Snowdrop (2021) สปอยล์ : ความรักของนักศึกษาสาวกับหนุ่มนักเรียนนอก ท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่คุกรุ่นไปด้วยการเรียกร้องประชาธิปไตยในปี 1987
คะแนน 6/10 เรตติ้งเฉลี่ย 2.7 %
สนุกไหม ? ว่าด้วยเรื่องราวความรักของนักศึกษาสาวชาวเกาหลีใต้ กับสายลับหนุ่มชาวเกาหลีเหนือ ที่มีฉากหลังเป็นโศกนาฏกรรมทางการเมืองครั้งยิ่งใหญ่เมื่อปี 1987 … ดูสิ รออะไร !
EP.1 นัดบอดกลุ่ม
เกาหลีใต้ ปี 1987 ปีที่นักศึกษาต่างพากันเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่รู้จักกันในทางประวัติศาสตร์การเมืองว่า “มิถุนาทมิฬ” …
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่หอพักนักศึกษาหญิงมหาวิทยาลัยสตรีโฮซู ห้อง 207 ที่มี อึนยองโร (รับบทโดย จีซู BLACKPINK) อาศัยอยู่กับเพื่อน ๆ รูมเมตอีก 3 คน
ยองโรก็ใช้ชีวิตนักศึกษาเหมือนวัยรุ่นสาวทั่วไป ที่นอกจากการเรียนแล้ว สิ่งที่เป็นสีสันในชีวิตก็คือการได้ออกเดตกับหนุ่ม ๆ ซึ่งทางเดียวที่จะสามารถติดต่อกับคนภายนอกได้ก็คือ ทางโทรศัพท์ของหอพัก ที่มีคเยบนอ๊ก (รับบทโดย คิมฮเยยุน) เป็นโอเปอเรเตอร์ ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ยองโรกับบนอ๊กสนิทกัน
วันหนึ่ง ระหว่างที่ยองโรนั่งเม้าท์มอยอยู่กับบนอ๊กที่ห้องโทรศัพท์ของหอพัก เธอได้รับโทรศัพท์จากนักศึกษาหนุ่มคนหนึ่ง ที่ต้องการขอนัดบอดกลุ่มกับยองโรและเพื่อน ๆ อีก 3 คนที่พักในห้อง 207 ซึ่งยองโรก็ตอบตกลงไปในทันที แต่หนึ่งในรูมเมตของยองโรปฏิเสธ บนอ๊กจึงขอไปแทน แน่นอนว่ายองโรไม่ปฏิเสธ
ณ ร้านกาแฟหน้ามหาวิทยาลัยสตรีโฮซู ยองโรและเพื่อน ๆ มาตามนัด เธอได้เจอกับหนุ่ม ๆ แต่จะเป็นเพราะโชคชะตาหรือบุพเพสันนิวาสก็ไม่ทราบได้ ทำให้ยองโรสปาร์กเข้ากับอิมซูโฮ (รับบทโดย จองแฮอิน) นักศึกษาวัย 27 ปี ที่เดินทางมาจากมหาวิทยาลัยเบอร์ลิน (เยอรมนี) เพื่อทำวิทยานิพนธ์ มันกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความรู้สึกที่ยองโรมีให้กับซูโฮ
วันนั้น ซูโฮเห็นยองโรชื่นชอบเพลง “One Way Ticket” ของอีรัปชั่น แต่มีเงินไม่พอ เขาจึงซื้อเทปอัลบั้มนี้ให้ แต่ด้วยความที่ยองโรไม่ต้องการเป็นหนี้ เธอจึงนัดเขาที่ร้านกาแฟที่เดิมเพื่อจะคืนเงินให้ แต่เขาก็ไม่มาตามนัด
ตัดภาพไปที่เหตุการณ์ทางการเมืองที่คุกรุ่น นักศึกษารวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้งด้วยความยุติธรรม ตามแนวทางประชาธิปไตยอันหอมหวน ทำให้ฝ่ายรัฐบาลวางแผนลักพาตัวศาสตราจารย์ฮันอีซอบ ผู้สนับสนุนคนสำคัญของพรรคฝ่ายค้าน เพื่อสร้างข่าวว่า พรรคฝ่ายค้านได้รับเงินสนับสนุนในการเลือกตั้งจากเกาหลีเหนือ
อีกด้านหนึ่ง หน่วยงานเพื่อการวางแผนด้านความมั่นคงแห่งชาติภาคสนาม ที่นำโดยสายลับระดับตำนาน อีคังมู (รับบทโดย จางซึงโจ) เจ้าของฉายาเสือดำ ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากเยอรมนี และสายลับสาวคนแรกของเกาหลีใต้ จางฮันนา (รับบทโดย จองยูจิน) เจ้าของฉายาหนึ่งพิฆาตร้อย กำลังออกตามล่าสายลับเกาหลีเหนือคนหนึ่ง ที่เดินทางจากเยอรมนีเข้ามาปฏิบัติการบางอย่างที่กรุงโซล
ในที่สุด ฮันนาก็ตรวจสอบจนได้พบว่า สายลับเกาหลีเหนือที่กำลังตามหาคือซูโฮ และคังมูก็เชื่อว่าเป็นไปได้สูงที่จะเป็นซูโฮ เพราะเมื่อเช็กกลับไปที่มหาวิทยาลัยเบอร์ลิน กลับไม่มีประวัติเขาเป็นนักศึกษาอยู่ที่นั่น
คืนหนึ่ง รถของศาสตราจารย์ฮันอีซอบเกิดยางแบน ซูโฮกับเพื่อนก็ขับรถมาจอดเพื่อช่วย จากนั้นซูโฮก็เสนอว่าจะไปส่ง
ระหว่างที่รถของซูโฮขับผ่านสี่แยกนั้นเอง เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น รถยนต์อีกคันขับพุ่งชนรถของซูโฮเข้ากลางลำ ศาสตราจารย์ฮันอีซอบหัวกระแทกกระจกเลือดสาด ซูโฮรับตะโกนให้ “สหาย” ของเขารีบหนีไป ส่วนตัวเขาก็รีบวิ่งหนีไปจากจุดเกิดอุบัติเหตุเช่นกัน
จังหวะเดียวกันนั้น คังมู ฮันนา และเจ้าหน้าที่อีกหลายคนก็รีบวิ่งไล่ตามซูโฮ ที่กำลังวิ่งหนีการไล่ล่าอย่างไม่คิดชีวิต คังมูตัดสินใจเหนี่ยวไกปืนกึ่งอัตโนมัติในมือไปหลายนัด แต่ระยะมันไกลเกินกว่าจะหวังผลได้
ซูโฮหนีกระเสือกกระสนเลือดสาดไปยังหอพักมหาวิทยาลัยสตรีโฮซู เขาปีนขึ้นไปชั้นสองของหอพัก ที่ห้อง 207 ห้องของยองโร และไปนอนกองหมดสติบนพื้นห้องอยู่อย่างนั้น
คังมูตามไล่ล่าซูโฮจากคราบเลือดจนไปถึงหอพัก นักศึกษาหญิงแตกตื่นกันทั้งหอพักที่เห็นเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือบุกเข้ามา จังหวะนั้นเองเป็นจังหวะเดียวกับที่ยองโรกำลังกลับเข้าห้อง แต่เมื่อเธอเปิดประตูเข้ามา ภาพที่เห็นทำให้เธอตกตะลึงมือไม้สั่น สติสตางค์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เมื่อเห็นชายที่นอนหมดสติจมกองเลือดอยู่บนพื้นห้อง
และเมื่อยองโรค่อย ๆ เดินเข้าไปดูใกล้ ๆ เธอก็ได้รู้ว่าคือ ซูโฮ !!!
EP.2 สายลับเกาหลีเหนือ
เมื่อยองโรเห็นว่าชายคนที่นอนจมกองเลือดอยู่ภายในห้องคือซูโฮ เธอจึงบอกให้เพื่อน ๆ มาช่วย ซึ่งเพื่อน ๆ ก็เห็นด้วย เพราะพวกเธอเชื่อว่าเขาเป็นนักศึกษาที่ออกไปเดินขบวนประท้วงรัฐบาล และโดนเจ้าหน้าที่ใส่ร้ายว่าเป็นสายลับเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะยองโรที่ไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นพวกคอมมิวนิสต์ แต่ปัญหาคือจะช่วยยังไงล่ะ ?
เวลาเดียวกันนั้น ผู้อำนวยการหอพัก (ซึ่งดูเหมือนจะมีปมในใจทางการเมืองบางอย่าง) ได้พยายามขัดขวางคังมูและลูกน้องอย่างเต็มที่ โดยเธออ้างว่าเป็นการเข้าค้นโดยไม่มีหมาย … ยองโรกับเพื่อน ๆ อาศัยจังหวะนี้เองพาซูโฮไปซ่อนในสถานที่ที่พวกเธอคิดว่าปลอดภัยที่สุด นั่นก็คือที่โรงอาบน้ำ
เสียเวลาไปพักใหญ่กว่าคังมูจะได้หมายค้น ซึ่งยองโรและเพื่อน ๆ ได้พาซูโฮไปซ่อนในที่ปลอดภัยแล้ว ซูโฮรอดจากการจับกุมไปได้อย่างเหลือเชื่อ
ที่แท้แล้ว ทั้งหมดเป็นแผนการของทางฝ่ายรัฐบาล ที่ต้องการลักพาตัวศาสตราจารย์ฮันอีซอบ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของพรรคฝ่ายค้านข้ามไปยังเกาหลีเหนือ เพื่อทำการถ่ายรูป และทำบันทึกปลอมที่ระบุว่าเขารับเงินจากทางเกาหลีเหนือ เมื่อเรื่องนี้ไปถึงมือนักข่าว การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะเกิดขึ้นในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า ผู้สมัครจากพรรครัฐบาลก็จะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน แต่ทว่าตอนนี้แผนการมันล้มเหลวไม่เป็นท่า
ทีนี้ ปัญหามันไม่ใช่แค่ล้มเหลว เพราะแผนการนี้ทางพรรครัฐบาลได้ให้เงินทุนเกาหลีเหนือในทางลับ นั่นหมายความว่า ถ้าซูโฮโดนจับได้ คนในรัฐบาลก็จะพังพินาศไปด้วย เพราะดันไปร่วมมือกับเกาหลีเหนือในการส่งสายลับเขามาลักพาตัวคนสำคัญในพรรคฝ่ายค้าน พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผย คนที่อยู่เบื้องหลังแผนการนี้จะเป็น “คนขายชาติ” !
ดังนั้นสิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือสั่งให้คังมูหยุดตามล่าซูโฮ แต่คังมูยังไม่หยุด เขาสั่งให้ฮันนาจับตาดูศาสตราจารย์ฮันอีซอบต่อไป
ระหว่างนั้น ซูโฮก็ยังใช้ชีวิตหลบซ่อนอยู่ในห้องลับภายในหอพัก โดยได้รับความช่วยเหลือจากยองโรและเพื่อน ๆ … วันแล้ววันเล่า ความใกล้ชิดทำให้ความรู้สึกพิเศษระหว่างซูโฮและยองโรเริ่มก่อตัวขึ้น
แล้ววันหนึ่ง ผู้อำนวยการหอพักเห็นผิดสังเกตบางอย่างเกิดขึ้นในห้องลับ เธอจึงเดินขึ้นมาดู ในขณะที่ซูโฮกับยองโรกำลังอยู่ด้วยกันภายในห้องนั้น
EP.3 เข้าง่ายแต่ออกยาก
ยองโรและคุณลุงนักการภารโรงช่วยซูโฮให้รอดพ้นจาก ผอ.หอพักไปได้อย่างหวุดหวิด แม้จะมีข้อผิดสังเกตและพิรุธมากมาย เมื่อไม่พบใครอยู่ภายในห้องลับร้างใต้หลังคาแห่งนั้น ผอ.หอพักจึงออกจากห้องไป แต่ก็ได้ยึดกุญแจห้องจากคุณลุงเอาไว้
ทีนี้ปัญหาเกิดตามมาอีก เพราะยองโรที่ติดอยู่ในห้องนั้น ไม่สามารถกลับมานอนที่ห้องของตัวเองได้ เดือดร้อนรูมเมตที่ต้องพาคุณลุงนักการภารโรงไปสะเดาะกุญแจพายองโรออกมา ทำไปทำมาคุณลุงก็เลยจะพาซูโฮหนีออกจากหอพักไปเลยในคราวเดียว แต่ทว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเฝ้าจับตาดูอยู่ด้านนอกหอเต็มไปหมด ซูโฮเลยต้องกลับมาหลบอยู่ในห้องลับร้างอย่างเงียบ ๆ ต่อไป
ระหว่างนั้น คังมูก็ยังคงดำเนินการตามล่าซูโฮแบบปูพรมต่อไป แม้ว่าจะมีคำสั่งจากเบื้องบนให้เขาหยุดตามล่าก็ตาม แต่เขาเลือกที่จะแข็งข้อ ด้วยการสั่งให้ลูกน้องตามล่าซูโฮต่อไป
ส่วนยองโรและเพื่อน ๆ ก็ช่วยกันวางแผนพาซูโฮหนีออกจากหอพัก โดยอาศัย “งานกิจกรรมเปิดหอพัก” พาซูโฮหนีออกมา
ตอนนี้เองที่ทำให้ได้รู้ว่า แท้จริงแล้วยองโรคือลูกของอึนชางซู ผอ.หน่วยวางแผนด้านความมั่นคง เบอร์สามของพรรครัฐบาล … วันนี้ ยองโรกลับมาที่บ้านเป็นครั้งแรกในรอบสิบปีเพื่อมาเอาชุดสูท และเสื้อผ้าของพี่ชาย การกลับบ้านมาคราวนี้ เธอได้เผชิญหน้ากับแม่เลี้ยงที่ต่างฝ่ายต่างเต็มไปด้วยความจงเกลียดจงชัง แม่เลี้ยงตวาดใส่หน้ายองโร “ถึงแกจะเกลียดฉันแค่ไหน แต่ยังไงฉันก็เป็นแม่เลี้ยงแกนะ แกควรให้เกียรติฉันบ้าง … ถึงจะผ่านไปนานแค่ไหนแกก็ยังเหมือนเดิม ฉันเป็นฆ่าแม่แกหรือไงถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้”
ยองโรจ้องหน้าแม่เลี้ยงด้วยสายตาจงเกลียดจงแค้น ก่อนที่จะคว้าเอารูปถ่ายครอบครัวที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ทิ้งลงไปบนพื้นจนกรอบรูปแตกกระจาย ทันใดนั้นเอง ฝ่ามือขวาของผู้เป็นแม่เลี้ยงก็ตบเข้าไปที่หน้าของยองโรอย่างแรง น้ำตาของหญิงสาวร่วงหล่นลงมาด้วยความคับแค้นใจ ก่อนที่จะวิ่งหนีออกไป เหมือนดั่งวิ่งหนีสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุดในชีวิตก็ไม่ปาน
หิมะโปรยปรายลงมากระทบตัวและใบหน้า แต่ดูเหมือนว่าการเดินของยองโรคราวนี้ เป็นการเดินไปสู่ความหวังที่รออยู่เบื้องหน้า ความหวังที่จะช่วยให้ซูโฮหนีออกไปจากหอพักอย่างปลอดภัย ซูโฮ ผู้ชายที่ทำให้เธอรู้สึกถึงความพิเศษบางอย่าง ความรู้สึกพิเศษที่เรียกว่าความรัก
วันกิจกรรมเปิดหอ … นักศึกษาหญิงแต่ละคนต้องมีคู่เข้ามาเยี่ยมภายในหอพัก จังหวะนี้แหละที่ยองโรอาศัยความชุลมุนตีเนียนพาซูโฮหนีออกไป
ซูโฮปั่นจักรยานโดยมียองโรนั่งซ้อนท้ายเกาะเอวออกมาถึงหน้ามหาวิทยาลัย ทั้งสองหนีออกมาได้ตามแผน ณ จุดนี้ มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด ยองโรลงจากรถยืนมองชายหนุ่มที่กำลังจะจากไป โดยที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอกันอีกหรือเปล่า เธอจึงมองเขาตาละห้อย “ฉันดีใจนะที่คุณปลอดภัย แต่ตอนนี้กลับมีความรู้สึกแปลก ๆ เมื่อเห็นคุณกำลังจะไป” …
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกจริง ๆ ดีใจกับใจหวิวในเวลาเดียวกัน
เรื่องราวดำเนินมาถึงขนาดนี้แล้ว ยังไงซูโฮก็ต้องไป จังหวะนี้ที่ทั้งสองกำลังร่ำลากัน เพื่อนของซูโฮคนหนึ่งบังเอิญเห็นเขา จึงได้โทร. ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ ทันทีที่ได้รู้ข่าว คังมูสั่งให้ลูกน้องทั้งหมดออกไล่ล่าซูโฮทันที ไม่มีภารกิจใดในตอนนี้ที่จะสำคัญไปกว่าไล่ล่าสายลับเกาหลีเหนือ สายลับคอมมิวนิสต์ที่น่ารังเกียจคนนี้ให้ได้
ซูโฮปั่นจักรยานจากไปได้ไม่ไกลเกินอึดใจนัก ชายหนุ่มก็เกิดหันหัวจักรยานกลับมาหายองโร ที่ยังยืนอยู่ที่เดิมอยู่อย่างนั้น เป็นเหมือนดั่งว่าลึก ๆ แล้วเธอก็ไม่อยากให้เขาจากไป แล้วมันก็เป็นจริง เมื่อซูโฮกลับมายืนอยู่เบื้องหน้าของยองโร โดยที่คนทั้งสองไม่รู้เลยว่า เจ้าหน้าที่ทั้งหมดกำลังตามมาจับตัวเขา !?
Source: JTBC Korea