สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Happiness (2021)

Happiness (2021) สปอยล์ : ในภาวะที่โรคระบาดอันแปลกประหลาดกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องอยู่กับมันให้ได้ ความเหลื่อมล้ำของชนชั้นก็ผุดขึ้นมา …

EP.1 โรคติดต่อแปลกประหลาด

หน่วยกู้ภัยและรถพยาบาลต่างรีบเร่งมายังที่เกิดเหตุ หลังจากได้รับแจ้งว่ามีชายวัยรุ่นคนหนึ่งนั่งห้อยขาอยู่บนชั้นดาดฟ้าของตึก ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้ามาเกลี้ยกล่อมเขาให้เลิกคิดสั้น ทันใดนั้นเอง เด็กสาววัยมัธยมปลายเดินเข้ามาเพื่อช่วยเจรจา เธอเดินเข้าไปนั่งห้อยขาคู่กับเขา แล้วก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงชิล ๆ …

“เสียใจที่เล่นเบสบอลไม่ได้เหรอ ?”

“ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันก็แค่มานั่งสูดอากาศ จู่ ๆ รถตำรวจกับรถพยาบาลก็กรูกันเข้ามา ไม่รู้ว่าไอ้ตัวไหนมันโทร. ไปแจ้ง ฉันก็แค่รอดูว่าพวกเขาจะเล่นใหญ่กันไปถึงไหน เพราะฉันก็ไม่มีอะไรทำด้วยแหละ”

หลังเรื่องราวคลี่คลายผ่านไป เด็กหนุ่มคนนั้นก็ถามเด็กหญิงว่า “เรามาเป็นแฟนกันมั้ย ?” แต่คำตอบที่ได้ก็คือ “ไม่”

จองอีฮยอน (รับบทโดย พัคฮยองชิก) และยุนแซบม (รับบทโดย ฮันฮโยจู) เป็นเพื่อนตั้งแต่มัธยมปลาย และสถานะของทั้งสองก็เป็นอยู่แค่นั้นจริง ๆ

12 ปีผ่านไป …

แซบมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่ฝันอยากมีอพาร์ตเมนต์เป็นของตัวเองมาตลอด ยิ่งเมื่อทางรัฐบาลมีโครงการอพาร์ตเมนต์สำหรับเจ้าหน้าที่ที่มีครอบครัวแล้ว ยิ่งทำให้เธอเริ่มคิดว่าฝันของเธอใกล้เป็นจริงมากขึ้น ติดอยู่เพียงอย่างเดียวคือเธอยังไม่มีครอบครัว ว่าที่จริงเธอยังไม่มีแฟนด้วยซ้ำไป

ส่วนอีฮยอนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอาชญากรรม

อีฮยอนไปถึงที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรมที่อพาร์ตเมนท์แห่งหนึ่ง เขาได้พบการฆาตกรรมอันพิสดาร เหยื่อถูกกัดคอจนเสียชีวิต และผู้ต้องหาไม่มีอาวุธสังหาร เป็นเพียงแต่ใช้ปากและฟันของเขาในการสังหาร ! อย่างไรก็ตาม อีฮยอนสันนิษฐานเบื้องต้นว่าผู้ต้องหามีอาการหลอนจากการเสพยา

เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาระหว่างการสอบสวน แต่ระหว่างนั้นเองเรื่องราวอันน่าตกตะลึงก็เกิดขึ้น ผู้ต้องหาเกิดอาการคลุ้มคลั่งคล้ายอาการของซอมบี้เข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ชื่ออีจงแท

แซบมเข้ามาเผชิญเหตุ ตอนนี้อีจงแทกลายเป็นติดเชื้อคลุ้มคลั่งวิ่งเข้าหาแซบม เธอจึงปฏิบัติขั้นตอนที่ฝึกมา โดยเริ่มจากใช้ปืนกึ่งอัตโนมัติยิงที่ขาสองนัดเพื่อหยุดการเคลื่อนที่ แต่ดูเหมือนว่าลูกกระสุนไม่สามารถทำอะไรอีจงแทได้เลย ทำให้เธอโดนข่วนทำให้บริเวณหลังมือของเธอเป็นแผลรอยยาว ก่อนที่จะหนีออกมาจากห้องและล็อกประตูขังอีจงแทเอาไว้

แซบมโทร. ไปหาอีฮยอนด้วยความโกรธ เพราะอีฮยอนไม่แจ้งเตือนก่อนว่าผู้ต้องหามีอาการคลุ้มคลั่งไม่ต่างกับสัตว์ร้าย ด้านอีฮยอนเองก็มึนงง เพราะตอนเขาเข้าจับกุม ผู้ต้องหาคนนั้นไม่มีท่าทีที่จะเป็นอันตรายเลยแม้แต่นิดเดียว

ต่อมา แซบมถูกเจ้าหน้าที่ทหารเชิญตัวไปเข้าศูนย์ควบคุม ซึ่งต่อมาพันโทฮันแทซอก จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ ได้แจ้งกับแซบมว่าเธอมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคติดต่อชนิดหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์พิเศษที่ส่งผลต่อระบบสมองอย่างร้ายแรง

ทีนี้เรื่องราวมันยิ่งไปกันใหญ่ เมื่อผลการตรวจร่างกายของผู้ต้องหาออกมาปรากฏว่าไม่พบสารเสพติด อีฮยอนจึงกลับไปตามสืบหาสาเหตุ และทำให้เขาได้รู้ว่าผู้ต้องหาได้ใช้ยารักษาอาการปอดอักเสบผ่านช่องปาก ซึ่งผลิตพร้อมกับยาต้านไวรัสที่มีการวิจัยในช่วงเกิดโรคระบาดโคโรนา โดยมีผลข้างเคียงทำให้เกิดประสาทหลอน

หอพักมหาวิทยาลัยวอนจุงในตอนนี้ถูกแปลงให้เป็นสถานที่กักกันสำหรับผู้ติดเชื้อ แซบมอาศัยอยู่ที่นี่จนกว่าจะมีผลการตรวจเชื้อออกมา ระหว่างนั้นเองที่เธอได้เห็นผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่ถูกกักกันอยู่ที่นั่น มีอาการคลุ้มคลั่งไม่แตกต่างจากอาการของอีจงแท

สิ่งที่น่าแปลกก็คือ แซบมไม่ติดเชื้อเหมือนคนอื่น ๆ จึงมีการพาตัวเธอไปตรวจหาเชื้ออีกรอบ จากนั้นพันโทฮันแทซอกจึงได้แจ้งกับแซบมว่าผลตรวจของเธอเป็นลบ ซึ่งคาดว่าตัวเธอจะมีภูมิต้านทาน เขาจึงขอให้เธอมาเจาะเลือดทุกสองสัปดาห์

เมื่อออกมาจากห้องตรวจ แซบมได้เจอกับอีฮยอน ในตอนนั้นเองเธอจึงขอเขาแต่งงาน เพื่อเข้าเงื่อนไขของผู้มีสิทธิ์ได้อพาร์ตเมนต์

EP.2 เริ่มต้นใช้ชีวิตด้วยกัน

จำนวนคนตายจากโรคติดต่อแปลกประหลาดเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากยาแก้อาการปอดอักเสบที่มีชื่อว่า NEXT ซึ่งเป็นยาที่ได้รับบริจาคมา ทำให้ยังไม่ได้มีการตรวจสอบผลข้างเคียง

แซบมและอีฮยอนย้ายเข้าไปอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ใหม่ในฐานะคู่แต่งงาน ห้องของพวกเขาอยู่ที่ชั้นห้าซึ่งเป็นโซนของผู้เช่าสาธารณะ ตั้งแต่ชั้นหกขึ้นไปคือโซนของคนมีฐานะที่ซื้อไว้เป็นกรรมสิทธิ์ … คือซีรีส์พยายามแสดงให้เห็นถึงชนชั้น และพยายามแสดงให้เห็นว่า คนที่อยู่ชั้นบนมีลักษณะนิสัยที่ผิดศีลธรรม อีกทั้งยังมีความรู้สึกเหยียดคนที่อยู่ชั้นล่าง

อีซึงยอง เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษเพื่อนร่วมงานของแซบม เกิดความโลภอยากได้เงินก้อนโต เขาจึงวางแผนที่จะเข้าไปในศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ เพื่อหาข้อมูลและถ่ายคลิปวิดีโอเอาไปขายให้กับนักข่าว

อีซึงยองใช้เศษแก้วกรีดข้อมือตัวเอง เพื่อให้เกิดแผลที่มีลักษณะใกล้เคียงกับแผลที่โดนข่วนจากผู้ติดเชื้อ จากนั้นเขาก็ติดต่อแซบมเพื่อขอความช่วยเหลือ

แซบมพาซึงยองไปที่ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อในทันที ซึ่งที่นั่นเจ้าหน้าที่ทหารหญิงอีจีซูได้ทำแผลให้ จากนั้นแซบมจึงขอคุยกับจีซูเป็นการส่วนตัวเรื่องการรักษาผู้ติดเชื้อ “ผู้ติดเชื้ออาการจะค่อย ๆ แย่ลงจนอยู่ในสภาวะรู้สึกตัวน้อยลงเรื่อย ๆ ตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะออกไล่ล่าตอนไหน เราเลยต้องห้ามเยี่ยมผู้ติดเชื้อโดยเด็ดขาด ส่วนวิธีการรักษาตอนนี้ก็ยังไม่มี ถ้าอาการแย่ลง พวกเขาจะกระหายน้ำตลอดเวลา แค่เห็นคนก็จะขาดสติและเข้าจู่โจม สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คอืการชะลอกระบวนการให้ไปถึงขั้นนั้นให้ช้าที่สุด”

เมื่อแซบมกับซูจีกลับมาก็ไม่เห็นอีซึงยองแล้ว เขาแอบเข้าไปภายในรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ ซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นตู้แช่เย็นเพื่อใช้ในการกักกันผู้ติดเชื้อ อีซึงยองพยายามถ่ายคลิปภายในตู้คอนเทนเนอร์ ผู้ติดเชื้อเหล่านั้นแสดงท่าทางไม่ต่างไปจากซอมบี้

แซบมโทร. หาอีซึงยอง คำแรกที่เขาเปล่งออกมาก็คือ “พวกมันไม่ใช่คน !!!”

จีซูสั่งให้พลทหารเปิดประตูตู้คอนเทนเนอร์ แต่ปรากฏว่าพวกมนุษย์ซอมบี้เหล่านั้นพยายามจะออกมา ทำให้ทหารต้องรีบปิดตู้คอนเทนเนอร์กลับไป แต่ก่อนที่ประตูจะถูกปิด แซบมได้เห็นหน้าของอีซึงยองพยายามแหวกออกมาเพื่อเอาชีวิตรอด …

EP.3 ล็อกดาวน์

แซบมวิ่งฝ่ากลุ่มทหารเข้าไปเปิดตู้คอนเทนเนอร์ จากนั้นก็ใช้พละกำลังของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผลักเหล่าผู้ติดเชื้อให้ถอยห่างออกไปอย่างง่ายดาย เวลานั้นเอง อีซึงยองก็รีบวิ่งออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์ได้อย่างปลอดภัย

ทีนี้ แซบมก็มาต่อว่าจีซูที่สั่งให้กักกันผู้ติดเชื้อเอาไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ คือประมาณว่าจะเรียกร้องสิทธิมนุษยชนอะไรแบบนั้น เพราะแซบมยังมองว่าผู้ติดเชื้อเหล่านั้นยังเป็นมนุษย์ ตรงกันข้ามกับทางการที่มองในเรื่องความปลอดภัย และด้านการบริหารการจัดการตามความเป็นจริง แถมทิ้งท้าย แซบมยังข่มขู่ด้วยว่าจะเอาเรื่องนี้ไปแฉออกสื่อ

แซบมกลับมาที่ห้องพัก แต่ก็ต้องรำคาญกับเสียงห้องด้านบน 601 ที่ส่งเสียงปึงปังไม่หยุด เธอจึงบุกเข้าไปจะเอาเรื่อง แซบมบุกเข้าไปถึงห้องน้ำ สิ่งที่พบทำเอาเธอถึงกับผงะ ภรรยาของเจ้าของห้องที่ตอนนี้มีสภาพไม่ต่างกับซอมบี้โดนขังเอาไว้อยู่ในนั้น แต่ด้วยความที่เธอมองว่าซอมบี้หรือผู้ติดเชื้อพวกนี้ยังเป็นมนุษย์ เธอจึงเลือกที่จะปล่อยภรรยาของเจ้าของห้องออกมาเฉยเลย

ที่นี้ ทั้งตึกก็วิ่งหนีซอมบี้กันเป็นการใหญ่ แต่สุดท้ายจีฮยอนก็มาจัดการภรรยาเจ้าของห้อง 601 ได้สำเร็จ จากนั้นก็ส่งไปกักกันตัวที่ศูนย์กักกันโรคติดต่อของทหาร ที่นั่นเอง จีฮยอนได้พบว่า จริง ๆ แล้วภรรยาเจ้าของห้อง 601 ถูกฆาตกรรมก่อนที่จะกลายเป็นซอมบี้ โดยถูกไม้กอล์ฟตีที่หัวจนสมองเละ

จีฮยอนจึงเดินทางไปจับกุมตัวเจ้าของห้อง 601 ในข้อหาฆาตกรรมภรรยาตัวเอง

ระหว่างนั้นเอง พันโทฮันแทซอกก็ได้ไปสืบหาข้อมูลจากพ่อค้ายา NEXT จนได้รู้ว่า สถานที่ปล่อยยาก็คืออพาร์ตเมนต์ที่แซบมอาศัยอยู่ ทำให้คนที่อาศัยอยู่ในตึกนี้มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อทั้งหมด ทางแก้เดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือ “ล็อกดาวน์” ห้ามไม่ให้คนที่อาศัยอยู่ภายในตึกออกไปข้างนอก

ฮันแทซอกเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้แซบมฟังโดยละเอียด “โรคคนบ้ากำลังแพร่ระบากในอพาร์ตเมนต์ ปัญหาก็คือเราไม่สามารถจัดการกับผู้ติดเชื้อเหล่านั้นได้ เพราะตอนนี้ยังไม่มีวัคซีนหรือวิธีรักษาใด ๆ เลย จะเอาไปกักตัวก็มีปริมาณเยอะเกินไป ทางออกเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือล็อกดาวน์อพาร์ตเมนต์”

อย่างไรก็ตาม แซบมยอมถูกกักตัวอยู่ด้านในกับคนอื่น ๆ เพราะเธออยากปกป้องคนอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ที่เดียวกับเธอ ระหว่างที่เธอกำลังเดินกลับห้อง เธอได้บังเอิญเจอกับจีฮยอนที่กำลังควบคุมตัวเจ้าของห้อง 601 เพื่อไปที่สถานีตำรวจ

เมื่อแซบมได้เห็นจีฮยอน เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดเขาด้วยความดีใจที่เขาอยู่ที่นี่ เพราะเธอจะได้ไม่ต้องอยู่ที่นี่เพียงลำพัง

EP.4 อาหารมื้อสุดท้าย

มีคนที่อาศัยในอพาร์ตเมนต์จำนวนหนึ่งที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองถูกทางการล็อกดาวน์ พวกเขาจึงขับรถออกไปจากลานจอดรถโดยที่ไม่รู้ว่า ประตูลานจอดรถถูกปิดเอาไว้ จึงเกิดการชุลมุนขึ้นเล็กน้อย

สาวน้อยซอยุนอยู่ในอพาร์ตเมนต์ ส่วนแม่ของเธออยู่ด้านนอกไม่สามารถเข้ามาได้ เธอจึงโทร. หาแซบมเพื่อฝากฝังให้ช่วยดูแลซอยุน

ระหว่างนั้น ทางการได้วิดีโอคอลมาแจ้งให้กับคนที่ถูกกักตัวอยู่ภายในอพาร์ตเมนต์ว่า ตามแผนจะมีการล็อกดาวน์ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ส่วนเรื่องอาหารและค่าชดเชยต่าง ๆ ทางการจะเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด

ที่นี้แซบมกับจีฮยอนก็ลงไปที่ยิม ซึ่งเป็นแหล่งต้นตอของการปล่อยยา NEXT จากนั้นเขาก็ได้พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ “โรคคนบ้า” ทั้งสองจึงกักตัวเขาไว้ให้อยู่แต่ภายในยิม

ตัดภาพมาที่พันโทฮันแทซอก เขาได้ไปพบกับคนที่เรียกว่าท่านประธาน ที่ตอนนี้ถูกกักตัวอยู่ที่ห้องกักตัวพิเศษของทหาร โดยมีโซ่ล่ามเอาไว้ จากบทสนทนาทำให้เราได้รู้ว่า คนที่ปล่อยยา NEXT ออกจากห้องทดลองนั่นก็คือ “ท่านประธาน” ด้วยเหตุผลที่ว่าต้องการให้มีการระบาดเป็นวงกว้าง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้มีการพัฒนายาที่นำมาใช้รักษาเร็วขึ้น นั่นหมายความว่าท่านประธานเป็นคนติดเชื้อโรคคนบ้ารายแรก ๆ ของโลก !

ข่าวทีวีรายงานการติดเชื้อโรคคนบ้ากระจายออกไปในหลายประเทศทั่วโลก ส่วนในเกาหลีเองก็มีการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว

ในวันนั้นเอง แซบมรับอาหารมาจากจีซูเพื่อไปแจกจ่ายให้กับคนอื่น ๆ หลังแจกอาหารเสร็จ แซบมก็ไปกินอาหารกับจีฮยอนบนดาดฟ้าของตึกอย่างเอร็ดอร่อย หลังจากอิ่มท้อง ภาพที่แซบมองออกไปจากดาดฟ้ากลับกลายเป็นความโกลาหล ซอมบี้วิ่งไล่ผู้คนจนเลือดสาดไปทั่วทั้งพื้นที่ และเมื่อแซบทวิ่งลงไปดูที่ยิม ก็พบว่าชายที่ถูกเธอกักตัวเอาไว้ได้หนีออกไปแล้ว !

บนดาดฟ้า ชายหนุ่มท่าทางแปลกประหลาดเฝ้ามองดูผู้คนถูกซอมบี้ไล่ฆ่าด้วยท่าทางนิ่งเฉย เขามองหายหายนะที่เกิดขึ้นเบื้องล่างอยู่อย่างนั้น โดยไม่ได้ตกใจแม้แต่นิดเดียว

ไม่จบ

Source: tvN Korea