Skip to content
รีแคปซีรีส์ You are My Spring EP.9 : รอยจูบแรก

รีแคปซีรีส์ You are My Spring EP.9 : รอยจูบแรก

You are My Spring EP.9 : คังดาจองรู้สึกตกใจกลัวเมื่อได้เห็นดอกไม้พับกระดาษในมือของเอียน นำพาไปสู่การเผยบาดแผลในวัยเด็กที่ไม่เคยบอกใครมาก่อน …

คังดาจองมาพบเอียนที่คาเฟ่ตามนัด เธอเดินมาถึงประตูก็ถึงกับผงะ เมื่อเห็นเอียนถือดอกไม้พับกระดาษอยู่ในมือ ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่แชจุน (ชเวจองมิน) เคยให้กับเธอ ในตอนแรกเธอคิดจะก้าวเท้าถอยหลังออกไป แต่ให้บังเอิญว่าจูยองโดเดินเข้ามาจับบ่าเธอเอาไว้ คังดาจองจึงรวบรวมสติแล้วเดินไปหาเอียนพร้อมกับเอ่ยขอดูดอกไม้พับกระดาษที่อยู่ในมือของเขา …

“คุณทำอันนี้เองหรือเปล่าคะ ?”
“เปล่าครับ มีคนเอามาวางเอาไว้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ ?”
“ขอโทษด้วยนะคะ ถ้าธุระที่คุณต้องการคุยไม่ใช่เรื่องด่วน งั้นวันนี้ฉันขอตัวก่อนนะคะ”

เมื่อเอียนเดินกลับมาที่รถ ก็พบดอกไม้แบบเดียวกันนั้นถูกวางเอาไว้ที่กระจกหน้ารถ

ในคืนนั้นเอง จูยองโดส่งข้อความไปบอกคังดาจองว่าคืนนี้เขาทำงานอยู่ที่คลินิกจนดึก เธอจึงเข้าไปหาเขา ทั้งสองคุยกันเรื่องสัพเพเหระ จนถึงตอนหนึ่งเธอได้เล่าเรื่องบาดแผลในวัยเด็กที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อน สำหรับเธอนั้นการที่จะอ้าปากเล่าเรื่องพวกนี้แต่ละคำมันเป็นเรื่องยาก แต่อย่างไรก็ตาม จูยองโดก็ใช้สกิลความเป็นจิตแพทย์พูดให้เธอผ่อนคลายและเอ่ยปากสิ่งที่ค้างคาในใจออกมา …

“เมื่อตอนฉันอายุ 7 ขวบ แม่ฉัน …” คังดาจองร้องไห้โฮออกมา เหมือนดั่งว่าตัวเองย้อนเวลากลับไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง “แม่ฉันถูกทุบตีทำร้าย ฉันกลัวแม่จะตาย ฉันกลัวมากแต่ฉันกลับไม่ได้ทำอะไรเลย” เมื่อจูยองโดเข้าไปโอบกอดหญิงสาวที่ร้องไห้ออกมาไม่หยุด ในขณะที่เสียงสะอื้นยิ่งดังขึ้น ๆ มันเหมือนเป็นน้ำตาที่ถูกสั่งสมมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 30 ปีเพื่อรอวันที่ถูกปลอดปล่อย

จูยองโดโอบกอดคังดาจองเอาไว้ด้วยความละมุน ก่อนจะค่อย ๆ พูดออกมาว่า “ถ้าคุณคังดาจองเป้นคนไข้ของผม ผมจะถามคุณแบบนี้ครับ ถ้าเด็กเจ็ดขวบคนนั้นอยู่ตรงนี้ คุณอยากบอกเด็กคนนั้นว่าอะไร ? ‘ทำไมเธอถึงนิ่งเฉย เธอควรเข้าไปช่วยแม่สิ’ หรือว่าคุณคังดาจองจะเข้าไปโอบกอดเด็กคนนั้นแล้วพูดว่า ‘หลังจากนี้เมื่อเธอโตขึ้นอย่าทรมานตัวเองเพราะความทรงจำพวกนั้นเลย เพราะเธอไม่ได้ทำอะไรผิด และแม่ของเธอก็จะขอบคุณที่เธอสามารถก้าวพ้นช่วงเวลาอันน่ากลัวนั้น และเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้’ ผมคิดว่าคุณจะบอกเธอแบบนั้นครับ”

หลายวันต่อมา เอียนได้นัดทานข้าวกับคังดาจองอีกครั้ง ระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น คุณป้าเจ้าของร้านได้มาทักทายเขาด้วยท่าทีที่เป็นมิตรแต่ใช้คำพูดที่ค่อนข้างหยาบคาย จากนั้นคังดาจองได้พูดขึ้นมาว่า “บางทีคุณป้าอาจจะต้องเผชิญกับชีวิตที่ยากลำบาก จึงทำให้ท่านเป็นคนหยาบคาย แต่ว่าความตั้งใจของท่านดูจะเป็นมิตรกับคุณ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เอียนจึงถามคังดาจองกลับไปว่า “ดูเหมือนว่าคุณคังดาจองจะเข้าใจคนอื่นมากนะครับ ที่มองความตั้งใจมากกว่าการกระทำ แล้วคุณคังดาจองเข้าใจผมบ้างหรือเปล่าครับ ? มันเป็นครั้งที่สามแล้วที่คุณคังดาจองมองผมด้วยสายตาแบบนั้น ครั้งแรกที่ลิฟต์ ครั้งที่สองในผับ และล่าสุดก็เมื่อวันก่อน ผมคงเข้าใจผิดไปเองว่าคุณสบายใจขึ้น แต่ความเป็นจริงแล้วคุณคังดาจองยังคงรู้สึกอึดอัดที่ได้เจอผม”

สายตาของเอียนเป็นสายตาที่เย็นชาเรียบเฉยและดูขมขื่น ขณะที่จ้องมองไปที่คังดาจอง

ในตอนท้าย ความสัมพันธ์ระหว่างจูยองโดและคังดาจองเริ่มเบ่งบานจนได้ที่ เขานอนหลับอยู่บนดาดฟ้าแล้วก็ฝันไป เขาฝันว่าตัวเองไม่สามารถลึกซึ้งกับเธอได้มากกว่าคำว่าเพื่อน จนเขาร้องออกมาว่า “อย่าไป” จังหวะนั้นเอง คังดาจองเดินมาปลุก เมื่อจูยองโดลืมตาขึ้นมาก็ยกตัวขึ้นไปจูบกับเธอ ทั้งสองจูบกันอยู่อย่างนั้นท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามอัสดง

Photos: ภาพหน้าจอจาก tvN Korea