Skip to content
รีแคปซีรีส์ Mine EP.15 : วิธีจัดการกับปีศาจ

รีแคปซีรีส์ Mine EP.15 : วิธีจัดการกับปีศาจ

Mine EP.15 : นักสืบแบคสงสัยว่าฮีซูแกล้งความจำเสื่อม ต่อมาเขาได้รู้เรื่องการมีอยู่ของห้องหลุมหลบภัย และที่นั่นเองทำให้เขาได้พบอะไรบางอย่าง …

2 วันก่อนจียองจะเสียชีวิต …

จียองโดนบีบจากทุก ๆ ทางจนเขาตกอยู่ในสภาพสิ้นไร้ไม้ตอก เริ่มจากการพิจารณาเข้ารับตำแหน่งประธานของเขาถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากคลิปแฉพฤติกรรมจียองของฮเยจินที่ส่งให้คณะกรรมการได้ดู

จียองเผชิญหน้ากับซอฮยอนหลังจากรู้ว่าเธอเป็นคนอยู่เบื้องหลัง เขาขู่ว่าเมื่อถูกบีบให้หมดหนทางเขาจะยอมสู้จนตัวตาย แต่ซอฮยอนก็ยังคงเยือกเย็นตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ว่าจะไว้ชีวิตอยู่แล้วเชียว”

1 วันก่อนจียองจะเสียชีวิต …

ณ จุดนี้ไม่มียืนอยู่ข้างจียองแล้ว ประธานฮันก็ลอยแพเขา แม่ชีเอ็มม่าก็ยืนยันจะจัดการเข้าถ้าไม่เข้ามอบตัว เงิน ทีมกฎหมาย ทุกสิ่งอย่างที่เขาเคยมี ตอนนี้กลายเป็นอดีตไปหมดแล้ว

และคนที่รักเขามากที่สุด ฮีซูที่ตอนนี้ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเขาอย่างเต็มตัว แต่อย่างน้อยเธอก็ยังหยิบยื่นโอกาสให้เขา “คลิปที่ฮเยจินบันทึกเอาไว้ ใช้เพื่อทำให้คุณหลุดจากตำแหน่งประธาน แต่หลักฐานที่ยังไม่ได้เอาออกมาใช้ หลักฐานที่แสดงว่าคุณขาดคุณสมบัติของความเป็นมนุษย์อยู่ที่นี่” ฮีซูชูโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา “มันอยู่ในนี้หมดแล้ว หลักฐานทุกอย่าง รวมทั้งหลักฐานที่คุณฆ่าคน … ตอนนี้ทีมกฎหมายของฮโยวอนจะไม่ช่วยคุณอีกต่อไปแล้ว สารภาพและยอมรับความผิดด้วยตัวเองซะ”

ตัดภาพมาปัจจุบัน เมื่อนักสืบแบคพบภาพจากกล้องวงจรปิดว่าซอฮยอนเป็นคนพาฮีซูไปส่งโรงพยาบาลในวันเกิดเหตุ เขาจึงไปสอบปากคำซอฮยอนที่บริษัท …

นักสืบแบค “ทำไมคุณไม่บอกล่ะครับว่าคุณเป็นคนพาคุณซอฮีซูไปส่งโรงพยาบาล ?”
ซอฮยอน “ฉันจำได้ว่าคุณนักสืบไม่เคยถามฉันนี่คะ”
นักสืบแบค “ช่วยอธิบายตอนที่คุณเจอคุณซอฮีซูตอนนั้นด้วยครับ”
ซอฮยอน “มีใครบางคนนอนหมดสติอยู่ คนคนนั้นคือฮันจียองค่ะ”
นักสืบแบค “ในตอนนั้น คุณโทร. คุยกับหัวหน้าทีมกฎหมายของบริษัทที่ห้องสมุดใช่ไหมครับ ?”
ซอฮยอน “ใช่ค่ะ”
นักสืบแบค “แล้วหลังจากวางสาย ระหว่างกลับไปร่วมงานเลี้ยงก็เจอคุณฮันจียองสลบอยู่ ?”
ซอฮยอน “ฉันก็เลยโทร. หาแพทย์ประจำตัวทันที”
นักสืบแบค “ตอนที่คุณเจอคุณซอฮีซู เธออยู่ในสภาพแบบไหนครับ ?”
ซอฮยอน “ตอนนั้นฉันตกใจกับสถานการณ์ และมันมืดก็เลยมองไม่ค่อยเห็นค่ะ เธอยืนอยู่ด้านบน เธอเจ็บปวดมาก ฉันก็เลยขับรถพาเธอไปส่งโรงพยาบาล”
นักสืบแบค “แปลว่าในขณะนั้น ไม่มีใครนอกจากคุณฮันจียองและคุณซอฮีซูใช่ไหมครับ ?”
ซอฮยอน “ใช่ค่ะ มีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น แล้วก็อีกหนึ่งคนที่เข้ามาในบ้านค่ะ ก็คือคิมซองแท ซึ่งเป็นคนรับใช้ในบ้านของเรา”
นักสืบแบค “แม่ชีเอ็มม่าเห็นที่เกิดเหตุก็เกิดความกลัวและตกใจก็เลยวิ่งออกมาทันที ซึ่งคนแรกที่แม่ชีเอ็มม่าเจอก็คือคุณคิมซองแทใช่ไหมครับ ?”
ซอฮยอน “ใช่ค่ะ”
นักสืบแบค “ตอนที่คุณไปส่งคุณซอฮีซูที่โรงพยาบาล คุณออกไปทางไหนครับ ? เพราะคนที่ร่วมงานเลี้ยงไม่มีใครเห็นคุณออกทางประตูหน้าเลย”
ซอฮยอน เธอนิ่งไปพักหนึ่ง แต่ยังคงสงวนท่าทีที่เยือกเย็นราวกับว่าคำตอบทุกอย่างได้ถูกเตรียมเอาไว้ในหัวเป็นอย่างดีแล้ว “ในบ้านของเรา มีประตูลับหลายที่ค่ะ หลังฮีนจียองเสียชีวิต แล้วทางตำรวจเริ่มทำการสอบสวน มันทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเราร่วงลงอย่างรวดเร็ว ฉันเป็นคนที่ต้องหยุดความเห็นเชิงลบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับฮโยวอน … หลักฐานที่คุณนักสืบต้องการ หลักฐานแวดล้อมที่ช่วยบอกว่าการตายของฮันจียองเป็นการฆาตกรรม ฉันไม่มีให้หรอกค่ะ ถึงแม้ว่าอาจมีใครฆ่าเขาจริง ๆ ก็ตาม แต่ว่าคนในครอบครัวเราไม่มีใครฆ่าเขาแน่นอน”
นักสืบแบค “ถ้าอย่างนั้น คุณคิดว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือครับ ?”
ซอฮยอน “ใช่ค่ะ”
นักสืบแบค “แต่คนที่อยากฆ่าตัวตาย ไม่น่าจะเลือกความสูงเท่านั้นในการตกลงมานะ”
ซอฮยอน “ฮันจียองกำลังจนมุม เขาฆ่าคน ถูกตัดสิทธิ์การขึ้นเป็นประธาน สูญสิ้นทุกอย่างของชีวิต เงินก็ไม่มี อำนาจก็หมดครอบครัวก็สูญสลาย ยังไม่นับความผิดที่เขาฆ่าคน ในคำพูดของฉันมีคำตอบอยู่ในนั้นแล้วค่ะ คนที่ตกต่ำย่ำแย่ขนาดนั้นใครจะไปฆ่าเขาทำไมล่ะคะ การที่ฮันจียองฆ่าตัวตายเอง น่าจะสมเหตุสมผลที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอคะ ?”

ซอฮยอนคุยกับหัวหน้าทีมกฎหมายคนสนิทของเธอ เขาบอกว่าได้จัดการทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว คุณหมอคิมให้การกับนักสืบแบคว่า “ฮันจียองเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย แม่ผู้ให้กำเนิดของเขาก็มีประวัติการเสียชีวิตด้วยโรคที่เกี่ยวกับหัวใจเช่นเดียวกัน ดังนั้นอาจจะเป็นไปได้ที่เกิดจากพันธุกรรม” และหัวหน้าทีมกฎหมายนยังได้รายงานกับซอฮยอนด้วยว่า ได้จัดการให้มีการยุติการสืบสวนเรื่องนี้แล้ว

ระหว่างนั้น ฮเยจินสังเกตได้จากสายตาของฮีซูที่มีต่อฮาจุน เธอรู้ว่าฮีซูไม่ได้สูญเสียความทรงจำ เธอจึงเข้าไปถามฮีซูตรง ๆ “ฉันรู้ค่ะว่าคุณจำทุกอย่างได้ ฉันเห็นสายตาที่คุณมองฮาจุน มันเป็นสายตาของคนเป็นแม่ที่ห่วงใยลูกอย่างแท้จริง … บอกฉันมาเถอะค่ะว่าคุณจำได้ทุกอย่าง เพราะไม่ว่าจียองจะตายไปเพราะฝีมือใคร ฉันก็ไม่สนใจหรอกค่ะ เพียงแต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องแกล้งทำเป็นจำอะไรไม่ได้” ฮีซูจึงตอบยอมรับไปว่าเธอไม่ได้สูญเสียความทรงจำ แต่เธอมีเหตุผลบางอย่างที่ต้องทำเช่นนี้

คิมซองแทที่อยู่ที่โมนาโก เขาไม่ได้เป็นคนฆ่าจียอง เขายืนยันอย่างนั้นกับจินโฮ และด้วยความที่ไม่สบายใจ คิมซองแทจึงโทร. ไปหานักสืบแบคแล้วยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นคนฆ่าจียอง ซึ่งมันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ

ก่อนการสืบสวนจะถูกสั่งให้ยุติลงในเที่ยวคืนของวันนี้ เวลา 2 ชั่วโมงที่เหลือ นักสืบแบคจึงขอเข้าไปดูที่ห้องหลุมหลบภัยในคาเดนซ่าเป็นครั้งสุดท้าย ที่นั่นฮีซูกำลังนั่งหลับตาบนเก้าอี้โยกด้วยท่าทางผ่อนคลาย …

ฮีซู “ห้องนี้เป็นห้องที่คุณภาพออกซิเจนดีที่สุดค่ะ ตอนแรกที่สร้างห้องนี้ ด้วยความที่มันเป็นห้องใต้ดิน ทำให้ต้องใช้ท่อออกซิเจนที่มีขนาดใหญ่กว่าปรกติ”
นักสืบแบค “คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ ?”
ฮีซู “ฉันบอกไปแล้วไงคะว่าฉันมาสูดออกซิเจน”
นักสืบแบค “คุณซอฮีซูครับ คุณจำทุกอย่างได้ใช่ไหมครับ ? คนในครอบครัวนี้ร่วมมือกันเพื่อพยายามทำให้ดูเหมือนว่าคุณฮันจียองฆ่าตัวตายใช่ไหมครับ ? … คุณเป็นคนฆ่าคุณฮันจียองใช่ไหมครับ ?”
ฮีซู เธอนิ่งไปสักชั่วเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะตอบกลับไปด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มเล็ก ๆ “ใช่แล้วค่ะ ฉันฆ่าเขาค่ะ ไม่ว่าจะคิดหรือมองยังไง ก็ดูว่ามีความเป็นไปได้มากที่ฉันเป็นคนลงมือฆ่าเขา แต่ฉันจำอะไรไม่ได้เลย ทำยังไงดีล่ะคะเมื่อมันเป็นบบนี้ !!?”
นักสิบแบค เขาได้แต่ยืนนิ่งอึ้งไปกับคำตอบ เขายืนอยู่อย่างนั้นพร้อมด้วยน้ำตาที่กำลังเอ่อล้น เหมือนดั่งว่าเขาอัดอั้นอยากจะตะโกนสบถคำหยาบออกไป ด้วยอารมณ์ที่เหมือนจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ทำอะไรไม่ได้ และด้วยอารมณ์ที่โดนการใช้คำพูดกวนประสาทของฮีซู

ในคืนนั้นเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไม หัวหน้าคนใช้จูก็เก็บข้าวของหอบกระเป๋าเตรียมหนีออกจากคาเดนซ่า แต่ก่อนที่เธอจะเดินพ้นออกจากประตูไป ซอฮยอนได้ตะโกนเรียกเอาไว้ “จะไปไหน” !

ภาพตัดกลับมาที่ห้องหลุมหลบภัยอีกครั้ง ฮีซูยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้โยกตัวเดิม เธอนั่งอยู่อย่างนั้นคนเดียว จังหวะนั้นเองเธอได้เงยหน้าไปมองรูปติดผนังรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นรูปในอดีตของจียองขณะกำลังขี่ม้า เธอจ้องมองด้วยหางตาอยู่อย่างนั้น ผ่านไปสักพัก น้ำตาก็เริ่มค่อย ๆ ไหลรินออกมา พร้อมทั้งสีหน้าที่แสดงให้เห็นว่าภายในใจของเธอนั้นบอบช้ำและเจ็บปวดยิ่งนัก …

Photos: ภาพหน้าจอจาก tvN Korea