Lovers of the Red Sky EP.2 : จิตรกรสาวชอนกีวิ่งหนีขณะถูกไล่ล่าไปซ่อนในเกี้ยวของฮารัม มันเป้นการพบกันครั้งแรกของทั้งสองในรอบ 19 ปี …
หลังจากพิธีขอฝนผ่านพ้นไป พระเจ้าซองโจจึงมีรับสั่งให้ทำการซ่อมภาพวาดของพระเจ้ายองจง เพื่อจะได้ทำพิธีผนึกพญามารกลับเข้าไปในภาพวาดอีกครั้ง เพราะเป็นทางเดียวที่จะหยุดพญามารได้ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องที่พระเจ้าซองโจประสงค์จะไม่เกิดขึ้น ปัญหาคือไม่มีใครพบเบาะแสของพญามารเลยนับแต่วันนั้น อีกทั้งจิตรกรฮงอึนโอก็กลายเป็นคนสติฟั่นเฟือนไม่สมประกอบไปเสียแล้ว
19 ปีต่อมา เป็นปีที่ 31 ในรัชสมัยของพระเจ้าซองโจ …
ตอนนี้ชอนกีโตเป็นสาวแล้ว เธอกลายเป็นจิตรกรระดับชั้นเอกอุที่วาดภาพเลียนแบบเพื่อหาเงินไปรักษาพ่อ ฮงอึนโอที่วันเวลาผ่านไปหลายสิบปีแล้ว แต่เขาก็ยังคงเปิดแผงรับวาดรูปที่ตลาดอยู่เหมือนเดิม และในภาพจำของเขาก็ยังคงจำชอนกีเป็นเด็กหญิงตาบอดตัวน้อยอยู่เหมือนเดิม ทุกวันของเขาวันลูปกลับมาเป็นวันเดิมซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น
ด้วยความที่ภาพเลียนแบบเป็นสิ่งผิดกฎหมายในสมัยนั้น ชอนกีจึงต้องแอบไปวาดภาพเหล่านั้นตอนกลางคืน พูดง่าย ๆ ก็คือหมุดหมายเดียวของเธอคือการรักษาพ่อให้หายจากอาการสติฟั่นเฟือนให้ได้
ชอนกีนำเงินที่สะสมไว้อย่างยากลำบากจากการขายภาพวาด ไปซื้อยาวิเศษหายากจากพ่อค้าชาวจีน โดยพ่อค้ายาอ้างสรรพคุณว่า ยาทรงกลมเม็ดสีทองนี้ได้มาจากเต่าอายุนับหมื่นปี ซึ่งเมื่อกินเข้าไปอาการจะดีขึ้นนับตั้งแต่วินาทีแรก ชอนกีดีใจเป็นอย่างมากรีบจ่ายเงินแล้วเดินทางไปหาท่านพ่อในทันที
แต่ปรากฏว่า มันเป็นยาปลอม ที่ไม่มีผลทางด้านการรักษาแม้แต่นิดเดียว !
ตัดภาพมาที่ฮารัม แม้จะตาบอดแต่ก็เป็นที่เลื่องลือในด้านความเป็นหนุ่มรูปงาม อีกทั้งความสามารถของเขาก็มีอยู่มากหลาย เขาเป็นนักโหราศาสตร์ในวังหลวงที่ใช้หลักการดูดาวในการทำนายทายทัก สกิลความเทพของเขาเป็นที่ยอมรับของพระเจ้าซองโจเป็นอย่างมาก
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ในด้านสว่างเขาจะเป็นเพียงบัณฑิตหนุ่มตาบอดในวังหลวง แต่อีกด้านหนึ่ง เขาเป็นเจ้าของฉายานามอิลวอลซอง เจ้าของวอลซองดังที่รับทำนายดวงชะตาผู้คนที่แม่นยำราวกับตาเห็น ไม่ต่างอะไรกับขงเบ้งแม้แต่นิดเดียว แต่ทว่าไม่เคยมีใครเคยเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของอิลวอลซอง ดังนั้น ตัวตนในมุมนี้ของฮารัมจึงถูกปกปิดเป็นความลับ
ว่าที่จริง ฮารัมยังคงเก็บงำความแค้นเอาไว้ ความแค้นที่มีราชโองการสั่งให้ฆ่าพ่อแม่ของเขาตายไปต่อหน้าต่อตา ทั้ง ๆ ที่ทำคุณงามความดีให้กับแผ่นดินไว้มากหลาย ไม่ว่าการเสี่ยงชีวิตผนึกพญามารของท่านพ่อ หรือแม้แต่การที่เขาต้องเสียดวงตาไปในพิธีขอฝนเมื่อ 19 ปีที่แล้ว ฮารัมตั้งใจที่จะแก้แค้นให้ได้ และดูเหมือนว่าเวลานั้นใกล้มาถึงเต็มทีแล้ว
ฮารัมรู้เรื่องราวในอนาคตมากมาย แต่เขาเลือกที่ไม่เล่าเรื่องการคิดก่อการกบฏขององค์ชาย (องค์ชายที่เผาภาพวาดที่ผนึกพญามารเอาไว้นั่นแหละ) ให้พระเจ้าซองโจได้รับรู้
ด้านชอนกีเมื่อรู้ว่าโดนหลอกให้ซื้อยาปลอมก็วางแผนที่จะเอาคืน นางสืบจนรู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็คือพ่อค้าภาพที่นางเอาภาพไปขายนั่นเอง นางจึงวางแผนให้พ่อค้าภาพโดนทางการจับกุมในข้อหาขายภาพปลอม
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดพ่อค้าภาพก็ได้รับการปล่อยตัวในที่สุด โดยการจ่ายสินบนเป็นเงินก้อนโต ทีนี้การตามล่าตัวชอนกีจึงเริ่มขึ้น เพราะเขารู้ดีว่านางเป็นคนวางแผนทำให้เขาต้องติดคุก
ชอนกีวิ่งหนีการไล่ล่าของพ่อค้าภาพจนมาเจอเข้ากับเกี้ยวของฮารัม นางจึงขอเข้าไปหลบอยู่ในนั้น ทั้งสองได้มาเจอกันเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี ในตอนนั้นเอง เซนส์ของฮารัมกระตุ้นเตือนให้เขานึกถึงเด็กสาวตาบอดคนนั้นเมื่อ 19 ปีก่อน เขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ ถึงได้นึกถึงเด็กหญิงตาบอดคนนั้นขึ้นมา “ทำไมนางถึงทำให้ข้าคิดถึงเด็กผู้หญิงคนนั้นได้นะ”
ระหว่างเดินทางอยู่ในเกี้ยวด้วยกัน ชอนกีเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฮารัมฟัง ก่อนที่นางจะชมว่าดวงตาของเขาช่างงดงามเหลือเกิน “ดวงตาท่านช่างงดงามเหลือเกิน เหมือนอัญมณีสีเพลิงเลย” ฮารัมแปลกใจที่นางชมว่าตาของเขาสวย “ไม่เคยมีใครพูดกับข้าแบบนี้มาก่อนเลย ใครเห็นดวงตาของข้าก็มองว่าข้าเป็นตัวประหลาดทั้งนั้น”
แต่ทันใดนั้นเองก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้น เมื่ออยู่ดี ๆ ดวงตาของชอนกีเปล่งสีแดงออกมา แล้วฮารัมก็เกิดอาการแปลกประหลาดขึ้นมา แล้วเหตุการณ์ตอนที่เขาจมน้ำก็ผุดในหัวของเขา จังหวะนั้นเองฮารัมสั่งให้หยุดเกี้ยวและขอให้ชอนกีลงไปจากเกี้ยวเดี๋ยวนี้ … ชอนกีลงจากเกี้ยวไปด้วยความมึนงงว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ ๆ ถึงมาไล่ลงกลางทางแบบนี้
ต่อจากนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นภายในเกี้ยวเป็นเรื่องน่ากลัวเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด ม่านหมอกสีดำได้ลอดออกมาจากเกี้ยว บัดนี้ ฮารัมได้กลายเป็นพญามารไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว !
พญามารเอ่ยวาจาออกมาว่า “เจ้าพลาดแล้วล่ะ ฮารัมเอ๋ย ในวันเหมายันที่พลังหยินแกร่งกล้าเช่นนี้เจ้ายังกล้าออกมานอกวังหลวง” ในขณะที่พญามารรู้แล้วว่าดวงตาของมันอยู่กับชอนกี !!!
Source : SBS Korea