The Penthouse ซีซั่น 3 EP.14 ตอนจบ : ซอจินถูกนำตัวขึ้นศาลในข้อหาฆาตกรรมโอยุนฮีและซูรยอน ขณะที่เธอแกล้งความจำเสื่อม อึนบยอลกลับให้การแย้งแม่ของตัวเอง …
จากตอนที่แล้ว อึนบยอลได้รู้ความจริงเรื่องที่แม่ของเธอแกล้งความจำเสื่อม เธอจึงตัดสินใจโทร. แจ้งตำรวจให้มาจับแม่ ขณะเดียวกันนั้น ซอจินผลักซูรยอนตกหน้าผาไป …
หลังจากนั้น ซอจินถูกนำตัวขึ้นศาลในฐานะจำเลยในคดีฆาตกรรมโอยุนฮีและซูรยอน แต่ซอจินก็ยังแกล้งทำเป็นความจำเสื่อมต่อไปเพื่อเอาตัวรอด อึนบยอลมาขึ้นให้การแย้งโดยให้การต่อศาลว่า “ไม่จริง แม่แกล้งความจำเสื่อม แม่หลอกแม้กระทั่งลูกสาวของตัวเอง ทั้งหมดมันเป็นเพียงแค่การแสดงของแม่เท่านั้น แม่จำได้ทุกอย่าง ฉันเห็นกับตาตัวเองตั้งแต่ต้นว่าแม่เป็นคนผลักชิมซูรยอนตกหน้าผา”
ไม่เท่านั้น อึนบยอลยังกล่าวว่า แม่ฆ่าปู่และโอยุนฮี “แม่ของฉันเป็นฆาตกร” ก่อนที่จะหันไปพูดกับซอจิน “แม่คะ หนูทนอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว แม่อย่าทำบาปเพื่อหนูต่อไปอีกเลย หนูเองก็สมควรได้รับการลงโทษด้วยเช่นกัน”
ทันใดนั้นเอง อึนบยอลก็พยายามฆ่าตัวตาย ด้วยการเอาวัตถุทรงแหลมแทงเข้าที่คอตัวเอง ก่อนที่จะล้มลงไปกองอยู่กับพื้นเนื่องจากเสียเลือดไปมาก แต่อย่างไรก็ตามอึนบยอลก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและรอดชีวิตในที่สุด ในขณะที่ซอจินมองดูลูกสาวจมกองเลือดทั้งน้ำตา ก่อนจะถูกตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
เรื่องราวผ่านไป แบโรนาจบการศึกษาจากอิตาลี และกลายเป็นนักร้องโซปราโนที่ได้รับการชื่นชมว่าเสียงดีที่สุดในโลก ส่วนอีกยูจินโดนตำรวจจับในข้อหาฉ้อโกง คังมารีได้ทำงานกับประธานซง ด้านซอกคยองทำงานพาร์ตไทม์เป็นครูส่วนเด็กก่อนวัยเรียน และใช้ชีวิตธรรมดาเหมือนคนทั่วไป
หลังจากซอจินใช้ชีวิตในคุกมานาน 3 ปี เธอก็เข้ารับการรักษามะเร็งกล่องเสียง และได้รับอนุญาตเป็นพิเศษให้ออกไปใช้ชีวิตนอกคุกเป็นเวลา 3 วัน ซอจินแอบมองอึนบยอลที่กำลังร้องนำในวงประสานเสียงในโบสถ์แห่งหนึ่ง
ส่วนครูจินก็ยังคงหมกมุ่นอยู่กับอึนบยอลไม่เลิก ขณะทำการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวช
พรีมาดอนนาแบโรนาและซอกฮุนกลับมาพบกันอีกครั้งที่ร้านอาหารสุดหรูแห่งหนึ่ง หวนคืนวันให้นึกถึงสมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย แบโรนาเอ่ยกับซอกฮุนว่า “คุณอยากกินพาสตามั้ย ? คุณเคยบอกว่าเราจะกินพาสตาด้วยกัน” ซอกฮุนยิ้มให้แบโรนา พร้อมกับสารภาพความรู้สึกออกมา “ฉันคิดถึงเธอนะ โรนา”
แบโรนาตอบกลับไปว่า “ฉันก็คิดถึงเหมือนกัน” ซอกฮุนโน้มตัวไปจูบแบโรนาเพื่อยืนยันความรู้สึกที่มีต่อกันและกัน
ระหว่างนั้น ซูรยอนก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับยิ้มและสบตาโลแกนลี !? (ซูรยอนที่ปรากฏขึ้น เป็นเพียงซูรยอนในจินตภาพของโลแกนลี)
อึนบยอลอาสาเข้าไปร้องเพลงในเรือนจำ เพราะเธอต้องการเข้าไปเจอแม่หลังจากไม่เจอกันเลยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ซอจินแอบเฝ้ามองดูลูกของเธออยู่บนดาดฟ้าของโรงแรม ก่อนที่เธอจะกินยาฆ่าตัวตายและล้มฟุบหมดสติลงไปตรงนั้น “แม่ขอโทษสำหรับทุกอย่าง แม่จะไม่เป็นภาระของลูกอีก อึนบยอลอย่าไว้ชีวิตตามรอยแม่นะ แม่รักลูกมากที่สุด” จดหมายลาตายที่เขียนความรู้สึกสุดท้ายของซอจิน “การเดินทางสู่สรวงสวรรค์”
จู่ ๆ ซูรยอนก็ขับรถสปอร์ตเปิดประทุนสีน้ำเงินมาจอดอยู่เบื้องหน้าโลแกนลี พร้อมกับเอ่ยว่า “คุณจะไปกับฉันมั้ย ?”
ในตอนนี้เอง ภาพแฟลชแบ็กย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เมื่อตอนที่ยุนชอลเสียชีวิต เขาได้เขียนความประสงค์ก่อนตายเอาไว้ “ได้โปรดอย่าฆ่าซอจิน ยังไงเธอก็เป็นแม่ของอึนบยอล” ส่วนซูรยอนก็รู้สึกผิด เธอรู้สึกว่าการแก้แค้นของเธอนำมาซึ่งความตายของโอยุนฮีและยุนชอล และเด็ก ๆ ก็ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า
อย่างไรก็ตาม โลแกนลียังคงมุ่งมั่นที่จะทำให้การแก้แค้นเป็นไปตามแผน ในวันนั้น โลแกนลีได้ยื่นเสื้อชูชีพติด GPS ที่สั่งทำเป็นพิเศษ ให้กับซูรยอน เพราะเขารู้ว่าซอจินต้องผลักซูรยอนตกหน้าผาอบบเดียวกับที่เธอทำกับโอยุนฮี แต่ซูรยอนกลับเลือกที่ตาย โดยการไม่ใส่เสื้อชูชีพตัวนั้น !!!
“ฉันเคยคิดฝันว่าจะใช้ชีวิตกับคุณอย่างมีความสุข แต่ฉันสูญเสียคนที่ฉันรักมากเกินไป มันทำให้ฉันรู้สึกต้องรับผิดชอบกับการตายของนาแอกโย โอยุนฮี ยุนชอล และคนอื่น ๆ” แท้จริงแล้ว ซูรยอนเลือกการตายในแบบของเธอเอง
สามปีต่อมาหลังจากซูรยอนจากไป โลแกนลีก็ตัดสินใจตายตามเธอไปจากโรคมะเร็งไขกระดูกที่เขาตั้งใจหยุดการรักษา ในท้ายที่สุด เขาก็ได้พบกับเธออีกครั้งในดลกอีกมิติหนึ่ง ทั้งสองมีความสุขด้วยกันที่นั่นโดยไม่มีการล้างแค้นอีกต่อไป
จบบริบูรณ์
Photos: ภาพหน้าจอจาก SBS Korea