The Devil Judge EP.2 : คิมกาอนสับสนไปหมดไม่รู้ว่าคังโยฮันต้องการจะทำอะไรกันแน่ เขาจึงสืบจนรู้ว่าสมัยเรียน เพื่อน ๆ เรียกคังโยฮันว่า “ปีศาจ” !
ท่านรัฐมนตรีหญิงชาคยองฮีแสดงความไม่พอใจกับคำพิพากษาของคังโยฮัน และคิดว่าเขาเสแสร้งร้องไห้ในตอนท้ายของรายการพิจารณาคดีสด เธอมองว่าผลกระทบครั้งนี้ต้องสร้างความไม่พอใจให้กับมูลนิธิเพื่อสังคมอย่างแน่นอน แต่ฮอจุงเซบอกว่าประธานซอจองฮัก ประธานของมูลนิธีเพื่อสังคมมีท่าทางปกติดีหลังจากรู้คำตัดสินที่ออกมา
จากคำกล่าวของฮอจุงเซ ทำให้ชาคยองฮีรีบร้อนเดินทางไปหาประธานซอจองฮัก พร้อมกับแสดงอาการฟาดงวงฟาดงาออกมาด้วยความไม่พอใจ เพราะคิดว่าประธานซอจองฮักร่วมมือกับคังโยฮันลับหลังเพื่อทำลายเธอ แต่ดูเหมือนว่าจองซอนอาจะไม่เห็นด้วย เธอแสดงผลโพลให้ชาคยองฮีดูว่า หลังจบรายการพิจารณาคดีสดคะแนนนิยมของรัฐบาลเพิ่มมากขึ้นถึง 17 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งชาคยองฮีก็เป็นตัวเต็งที่จะได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของประเทศ เมื่อถึงเวลานั้นย่อมมีบริษัทที่ใหญ่กว่าเจยูเคมิคอลของประธานจูมาให้การสนับสนุนเงินทุนอย่างแน่นอน
คิมกาอนพบกับคังโยฮันและได้ถามคำถามที่คาใจแบบตรงไปตรงมา เรื่องที่ผู้จัดการโรงงานของประธานจูเกิดกลับคำให้การในชั้นศาล เขาคิดว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะคังโยฮันอยู่เบื้องหลังการบังคับ (และข่มขู่) พยาน เพื่อให้ดูเหมือนว่าประธานจูมีความผิด แต่คำตอบของคังโยฮันก็เป็นคำตอบตรง ๆ เช่นกัน …
“เราพิจารณาคดีเพื่อผดุงความยุติธรรมเหรอ ? มันก็เหมือนการเล่นเกม ถ้านายพิสูจน์อะไรไม่ได้นายก็แพ้ มันไม่ใช่เกมที่ยุติธรรมตั้งแต่แรกแล้ว พวกเขาปลอมแปลงซุกซ่อนซื้อตัวเจ้าหน้าที่สืบสวน คนที่มีอำนาจจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรอด ฉันรู้ว่ามันน่าเศร้า แต่ในโลกของความเป็นจริงมันไม่มีความยุติธรรมหรอก มันเป็นแค่เกมที่ไม่มีที่ไม่ยุติธรรมเลย”
ด้านคิมกาอนในตอนนี้รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคังโยฮันอยู่ฝ่ายไหนและต้องการทำอะไรกันแน่ ส่วนผู้พิพากษาสูงสุด มินจองโฮก็ตั้งข้อสังเกตว่า จากรายการพิจารณาคดีสด คะแนนนิยมของฝ่ายรัฐบาลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เขาจึงคิดว่าต้องมีข้อตกลงบางอย่างเบื้องหลังอย่างแน่นอน
ด้วยความช่วยเหลือของผู้หมวดยุนซูฮยอน ทำให้คิมกาอนได้เบาะแสของคังโยฮันเพิ่มเติม และมันทำให้เขาได้รู้ถึงความร้ายกาจของคังโยฮันในวัยเด็กที่เพื่อน ๆ นักเรียนต่างเรียกเขาว่าปีศาจ
ระหว่างนั้นมีเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งชื่อว่าอียองมินขับรถสปอร์ตซิ่งป่วนเมืองไปทั่ว โดยไม่สนใจว่าใครจะได้รับความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นคนข้ามถนน แม่ที่กำลังขับรถพาลูกน้อยกลับบ้าน หรือแม้แต่ชายแก่เก็บของเก่า อียองมินเรียกสิ่งที่กำลังเล่นสนุกนี้ว่า “ขับรถเที่ยวซาฟารี” (หมายถึงดูถูกคนอื่นว่าไม่ใช่คน)
คิมกาอนกับยุนซูฮยอนเห็นเหตุการณ์พอดีจึงรีบขับรถตามไปจับ แต่ด้วยความแรงของรถที่ต่างกันเกินไปทำให้ทั้งสองตามไม่ทัน ระหว่างนั้นเอง คังโยฮันก็ควบรถสปอร์ตไล่ตามอียองมินมาติด ๆ ในท้ายที่สุดเขาก็แซงขึ้นหน้าไปแล้วก็เบรกอย่างกะทันหัน อียองมินจึงไม่มีทางเลือกต้องเหยียบเบรกหน้าตั้งเช่นกัน เมื่อรถทั้งสองคันหยุดลง คังโยฮันก็คว้าเอาค้อนปอนด์ลงมาด้วย ทันใดนั้นเองเขาก็ใช้ค้อนปอนด์ทุบไปที่รถพอร์ชสีเหลืองคันงามของอียองมินจนพังยับ จากนั้นคังโยฮันก็ยื่นซองยาไอซ์ให้กับอียองมิน ก่อนที่จะเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้ในการข่มขู่ต่อไป ซึ่งทั้งหมดนี้ คังโยฮันทำไปเพื่อใช้อียองมินเป็นเหยื่อล่อใครบางคน …
ในงานแฟชั่นการกุศลที่จัดขึ้นโดยมูลนิธิเพื่อสังคมร่วมกับซารัมมีเดีย (ผู้ผลิตรายการพิจารณาคดีสด) ชาคยองฮีแนะนำให้ลูกชายของเขาได้รู้จักกับคังโยฮัน แล้วเราก็ได้รู้ว่าที่แท้แล้วอียองมินก็คือลูกชายของท่านรัฐมนตรีชาคยองฮีนั่นเอง !
ในตอนท้าย คิมกาอนเข้าไปเอาเครื่องดักฟังที่ติดไว้ในห้องของคังโยฮัน ทันใดนั้นเอง เสียงจากเงามืดก็ดังขึ้นมา “หาไอ้นี่อยู่เหรอ ?” แล้วคังโยฮันผู้เป็นเจ้าของเสียงก็ยื่นเครื่องดักฟังให้กับคิมกาอน ในเวลาเดียวกันนั้นเองเสียงระเบิดเวลาที่ฝังอยู่ใต้ภาพวาดที่ผนังห้องก็ดังขึ้นน คิมกาอนพุ่งเข้าหาคังโยฮันทำให้ทั้งสองหมอบลงไปกับพื้นก่อนที่เสียงระเบิดจะดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว
หลังจากนั้นคังโยฮันก็ประคองคิมกาอนที่ได้รับบาดเจ็บออกมา …
Photos: ภาพหน้าจอจาก tvN Korea