Skip to content
รีแคปซีรีส์ The King's Affection EP.2 : องค์รัชทายาทผิวหิมะ

รีแคปซีรีส์ The King’s Affection EP.2 : องค์รัชทายาทผิวหิมะ

The King’s Affection EP.2 ไฮไลต์ :
🤴 ดัมอีได้รับการอบรมสั่งสอนการเป็นพระโอรสจากพระชายา ระหว่างนั้นดัมอีต้องยอมตัดขาดจากชายอันเป็นที่รักเพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริง
🤴 เวลาผ่านไปสิบปี จากพระโอรสดัมอีได้เลื่อนตำแหน่งเป็นองค์รัชทายาทอีฮวี … วันหนึ่งดัมอีออกไปล่าสัตว์ แต่เกิดเหตุบางอย่างที่นางต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกายอยู่บริเวณริมบึง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกัน จองจีอุนที่กำลังหาสมุนไพรในป่าได้เกิดมาเห็นดัมอีอยู่ในสภาพกึ่งเปลือย เขาจับจ้องอยู่นานจนดัมอีรู้ตัว นางจึงใช้มีดสั้นปาออกไปเฉียดจองจีอุนไปเพียงนิดเดียว

เมื่อพระโอรสตัวจริงถูกลอบสังหารโดยจองซอกโฮ ผู้ตรวจการแห่งสำนักตรวจการ ตามคำสั่งของท่านเสนาบดีซังฮอน เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นดัมอี ทำให้พระชายาต้องแก้ปัญหาโดยการให้ดัมอีสวมรอยเป็นพระโอรสต่อไป …

“นับแต่นี้ เจ้าคือพระโอรส ห้ามเอ่ยปากบอกความจริงเรื่องนี้ให้ใครรู้เป็นเด็ดขาด เจ้าต้องเก็บความลับนี้ไปจนวันตาย … หากเจ้าไม่ทำ ทุกคนที่อยู่ตรงนี้จะต้องตายทั้งหมด รวมถึงเจ้าแลัวก็ข้าด้วย” พระชายาเอ่ยปากกับดัมอีด้วยน้ำเสียงจริงจัง

แต่ทว่า ดัมอีก็ยังคงเป็นเพียงเด็กสาว ในคืนนั้น ดัมอีวิ่งออกจากตำหนักไป นางไม่ต้องการเป็นพระโอรส นางไม่ต้องการแบกรับสิ่งที่หนักอึ้งนี้ แต่แล้วดัมอีก็เปลี่ยนใจเมื่อได้เห็นศพของพระโอรสกำลังถูกพระชายาขนออกไปจากวังหลวง

ระหว่างนั้น จองจีอุน ได้แต่เฝ้ารอดัมอีตามที่ได้นัดหมายกันไว้ แต่ไม่ว่ารอนานแค่ไหนนางก็ไม่มา ต่อมาเขาจึงได้รู้จากเพื่อนนางกำนัลของนางว่า ดัมอีได้ออกจากวังหลวงไปแล้ว ทำให้เขารู้สึกผิดหวังยิ่งนัก

ดัมอีตอนนี้สวมรอยกลายเป็นพระโอรสโดยสมบูรณ์แล้ว พระชายาสั่งสอนกิจวัตรต่าง ๆ ของพระโอรส “จากนี้ไป ซังกุงคิมและขันทีฮงจะทำหน้าที่ดูแลเจ้า … กิจวัตรของเจ้าไม่มีอะไรมาก เมื่อตื่นเช้ามา ฝ่ายห้องสรงน้ำจะนำน้ำมาล้างหน้าให้เจ้า เข้ามาปรนนิบัติเจ้า เจ้าไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น จากนั้นในทุกเช้าเจ้าจะต้องไปยังตำหนักของพระราชาและราชินี เพื่อไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ จากนั้นก็มาที่ตำหนักดงกุงจอน (ตำหนักประจำตำแหน่งขององค์รัชทายาท) เพื่อมาทำเช่นเดิมต่อหน้าองค์รัชทายาทและพระชายา นั่นก็คือข้า”

วันหนึ่ง นางในเอายาบำรุงมาให้พระโอรสดื่ม แต่พระองค์เกิดทำถ้วยร่วงหล่นตกแตกบนพื้น นางในคนนั้นได้แต่ร้องกล่าวขอโทษพร้อมทั้งกล่าวสำนึกผิดออกมาไม่หยุด นางเก็บถ้วยที่แตกจนบาดมือเลือดไหล พระโอรสจึงตกใจรีบเข้าไปช่วยนาง พร้อมกับกล่าวขอโทษนางในที่พระองค์เป็นต้นเหตุทำให้นางบาดเจ็บ พร้อมทั้งพยายามเก็บกวาดถ้วยนั้นด้วยพระองค์เอง

ทันใดนั้นเอง พระชายาก็เข้ามาแล้วสั่งให้ทุกคนออกจากห้องไป ก่อนจะสั่งสอนดัมอีถึงสิ่งที่พระโอรสควรจะทำ …

“ต่อให้นางถูกถ้วยบาดจนนิ้วขาดเจ้าก็อย่าได้ใส่ใจ” พระชายาสั่งสอนดัมอี
“แต่นางบาดเจ็บเพราะหม่อมฉันทำถ้วยตก มันเป็นความผิดของหม่อมฉัน”
“ไม่ มันเป็นความผิดของนาง ฉะนั้น จงอย่าขอโทษเป็นเด็ดขาด เจ้าไม่จำเป็นแม้แต่นิดเดียวที่จะห่วงใยผู้อื่น เจ้าไม่ต้องสนใจว่าใครจะคิดอย่างไรกับเจ้า พระโอรสควรเป็นแบบนั้น เจ้าไม่จำเป็นต้องก้มหัวให้ใครหรือเกรงใจใครทั้งนั้น คนที่เจ้าจะก้มหัวให้มีเพียงแค่พระราชากับองค์รัชทายาทเท่านั้น เข้าใจหรือไม่”

แต่ดูเหมือนว่าดัมอีจะยังไม่เข้าใจอยู่ดี นางจึงพยายามอธิบายความ “หม่อมฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำเช่นนั้น หม่อมฉันทำผิดก็ควรขอโทษ นั่นจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสม แม้ในฐานะพระโอรสก็ตาม” พระชายาจึงต้องอธิบายเพิ่มเติมให้เด็กน้อยดัมอีเข้าใจ “คนพวกนั้นจะต้องเกรงกลัวเจ้า เจ้าจะต้องทำให้ตัวเองน่าเกรงขาม เจ้าต้องทำตัวให้เป็นเช่นนั้น ฉะนั้น จงอย่าให้ใครเข้าใกล้เจ้าเป็นเด็ดขาด ถ้าเจ้าอยากมีชีวิตรอด”

ในวันคล้ายวันประสูติของพระโอรส จองจีอุน บุตรชายของจองซอกโจ ผู้ตรวจการแห่งสำนักตรวจการขอเข้าเฝ้าพระโอรสเพื่อแสดงความยินดี “ข้าได้ยินเรื่องของพระโอรสจากเด็กหญิงคนหนึ่ง คำกล่าวของนางทำให้กระหม่อมอยากเข้าเฝ้าพระองค์สักครั้ง เด็กหญิงคนนั้นเล่าว่าพระโอรสทรงเป็นผู้มีเมตตาต่อราษฎร …”

เด็กหนุ่มจองจีอุนกำลังจะออกไป เสียงจากพระโอรสก็เอ่ยออกมา “เด็กคนนั้นที่เจ้าพูดถึงชื่อดัมอีใช่หรือไม่ ?”
“พระองค์รู้จักเด็กคนนั้นด้วยหรือ ?”
“นางฝากข้ามาบอกเจ้าว่า เจ้าจงเก็บสิ่งนี้ไว้ มันจะเป็นที่พึ่งทางใจให้เจ้ายามยาก เหมือนกับที่มันเคยเป็นที่พึ่งทางใจให้กับนางเช่นกัน”
“พระองค์ทรงทราบหรือไม่ว่านางอยู่ที่ไหน ?”
“ข้าไม่รู้” ดัมอีในฐานะพระโอรสพยายามกลั้นเสียงสะอื้น อันเกิดจากน้ำตาที่หลั่งไหลออกมา

สิ่งที่ดัมอีได้มอบให้กับจองจีอุน มันคือของเล่นของเด็กสามัญชนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ลูกเต๋าทำนายชะตา” ในแต่ละด้านของลูกเต๋าที่ทำจากไม้จะมีการแกะสลักคำต่าง ๆ เอาไว้เช่น ใช่ ไม่ใช่ รอ ไม่ต้องรอ เป็นต้น

ไม่นานหลังจากนั้น พระชายาก็จากไปด้วยโรคร้ายชนิดหนึ่ง ก่อนลาจากโลกนี้ไปพระชายาได้พูดกับดัมอีเป็นการส่วนตัว “เจ้าโชคร้ายเหลือเกินที่เกิดมามีแม่อย่างข้า แม้เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่กับความเจ็บปวดต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่ข้าก็เชื่อว่าเจ้าจะสามารถฝ่าฟันทุกอย่างไปได้”

เวลาล่วงผ่านไปนานหลายปี …

ดัมอีโตเป็นสาวแล้ว จากที่เคยเป็นพระโอรส บัดนี้ได้ขึ้นเป็นองค์รัชทายาท องค์รัชทายาทที่งามสง่า มีผิวละเอียดเนียนนวลไม่ต่างไปจากผิวของอิสตรีเลยแม้แต่นิดเดียว จึงทำให้พระองค์ถูกค่อนขอดไม่น้อยว่า พระองค์เป็นองค์รัชทายาทที่หาได้ซึ่งความเป็นชายชาตรีไม่ แต่ทว่า คำสั่งสอนของท่านแม่ก่อนที่ท่านจะจากไป ได้ทำให้พระองค์มีบุคลิกซึ่งความแข็งกร้าวและเย่อหยิ่งยิ่งนัก ท่าทางที่แสดงออกไปภายนอกแสดงออกเพื่อให้ผู้อื่นยำเกรง

“คนพวกนั้นจะต้องเกรงกลัวเจ้า เจ้าจะต้องทำให้ตัวเองน่าเกรงขาม เจ้าต้องทำตัวให้เป็นเช่นนั้น ฉะนั้น จงอย่าให้ใครเข้าใกล้เจ้าเป็นเด็ดขาด ถ้าเจ้าอยากมีชีวิตรอด” คำนี้ ดัมอีจำมันได้เป็นอย่างดีกระทั่งวันนี้

วันนี้เป็นวันที่องค์รัชทายาทต้องออกไปล่าสัตว์ ระหว่างที่ล่าสัตว์อยู่นั้น เกิดเหตุการณ์ที่พระองค์ต้องไปแอบที่ริมบึง เปลี่ยนเครื่องแต่งกายบางอย่างเพื่อปกปิดความเป็นหญิง ในขณะเดียวกันนั้นเอง จองจีอุน ที่เข้ามาหาสมุนไพรในป่า เกิดมาเห็นดัมอีอยู่ในสภาพกึ่งเปลือยอยู่ที่ริมบึง เขาจึงจับจ้องมองอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาครู่ใหญ่

และเมื่อดัมอีรู้ว่ามีคนแอบมอง ฤทธิ์มีดสั้นจึงออกจากมือพุ่งทะยานด้วยความเร็วสูงไปปักเข้าที่ต้นไม้ ห่างไปจากหัวของจองจีอุนไปเพียงแค่เส้นยาแดงผ่าแปด … จองจีอุนได้แต่ตกตะลึงนิ่งอึ้งไม่ไหวติงอยู่อย่างนั้น

Photos: ภาพหน้าจอจาก KBS2 Korea