Skip to content
c-28791-high-class-spoiler

สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ High Class (2021)

High Class (2021) : สวรรค์ของเด็ก ๆ บนเกาะเซจูอันงดงาม ณ โรงเรียนนานาชาติสุดหรู กับผู้หญิง 4 คน ซึ่งแต่ละคนมีชีวิตที่แตกต่างกัน เรื่องราวค่อย ๆ เปิดเผยบาดแผลและคำโกหกที่ถูกเก็บซ่อน จนนำไปสู่หายนะที่คาดไม่ถึง …

EP.1 ยินดีต้อนรับสู่สรวงสวรรค์

ซงยออุล (รับบทโดย โจยอจอง) ทนายความสาวแม่หม้ายคุณแม่ลูกหนึ่ง สามีของเธอเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้วด้วยการตายอย่างปริศนา การตายของสามีเธอในตอนนั้นได้ทิ้งข้อครหาไว้ให้ผู้คนสงสัยว่า “เธอเป็นฆาตกรฆ่าสามีตัวเอง” !?

สามีของยออุลเป็นนักลงทุนหุ้นชื่อดัง ในวันนั้นเขาพาเธอไปสวีตล่องเรือยอชต์ด้วยกันสองต่อสอง ระหว่างนั้นเองสามีของเธอได้จมน้ำหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาโดยไม่มีใครพบศพ ซึ่งแน่นอนว่าภรรยาของเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ตำรวจไม่สามารถหาหลักฐานเอาผิดเธอได้ และต่อมาเรื่องราวอื้อฉาวของสามีเธอก็ผุดขึ้นมา เขาหลอกคนอื่นให้นำเงินไปลงทุนรวมแล้วกว่าหลายหมื่นล้านวอน

ผลกระทบที่เกิดจากการจากไปของพ่อ ทำให้อีชาน ลูกชายวัยประถมของยออุลมีปัญหากับเพื่อนที่โรงเรียน จนบานปลายกลายเป็นมีเรื่องถึงขนาดเลือดตกยางออก ยออุลจึงตัดสินใจให้อีชานลาออกจากโรงเรียน แล้วเดินทางไปเกาะเซจู ตามบัตรเชิญที่ได้รับจากโรงเรียน HSC โรงเรียนนานาชาติสุดหรูระดับ AAA

ไม่เท่านั้น สามีของยออุลยังมีเรื่องให้เธอแปลกใจได้อีก เมื่อเขาได้ซื้อบ้านสุดหรูในย่านคนรวยเอาไว้หลังหนึ่งบนเกาะเซจูในชื่อของอีชาน ซึ่งมันเป็นทรัพย์สินเพียงอย่างเดียวที่ยังไม่โดนยึดไป หลังจากย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้แล้ว ยออุลเอ่ยกับสามีที่ล่วงลับว่า “คุณนี่ขยันเซอร์ไพรส์ฉันจริง ๆ เลยนะ คุณไปซื้อบ้านหลังนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ”

ณ โรงเรียนนานาชาติ HSC เกาะเซจู ในวันสัมภาษณ์นักเรียนและผู้ปกครอง ท่ามกลางผู้ปกครองของนักเรียนระดับไฮโซ ยออุลก็พาอีชานมาสัมภาษณ์ด้วยความรู้สึกที่ไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะเธอรู้ดีว่าโรงเรียนแห่งนี้ไม่ได้รับเด็กฉลาดและเกรดดีเท่านั้น

หนึ่งในผู้ปกครองที่มาสัมภาษณ์ในวันนั้นคือ ประธานนัมจีซอน (รับบทโดย คิมจีซู) ทำธุรกิจด้านการจัดการโรงแรม เธอเป็นคนที่ดูจะมีเส้นสายในโรงเรียนแห่งนี้มากที่สุด เพราะลูกชายคนโตก็เป็นประธานนักเรียนชั้นม. 3 อยู่ที่นี่ และเป็นตัวแทนสมาคมผู้ปกครอง

แม้ภาพลักษณ์ภายนอกจีซอนจะดูดี แต่เบื้องหลังแล้วเธอมีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับจุนโม ลูกชายคนโตที่เรียนอยู่ ม.3 เพราะเขามองว่าแม่เข้าไปจุ้นจ้านเรื่องที่โรงเรียนมากจนเกินไป “แม่สนใจโรงเรียนมากกว่าผมเสียอีก ทำไมไม่มาเป็นประธานนักเรียนด้วยเลยล่ะ ไปเข้าเรียนแล้วก็สอบแทนผมด้วยเลยยิ่งดี”

อีกคนเป็นนักแสดงสาวชาโดยอง (รับบทโดย กงฮยอนจู) เป็นคนที่ดูหยิ่ง เหวี่ยงวีน หิวแสง และหลงตัวเองอย่างเหลือเชื่อ (ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงนางร้ายในละครไทย โดยองคือแบบนั้น) เธอประกาศลงโซเชียลด้วยความมั่นใจว่าลูกเธอจะได้เข้าเรียนที่นี่ เพราะเธอใช้เส้นสายผ่านทางจีซอน

ยออุลสอบถามจากเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนเรื่องบัตรเชิญที่เธอได้รับ แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าทางโรงเรียนไม่ได้ส่งบัตรเชิญให้ใครมานานแล้ว … ความสงสัยของยออุลก็ยังคงอยู่ต่อไป

เมื่อวันประกาศผลสอบสัมภาษณ์ก็มาถึง โดยองได้รับจดหมายจากทางโรงเรียน เธอเปิดอ่านด้วยความมั่นใจ “เรียนคุณพ่อและคุณแม่ที่รัก ผลการสอบและสัมภาษณ์ของนักเรียนควักชีอู เรายินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่าบุตรของท่านอยู่ในรายชื่อสำรอง” โดยองถึงกับสติแตก โวยวายวีนแตกออกมาทันทีเมื่อรู้ว่าลูกชายของเธอไม่ได้รับการคัดเลือก “โอมายกอช นี่มันนเรื่องอะไรกันเนี่ย ฉันป่าวประกาศบอกคนทั้งประเทศไปแล้วว่าลูกของฉันจะได้เข้าเรียนที่นี่ น่าอายจริง ๆ อยากจะบ้าตาย”

จีซอนติดต่อไปทางวงในของโรงเรียนเพื่อสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกของโดยอง ปรากฏว่ามีเด็กเส้นคนหนึ่งได้ถูกเลือกให้เข้าเรียนแทนลูกของโดยอง และเด็กคนนั้นคือลูกของยออุล !

โดยองคุกเข่าขอร้องจีซอนให้ช่วย “พี่เป็นคนเดียวที่ฉันพึ่งพิงได้ พี่ต้องช่วยฉันนะ ช่วยฉันด้วยนะคะพี่จีซอน ชีอูต้องได้เข้าเรียนนะ ช่วยพาเขาเข้าไปที”

หนึ่งเดือนผ่านไป … วันเปิดเรียนก็มาถึง ภายในห้องรับรองผู้ปกครอง โดยองถามยออุลตรง ๆ ว่า เธอใช้เส้นสายของใครถึงทำให้ลูกได้เข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ ? … ลูกเธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ด้วยซ้ำ” ยออุลฟังแล้วก็งงมาก เธอยืนงงอยู่อย่างนั้นกับสิ่งที่โดยองพูด

แล้วจังหวะนรกก็เกิดขึ้น เมื่อแม่ของเด็กที่เคยทะเลาะกับยออุลที่โรงเรียนเก่าเกิดต้องมาเผชิญหน้ากัน “คิดว่าการย้ายเอาลูกเข้ามาเรียนที่นี่แล้วทำตัวมีระดับ จะสามารถลบสิ่งที่เธอทำกับลูกชายของฉันได้อย่างนั้นเหรอ ฉันจะแฉเรื่องของเธอออกมาให้หมด”

ยออุลพยายามควบคุมอารมณ์ และบอกให้ฝ่ายตรงข้ามหยุดก่อนที่เธอจะหมดความอดทน ก่อนที่เธอหันหลังเดินจากไป แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงตะโกนไล่หลังตามมา “ผู้หญิงที่ฆ่าสามีตัวเอง มันหน้าด้านแบบนี้นี่เอง อีฆาตกร !!!” ยออุลยืนนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้นท่ามกลางเสียงอื้ออึงของเหล่าผู้ปกครองที่หันมามองที่เธอ … ยออุลเดินออกจากห้องรับรองไปแอบร้องไห้อยู่คนเดียว

ในตอนท้าย อีชานเล่นซ่อนแอบกับเพื่อน ๆ เขาเข้าไปแอบในตู้ล็อกเกอร์ แต่ระหว่างที่เขาซ่อนอยู่ในนั้นก็มีใครบางคนมากดล็อกจากด้านนอก อีชานถูกขังอยู่ในนั้นโดยที่ไม่มีใครสนใจ

เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน ยออุลก็ออกตามหาลูกชายของเธอทั่วทั้งโรงเรียน แต่สุดท้ายเธอก็ช่วยอีชานออกมาได้ (ซีรีส์พยายามสร้างเงื่อนไขให้เราสงสัยว่า โดยองอาจเป็นคนขังอีชานเอาไว้ในล็อกเกอร์) …

อีชานหันไปมองข้อความ “Welcome” ถูกเขียนอยู่ที่กระจกตรงข้ามกับตู้ล็อกเกอร์ด้วยสีหน้าตกใจ !!?

EP.2เพื่อนสนิทที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก

หลังจากยออุลช่วยอีชานออกมาจากตู้ล็อกเกอร์ เธอก็เห็นข้อความ “WELCOME” ที่เขียนด้วยลิปสติกสีแดงบนกระจก

ยออุลแบกอีชานขึ้นหลังเดินกลับไปที่รถเพื่อจะกลับบ้าน แต่ทว่าเธอกลับทำกุญแจรถหาย ระหว่างที่ยออุลแบกอีชานตากฝนด้วยท่าทางตื่นตระหนกอยู่นั้น โชคดีที่มีผู้หญิงคนหนึ่งขับรถผ่านมาพอดี ยออุลจึงอาศัยรถของเธอกลับบ้าน โดยที่ไม่รู้ด้วยว่าผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไร

เรื่องที่อีชานถูกขังในตู้ล็อกเกอร์ กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันในกลุ่มแชตของเหล่าผู้ปกครองในโรงเรียน ยออุลไปพบครูใหญ่เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่ปรากฏว่าจุดดังกล่าวเป็นมุมอับที่ไม่สามารถบันทึกภาพได้

ยออุลได้พบกับโดจินซอล ประธานมูลนิธิ ผู้บริหารของโรงเรียน เธอเปิดเผยกับยออุลว่า เธอเป็นคนส่งบัตรเชิญไปให้เอง เนื่องจากสามีของยออุลเป็นผู้บริจาครายใหญ่ของมูลนิธิ เขาจึงเป็นบุคคลสำคัญของโรงเรียน สำคัญขนาดที่ว่าอีชานถูกวางให้เป็นเด็กที่จะต้องได้เข้าเรียนเป็นอันดับแรก ซึ่งเมื่อได้รู้เช่นนั้นยออุลก็แสดงสีหน้างงเล็กน้อย เพราะเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน

ตัดกลับมาที่บรรยากาศความสัมพันธ์ของอีชานกับเพื่อน ๆ ในโรงเรียน ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยากยุ่งกับเขา ทำให้อีชานกลายเป็นเด็กที่ไม่มีเพื่อน ยออุลรู้ว่าที่อีชานไม่มีเพื่อน เป็นเพราะโดนจีซอนกับโดยองแกล้ง

จนกระทั่งวันหนึ่ง ฮวังนายุน (รับบทโดย พัคเซจิน) คุณแม่ของแจอิน เด็กนักเรียนหญิงที่ดูจะสนิทกับอีชานมากที่สุดก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครรู้ประวัติของเธอแน่ชัด รู้แค่เพียงว่าเธอย้ายมาจากฮ่องกงเมื่อ 6 เดือนก่อน และไม่เคยมีใครเคยเห็นหน้าสามีของเธอเลย … ยออุลถึงกับตกใจเมื่อได้พบกับนายุน เพราะนายุนคือหญิงสาวที่ช่วยขับรถไปส่งเธอที่บ้านในคืนวันนั้น แล้วหลังจากนั้นไม่นาน สองครอบครัวก็สนิทกันอย่างรวดเร็ว

ต่อมา ยออุลพบโทรศัพท์มือถือของสามีเธอที่อยู่ภายในบ้าน แต่ไม่สามารถกดเข้าไปดูได้เพราะไม่รู้รหัสปลดล็อก ไม่เท่านั้นเธอยังได้พบเอกสารบางอย่างของสามีเธอที่เกี่ยวข้องกับโดยอง เป็นโบรชัวร์ของดูจองแคปิตอล (สามีของยออุลเป็นผู้ก่อตั้ง) ที่มีโดยองเป็นนางแบบ แถมกิ๊บหนีบผมที่ยออุลเจอตกอยู่ที่ตู้ล็อกเกอร์ก็แบบเดียวกับของโดยองที่ใส่ในวันเกิดเหตุ

ซึ่งซีรีส์ก็ได้เผยภาพบางอย่างที่ทำให้ชวนสงสัยว่าโดยองอาจจะเป็นคนที่ล็อกขังอีชานในล็อกเกอร์ และอาจจะมีความสัมพันธ์ลับบางอย่างกับสามีของยออุล

ในตอนท้าย มีคนส่งดอกไม้มาให้ยออุลที่บ้าน ตอนแรกเธอเข้าใจว่านายุนเป็นคนส่งมาให้ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ และเมื่อเปิดอ่านข้อความบนโน้ตที่มาพร้อมกับดอกไม้ ยออุลก็ถึงกับตกใจ …

“แกไม่ได้อยู่คนเดียวหรอก มีคนจับตาดูแกอยู่ … ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ ฆาตกรซงยออุล” !!!

EP.3 ความลับและคำลวง

ยออุลนึกย้อนกลับไปในคืนวันนั้น ซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะไม่สบายใจเป็นอย่างมากกับเรื่องที่สามีเธอก่อขึ้น แต่สิ่งเดียวที่เขาบอกกับเธอคือขอให้เชื่อใจ แล้วเรื่องราวมันจะผ่านพ้นไป … จากนั้น เมื่อเธอตื่นขึ้น สามีเธอก็หายตัวไปแล้ว นั่นคือสิ่งที่เธอรู้ทั้งหมดกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นบนเรือยอชต์

หลังผ่านการเค้นสอบจากเจ้าที่ตำรวจ ยออุลก็ได้รับการปล่อยตัวเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ ในตอนนั้น ยออุลนอนดูทีวีรายงานข่าวของสามีเธออยู่บนโซฟา “คดีคนหายบนเรือยอชต์เมื่อวันที่ 15 กันยายน ถูกสันนิษฐานว่าเสียชีวิตแล้ว ทางอัยการสั่งไม่ฟ้องซงยออุล เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ จากการที่ประธานอันจียองถูกสันนิษฐานว่าเสียชีวิตไปแล้วนั้น ข้อหาฉ้อโกงของบริษัทการลงทุนไมดัสจะถูกยกฟ้องทันที” ยออุลนอนร้องไห้บนโซฟาอยู่อย่างนั้น

ตัดภาพกลับมาที่ปัจจุบัน … ยออุลจ้างนักสืบเอกชนเพื่อสืบความสัมพันธ์ของโดยองกับสามีผู้ล่วงลับของเธอ เพราะเธอสงสัยในความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง พร้อมทั้งให้สืบด้วยว่าใครเป็นส่งดอกไม้พร้อมข้อความมาให้เธอ

ทีนี้เรื่องราวดูว่าจะซับซ้อนขึ้นกว่าเดิม เมื่อประธานมูลนิธิโดจินซอลได้เรียกแดนนีโอ โค้ชฮอกกี้คนใหม่ของเด็ก ๆ มาเข้าพบ เพื่อเตือนให้เขาทำบางอย่างที่ได้ตกลงไว้

ระหว่างนั้น นายุนก็มาเที่ยวเล่นที่บ้านของยออุล เมื่อไปเห็นรูปถ่ายครอบครัวของยออุลก็ทำเอานายุนถึงกับตกใจจนทำกรอบรูปหล่นมาแตก … ว่าที่จริงแล้ว ซีรีส์เผยให้เราเห็นว่า นายุนน่าจะเป็นภรรยาอีกคนหนึ่งของสามีผู้ล่วงลับของยออุลนั่นเอง

ลูก ๆ ของยออุล นายุน โดยอง และจีซอน เข้าชมรมฮอกกี้เหมือนกัน แต่ด้วยสกิลเพลย์ที่แตกต่างกัน ทำให้การเล่นของเด็ก ๆ เกิดปัญหาการกระทบกระทั่งกันขึ้นมา จนบานปลายไปสู่การทะเลาะกันของบรรดาแม่ ๆ ซึ่งจีซอนไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถึงขั้นต้องการที่จะยุบชมรมฮอกกี้ทิ้งแล้วเธอจะได้ตั้งชมรมของตัวเองขึ้นมาใหม่

ในคืนนั้น นักสืบเอกชนได้ส่งข้อมูลเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดในวันที่อีชานโดนขังอยู่ในตู้ล็อกเกอร์มาให้ยออุล และในคลิปก็เผยให้เห็นโดยองเดินทางไปตู้ล็อกเกอร์ ด้วยความร้อนใจ ยออุลจึงเดินทางไปหาโดยองทันที

ยออุลมาที่ร้านอาหารของโดยอง แม้ในตอนนี้ร้านจะปิดและไฟก็ดับลงหมดสิ้นแล้ว แต่ทว่ารถเก๋งเปิดประทุนของโดยองยังจอดอยู่ และเมื่อเดินเข้าไปดูก็เห็นฉากรักระหว่างเชฟจองกับโดยอง ที่แท้แล้วทั้งสองแอบเป็นชู้กันอยู่นั่นเอง โดยองตกใจเป็นอย่างมากที่มีคนรู้เรื่องความสัมพันธ์ต้องห้ามของเธอ แต่ดูเหมือนว่ายออุลไม่ได้สนใจแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่เธอสนใจและอยากรู้มากที่สุดคือ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันที่ลูกชายเธอถูกขังอยู่ในตู้ล็อกเกอร์

โดยองเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ยอยุลฟังทั้งหมด โดยเธอยืนยันว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำเรื่องเลว ๆ แบบนั้น เพราะเธอเองก็เป็นแม่คนเหมือนกัน ส่วนเรื่องดอกไม้และข้อความโดยองก็ปฏิเสธอีกเช่นกัน เพราะทั้งชีวิตเธอไม่เคยส่งดอกไม้ให้ใคร นอกจากจะเป็นผู้รับเท่านั้น ระหว่างนั้นเอง มีโทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่าสามีของโดยองถูกตำรวจจับในข้อหาซื้อประเวณีหญิงขายบริการทางเพศ โดยองจึงรีบเดินทางไปสถานีตำรวจทันที

ยออุลตามมาที่สถานีตำรวจพร้อมกับยื่นข้อเสนอให้โดยองแต่งตั้งให้เธอเป็นทนาย แลกกับการที่เธอจะเก็บเรื่องที่เธอมีชู้ไว้เป็นความลับ แต่โดยองกลับหัวเราะใส่และเรียกยออุลว่า “ฆาตกรซงยออุล”

EP.4 ใช้ชีวิตอยู่กับศัตรู

ยออุลพยายามบีบโดยองเพื่อให้บอกความจริงเรื่องความสัมพันธ์กับสามีผู้ล่วงลับของเธอ โดยองจึงจำใจบอกไปว่า “ถ้าอยากรู้ต้องไปถามพี่จีซอนน่าจะรู้ ตอนแรกฉันก็คิดว่าเขาสนใจฉัน แต่จริง ๆ แล้วเขาสนใจพี่จีซอน ตอนแรกพี่จีซอนต้องการลงทุน เพราะสามีของคุณมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการลงทุน ทำให้ทั้งสองสนิทกันมาก”

ส่วนเรื่องช่อดอกไม้และข้อความ โดยองปฏิเสธ “ฉันจะส่งดอกไม้ไปให้เธอทำไม ? นี่คุณไม่รู้จักสามีของคุณจริง ๆ เหรอ ? ทั้ง ๆ ที่คนทั้งโลกเขารู้กันหมด ? ตอนแรกฉันคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงที่น่ากลัว แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงที่โง่ที่สุดในโลกมากกว่า”

ระหว่างนั้น นักสืบก็ส่งข้อมูลเรื่องคนที่ส่งดอกไม้มาให้กับยออุล โดยระบุว่าส่งมาจากโรงแรมของจีซอน แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ส่งได้

เรื่องราวดำเนินไป ความขัดแย้งของจีซอนกับยออุลก็ทวีความรุนแรงขึ้นมา เมื่อจีซอนโยนขนมที่ยออุลทำเลี้ยงเด็ก ๆ ลงถังขยะ “การให้เด็ก ๆ กินน้ำตาลและกลูเตนมากเกินไปจะเป็นอันตรายกับเด็กแค่ไหน” ยออุลตอบโต้จีซอนด้วยสิ่งที่เธอรู้จากโดยอง “ฉันไม่คิดเลยนะว่าคนอย่างนัมจีซอนจะยุ่งกับสามีคนอื่น … เป็นคุณเองสินะ ที่ส่งช่อดอกไม้และข้อความนั่นมาให้ฉัน”

แต่เรื่องกับร้ายแรงกว่าที่คิด เมื่อจุนฮี ลูกสาวของจีซอนแอบไปกินขนมของยออุลเข้า แล้วเกิดอาเจียนออกมา ทำให้จีซอนโมโหมาก ตบหน้ายออุลจนแดงก่ำ “ฉันทนกับเธอมามากแล้วนะ ผู้หญิงที่สามีฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิดเรื่องการฉ้อโกง ผู้หญิงที่ลูกชอบก่อความรุนแรงในโรงเรียน”

ณ จุดนี้ สงครามระหว่างสองแม่ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริงแล้ว จีซอนจึงขอนัดเจอกับประธานโดจินซอลเป็นการส่วนตัวเพื่อให้เธอจัดการเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่าประธานโดจินซอลจะพูดอะไรบางอย่างที่ดูเป็นปริศนาออกมา …

“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องต้อนฉันให้จนมุมด้วย คุณส่งบัตรเชิญให้ผู้หญิงคนนั้นมาทำไม ฉันยอมให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้” จีซอนลั่นใส่ประธานโดจินซอลด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“ฉันเข้าใจดีว่าประธานนัมรู้สึกอย่างไร แต่การให้เธอมาที่นี่เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดแล้ว คุณก็รู้ดีไม่ใช่เหรอว่ามูลนิธิและธุรกิจของคุณอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว และตอนนี้เราก็ต้องการผู้หญิงคนนั้น ได้โปรดเชื่อใจและอดทนจนกว่าฉันจะจัดการเรื่องนี้ได้เถอะนะคะ”

ในตอนท้าย นายุนขอยออุลไปนอนค้างที่บ้าน แล้วในคืนนั้นเอง นายุนก็ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอออกมา เพราะแท้ที่จริงแล้ว คนที่ขังอีชานในตู้ล็อกเกอร์ก็คือนายุน !

EP.5 ข้อตกลงอันตราย

นายุนเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาแล้ว เธอนั่นเองที่เป็นภรรยาอีกคนของอันจียง หญิงสาวที่ยออุลตามหา … วันนั้นเป็นวันที่เด็ก ๆ ไปทำกิจกรรมนอนค้างแรมกับเพื่อน ๆ ที่แคมป์เดย์ นายุนจึงขอไปนอนค้างกับยออุล และในกลางดึกคืนนั้นเอง แววตาอำมหิตของเธอที่ปกปิดเอาไว้มาตลอดได้เปล่งประกายออกมา เธอถือหมอนอยู่ในมือเดินไปหายออุลที่กำลังหลับหมายจะทำอะไรบางอย่าง

แต่ไม่ว่านายุนคิดจะทำอะไรก็ตามมันก็ไม่เกิดขึ้น เพราะยออุลลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี นายุนก็เฟซออฟสลับหน้าตัวเองเป็นใบหน้าของนางฟ้าอีกครั้ง พร้อมทั้งเก็บซ่อนเจตนาร้ายเอาไว้ดังเดิม

ในเวลาเดียวกันนั้น ขณะที่แจอินกับอีชานอยู่ด้วยกันที่แคมป์เดย์ แจอินได้รื้อค้นกระเป๋าของอีชานตามประสาความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก ป. 1 เธอไปเจอเข้ากับโทรศัพท์ของอันจียงที่อีชานแอบหยิบติดกระเป๋ามาจากที่บ้าน แจอินเปิดหน้าจอขึ้นมาก็พบรูปของพ่อเธอถูกตั้งเป็นวอลล์เปเปอร์ก็เลยเกิดความสงสัย ที่สำคัญเธอสามารถปลดล็อกหน้าจอจากการใส่รหัสผ่านเพียงครั้งเดียว … เมื่อเปิดเข้าไปดูในอัลบั้มรูป แจอินก็เห็นพ่อของเธอถ่ายรูปครอบครัวกับอีชานและยออุล และก็มีรูปถ่ายครอบครัวของตัวเธอและแม่เช่นเดียวกัน

ด้วยความสับสนเป็นอย่างมากว่า ทำไมเธอและอีชานถึงมีพ่อคนเดียวกัน ? แจอินจึงพกโทรศัพท์พร้อมด้วยความสงสัยไปหาครูแดนนี่ ก่อนที่จะผล็อยหลับไปด้วยความง่วง แต่ครูแดนนี่ก็เก็บโทรศัพท์เครื่องนั้นเอาไว้โดยไม่ให้ใครรู้

เมื่อกลับมาบ้านแจอินเล่าเรื่องที่เธอกับอีชานมีพ่อคนเดียวกันให้นายุนฟัง แต่นายุนก็ขอให้แจอินเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ

จีซอนพยายามเดินเกมตามแนวทางของตัวเอง โดยไม่สนคำพูดของประธานมูลนิธิโดจินซอลที่ขอให้ปล่อยยออุลไปก่อน เธอเริ่มเดินเกมด้วยการล่ารายชื่อพ่อแม่คนอื่น ๆ ให้ร่วมลงมติขับอีชานออกจากโรงเรียน โดยใช้ข้ออ้างเรื่องกฎข้อบังคับ

คือแน่นอนว่าประธานโดจินซอลยังไม่ต้องการให้ลูกชายของยออุลโดนไล่ออก เธอจึงโทร. ไปเตือนเรื่องที่จีซอนกำลังล่ารายชื่อเพื่อไล่อีชานออกจากโรงเรียน … คำถามคือทำไมประธานโดจินซอลถึงห่วงยออุลมากนัก นั่นก็เป็นเพราะเรื่องมันเกี่ยวกับเงินก้อนโตที่มูลนิธินำไปลงทุนกับกองทุนไมดัสของอันจียง หลังจากเขาตาย (หรือหายสาบสูญไป) เงินทั้งหมดก็หายไปด้วยเช่นกัน และประธานโดจินซอลก็คิดว่า ยออุลอาจมีส่วนรู้เห็นในแผนการของอันจียอง พูดง่าย ๆ ก็คือประธานโดจินซอลคิดว่า ยออุลเป็นทางเดียวที่จะเอาเงินที่เสียไปคืนให้มูลนิธิได้นั่นเอง

จากนั้น นายุนก็ติดต่อหาจีซอนเพื่อขอเปลี่ยนข้างมาอยู่ฝ่ายเดียวกับจีซอน งานนี้จีซอนจึงให้นายุนเป็นคนออกหน้าไปล่ารายชื่อผู้ปกครองเพื่อไล่อีชานออกจากโรงเรียน

ในขณะเดียวกัน ยออุลก็บังเอิญไปเจอเหตุการณ์ที่จุนโม ลูกชายคนโตของจีซอนไปก่ออุบัติเหตุชนแล้วหนี เธอจึงเอาเรื่องนี้ไปแบล็กเมลจีซอน ขอให้เธอยุติแผนการไล่อีชานออกจากโรงเรียน และแต่งตั้งให้เธอเป็นทนายของสมาคมผู้ปกครองฯ แลกกับการที่จะไม่เปิดเผยเรื่องของจุนโม

นอกจากนั้น จีซอนยังได้คลายข้อสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับอันจียองให้ยออุลได้รู้ ซึ่งเธอยืนยันว่าไม่มีอะไรอย่างอื่นนอกเหนือไปจากความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ที่บริษัทของเธอลงทุนในกองทุนไมดัสมาตั้งแต่ปี 2013

ในวันประชุมสมาคมผู้ปกครอง จีซอนได้สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการกลับลำเป็นสนับสนุนให้ยออุลได้ขึ้นเป็นทนายความของสมาคมฯ ส่วนเรื่องรายชื่อที่จะขับไล่อีชานก็มีอันตกไป

ระหว่างเดินกลับจากการประชุม ยออุลได้เห็นใบรายชื่อของผู้ปกครองที่ร่วมลงชื่อขับไล่อีชานตกอยู่ เมื่อหยิบขึ้นมาดูแต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจก็คือ รายชื่อแรกเป็นชื่อของนายุน !

ในตอนท้าย ครูแดนนี่เปิดตู้ล็อกเกอร์ของเขาออกมา ในนั้นมีแต่รูปของยออุลเต็มตู้ล็อกเกอร์ และโทรศัพท์ของอันจียอง (ที่แจอินลืมเอาไว้) ก็อยู่กับเขา ทำให้เกิดความสงสัยกับพัฒนาการต่อไปของตัวละครตัวนี้

EP.6 เรื่องราวที่ไม่อาจย้อนคืน

แท้จริงแล้ว ครูแดนนี่เป็นนักสืบที่ประธานโดจินซอลจ้างมาเพื่อให้สืบว่า ยออุลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงของสามีหรือไม่ ? หลังสืบเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านมาระยะเวลาหนึ่ง ครูแดนนี่ก็มารายงานกับประธานโดจินซอลว่า ยออุลไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องการตายและการลงทุนของอันจียง สามีของเธอเลย

และนักสืบที่ยออุลจ้างให้สืบเรื่องต่าง ๆ ก็คือ ครูแดนนี่นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่เขาทำเป็นการผิดจรรยาบรรณในการเปิดเผยข้อมูลหลาย ๆ อย่างเพื่อช่วยยออุล ที่เขาทำแบบนั้นก็เพราะเขาแอบหลงรักยออุลอยู่นั่นเอง

แจอินมาขอโทรศัพท์ (ของอันจียง) คืน แต่ครูแดนนี่บอกว่าจะเอาไปคืนอีชานให้เอง แจอินตอบตกลง

ระหว่างนั้นแม้ว่ายออุลจะเห็นพฤติกรรมของนายุนเปลี่ยนไป แต่เธอก็พยายามไม่คิดอะไรมาก กระทั่งยออุลไปแอบได้ยินนายุนกับจีซอนคุยกัน ซึ่งเป็นบทสนทนาที่ดูเหมือนทั้งสองร่วมมือกันทำอะไรบางอย่างเพื่อเล่นงานเธอ … ยออุลช็อกมากที่ได้รู้ว่าเพื่อนที่เธอสนิทและไว้ใจมากที่สุดหักหลัง

แต่สิ่งที่ทำให้ตกใจยิ่งกว่าก็คือ ครูแดนนี่เอาโทรศัพท์ของอันจียองมาคืนให้กับยออุล แล้วก็ให้บังเอิญว่าเธอเกิดเอาวันเดือนปีเกิดของแจอินมาลองใส่เป็นรหัสปลดล็อกหน้าจอ ซึ่งก็ปรากฏว่าสามารถปลดล็อกได้ ภาพในนั้น เป็นภาพถ่ายครอบครัว “อันจียง นายุน และแจอิน” ณ จุดนี้ หัวใจของยออุลแทบแตกสลาย เมื่อสามีของตัวเองที่อยู่กินกันมานับสิบปีกลับไปมีครอบครัวอีกครอบครัวหนึ่งโดยที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน

ทีนี้ ภาพแฟลชแบ็กก็แสดงให้เห็นว่า นายุนเชื่อมาตลอดว่ายออุลเป็นคนฆ่าอันจียง ซึ่งทำให้เธอแค้นใจอยากล้างแค้นมาตลอด แต่ประธานโดจินซอลห้ามเอาไว้ นั่นหมายความว่านายุนรู้จักกับประธานโดจินซอลเป็นอย่างดี แต่ทั้งสองแสร้งทำเป็นไม่รู้จักกันด้วยเหตุผลบางอย่าง

ยออุลแอบไปรับแจอินให้มาเล่นกับอีชานโดยที่ไม่บอกให้นายุนรู้ จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตต้องออกตามหากันทั้งโรงเรียน แต่ก่อนที่เรื่องราวจะไปถึงตำรวจ ยออุลก็โทร. หานายุนและนัดให้มาเจอกัน …

วินาทีแรกที่เจอกัน ทั้งสองตบหน้ากันไปคนละฉาดใหญ่ …

“ลูกสาวของฉันอยู่ไหน ?” นายุนตวาดใส่อย่างสุดเสียง
“ไม่ต้องห่วงหรอก … รู้สึกอย่างไรบ้างล่ะ ที่ผ่านมาแย่งสามีชาวบ้านเขา โดนแย่งลูกสาวไปแค่เดี๋ยวเดียว รู้สึกยังไงบ้าง … ฉันเชื่อใจเธอมากนะ คิดว่าเธอเป็นเพื่อน ทำไมถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้ ยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า”

นายุนเริ่มน้ำตาซึมออกมาเมื่อเธอจะเริ่มพูดถึงอันจียอง สามีของเธอ (และของยออุลด้วยเช่นกัน) “อ๋อ ก็คุณเป็นคนฆ่าเขานี่ เขาไม่มีทางเลือกจบชีวิตตัวเองแบบนั้นแน่ ? ฉันก็เสียสามีไปเหมือนคุณ แต่ทำไมเหมือนฉันรู้สึกเสียใจอยู่คนเดียว แต่คุณกลับไม่รู้สึกอะไรเลย”
จากนั้น ยออุลก็เริ่มเอากฎหมายมาขู่ “ออกไปจากเซจูซะ ก่อนที่ฉันจะฟ้องข้อหาคบชู้ และแฉเรื่องทั้งหมดให้ลูกสาวของเธอได้รู้”

แต่ความจริงกลับน่าตกใจยิ่งกว่าสำหรับยออุล เมื่อนายุนบอกว่าเธอกับอันจียองคบกันมาก่อนที่เขาจะเจอกับยออุลนานเป็นชาติ “อะไรทำให้มั่นใจนักว่าคุณคบกับเขาก่อน ภาพวาดที่อยู่ในห้องทำงานเป็นของขวัญชิ้นแรกที่ฉันให้เขา ก่อนที่เขาจะเจอคุณนานเป็นชาติ … ฉันมาก่อน คนที่แย่งเขาไปจากฉันก็คือเธอ !!!”

ยออุลทำหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนที่ภาพจะซูมให้เห็นแหวนแต่งงานของทั้งคู่ที่เหมือนกันเป๊ะ !

EP.7 พายุเริ่มตั้งเค้าโหมกระหน่ำ

ยออุลประกาศที่จะสู้ตาต่อตาฟันต่อฟันกับนายุน … แต่เมื่อยออุลเดินออกมาจากแกลเลอรี่ ตำรวจก็รอควบคุมตัวเธอในข้อหาบุกรุก ระหว่างที่ยออุลถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจ อีชานได้โทร. หาครูแดนนี่ให้มาช่วย

เรื่องราวดำเนินไปท่ามกลางความตึงเครียดของนายุนกับยออุล และข่าวลือภายในโรงเรียนเรื่องที่ว่าอีชานกับแจอินมีพ่อคนเดียวกัน จีซอนจึงใช้โอกาสนี้เพื่อมาพบยออุลเป็นการส่วนตัวเพื่อคุยเรื่องข่าวลือที่เกิดขึ้น เพราะต้องการกำจัดแจอินให้พ้นทางการเป็นคู่แข่งกับจุนฮี ลูกสาวของเธอ …

“อีชานกับแจอินมีพ่อคนเดียวกันจริงหรือเปล่าคะ ?”
ยออุลแสร้งทำเป็นหัวเราะก่อนที่จะบอกปัดออกไป “คุณเชื่อข่าวลือไร้สาระพวกนั้นจริง ๆ เหรอคะ”
“ก็ไม่รู้สิคะ แต่ฉันเห็นหน้าตาของแจอินกับอีชานหน้าตาคล้ายกันมาก คล้ายขนาดที่ไม่ต้องได้รับการยืนยันจากคุณด้วยซ้ำไป … ว่ากันว่าศัตรูของศัตรูคือมิตร ฉันว่าอย่างน้อยเราก็สามารถร่วมมือกันได้ เพราะเรามีศัตรูคนเดียวกัน คุณเองก็คงไม่อยากเห็นลูกสาวของนายุนเรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกับลูกชายของคุณใช่ไหมล่ะ”

จากนั้น จีซอนก็เดินเกมกำจัดนายุนและลูกสาวของเธอให้ออกไปจากโรงเรียน โดยการบีบประธานโดจินซอลเพื่อให้ทำตามที่เธอต้องการ แต่ดูเหมือนว่าประธานโตจินซอลจะปฏิเสธ ด้านจีซอนจึงงัดเอาอดีตของประธานโดจินซอลขึ้นมาแบล็กเมล แท้จริงแล้ว ประธานโดจินซอลมีอดีตเป็นมาดามของคลับลับวีไอพีแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง ซึ่งเป็นสถานที่ที่อันจียงชอบไปเที่ยว และมีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษ แต่ดูเหมือนว่าประธานโดจินซอลจะไม่สนใจคำขู่ของจีซอนเลยแม้แต่นิดเดียว … ในตอนท้าย จีซอนโกรธจัดจนเอาน้ำในแก้วสาดใส่ ในขณะที่ยออุลก็มาแอบได้ยินเรื่องที่ทั้งสองคุยกันโดยบังเอิญ

เมื่อมาถึงวันงานแสดงดนตรี มีมือดีแอบเข้าไปพังไวโอลินของแจอิน ทำให้เธอไม่สามารถขึ้นแสดงได้ แจอินเกิดภาวะเครียดขึ้นมาอย่างฉับพลันจนเกิดอาการปวดท้องอย่างหนัก

จุนฮีโชว์ฝีมือการเล่นไวโอลินบนเวทีได้อย่างยอดเยี่ยม ระหว่างนั้นเอง ยออุลก็ได้รับข้อความจากประธานโดจินซอลให้ไปหาที่ห้องทำงานโดยด่วน ยออุลจึงรีบไปทันที ระหว่างทางก็เกิดเหตุการณ์บังเอิญขึ้นที่ทำให้เธอรู้ความจริงว่า ที่แท้แล้วครูแดนนี่ก็คือนักสืบที่เธอจ้างให้สืบเรื่องต่าง ๆ ของอันจียงนั่นเอง เมื่อรู้เช่นนั้น ยออุลจึงใช้มุกเดิม นั่นก็คือการขู่ว่าจะแจ้งความครูแดนนี่ในข้อหาฉ้อโกง

จังหวะเดียวกันนั้นเองทั้งโรงเรียนก็เกิดไฟดับขึ้นมา เด็กคนอื่น ๆ ได้หยุดเล่นเครื่องเล่นดนตรีในมือ มีเพียงจุนฮีเท่านั้นที่ยังคงสีไวโอลินในความมืดต่อไป แสดงให้เห็นความสามารถของเธอที่มีอย่างล้นเหลือเกินอายุ

แต่ระหว่างนั้นเองได้เกิดเรื่องราวที่น่าตกใจขึ้น เมื่อยออุลมาถึงที่ห้องทำงานของประธานโดจินซอล ก็พบร่างของประธานโดจินซอลนอนอยู่บนพื้น ด้วยความตกใจเธอจึงรีบโทร. แจ้ง 119 ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่ไฟติดขึ้น และนายุนก็เดินมาเห็นยออุลอยู่กับร่างที่ไร้สติของประธานโดจินซอล !

EP.8 ตาลปัตรอันแสนซับซ้อน

หลังจากประธานโดจินซอลถูกหน่วยกู้ภัยนำตัวไปส่งโรงพยาบาล ครูแดนนี่แอบเข้ามาที่ห้องทำงานของเธอเพื่อค้นหาของอะไรบางอย่าง แต่ยออุลก็เข้ามาเห็นพอดี และเตือนว่าให้เขามายุ่งกับเรื่องนี้อีก

จีซอนตกใจมากที่ได้ข่าวว่าประธานโดจินซอลเสียชีวิตแล้วเมื่อนำตัวส่งถึงโรงพยาบาล มีการสันนิษฐานการเสียชีวิตเบื้องต้นว่า เกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

รุ่งขึ้น ตำรวจชุดสืบสวนและชุดเก็บหลักฐานเข้าทำการตรวจสอบที่ห้องทำงานของประธานโดจินซอล พบวัตถุน่าสงสัยหลายอย่าง จากนั้นก็ทำการสอบปากคำยออุลในฐานะพยาน และในฐานะทนายความตัวแทนของโรงเรียน ยออุลตอบคำถามทุกอย่างเป็นปรกติ แต่ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่เธอตั้งใจปกปิดนั่นก็คือ นายุนเป็นอีกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ !?

ต่อมา ครูแดนนี่ก็ตั้งใจที่จะลาออกจากโรงเรียน เขาเจอกับยออุลอีกครั้งและได้สารภาพความจริงทั้งหมดว่า ประธานโดจินซอลเป็นคนที่จ้างเขาให้ตามสืบเรื่องที่เธอเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องธุรกิจของสามี ครูแดนนี่ตีหน้าเศร้าเหมือนรู้สึกผิด

ทีนี้เรื่องราวมันกลับซับซ้อนมากไปกว่าเดิม เมื่อเซฟจอง ซึ่งเป็นชู้รักของโดยอง กลับมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับประธานโดจินซอล ทำให้มีตัวละครที่น่าสงสัยเพื่มขึ้นมาอีกหนึ่ง

ยิ่งซับซ้อนไปกว่านั้นอีก เมื่อนายุนเองก็ได้รับข้อความจากประธานโดจินซอลว่า ให้เธอไปหาที่ห้องเช่นกัน

ยออุลมาพบกับนายุนเพื่อขอร้องให้เธอบอกกับตำรวจว่าไม่รู้ไม่เห็นอะไรในวันนั้น เพื่อให้ตรงกับสิ่งที่เธอให้ปากคำไปก่อนหน้านี้ “ฉันบอกกับตำรวจไปว่า ฉันเป็นคนเดียวที่อยู่ที่ห้องทำงานของประธานโดในคืนนั้น ถ้าตำรวจเกิดสอบปากคำเธอ ก็บอกไปว่าไม่รู้เรื่องก็แล้วกัน”

นายุนตอกกลับไปทันทีว่า “ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้นด้วยล่ะ ?”
ยออุลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ “ทุกคนกำลังนินทาเรื่องความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่กันอย่างสนุกปาก ฉันไม่อยากให้คนเอามาโยงกับเหตุการณ์นี้ เพราะงั้น พอแค่นี้เถอะนะ”
นายุนหัวเราะแหะ ๆ เชิงประชดประชัน “ตัวแทนด้านกฎหมายของโรงเรียนเขาทำกันอย่างนี้เหรอ วางแผนหลอกลวงผู้คนเพื่อปกปิดความจริง … อย่ามาโกหกเลย ทำไมประธานโดถึงอยากเจอคุณในคืนนั้น คนที่ตายไปแล้ว ทั้งเขาคนนั้น (อันจียง) และประธานโด คุณก็เป็นคนที่เจอพวกเขาเป็นคนสุดท้ายก่อนที่ทั้งคู่จะตาย”
ยออุลตวาดลั่นออกมาเพื่อให้นายุนหยุด “เลิกพร่ำได้แล้ว ฉันไม่อยากฟังเรื่องที่เธอมโนขึ้นมาเอง”

ระหว่างพิธีศพของประธานโดจินซอล ตำรวจบุกมาที่โบสถ์เพื่อจับกุมยออุลในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องในการตายของประธานโดจินซอล

ตำรวจมีหลักฐานเป็นดีเอ็นเอในซอกเล็บของประธานโดจินซอล ซึ่งตรงกับสร้อยข้อมือของยออุลที่ทำหล่นเอาไว้ ซึ่งคำให้การของยออุลไม่ตรงกับที่เคยให้การไว้ในครั้งแรก อีกทั้งยังได้มีการตรวจพบตัวยา “ดีจอกซิน” (ยารักษาโรคหัวใจ) อยู่ในแก้วที่ตกอยู่ภายในห้องที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อทำการชันสูตรแล้วพบว่าศพมีปริมาณดีจอกซินสูงกว่าปริมาณปกติที่ใช้ถึง 5 เท่า นั่นหมายความว่าประธานโดไม่ได้ตายจากภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน พูดง่าย ๆ ก็คือมีคนจงใจฆ่าเธอนั่นเอง !

ทีนี้ยออุลตกเป็นผู้ต้องสงสัยด้วยไทม์ไลน์ที่มีพิรุธ ข้อเท็จจริงก็คือ ยออุลได้รับข้อความจากประธานโดเมื่อเวลา 18.10 น. แต่โทร. แจ้ง 119 เมื่อเวลา 19.45 น. จะเห็นได้ว่ามีช่วงเวลาที่โหว่ไปชั่วโมงกว่า !? ซ้ำยังมีคำให้การของนายุนที่ระบุว่า เธอได้ยินยออุลกับประธานโดทะเลาะกัน ยิ่งทำให้เธอตกเป็นเป็นผู้ต้องสงสัย No. 1 อย่างปฏิเสธไม่ได้

ในคืนนั้นเอง ยออุลนั่งอยู่ในห้องขังที่สถานีตำรวจเชจู เธอได้แต่บ่นเป็นห่วงอีชานที่ตอนนี้อยู่ที่บ้านของนายุน

EP.9 คำขอสุดท้าย

เนื่องจากตำรวจไม่มีหลักฐานที่เพียงพอจะเอาผิดยออุลได้ สุดท้ายเธอก็ได้รับการปล่อยตัว หลังจากต้องนอนคุกอยู่หนึ่งคืน

นายุนเช็กภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อดูว่าใครเป็นคนทำลายไวโอลินของแจอินจนทำให้ไม่ได้ขึ้นทำการแสดง แต่เมื่อตรวจสอบแล้วก็พบความจริงว่า ตัวแจอินเองที่เป็นคนพังไวโอลินของตัวเอง เมื่อกลับมาถึงบ้าน นายุนจึงถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่แสดงความโกรธ “บอกแม่มาว่าทำไมต้องโกหก !?”

“แม่ก็โกหกหนูเหมือนกัน พ่อไม่เห็นมาเลย” แจอินร้องไห้ออกมาไม่หยุด เธอตวาดลั่นใส่แม่อย่างที่ไม่เป็นมาก่อน “โกหก … อีชานบอกว่าพ่อจะไม่มาอีกแล้ว บอกว่าเราจะไม่ได้เจอพ่อออีกแล้ว รู้ไหมว่าหนูคิดถึงพ่อแค่ไหน หนูเกลียดแม่ !” สิ้นเสียง แจอินก็วิ่งหนีเข้าห้องไปนอนร้องไห้อยู่คนเดียว

นายุนตกใจเป็นอย่างมากกับพฤติกรรมของลูกสาวที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เธอรู้ดีว่ามันเป็นความเสียใจที่เธอไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากเข้าไปปลอบประโลมหัวใจของลูกสาวตัวน้อย “แจอิน แม่เชื่อว่าสักวันหนึ่งพ่อจะมาหาเราจริง ๆ เพราะพ่อไม่ใช่คนที่ผิดคำสัญญา แม่ขอโทษนะ แม่ไม่ได้ตั้งใจโกหกแจอิน แม่ก็คิดถึงพ่อไม่น้อยไปกว่าแจอินเลย” ในท้ายที่สุด แจอินก็โผเข้ากอดแม่พร้อมกับเอ่ยคำว่า “แม่ หนูขอโทษ”

ต่อมาตำรวจรู้ตัวคนที่ดับไฟระหว่างการแสดงดนตรีที่โรงเรียน โดยลายนิ้วมือที่พบที่เซอร์กิตเบรกเกอร์ในห้องปั่นไฟของโรงเรียนเป็นของเชฟจอง ตำรวจจึงควบคุมตัวเชฟจองมาสอบสวน “คุณฆ่าประธานโดหรือเปล่า ?”

“เปล่านะ ผมไม่ได้ทำ” เชฟจองปฏิเสธด้วยท่าทางเลิ่กลั่ก จากนั้นเขาก็พยายามอธิบายว่า เป็นเพราะเขามีปัญหาเรื่องเงินลงทุนในธุรกิจร้านอาหารที่กำลังมีปัญหา ทำให้เขาเกิดอารมณ์ชั่ววูบ แต่หลังจากนั้นเขาก็ขึ้นรถกลับทันที ซึ่งเขาสามารถยืนยันความจริงได้ด้วยกล้องหน้ารถ สุดท้ายเชฟจองก็ได้รับการปล่อยตัวไปอีกเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน ยออุลก็ต้องตกใจเป็นอย่างมากที่ได้รู้ว่า อเล็กซ์ คอมเมอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของโรงเรียนนานาชาติเชจู (HSC) แท้จริงแล้วเป็นตัวแทนฝ่ายกฎหมายและบัญชีของอันจียง สามีเธอ

อเล็กซ์ คอมเมอร์ หยิบแหวนที่อันจียงเคยให้เธอเป็นของขวัญเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง “แหวนวงนี้ถูกส่งมาในวันที่ท่าน (อันจียง) เกิดเรื่องในวันนั้น ท่านยังได้ฝากข้อความมาถึงคุณด้วย โดยให้นำมาให้ในอีก 1 ปีต่อมา” … พูดง่าย ๆ ก็คือ เขาต้องการให้ยออุลแจ้งการตายของอันจียง เพราะแม้ตำรวจจะสรุปสำนวนคดีและปิดคดีไปแล้ว แต่ในทางกฎหมายยังไม่ถือว่าอันจียงเสียชีวิต เนื่องจากยังไม่มีการแจ้งความคนตาย

อเล็กซ์กล่าวต่อ “นี่คือคำสั่งเสียของผู้ล่วงลับ เขาอยากให้คุณปล่อยเขาไปเสียที ท่านอยากถูกลืมจากความทรงจำผ่านความตาย … ความจริงก็คือ บริษัทของกรรมการอันจียงเป็นหนี้มูลนิธิอยู่ 500 ล้านดอลลาร์ ถ้าคุณไม่แจ้งตายให้สามี ประธานคนใหม่ที่จะขึ้นมาก็จะต้องฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยในนามของมูลนิธิ ซึ่งประธานโดได้ระงับเรื่องการฟ้องร้องนี้เอาไว้จนถึงตอนนี้”

อเล็กซ์ก็ได้เล่าเรื่องความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันเป็นพิเศษของประธานโดกับอันจียอง ซึ่งทั้งคู่สนิทกันมานานนับสิบปี ตั้งแต่ประธานโดเลิกกับสามีชาวอังกฤษ จากนั้นอันจียงก็ได้ก่อตั้งมูลนิธิ และตั้งประธานโดให้ขึ้นมาเป็นประธานนับแต่นั้นเป็นต้นมา ส่วนความสัมพันธ์ของนัมจีซอนนั้น เธอเป็นเพียงผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุด ที่เสียหายหนักที่สุด

อเล็กซ์ยื่น USB Drive ให้กับยออุลพร้อมกับเอ่ยว่า “เป็นการตัดสินใจของคุณนะครับ มีแต่คุณเท่านั้นที่ทำได้ รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในนั้นครับ”

ยออุลกลับมาเปิด USB Drive ที่บ้าน ซึ่งมีไฟล์เสียงของอันจียงบันทึกเอาไว้อยู่ “ยออุล ถ้าคุณได้ยินที่ผมพูดอยู่ก็แสดงว่าผมไม่ได้อยู่กับคุณแล้ว ผมขอโทษที่เรื่องเป็นแบบนี้ แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงคุณคงไม่ยกโทษให้ผม แต่ ณ ตอนนี้ ผมจำเป็นต้องตัดคุณกับอีชานออกไป เพราะมันเป็นทางเดียวเท่านั้น นั่นก็คือการกำจัดตัวเองทิ้งไป ผมไม่ต้องการลากคุณให้มาตกนรกขุมที่ผมกำลังเผชิญอยู่นี้ นี่คือคำขอสุดท้ายจากผม ปล่อยผมไปเถอะนะ”

วันรุ่งขึ้น ยออุลเซ็นใบแจ้งการตายของยออุล และตัดสินใจที่จะปล่อยเขาไปตามที่เขาขอ อีกทั้งยังวางแผนที่จะกลับไปใช้ชีวิตที่โซลกับลูกชายของเธอ

คืนนั้น ระหว่างที่พายุกำลังพัดถล่มเกาะเชจู ก็ได้เกิดเรื่องราวอันน่าตกใจขึ้น เมื่อมีบุคคลปริศนาในชุดคลุมฝนสีดำได้มาปาก้อนหินใส่กระจกบ้านยออุลจนแตก ท่ามกลางความตกใจของอีชานที่ร้องออกมาสุดเสียงด้วยความกลัว

EP.10 มีใครบางคนอยู่ที่นี่

ครูแดนนี่ทำตัวเป็นสต๊อกเกอร์ แอบดักฟังยออุลผ่านทางแอปสอดแนมที่ติดตั้งเอาไว้ในโทรศัพท์ของอันจียง … ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินเสียงกรีดร้องของอีชาน และเสียงกระจกแตก เขาจึงรีบเข้ามาที่บ้านยออุลในทันที

เมื่อมั่นใจว่ายออุลกับอีชานปลอดภัยแล้ว ครูแดนนี่จึงรีบวิ่งออกไปตามหาตัวคนร้าย ในที่สุดก็จับตัวผู้ต้องสงสัยได้ เธอคือชิมแอซุน แม่บ้านที่ทำงานอยู่ในโครงการที่ยออุลอาศัยอยู่นั่นเอง

ตำรวจค้นประวัติของชิมแอชุนก็พบเรื่องที่น่าตกใจ เพราะเธอเคยถูกจับกุมในคดีวางเพลิงและฆาตกรรมสามีของตัวเองเมื่อ 20 ปีก่อน หลังจากติดคุกมา 15 ปี เธอก็ได้รับการภาคทัณฑ์ แต่ระหว่างที่เธออยู่ในคุกนั้น ลูกสาววัย 12 ปีของเธอก็หนีหายไปตั้งแต่ตอนนั้น

แม้จะจับคนร้ายได้ แต่ยออุลก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่า ทำไมแม่บ้านธรรมดาคนหนึ่งถึงได้เกลียดเธอ ขนาดที่ต้องมาปาหินใส่บ้านกลางดึก

วันถัดมา นายุนได้ยื่นเอกสารบางอย่างที่อยู่ในซองน้ำตาลให้กับยออุล ณ ตอนนี้ น้ำเสียงและท่าทีของนายุนดูจะเป็นมิตรกับยออุลมากขึ้น … นายุนมายื่นข้อตกลงไกล่เกลี่ย เธอจะถอนแจ้งความเรื่องคดีบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ แลกกับการที่ยออุลจะไม่เอาผิดแม่บ้านชิมแอซุน

นายุนให้เหตุผลกับยออุล เรื่องที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือแม่บ้านที่เธอไม่รู้จัก เป็นเพราะความสงสาร อย่างไรก็ตาม ยออุลตกลงที่จะไกล่เกลี่ยคดี ต่อมาแม่บ้านชิมแอซุนก็ได้รับการปล่อยตัว … แต่ด้วยความสงสัย ยออุลจึงสั่งให้ครูแดนนี่ไปสืบเรื่องลูกสาวของแม่บ้านชิมแอซุน เพราะลึก ๆ แล้วเธอก็สงสัยว่า อาจจะเป็นนายุน ?

ด้านอีชานที่เหตุการณ์ในคืนนั้นทำให้เขาช็อก จนเกิดภาวะพูดไม่ได้อย่างกะทันหัน ยออุลจึงพาอีชานเข้ารับการรักษาด้วยวิธี “ศิลปะบำบัด”

เรื่องราวดำเนินไป ยออุลเปลี่ยนใจเรื่องการแจ้งการตายของสามี และเลื่อนแผนการย้ายกลับโซลไปอย่างไม่มีกำหนด … และยออุลก็ได้พบกับแม่บ้านชิมแอซุน ที่กำลังเก็บข้าวของเดินออกจากโครงการไปเพราะโดนไล่ออก ก่อนไปเธอได้บอกกับยออุลว่า “ฉันไม่ได้เป็นคนปาหินนั่นใส่กระจกบ้านคุณ ที่นั่นมีคนเฝ้าดูคนอยู่” ?

คืนนั้นเอง ยออุลต้องตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อพบว่า โทรศัพท์มือถือของอันจียงหายไป และเมื่อเธอเปิดดูภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้เห็นว่ามีใครบางคนอยู่ในบ้าน แต่มันน่าตกใจมากไปกว่าเดิม เมื่อเธอให้เจ้าหน้าที่จากบริษัทรักษาความปลอดภัยมาตรวจสอบ ก็ไม่พบร่องรอยการงัดแงะจากภายนอกแม้แต่นิดเดียว

ยออุลโทร. ไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับครูแดนนี่ ณ จุดนี้เอง เขายอมรับกับยออุลว่าตัวเองติดตั้งแอปสอดแนมเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้น และเมื่อเขาตรวจสอบจีพีเอส ตำแหน่งของโทรศัพท์ระบุว่าอยู่ภายในบ้าน

แดนนี่รีบมาที่บ้านยออุล เขาสั่งให้โทรศัพท์เครื่องนั้นส่งเสียงร้องออกมาผ่านแอปสอดแนม จนไปพบว่า บ้านแห่งนี้มีห้องใต้ดินลับ

ภายในห้องใต้ดินนั้น มีมอนิเตอร์ที่ทำให้เห็นความเคลื่อนไหวภายในบ้าน มีตู้เย็น มีทางออกไปภายนอก … ณ จุดนี้ ยออุลได้พบความจริงแล้วว่า อันจียงยังไม่ตาย และเขาหลบซ่อนตัวอยู่ที่ชั้นใต้ดินบ้านเดียวกับที่เธอและลูกอยู่มาโดยตลอด

EP.11สิ่งที่เหลือไว้ให้เธอ

ในคืนนั้น หลังจากยออุลพบว่าที่บ้านมีห้องลับใต้ดิน และถูกจับตามองด้วยกล้องวงจรปิด เธอจึงพาอีชานไปนอนพักที่บ้านของครูแดนนี่ชั่วคราว

ยออุลตัดสินใจที่จะไม่เอาเรื่องดังกล่าวไปแจังตำรวจ จากนั้นเธอก็สั่งให้ครูแดนนี่ไปสืบหาผู้รับเหมาที่ทำห้องใต้ติน โดยเบื้องต้นเธอเชื่อว่านายุนเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เพราะผู้จัดการโครงการหมู่บ้านให้ข้อมูลว่า นายุนเคยมาที่บ้านนี้

ในวันประชุมสมาคมผู้ปกครองฯ อเล็กซ์ คอมเมอร์ ได้ประกาศตัวประธานโรงเรียนนานาชาติ HSC คนใหม่ ซึ่งสร้างความตกตะลึงให้กับผู้ปกครองที่เข้าร่วมประชุม เพราะคนคนนั้นคือ นายุน

หลังการประชุม นายุนไปพบยออุลที่ห้องทำงานด้วยท่าทางที่เย่อหยิ่ง “พี่เป็นคนบอกเองว่า บ้านหลังนั้นคือสิ่งที่เขาทิ้งไว้ให้พี่ ดูนี่สิคะ นี่คือสิ่งที่เขาทิ้งไว้ให้ฉัน แบบที่พี่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยสักนิด คู่สมรสตามกฎหมายอย่างนั้นเหรอ อยากมีก็เชิญเลย ของแบบนั้นมันมีเอาไว้อวดคนอื่นแค่นั้นแหละ”

ยออุลวิปขึ้นสมอง วาดมือไปตบหัวนายุน “นังบ้านี่ พูดอะไรหัดคิดบ้าง ฉันพยายามเข้าใจเธอในฐานะที่เป็นผู้หญิงด้วยกันแล้วนะ”
“อย่าเล่นตลกเลย ฉันไม่เคยขอร้องให้คุณมาเข้าใจฉัน อ๋อ แล้วอย่าลืมลาออกจากตำแหน่งทนายของโรงเรียนด้วยนะคะ แล้วอีกอย่าง มูลนิธิจะฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยเงินลงทุน เตรียมตัวไว้ด้วยนะ”

ครูแดนนี่ตามสืบกับผู้รับเหมาทำห้องใต้ดินจนได้รู้ว่า ผู้จ้างที่ให้ทำห้องนั้นคือ อเล็กซ์ คอมเมอร์ … ณ จุดนี้ ยออุลจึงคิดว่านายุนกับอเล็กซ์ร่วมมือกัน

ในวันเข้ารับตำแหน่งประธานของนายุน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ครูแดนนี่โดนจับในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร เขาจึงโทร. ไปบอกรหัสเข้าห้องทำงานของอเล็กซ์เพื่อไปค้นหาหลักฐานบางอย่าง อย่างเช่นข้อมูลในยูเอสบีไดรฟ์

ระหว่างที่ยออุลอยู่ในห้องนั้น อเล็กซ์กับใครอีกคนก็กลับเข้ามาที่ห้อง ยออุลจึงแอบเข้าไปอยู่ในตู้ และทำให้เธอได้รู้ความจริงอันน่าตกตะลึง …

อเล็กซ์กำลังคุยอยู่กับอันจียงเรื่องการกำจัดประธานโดจินซอล … แท้จริงแล้ว อันจียงยังไม่ตาย และยังเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการตายของประธานโดจินซอล

EP.12 ลางสังหรณ์ไม่เคยผิดพลาด

ยออุลซ่อนตัวอยู่ในตู้ภายในห้องทำงานของอเล็กซ์ สิ่งที่เธอเห็นทำเอาเธอตกใจเป็นอย่างมาก เพราะชายที่ปรากฏตัวนั่งอยู่เบื้องหน้าอเล็กซ์ก็คือ อันจียง สามีผู้ล่วงลับของเธอ และที่น่าตกใจไปกว่านั้น คนที่อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมประธานโดจินซอลก็คือเขานั่นเอง

“ทุกอย่างเป็นไปตามแผนครับ เมื่อการโอนมูลนิธิเสร็จสมบูรณ์ก็สามารถย้ายเงินทุนได้ตามแผนที่วางเอาไว้ แต่ยังติดปัญหาอยู่นิดหน่อย” อเล็กซ์ คอมเมอร์ พูดกับเจ้านายผู้ลึกลับของเขา

“ดูเหมือนว่านายไม่รู้สินะว่าตัวเองก่อปัญหาไว้มากแค่ไหน เคยคิดบ้างไหมว่าทำไมโดจินซอลต้องตาย สถานการณ์ของนายตอนนี้ก็ไม่ต่างกันหรอก หลังจากนี้ไปฉันจะปิดฉากเอง” อันจียงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและเย็นชา มันช่างเป็นน้ำเสียงที่เลือดเย็นยิ่งนัก เป็นน้ำเสียงที่ยออุลไม่เคยได้ยินมาก่อนตลอดชีวิตการแต่งงานกว่าสิบปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยรับรู้มุมที่อันตรายของเขามาก่อนเลยกระทั่งวันนี้

ตำรวจเจอยา “ดีจอกซอล”​ ของประธานโดจินซอลที่บ้านของครูแดนนี่ (โอซุนซัง) ทำให้เขาตกเป็นเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมประธานโดจินซอล แต่ก่อนที่เขาจะให้การใด ๆ กับตำรวจ ยออุลในฐานะทนายของครูแดนนี่ก็ปรากฏตัวขึ้นขอพูดคุยกับลูกความเป็นการส่วนตัว

ครูแดนนี่เล่าว่า ยากระปุกนั้นเขาเก็บเอามาจากบ้านของยออุล ตอนที่ยออุลถูกขังอยู่ในห้องขัง แล้วใช้ให้เขาแอบเข้ามาที่บ้านเพื่อเอาโทรศัพท์ของอันจียงไปซ่อน ก่อนที่ตำรวจจะเข้าทำการค้นบ้าน

เมื่อยออุลเอาเรื่องราวต่าง ๆ มาประมวลด้วยกัน ทำให้เธอรู้แล้วว่าเธอโดนจัดฉากให้เป็นแพะ แต่สิ่งที่เธอไม่เชื่อนั่นก็คือ คนที่อยู่เบื้องหลังเป็นสามีที่เธอรักและเชื่อใจมากที่สุด !

ยออุลเข้าไปที่ห้องใต้ดินลับเพื่อไปดูภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งปรากฏว่าภาพที่บันทึกเอาไว้เกิดมีภาพตอนที่อเล็กซ์แอบเข้ามาที่บ้านเธอ เพื่อเอากระปุกยาของประธานโดจินซอลมาวางเอาไว้ และยังมีภาพที่ครูแดนนี่หยิบเอากระปุกยานั้นไปด้วย จากหลักฐานนี้ทำให้ครูแดนนี่ได้รับการปล่อยตัว

แล้วจู่ ๆ ยออุลก็โทร. ไปหาอเล็กซ์เพื่อบอกในสิ่งที่เธอรู้ซะอย่างนั้น “คุณเองสินะที่สร้างห้องใต้ดินลับในบ้านของฉัน แล้วก็ฆ่าประธานโดจินซอล ถึงขั้นจัดฉากหลักฐานวางกระปุกยาโยนความผิดมาให้ฉัน ฉันรู้หมดแล้วว่าเขา (อันจียง) ยังไม่ตาย คิดว่าคนอย่างเขาจะเชื่อใจคุณอย่างนั้นเหรอ ระวังซะตากรรมสุดท้ายของคุณเอาไว้ด้วยนะคะ”

จากนั้น ยออุลก็เอาเรื่องที่อันจียงยังมีชีวิตอยู่ไปบอกกับนายุน แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว “จะเชื่อใจเขาต่อไปก็เรื่องของเธอเถอะ ถือว่าฉันเตือนแล้วนะ”

ระหว่างนั้นตำรวจก็ตามไล่ล่าเพื่อจับกุมอเล็กซ์ แต่สิ่งที่น่าตลกก็คือ ตำรวจตามตัวอเล็กซ์โดยอาศัยอุปกรณ์ติดตามจีพีเอสที่ผิดกฎหมายของครูแดนนี่เฉยเลย แต่สุดท้ายก็จับไม่ได้เพราะไม่มีหมายจับ !?

ในตอนท้าย นายุนได้รับของขวัญจากอันจียงเป็นรถสปอร์ตคันใหม่ ระหว่างที่เธอกำลังขับรถคันนั้นกลับบ้าน อันจียงได้สร้างเซอร์ไพรซ์โดยการโทร. หาเธอ …

“ฮัลโหล”
“เป็นยังไงบ้าง ชอบของขวัญไหม ?”
“นั่นเป็นคุณจริง ๆ ใช่ไหม ?”
“ผมสัญญากับคุณแล้วไงว่าผมจะอยู่กับคุณเมื่อจัดการทุกอย่างแล้ว ขอโทษนะที่ทำให้ลำบาก”

นายุนแทบไม่เชื่อว่าเสียงปลายสายจะเป็นสามีที่เธอรักมากที่สุด สามีที่เธอคิดว่าเขาได้จากโลกนี้ไปแล้ว สามีที่เธอคิดว่าในชีวิตนี้เธอจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว น้ำเสียงสั่นเครือของเธอเอ่ยออกไปว่าเขาอยู่ที่ไหน เธออยากจะเจอเขาให้เร็วที่สุด “ฉันจะไปหาให้เร็วที่สุดค่ะ”

นายุนนั่งรออยู่อันจียงอยู่ที่คาเฟ่แบบเอ้าดอร์ที่หนึ่ง เธอรอมานานนับปีเพื่อวันนี้ มันเป็นวันที่เธอไม่เชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น เธอนั่งรออยู่อย่างนั้น เธอนั่งรอสามีอันเป็นที่รักอยู่อย่างนั้น แต่ทว่า สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง รถบรรทุกหกล้อพุ่งตรงมายังโต๊ะที่เธอนั่งอยู่ พุ่งเข้ามาโดยที่เธอไม่ได้สังเกตแม้แต่นิดเดียว เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทั้งกระจังหน้าของรถหกล้อคันนั้น ขณะที่บนพื้น ร่างที่ไร้สติของนายุนนอนกองอยู่อย่างแน่นิ่ง เลือดเปรอะเปื้อนไปทั่วตัวและศีรษะของเธอ !

EP.13 ลาก่อนเพื่อนคนเดียวของฉัน

ยออุลได้รับโทรศัพท์ด่วนจากโรงพยาบาล เพื่อให้มาเซ็นยินยอมการผ่าตัด ตอนนั้นเองที่ทำให้ยออุลได้รู้ความจริงว่า คุณป้าแม่บ้านคือแม่ที่แท้จริงของนายุน

ตัดภาพมาที่นัมจีซอนที่มาหาสามีของเธอที่คลินิกศัลยกรรมเสริมความงาม หญิงสาวนอนไร้ลมหายใจอยู่บนเตียงที่ใช้ในการผ่าตัด “เธอบอกว่านอนไม่หลับ ผมก็เลยฉีดยาให้ แต่มันเหมือนกับมีอะไรบางอย่างที่ผิดพลาดไป เธอบอกว่าใช้ยาโปรโพฟอลไม่ค่อยได้ผล ผมก็เลยผสมยาชนิดที่ต่างจากที่เคยใช้เพิ่มเข้าไปอีกสองสามชนิด”
“คุณกลับไปบ้านก่อน เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องนี้ให้เอง” สามีหมอของจีซอนตกใจจนลนลานเป็นอย่างยิ่ง แตกต่างกับจีซอนที่ควบคุมอารมณ์ทุกอย่างเป็นอย่างดี

“ไม่จำเป็นต้องแจ้งตำรวจหรอกค่ะ”
“มันเป็นอุบัติเหตุ ถ้าผมบอกความจริงไปว่ามันเกิดอะไรขึ้น …”
“อย่างที่คุณบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวล กลับบ้านไปนอนพักซะหน่อยนะ” จีซอนเข้าสวมกอดสามีเพื่อให้เขาสงบสติอารมณ์ลง

สิ่งที่จีซอนทำก็คือเอาศพของหญิงสาวคนนั้นหั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่ในกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่สองใบ แล้วเอาไปฝังไว้ในป่า แต่ระหว่างนั้นเองได้มีบุคคลปริศนาแอบถ่ายคลิปจีซอนกับเลขาคนสนิทกำลังช่วยกันฝังกลบศพนั้น !?

การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี แต่ดูเหมือนว่าอาการโดยรวมของเธอจะยังอยู่ในสภาวะโคม่า … ยออุลได้แต่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ว่าที่จริงเธอก็เสียใจไม่น้อยกับเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับนายุน เธอโทษตัวเองว่าน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เรื่องน่าเศร้านี้เกิดขึ้น เรื่องน่าเศร้าที่ทำให้หนูน้อยแจอินอาจจะต้องสูญเสียแม่ไป !

ยออุลได้คลิปบันทึกหน้ารถของนายุน ทำให้เธอได้ฟังบทสนทนาของนายุนกับอันจียง เมื่อได้ฟังแล้วเธอถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน ที่ผ่านมามันคือความสัมพันธ์ชีวิตคู่ที่โกหกและหลอกลวงมาตลอด

ยออุลกลับมาหานายุนที่โรงพยาบาล เธอนึกถึงอดีตความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนกับนายุน “ฟื้นขึ้นมาเถอะ ฟื้นขึ้นมาเล่าทุกอย่างให้ฉันฟังหน่อย เรามีเรื่องที่ต้องคุยกันอีกเยอะเลย เราจะปล่อยไอ้ชั่วนั่นลอยนวลไม่ได้นะ เพราะฉะนั้นรีบตื่นขึ้นมาเถอะ” ไม่ทันสิ้นเสียง นิ้วของนายุนก็ขยับได้ราวปาฏิหาริย์ สักพักดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นมา นายุนฟื้นขึ้นมาแล้วจริง ๆ

แต่ทว่า ระหว่างที่ยออุลกำลังออกไปตามคุณป้าแม่บ้าน ซึ่งเป็นแม่ของนายุน อันจียงได้แอบเข้ามาในห้องแล้วถึงสายออกซิเจนออก ไม่นานหลังจากนั้น นายุนก็เสียชีวิต !

EP.14 แก้ไขสิ่งผิด ?

ยออุลค้นหาเอกสารสัญญาทางการเงินในห้องทำงานของอเล็กซ์ คอมเมอร์ จนได้เจอเอกสารนั้นในตู้เซฟ

เมื่อได้เอกสารดังกล่าว ยออุลจึงทำการขอระงับการโอนเงินดังกล่าวไปที่ฮ่องกง จากนั้นเธอก็เอาเงินดังกล่าวคืนให้กับแม็กกี้ เฉิน ประธานว่านไจ๋กรุ๊ปแห่งฮ่องกง เพื่อเอาสิทธิในการบริหารของโรงเรียนคืน

จากนั้นยออุลก็ไปหาจีซอนเพื่อเอาเอกสารยื่นฟ้องในข้อหายักยอก “ประธานนัมจีซอน ในนามของมูลนิธิเฮซเอสซี ฉันฟ้องร้องคุณในข้อหายักยอกและละเลยต่อหน้าที่”

นัมจีซอนโกรธเป็นอย่างมาก แต่มันยังไม่เพียงเท่านั้น เพราะในเวลาเดียวกันนั้นเอง สามีของเธอเกิดสมองกลับด้วยความรู้สึกผิดขึ้นมาซะอย่างนั้น เขาเดินไปที่สถานีตำรวจเพื่อสารภาพความผิดในคดีฆ่าคนตาย !

ยออุลโดนอันจียงลักพาตัวไป ยออุลถูกมัดอยู่บนเรือยอชต์ โดยมีอันจียงอยู่บนเรือ …

“ไม่เจอกันนานเลยนะ”
“คุณทำอะไรของคุณ ?”
“ใจเย็น ๆ ก่อนสิ สีหน้าคุณเหมือนไม่ดีใจที่ผมเห็นยังมีชีวิตอยู่เลยนะ”
“คุณทอดทิ้งฉันกับอีชาน หลายปีที่รู้จักกันมาล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องหลอกลวงทั้งนั้น”
“ก็ผมบอกแล้วไงว่าให้รอและเชื่อใจผม แต่คุณไม่เชื่อใจผมเอง”
“หลังจากที่คุณแกล้งตาย แล้วไปใช้ชีวิตกับผู้หญิงคนนั้น (ฮวังนายุน) ในชื่อเควิน ฮวัง ทำไมถึงต้องทำขนาดนั้นด้วย”
“ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้หรอก ผู้หญิงคนนั้น (ประธานโดจินซอล) เป็นคนก่อเรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี้ขึ้นมา โดยการเชิญคุณและอีชานมาที่นี่ มันควรจะจบแบบง่าย ๆ แต่มันเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียว”
“คุณทำได้ยังไง คุณเป็นคนเดิมที่ฉันรู้จักหรือเปล่าเนี่ย !?”
“มันไม่สำคัญหรอก ผมแค่จะแก้ไขสิ่งผิดพลาดที่มันเกิดขึ้น”

อันจียองเดินไปหยิบมีดเอาไว้อยู่ในมือ ในขณะที่ยออุลยังพยายามพูดให้เขาเข้ามอบตัว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจแม้แต่นิดเดียว …

“ที่รัก ผมอยากเริ่มต้นใหม่”
“แต่สิ่งที่คุณทำมันเป็นอาชญากรรมนะ”
“อย่ามาทำเป็นอวดดี เงินทั้งหมดที่คุณกับอีชานใช้คุณคิดว่ามันได้มาจากไหน ผมเดิมพันทุกอย่างที่ผมมี แม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง แค่ผมลงทุนล้มเหลวแค่ไม่กี่ครั้ง แล้วมาตราหน้าผมว่าเป็นนักต้มตุ๋นได้ยังไง”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายออุลจะพูดอย่างไร แต่ดูเหมือนว่าอันจียงจะไม่สนใจสิ่งที่เธอพูดเลยแม้แต่นิดเดียว “เราอยู่กันสองคน ถ้าคุณหายไปคงไม่มีใครรู้หรอก อีกอย่างผมก็ตายไปแล้ว” !?

EP.15 แค้นที่ไม่มีวันให้อภัย

ยออุลโทร. สั่งยกเลิกการระงับการโอนเงินไปบัญชีที่ฮ่องกงตามที่อันจียงต้องการ แต่หลังจากที่เขาได้สิ่งที่ต้องการแล้ว อันจียงก็ผลักยออุลตกลงทะเลไป แต่ทันใดนั้นเอง คุณป้าแม่บ้านซัมแอชุน แม่ของฮวังนายุน ก็เข้ามาช่วยเอาไว้ได้ ก่อนที่อันจียงจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

ตัดภาพมาที่โรงเรียนนานาชาติเฮชเอสซี ตำรวจโรงเรียนตรวจพบกัญชาในตู้ล็อกเกอร์ของจุนโม ทำให้ทางตำรวจเข้ามาสอบสวน ในระหว่างการให้ปากคำนั้นเอง จุนโมได้ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เขาเอาคลิปที่แอบถ่ายตอนที่จีซอน ซึ่งเป็นแม่ของเขาเองฝังชิ้นส่วนศพกลางป่าลึก !

อันจียงเดินทางมาที่ฮ่องกงภายใต้ชื่อ เควิน ฮวัง เพื่อทำการถอนเงิน 1 พันล้านเหรียญที่ถ่ายโอนมาจากมูลนิธิเฮชเอสซี แต่ปรากฏว่านายุนได้ทำการถอนเงินดังกล่าวไปจนหมดแล้ว … นายุนยังไม่ตาย !

นายุนยังไม่ตาย … งานศพของนายุนและการตายของเธอเป็นแผนของยออุลที่วางเอาไว้ตั้งแต่แรก

นายุนเดินทางกลับมาเกาหลี เธอเอาแคชเชียร์เช็คมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ให้กับยออุลที่มารอที่สนามบิน เพื่อเอาเงินดังกล่าวไปให้กับตำรวจ เพื่อคืนให้กับเหยื่อที่โดนอันจียงหลอกให้มาลงทุน

EP.16 ตอนจบ

อันจียงลักพาตัวอีชานไปเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนเงิน 1 พันล้านดอลลาร์กับยออุล

อันจียงโทร. ให้ยออุลเอาเงินไปให้ที่สวนสนุกเชจู หลังจากเธอเอาสิ่งที่เขาต้องการไว้ที่ช่องขายตั๋วแล้ว เขาก็สั่งให้เธอขึ้นไปอยู่บนชิงช้าสวรรค์ ระหว่างที่เขาจะหนีไปนั้น นายุนก็ได้ปรากฏตัวขึ้น …

“อีชานอยู่ไหน ?”
“นี่มันเรื่องของครอบครัวผม”
“แล้วแจอินล่ะ คุณไม่รู้สึกผิดกับลูกบ้างเลยเหรอ”
“ก็ไม่ได้รู้สึกผิดนะ”
“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย คุณเคยรักฉันบ้างมั้ย ?”
“รักเหรอ ผมคิดว่ามันไม่ค่อยจำเป็นเท่าไรนะ”

นายุนคว้ามีดออกมาจากกระเป๋า แต่ยังไม่ทันที่จะไปทำอะไรอันจียงก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่จะหนีไปได้อย่างง่ายดายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ยออุลกับครูแดนนี่พยายามหาอีชานในสวนสนุก จนสุดท้ายยออุลก็เจออีชานถูกขังเอาไว้อยู่บริเวณเครื่องเล่นม้าหมุน

ระหว่างอันจียงอยู่บนเรือยอชต์ด้วยท่าทีของผู้ชนะ แต่ไม่ทันที่เขาจะเสพสุขกับชัยชนะนั้น ลูกน้องของแม็กกี้ เฉิน ก็จัดการเปลี่ยนอันจียงจากคนเป็นให้เป็นคนตาย ด้วยกระสุนปืนเพียงนัดเดียว … อันจียงตายอย่างโดดเดี่ยวอยู่กลางทะเลอันเวิ้งว้าง มันช่างเป็นความตายที่น่าสมเพชจริง ๆ

ความตายของอันจียงอาจมีหลายคนที่สะใจ หากทว่าก็มีอีกหลายคนที่เสียใจเช่นกัน หนูน้อยแจอินเสียใจที่พ่อของเธอต้องจากไป พ่ออันเป็นที่รักยิ่ง พ่อที่เธอเฝ้ารอจะได้พบอีกครั้งมานานนับปี พ่อที่เธอวาดฝันในจินตนาการว่าเป็นฮีโร่ แต่มาถึงตอนนี้เมื่อเธอคิดถึงพ่อกลับทำให้เธอปวดใจจนยากจะทานทน …

“แม่ของหนู (นายุน) เจ็บตัวเพราะพ่อเหรอคะ ? คนที่ลักพาตัวอีชานไปคือพ่อจริง ๆ เหรอคะ ? พ่อเป็นคนไม่ดีเหรอคะคุณป้า (ยออุล) ?”
“คนเราล้วนแล้วแต่เคยทำเรื่องไม่ดีด้วยกันมาทั้งนั้น แต่ที่แน่ ๆ ป้ามั่นใจว่าพ่อของหนู (อันจียง) ต้องเป็นพ่อที่ดีสำหรับแจอินนะ”

อย่างไรก็ตาม เมื่อแจอินได้รับคำปลอบใจจากยออุล เหมือนกับว่าทำให้เธอเข้าใจอะไรมากขึ้น แจอินเดินเข้าไปหาแม่ที่นอนพักอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แตกต่างจากก่อนหน้านี้ไปโดยสิ้นเชิง “ขอแค่แม่ไม่เป็นไรหนูก็โอเคแล้วค่ะ ถึงไม่ได้เจอพ่อก็ไม่เป็นไร หนูไม่ชอบคนที่ทำร้ายแม่ เห็นแม่เจ็บแล้วหนูปวดใจที่สุดเลย”

วันเวลาผ่านไป ยออุลกับนายุนได้กลับมาคุยและสนิทกันอีกครั้ง ทั้งสองยืนมองทะเลวันเวิ้งว้าง ก่อนที่ยออุลจะเอ่ยปากออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “อากาศที่นี่แปรปรวนเหมือนผู้หญิงเลย”

จากนั้น ยออุลกับนายุนก็หยิบเอาแหวนแต่งงานออกมาแล้วโยนมันทิ้งทะเลไปพร้อมกัน

ในตอนท้าย ยออุลเปิดสำนักงานทนายความเป็นของตัวเอง และใช้ชีวิตคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างมีความสุข … นายุนก็ได้ทำลายอดีตอันขมขื่นและสามารถมูฟออนไปได้ ทั้งสองนั่งจิบกาแฟด้วยกันอย่างมีความสุข

จบบริบูรณ์

Photos: tvN Korea