One the Woman สปอยล์ : อัยการสาวกลายเป็นทายาทมหาเศรษฐีในชั่วข้ามคืน ! เรื่องราวของอัยการนิสัยเสียปะทะเศรษฐีตัวร้าย มันจะเป็นยังไงนะ ?
EP.1 นี่ฉันเป็นใครกันล่ะเนี่ย ?
EP.2 ถั่วลิสงและแผลเป็น
EP.3 ประธานหรือแม่บ้าน ?
EP.4 ตัวตนที่แท้จริง
EP.5 คดีเก่าเมื่อ 14 ปีที่แล้ว
EP.6 รหัสปลดล็อกหน้าจอแท็บเล็ต
EP.7 ตัวตนที่แท้จริง
EP.8 เป้าหมายที่แท้จริง
EP.9 บาปที่เกิดจากพ่อ
EP.10 ความรักเริ่มขึ้นตั้งแต่วันนั้น
EP.11 เมื่อความจริงเปิดเผย
EP.12 99.9999 เปอร์เซ็นต์
EP.13 คนร้ายตัวจริง
EP.14 เฟสออฟ
EP.15 วิธีจัดการกับผู้ยิ่งใหญ่
EP.16 ตอนจบ
คะแนน 6.5/10 เรตติ้งเฉลี่ย 13.5%
![แนะนำตัวละครซีรีส์ One the Woman (2021)](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-29884-one-the-woman-2021-kdrama-characters-820x820.jpg)
EP.1 นี่ฉันเป็นใครกันล่ะเนี่ย ?
อัยการ โจยอนจู (รับบทโดย อีฮานี) เป็นอัยการหญิงที่มีพฤติกรรมตรงข้ามทุกอย่างกับสิ่งที่อัยการที่ดีควรจะมี ไม่ว่าจะเป็นการเลียแข้งเลียขาเจ้านาย การเรียกรับสินบน ใช้ความรุนแรงในการจัดการปัญหา พูดจาไม่มีหางเสียง นั่นอาจเป็นเพราะเธอมีอดีตเป็นทายาทของแก๊งซอพยองนัมมุน
คังมีนา (รับบทโดย อีฮานี) ลูกสะใภ้คนที่สองของกลุ่มบริษัทฮันจู เธอมีใบหน้าเหมือนกับโจยอนจูราวกับพิมพ์มาจากเครื่องพิมพ์สามมิติ แต่นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ทั้งคู่เหมือนกัน เพราะนอกจากนั้น ไม่ว่าจะนิสัยหรือวิถีชีวิตกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
มีนาเป็นเพียงที่รองรับอารมณ์ของซอมยองวอน (ภรรยาของประธานฮันจูกรุ๊ป) แม่สามีที่มักจะตำหนิเธอในทุก ๆ เรื่อง “ลูกชายฉันคงไม่ทำตัวออกนอกลู่นอกทางจนมีข่าวลือต่าง ๆ ออกมาถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พ่อของเขากำลังถูกสอบสวนเรื่องบริษัท แล้วลูกชายยังต้องมามีข่าวลือสกปรกว่อนเน็ตไปหมด นี่เธอรู้สึกผิดบ้างหรือเปล่าเนี่ย ?” มีนาได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น แต่กลายเป็นทำให้อารมณ์ของแม่สามีขึ้นปรี๊ด ตบหน้ามีนาอย่างแรง !
![อีฮานี](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28976-one-the-woman-ep1-screenshots-2.webp)
ทุกคนในครอบครัวฮันจูไม่มีใครสนใจมีนาแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้ว่ามีนาจะเป็นลูกสาวคนเล็กของกลุ่มบริษัทยูมิน แต่เธอก็ถูกมองเป็นเพียงแค่ลูกเมียน้อย ทำให้เธอไม่ได้มีส่วนหรือมีตำแหน่งใด ๆ ในการบริหารบริษัทเหมือนพี่น้องคนอื่น ๆ
ย้อนกลับไปเมื่อ 14 ปีก่อน ยอนจูเสียคุณยายไปจากอุบัติเหตุชนแล้วหนี อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดใกล้ ๆ และเวลาเดียวกับที่โรงงานฮันจูแฟชั่นเกิดไฟไหม้ ทำให้รถพยาบาลทั้งหมดไปให้ความช่วยเหลือเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงาน สุดท้ายคุณยายก็เสียชีวิต … ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน ยอนจูมองดูรูปคุณยายของเธอด้วยความคิดถีง และกล่าวขึ้นมาว่า “อีกไม่นานแล้วล่ะ คุณยาย”
![อีฮานี](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28976-one-the-woman-ep1-screenshots-3.webp)
ฮันซองอุน (ลูกชายคนรองของฮันจูกรุ๊ป) สามีของมีนา มีชู้โดยไม่แยแสมีนาเลยแม้แต่นิดเดียว เขาพลอดรักกับหญิงชู้ของเขาอยู่บนรถ มีนาได้แต่ยืนดูอยู่นอกรถ เมื่อซองฮุนลงมาจากรถและเห็นเธอยืนอยู่กลับต่อว่าซะอีก “ไม่มีมารยาทเอาซะเลย มายืนแอบมองคนอื่นเขาเงียบ ๆ แบบนี้” แต่ที่ตลกกว่าก็คือ หญิงชู้ก็ลงมาจากรถแล้วต่อว่ามีนาเช่นกันที่มายืนมองอยู่นอกรถ …
“พวกคุณนี่มันไร้ยางอายกันจริง ๆ เลยนะ” มีนาพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ไร้ยางอายอย่างนั้นเหรอ ไม่รู้นะว่าใครกันแน่ที่ควรจะไร้ยางอายมากกว่ากัน ฉันไม่เคยล้ำเส้นนะคะ ฉันไปส่งสามีคุณที่บ้านตอนดึก ๆ ออกจะบ่อย” เมียน้อยสายเฟียซตอบโต้กลับด้วยแสยะยิ้มเยาะเย้ย
“ผมว่าคุณกลับไปนอนได้แล้วล่ะ เคยมีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนคนอื่น ๆ เขาบ้างไหม บางทีคุณก็ทำให้ผมขนลุกนะ”
ต่อมา มีนาเดินทางเข้าร่วมการประมูลงานศิลปะที่กลุ่มบริษัทฮันจูเป็นสปอนเซอร์ และในงานนี้ยอนจูก็เดินทางมาร่วมงานด้วยเช่นกัน ไม่เท่านั้น ทั้งสองยังแต่งตัวแบบเดียวกันซะอีก เมื่อยอนจูได้เห็นมีนาครั้งแรกก็ถึงกับตกใจที่หน้าตาก็เหมือนกันเด๊ะอย่างกับเป็นคู่แฝดกันยังไงยังงั้น
หลังจากมีนาประมูลภาพวาดด้วยมูลค่า 300 ล้านวอนได้ เธอก็ได้รับสายโทรศัพท์ของใครบางคน และพูดกับปลายสายว่า “เราพร้อมแล้ว ทั้งภาพและฉัน” ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดกับยอนจู อยู่ดี ๆ ก็มีรถพุ่งเข้าชนร่างของเธอโดยตั้งใจ !!!
![อีฮานี](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28976-one-the-woman-ep1-screenshots-4.webp)
มีนาหายตัวไปโดยที่ไม่มีใครสามารถติดต่อได้ ระหว่างนั้นก็มีข่าวที่น่าตกใจขึ้นมา “ยูมินกรุ๊ปจับมือกับเชนโรงแรมระดับโลกเพื่อเปิดโรงแรมระดับหกดาว แต่ก็เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้น เมื่อเครื่องบินส่วนตัวของยูมินกรุ๊ปที่ออกเดินทางเพื่อไปเปิดตัวโรงแรมที่เกาะเซจู ประสบอุบัติเหตุตกลงในทะเลเมื่อ 4 โมงเย็นวันนี้ สันนิษฐานเบื้องต้นว่า ประธานคังจางซูและสมาชิกในครอบครัวที่อยู่บนเครื่องบินส่วนตัวน่าจะเสียชีวิตทั้งหมด …”
ภายในงานศพของสมาชิกครอบครัวยูมินกรุ๊ป คังอึนฮวา น้องสาวของประธานคังจางซูก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับการเสแสร้งทำเป็นร้องไห้เสียใจจนเป็นลมล้มพับลงไป แต่จริง ๆ แล้วในใจของเธอดีใจเป็นอย่างมาก ที่จะได้มรดกก้อนโต แต่ดูเหมือนว่าเธอจะลืมทายาทโดยธรรมที่จะได้รับมรดกไปอีกหนึ่งคน นั่นก็คือ คังมีนา
ตอนนี้ทุกคนต่างเข้าใจว่า ยอนจูที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลคือมีนา และที่สำคัญเมื่อเธอฟื้นขึ้นมา สิ่งแรงที่ออกจากปากของเธอก็คือ “นี่ฉันเป็นใครกันล่ะเนี่ย !?”
EP.2 ถั่วลิสงและแผลเป็น
![รีแคปซีรีส์ One the Woman EP.2 : ถั่วลิสงและแผลเป็น](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-29044-one-the-woman-ep2-screenshots-1.webp)
ยอนจูฟื้นขึ้นมาอยู่บนเตียงพยาบาลด้วยความงงงวยว่าตัวเองเป็นใคร แพทย์ตรวจโดยละเอียดแล้วลงความเห็นต่ออาการทางสมองของยอนจูว่า “ศีรษะของเธอกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ทำให้เกิดภาวะสูญเสียความทรงจำแบบย้อนหลัง” พูดง่าย ๆ ทุกอย่างเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือจำตัวเองไม่ได้ว่าเป็นใคร
แต่สำหรับตอนนี้มันไม่สำคัญว่ายอนจูจะจำได้หรือไม่ว่าตัวเองเป็นใคร เพราะทุกคนเข้าใจว่าเธอคือคังมีนา ซึ่งหมายความว่าเธอก็เข้าใจไปด้วยว่าตัวเองคือคังมีนา ทายาทที่เหลือรอดอยู่เพียงคนเดียวของยูมินกรุ๊ป พ่วงด้วยตำแหน่งสะใภ้รองของฮันจูกรุ๊ป อย่างไรก็ตามแม้สถานะทางเปลือกของเธอดูจะยิ่งใหญ่ แต่ทว่าความเป็นจริงมันกลับต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะทุกคนในตระกูลฮันจูกรุ๊ปต้องการหาผลประโยชน์จากเธอกันทั้งสิ้น ทั้งโขกสับ บูลลี่ ทำร้ายร่างกาย ไม่มีใครสนใจความรู้สึกของเธอเลยจริง ๆ แม้แต่นิดเดียว
ในงานศพของครอบครัว ยอนจูไปร่วมงานด้วยความรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย อย่างที่เธอก็ยังสงสัยตัวเองว่าทำไมถึงไม่รู้สึกเสียใจ แม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่มี ระหว่างที่เธอกำลังนั่งคิดนู่นนี่นั่นพร้อมกับกินถั่วลิสงอยู่เพลิน ๆ จังหวะนั้น ฮันซึงอุค (รับบทโดย อีซังยุน) ที่เดินผ่านมาพอดี ก็รีบเข้ามาพยายามจะแย่งถั่วลิสงไปจากมือของเธอ พร้อมกับเอ่ยปากห้ามเธอกินถั่วลิสง !
ย้อนกลับไปในอดีต ซึงอุคคบอยู่กับมีนา ก่อนที่มีนาจะโดนจับให้แต่งงานกับฮันซองอุน ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ ทำให้ซึงอุคเป็นคนเดียวที่รู้ว่ามีนาแพ้ถั่ว กินไม่ได้แม้แต่เม็ดเดียว ดังนั้น เมื่อซึงอุคเห็นยอนจูกินถั่ว เขาจึงสงสัยขึ้นมาในทันทีว่า ผู้หญิงคนนี้อาจจะไม่ใช่มีนา หญิงสาวที่เป็นรักแรกของเขา
วันแรกที่ยอนจูได้เข้ามาใช้ชีวิตในบ้านของตระกูลฮันจูในนามของมีนา แทนที่เธอจะได้ใช้ชีวิตอย่าง “ทายาท+สะใภ้ตระกูลมหาเศรษฐี” ที่วาดฝันเอาไว้อย่างสวยหรู แต่กลับกลายต้องมาเจอกับหน้าที่รับผิดชอบภายในบ้านอันน่าเหลือเชื่อ คือตารางงานยาวเหยียดแน่นเอี๊ยดเสียยิ่งกว่าไบเดนกับปูตินรวมกันเสียอีก …
หัวหน้าแม่บ้านมาบอกถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากประธานฮันต้องการปิดข่าวเรื่องที่มีนาความจำเสื่อม ทำให้สาวใช้ในบ้านทั้งหมดโดนไล่ออก เหลือสาวใช้ชาวเวียดนามที่ชื่อตรังเอาไว้คนเดียว เพราะเธอไม่เข้าใจภาษาเกาหลี นั่นหมายความว่า ยอนจูต้องทำหน้าที่เป็นแม่บ้านแทนสาวใช้ทั้งหมดที่หายไป งานที่ว่าก็ต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อทำกับข้าว เช็ดล้างทำความสะอาดนู่นนี่นั่นลากยาวไปจนถึงค่ำ
แต่การที่ยอนจูต้องทำงานกับตรังทำให้เธอได้เรียนรู้ความสามารถของตัวเองอีกอย่างหนึ่งก็คือ เธอสามารถพูดได้ถึง 4 ภาษา เวียดนาม อังกฤษ ฝรั่งเศส และเกาหลี งานนี้ทำเอาทุกคนในบ้านตกอกตกใจเป็นการใหญ่ ไหง ความจำเสื่อมแต่กลับพูดได้หลายภาษาขึ้นมาเฉยเลย (นั่นเป็นเพราะยอนจูสามารถพูดได้ 4 ภาษาอยู่แล้ว)
ต่อมา ยอนจูเกิดแอบไปได้ยินสิ่งที่คนในครอบครัวฮันจูพูดถึงเธอ …
ฮันซองเฮ (ลูกสาวคนโต) : “มันเป็นเรื่องโชคดีแล้วไม่ใช่เหรอที่เธอความจำเสื่อม เธอลืมทุกอย่างที่เราเคยทำไว้กับเธอ เราก็แค่อย่าทำตัวร้ายกับเธออีกก็แค่นั้น”
ฮันซองอุน (ลูกชายคนรอง+สามี) : “เธอทำผมขนลุกตลอดเลย
ประธานฮัน : “หลังเราจัดการเรื่องทรัพย์สินเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าเธอจะเป็นอะไรในบ้านหลังนี้ก็ไม่มีใครสนใจเธอหรอก”
ยอนจูโกรธจัดเมื่อได้ยินสิ่งที่คนพวกนั้นที่เรียกตัวเองว่าเป็นคนในครอบครัวพูดออก จังหวะนั้นเอง ซึงอุคได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเธอ
![One the Woman EP.2](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-29044-one-the-woman-ep2-screenshots-4.webp)
ซึงอุคบอกกับยอนจูว่า เมื่อก่อนเธอเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แต่เมื่อยอนจูแสดงท่าทางว่าจำไม่ได้ เขาจึงบอกไปว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องล้อเล่น ซึ่งมันทำให้ยอนจูไม่พอใจเป็นอย่างมาก “เอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นได้ยังไง รู้มั๊ยว่าการที่ต้องสูญเสียความทรงจำมันเป็นยังไง มันเหมือนต้องลอยอยู่กลางทะเล จำคนที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่ได้ ไม่รู้ว่าเคยเกิดอะไรขึ้นบ้างกับตัวเอง รู้ไหมว่ามันเลวร้ายและน่ากลัวมากแค่ไหน … คุณก็รู้นี่คะว่าคนพวกนั้นเกลียดฉันเข้าไส้ ไม่มีใครรู้หรอกว่าคนพวกนั้นจะทำอะไรกับฉัน แต่ช่างมันเถอะค่ะ คุณไม่ว่าวันเข้าใจชีวิตสุดดรามาของฉันหรอก” พูดจบยูจอนก็สะบัดก้นเดินจากไปทันที
ในตอนท้าย ซึงอุคได้เห็นตอนที่ยอนจูถลกแขนเสื้อตัวเองขึ้นมา ปรากฏว่าเธอไม่มีรอยแผลเป็นช่วงต้นแขนเหนือข้อศอกแบบมีนา ประกอบกับเรื่องถั่วลิสงก่อนหน้านี้ ทำให้ ณ จุดนี้ ซึงอุคมั่นใจแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่มีนาอย่างแน่นอน
ซึงอุคมาดักเจอยอนอู เขาพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมกับน้ำเสียงที่จริงจังว่า “คุณเป็นใครกันแน่ มาทำอะไรที่นี่ มีนาตัวจริงอยู่ไหน !?” เมื่อได้ยินเช่น ยอนจูก็นิ่งอึ้งเหมือนตกอยู่ในภวังค์
EP.3 ประธานหรือแม่บ้าน ?
![One the Woman EP.3](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep3-spoiler.webp)
ซึงอุคมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่า ผู้หญิงที่เขาเห็นอยู่เบื้องหน้าไม่ใช่มีนาอย่างแน่นอน “คุณเป็นใคร มีนาตัวจริงอยู่ที่ไหน ?” ยอนจูนิ่งอึ้งไปชั่วหลายวินาทีก่อนจะเอ่ยปากออกไปด้วยความงงในงง “นี่คุณกำลังจะบอกว่าฉันไม่ใช่คังมีนาอย่างนั้นเหรอ ?”
อย่างไรก็ตาม เมื่อซึงอุคนึกถึงคำพูดของโนฮักแทที่ว่า ถ้าเขาเปิดเผยเรื่องที่คังมีนาตัวจริงหายตัวไปจะทำให้เธอได้รับอันตราย เขาจึงแกล้งทำเป็นบุ๊ยบุ่ย “นี่คุณจำอะไรไม่ได้จริง ๆ เหรอ … ผมขอโทษครับ เพราะคุณต่างจากมีนาเมื่อก่อนมาก” จากนั้นเขาก็บอกให้เธอพยายามทำตัวเนียน ๆ อยู่ในบ้านของตระกูลฮันจูให้เป็นปรกติมากที่สุด เพราะคนเหล่านั้นจะเป็นผู้สนับสนุนให้เธอได้รับตำแหน่งในยูมินกรุ๊ป (เพราะตระกูลฮันจูก็ได้ประโยชน์จากการที่ยูมินกรุ๊ปตกอยู่ในมือของมีนา) พูดง่าย ๆ ก็คือ ซึงอุคไม่ต้องการให้ใครรู้ว่ามีนาตัวจริงหายตัวไป
หลังจากนั้น ซึงอุคก็ให้โนฮักแทตามหามีนาตัวจริง
เมื่อยอนจูกลับมาที่บ้าน คำพูดของซึงอุคทำให้เธอเริ่มรู้สึกสงสัยว่าตัวเองเป็นมีนาจริงหรือเปล่า ยิ่งเมื่อมาลองใส่รองเท้าที่อยู่ในห้องแต่งตัวไม่ว่ากี่คู่ก็ไซซ์เล็กกว่าเท้าของเธอ ทำให้ยิ่งเพิ่มความสงสัยเข้าไปอีก
วันต่อมา ยอนจูไปหาหมอตามนัด ซึ่งหมอได้ให้เธอลองหลับตาแล้วพยายามคิดถึงเรื่องราวในอดีต จนเธอเห็นภาพย่าโดนรถชน และภาพพ่อของเธอเมื่อตอนยังเป็นวัยรุ่น แต่เธอก็ยังนึกไม่ออกว่าสิ่งที่เห็นมันคืออะไร อย่างไรก็ตามหมอแนะนำให้เธอกลับไปที่เกิดเหตุ เพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ความทรงจำกลับมา
ยอนจูกลับมายังจุดที่เกิดเหตุอีกครั้ง ในตอนนั้นเองกลุ่มนักเลงคู่อริจำนวนร่วมสิบคนก็มาดักรอเล่นงานยอนจู ซึ่งในตอนแรกเธอก็ยังคงงง ๆ ว่าทำไมเธอถึงไปมีเรื่องกับพวกนักเลงได้ แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากพูดอะไรพวกมันก็เข้าทำร้ายเธออย่างไม่รีรอ ยอนจูจับพวกมันเหวี่ยงลงไปนอนกองกับพื้นด้วยสกิลการต่อสู้อันสุดยอดอย่างน่าเหลือเชื่อ ณ จุดนี้เอง ยอนจูรู้ตัวในทันทีว่าเธอไม่มีทางเป็นคังมีนาอย่างแน่นอน !?
ยอนจูจัดการกับพวกนักเลงที่มีอาวุธครบมือได้อย่างชิล ๆ ระหว่างที่กระทืบพวกนั้นเธอก็ถามไปพลางว่า “บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าฉันเป็นใครกันแน่ ทำไมฉันถึงสู้เก่งขนาดนี้ บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” และนั่นเองที่ทำให้เธอได้รู้ความจริงว่า “เธอเป็นทายาทของแก๊งซอพยองนัมมุน” !
![สปอยล์ซีรีส์ One the Woman EP.3](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-onw-the-woman-ep3.webp)
ระหว่างนั้น คังอึนฮวา น้าของมีนาผู้หวังฮุบยูมินกรุ๊ป ได้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการฉุกเฉิน เพื่อลงคะแนนเสียงว่าจะให้มีนาได้เป็นทายาทผู้สืบทอดกิจการต่อไปหรือไม่ โดยงานนี้มีฮันซองฮเย (พี่คนโตของตระกูลฮันจู) เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และเป็นคนให้ข้อมูลเรื่องที่มีนาความจำเสื่อมเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการปลดเธอออกจากการเป็นผู้สืบทอดกิจการ …
“เธอเป็นหลานของฉันก็จริง แต่ฉันไม่แน่ใจว่าเธอจะขึ้นมาเป็นผู้นำขององค์กรเราได้หรือเปล่า เธอได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองอย่างรุนแรงจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้เธอทำตัวแปลก ๆ เหมือนคนเสียสติ อีกอย่างเธอมีปัญหาเรื่องความทรงจำ ฉันขอให้ทุกคนตัดสินใจเพื่ออนาคตของยูมินของเราค่ะ” คังอึนฮวากล่าวกับผู้ถือหุ้น
แต่ก่อนที่ผู้ถือหุ้นจะทำการโหวต ซึงอุค พระเอกของเราก็ขี่ม้าขาวมาพอดี เพราะแท้จริงแล้วเขาเป็นหนึ่งในสองของผู้ถือหุ้นที่มีหุ้นอยู่ในมือ 32 เปอร์เซ็นต์ของยูมินกรุ๊ปคือ อเล็กซ์ ชาง (ฮันซึงอุค) ส่วนอีกคนเป็นพ่อเลี้ยงของเขา …
“พ่อเลี้ยงผมกับผมถือหุ้น 32 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถ้ารวมกับหุ้นของคุณคังมีนาอีก 22 เปอร์เซ็นต์ที่ได้รับจากมรดกก็จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งผมเชื่อว่าคุณคังมีนามีศักยภาพมากพอที่จะบริหารยูมินกรุ๊ปต่อไป ดังนั้น ผมจึงขอสนับสนุนการสืบทอดกิจการของคุณคังมีนาต่อไปครับ” ซึงอุคประกาศต่อหน้าผู้ถือหุ้น ในขณะที่ซองฮเยสีหน้าบ่งบอกชัดเจนว่าโกรธจัดแค้นจัด
ประธานฮันไม่เข้าใจว่าทำไมซึงอุคถึงได้สนับสนุนมีนาจึงสั่งให้ซองฮเยไปสืบดู ด้านซองฮเยแม้แผนการจะล้มเหลว แต่เธอก็เชื่อว่าเธอก็จะชนะมีนาได้ในที่สุด
ส่วนยอนจูก็กลับบ้านมาล้างหอยแครงเพื่อทำกับข้าวให้คนตระกูลฮ้นจูกินเหมือนเดิม โดยที่ไม่มีใครสนใจแม้แต่นิดเดียวว่า เธอกำลังจะขึ้นเป็นประธานของยูมินกรุ๊ป … แหม่
EP.4 ตัวตนที่แท้จริง
![One the Woman EP.4](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep4.webp)
ยอนจูไปพบกับคังอึนฮา อาของเธอด้วยความกระตือรือร้น แต่ทว่าคำพูดที่ออกจากปากของคังอึนฮากลับทำเอายอนจูอึ้งไป “เธอก็รู้นี่ว่าเธอไม่เคยได้อะไรจากครอบครัวเลย เพราะสำหรับครอบครัวแล้วเธอเป็นเพียงแค่เศษฝุ่น ฉันจึงอยากให้เธอจำสถานะของตัวเองในยูมินกรุ๊ปเอาไว้ หวังว่าเธอจะเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดนะ”
หลังจากนั้น ซึงอุคก็ได้เอาประวัติของมีนาและข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นเกี่ยวกับยูมินกรุ๊ปไปให้ยอนจู เพื่อทำให้ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นคนอื่นเชื่อใจจากข่าวลือเรื่องที่เธอสูญเสียความทรงจำ
ซึงอุคเล่าเรื่องที่ทำให้เขาต้องกลับมาเกาหลีอีกครั้ง นั่นคือการทำให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิมอย่างที่มันควรจะเป็น (ซึ่งก็คือการล้างแค้นประธานฮันยองชิก)
ในตอนนั้นเขาได้รับจดหมายจากมีนาเพื่อบอกเรื่องราวที่สำคัญที่เกิดขึ้น แต่ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจอะไรนัก เป็นเพราะตอนนั้นเธอได้หมั้นกับซองอุนไปแล้ว แต่เมื่อเขาได้มาอ่านข้อความในโทรศัพท์ของแม่ที่ส่งถึงโนฮักแท หลังจากที่ท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว … “ขอบคุณสำหรับความเมตตาตลอดเวลาที่ผ่านมานะคะ พวกเราจะไม่กลับไปเกาหลีแน่นอนค่ะ เพราะประธานฮันยองชิกจะทำกับซึงอุคแบบเดียวที่ทำกับพ่อของเขาโดนกระทำ ซึงอุคอาจจะต้องตาย”
พูดง่าย ๆ ก็คือ แม่ของซึงอุคพาเขาไปที่อยู่ที่อเมริกาก็เพื่อปกป้องเขาจากอันตราย แม้ว่าแม่จะรู้ว่าประธานฮันยองชิกใส่ร้ายพ่อของเขาจนต้องตายก็ตาม ซึ่งมีนาเป็นคนที่รู้เห็นเรื่องนี้ ดังนั้น ที่เขากลับมาก็เพื่อฟังความจริงจากมีนา แต่ก็ให้บังเอิญว่ามีนาได้หายตัวไปเสียก่อน
ยอนจูเริ่มมั่นใจแล้วว่าตัวเองไม่ใช่มีนา เพราะเธอไม่สามารถให้ลายนิ้วมือปลดล็อกหน้าจอแท็บเล็ตของมีนาได้
ตัดภาพมาที่สำนักงานอัยการซึ่งตอนนี้ปวดหัวเป็นการใหญ่กับการหายตัวไปของยอนจู เรียกว่างานการเสียหาย จะติดต่อก็ติดต่อไม่ได้ รองหัวหน้าสำนักงานอัยการกลางต้องเรียกให้อันยูจิน (รับบทโดย อีวอนกึน) ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของยอนจูเอาหมายค้นไปที่คอนโดของเธอก็ไม่พบสิ่งผิดปรกติอะไรแม้แต่นิดเดียว
วันนี้เป็นวันเข้ารับตำแหน่งประธานยูมินกรุ๊ปของยอนจูในนามของคังมีนา ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครที่ต้องการให้เธอขึ้นมาเป็นใหญ่ จึงได้พยายามยื่นข้อเสนอให้เธอยอมเป็นเพียงแค่ประธานหุ่นเชิด แต่เพราะจิตใต้สำนึกของยอนจูเป็นคนที่ไม่ยอมตกเป็นรองใคร ทำให้เธออารมณ์ปรี๊ดขึ้นมาทันที แล้วก็จัดหนักใส่ผู้บริหารแต่ละคนด้วยข้อมูลต่าง ๆ ที่เธอได้มาจากซึงอุค เรียกว่างานนี้จัดหนักจนทุกคนหงอจนหน้าเหลือสองนิ้ว โดยเฉพาะคังอึนฮาผู้เป็นอาของเธอถึงกับร้องกรี๊ดลั่นออกมา หลังจากโดนหลานเฟียซใส่รัว ๆ
ในวันเดียวกันนั้นเอง ยอนจูก็โดนเล่นงาน อัยการบุกมาเรียกตัวไปสอบสวนในข้อกล่าวหาเสพยาเสพติด โดยที่ซองฮเยเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้สั่งให้เลขาของเธอเอายาแก้ปวดผสมยาเสพติดให้มีนากิน แต่ปรากฏว่าผลตรวจยาเสพติดออกมากลับไปไม่พบอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว (เพราะยอนจูไม่ใช่มีนานั่นเอง)
ระหว่างที่เธอถูกควบคุมตัวอยู่นั้นเอง ยอนจูได้โชว์สกิลความรู้ทางกฎหมายจนอัยการถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก
![สปอยล์ One the Woman EP.4](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep4-spoiler.webp)
ซึงอุคกับโนฮักแท ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมายของฮันจูกรุ๊ป ได้มารับยอนจูกลับบ้าน ระหว่างนั้นเองที่ซึงอุคได้รู้ว่า ยอนจูรู้แล้วว่าตัวเองไม่ใช่มีนา ส่วนยอนจูก็รู้แล้วว่าซึงอุคก็รู้เช่นกันว่าเธอไม่ใช่มีนา ทั้งสองจึงตกลงจะร่วมมือกัน (อย่างจำใจ)
เมื่อยอนจูกลับมาถึงบ้าน เธอได้เอาเรื่องราวต่าง ๆ มาประมวล ทำให้เธอคิดได้ว่าเธอน่าจะเป็นอัยการ
ในบทส่งท้าย คังมีนาตัวจริงกำลังใช้ชีวิตชิล ๆ มีความสุขกับการนอนอาบแดดอยู่ที่ทะเลที่ใดที่หนึ่งบนโลก
EP.5 คดีเก่าเมื่อ 14 ปีที่แล้ว
![One the Woman EP.5](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep5-spoiler-1.webp)
ยอนจูประมวลเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเอามาต่อจิ๊กซอว์กัน จนได้ไอเดียบรรเจิดขึ้นมาว่า “นี่ฉันเคยปลอมตัวเป็นอัยการเหรอ เฮ้อ นี่ฉันเป็นพวกนักเลงต้มตุ๋นหรือเนี่ย !” เมื่อยอนจูเชื่อว่าตัวเองเป็นนักเลงและนักต้มตุ๋น ทำให้เธอถึงกับรู้สึกรันทดในชีวิตของตัวเองขึ้นมาซะอย่างนั้น
ยอนจูมาทำงานในฐานะประธานคนใหม่ของยูมินกรุ๊ปเป็นวันแรก โดยมีโนฮักแทเป็นเลขาส่วนตัว คอยขับรถและคอยจัดแจงดูแลเรื่องทุกอย่างให้ เมื่อยอนจูมาถึงที่บริษัทฯ พนักงานทุกคนต่างพากันโค้งคำนับเธอเพื่อเป็นการต้อนรับประธานคนใหม่ตามธรรมเนียมปฏิบัติ
ความฉลาดและความรอบรู้อย่างกว้างขวางด้านกฎหมาย ทำให้การทำงานตำแหน่งประธานในวันแรกของยอนจูเป็นไปได้ด้วยดีอย่างเหลือเชื่อ … เมื่อถึงเวลาเที่ยง ประธานฮันยองชิกได้ขอนัดทานอาหารกับยองจูเป็นการด่วน ประธานฮันเผยความต้องการของเขาออกไปตรง ๆ ว่า ต้องการให้โรงแรมที่เพิ่งเปิดตัวที่เชจูควบรวมกับธุรกิจโรงแรมของฮันจู แต่ …
ยอนจูตอกกลับพ่อตาของเธอด้วยคำพูดที่เฉียบคมยิ่งนัก “คุณพ่อนัดทานอาหารกับประธานยูมินคนใหม่ แต่กลับพูดเรื่องการตายของครอบครัวหนู ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เป็นมงคล แล้วแบบนี้จะให้หนูยอมควบรวมกิจการได้ง่าย ๆ เหรอคะ อย่างที่รู้ ๆ กัน ครอบครัวไม่เห็นหัวหนูเลย แต่ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีที่หนูสูญเสียความทรงจำพวกนั้นไปหมดแล้ว หนูขอพูดตรง ๆ นะคะ อย่ามาคิดจะชุบมือเปิบกันง่าย ๆ แบบนี้ดีกว่าค่ะ ธุรกิจโรงแรมในเครือของยูมินใหญ่กว่าของฮันจูซะอีก”
ซึงอุคพยายามสืบหามีนาอย่างสุดความสามารถแต่ก็ไร้เบาะแส ทำให้เขาบอกกับยอนจูว่า “บางทีมีนาอาจจะตั้งใจซ่อนตัวอยู่ เพราะถ้ามีใครตั้งใจจะทำร้ายเธออย่างน้อย ๆ เราก็ต้องมีเบาะแสอะไรบ้าง”
ต่อมาซองฮเยได้พบความจริงที่ว่า ในวันที่มีนาเกิดอุบัติเหตุ เธอได้เอาภาพวาดมูลค่า 5,000 กับ 300 ล้านไป ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อถามยอนจู เธอก็ตอบไปว่าไม่รู้เรื่องภาพวาดที่หายไปเลยแม้แต่นิดเดียว
ยอนจูเอาเรื่องภาพวาดมูลค่ารวม 5,300 ล้านวอนที่หายไปพร้อมกับมีนาให้ซึงอุคฟัง มันจึงกลายเป็นเบาะแสสำคัญที่พวกเขาพอจะมีเกี่ยวกับการหายตัวไปของมีนา
ในเวลาเดียวกันนั้น ซึงอุคก็ได้เบาะแสบันทึกการโทรศัพท์ เมื่อเอาไปเชื่อมโยงกับคำบอกเล่าของภรรยาของชายที่ขับรถชนมีนาในวันนั้น ทำให้เขาสงสัยว่า ซองฮเยอาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับยอนจู และอาจมีอะไรบางอย่างที่เชื่อมโยงไปถึงเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานฮันจูแฟชั่นเมื่อ 14 ปีก่อน
![One the Woman EP.5 สปอยล์](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep5-spoiler-4.webp)
ซองฮเยคิดไม่ตกว่ามีนาทำอะไรกับภาพวาดที่หายไป และตอนนี้มันไปอยู่ที่ไหน คิดไปคิดมาก็เลยเกิดสงสัยขึ้นมาว่า ยอนจูใช่มีนาตัวจริงหรือเปล่า ซองฮเยจึงสั่งให้แม่บ้านคิมทำอาหารที่ผสมถั่วลิสงให้ยอนจูกิน เพื่อพิสูจน์ว่าความสงสัยของตัวเอง
ยอนจูกินคงกุกซูที่แม่บ้านคิมทำให้กินอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อเธอกลับขึ้นไปบนห้องนอนก็นึกสงสัยขึ้นมาเลยโทร. ไปถามซึงอุค จึงได้ความว่ามีนาแพ้ถั่วลิสง และแนะนำให้ยอนจูแกล้งป่วยในวันรุ่งขึ้น
แต่เรื่องมันกลับตาลปัตร เมื่อเช้าอีกวันยอนจูแกล้งป่วยเพราะกินคงกุกซูเข้าไปเมื่อคืน แต่แม่บ้านคิมบอกกับซองฮเยว่า คงกุกซูที่เธอทำให้ยอนจูกินเมื่อคืนไม่มีส่วนผสมของถั่วลิสง (แม่บ้านคิมไม่ต้องการทำร้ายมีนา) ทำให้แม่บ้านคิมแปลกใจว่า ทำไมยอนจูยังป่วยหลังจากกินคงกุกซูที่ไม่ได้มีส่วนผสมของถั่วลิสงเลยแม้แต่นิดเดียว ?
ในตอนท้าย ซีรีส์เฉลยให้เห็นโฉมหน้าคนร้ายที่วางเพลิงโรงงานฮันจูแฟชั่นเมื่อ 14 ปีก่อน ที่ถูกตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต แท้จริงแล้วคนร้ายก็คือ พ่อของยอนจู !!!
EP.6 รหัสปลดล็อกหน้าจอแท็บเล็ต
![One the Woman EP.6 สปอยล์](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep6-spoiler-4.webp)
ซึงอุคไปเยี่ยมที่เก็บอัฐิของพ่อ ทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ในอดีตตอนที่ประธานฮันยองชิกพูดให้ร้ายพ่อของเขา ซึ่งเขาเชื่อมาตลอดว่ามันไม่เป็นความจริงแม้แต่นิดเดียว “ซองฮเยรู้เรื่องที่พ่อของแกโกงบัญชีของบริษัท พ่อแกเลยพยายามเผาหลักฐานทั้งหมด แต่เพราะความโง่ ทำให้พ่อของแกตายเพราะบัญชีพวกนั้น”
ซองฮเยสืบจนรู้แล้วว่า ยอนจูปลอมตัวเป็นมีนา ส่วนมีนาตัวจริงหนีออกนอกประเทศไป แต่เธอเลือกที่จะไม่เอาเรื่องนี้ไปแจ้งความ เพราะไม่ต้องการให้ยูมินกรุ๊ปตกไปอยู่กับมือคนอื่น ซึ่งระหว่างนี้เธอสั่งได้สั่งให้เลขาของเธอออกตามหามีนาตัวจริงให้เจอ หลังจากนั้นถึงค่อยมาวางแผนว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงต่อไป
จากนั้น ซองฮเยได้ดูคลิปจากกล้องวงจรปิดในงานประมูลภาพวาดในวันที่มีนาหายตัวไป เธอได้เห็น “อีบงชิก” มันทำให้ซองฮเยตกใจเป็นอย่างมาก (อีบงชิกเป็นคนที่กุมความลับบางอย่างของซองฮเยเอาไว้ ซึ่งเป็นคนที่ยอนจูพยายามตามล่าตัว แต่ตอนนี้ยอนจูจำเขาไม่ได้แล้ว)
วันนี้เป็นวันเกิดของซึงอุค แต่มันเป็นวันเกิดที่เขาไม่เคยรู้สึกดีเลยแม้แต่นิดเดียว มันเป็นเพราะวันเกิดของเขาเป็นวันเดียวกับวันจากไปของพ่อ ดังนั้น เขาจึงไม่เคยเฉลิมฉลองในวันเกิดของตัวเอง ซึงอุคเล่าเรื่องที่พ่อของเขาต้องมาตายจากเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานฮันจูแฟชั่นเมื่อ 14 ปีก่อน
ความจริงแล้วซึงอุคเป็นคนที่พบความผิดปรกติทางบัญชีของบริษัท จึงได้เอาเรื่องนี้ไปบอกกับพ่อ ทำให้พ่อของเขาเข้าไปตรวจสอบบัญชีโรงงานฮันจูแฟชั่น แล้วจู่ ๆ ก็เกิดไฟไหม้ขึ้น หลังจากการพ่อของเขาเสียชีวิตในเหตุการณ์นั้น ก็มีคนที่พยายามโยนความผิดเรื่องการปลอมแปลงบัญชีให้กับพ่อของเขา ซึ่งแน่นอนว่าเขารู้ดีว่ามันเป็นเรื่องโกหก แต่ไม่ว่าจะอย่างไร มันก็ทำให้ซึงอุครู้สึกผิดมานับแต่นั้น เขาคิดมาตลอดว่าถ้าเขาไม่เอาเรื่องบัญชีที่ผิดปรกตินั่นไปบอกพ่อ พ่อก็คงไม่ต้องมาตายแบบนี้
เมื่อยอนจูได้ยินเรื่องของซึงอุค เธอจึงปลอบประโลมใจเขา “อาจไม่ใช่ความผิดของคุณทั้งหมดหรอก จริง ๆ ฉันก็ไม่ได้รู้อะไรมากพอที่จะพูดได้เต็มปากได้ขนาดนั้น แต่ฉันมั่นใจว่า พ่อของคุณคงไม่ต้องการให้ลูกชายต้องทรมานด้วยความรู้สึกผิดกับเรื่องนี้ไปตลอดชีวิตหรอกค่ะ” คำพูดของยอนจูมันทำให้ซึงอุคนึกถึงคำพูดของมีนาที่เคยพูดกับเขาในอดีต
ระหว่างนั้นเอง ยอนจูถามซึงอุคถึงข้อมูลต่าง ๆ ของมีนา เพื่อหารหัสเปิดแท็บเล็ตของมีนา ซึ่งรหัสปลดล็อกก็คือวันเกิดของซึงอุคนั่นเอง ในนั้นมีข้อมูลที่เป็นจุดอ่อนของคนในตระกูลฮันจู ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคบชู้ของสามีมีนา หรือหลักฐานต่าง ๆ ที่ระบุว่ามีนาโดนทำร้ายร่างกายมาตลอด หรือแม้แต่เรื่องการปลอมแปลงบัญชีที่ประธานฮันยองชิกกับซองฮเยได้ร่วมมือกันกระทำความผิด รวมไปถึงหลักฐานการวางยามีนาอีกด้วย
หลักฐานต่าง ๆ ที่พบในแท็บเล็ตของมีนา ทำให้ซึงอุคเชื่อว่า การหายตัวไปของมีนาเป็นความตั้งใจของเธอเอง และมันทำให้ซึงอุคเริ่มเชื่อแล้วว่า พ่อของเขาไม่ได้เพียงแค่ถูกใส่ร้ายว่าปลอมแปลงบัญชีบริษัท แต่อาจจะโดนคนพวกนั้นฆ่าตาย แล้วจัดฉากเรื่องอุบัติเหตุไฟไหม้ที่โรงงานฮันจูแฟชั่นเมื่อ 14 ปีก่อน
อัยการอันยูจุน (เพื่อนสนิทของยอนจู) โทร. นัดให้ยอนจู (ที่ตอนนี้เขาเข้าใจว่าเป็นคังมีนา) ให้มาให้การที่สำนักงานอัยการ แต่ด้วยความที่ยอนจูไม่อยากไป เธอจึงแกล้งป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารอันเกิดจากภาวะความเครียด แอดมิดเข้าโรงพยาบาลเพื่อใช้เป็นข้ออ้างที่จะไม่ต้องไปให้การตามที่อัยการอันยูจุนนัด
ระหว่างที่ยอนจูอยู่ในโรงพยาบาลยูมิน ด้วยความหิวจัด เธอจึงโทร. ให้ซึงอุคซื้ออาหารมาให้เธอ ทั้งสองได้คุยกัน คำพูดหลายอย่างของยอนจูทำให้ซึงอุคนึกถึงมีนาขึ้นมา
ในบทส่งท้าย ได้มีการเปิดเผยว่า คุณย่าของยอนจูเสียชีวิตวันเดียวกับพ่อของซึงอุค
EP.7 ตัวตนที่แท้จริง
![One the Woman EP.7](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wo-28984-one-the-woman-ep7-1.webp)
ยอนจูหลบการให้ปากคำอัยการโดยการแกล้งว่าตัวเองท้องเสีย คืนนั้นเองด้วยความหิวจัด เธอจุงโทร. จิกให้ซึงอุคซื้อซูชิให้เธอกิน หลังจากซึงอุคกลับไป ยอนจูก็ยังกินไม่เลิก เธอเดินมาที่หน้าต่างเพื่อมองดูซึงอุคเดินกลับไปที่ด้านล่างของโรงพยาบาล ในขณะที่มือก็ยังใช้ตะเกียบคีบซูชิกินอย่างเอร็ดอร่อย โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ากำลังมีนักข่าวแอบถ่ายภาพเธอเอาไว้
เมื่อข่าวออกมาว่า “ประธานคังมีนาแห่งยูมินกรุ๊ปแกล้งท้องเสียเพื่อเลี่ยงการเข้าให้ปากคำกับอัยการ” ทำให้โนฮักแทบ่นกับซึงอุคไม่หยุดปากว่า “มีไอ้โง่ที่ไหนก็ไม่รู้เอาซูชิไปให้เธอกินที่โรงพยาบาล ทั้ง ๆ ที่อ้างว่าตัวเองท้องเสีย ถ้าเอาโจ๊กไปให้ก็ยังพอแก้ตัวได้หน่อย” สุดท้ายซึงอุคซึ่งนั่งฟังอยู่ก็เอ่ยปากออกไปว่า ไอ้โง่ที่ว่าคือตัวเขาเอง … งานนี้โนฮักแทถึงกลับแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กันเลยทีเดียว 😂
ทีนี้เมื่อถึงวันที่ต้องไปให้ปากคำกับอัยการ ประธานฮันยองชิกจึงบอกกับยอนจูว่า ให้ขับรถคันเล็กไปเพื่อจะได้ไม่เป็นจุดสนใจของนักข่าว ยอนจูขับรถไปโดยที่มีซึงอุคมาดักรอที่หน้าบ้านเพื่อนั่งไปกับเธอด้วยความเป็นห่วง เมื่อขับออกมากลางทางก็ปรากฏว่า รถเกิดเบรกแตกขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ด้วยสกิลการขับรถขั้นเทพของซึงอุค ทำให้สามารถพารถไปถึงหน้าสำนักงานอัยการได้อย่างเหลือเชื่อ แถมตอนจอดยังใช้ท่าดริฟต์โดนัท 8 ตลบอีกด้วย แหม่
ซึงอุคได้รับบาดเจ็บระดับเคล็ดขัดยอกฟกช้ำนิดหน่อย ส่วนยอนจูก็เดินเข้าไปที่สำนักงานอัยการอย่างชิล ๆ คนแรกที่เธอเจอคือ อันยูจุน ที่เรียกเธออย่างสนิทสนมว่า “พี่” ยอนจูงงว่าเขาเป็นใคร ถึงกับถามย้ำไปหลายครั้งว่า “รู้จักฉันจริง ๆ เหรอ ?”
เมื่อเข้ามาในห้องสอบสวน ยูจุนจึงได้หยิบเอากระเป๋าสตางค์ของยอนจูที่มีทั้งบัตรอัยการและบัตรประชาชนให้เธอดู ทำให้ตอนนี้ยอนจูได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองสักที
ทีนี้ ยูจุน โนฮักแท ซึงอุค และยอนจู ตกลงว่าจะร่วมมือกันที่จะปกปิดตัวตนที่แท้จริงของยอนจูต่อไป เพราะถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกไป คังมีนาตัวจริงจะตกอยู่ในอันตราย ระหว่างนั้นเอง โนฮักแทได้แนะนำให้ซึงอุครีบออกตามหาคังมีนาโดยเร็ว
แต่ปัญหาที่ดูจะงอกขึ้นมาอีกอย่างก็คือ ศึกชิงนางรักสามเส้าระหว่างยูจุนกับซึงอุค ที่กลายเป็นการแย่งชิงกันที่น่ารักอย่างหาที่สุดมิได้จริง ๆ 😬
ยูจุนพายอนจูไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ (ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องของซึงอุค) จากนั้นเขาก็เล่าเกี่ยวกับวิธีการทำงานของเธอ พร้อมทั้งแนะนำให้กลับเข้าไปที่สำนักงานอัยการ อย่างน้อยก็ไปขอลาหยุดชั่วคราวสัก 2-3 เดือน
ยอนจูกลับมาบ้านด้วยความสงสัยว่าใครกันแน่ที่เป็นคนทำร้ายเธอด้วยการทำให้รถเบรกแตก แต่เมื่อมาดูที่โรงจอดรถก็ปรากฏว่าไม่มีกล้องวงจรปิดเลยแม้แต่ตัวเดียว ระหว่างที่คิดอยู่นั้น หัวหน้าแม่บ้านคิม (หรือเธอชอบให้เรียกว่า ผอ. คิม) ได้มาบอกกับยอนจูว่า ยากที่จะหาตัวคนที่ทำเพราะไม่มีกล้องวงจรปิด และทุกคนในบ้านนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ต้องสงสัยกันทั้งนั้น สุดท้าย แม่บ้านคิมก็แนะนำให้ยอนจูออกไปจากบ้านหลังนี้ซะเพื่อความปลอดภัย
![One the Woman EP.7 สปอยล์](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep7-4.webp)
ยอนจูได้รับโทรศัพท์จากอาทั้งสองของเธอ วังพิลกยูและชเวแดจี ทำให้ยอนจูได้รู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น เธอได้รู้ว่าตัวเองเปลี่ยนนามสกุลก่อนที่จะมาเป็นอัยการ เพราะพ่อเธอติดคุกตลอดชีวิต เธอถูกเลี้ยงมาโดยคุณย่าเพียงคนเดียว หลังจากที่คุณย่าเสีย เธอก็กลายมาเป็นอัยการที่รับสินบนจากพวกเศรษฐีและพวกที่มีเส้นสาย แล้วเธอก็จะเอาเงินที่ได้มาจ้างอาทั้งสองให้ไปจัดการพวกคนร้ายเหล่านั้นด้วยวิธีของตัวเอง (เพราะถ้าเธอไม่รับสินบน ก็จะมีอัยการคนอื่นรับสินบนนั้นแทน แตกต่างกันตรงที่เธอนำเอาสินบนที่เธอได้รับมาลงโทษคนทำผิดที่กระบวนการกฎหมายทำอะไรไม่ได้)
ยอนจูเมื่อได้รู้ว่าตัวเองเป็น “ดาร์กวูแมน” ผู้ผดุงความยุติธรรม ก็ปลื้มปริ่มดีใจเป็นการใหญ่ เมื่อถึงวันที่ต้องกลับไปทำงานที่อัยการ ยอนจูจึงพกความภาคภูมิใจนั้นมาด้วยอย่างเต็มที่
ยอนจูมาพบหัวหน้าอัยการรยูซึงด๊อก ซึ่งเป็นวันที่เขาได้เลื่อนตำแหน่งให้ขึ้นเป็นหัวหน้าสำนักงานอัยการเขตกลาง ยอนจูเล่าถึงเหตุผลที่เธอหายตัวไปก็ว่า “ตอนแรกฉันแค่กะว่าจะไปตกปลาบนเกาะแบบชิล ๆ แต่เพราะความซวยฉันเลยตกลงไปในทะเล จนป่วยไม่สบายไปหลายวัน ที่สำคัญคือข้าวของทั้งหมดของฉันหายไปในทะเลรวมทั้งโทรศัพท์ แล้วเกาะทั้งเกาะก็ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ให้โทร. ติดต่อใครได้เลย”
แหม่ ยอนจูแทบไม่เชื่อตัวเองเลยว่า หัวหน้ารยูซึงด๊อกจะเชื่อเรื่องที่เธอเล่า 555 … แต่แท้จริงแล้วหัวหน้ารยูซึงด๊อกไม่ได้โง่ เป็นเพียงแต่เขากำลังสงสัยว่า ยอนจูกำลังมีแผนการจะทำอะไรต่อไปกันแน่
ในตอนท้าย ยอนจูเดินชนกับอีบงชิก เธอจึงยื่นมือไปเพื่อจะช่วยดึงให้เขาลุกขึ้น แต่ทว่า อีบกชิกตกใจเป็นอย่างมาก ที่ได้เห็นยอนจูมีใบหน้าเหมือนคังมีนา !
EP.8 เป้าหมายที่แท้จริง
![One the Woman EP.8 สปอยล์](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep8-spoiler.webp)
อีบงชิกมาดักรอทำร้ายยอนจูหลังเลิกงาน เขาเอาอิฐตัวหนอนทุบเข้าไปที่หัวของยอนจู จังหวะนั้นเอง ยอนจูเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง ก่อนที่ความทรงจำทั้งหมดจะพรั่งพรูกลับมา ซึงอุคตามมาทีหลังพยายามเข้ามาช่วยยอนจู แต่ความที่สกิลการต่อสู้ของเขาเท่ากับศูนย์ ทำให้ซึงอุคโดนอีบงชิกถีบจนไปนอนกองอยู่กับพื้น … ยอนจูหายจากอาการปวดหัว ลุกขึ้นมาจัดการอีบงชิกและจับเขาเข้าซังเตไปได้ในที่สุด
จากการที่ยอนจูได้ความทรงจำกลับคืนมา ทำให้เราได้รู้ว่า เหตุจุดประกายที่ทำให้เธออยากจะเป็นอัยการก็เพราะการจากไปของคุณย่า ในตอนนั้นเธอพยายามไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ทำการสืบสวนติดตามคนขับรถชนคุณย่าแล้วหนี แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนสนใจเลยแม้แต่นิดเดียว … เธอมั่นใจว่าคนขับต้องเป็นคนในตระกูลฮันจู และเธอก็เชื่อด้วยว่ามีการใช้เงินใช้ทองจ่ายสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อให้เรื่องเงียบ
เมื่อยอนจูได้เป็นอัยการ สิ่งที่เธอต้องการคือเข้าถึงก๊วนอัยการกังฉิน โดยเฉพาะรยูซึงด๊อก ซึ่งการที่จะเข้าไปอยู่ในพวกอัยการขี้ฉ้อนั้น เธอก็ต้องรับสินบนเหมือนกัน จากนั้นก็เอาเงินที่ได้รับไปจ้างอาทั้งสองของเธอไปลงโทษคนเหล่านั้นด้วยวิธีการศาลเตี้ย
ทีนี้ อีบงชิกนี่แหละที่กุญแจสำคัญ ที่จะทำให้ยอนจูบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ นั่นก็คือ จัดการอัยการขี้ฉ้ออย่างรยูซึงด๊อก และเอาคนผิดที่ขับรถชนคุณย่าของเธอในวันนั้นมาลงโทษให้จงได้ … เป้าหมายของเธอมันใกล้ความเป็นจริงแล้ว
รยูซึงด๊อกเข้าไปหาอีบงชิกในคุก ย้ำให้เขาปิดปากให้สนิท และอย่าได้ซัดทอดใครเป็นเด็ดขาด แต่ทว่ายอนจูมาเหนือกว่า เธอยื่นข้อเสนอให้กับอีบงชิก แลกกับการที่เขาจะได้ไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายที่เวียดนาม “ฉันเป็นอัยการที่รับผิดชอบคดี และเป็นประธานยูมินกรุ๊ป กลุ่มบริษัทที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 22 ของประเทศ ซึ่งแปลว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจที่จะทำให้นายได้เสวยสุข หรือทำให้นายเน่าตายอยู่ในคุก … ถ้าร่วมมือกับฉัน ฉันจะทำให้นายได้สุขสบายกับช่วงชีวิตที่เหลือที่เวียดนาม”
สิ่งที่ยอนจูต้องการให้อีบงชิกเปิดเผยคือ รายชื่อลูกค้างานศิลปะปลอมที่หายไปเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งมีซองฮเยเป็นหนึ่งในนั้น สุดท้ายอีบงชิกก็ไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่ายอมตกลงกับยอนจู
ระหว่างสอบปากคำ ยอนจูยังได้ถามอีบงชิกว่ามีนาอยู่ที่ไหน ? ซึ่งเขาได้บอกว่า เขาได้ช่วยมีนาออกนอกประเทศไปยังประเทศจีนด้วยหนังสือเดินทางปลอม พร้อมด้วยเงินก้อนโตที่ได้จากการขายภาพวาดมูลค่า 5,300 ล้านวอน แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหน
ยอนจูเอาเรื่องมีนาที่ได้จากอีบงชิกไปบอกกับซึงอุค ที่ตอนนี้แขนข้างหนึ่งของเขาต้องใส่เฝือกอ่อน ก่อนกลับยอนจูเห็นเชือกรองเท้าของเขาหลุด เธอจึงก้มลงไปผูกเชือกรองเท้าให้เขา (มันเป็นฉากที่เท่มาก ๆ เลยล่ะ)
ต่อมายอนจูได้เอาอาหารที่หัวหน้าแม่บ้านคิมฝากให้ซึงอุค เธอช่วยเขาทำนู่นนี่นั่นหลาย ๆ อย่าง เพราะเห็นว่าเขาใช้แขนได้ข้างเดียว แต่เมื่อโนฮักแทเดินทางมาถึง ซึงอุคก็ถึงกับโป๊ะแตก “หมอบอกให้ถอดเฝือกออกตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมยังใส่อยู่อีกล่ะ” เมื่อได้ยินเช่นนั้นยอนจูถึงกับหน้าเหวอไปเลยทีเดียว
วันถัด ๆ มา เมื่อซึงอุคโทร. ให้ยอนจูมาช่วยเขาทำนู่นนี่นั่นให้ เธอก็ได้แต่วางสายใส่ท่าเดียว (แหม่ อยากอยู่ใกล้เลยหาข้ออ้างแหละดูออก 😬)
ในตอนท้าย ยอนจูเดินทางไปเยี่ยมพ่อของเธอที่เรือนจำเป็นครั้งแรก …
EP.9 บาปที่เกิดจากพ่อ
![สปอยล์ One the Woman EP.9](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep9-spoiler-5.webp)
ระหว่างที่ยอนจูไปเยี่ยมพ่อของเธอที่เรือนจำ “ฉันต้องอดทนกับการโดนดูถูกมาตลอดที่มีพ่อเป็นนักเลง แค่โดนไล่ออกเพราะตัวเองเป็นนักเลง แค่นี้ทนไม่ได้เหรอ … ทำไมต้องบอกคุณย่าว่าตัวเองจะวางเพลิง ทำให้คุณย่าร้อนใจจนต้องรีบไปที่นั่นตอนดึก ๆ ดื่น ๆ จนโดนรถชน ทำไมต้องวางเพลิง ทำให้รถพยาบาลทั้งหมดต้องไปที่โรงงานนั่น เลยไม่มีรถพยาบาลมารับคุณย่า ?” ยอนจูพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด กับน้ำตาที่เอ่อล้นคลอเบ้า
“ฉันไม่คิดว่าแม่จะไปที่นั่น ยอนจู …” เมื่อพ่อแท้ ๆ เรียกชื่อของเธอ ทำเอายอนจูตวาดลั่นออกมาด้วยความโกรธ “อย่ามาเรียกชื่อฉัน คุณย่าเป็นห่วงลูกชายเฮงซวยอย่างคุณมากแค่ไหน แม้แต่ตอนที่ท่านต้องนอนรอความตายอยู่ตรงนั้น ท่านยังบอกฉันไม่ให้โทษที่คุณทำแบบนี้ !!”
บรรยากาศภายในห้องอยู่ในภาวะกดดันยิ่งนัก ณ จุดนี้ ยอนจูกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แม้จะพยายามควบคุมไม่ให้มันไหลออกมาสักแค่ไหนก็ตาม “คุณย่าตายก็เพราะคุณ คุณทำให้เราต้องลำบากมาตลอด แล้วยังมาทำให้คุณย่าต้องมาตายอย่างทรมานอีก ทำไมถึงทำให้ท่านต้องมาตายแบบนั้นด้วย !!!”
พ่อของยอนจูพยายามพูดว่าตัวเองเป็นคนทำผิด เป็นคนที่ทำให้แม่ของเขาต้องตายไปแบบนั้น แต่เมื่อยอนจูได้ยินคำสำนึกผิดของผู้ที่ขึ้นชื่อว่าพ่อก็ถึงกับหัวเราะหึหึออกมาอย่างประชดประชัน “แล้วผู้บริสุทธิ์คนอื่นล่ะ คุณไม่ได้ทรมานแค่คนในครอบครัว แต่มีผู้คนมากมายต้องเจ็บปวดจากการกระทำของคุณ ฉันพยายามหนีคุณแทบตายแล้วทำไมคุณยังเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉันอีก ทำไม ทำไม !!?”
ยอนจูเดินออกจากห้องไปโดยทิ้งผู้เป็นพ่อเอาไว้เบื้องหลัง เป็นเหมือนดั่งว่าคนคนนั้นไม่มีตัวตนอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป
จากนั้นยอนจูก็เผยความจริงพร้อมทั้งกล่าวขอโทษกับซึงอุค เรื่องที่พ่อของเธอเป็นคนวางเพลิงเผาโรงงานฮันจูแฟชั่นเมื่อ 14 ปีที่แล้ว จนเป็นเหตุที่ทำให้พ่อของเขาต้องตาย เมื่อพูดจบเธอก็รีบตัดบทแล้วเดินจากไปทันที มันเป็นเหมือนกับว่าเธอรู้สึกผิดจนต้องการตัดขาดความสัมพันธ์กับซึงอุค แม้เขาจะคิดว่าเธอไม่ควรต้องรับความผิดที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนก่อก็ตาม
ยอนจูกลับมาที่สำนักงานอัยการเพื่อคุยกับยูจุน “ฉันพยายามทำให้เขาเอ่ยปากออกมาว่า อะไรเป็นเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เขาวางเพลิง แต่เขาก็ไม่ตอบอยู่ดี” จากนั้นเธอก็พรรณนาเรื่องที่เธอเป็นลูกสาวของนักโทษที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ที่ก้าวขึ้นมาเป็นอัยการ เธอจำกัดความชีวิตของเธอว่า “เรื่องตลกร้ายที่น่าอึดอัดและอันตราย”
ตัดภาพมาที่เรือนจำ อีบงชิกตอนนี้ตกอยู่ในสภาพตื่นกลัวว่าตัวเองจะโดนสั่งเก็บ จนเขาต้องขอร้องให้ผู้คุมติดต่อไปหายอนจู แต่โชคร้ายที่ไม่สามารถติดต่อได้
ด้านซึงอุน ดูเหมือนจะจับได้แล้วว่า ภรรยาของเขาไม่ใช่คังมีนาตัวจริง เพราะเขาบังเอิญไปเจอซองยาที่ระบุชื่อ “โจยอนจู” แต่เขาก็ยังทำเป็นเนียนต่อไป เพราะแท้จริงแล้วทุกอย่างก็เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ (เพราะถ้าเปิดเผยเรื่องที่คังมีนาเป็นตัวปลอม ตำแหน่งประธานยูมินก็จะตกเป็นของคนอื่น ซึ่งไม่ใช่คนของฮันจู)
สถานการณ์เรื่องการตกแต่งบัญชีกลุ่มโรงแรมในเครือของฮันจูกรุ๊ปที่บริหารงานโดยซองฮเย บีบให้ประธานฮันยองซิกต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง ก่อนที่อีบงชิกจะเผยรายชื่อออกไป … ซึ่งก็เช่นเดียวกับรยูซึงด๊อกที่กังวลเรื่องที่ยอนจูจะใช้อีบงชิกมาเล่นงานเขาทางด้านหลัง แผนตัดตอนจึงเริ่มขึ้นที่คุกอีกครั้ง
ในวันนั้น อีบงชิกโดนวางยากล่อมประสาทบางอย่าง เมื่อเขาเริ่มมีอาการหลอน จากนั้นเขาก็ถูกสั่งขังเดียว แล้วการจัดฉากว่าเป็นการฆ่าตัวตายก็เริ่มขึ้น พร้อมด้วยจดหมายลาตายที่ระบุรายชื่อ “ประธานคังมีนา” อยู่ในนั้นด้วย (ซึ่งจริง ๆ ต้องเป็นซองฮเย)
เมื่อยอนจูได้รู้ว่าอีบงชิกโดนตัดตอน แถมยังมีคำสั่งไม่ให้ชันสูตรพลิกศพ ทำให้ยอนจูผิดหวังจนต้องมานั่งก๊งเหล้าอยู่คนเดียว ไม่นานนักยูจุนก็ตามมาด้วยความเป็นห่วง แล้วยอนจูก็เลยระบายให้ยูจุนฟังว่า จริง ๆ แล้วที่เธอตามล่าตัวอีบงชิกมานานก็เป็นเพราะว่า อีบงชิกเป็นกุญแจสำคัญที่ใช้ดัดหลังรยูซึงด๊อก ซึ่งเป็นคนที่ทำหน้าที่คอยเคลียร์คดีให้กับตระกูลฮันจู ซึ่งนั่นเท่ากับว่าเธอจะได้รู้เสียทีว่าใครที่เป็นคนขับรถชนคุณย่าของเธอในวันนั้น แต่เมื่ออีบงชิกตายทุกอย่างก็จบ
ยอนจูที่กระดกดื่มซาจูถี่ ๆ รัว ๆ เริ่มมีอาการตาปรือพูดจาอ้อแอ้ซึ่งเป็นอาการของคนเมา ระหว่างนั้นยูจุนก็ได้ขอยอนจูจับมือ
ซึงอุคเดินผ่านมาเห็นยอนจูจับมือกับยูจุนก็เข้าใจผิด เพราะแท้จริงแล้วยูจุนได้แต่แอบชอบยอนจูอยู่ข้างเดียวมานานแล้ว ซึ่งยอนจูก็รู้มาโดยตลอด ไม่นานนักเธอก็ไล่ยูจุนกลับบ้านไป
ยอนจูดื่มอยู่คนเดียวอีกพักใหญ่ จนกระทั่งเธอเมาเต็มที่ … ยอนจูเดินมาถึงที่หน้าประตูห้องที่คอนโด แต่ดูเหมือนว่าความสามารถในการใช้นิ้วกดรหัสเปิดห้องจะหย่อนสมรรถภาพไป จนทำให้เธอไม่สามารถเข้าห้องของตัวเองได้ วินาทีเดียวกันนั้นเองภาพก็ตัดไป พร้อมกันกับที่ตัวเธอลงไปนอนกองอยู่กับพื้นพร้อมด้วยเสียงกรนอันดังสนั่น ไม่นานนัก ซึงอุคที่อยู่ห้องตรงข้ามก็มาช่วยพายอนจูเข้าไปนอนในห้อง
ด้วยความที่รหัสผ่านของยอนจูเป็นวันเสียชีวิตของคุณยาย ซึ่งตรงกับวันเกิดของซึงอุค ทำให้ไม่ยากนักที่เขาจะเดารหัสนั้นได้ เมื่อพายอนจูเข้ามาที่ห้องของเธอได้แล้ว จังหวะนั้นเอง ยอนจูได้สติขึ้นมาครู่หนึ่งแล้วก็โผเข้าจูบ ท่ามกลางความตกตะลึงอันอิ่มเอมของซึงอุค
ในบทส่งท้าย คังมีนาได้กลับมายังเกาหลีแล้ว …
EP.10 ความรักเริ่มขึ้นตั้งแต่วันนั้น
![สปอยล์ One the Woman EP.10](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep10-spoiler-4.webp)
หลังผ่านค่ำคืนแห่งการเมาเรื้อนไป ยอนจูตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจำอันน่าปวดตับ กับพฤติการณ์งี่เง่าหลายสิ่งอย่างที่เธอทำไปทั้งจำได้และจำไม่ได้
ยอนจูไปทำงานที่สำนักงานอัยการกลาง รยูซึงด๊อกสั่งให้เธอรับผิดชอบเรื่องการเรียกตัวประธานคังมีนามาสอบสวน ส่วนเรื่องการตายของอีบงชิกให้ปิดคดีไปว่าเป็นการฆ่าตัวตาย … เอาล่ะสิ ยอนจูต้องพยายามจะหาทางเลี่ยง เพราะไม่เช่นนั้น ความจริงเรื่องที่เธอสวมรอยเป็นมีนาจะถูกเปิดเผย
ซองฮเยสั่งให้ไล่พนักงานที่มีเงินเดือนสูงและที่เป็นฝ่ายตรงข้ามออก เพื่อกรุยทางสู่การควบรวมกิจการกับยูมินกรุ๊ป
การไล่พนักงานออกของซองฮเย ทำให้กลุ่มแรงงานที่โดนไล่ออกมายืนประท้วงอยู่ที่หน้าบริษัท ซองฮเยเดินมาเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ประท้วง แล้วก็ทำในสิ่งที่น่าตกตะลึง ซองฮเยคุกเข่าลงเบื้องหน้ากลุ่มผู้ประท้วง เธอตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จว่า เรื่องทั้งหมดเป็นคำสั่งของประธานคังมีนา ซึ่งตัวเธอเองไม่เห็นด้วยแต่ไม่สามารถขัดคำสั่งได้
เมื่อกลุ่มสหภาพแรงงานได้ยินเช่นนั้นจากปากของซองฮเย พวกเขาจึงเดินทางไปประท้วงประธานคังมีนาที่หน้าตึกยูมินกรุ๊ปแทน เมื่อยอนจูมาถึง กลุ่มผู้ประท้วงจึงพากันปาไข่ไก่ใส่เธอ บอกเลยว่าอย่างแม่น
ยอนจูไม่พอใจที่กลุ่มผู้ประท้วงใช้ความรุนแรงโดยการปาไข่ใส่ แต่ก็ไม่สามารถแจ้งความเอาผิดได้ เพราะตัวผู้เอาผิดต้องไปให้การที่สำนักงานอัยการ แต่ซึงอุนกลับทำทีเป็นสามีผู้รักภรรยา ทำการแจ้งความเอาผิดหัวหน้ากลุ่มสหภาพที่ปาไข่ใส่ภรรยาของเขา
ซึงอุคไปเจรจาต่อรองการควบรวมกิจการกับประธานฮันยองซิก เขายื่นข้อเสนอขอให้ประธานฮํนยองชิกหยุดเล่นงานมีนา เพื่อแลกกับหุ้นในยูมิน 10% ผลก็คือรยูซึงด๊อกสั่งระงับคำสั่งเรียกประธานคังมีนามาให้การที่สำนักงานอัยการ
ระหว่างนั้นเอง ซึงอุคได้แถลงข่าวการควบรวมกิจการของโรงแรมในเครือยูมินกับเครือฮันจูเข้าด้วยกัน และมีการประกาศให้ซึงอุนขึ้นเป็นประธาน งานนี้คนที่ชอกช้ำที่สุดคือ ซองฮเย ที่ตอนนี้ถูกเขี่ยตกกระป๋อง
หลังจากยอนจูรู้ว่าซึงอุคโอนหุ้นยูมินให้กับฮันจู เธอจึงไปหาซึงอุคด้วยความร้อนใจ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยอนจูต้องการพูดกับซึงอุคไม่ใช่เรื่องหุ้น แต่กลับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 14 ปีที่แล้ว …
“เมื่อ 14 ปีที่แล้ว เคยมีคนพูดแบบนั้นกับฉัน เรื่องกำแพงที่เมื่อหันไปอีกทางมันจะกลายเป็นสะพาน” ยอนจูนึกถึงคำพูดของเด็กชายคนหนึ่งที่เจอที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่คุณย่าของเธอจากไป คำพูดที่ว่านี้เป็นคำพูดที่ซึงอุคมักยกขึ้นมาอ้างอยู่เสมอ เพราะเป็นคำพูดที่เขาได้รับการบอกจากพ่อ และเป็นคำพูดที่ยอนจูได้ยินซึงอุคพูดในการแถลงข่าว
“คนคนนั้นไม่ใช่คังมีนา แต่เป็นคุณโจยอนจูเหรอ ?” ซึงอุคตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้รู้ว่าผู้หญิงที่เขาเจอที่โรงพยาบาลในวันนั้นไม่ใช่คังมีนา
“ฉันเองค่ะ … วันนั้นเป็นวันที่คุณย่าของฉันเสีย ก่อนท่านเสียท่านได้บอกกับฉันว่า ท่านไม่ต้องการให้การตายของท่านเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตของฉันในอนาคต พูดตามตรงฉันไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านกล่าวในตอนนั้นเลยจริง ๆ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของคุณ มันทำให้ฉันตั้งใจว่าต้องก้าวไปสู่อีกโลกหนึ่งด้วยการนำทางของคุณย่า ฉันไม่เคยลืมเรื่องนั้นเลย จริง ๆ แล้วที่ฉันมายืนได้ ณ จุดนี้อาจเป็นเพราะคำพูดของคุณในวันนั้น” ยอนจูพูดไปก็น้ำตาซึมไป เหมือนกับเธอได้ค้นพบของสำคัญที่ตามหามาอย่างยาวนาน
ซึงอุคเมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ก็ได้พูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า “ตอนนี้ผมเข้าใจทั้งหมดแล้วครับว่า รักแรกของผมคือคุณโจยอนจู”
“แต่ฉันเป็นลูกสาวของคนที่ทำให้คุณพ่อของคุณจากไปนะ มันจะไม่เป็นปัญหาจริง ๆ เหรอ ?”
“ผมไม่ใช่เด็กผู้ชายคนนั้นแล้ว ความรักที่แท้จริงมันเริ่มขึ้นตั้งแต่วันนั้นไปแล้ว”
จากนั้น ซึงอุคกับยอนจูก็จุมพิตกันด้วยความรักที่ตามหากันมาอย่างยาวนานถึง 14 ปี …
EP.11 เมื่อความจริงเปิดเผย
![One the Woman EP.11](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep11-spoiler.webp)
ยอนจูกับซึงอุคยืนยันความรู้สึกด้วยรอยจูบ ในความสัมพันธ์รักแรกของกันและกัน แต่ทว่าก่อนที่ทั้งสองจะถลำลึกไปกว่านั้น โนฮักแทก็เข้ามาถึงพอดี
ยอนจูกลับมาถึงบ้าน ซึงอุนบอกกับยอนจูว่า “วันนี้คุณไปเจอพี่ซึงอุคมาอีกแล้วใช่มั้ย แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรือคุณจะทำอะไรผมก็ไม่มีวันหย่ากับคุณ เพราะผมรู้ว่าคุณไม่ใช่คังมีนา” ซึงอุนจ้องยอนจูด้วยสายตาของผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า แต่ …
ยอนจูกลับไม่คิดเช่นนั้น “เอ … ถ้าฉันยังเป็นคังมีนาก็เท่ากับเป็นการทำให้คุณได้อยู่ในตำแหน่งต่อไป แต่ถ้าฉันไม่ต้องการเป็นประธานคังมีนาต่อไปล่ะ นั่นก็เท่ากับว่าคุณจะหลุดออกจากตำแหน่ง … ดูเหมือนว่าคนที่อยากให้ฉันเป็นคังมีนามากที่สุดไม่น่าจะใช่ตัวฉันนะ แต่น่าจะเป็นคุณมากกว่า เพราะฉะนั้นหุบปากซะแล้วออกไปซะ”
ซึงอุนหน้าจ๋อยแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างงง ๆ เพราะไพ่ที่เขาถืออยู่ในมือเป็นแค่ไพ่โจ๊กเกอร์เท่านั้น มันไม่มีค่าอะไรเลยถ้าไม่มีไพ่อื่นมาสวมแทน !?
ยอนจูกับซึงอุคไปที่โรงพยาบาลเมื่อรู้ข่าวว่า จางซอกโฮ คนที่ขับรถชนเธอฟื้นได้สติขึ้นมา เขาเล่าว่า “ตอนนั้นผมเดือดร้อนเงินเป็นอย่างมาก ผมเลยโทร. หาคนนู้นคนนี้ไปทั่ว บังเอิญโชคดีที่มีคนที่ฮันจูให้ผมยืมเงิน แล้วนัดเจอผมที่โรงแรมฮันจูในวันนั้น ซึ่งตอนนั้นผมเกิดอาการลมชักขึ้นมาพอดี”
ภรรยาของจางซอกโฮพูดขอให้ยอนจูยกโทษให้สามีของเธอ โดยอ้างเรื่องที่ทำให้อาการโรคลมชักที่เขาเป็นอยู่แย่ลง ตั้งแต่เหตุการณ์ไฟไหม้ที่โรงงานแฟชั่นฮันจู อย่างไรก็ตาม ทั้งซึงอุคและยอนจูต่างรู้ดีว่าสิ่งที่จางซอกโฮพูดเป็นเรื่องโกหก เพราะสิ่งที่เขาพูดมันไม่ตรงกับลอยเลี้ยวรถในที่เกิดเหตุ แต่ยอนจูกลับสนใจเรื่องที่ภรรยาของเขาอ้างถึงเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานแฟชั่นฮันจูมากกว่า
เลขาของซองฮเยตามมาปิดปากจางซอกโฮที่โรงพยาบาล แต่ให้บังเอิญว่าซึงอุคมาหาพอดี ทำให้เขารอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด จุดนี้เองทำให้เขายอมรับสารภาพความจริงที่เกิดขึ้น “ผมเดือดร้อนเงินมากจริง ๆ แล้วคนคนนั้นก็สั่งให้ผมขับรถชนคุณเพื่อแลกกับเงิน คนคนนั้นเป็นคนที่จ้างให้ผมให้การเท็จว่าเห็นคนจุดไฟเผาที่โรงงานฮันจูแฟชั่นครับ”
แท้ที่แล้ว คังมยองกุก พ่อของยอนจูไม่ใช่คนลอบวางเพลิง และยังเป็นคนที่ช่วยจางซอกโฮออกมาจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนั้นด้วย
ยอนจูมาเยี่ยมคังมยองกุกที่เรือนจำเพื่อถามความจริงที่เกิดขึ้น …
“คุณเป็นคนวางเพลิงหรือเปล่าคะ ?”
“ไม่ ฉันไม่ได้ทำ” คังมยอกกุกคิดอยู่นานกว่าจะเอ่ยความจริงนี้ออกไป
“ไม่ได้ทำ แล้วทำไมไม่บอกล่ะ ?”
“ฉันรับเงินเพื่อแลกกับคำรับสารภาพว่าเป็นคนวางเพลิง”
“ใครเป็นคนจ้าง ?”
“ฉันไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เขาบอกว่ามาจากฮันจู”
“เงินที่ฉันใช้เป็นค่าอาหารและค่าเล่าเรียนมาจากเงินนั่นเหรอคะ” !!?
EP.12 99.9999 เปอร์เซ็นต์
![One the Woman EP.12](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep12.webp)
ยอนจูโกรธเป็นอย่างมาก เมื่อได้รู้ความจริงว่าคังมยองกุกไม่ใช่ผู้ลอบวางเพลิงตัวจริง แต่รับเงินจากฮันจูเพื่อรับผิด เขาบอกกับยอนจูว่า “ในตอนนั้น ฉันคิดว่าลูกสาวของฉันต้องการเงิน มากกว่าพ่อที่ไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวคนนี้”
ยอนจูเข้าใจมาตลอดว่าเงินก้อนใหญ่ก้อนนั้นที่ได้รับ เป็นเงินประกันของคุณย่า แต่ที่แท้แล้วเป็นเงินของฮันจู ที่ต้องแลกกับโทษจำคุกตลอดชีวิตของคังมยองกุก
คังมยองกุกได้ดูรูปของจองโดอู (เลขาของซองฮเย ที่ตอนนั้นเป็นคนขับรถให้กับประธานฮันยองชิก) เขาจำได้ว่าเป็นคนคนเดียวกับที่เป็นคนเสนอเงินให้กับเขา … นั่นหมายความว่าซองฮเยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการวางเพลิงที่เกิดขึ้นเมื่อสิบสี่ปีก่อน
ระหว่างนั้น ยอนจูก็เดินหน้าสืบหาเบาะแสต่าง ๆ จนได้หลักฐานชี้ชัดว่า คนที่ขับรถชนคุณย่าเธอในวันนั้นคือประธานฮํนยองชิก แต่ปัญหาคือยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดที่สามารถเอาผิดได้
ในการประชุมผู้ถือหุ้นยูมินอิเล็กทริกส์ ซองฮเยได้เตรียมแผนเปิดเผยว่า ยอนจูปลอมตัวสวมรอยเป็นประธานคังมีนา โดยอาศัยหลักฐานการตรวจดีเอ็นเอ แต่เมื่อมีการเปิดเผยผลดีเอ็นเอ เรื่องราวเกิดกลับตาลปัตร …
“การวิเคราะห์เอสทีอาร์และผลทดสอบความเป็นบิดา … บทวิเคราะห์ดีเอ็นเอทั้ง 15 จุดของคังจางซูและคังมีนา แสดงให้เห็นว่า ทั้งคู่มีอัลลีตรงกัน 14 จาก 15 จุด จากจำนวนดีเอ็นเอที่ทั้งสองมี ความเป็นไปได้จะเป็นบิดาคือ 99.9999 เปอร์เซ็นต์”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ยอนจูตกใจเป็นอย่างมาก “ทำไม นี่ฉันเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของประธานคังจางซูอย่างนั้นเหรอ !?”
EP.13 คนร้ายตัวจริง
![One the Woman EP.13 สปอยล์](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep13-spoiler-3.webp)
ผลตรวจดีเอ็นเอระบุว่า ยอนจูมีความสัมพันธ์เป็นพ่อลูกกับประธานคังจางซูแห่งยูมินกรุ๊ป ยอนจูทำท่างงงันกับผลตรวจดีเอ็นเอที่ถูกประกาศออกมาอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ยอนจู ในนามของประธานคังมีนาจะประกาศในสิ่งที่สร้างความตกตะลึง ให้กับนักข่าวและผู้เข้าร่วมประชุม …
“การเก็บตัวอย่างไปตรวจดีเอ็นเอโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้รับการทดสอบ เท่ากับเป็นการผิดต่อบทบัญญัติของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แต่ฉันต้องหยุดเรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เพราะฉันมีเรื่องสำคัญที่จะประกาศ ฉันจะลาออกจากตำแหน่งประธานของยูมินกรุ๊ป ส่วนหุ้นและสิทธิ์ทั้งหมดของฉันจะโอนไปให้กับคุณฮันซึงอุค”
ประธานฮันยองชิกและซองฮเยถึงกับหน้าถอดสี เมื่อได้ฟังคำประกาศลาออกจากตำแหน่งของยอนจู เพราะมันทำให้แผนการที่วางเอาไว้ทั้งหมดพังทลายไม่เป็นท่า
ยูจุนได้แอบติดตั้งแอปดักฟังเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือของรยูซึงด๊อก เพื่อสืบหาข้อมูลคดีที่เกิดขึ้นเมื่อ 14 ปีที่แล้ว
ระหว่างนั้น ยอนจูได้ปล่อยข้อมูลการรับสินบนของรยูซึงด๊อกกับนักข่าว เป็นแผนการบีบให้เขากลับไปต่อรองกับประธานฮันยองชิกเพื่อเอาตัวรอด รยูซึงด๊อกร้อนใจเป็นอย่างมากจึงติดต่อไปหาประธานฮันยองชิกตามที่ยอนจูวางแผนเอาไว้ …
“คดีอีบงชิกกับคดีเมื่อ 14 ปีก่อนทำให้ฮันจูก้าวขึ้นเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน ผมเก็บหลักฐานที่ใช้เอาผิดในคดีนั้นเอาไว้ หลักฐานที่จะทำให้เราลงเหวไปด้วยกัน แต่ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดโปงออกไป ใครที่จะเจ็บหนักมากกว่ากัน … อีกอย่างนะ ถ้าคุณตัดสินใจจะเก็บผม หลักฐานที่ผมเก็บเอาไว้ในที่ที่ปลอดภัยมากที่สุด จะถูกเปิดเผยออกมาอย่างแน่นอน”
ประธานฮันยองชิกได้แต่ฟังด้วยความอึ้งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะโดนดัดหลัง
ยอนจูแอบเข้าไปในห้องทำงานของรยูซึงด๊อก เพื่อหาหลักฐานสำคัญที่ใช้เอาผิดคดีเมื่อ 14 ปีที่แล้ว ซึ่งระหว่างนั้นเอง ซองฮเยได้เดินทางมาที่ห้องเพื่อมาหารยูซึงด๊อก ทำให้ยอนจูที่แอบอยู่หลังตู้เอกสารได้ยินความจริงอันน่าตกตะลึง ซองฮเยเป็นคนขับรถชนคุณย่าของยอนจูเมื่อ 14 ปีก่อน
ประโยคหนึ่งจากปากของซองฮเยที่สะท้อนอยู่ในหัวของยอนจูซ้ำไปซ้ำมา “ก็แค่ผู้หญิงแก่ ๆ คนหนึ่งตายจากอุบัติเหตุรถยนต์ ไม่มีใครสนใจเรื่องแบบนี้หรอก” น้ำตาของยอนจูไหลออกมาไม่หยุดด้วยความเสียใจ
หลังจากพบกับรยูซึงด๊อกที่สำนักอัยการกลาง ซองฮเยจึงไปพบกับยอนจูที่ห้องทำงานของเธอ ทั้งสองยืนประจันหน้ากันด้วยความท้าทาย …
“แกนั่นเองที่เป็นคนขับรถชนคุณย่า !”
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่า แค่อัยการธรรมดา ๆ คนหนึ่งจะทำอะไรได้ ฉันนึกภาพไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าจะเอาชนะอำนาจเงินได้ยังไง”
“ฉันจะใช้สิ่งที่เรียกว่ากฎหมายจัดการคนอย่างแก”
EP.14 เฟสออฟ
![One the Woman EP.14 สปอยล์](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep14-spoiler-4.webp)
หัวหน้าแม่บ้านคิมบอกความจริงกับซึงอุคในวันเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานฮันจูแฟชั่นเมื่อ 14 ปีที่แล้วว่า คนที่อยู่ที่โรงงานไม่ใช่ประธานฮันยองชิก หากแต่เป็นผู้อำนวยการฮันซองฮเย
ตัดภาพมาห้องทำงานของยอนจูที่สำนักงานอัยการกลาง ซองฮเยเย้ยหยันยอนจูว่า อัยการธรรมดาคนหนึ่งไม่สามารถทำอะไรคนอย่างเธอ ที่เป็นทายาทตระกูลธุรกิจใหญ่ระดับประเทศได้
ยอนจูโต้ตอบกลับไปด้วยเสียงแผดดัง “ฉันจะใช้อำนาจในฐานะอัยการทุกอย่างที่มี ทั้งในและนอกกฎหมายเพื่อทำลายเธอ ฉันจะใช้กฎหมายเป็นอาวุธ … เธอลืมไปแล้วเหรอว่า พ่อเธอเลือกฉันแต่ไม่เลือกเธอ” ซองฮเยวิปขึ้นสมองทันที วาดมือไปตบหน้ายอนจูอย่างแรง แต่ก่อนที่ยอนจูจะเอาคืน ผู้ช่วยพัคก็เข้ามาห้ามเอาไว้เสียก่อน
วันนั้นเอง ประธานฮันยองชิกก็ถูกจับในข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่สรรพากร เลี่ยงภาษี และยักยอกเงิน … ประธานฮันยองชิกเริ่มรู้ตัวแล้วว่า เขาโดนดัดหลังจากคนที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน นั่นก็คือซองฮเย ลูกสาวคนโตของเขานั่นเอง !
ยอนจูเอายูเอสบีไดรฟ์ที่แอบเอามาจากห้องทำงานรยูซึงด๊อกให้ซึงอุคได้ดู ในนั้นเป็นไฟล์วิดีโอจากภาพกล้องวงจรปิดในโรงงานฮันจูแฟชั่น ในวันที่เกิดเหตุไฟไหม้ โดยภาพแสดงให้เห็นว่า เลขาจองโดอูกำลังลากร่างที่ไร้สติของประธานฮันคังชิก พ่อของซึงอุค ไปไว้ที่บริเวณทางเดิน
ภาพแฟลชแบ็กย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ในวันนั้น ซองฮเยหน้าตาตื่นเมื่อรู้ว่าประธานฮันคังชิก ผู้เป็นคุณลุงของเธอ กำลังตรวจสอบบัญชีของโรงงานฮันจูแฟชั่น ซึ่งพบว่ามีการตกแต่งบัญชีให้ดูดีเกินกว่าความจริง ก่อนที่จะมีการควบรวมกิจการ
ทั้งสองโต้เถียงกัน ก่อนจะมีการยื้อแย่งสมุดบัญชี ในตอนนั้นเองประธานฮันคังชิกเกิดพลาดล้มลง หัวไปฟาดขอบโต๊ะจนหมดสติไป พร้อมกับเลือดกองโตที่ไหลออกไม่หยุด
จังหวะนั้นเอง เลขาจองโดอูได้เข้ามาภายในห้อง ซองฮเยพูดด้วยความสติแตก โดยการบอกให้เขาทำลายหลักฐานทั้งหมดโดยการเผาโรงงานแห่งนี้ โดอูได้ลากศพออกไปนอกห้อง ส่วนซองฮเยก็ขับรถออกไปด้วยความตื่นกลัว จนไปขับรถชนคุณย่าของยอนจูระหว่างทาง
เวลาเดียวกันนั้น คังมยองกุก เอาถังและน้ำมันมาวางเอาไว้ที่หน้าโรงงานเพื่อทำการเผา ซึ่งโดอูได้เอาอุปกรณ์เหล่านั้นมาวางเพลิงโรงงานเพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมด และโยนความผิดไปให้กับคังมยองกุก
ยอนจูมาทำงานพร้อมกับได้รู้ข่าวว่าตัวเองถูกพักงานสองเดือน เพราะโดนฟ้องเรื่องที่ปลอมตัวเป็นประธานคังมีนา ข่าวของยอนจูแพร่ออกไปในโลกอินเทอร์เน็ต พร้อมกับคอมเมนต์ในทางลบที่ประดังประเดเข้ามาไม่หยุด
ซองฮเยเริ่มคิดถึงช่องโหว่ที่จะทำให้เธอโดนเล่นงาน จากเหตุการณ์เมื่อ 14 ปีก่อน โดยให้โดอูเข้ามอบตัวกับอัยการ เขาให้การในห้องสอบสวนว่า
“ผอ. ฮันซองฮเยตั้งใจจะเปิดเผยเรื่องการโกงบัญชีของประธานฮันคังชิก ทั้งคู่เกิดโต้เถียงกัน ผมได้ยินเสียงจึงเดินเข้าไปดู ตอนนั้นเองที่ท่านประธานฮันคังชิกเกิดพลาดล้มไปหัวฟาดกับขอบโต๊ะ ในตอนนั้นผอ. ฮันซองฮเย เดินออกมาจากห้องแล้ว ผมจึงพยายามจะลากร่างของท่านประธานออกมาไว้บริเวณทางเดิน” ส่วนเรื่องรถเขาก็อ้างว่า ซองฮเยนั่งรถแท็กซี่กลับไปเพราะเธอขับรถไม่แข็ง ส่วนรถคันนั้นที่ขับรถชนคุณย่ายอนจู เป็นตัวเขาที่เป็นคนขับ
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนการที่ซองฮเยวางเอาไว้ทั้งหมด นั่นเท่ากับว่าหลักฐานที่ยอนจูมีอยู่ในมือไม่สามารถเอาผิดซองฮเยได้ !?
ระหว่างนั้นเอง ยอนจูกับซึงอุคคิดหาทางออกกับเรื่องราวทั้งหมด นั่นก็คือต้องหาคังมีนาให้เจอ
ภายใต้สถานการณ์ที่ซับซ้อน ยอนจูได้พยายามตีวงให้แคบ จนเธอเริ่มสงสัยว่าบางทีแล้วคังมีนาอาจไม่ได้หนีไปไหนไกล ซึ่งซึงอุคก็สนับสนุนว่า มีนาไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ดังนั้น มีความเป็นไปได้สูงที่เธออยู่ไม่ไกลจากซองฮเย เพราะเธอรู้ดีว่าถ้าซองฮเยยังอยู่ ชีวิตของเธอจะไม่เป็นสุข
ซึ่งสิ่งที่ซึงอุคและยอนจูคิด กลับเป็นสิ่งที่ซองฮเยคิดเช่นกัน เธอสงสัยมาตลอดว่าเลขาสาวคนใหม่ของเธอคือคังมีนา !?
ซองฮเยเรียกให้เลขาของเธอนั่งลงจิบวิสกี้ จากนั้นก็บังคับให้กินถั่วลิสง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีนาแพ้มาตั้งแต่เด็ก เลขาสาวฝืนใจกินถั่วลงไป ก่อนที่ซองฮเยจะลั่นออกมาว่า “ทำไมเธอยังคิดว่าฉันเป็นคนเลวมาตลอด”
มีนารีบวิ่งหนีออกไปจากห้องทันที ในขณะที่ซองฮเยโทร. บอกกลุ่มนักเลงให้เตรียมจัดการกับมีนาที่กำลังหนี
ระหว่างที่มีนากำลังจนมุมกับอาการแพ้ถั่ว และพวกนักเลง ซึงอุคกับยอนจูก็ขับรถเข้ามาช่วยได้ทันเวลา
ที่แท้แล้ว มีนาได้ทำการศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าเฟซออฟ เพื่อปลอมตัวมาสมัครงานเป็นเลขาของซองฮเย
EP.15 วิธีจัดการกับผู้ยิ่งใหญ่
![สปอยล์ซีรีส์ One the Woman EP.15](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep15-spoiler-4.webp)
ยอนจูและซึงอุคเข้าไปช่วยชีวิตคังมีนา ที่ตอนนี้ศัลยกรรมแปลงหน้าปลอมตัวเป็นเลขาคิมอึนจอง (รับบทโดย อีฮวากยอม) เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับซองฮเย นั่นหมายความว่า การสับเปลี่ยนตัวอย่างทางชีวภาพที่ใช้ตรวจสายสัมพันธ์ของยอนจูก่อนหน้านี้ ก็เป็นฝีมือของเธอ
ยอนจูบึ่งรถเมอร์ซีดีสมารับคังมีนา ก่อนที่จะถามด้วยความสงสัยว่า ทำไมถึงไม่รีบหนีหลังจากได้ส่งหลักฐานทาง USB Drive ให้ซึงอุคแล้ว คังมีนาตอบด้วยประโยคที่ชวนสงสัยว่า “มีบางอย่างที่ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับซองฮเยค่ะ” แต่ยังไม่ทันที่จะได้ไปไหน พวกนักเลงแก๊งซัมกอรีก็ตามมาทัน ตอนนั้นเองการตะลุมบอนก็เกิดขึ้น ระหว่างนั้นคังมีนาโดนไม้หน้าสามตีสีหัวอย่างแรง ส่วนยอนจูก็โดนตำรวจจับใส่กุญแจมือในข้อหาปลอมตัวเป็นคังมีนา
สถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดีนัก เมื่อคังมีนานอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนยอนจูโดนจับขังอยู่ในซังเต ก็โดนนักข่าวเล่นข่าวโจมตีเรื่องที่เธอเป็นอัยการกังฉินรับสินบน ทำให้พวกแก๊งนักเลงไม่พอใจ จนเกิดการทะเลาะวิวาทเพราะความแค้น
ซองฮเยยิ้มอย่างผู้มีชัยชนะ เมื่อข่าวทางทีวีรายงานว่า “ฮันจูกรุ๊ปได้แต่งตั้งฮันซองฮเย ประธานโรงแรมฮันจูเป็นประธานคนใหม่ของบริษัท ผ่านการประชุมคณะกรรมการฉุกเฉิน ในขณะที่ประธานฮันยองชิกที่ถูกควบคุมตัวอยู่ กลายเป็นประธานกิตติมศักดิ์”
ซึงวอนไปเยี่ยมประธานฮันยองชิกที่เรือนจำเพื่อรับคำสั่งบางอย่าง “มีสายตาจับจ้องมากเกินไป ทำให้ฉันยังออกไปทันทีไม่ได้ ฉันอยากรวมคนที่สนับสนุนฉัน และบริหารบริษัทจากข้างในนี้ ฉันต้องการให้แกส่งต่อคำพูดฉันไปให้คนอื่น ๆ”
พูดง่าย ๆ คือ ประธานฮันยองชิกต้องการให้ซึงวอนเป็นประธานหุ่นเชิดให้กับเขา แต่ดูเหมือนว่าความห่วยแตกของซึงวอนจะทำให้เขาปฏิเสธความต้องการของผู้เป็นพ่อ อีกอย่างก็เป็นเพราะกลัวซองฮเยงัดเอาเรื่องยาเสพติดขึ้นมาเล่นงาน
ซึงอุคต่อรองกับคังอึนฮวาให้ถอนฟ้องยอนจู แลกกับการที่เขาจะโอนสิทธิ์ในการออกเสียงทั้งหมดในยูมินกรุ๊ปให้กับเธอ ซึ่งแน่นอนว่าคังอึนฮวาไม่มีทางปฏิเสธข้อเสนอที่เธอมีแต่ได้กับได้ … สุดท้ายยอนจูก็ได้รับการปล่อยตัวออกมา แม้จะต้องโดนไล่ออกจากการเป็นอัยการก็ตาม
ซองฮเยเมื่อได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานฮันจู อีโก้ความหยิ่งยโสและความบ้าอำนาจก็เข้าครอบงำอย่างเต็มที่ ตอนนี้เธอได้สร้างตัวเองให้เป็นจุดศูนย์กลางของโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หัวหน้าแม่บ้านคิมเอาเครื่องบันทึกเสียงบันทึกเสียงเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานฉันจูแฟชั่น และอุบัติเหตุชนแล้วหนีเมื่อ 14 ปีที่แล้ว ไปให้กับซึงอุคและยอนจู ซึ่งเนื้อหาในคลิปเสียงสามารถนำเอาไปใช้เอาผิดซองฮเยได้
ซองฮเยเรียกโนฮักแทไปพบเพื่อพูดอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาวะตึงเครียด “ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณไม่ได้ยืนอยู่ข้างเรา แต่ซึงอุครู้หรือเปล่าว่า คุณเคยหักหลังประธานฮันคังชิก (พ่อของซึงอุค)” โนฮักแทได้แต่ก้มหน้าด้วยความละอายต่อสิ่งที่ทำในอดีต ที่ปิดบังเรื่องการตกแต่งบัญชีของโรงงานฮันจูแฟชั่น แม้เขาจะพยายามอธิบายว่า ที่ต้องทำอย่างนั้นก็เพราะต้องการเงินไปรักษาพ่อที่กำลังป่วย
ยอนจูเรียกประชุมทุกคนเพื่อวางแผนจัดการซองฮเย โดยโนฮักแทได้เสนอออกมาว่า ให้เปิดเผยคลิปเสียงนี้ในพิธีต้อนรับประธานฮันซองฮเย ซึ่งในวันนั้นจะมีทั้งนักข่าวมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
แต่เมื่อถึงเวลาจริง โนฮักแทกลับทรยศ !? แผนที่ยอนจูวางเอาไว้พังไม่เป็นท่า … ซองฮเยยืนยิ้มเยาะอย่างผู้มีชัยชนะอยู่เบื้องหน้ายอนจู
EP.16 ตอนจบ
![อีฮานี](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep16-finale-spoiler-1.webp)
จู่ ๆ โนฮักแทก็ทรยศยอนจูกับซึงอุค โดยการย้ายฝั่งไปอยู่กับซองฮเยเฉยเลย ทำให้ยอนจูมึนงงเป็นอย่างมาก
ยอนจูโทร. หาโนฮักแทเพื่อนัดคุยกันในร้านอาหารแห่งหนึ่ง พร้อมกับสาธยายเหตุผลที่เขาต้องทรยศอันยาวเหยียด …
“เรื่องของเรื่องคือตอนที่พ่อของซึงอุคเสีย ผมรู้เรื่องบัญชีอยู่แล้ว ถ้าผมบอกประธานฮันคังชิกแต่แรก เขาอาจจะไม่ไปที่โรงงานในคืนนั้นก็ได้ … คุณลองคิดดูนะครับ ความภักดีทำให้ได้เงินเดือนเดือนละล้านวอนเหรอ พ่อผมต้องนอนโรงพยาบาลมากว่า 20 ปีแล้ว ความภักดีเป็นสิ่งที่ฟุ่มเฟือยที่คนอย่างผมไม่มีปัญญาซื้อหรอก ฮันซองฮเยเอาเรื่องนี้มาขู่ทำให้ผมไม่มีทางเลือก”
หลังจากคุยกันไปได้สักพัก ยอนจูก็หมดสติไป โนฮักแทวางยายอนจู !!!
เมื่อยอนจูได้สติก็พบว่าตัวเองถูกมัดอยู่กับเก้าอี้ โดยเบื้องหน้ามีซองฮเยนั่งยิ้มเยาะอยู่ …
“ฟังนะ ประธานฮันซองฮเย จุดแข็งที่สุดของฉันคือการสอบปากคำแบบตัวต่อตัว ไม่ว่าอย่างไร ฉันสามารถทำให้ผู้ต้องสงสัยพูดในสิ่งที่ฉันอยากรู้ได้”
“เธอจะสอบสวนฉันอย่างนั้นเหรอ ?”
“ไม่หรอก ฉันแค่อยากขอให้เธอมอบตัวก็เท่านั้นเอง ฉันฟังเสียงบันทึกของเธอตอนที่เธอฆ่าฮันคังชิก และขับรถชนคุณย่า ทั้งหมดมันเป็นแค่อุบัติเหตุ”
“เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นอัยการอยู่อีกเหรอ คือยังไงกฎหมายก็เข้าข้างผู้มีอำนาจอยู่แล้ว อีกอย่างตอนนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าฉันฆ่าคนพวกนั้น”
“ถ้ารยูซึงด๊อกไม่ช่วยเธอ เธอคงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก มอบตัวซะเถอะในข้อหาพยายามฆ่าคังมีนา อีบงชิก และจางซอกโฮกับภรรยา”
ในระหว่างที่ซองฮเยกำลังยิ้มเยาะด้วยความขบขันกับคำพูดของยอนจู รอยยิ้มของเธอมันเป็นรอยยิ้มของผู้ชนะที่เยาะเย้ยผู้แพ้อย่างชัดเจน แต่ …
ทั้งหมดเป็นแผนที่ยอนจูวางเอาไว้ตั้งแต่ต้น ทุกคำพูดที่ซองฮเยพูดออกมา มีกล้องที่แอบติดตั้งเอาไว้และทำการไลฟ์สดออกไปทางโลกโซเชียล นั่นหมายความว่าสิ่งที่ซองฮเยพูดออกไป มีคนเห็นและได้ยินเป็นจำนวนมาก
เมื่อซองฮเยได้รู้เช่นนั้น เธอก็รับเดินจากไปในทันที จากนั้นเธอก็ประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เพื่อให้รับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยการนำเอาคลิปไลฟ์สดดังกล่าวออกจากระบบอินเทอร์เน็ต อีกทั้งฝ่ายกฎหมายก็แนะนำว่า คลิปที่แอบบันทึกโดยไม่ได้รับความยินยอมจากซองฮเย ไม่สามารถเอาไปใช้ในศาลได้
ในเบื้องต้น แม้ซองฮเยจะไม่โดนเอาผิดเรื่องการจ้างวานฆ่า แต่มันก็ส่งผลให้เธอโดนตัดหางปล่อยวัดจากผู้มีอำนาจทางการเมือง แต่คนที่โดนผลกระทบมากที่สุดดูเหมือนจะเป็นรยูซึงด๊อก ที่ต้องกระเด็นจากตำแหน่งหัวหน้า แถมยังโดนยึดทรัพย์ พร้อมทั้งโดนจับเข้าซังเตอีกด้วย
แต่ความบังเอิญผสมกับคราวเคราะห์ของซองฮเยก็มาเยือนจนได้ เมื่อซึงอุคเกิดไปรู้ความลับบางอย่างที่ซองฮเยได้เก็บซ่อนเอาไว้ นั่นก็คือ ซองฮเยไม่ได้ช่วยปลูกถ่ายไตให้น้องสาวของอดีตเลขาจองโดอูตามที่ตกลงไว้ ทำให้อาการทรุดลง ซองฮเยต้องการเลี้ยงไข้เพื่อเป็นข้อต่อรองให้เลขาจองโดอูรับผิดแทน
ซึงอุคเอาเรื่องนี้ไปบอกกับจองโดอูในเรือนจำ ทำให้จองโดอูกลับคำให้การซัดทอดซองฮเย
คังมีนาตัวจริงฟื้นได้สติขึ้นมา เมื่อได้เห็นยอนจูหน้าเหมือนกับเธออย่างกับเป็นคนคนเดียวกันก็ถึงกับแปลกใจเป็นอย่างมาก มีนากล่าวขอบคุณซึงอุคและยอนจู
จากนั้นมีนาก็ไปหาแม่สามีของเธอ (ซอมยองวอน) ที่บ้านเพื่อพูดอะไรบางอย่าง “คุณแม่รู้ไหมคะว่าทำไมลูกชายคนโตของคุณแม่ถึงได้ตายไปแบบนั้น ตอนที่คุณพ่อกำลังจะเลื่อนตำแหน่งให้เขาเป็นรองประธานแทนฮันซองฮเย … พี่ซองชาน (ลูกชายคนโต) ไปเป็นอาสาสมัครที่ศูนย์พักพิงสัตว์กับฮันซองฮเย และตายเพราะโรคหอบหืดกำเริบ หนูไปตรวจสอบมาว่า แชมพูอาบน้ำสุนัขที่ฮันซองฮเยบริจาค มีส่วนผสมของสารบางอย่างที่เป็นอันตรายถึงชีวิตกับคนเป็นโรคหอบหืด ถ้าวันนั้นเขามีเครื่องวัดลมหายใจในวันนั้นเขาก็อาจจะรอด แต่ช่างบังเอิญเหลือเกินว่าในวันนั้นมันเกิดหายไปพอดี คุณแม่ลองถามลูกชายคนเล็กดูสิคะว่ามันหายไปไหน เพราะเขารู้มาตลอด !?”
มีนาเล่าความลับที่ทำให้แม่สามีเจ็บปวดไปตลอดชีวิตที่เหลือ เธอต้องการให้แม่สามีจมอยู่กับความทุกข์ที่ได้รู้ว่า ลูกสาวของตัวเองฆ่าลูกชายคนโต โดยที่มีลูกชายคนเล็กเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
ในการประชุมผู้ถือหุ้นฉุกเฉินของกลุ่มบริษัทฮันจู เพื่อเลือกผู้บริหารคนใหม่ต่อจากซองฮเย และประธานฮันยองชิก ในเวลานั้นเองเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อหัวหน้าแม่บ้านคิมได้เข้ามาร่วมออกคะแนนเสียงด้วย และด้วยหุ้นของหัวหน้าแม่บ้านคิมทำให้ประธานคนใหม่ของฮันจูก็คือ ซึงอุค
ในเวลาเดียวกันนั้น ศาลได้ออกหมายจับซองฮเย ทำให้เธอเลือกที่จะหนี โดยใช้วิธีแกล้งฆ่าตัวตาย พร้อมกับจดหมายลาตายที่เขียนด้วยลายมือของตัวเอง ข่าวทางทีวีรายงานว่า ซองฮเยถูกพบเป็นศพอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำ ศพที่พบเน่าเปื่อยไปหมดแล้ว แต่เสื้อผ้าและเครื่องประดับได้รับการยืนยันว่าเป็นของเธอ
![ตอนจบ One the Woman EP.16](https://www.online-idol.com/wp-content/uploads/2021/09/wp-28984-one-the-woman-ep16-finale-spoiler-2.webp)
ซองฮเยพยายามปลอมตัวเพื่อหนีออกนอกประเทศ ยอนจูมาดักรออยู่แล้วที่สนามบิน ทำให้ทั้งสองเกิดการต่อสู้กัน แต่ด้วยสกิลระดับเทพของยอนจู ทำให้ซองฮเยโดนจับตัวได้อย่างง่ายดาย
คังมยองกุกได้รับการปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำ ความสัมพันธ์พ่อลูกกับยอนจูก็ดีขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ว่าที่จริงเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำไปที่คังมยองกุกได้รับการกอดด้วยความรักจากยอนจู มันทำให้เขาน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด
ในตอนท้าย ยอนจูตัดสินใจที่จะเดินทางไปอยู่กับซึงอุคที่ลอสแองเจลิส
หลังจากยอนจูสอบเนติบัณฑิตที่สหรัฐฯ จนผ่าน เธอกับซึงอุคก็เดินทางกลับเกาหลี ด้วยเหตุผลที่ว่า “ที่อเมริกาไม่มีจกแบงอี” และจะบินกลับทันทีหลังจากกินเสร็จ
ขณะที่อยู่ที่สนามบิน ยอนจูเหลือบไปเห็นหญิงสาวที่มีใบหน้าเหมือนเธอเดินผ่านไป แล้วกล้องก็ซูมเข้าไปที่ใบหน้าของยอนจู เพื่อให้เห็นรอยยิ้มแฝงเลศนัย เหมือนเป็นการบอกใบ้ว่าจะมีซีซั่น 2 …
จบบริบูรณ์
Photos: SBS Korea