Skip to content
รีแคปซีรีส์ The King's Affection EP.11 : คำสารภาพ

รีแคปซีรีส์ The King’s Affection EP.11 : คำสารภาพ

The King’s Affection EP.11 : องค์รัชทายาทอีฮวีบังคับให้องค์ชายชางอุนคุกเข่าต่อหน้าหลุมศพทาสสาว เป็นที่มาของการยื่นฎีกาให้ปลดพระองค์ออกจากตำแหน่ง ในขณะที่องค์ชายอีฮยอนเผยความลับที่เก็บงำเอาไว้มานานกว่า 14 ปี …

จึอุนยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นอาจารย์หลวงให้กับองค์รัชทายาทอีฮวี แล้วเดินจากไปด้วยรอยยิ้ม ทิ้งให้องค์รัชทายาทยื่นนิ่งด้วยน้ำตาคลอเบ้าอยู่อย่างนั้น

จีอุนกลับมาใช้ชีวิตเป็นหมอช่วยเหลือรักษาชาวบ้านตามเดิม หากแม้ภายนอกของเขาจะดูสบายใจ แต่ภายในของเขานั้นต่างออกไปเหมือนคนละโลก เขามิอาจลบความคิดถึงและความรักที่มีให้ต่อองค์รัชทายาทได้เลยแม้แต่นิดเดียว ในอีกด้านหนึ่ง องค์รัชทายาทเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน พระองค์ได้แต่คิดถึงช่วงเวลาที่จีอุนอยู่เคียงข้างพระองค์ เมื่อคิดถึงขึ้นมาเมื่อไรน้ำตาก็เอ่อล้นออกมาทุกที

มือสังหารแอบลอบยิงธนูหวังสังหารท่านเสนาบดีซังฮอน แต่จางซอกโจได้เข้าสกัดลูกธนูนั้นเองไว้ได้ทัน จากนั้นจากซอกโจก็ไล่ล่าและลงดาบจนมือสังหารปริศนาบาดเจ็บ แต่ทันใดนั้นเอง หัวหน้าราชองครักษ์ขององค์ราชาก็เข้ามาขัดขวางจากซอกโจ จนทำให้มือสังหารหนีรอดไปได้

ว่าที่จริงแล้ว มือสังหารคนนั้นคือคิมกาอน และผู้ที่สั่งให้เขาไปสังหารท่านเสนาบดีซังฮอนก็คือองค์ราชา !

ระหว่างนั้นเอง ท่านอา (องค์ชายชางอุน) คู่ปรับขององค์รัชทายาทเกิดไปสังหารสาวรับใช้ผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง ทำให้พระองค์ไม่พอพระทัยเป็นอย่างมาก จึงจับตัวท่านอาของพระองค์ไปลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง เพราะพระองค์ถือว่า แม้หญิงสาวคนนั้นจะเป็นเพียงทาสแต่ก็เป็นราษฎรที่ต้องดูแล ไม่อาจให้เชื้อพระวงศ์ใช้อภิสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมายได้

ท่านอาขององค์รัชทายาทคุกเข่าอ้อนวอนขอชีวิต เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นพระองค์จึงเอ่ยเงื่อนไขออกไป “ถ้าอยากให้ข้าไว้ชีวิต ก็จงไปเยี่ยมหลุมฝังศพของนางแล้วคุกเข่าคำนับขออภัยซะ เมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าจะไว้ชีวิตท่านแล้วส่งท่านขึ้นศาลเพื่อไต่สวนความผิด”

องค์ราชาและพระพันปีโกรธเป็นอย่างมากที่องค์รัชทายาทสั่งให้เชื้อพระวงศ์ไปคุกเข่าเคารพศพสาวรับใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่หมิ่นเกียรติเป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนองค์รัชทายาทจะทรงยืนกรานว่าสิ่งที่พระองค์ทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

ไม่เพียงเท่านั้น ท่านเสนาบดีซังฮอนก็ไม่พอใจเช่นกัน “พระองค์ต้องการเป็นกษัตริย์ที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาหรือพ่ะย่ะค่ะ แต่พระองค์ไม่ทรงคิดบ้างหรือว่า สิ่งที่พระองค์ทำลงไปมันจะเป็นการกระตุกความรู้สึกของเชื้อพระวงศ์และเหล่าขุนนางชั้นสูง และมันไปทำลายขนบเดิม อย่างน้อยผู้ที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นองค์ราชาก็ไม่ควรทำลายขนบนั้น เพื่อแลกกับชีวิตอันต่ำต้อยเพียงชีวิตเดียว … กระหม่อมกำลังบอกว่าพระองค์ทำผิด ที่ไปยุ่งเกี่ยวกับการตายของสตรีชั้นนั้นนางนั้น”

องค์รัชทายาทฟังคำตำหนิของท่านตาด้วยมือที่กำหมัดแน่น “โลกนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ และไม่มีชีวิตใดที่สมควรตายอย่างไม่มีเหตุผล ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์พรากชีวิตผู้อื่นตามอำเภอใจทั้งนั้น !”

องค์ชายชางอุนตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเอง เพราะฝืนความอัปยศที่องค์รัชทายาทได้กระทำกับเขาไม่ไหว ชนชั้นขุนนางต้องคุกเข่าต่อหน้าหลุมศพของนางทาส

จดหมายลาตายขององค์ชายชางอุนตกไปอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม ทำให้เรื่องราวบานปลายกลายเป็นปัญหาการเมืองใหญ่โต ต่อมามีการประกาศจากลัทธิขงจื๊อเรียกร้องให้ถอดยศองค์รัชทายาท ที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความปั่นป่วน เนื่องจากฝ่าฝืนกฎของชนชั้นปกครอง

เรื่องราวลุกลามใหญ่โตเข้าไปอีก เมื่อท่านเสนาบดีซังฮอนเสนอให้องค์ราชาจัดการกับพวกที่มายื่นฎีกาให้ปลดองค์รัชทายาท แต่องค์ราชาทรงไม่เห็นด้วยและขอตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยพระองค์เอง

องค์ชายอีฮยอนเดินทางมาเข้าพบองค์รัชทายาทเพื่อสารภาพเรื่องราวบางอย่าง ความจริงที่เขาเก็บไว้มาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 14 ปี “สายตาของพระโอรสที่เป็นน้องของกระหม่อม กระหม่อมรู้จักและจดจำมันได้เป็นอย่างดี แม้จะมีใบหน้าที่เหมือนกันแต่พระองค์ไม่ใช่พระโอรสอย่างแน่นอน … กระหม่อมอยากปกป้องพระองค์พ่ะย่ะค่ะ แม้พระองค์จะไม่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง แต่ทว่าพระองค์จะปิดบังเรือนร่างความเป็นสตรีเอาไว้ได้อย่างไร ถ้าความลับนี้ถูกเปิดเผย พระองค์ก็รู้ว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นอย่างไร”

องค์ชายอีฮยอนเสนอตัวเป็นคนพาองค์รัชทายาทหนีไปจากวังหลวง หนีไปให้ไกลแสนไกลจากที่นี่ และได้มอบรองเท้าสตรีไว้เป็นของขวัญ

คืนนั้นเอง องค์รัชทายาทได้แต่คิดทบทวนถึงอนาคต พระองค์ปล่อยผมยาวสลวยของตัวเองและมองตัวเองผ่านกระจก จากนั้นก็หยิบเอารองเท้าสตรีสีแดงคู่นั้นมาสวมใส่ เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปีที่พระองค์ได้ใส่รองเท้าของสตรี พระองค์เดินไปเดินมาทั่วห้อง โดยที่ไม่รู้เลยว่า มีสายตาขององค์ราชาจับจ้องอยู่ !!!

Photos: ภาพหน้าจอจาก KBS2 Korea