You are My Spring EP.12 : จูยองโดปิดบังคังดาจองเรื่องที่เขาป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล และในช่วงเวลานั้นเองที่ทำให้เขาคิดจะเลิกกับเธอ …
หัวหน้าโกจินบกได้ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งเอาไว้ภายในห้องพักของเอียน ซึ่งเป็นกล้องที่โนฮยอนจูแอบซ่อนเอาไว้เพื่อดูพฤติกรรมของเอียน จากภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเอียนไม่ใช่ฆาตกร และในภาพก็เห็นหน้าของฆาตกรตัวจริงชัดเจน
ลูกสาวของท่านประธานมาแจกุกนัดพบกับเอียน เธอเล่าว่ากล้องวงจรปิดที่แอบซ่อนเอาไว้ตัวนั้น ถูกติดตั้งเอาไว้ตั้งแต่สมัยที่ชเวจองมินยังมีชีวิตอยู่ เธอบอกด้วยว่าการที่เธอต้องทำแบบนี้ก็เพราะต้องการรู้จุดอ่อนของคนที่จะมาทำงานสำคัญให้กับเธอ และชเวจองมินก็เป็นเพียงคนเดียวที่มีสายเลือดเดียวกับเขา …
“กล้องตัวนั้นถูกติดตั้งตั้งแต่เมื่อไร ?”
“คุณอยากจะดูอะไรเหรออ วันก่อนที่น้องชายคุณจะตายหรือวันที่จะตาย” แล้วเธอก็ยื่นยูเอสบีไดรฟ์ให้กับเขา
ในคืนนั้นเอง ฆาตกรคนนั้นถูกรถยนต์ปริศนาพุ่งเข้าชนจนลงไปนอนกับพื้น ก่อนที่จะมีชายปริศนาเดินลงมาจากรถอีกคันมาเอากระเป๋าแล้วจากไป
ข่าวลือเรื่องการคบกันของอันกายองกับแพทริกแพร่กระจายไปทั่วโลกออนไลน์ ทำให้เกิดกระแสต่อต้านเป็นอย่างมาก อันกายองมาพักที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอทที่คังดาจองทำงานอยู่เพื่อรับมือกับสถานการณ์ เธอจัดแถลงข่าวขึ้นที่โรงแรมปฏิเสธข่าวลือที่เกิดขึ้น ด้วยสกิลการเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้เรื่องราวผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่จังหวะนั้นเองแพทริกก็ปรากฏตัวขึ้นที่โรงแรมในสภาพอำพรางใบหน้าด้วยการสวมหมวก เมื่อหลังจบการแถลงข่าว คังดาจองจึงจัดพื้นที่ห้องประชุมส่วนตัวให้ทั้งคู่ได้คุยกัน …
“นายมาที่นี่แบบนี้ก็แย่สิ”
“ผมแค่อยากมาเห็นหน้าเพื่อให้สบายใจ”
“ตอนนี้นายต้องเชื่อฟังที่บริษัทบอก แล้วบอกไปว่าจะไม่มาเจอฉันแล้ว แล้วไม่ต้องคิดจะมาเจอฉันจริง ๆ ด้วย แล้วก็ห้ามโทร. มาตอนที่ผู้จัดการอยู่ด้วย” อันกายองแสดงความเป็นผู้ใหญ่ออกมา
“เราต้องโกหกไปถึงเมื่อไร ?”
“จะถามทำไม ก็ต้องโกหกจนกว่าจะตายน่ะสิ ในกรณีนี้การโกหกถือว่าเป็นการเอาใจใส่นะ การที่จะบอกว่า ‘พวกเธอจะเป็นยังไงก็ช่าง ขอฉันพูดความจริงเพื่อให้ตัวเองสบายใจก็พอ’ การทำแบบนั้นน่ะเป็นการเห็นแก่ตัวมากที่สุด รู้มั้ย”
“แล้วถ้าพวกเขารู้ว่าเราโกหกล่ะ แบบนั้นจะไม่แย่กว่าเดิมเหรอ ?”
“ฮัลโหล ทุกอย่างมีได้มีเสีย ถ้าไม่อยากโกหกแล้วทำไมนายถึงเลือกมีแฟนล่ะ”
“นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดใช่มั้ย ?”
“ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วนายมีไทม์แมชชีนไหมล่ะ นายย้อนเวลากลับไปแล้วมาเกิดปีเดียวกับฉันได้มั้ย ทำให้การแต่งงานของฉันและการหย่าของฉันไม่เคยเกิดขึ้นได้มั้ย ข่าวลือแย่ ๆ ที่มีชื่อของฉันพ่วงไปด้วย นายสามารถลบมันออกไปได้หมดไหมล่ะ … กลับไปเถอะ เพื่อนฉันจะพานายออกไปจากที่นี่เอง”
ตัดกลับมาที่จูยองโดที่ตอนนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจากอาการที่เรียกว่า ร่างกายต่อต้านอวัยวะใหม่ ซึ่งก็เป็นเรื่องปรกติที่เกิดขึ้นได้กับคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าการที่เขาป่วยแบบนี้ทำให้เขาเริ่มรู้สึกไม่มั่นคงในความสัมพันธ์กับคังดาจอง เพราะเขากลัวว่าสักวันหนึ่งเขาจะทำให้เธอต้องเสียใจเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ยิ่งเมื่อเขาไปคุยกับแม่ของคังดาจอง และเธอก็บอกว่าขออย่าให้ป่วยและอยู่กับคังดาจองไปนาน ๆ มันก็ยิ่งทำให้เขาคิดที่จะยุติความสัมพันธ์นี้
จูยองโดปิดเรื่องที่เขาป่วยไม่ให้คังดาจองรู้ วันหนึ่งขณะที่นอนอยู่โรงพยาบาล เขาขอหมอออกไปข้างนอกเพื่อมาหาคังดาจองเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งเขาได้รับอนุญาตให้ออกมาได้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง เมื่อมาถึงที่ทำงานของคังดาจองเขาบอกเธอว่ามีเวลาคุยกัน 5 นาที ซึ่งมันทำให้เธอแปลกใจว่าเขาจะเดินทางมาไกลเพื่อมาเจอกันแค่ 5 นาทีทำไม
อย่างไรก็ตามในที่สุดคังดาจองก็รู้ว่าเขาป่วย และต่อมาเธอก็รู้ว่าเขาต้องการจะเลิกกับเธอเพราะไม่ต้องการให้เธอร้องไห้ให้กับเขา (เมื่อเวลาที่เขาต้องตายจากไป) จากนั้นทั้งสองก็มาเจอกันที่ดาดฟ้า …
“ทำไมต้องทำให้ฉันเหมือนเป็นคนโง่ด้วย ตอนนั้นคุณมาที่โรงแรมทำไมคะ แค่บอกว่าป่วนแล้วเจอกันทีหลังไม่ได้เหรอ นั่นเป็นเพราะคุณเตรียมที่จะเลิกกับฉัน โดยจะใช้เวลา 5 นาทีนั้นเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของเราอย่างนั้นเหรอ สุดท้ายคุณก็จะหนีฉันไป ไร้ความรับผิดชอบ ขี้ขลาด แถมยังตัดสินคนอื่นตามใจชอบ”
“คุณคังดาจองชอบผู้ชายแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ ผมก็เป็นแบบที่คุณชอบไง ผู้ชายขยะ”
“ใช่ค่ะ แต่ฉันตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงแล้ว”
“งั้นก็ตามนั้นแหละครับ”
“ทำไมคุณถึงทิ้งฉันไปแบบนี้ !!?” เมื่อคังดาจองพูดประโยคนี้จบ จูยองโดก็ไม่ได้ตอบอะไรและเดินจากไป
ในคืนนั้นเอง เมื่อจูยองโดกลับไปถึงบ้าน เขาก็ทรุดลงไปกับพื้นร้องไห้อยู่คนเดียวอยู่อย่างนั้น …
Photos: ภาพหน้าจอจาก tvN Korea