The Devil Judge EP.9 : คังโยฮันไม่พอใจที่จองซอนอาเข้ามาวุ่นวายกับรายการพิจารณาคดีสด หากแต่เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในใจของเธอคือความเหงา …
คิมกาอนหันหลังกลับลำ 180 องศามาร่วมมือกับคังโยฮันอย่างเต็มตัว “ความยุติธรรมไม่มีอยู่จริง มันเป็นเพียงเกมที่ยุติธรรมสำหรับผู้ชนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็ต้องอยู่ฝ่ายที่ชนะเกมนี้” คังโยฮันตอบกลับไปว่า “ฉันสัญญาว่าคนที่ทำร้ายพ่อแม่ของคุณ และคนที่ขโมยของพวกท่านไปจะต้องได้รับการชดใช้อย่างสาสม” อย่างไรก็ตาม คิมกาอนได้แสดงเจตจำนงที่ชัดเจนของเขาออกไป “ผมไม่ได้ต้องการแก้แค้น ผมต้องการสู้กับโลกของการคอร์รัปชัน”
ระหว่างนั้น เสียงโทรศัพท์ของคังโยฮันก็ดังขึ้น ปลายสายคือเอลียาห์ ที่ขอให้เขาไปช่วยเนื่องจากตอนนี้กำลังโดนพวกแก๊งยูทูบเบอร์สายป่วนเมืองเล่นงาน เมื่อคังโยฮันไปถึงก็จัดการพวกนั้นได้อย่างชิล ๆ เขาใช้มืออันแข็งแกร่งบีบคอยูทูบเบอร์ เขาบีบไปที่คอหอย บีบอยู่อย่างนั้น นานเท่าที่ยุนซูฮยอนกลัวว่าเขาจะฆ่ายูทูบเบอร์ตายคามือ เธอจึงหันปืนรีวอลเวอร์ลำกล้องความยาว 3 นิ้วไปที่เขา เพื่อหยุดไม่ให้เขาฆ่าคน !
ในขณะที่ คังโยฮันโกรธจัดแทบควันออกหู เมื่อรู้ว่าเอลียาห์ออกไปข้างนอกกับยุนซูฮยอนโดยไม่ได้บอกเขา แม้เอลียาห์พยายามอ้างว่า เธอแค่อยากกินต็อกปอกกี ยุนซูฮยอนจึงไปกินเป็นเพื่อนก็เท่านั้น “ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ ชึวิตฉันต้องเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน !!?”
เมื่อกลับมาถึงบ้าน คิมกาอนพยายามอธิบายกับคังโยฮัน “ผมรู้ว่าคุณกังวลเรื่องอะไร แต่ซูฮยอนเป็นคนดีมาก เธอไม่ได้รู้สึกกับเอลียาห์ในฐานะตำรวจ แต่รู้สึกในฐานะมนุษย์ ในฐานะเพื่อน คุณคิดว่าจะดูแลเด็กสาวที่กำลังเติบโตอยู่ในช่วงวัยรุ่นได้นานแค่ไหน เอลียาห์ไม่ใช่เด็กสาวอายุ 6 ขวบเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ คุณจะขังเธอเอาไว้ตลอดไม่ได้” แต่คังโยฮันก็พยายามอธิบายเหตุผล “เอลียาห์เคยโดนลักพาตัวไป 2 ครั้ง มีคนจำนวนมากที่ต้องการทรัพย์สินของครอบครัวเรา และมีคนจำนวนมากที่ไม่พอใจและโกรธแค้นครอบครัวเรา”
แต่คิมกาอนก็พยายามพูดเข้าข้างเอลียาห์โดยใช้เหตุผลของความเป็นมนุษย์ “ต่อให้คุณเกลียดโลกใบนี้และเกลียดคนบนโลกใบนี้มากแค่ไหน แต่คุณก็ยังทนอยู่คนเดียวไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องมีช่วงเวลาหนึ่งที่คุณต้องการใครสักคน มันเป็นปรกติของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ เอลียาห์ก็เช่นกัน”
จองซอนอาเปิดแชมเปญฉลองตำแหน่งประธานมูลนิธิเพื่อสังคมภายในออฟฟิศของตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่เคียงข้างร่วมดื่มแชมเปญแสดงความยินดีกับเธอแม้สักคนเดียว มันช่างเป็นห้วงช่วงเวลาที่เหงาเหลือเกิน จองซอนอาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทร. หาแจฮี คนที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียกว่าเพื่อนมากที่สุดเท่าที่เธอมี …
“เธอมาร่วมดื่มแชมเปญกับฉันได้มั้ย ?”
แจฮีอยู่ที่บาร์โฮสตอบกลับปลายสายไปว่า “พี่คะ อย่าบอกนะว่าประธานมูลนิธิผู้ยิ่งใหญ่ไม่มีใครร่วมดื่มแชมเปญด้วย จะให้ส่งนายแบบไปให้มั้ย ?”
แม้จองซอนอาจะต้องดื่มแชมเปญคนเดียวต่อไป แต่มันทำให้เธอคิดอะไรสนุก ๆ ขึ้นมาได้
วันต่อมา จองซอนอา ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการผู้สนับสนุนรายการพิจารณาคดีสดเรียกตัวคังโยฮัน คิมกาอน และโอจินจู มาพบผ่านท่านประธานศาลฎีกา เพื่อที่จะบอกแผนการการโปรโมตรายการโดยใช้ทั้งสามคนเป็นนายแบบ โดยเธอได้เสนอไอเดียกระฉูดออกมาว่า เธอต้องการทำให้รายการรับรู้ไปถึงประชาชนให้ได้มากที่สุด อีกทั้งยังต้องการทำให้ประชาชนชื่นชมในตัวของคังโยฮันมากยิ่งขึ้น แต่คังโยฮันเอ่ยออกมาว่า “อยากให้เราเป็นตัวตลกในสายตาประชาชนอย่างนั้นเหรอ ?” อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดคังโยฮันก็ตกลงตามที่จองซอนอาต้องการ
หลังจากจบการประชุม คังโยฮันได้มาดักรอจองซอนอาขณะขับรถกลับ “แค่คำเตือนไม่พอใช่มั้ย ถ้ามาขวางแผนการของฉัน เธอจะต้องจ่ายด้วยราคาที่แสนแพง” แต่จองซอนอาตอบกลับด้วยรอยยิ้มด้วยจริตกวนประสาท “ขัดขวางอะไรกันคะ นี่ฉันกำลังช่วยคุณอยู่นะ ในอีก 2 ปีข้างหน้าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี แทนที่จะปล่อยให้ฮอจุงเซหรือชาคยองฮีได้มันไป ฉันว่านายน้อย (คังโยฮัน) น่าจะคว้าโอกาสนี้เอาไว้นะคะ คุณเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดแล้ว … ใช้เราสิ ใช้มูลนิธิสิ คุณต้องกำจัดพวกคนเหลวที่มีอยู่เกลื่อนเมือง ถ้าคุณทำได้ ฉันจะทำให้คุณยิ่งใหญ่กว่านี้ มูลนิธิจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเกาหลีใต้ อย่าลืมนะว่าเราเคยสร้างขยะอย่างฮอจุงเซมาแล้ว !”
คังโยฮันยอมรับว่าข้อเสนอของจองซอนอาน่าสนใจ ยกเว้นเรื่องเดียวคือเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว ที่เขาบอกว่าเธอไม่ใช่รสนิยมของเขา ก่อนที่เธอจะเอ่ยออกมาด้วยแววตาออดอ้อนว่า “นายน้อยคะ ช่วยดีกับฉันมากกว่านี้ได้ไหม ?” แล้วก็จากไปด้วยรอยยิ้ม ทิ้งให้คังโยฮันงงงวยกับท่าทีอันแปลกประหลาดของเธอ
จากนั้น คังโยฮันได้สั่งให้ลูกน้องคนสนิทเอาประวัติของจองซอนอาไปปล่อยให้ชาคยองฮี โดยในนั้นในมีเรื่องที่เธอเคยเป็นสายรับใช้ที่บ้านของเขาด้วย … เมื่อชาคยองฮีได้รู้ข้อมูลแล้วก็ถึงกับยิ้มออกมาพร้อมกับเอ่ยออกมาว่า “ประวัติของเธอไม่ธรรมดาจริง ๆ”
ระหว่างนั้นเอง ประธานาธิบดีฮอจุงเซก็ตบะแตกระหว่างตอบคำถามนักข่าวสายทำเนียบ เมื่อถูกถามเรื่องความคืบหน้าของคดีที่เขาไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ชาคยองฮีที่ดูทีวีอยู่ก็ถึงกับออกอาการหัวเสีย มันทำให้เธอนึกย้อนกลับไปในอดีตที่ประธานซอจองฮัก (อดีตประธานมูลนิธิเพื่อสังคม) เลือกฮอจุงเซให้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีด้วยเหตุที่ว่า ฮอจุงเซมีวาทศิลป์ในการไลฟ์สดต่อหน้าสาธารณชน มีความสามารถในการปลุกเร้าอารมณ์คนให้คล้อยตาม อีกทั้งยังเป็นเคยเป็นอดีตนักแสดงดังที่มีผู้ติดตามมากถึง 6 ล้าน แต่ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม ชาคยองฮีรู้แล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังในการให้ฮอจุงเซขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีก็คือ จองซอนอา !
ทีนี้ ก็มาถึงเวลาที่คังโยฮันทำตามสัญญาโดยใช้เวลาไม่นานในการแก้แค้นให้กับคิมกาอน เขาให้ทองคำบริสุทธิ์จากสวิตเซอร์แลนด์มูลค่า 2,500 ล้านวอนกับคิมกาอน เพื่อไปซื้อข้อมูลแหล่งที่อยู่ของโดยองชุนจากเลขาของชาคยองฮี
โดยองฮุนในตอนนี้มาใช้ชีวิตเป็นคนสวนในชนบทกับลูกเมีย เมื่อคิมกาอนเห็นก็โกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า …
“รู้มั้ยว่าสิ่งที่แกทำ ทำให้มีคนตายไปเท่าไร ?”
“คุณเป็นหนึ่งในผู้เสียหายเหรอครับ” โดยองชุนคุกเข่าต่อหน้าคิมกาอนด้วยท่าทางสำนึกผิด “ผมทำบาปมามากมาย ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยเถอะครับ”
“แกซ่อนเงินเอาไว้ที่ไหน ?”
“ไม่มีแล้วครับ เงินโดนรัฐบาลยึดไป ส่วนของผมที่มีชาคยองฮีก็เอาไปหมดแล้ว ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรแล้ว ถึงแม้ตอนนี้ผมจะสำนึกผิดก็ไม่มีเงินจะไปชดใช้ให้กับผู้เสียหายแล้วครับ ผมได้แต่หายใจไปวัน ๆ รอความตายเท่านั้น”
คังโยฮันก็ให้คิมกาอนจับโดยองชุนเอาไว้ ระหว่างที่เขากำลังจุดไฟเผาเงินกองโตที่ขุดขึ้นมาจากที่ซ่อน แล้วก็ขังลูกเมียโดยองชุนเอาไว้ในบ้านพร้อมกับจุดไฟเผาบ้าน ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อให้โดยองชุนเลือกระหว่างเข้าไปช่วยลูกเมียหรือเงิน ซึ่งปรากฏว่าโดยองชุนเลือกเขาไปดับไฟที่กำลังเผาไหม้กองเงินเหมือนคนสิ้นสติ
แต่ความจริงก็เผยออกมาว่าเงินกองนั้นเป็นเงินปลอม ส่วนลูกเมียของโดยองชุนลูกน้องคนสนิทของคังโยฮันก็ช่วยออกมาได้ ตอนนี้โดยองชุนไม่เหลืออะไรแล้วจริง ๆ ทั้งเงินทั้งครอบครัว
ส่วนเงินจริง คังโยฮันก็ให้คิมกาอนเอาไปคืนเหยื่อที่เคยโดนโกงไปทั้งหมด
Photos: ภาพหน้าจอจาก tvN Korea