวสัญญากับเขาเรื่องเดียว ว่าเมื่อไรก็ตามที่เธอประสบกับความลำบากขอให้นึกถึงเขาเป็นคนแรก ซาพียองได้แต่ร้องไห้ออกมาไม่หยุด

ในตอนท้ายทั้งสองก็เดินคู่กันออกจากบ้านเพื่อไปศาล …

EP.13 ตาลปัตรกลับด้าน

อยู่ดี ๆ ก็เกิดสิ่งที่ซาฮยอนไม่คาดคิด เมื่อฮเยรยองขอหย่าขึ้นมาเองดื้อ ๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอมหย่า ไม่เพียงแต่ซาฮยอนเท่านั้นที่แปลกใจกับการตัดสินใจของฮเยรยอง แม้แต่พ่อกับแม่ของเขาต่างก็แปลกใจเช่นเดียวกัน

ฮเยรยองอ้างว่าสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจหย่า ก็เพราะสงสารเขาที่ต้องทนอยู่กับเธอด้วยความอดทน ทั้งที่จริง ๆ แล้วเขาคิดถึงลูกในท้องของซงวอนเป็นอย่างมาก เธอจึงไม่อยากรั้งเขาเอาไว้อีกต่อไป

การหย่าในครั้งนี้ ฮเยรยองขอบ้านในย่านเศรษฐีและเงินสดก้อนหนึ่งเพียงแค่นั้น ซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญหา แต่เราได้มารู้เหตุผลที่แท้จริงของเธอในภายหลังว่า เธอมีภาวะมดลูกผิดปรกติทำให้มีลูกยาก (มีลูกไม่ได้) ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกผิด เป็นเพียงแต่เธอไม่อยากบอกความจริงเรื่องนี้ให้ซาฮยอนและครอบครัวของเขารู้ “ในวันที่เขาคลอด ขอฉันไปดูด้วยนะ ฉันอยากเห็นว่าหน้าตาเขาเป็นยังไง” คำพูดที่ออกจากปากของฮเยรยองด้วยน้ำเสียงอันนิ่มนวลถึงซาฮยอน ผู้ซึ่งกำลังจะกลายเป็นอดีตสามีในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

จากนั้น ซาฮยอนก็ไปบอกข่าวที่น่าตื่นเต้นนี้กับซงวอน ทุกคนแฮปปี้ รวมทั้งพ่อแม่ของเขาที่ได้ลูกสะใภ้ในอุดมคติและหลานตัวน้อยมาในเวลาเดียวกัน

ตัดภาพมาที่อามีส่งข้อความไปนัดเจอกับซาพียอง ที่ตอนนี้ได้หย่ากับยูชินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว …

“ถ้าพี่อนุญาต ฉันขอไปอยู่ที่บ้านพี่เขา (ยูชิน) ได้ไหมคะ ?” อามีเอ่ยปากขอกับซาพียองด้วยท่าทีที่ดูไร้เดียงสา
“แต่งงานกันไปเลยสิ”
“พี่เขาไม่คิดจะแต่งงานตอนนี้ค่ะ บอกว่าต้องการเวลา จริง ๆ แล้วฉันไม่เคยไปเที่ยวกับพี่เขาเลย ไม่เคยอยู่ด้วยกันทั้งวันด้วยซ้ำ ฉันเลยอยากลองอยู่บ้านเดียวกันดูค่ะ”
“มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะอนุญาต เพราะตอนนี้มันไม่ใช่บ้านฉันแล้ว ปัญหาของพวกคุณสองคนก็ไปจัดการกันเอง จะอยู่ด้วยกันหรือไม่อยู่ด้วยกันก็แล้วแต่”
“ถ้างั้นฉันถือว่าพี่อนุญาตแล้วนะคะ” อามียิ้มด้วยความดีใจ

จากนั้น อามีก็อารมณ์เหมือนไม่ได้คุยกับใครมานาน เมื่อซาพียองจะกลับ เธอก็พยายามรั้งเอาไว้แล้วหาเรื่องคุยต่อ “พี่เขา (ยูชิน) ไม่ได้ทำตัวเจ้าชู้อะไรเลย พี่เขามีมารยาทและสุภาพมาก ๆ ฉันตกหลุมรักก็เพราะพี่เขาเป็นแบบนี้แหละค่ะ ต่อมาพี่เขาก็เริ่มหวั่นไหวไปกับความรู้สึกของฉัน ฉันรู้สึกผิดจริง ๆ ฉันจะรู้สึกผิดไปชั่วชีวิตค่ะ”

เมื่อได้รับไฟเขียว ในวันเดียวกันนั้นเอง อามีก็เก็บข้าวของเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบใหญ่สองใบไปที่บ้านของยูชิน ท่าทางเธอมีความสุขมาก แต่มันก็ไม่ง่ายขนาดนั้นเมื่อทงมีก็หอบกระเป๋าเพื่อมาอยู่ที่บ้านของยูชินเช่นกัน

เอาล่ะสิ เมื่อทงมีรู้ว่าอามีจะย้ายเข้ามาอยู่ด้วยก็โวยวายไม่ยอม แต่อามีก็ออกลูกไม้ไร้เดียงสาอินโนเซนส์ โดยอ้างว่าซาพียองอนุญาตแล้ว สุดท้ายอามีก็ลงไปทรุดอยู่กับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้ออกมาอย่างกับเด็ก ๆ และเมื่อดูท่าทางทงมีจะใจเย็นแล้ว อามีก็เข้าไปพูดกับทงมี …

“ฉันจะทำให้ดีค่ะ ถึงฉันจะโตที่อเมริกา แต่ฉันก็เห็นคุณแม่ดูแลคุณย่า ฉันรู้ว่าลูกสะใภ้ที่ดีต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง”
ทงมีหัวเราะหึ ๆ “ลูกสะใภ้งั้นเหรอ !?”
“ยอมให้ฉันอยู่ที่นี่เถอะค่ะ จิตใจฉันตอนนี้ทนอยู่คนเดียวไม่ไหวแล้วค่ะ ฉันต้องพึ่งแอลกอฮอล์มาตลอดเลยค่ะ” อามีบิดหน้าบิดตาให้ดูน่าสงสาร
“ให้ตายสิ ! ติดเหล้าด้วยเหรอเนี่ย” แล้วทงมีก็คิดในใจว่าจะลองให้อามีอยู่ แต่เดี๋ยวเธอจะหาวิธีเฉดหัวออกไปทีหลังเอง

อามีอยู่บ้านด้วยความสุขสมหวังที่ได้อยู่กับยูชิน ส่วนทงมีก็อยู่ด้วยความเกลียด และพยายามหาทางบีบให้อามีออกไปจากบ้าน

ในตอนท้าย นัมกาบินกำลังน้ำตาไหลนองหน้าอยู่ที่ห้องแต่งตัวนักแสดง ในขณะที่ซอดงมา (แฟนเก่าของนัมกาบิน) ถือกุหลาบช่อโตเดินทางไปหาเธอ ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากันด้วยความเงียบงันอยู่อย่างนั้น …

EP.14 ไซโคปั่นประสาท

ซอดงมา (แฟนเก่านัมกาบิน) มาชมการแสดงละครเวทีเรื่อง Dracula in Love ที่มีนัมกาบินเป็นนักแสดงนำ หลังการแสดงจบ เขาได้หอบกุหลาบแดงช่อโตมาให้เธอที่ห้องแต่งตัว เขาได้เห็นเธอกำลังร้องไห้ออกมาไม่หยุด … แต่จังหวะนรกก็บังเกิด เมื่อพัคฮเยรยอนก็เข้ามาในห้องแต่งตัวเช่นเดียวกัน ทำให้นัมกาบินต้องเฉไฉแนะนำว่าซอดงมาเป็นแฟนคลับที่ติดตามผลงานมานาน และบอกว่าพัคฮเยรยอนเป็นคู่หมั้นของเธอ

วันต่อมา ซอดงมาจึงได้นัดเจอกับนัมกาบิน ทำให้เขาได้รู้ว่าสิ่งที่ทำให้เธอเสียใจเป็นเพราะเมื่อวานเธอเพิ่งรู้ข่าวร้ายของพ่อแม่ที่ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต แต่เธอเดินทางไปงานศพไม่ได้เนื่องจากเธอเป็นนักแสดงนำ ซอดงมาโอบกอดเธอไว้ด้วยความละมุน “เข้มแข็งเอาไว้นะ ขนาดเมื่อวานคุณยังสามารถแสดงได้จนจบ บางทีพ่อแม่ของคุณอาจจะดูอยู่ก็ได้”

ส่วนทงมีก็เอือมกับนิสัยเด็ก ๆ ของอามีเต็มทน จึงเดินเกมไซโคปั่นประสาทว่ายูชินกำลังจะกลับไปคืนดีกับซาพียอง …

“คู่แต่งงานที่เพิ่งเลิกกันไม่นานกลับมาคืนดีกันมีเยอะแยะไป” ทงมีเริ่มจั่วหัว “เหตุผลที่ทำให้ผู้ชายนอกใจมีสองอย่าง ถ้าไม่เบื่อภรรยาที่อยู่ด้วยกันมานาน ก็แค่อยากรู้อยากลองเพื่อความบันเทิงทางเพศ”
“พี่เขา (ยูชิน) ไม่ได้คบกับฉันเพื่อความบันเทิงหรอกค่ะ พี่เขารักฉันจริง ๆ ค่ะ” อามีตอบกลับไปด้วยแววตาใสซื่อ
“ตอนแรกเขาคงรู้สึกสดชื่นเพราะเห็นเธอเป็นของแปลกใหม่ แต่พออยู่ไปนาน ๆ ผู้หญิงก็เหมือนกันทุกคนนั่นแหละ”
“จริง ๆ แล้วคุณแม่ (ทงมี) ก็เป็นภรรยาคนที่สองไม่ใช่เหรอคะ” อามีออกคำพูดจิกกัดแต่ก็ยังคงแววตาที่ไร้เดียงสา
“ภรรยาคนที่สองกับเมียน้อยมันต่างกัน ฉันเป็นภรรยาคนที่สองก็จริงแต่ว่าแต่งงานกันอย่างเป็นทางการ แต่ตอนนี้เธอคือเมียน้อย เพราะความจริงแล้วในตอนนี้ในทางกฎหมายเธอก็ยังเป็นเมียน้อยอยู่ดี !” ทงมีเยาะเย้ยด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก

แต่สรุปสุดท้าย งานปั่นประสาทของทงมีครั้งนี้ท่าทางจะเหลวเป๋ว เมื่อยูชินกลับมาถึงบ้านพร้อมเอ่ยกับอามีตรง ๆ ว่าไปหาจีอากับซาพียองมา ทำเอาอามียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะยูชินไม่ได้เป็นอย่างที่ทงมีพยายามไซโค

ตัดภาพมาที่คู่ของฮเยรยองกับซาฮยอน วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ทั้งคู่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เธอไปทานข้าวกับอดีตสามีและพ่อแม่ของเขา การจากลากันครั้งนี้เป็นไปอย่างชื่นมื่น … แต่

ที่แท้แล้วทุกอย่างมันเป็นแผนของฮเยรยองที่จะเอาคืนซาฮยอน เมื่อไม่กี่วันหลังจากนั้นเธอก็จัดแถลงข่าวเพื่อเผยเรื่องที่เธอหย่าร้างแล้ว เนื่องจากเหตุผลที่สามีของเธอไปมีชู้ ฮเยรยองร้องไห้ออกมาไม่หยุด พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นการทิ้งบอมบ์ใส่ซาฮยอน เพื่อให้นักข่าวไปขุดคุ้ยเรื่องราวต่อ พร้อมทั้งใช้วิธีให้สังคมไปกดดันเขา จนทำให้สำนักงานกฎหมายที่ซาฮยอนทำงานอยู่กดดันให้เขาลาออกเพื่อรักษาชื่อเสียงขององค์กร ในทางกลับกันก็เป็นการเรียกคะแนนสงสารเพื่อเพิ่มความนิยมให้กับตัวเธอได้เป็นอย่างดี

ณ จุดนี้ เราได้รู้ว่าหลังเลิกกับสามี ทั้งซาพียองและฮเยรยองต่างก็เล็งซอบันเป็นว่าที่สามีคนต่อไปเหมือนกัน

ในตอนท้าย ระหว่างที่ซาพียองกับซอบันกำลังนั่งรอเวลาเข้าไปดูการแสดงละครเวทีเรื่อง Dracula in Love ของนัมกาบิน ด้านยูชินกับอามีก็มาดูละครเวทีเรื่องนี้เช่นกัน มันกลายเป็นสถานการณ์ที่อึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เมื่อยูชินเห็นซาพียองอยู่กับชายอื่นด้วยท่าทางสนิทสนม เขาจึงเดินปรี่เข้าไปด้วยความหึงหวง !?

EP.15 แต่งงานกับผมนะ

ยูชินกับอามีบังเอิญมาเจอซาพียองกับซอบันที่งานแสดงละครเวทีเรื่อง Dracula in Love ยูชินกับซาพียองทักทายกันด้วยดี ก่อนที่ซาพียองจะยื่นแก้วกาแฟให้อามีด้วยรอยยิ้ม (กาแฟแก้วที่ตั้งใจจะซื้อให้ชีอึน แต่เธอไม่มา)

หลังจากยูชินกับอามีเดินจากไปแล้ว ซอบันถามซาพียองว่าเธอชอบอัญมณีชนิดไหน ซาพียองตอบแบบไม่คิดเลยว่าเพชร แต่ซอบันเล่าให้ฟังว่าแม่เขาชอบมุก เขาเปรียบเทียบว่าไม่จำเป็นว่าผู้ชายทุกคนต้องชอบผู้หญิงสาวและสวยกว่าเสมอไป คุยไปคุยมาซาพียองก็น้ำตาไหลออกมา เมื่อเรื่องอัญมณีที่ซอบันเล่าเพื่อเปรียบเทียบไปตรงกับชีวิตจริงของเธอ

เมื่อถึงเวลาการแสดงก็ให้บังเอิญว่าทั้งสองคู่ได้นั่งอยู่ไม่ห่างกัน เมื่อยูชินเห็นซาพียองกับซอบันนั่งด้วยกันก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา ยิ่งเมื่อระหว่างทางกลับบ้านอามีพูดปั่นประสาทขึ้นมาอีก ก็ยิ่งทำให้ยูชินยิ่งหึงหนักเข้าไปอีก “ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่เขาถึงหย่าโดยที่ไม่รู้สึกอะไร พี่เขา (ซาพียอง) คบกับคนที่เป็นหัวหน้า (ซอบัน) อยู่แน่ ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรก็เถอะ … ผู้หญิงน่ะถ้าไม่ได้รู้สึกชอบจะไม่มีทางไปดูละครเวทีกับผู้ชายเด็ดขาด”

ในวันรุ่งขึ้น ด้วยความไม่พอใจ ยูชินจึงไปหาซาพียองที่บ้านแล้วโวยวายเรื่องที่ซาพียองคบกับซอบัน ซึ่งเขาไม่พอใจที่จีอาจะมีพ่อเลี้ยง “ที่คุณหย่าเพราะแท้จริงแล้วคุณต้องการใช้ชีวิตแบบนี้เหรอ ที่ทิ้งลูกเอาไว้ที่บ้าน แล้วตัวเองก็ไปเที่ยวกลางคืนกับผู้ชาย”

สุดท้ายหลังจากโต้เถียงกันไม่เลิก ซาพียองก็ยกเอาเรื่องกาแฟที่เธอให้กับอามีมาเป็นหลักฐานเพื่อยืนยันว่าจริง ๆ แล้วชีอึนจะไปด้วยแต่เกิดติดธุระทำให้ไปไม่ได้ ส่วนเรื่องที่เธอนั่งติดกับซอบันก็เป็นเพียงความบังเอิญที่เธอเรียกมันว่า “โชคชะตา” เมื่อยูชินได้ยินคำอธิบายที่มีน้ำหนักก็เถียงไม่ออก

วิบากกรรมของยูชินยังไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อกลับมาบ้านก็ต้องมาเจอกับการทะเลาะกันของอามีกับทงมีอันน่าเบื่อหน่าย อามีทะเลาะกับทงมีรุนแรงถึงขั้นลงไม้ลงมือ แต่อามีก็ใช่มารยาหญิงตีสองหน้าโยนความผิดไปให้ทงมี ส่วนตัวเองก็หน้าตายทำเป็นร้องไห้ออกมาด้วยความไร้เดียงสา สุดท้ายยูชินก็ขอให้ทงมีกลับไปอยู่บ้านของเธอซะ !

แหม่ จากที่ตอนแรกทงมีคิดจะเล่นงานให้อามีออกไปจากชีวิตของยูชิน มาถึงตอนนี้กลับโดนเล่นงานเสียเอง ทงมีจึงไปหาซาพียองเพื่อปรับทุกข์ “แย่แล้ว อีเด็กอามีนั่นมันตีสองหน้า อีกไม่นานมันคงปอกลอกยูชินจนหมดตัว” แต่ดูเหมือนว่าซาพียองจะนั่งฟังอย่างเสียไม่ได้ เพราะในใจของเธอลึก ๆ ก็ซะใจอยู่ไม่น้อย

ตัดภาพมาที่คู่ของซงวอนกับซาฮยอนที่ใช้ชีวิตรอรับลูกน้อยที่กำลังเกิดมาอย่างมีความสุข

ส่วนฮเยรยองก็เดินเกมจีบซอบันต่อไป โดยเธอเปิดเผยว่าตัวเองชอบซอบันกับชีอึนและซาพียอง เพื่อให้ทั้งสองช่วยสนับสนุนเธอ ซึ่งแม้ซาพียองจะยิ้มตอบรับไป แต่ในใจก็ว่า “จะมาแย่งของ ๆ ฉันงั้นเหรอ !”

ในตอนท้าย หลังจบการแสดงนัมกาบินเดินทางไปสเปนเพื่อไปส่งศพพ่อแม่ของเธอที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ในขณะที่ซอดงมาก็ตามไปสเปนเพื่ออยู่เคียงข้างเธอ และหลังจากกลับมาที่เกาหลีเขาได้สารภาพสิ่งที่ทำเอานัมกาบินตกใจ “แต่งงานกับผมนะ !”

EP.16 (ตอนจบ) อันน่าตกตะลึง !!?

ซอดงมาขอนัมกาบินแต่งงาน “แต่งงานกับผมนะ ผมไม่ได้ล้อเล่น” เขาให้เหตุผลว่าพัคแฮรยอนไม่คู่ควรกับเธอแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามเธอก็ปฏิเสธและบอกว่าเรื่องระหว่างเธอกับเขามันกลายเป็นอดีตไปแล้ว

แต่ถึงจะเพิ่งถูกปฏิเสธไป ซอดงมาก็ยังไม่ล้มเลิกความพยายาม เขายังคงตามตื๊อเธออยู่อย่างนั้น ด้วยปรัชญาที่ว่าตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก วันรุ่งขึ้น ซอดงมาบุกไปหานัมกาบินที่คอนโดเพื่อชวนเธอไปปิกนิก ซึ่งก็ถูกปฏิเสธอีกตามเคย งานนี้ซอดงมาเลยใช้บัตรอภิสิทธิ์ความเป็นแฟนเก่า อุ้มนัมกาบินจากห้องไปขึ้นรถซะอย่างนั้น ระหว่างทางก็โชว์ความหวานละมุนด้วยการแวะซื้อรองเท้าสวย ๆ และเสื้อผ้าให้ … เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ เค้าลางเริ่มแสดงให้เห็นแล้วว่า คนที่ซวยที่สุดท่าทางจะเป็นพัคแฮรยอน ผู้ที่เป็นสามีก็ไม่ได้เรื่อง เป็นพ่อก็ใช้ไม่ได้ แถมล่าสุดกำลังจะกลายเป็นหมาหัวเน่าอีก !

ซอดงมายืนยันคำเดิมว่าต้องการแต่งงานกับนัมกาบิน แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเป็นฝ่ายที่ทิ้งเธอไปจนทำเอาเธอเสียการทรงตัวก็ตาม “ผมแค่อยากอยู่กับคุณ อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ได้เห็นหน้าทุกวันและพูดคุยกัน … ผมรักคุณ”

ในคืนนั้นเอง นัมกาบินเปิดอกคุยกับพัคแฮรยอน “ตอนที่ไปส่งพ่อแม่ (ที่สเปน) มันทำให้ฉันคิดขึ้นมาว่า เราควรจะแต่งงานกับคนที่เรารักจริง ๆ เพราะตอนที่พวกท่านมีชีวิตอยู่ทั้งสองรักกันมาก แล้วท่านก็จากไปพร้อมกัน … ฉันชอบอาจารย์ (พัคแฮรยอน) นะคะ แต่ฉันคิดว่ามันไม่ใช่ความรัก การแต่งงานของเราคงจะเป็นไปไม่ได้ ขอโทษด้วยนะคะ”

ณ จุดนี้ พัคแฮรยอนได้กลายเป็นหมาหัวเน่าโดยสมบูรณ์แล้ว !

ในคืนนั้นเอง นัมกาบินขับรถไปหาชีอึนที่บ้านในสภาพสวมชุดคลุมอาบน้ำ ไม่ได้ใส่อะไรไว้ด้านใน เธอมาเพื่อขอโทษ แต่สภาพของนักแสดงละครเวทีผู้โด่งดังตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับคนสติแตก เธอร้องไห้ออกมาไม่หยุด ชีอึนได้แต่กอดเธอเอาไว้อย่างนั้น นัมกาบินพูดออกมาด้วยเสียงสะอื้นว่าที่พ่อแม่ของเธอเสียไปเพราะอุบัติเหตุเป็นเพราะผลกรรมที่เธอทำให้ครอบครัวของชีอึนต้องพังทลาย ก่อนที่เธอจะลงไปคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าชีอึนแล้วกล่าวขอโทษออกมาไม่หยุด สุดท้ายชีอึนต้องพาเธอเข้าไปในบ้าน

สภาพจิตใจของนัมกาบิน ณ จุดนี้ แตกเป็นเสี่ยง ๆ แล้ว “ทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้ แม่ไม่ได้เลี้ยงฉันมาให้เป็นแบบนี้ แม่คะ แม่ บาปที่ลูกสาวได้ก่อเอาไว้ทำให้พ่อแม่ต้องจากไป”

ตัดภาพมาที่ยูชิน ที่ตอนนี้อดคิดเรื่องซาพียองกับซอบันไม่ได้เลย เขาจึงใช้จีอาเป็นข้ออ้างเพื่อพยายามไปหาซาพียอง แล้วในคืนนั้นเอง ซาพียองโทร. หายูชินเพื่อให้มาซ่อมคอมพิวเตอร์ของเธอ แต่ดูเหมือนการพบกันครั้งนี้ท่าทีของซาพียองดูจะเป็นมิตรกับอดีตสามีมากขึ้น เมื่อซ่อมคอมพิวเตอร์เสร็จทั้งสองก็ไปดื่มเบียร์กันที่ร้านข้างทางแถวบ้าน …

ในตอนนั้นเอง ยูชินได้มอบสร้อยข้อมือล้อมเพชรราคาแพงให้กับซาพียอง แล้วบอกเธอว่าวันนี้เป็นวันครบรอบที่ทั้งคู่ตกลงคบกันและเป็นวันที่ออกเดตกันครั้งแรก มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ความโรแมนติกของยูชินเป็นสิ่งที่ผู้หญิงคนไหน ๆ ต่างก็โหยหา แล้วซาพียองก็ยื่นมือไปให้เขาใส่สร้อยล้อมเพชรเส้นนั้นให้ …

“แบบนี้คุณไม่กลัวขาดทุนเหรอคะ ?”
“ความรักไม่ใช่ธุรกิจ คุณเป็นผู้รับส่วนผมเป็นผู้ให้ มันจะเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต ผมรู้ตัวดีว่าความรู้สึกของผมไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้จะมีครั้งหนึ่งที่ผมเมามายจนขาดสติจนทำให้สะดุดล้มลงไปก็ตาม”

สายตาที่เปล่งประกายของยูชินถึงกับดับวูบลงเหมือนโดนหักมุม จู่ ๆ อามีก็โผล่มา นั่นเป็นเพราะซาพียองส่งข้อความไปให้อามีมารับยูชินที่ดื่มเบียร์นั่นเอง ก่อนที่ซาพียองจะชิงขอตัวกลับบ้านไปซะอย่างนั้น งานนี้เล่นเอายูชินถึงกับหน้าเอ๋อรับประทาน !

ด้านฮเยรยองเองไม่รู้อะไรไปกระตุ้นต่อมสำนึกผิดของเธอให้ทำงาน เพราะจู่ ๆ เธอก็รู้สึกสำนึกผิดขึ้นมาจริง ๆ แล้วเดินทางไปขอโทษพ่อแม่ของซาฮยอนพร้อมทั้งซงวอน ที่ก่อนหน้านี้การแถลงข่าวของเธอทำให้ซาฮยอนโดนขุดคุ้ยประวัติจนเสียชื่อเสียง

ในตอนท้าย ฉากจบอันน่าตกตะลึงก็ปรากฏขึ้นมา เมื่อ จู่ ๆ ภาพก็ตัดมาให้เห็นบรรยากาศงานแต่งงานของซาฮยอนกับอามี ! ซอบันกับซงวอน !! และ …

ซาพียองกับซอดงมา !!!!!!!!!

แล้วผีกีริมก็เข้าสิงจีอา ทงมีเมื่อเห็นก็ตกใจทรุดลงไปอยู่กับพื้น ก่อนที่จีอาจะวิ่งเข้าไปหาทงมีเพื่อจะบีบคอให้ตาย !!?

แล้วกลับมาเจอกันใหม่ในซีซั่น 3 … จบบริบูรณ์

Source: TV Chosun Korea