Skip to content
ซีรีส์ Military Prosecutor Doberman (2022)

สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Military Prosecutor Doberman (2022)

Military Prosecutor Doberman (2022) : เรื่องราวของโดแบมัน อัยการทหารผู้หิวเงิน แต่การที่เขาได้พบกับชาอูอิน อัยการทหารสาวที่ทำเพื่อความถูกต้อง ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปตลอดกาล …

EP.1 เมื่อความยุติธรรมกลับตาลปัตร

โดแบมัน (รับบทโดย อันโบฮยอน) เกิดในครอบครัวทหาร มีพ่อและแม่เป็นทหารทั้งคู่ แต่เมื่อเขาอายุได้สิบขวบ ท่านทั้งสองก็ต้องมาจากเขาไปต่อหน้าต่อตาด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ นับแต่นั้นเขาจึงอาศัยอยู่กับป้าซึ่งมีอาชีพเป็นตำรวจสายสืบ

สมัยยังเป็นวัยรุ่น โดแบมันมักจะใช้กำลังจัดการกับเพื่อน ๆ และอาจารย์ที่มาบูลลี่ เมื่อคนพวกนั้นล้อเลียนชื่อของเขาว่าเป็น “หมาพันธุ์โดเบอร์แมน” เป็นเหตุให้โดแบมันโดนไล่ออกจากโรงเรียนมัธยมปลายเป็นรอบที่สาม ที่สำคัญไม่มีโรงเรียนไหนยอมรับเขาเข้าเรียนอีกแล้ว

ป้าตวาดใส่โดแบมันด้วยความโกรธ “แกตั้งใจให้ตัวเองโดนไล่ออกใช่มั้ย เพราะถ้าเรียนไม่จบแกก็ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร !” ใช่ มันเป็นความตั้งใจของโดแบมันที่จะทำให้ตัวเองเรียนไม่จบมัธยมปลายเพื่อหลบเลี่ยงการเป็นทหาร … ด้วยความที่โดแบมันเห็นพ่อแม่ตายไปต่อหน้าต่อตา จากอุบัติเหตุรถชนประสานงากับรถบรรทุกของทหาร ทำให้เขาไม่ชอบกองทัพนับแต่นั้น

อย่างไรก็ตาม โดแบมันเป็นเด็กที่รักในความก้าวหน้าและมีความฝันที่จะมีอนาคตที่มั่นคง ทำให้เขาต้องเบนเข็มชีวิตไปสอบเนติบัณฑิตจนสำเร็จ ในตอนนั้นชื่อของเขากลายเป็นข่าวดัง “สอบเนติบัณฑิตผ่านทั้งที่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลาย” แต่ทว่าในโลกของความเป็นจริง การเรียนไม่จบมัธยมปลาย กลายเป็นอุปสรรคที่ทำให้บริษัทกฎหมายต่าง ๆ ใช้เป็นเหตุผลที่ไม่รับเขาเข้าทำงาน

แล้วจู่ ๆ ก็เหมือนฟ้าประทานโอกาสมาให้ เมื่อ ทนายยงมุนกู (รับบทโดย คิมยองมิน) ประธาน Law and One สำนักงานกฎหมายระดับประเทศ ยื่นข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธได้ให้โดแบมัน โดยให้เขาเข้าไปเป็นอัยการทหารเป็นเวลา 5 ปี แลกกับค่านายหน้า 10 เปอร์เซ็นต์ และเงินเดือนมากกว่าเงินเดือนทนายความปกติ 5 เท่า

ในตอนแรก โดแบมันตอบปฏิเสธไป แต่สุดท้ายเขาก็ตกลงรับข้อเสนอ เพราะเป็นเงินก้อนโตที่สามารถพลิกชีวิตของเขาได้ แต่เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมต้องให้เขาไปเป็นอัยการทหาร ? ทนายยงมุนกูอธิบายว่า กองทัพเป็นสิ่งที่คนรวยและคนมีอำนาจกลัว ดังนั้น โดแบมันจะเป็นอัยการทหารที่ช่วยคดีคนรวยและผู้มีอำนาจนั่นเอง

5 ปีผ่านไป …

โดแบมันทำหน้าที่อัยการทหารตามสัญญาที่ตกลงไว้กับทนายยงมุนกูจนใกล้ปลดประจำการ ระหว่างนั้น ทนายยงมุนกูได้สั่งให้เขาใช้ตำแหน่งอัยการทหารวางแผนใส่ร้ายลูกชายของประธานธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง เพื่อบีบให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งมีเรื่องบาดหมางกับ โนแทนัม (รับบทโดย คิมอูซอก) ประธานบริษัท IM

โดแบมันทำสำเร็จ แต่สิ่งที่เขาสงสัยคือโนแทนัมเป็นใคร ? จากประวัติจากบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร โนแทนัมเป็นประธานบริษัท IM ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสามสิบ นอกจากนั้นยังเป็นสัตวแพทย์และเชฟอาหารสุนัข แต่โดแบนัมก็คิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น

ในคืนนั้น โนแทนัมกับอัลเลน (นักร้องชื่อดัง) ได้พาหญิงสาวคนหนึ่งมาที่คลับ Cartel จากนั้นก็วางยา ล่วงละเมิดทางเพศ ทำร้ายร่างกาย และถ่ายคลิปแบล็กเมล

ระหว่างนั้น ชาอูอิน (รับบทโดย โจโบอา) ได้เข้ามาทำหน้าที่อัยการทหารในแผนกเดียวกับโดแบมัน จากการได้ทำงานร่วมกันเพียงไม่กี่วัน โดแบมันสังเกตเห็นท่าทางแปลก ๆ ของเธอ ท่าทางที่ดูนิ่งผิดปกติ ทำให้เขาต้องสืบประวัติของชาอูอินโดยละเอียด และนั่นมันทำให้เขายิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปกว่าเดิม เพราะเขาพบว่าเธอไม่มีคุณสมบัติของคนที่จะเข้ามาเป็นอัยการทหารเลยแม้แต่นิดเดียว

หลังเลิกงานในวันนั้น ชาอูอินปลอมตัวแต่งกายเป็นสาวเซ็กซี่สวมวิกผมสีแดง ก่อนจะเดินทางไปที่คอนโดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคอนโดของอัลเลนที่เอาไว้ปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ … ณ จุดนี้เอง ชาอูอินก็แสดงสกิลการต่อสู้ขั้นเทพ จัดการอัลเลนและเพื่อน ๆ ลงไปนอนกองอยู่กับพื้น เธอมาที่นี่เพื่อต้องการคลิปที่อัลเลนล่วงละเมิดหญิงสาวคนนั้น

ชาอูอินแฟลชแบ็กภาพตัวเองในวัยเด็ก พ่อของเธอกำลังอธิบายว่าทำไมถึงตั้งชื่อบริษัทว่า IM นั่นก็เป็นเพราะเมื่อกลับหัวมันจะกลายเป็นชื่อย่อของเธอ WI (Woo In อูอิน) … ที่แท้แล้ว บริษัท IM ของโนแทนัมเป็นบริษัทที่พ่อของชาอูอินก่อตั้งขึ้นมา

ในตอนท้ายชาอูอินเอ่ยออกมาว่า “โลกที่ความจริงกับความยุติธรรมกลับตาลปัตร เราต้องพลิกมันกลับมาเพื่อให้เห็นได้ชัดเจน”

EP.2 สาวสวมวิกแดง

ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีก่อน พ่อของชาอูอินก่อตั้งบริษัท IM ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับการป้องกันประเทศ และสามารถต่อยอดไปยังเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน หุ่นยนต์ และระบบรักษาความปลอดภัย ต่อมาเขาตกเป็นผู้ต้องหาในหลายคดี ไม่ว่าจะเป็นความผิดฐานเปิดเผยความลับทางการทหาร ปั่นหุ้น และยักยอกทรัพย์ ในตอนนั้นศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งต่อมา โนแทนัมก็ได้เข้ามาซื้อบริษัท IM ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด มีข่าวลือหนาหูว่า โนแทนัมเป็นเพียงหุ่นเชิดของบุคคลปริศนาที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง

ระหว่างการพิจารณาคดี พ่อของชาอูอินเกิดประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต ที่น่าแปลกก็คือ คนที่อยู่ในรถหมดสติทั้งหมด และยงมุนกู (ตอนนั้นเป็นอัยการ) คือผู้ที่รับผิดชอบในคดีนี้ หลังจากนั้น ยงมุนกูก็ลาออกจากสำนักงานอัยการ และมาก่อตั้งบริษัทสำนักงานกฎหมายเป็นของตัวเอง จนกลายเป็นสำนักงานกฎหมายระดับประเทศในเวลาต่อมา

ในสายตาของโนแทนัมแล้ว ยงมุนกูเป็นเพียง “คนเก็บกวาดทางกฎหมาย” ไม่ใช่ “ที่ปรึกษาทางกฎหมาย” เพราะเขามักก่อเรื่องให้ยงมุนกูตามเก็บกวาดอยู่เสมอ นั่นก็เป็นที่มาที่ทำให้ยงมุนกูต้องให้คนของตัวเองเข้าไปดำรงตำแหน่งทางกฎหมายต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือโดแบมัน

ในส่วนของอัลเลนและเพื่อน ๆ นั้น ชาอูอินก็จับใส่กุญแจมือ เอามาขังเอาไว้ในรถตู้ในสถานที่ลับแห่งหนึ่ง ทำให้ข่าวการหายตัวไปของอัลเลนกลายเป็นข่าวใหญ่ เนื่องจากในวันต่อมา อัลเลน ซึ่งเป็นนักร้องไอดอลมีคิวที่ต้องขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่

เมื่อเรื่องราวบานปลายมาจนถึงจุดนี้ ยงมุนกูถึงกับกุมขมำกับสิ่งที่โนแทนัมก่อเรื่องเอาไว้ เพราะเขารู้ดีว่า การหายตัวไปของอัลเลนในครั้งนี้มันเกี่ยวกับผู้หญิงที่ทั้งสองล่วงละเมิดในคืนนั้น ยงมุนกูจึงใช้ให้โดแบนัมตามหาตัวอัลเลนโดยด่วน

ด้วยความสามารถของโดแบนัม ทำให้เขาพบว่าหญิงสาวสวมวิกแดงเป็นคนสุดท้ายที่พบกับอัลเลน และน่าจะเป็นคนที่ลักพาตัวนักร้องไอดอลชื่อดังไป แต่ปัญหาคือ ผู้หญิงวิกแดงคนนั้นคือใคร ?

โดแบมันเข้าพบโนแทนัมเพราะต้องการก้าวหน้า เมื่อได้พบกัน โนแทนัมได้ขอให้โดแบมันทำในสิ่งที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ โนแทนัมต้องการเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร ซึ่งโดแบมันก็รับจะทำให้แต่โดยดี ไม่เท่านั้นเขายังลงไปคุกเข่ากับพื้นเพื่อขอฝากเนื้อฝากตัวกับโนแทนัมอีกด้วย แต่คนที่ตกใจและไม่พอใจมากที่สุดก็คือ ยงมุนกู ที่นั่งอยู่ด้วย เขาพยายามเตือนว่าสิ่งที่โนแทนัมขอให้โดแบมันทำ มันเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวง เพราะแม่โนแทนัมมีตำแหน่งเป็นถึงผู้บัญชาการทหารหญิงคนแรกของประเทศ

แล้วเรื่องก็ถึงหู ท่านนายพลหญิงโนฮวายอง (รับบทโดย โอยอนซู) เข้าจนได้ เธอเรียกโนแทนัมเข้ามาพบเป็นการด่วน ระหว่างการเดินทางไปพิธีรับตำแหน่งผู้บัญชาการคนใหม่

ระหว่างนั้น โดแบมันกับชาอูอินก็กำลังเดินทางไปพิธีรับตำแหน่งของท่านนายพลหญิงโนฮวายองเช่นกัน แต่ระหว่างทางโจทก์เก่าของโดแบมันพร้อมด้วยลูกน้องและไม้หน้าสามเป็นจำนวนมาก ก็เอารถตู้มาจอดขวางปิดหัวท้าย ตอนนั้นเองที่โดแบมันทำเท่ขอลงไปจัดการเองเพียงคนเดียว โดยขอให้ชาอูอินนั่งรออยู่บนรถ แต่ …

บทสรุปกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อโดแบนัมพลาดท่าโดนไม้หน้าสามฟาดเข้ากลางหลังเต็มแรง เมื่อเป็นเช่นนั้น ชาอูอินจึงก้าวออกมานอกรถ เธอปลดเอาก้านที่ปัดน้ำฝนออกมาเพื่อใช้เป็นอาวุธ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของกลุ่มนักเลงชายฉกรรจ์ที่ขบขันกับอาวุธที่หญิงสาวถืออยู่ในมือ

แหม่ พวกมันหัวเราะผิดคนซะแล้ว เวลาเพียงไม่กี่นาทีนับจากนั้น ชาอูอินก็เผยสกิลการต่อสู้ขั้นเทพของเธอออกมาผ่านที่ปัดน้ำฝนอันเล็ก ๆ ในมือ พวกนักเลงลงไปนอนกองกับพื้นแบบไร้ทางสู้ !

โดแบมันเดินกะเผลกขึ้นมาบนที่เบาะหลังของรถ จังหวะนั้นเองที่ทำให้เขาได้เห็นวิกสีแดงวางอยู่ด้านหลังของรถ … หรือว่าชาอูอินคือหญิงสาวคนนั้นที่ลักพาตัวอัลเลนไป !!?

EP.3 แผนซ้อนแผน

โดแบมันสงสัยว่าชาอูอินคือหญิงสวมวิกแดงคนนั้น เขาจึงเอาเส้นผมจากวิกบนรถของเธอไปตรวจหาผลทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเทียบกับเส้นผมที่เจอในคอนโดของอัลเลน

หลังเสร็จพิธีเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลของท่านนายพลหญิงโนฮวายอง เธอได้เรียกให้โนแทนัมไปรอที่ห้อง เห็นได้ชัดว่าโนแทนัมกลัวแม่มาก กลัวขนาดที่ว่าเขานั่งตัวสั่นอยู่อย่างนั้น แล้วทำไมเขาถึงกลัวแม่ขนาดนั้นล่ะ ?

ย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่โนแทนัมยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เขาก่อเรื่องทำร้ายร่างกายเพื่อนนักเรียนจนตาบอด แม่เขาจึงพาไปที่บังเกอร์ร้างแห่งหนึ่งเพื่อลงโทษ ในตอนนั้นเอง แม่คว้าเอาระเบิดมือออกมาแล้วถอดสลักให้โนแทนัมถืออยู่ในมือ แม่กำหนดเวลาให้เขาต้องถือระเบิดอยู่อย่างนั้นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ระหว่างนั้นถ้าเขาปล่อยมือออก ระเบิดจะทำงานทันที

“ฉันจะไต่ขึ้นไปจุดที่ผู้หญิงในเครื่องแบบไม่กล้าแม้แต่จะฝัน ฉันจะไม่ยอมให้ผู้ชายหน้าไหนมาอยู่เหนือฉัน และเพื่อให้มันเป็นแบบนั้น แกต้องเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ห้ามสร้างจุดด่างพร้อยบนเส้นทางของฉันแม้แต่นิดเดียว” โนฮวายองจ้องมองไปที่หน้าลูกชายด้วยสายตาที่ดุดันยิ่งนัก เธอเชื่อว่าความเจ็บปวดจะเป็นการสอนลูกชายของเธอได้ดีที่สุด เพราะมันจะทำให้เขาจดจำไปตลอดชีวิต

ตัดกลับมาปัจจุบัน … โนแทนัมคุกเข่าขอโทษแม่เรื่องที่ก่อเรื่องผู้หญิงและถ่ายคลิปเอาไว้ แต่ทว่า สิ่งที่ท่านนายพลหญิงโนฮวายองสนใจกลับไม่ใช่เรื่องนั้น “เรื่องนั้นเดี๋ยวแม่ให้ทนายยง (มุนกู) จัดการเอง” แต่สิ่งที่ท่านนายพลหญิงสนใจก็คือ การที่เขาใช้ให้อัยการทหารหาทางละเว้นการเข้าเกณฑ์ทหาร เมื่อมาถึงจุดนี้ โนแทนัมเกิดเสียงแข็งขึ้นมาทันที เขายืนยันที่จะไม่เป็นทหารเด็ดขาด

ต่อมาโดแบมันได้ทำคดีที่มีแพทย์ทหารคนหนึ่งตกเป็นจำเลย เนื่องจากการรักษาผิดพลาดทำให้ทหารคนหนึ่งเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต คดีนี้โดแบมันได้รับการติดต่อจากฝ่ายจำเลยเพื่อให้ช่วยเหลือคดี เขาจึงตกลงแลกกับลายเซ็นของหมอที่ระบุว่าโนแทนัมขาดคุณสมบัติการเป็นทหารแทน และทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน

จากนั้น โดแบมันจึงขอตัดขาดกับยงมุนกู เพราะจากนี้ไปเขาจะทำงานขึ้นตรงกับโนแทนัม

โดแบมันกลายเป็นคนโปรดของโนแทนัมในทันทีที่ได้รู้ว่า แผนการเลี่ยงการเกณฑ์ทหารใกล้จะสำเร็จ ทั้งสองดื่มบรั่นดีกันอย่างชื่นมื่นที่คลับ Cartel ณ จุดนี้ โดแบมันคิดว่าอนาคตของเขานับจากนี้จะพุ่งขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ …

แต่เรื่องมันกลับตาลปัตรไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด เมื่อชาอูอินได้เอาคลิปการข่มขืนในคืนนั้นไปให้กับตำรวจ (ป้าของโดแบมัน) จนนำมาซึ่งการจับกุมโนแทนัมที่คลับ Cartel หลังจากโนแทนัมโดนตำรวจจับใส่กุญแจมือ โดแบมันที่ตอนนั้นกำลังเดินไปเข้าห้องน้ำก็รีบวิ่งหนีออกมาจากคลับ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของตำรวจ จึงเกิดเป็นฉากไล่ล่าทางรถยนต์ขึ้นมา

โดแบมันใช้สกิลการขับรถขั้นเทพสามารถหลบหนีตำรวจไปได้ แต่จู่ ๆ สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น รถที่เขาขับอยู่เกิดพลิกคว่ำตีลังกาขึ้นมา !

โดแบนัมที่เลือดเต็มร่างค่อย ๆ คลานออกมาจากรถ แล้วชาอูอินในลุคของสาวสวมวิกแดงก็ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้า !!?

EP.4 หมาล่าเนื้อผู้ภักดี

โดแบมันฟื้นได้สติขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล เขาจึงรีบออกมาจากที่นั่นเพื่อไปพบกับชาอูอินด้วยความโกรธ แวบแรกที่โดแบมันได้เจอกับชาอูอิน เขาปรี่เข้าไปหาพร้อมกับดันเธอหลังชนกำแพง

“เธอนี่มันเหลือเชื่อจริง ๆ ฆ่าฉันเกือบตายแล้วยังพาไปส่งโรงพยาบาล เธอกำลังล้อเล่นอะไรอยู่เนี่ย แล้วทำไมตอนนี้ไม่ใส่วิกแดงล่ะ มันน่าจะเหมาะกับเธอมากกว่าเครื่องแบบทหารอีกนะ” น้ำเสียงของโดแบมันแสดงให้เห็นถึงความโกรธ แต่ชาอูอินตอบกลับไปด้วยเสียงอันราบเรียบ เธอพยายามอธิบายบางอย่างให้เขาเข้าใจ “สิ่งที่ฉันทำก็เพื่อให้คุณได้ทบทวนในสิ่งที่คุณลืมไป และเมื่อถึงเวลานั้นฉันจะบอกสิ่งที่คุณอยากรู้ทั้งหมด”

โดแบมันจ้องมองชาอูอินตาไม่กะพริบ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูดอยู่ดี อะไรกันนะคือสิ่งที่ตัวเขาหลงลืมไป ?

ส่วนโนแทนัมที่โดนแจ้งข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ก็ได้รับการปล่อยตัวระหว่างการพิจารณาคดี ด้วยเส้นสายของท่านนายพลหญิงโนฮวายอง แต่ด้วยคำแนะนำของทนายยงมุนกู ที่แนะนำให้โนแทนัมยอมเข้ากรม เพื่อจะได้ขึ้นศาลทหารแทนที่จะขึ้นศาลพลเรือนน่าจะมีโอกาสหลุดคดีได้มากกว่า เพราะทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของท่านนายพลหญิงโนฮวายอง เมื่อเป็นเช่นนั้น โนแทนัมก็ไม่มีทางเลือก

มาถึงตรงนี้ เราก็ได้รู้ว่าประธานตัวจริงของบริษัท IM ก็คือท่านนายพลหญิงโนฮวายอง และเราก็ได้รู้อีกว่า คนที่วางแผนบีบให้หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อตัดสินใจเอาคลิปไปแจ้งตำรวจก็คือยงมุนกู นั่นเป็นเพราะเขาต้องการเขี่ยให้โนแทนัมหลุดออกจากตำแหน่งประธานบริษัท IM เพื่อที่ตัวเองจะได้ขึ้นเป็นประธานแทน เนื่องจากเขาเป็นคนที่ท่านนายพลหญิงโนฮวายองไว้ใจมากที่สุด

ระหว่างนั้น โดแบมันก็สืบเรื่องราวของชาอูอิน ในที่สุดเขาก็ได้รู้ว่าเธอคือลูกสาวของผู้ก่อตั้งบริษัท IM เขาจึงปะติดปะต่อเรื่องราวจนได้ความว่า สิ่งที่ชาอูอินต้องการก็คือล้างแค้นโนแทนัมและยงมุนกู ที่ใส่ร้ายพ่อของเธอ ยึดบริษัทพ่อของเธอ และฆ่าพ่อของเธอแล้วจัดฉากว่าเป็นอุบัติเหตุ !

โดแบมันเรียกชาอูอินมาที่ห้องสอบสวน ณ จุดนี้ เธอจึงได้บอกกับเขาว่า เป้าหมายของเธอที่แท้จริงคือ ท่านนายพลหญิงโนฮวายอง ซึ่งเป็นเจ้าของ IM ตัวจริง เมื่อโดแบมันได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจ “ฉันไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความแค้นส่วนตัวของเธอ” แต่ …

แต่คำพูดของชาอูอินมันทำให้โดแบมันถึงกับอึ้ง “คุณอัยการได้รู้ความจริงของฉันทั้งหมดแล้ว ทีนี้ถึงตาที่คุณอัยการต้องหาความจริงของตัวเองบ้างแล้ว เมื่อความจริงปรากฏ คุณก็จะรู้ว่าทำไมเราถึงต้องสู้ไปด้วยกัน” ชาอูอินวางภาพถ่ายอุบัติเหตุทางรถยนต์ของพ่อแม่โดแบมันเอาไว้ ก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องสอบสวนไป

โดแบมันเริ่มกลับไปดูรายละเอียดคดีอุบัติเหตุนั้นอีกครั้ง “อะไรกันนะที่หลงลืมไป ?”

วันนี้ เป็นวันปลดประจำการของโดแบมัน เขาเข้าไปห้องทำงานของท่านนายพลหญิงโนฮวายอง เพื่ออำลาตามระเบียบทหาร จังหวะนั้นเองที่โดแบมันถึงกับตาสว่าง สิ่งที่หลงลืมไปในเหตุการณ์วันที่เกิดอุบัติเหตุย้อนกลับมาในหัวของเขาทันที เมื่อเขาได้เห็นนิ้วชี้มือขวาของท่านนายพลหญิงโนฮวายองกุดไปสองข้อ … นายพลหญิงคนนี้เอง ที่เป็นคนขับรถบรรทุกคันนั้นชนประสานงากับพ่อแม่เขา และเป็นคนที่ยิ้มเยาะเมื่อเห็นว่าพ่อแม่ของเขาตายคาที่อยู่ภายในรถ !!!

หนึ่งเดือนผ่านไป …

วันนี้เป็นวันที่โนแทนัมต้องขึ้นศาลทหารเป็นนัดแรก โดยมีทนายยงมุนกูเป็นทนายจำเลย และชาอูอินเป็นอัยการ พร้อมกันนั้น ท่านนายพลหญิงโนฮวายองก็มาเข้ารับฟังการพิจารณาคดีในห้องวีไอพี แต่ก่อนการพิจารณาคดีจะเริ่มขึ้น บุคคลที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมา ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น … โดแบมัน !

โดแบมันกล่าวขึ้นมาว่า “ฉันจะเป็นหมาล่าเนื้อผู้ภักดีของชาอูอิน”

EP.5 การตัดสินใจ

เมื่อ 20 ปีก่อน ท่านนายพลหญิงโนฮวายองมีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยขนส่ง วันนั้นเธอขับรถบรรทุกทหารออกไปโดยที่ไม่มีภารกิจ จากนั้นก็ไปเกิดอุบัติเหตุชนประสานงากับรถเก๋งของพ่อแม่โดแบมัน ในที่เกิดเหตุไม่มีรอยเหยียบเบรกเลยแม้แต่นิดเดียว แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นการจัดฉากอุบัติเหตุ แม้หลักฐานจะชัดเจนแต่กองทัพเลือกที่จะทำลายหลักฐานทิ้งทั้งหมด โดยความช่วยเหลือจาก “อัยการทหาร” ที่เลือกเงินมากกว่าความถูกต้อง

ความจริงข้างต้นนี้ เป็นความจริงที่โดแบมันได้รับรู้หลังจากปลดประจำการ ทำให้เขาต้องตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต ระหว่างข้อเสนอหุ้นส่วน 25 เปอร์เซ็นต์จากสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง กับการเป็นหมาล่าเนื้อให้กับชาอูอินเพื่อล้างแค้นให้กับพ่อแม่

มันเป็นการตัดสินใจที่ยากยิ่งนัก หนึ่งคือความฝันในชีวิต เงินทองและความสำเร็จในหน้าที่การงาน อีกหนึ่งคือต่อสู้เพื่อความถูกต้องและการล้างแค้นให้พ่อแม่ !!?

คืนหนึ่ง โดแบมันนั่งทรุดที่ตรอกมืด ๆ แห่งหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้นคนเดียว เขาแทบไม่รู้เลยว่าตัวเองจะเดินต่อไปอย่างไร แต่ในท้ายที่สุดแล้วเขาก็เลือกในทางที่ถูกต้อง ทางที่เขาบอกกับตัวเองว่า “ฉันจะเป็นหมาล่าเนื้อให้ชาอูอิน เป็นเหมือนโดเบอร์แมนที่กัดแล้วจะงับเหยื่อจนเนื้อขาดคาปาก หรือไม่ก็ฟันร่วงหมดทั้งปาก”

ในการพิจารณาคดีล่วงละเมิดทางเพศของโนแทนัมในศาลทหาร โดแบมันตัดสินใจกลับมาเป็นอัยการทหารอีกครั้ง เพื่อร่วมมือกับชาอูอินในการถอนรากถอนโคนผู้ที่ส่วนในการตายของพ่อแม่เขาให้หมดสิ้น

หญิงสาวผู้เป็นเหยื่อถูกเรียกตัวมาให้การในฐานะผู้เสียหาย ยงมุนกูซึ่งทำหน้าที่เป็นทนายจำเลยได้ซักค้าน​ โดยการจี้ไปที่จุดอ่อน … หนึ่ง หญิงสาวยินยอมไปที่คลับแห่งนั้นกับอัลเลนด้วยความสมยอม สอง เมื่อถูกวางยาเสียสาว ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ตาพร่ามันและจำอะไรไม่ได้ ดังนั้น คำให้การว่าโนแทนัมเป็นคนที่ล่วงละเมิดทางเพศจึงเป็นเรื่องของการคาดเดา ไม่ใช่ข้อเท็จจริง !

ยงมุนกูใช้ความสามารถในการว่าความระดับเทพเพื่อช่วยให้โนแทนัมได้เปรียบ แถมยังข่มขู่อัลเลนให้ยอมรับว่าเป็นคนขู่บังคับให้โนแทนัมถ่ายคลิปการล่วงละเมิด ไม่เท่านั้นยังงัดเอาหลักฐานเด็ดออกมา หลักฐานที่ว่านั่นก็คือเอกสารทางการแพทย์ที่ระบุว่า “โนแทนัมเป็นโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ” เท่ากับว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่โนแทนัมจะล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาว

ยกฟ้อง !

ชาอูอินผิดหวังที่โนแทนัมหลุดคดี แต่ตัวโนแทนัมเองกลับไม่ดีใจที่ตัวเองชนะคดีเลยแม้แต่นิดเดียว เขาอับอายที่ยงมุนกูเอาเรื่องที่เขาไร้สมรรถภาพมาเปิดเผย โนแทนัมสติแตกตะโกนด่าศาล ด่าทุกคนที่อยู่ภายในห้องพิจารณาคดี ก่อนที่ สห. จะนำตัวเขาออกจากห้องไปสงบสติอารมณ์

EP.6 สมาคมรักชาติ

โนแทนัมรู้สึกขายหน้าเป็นครั้งแรกในชีวิต ถูกเหยียดหยามระหว่างการพิจารณาคดีเรื่อง “นกเขาไม่ขัน” มันทำให้เขาทนอยู่ในค่ายทหารไม่ได้อีกต่อไป สิ่งที่เขาเลือกทำก็คือ หนีทหาร !

โนแทนัมเขียนจดหมายด้วยลายมือระบายความรู้สึกของตัวเองไปถึงท่านนายพลหญิงโนฮวายอง “ถึงแม่ … ผมเข้ากรมตามที่แม่ต้องการแล้ว แต่เมื่อได้มาอยู่ที่นี่ มันยิ่งกว่าผมจินตนาการเอาไว้ การที่มีที่แบบนี้อยู่ในประเทศของเรามันเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อจริง ๆ ที่เขาพูดกันว่าอาหารในคุกอร่อยกว่าในกองทัพ เพราะคนรวยติดคุกกันเยอะ แต่คนรวยเลือกที่จะไม่เข้ากรม ทั้งการกิน การนอน และการอาบน้ำกับคนแปลกหน้า หรือแม้แต่เพียงกริ่งที่ดังจนแสบหูในทุก ๆ เช้า มันทำให้ผมแทบบ้า …”

ท่านนายพลหญิงโนฮวายองอ่านจดหมายยังไม่ทันจบ ก็หัวเสียเป็นอย่างมาก เธอสั่งลูกน้องให้จัดการกับโนแทนัมตามระเบียบของทหาร โดยไม่ต้องให้สิทธิพิเศษในฐานะที่เป็นลูกของเธอ เป็นเพียงแต่ขอให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ (ท่านนายพลหญิงโนฮวายองไม่ต้องการให้ข่าวเรื่องโนแทนัมหนีทหาร ทำลายการเข้ารับตำแหน่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอีแจชิก)

ในช่วงเวลาเดียวกัน ชาอูอินพาโดแบมันไปที่ห้องลับ เธอเปิดแผนผังสมาคมรักชาติ และเล่าถึงความสัมพันธ์ของสมาชิกแต่ละคนในสมาคม โดยสมาคมรักชาตินี้เป็นสมาคมที่จัดตั้งขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อสร้างฐานอำนาจและเส้นสายที่กำหนดการแต่งตั้งตำแหน่งภายในกองทัพ ที่สำคัญสมาคมนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อแม่ของโดแบมันและพ่อของชาอูอินเสียชีวิต

เบอร์หนึ่งของสมาคมรักชาติคือ ท่านรัฐมนตรีอีแจชิก ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรางกลาโหมในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เบอร์สองคือ ผบ.ทบ.ฮงมูซอบ เป็นอัยการทหารที่ดูแลคดีของพ่อแม่โดแบมันเมื่อ 20 ปีก่อน ส่วนเบอร์สามก็คือ ท่านนายพลหญิงโนฮวายอง ซึ่งเป็นคนที่อีแจชิกไว้ใจมากที่สุด และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้นายพลจัตวาฮงมูซอบ เบอร์สองของสมาคมไม่ค่อยถูกกับท่านนายพลหญิงโนฮวายอง

ชาอูอินพยายามอธิบายแผนผังของสมาคมอย่างละเอียด เพื่อจะให้โดแบมันเข้าใจว่าต้องต่อสู้กับอะไร และบนสุดของปิรามิดที่ต้องโค่นคือใคร

ตอนนั้นเอง โดแทมันจึงได้สารภาพกับชาอูอินว่า เขาเป็นคนวางแผนจัดฉากให้โนแทนัมหนีทหาร เพราะเขาเชื่อว่าท่านนายพลหญิงโนฮวายองจะต้องปิดข่าว ซึ่งถ้าออกไล่จับโนแทนัมได้ และทำให้เป็นข่าวใหญ่ในวันที่ท่านรัฐมนตรีอีแจชิกเข้ารับตำแหน่ง เท่ากับว่าอำนาจของท่านนายพลหญิงโนฮวายองในสมาคมรักชาติจะต้องสั่นคลอนอย่างแน่นอน

โนแทนัมได้รับความช่วยเหลือระหว่างการหลบหนีจากลูกน้องคนหนึ่ง จากนั้นเขาก็วางแผนที่จะหนีออกนอกประเทศ โดยเขาเตรียมที่จะพา “โบลต์” หมาพันธุ์โดเบอร์แมนที่เขารักมากไปด้วย และนั่นเองเป็นที่มาที่ทำให้ชาอูอินตามตัวโนแทนัมจนเจอ เพราะเธอได้ซ่อนเครื่อง GPS เอาไว้ในปลอกคอของเจ้าโบลต์

ชาอูอินตามมาจนเจอโนแทนัมที่สนามบิน ชาอูอินเล่นใหญ่ทำทีปล่อยให้โนแทนัมหนี เพื่อที่จะได้วิ่งไล่ล่า ในตอนนั้นเองคนในสนามบินต่างมุงดูพร้อมกับถ่ายคลิปเอาไว้ด้วยความสนใจ ก่อนที่เธอจะตะโกนประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่า “นี่คือโนแทนัม ผู้ต้องหาในคดีหนีทหาร”

ข่าวโนแทนัมถูกจับกุมในข้อหาหนีทหารแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาคือผู้ต้องหาในคดีล่วงละเมิดทางเพศที่หลุดคดี ซึ่งชาวเน็ตต่างก็เชื่อกันว่าเขาได้รับความช่วยเหลือจากแม่ ที่เป็นผู้บัญชาการกองทัพ

นักข่าวที่อยู่ในพิธีรับตำแหน่งของท่านรัฐมนตรีอีแจชิก ต่ากรูเข้าไปสัมภาษณ์ท่านนายพลหญิงโนฮวายอง เรื่องที่ลูกชายของเธอหนีทหาร โดยที่ไม่สนใจท่านรัฐมนตรีป้ายแดงที่กำลังพูดอยู่บนเวทีเลยแม้แต่นิดเดียว

ท่านรัฐมนตรีอีแจชิกถึงกับหน้าถอดสีด้วยความโกรธเมื่อได้รู้ข่าวที่เกิดขึ้น

EP.7 วีรบุรุษทุ่นระเบิด

ความสัมพันธ์ระหว่างอีแจชิกกับโนฮวายองเริ่มสั่นคลอน เพราะลูกชายของเธอถูกจับข้อหาหนีทหารในวันที่อีแจชิกรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งทำให้เขาเสียหน้าต่อประชาชนทั้งประเทศ ท่านนายพลหญิงโนฮวายองรับปากโดยเอาเครื่องแบบทหารเป็นประกันว่า จะไม่ทำให้โนแทนัมก่อเรื่องอีก ถ้าทำไม่ได้เธอจะลาออกจากกองทัพทันที

เป้าหมายแรก “วีรบุรุษทุ่นระเบิด”

ที่ห้องลับ ชาอูอินบรีฟเป้าหมายแรกให้กับโดแบมัน คนนั้นก็คือ วอนกีชุน เจ้าของฉายาวีรบุรุษทุ่นระเบิด ทหารที่ยอมเสียสละขาตัวเองเพื่อช่วยลูกน้องในเขตทุ่นระเบิด ผลก็คือเขาเสียขาไปหนึ่งข้าง และเหตุผลที่ชาอูอินเลือกให้เป็นเป้าหมายแรกก็เพราะ เมื่อ 6 ปีก่อน เขาเป็นคนสร้างหลักฐานเท็จใส่ร้ายพ่อของเธอ

หลังจากเหตุการณ์นั้น วอนกีชุนจึงกลายเป็นฮีโร่ของคนเกาหลีทั้งประเทศ หนังสือของเขากลายเป็น Best Seller ทันทีที่เปิดตัว แต่แล้วในงานเปิดตัวหนังสือก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น น้องชายของทหารที่วอนกีชุนเคยช่วยจากเขตทุ่นระเบิด ได้บุกเข้าไปในงาน ก่อนจะคว้าปืนกึ่งอัตโนมัติออกมาลั่นไกสาดกระสุนเข้าไปที่หน้าอกของวอนกีชุน แต่ที่น่าแปลกไปกว่านั้นคือ มันเป็นกระสุนเปล่า !!? (เป็นการกระทำเพื่อให้คนสนใจคดีนี้ แต่ไม่มีเจตนาจะฆ่าจริง ๆ)

ชาอูอินและโดแบมันเข้าทำการสอบสวนผู้ต้องหาในฐานะอัยการทหาร สิ่งที่ทั้งสองต้องการคือ อะไรเป็นแรงจูงใจที่ทำให้ผู้ต้องหายิงคนที่ช่วยชีวิตพี่ชายของตัวเอง ?

แต่ที่แน่ ๆ ชาอูอินไม่เชื่อมาตั้งแต่ต้นว่าทหารเลวอย่างวอนกีชุนจะยอมสละขาตัวเองเพื่อช่วยลูกน้อง เธอเชื่อมาตลอดว่า “วีรบุรุษทุ่นระเบิด” เป็นเพียงวีรบุรุษลวงโลก เช่นเดียวกับเมื่อตอนที่เขาสร้างหลักฐานเท็จใส่ร้ายพ่อของเธอ

ต่อมาชาอูอินได้เอาคลิปแอบถ่ายให้กับโดแบมันดู คลิปนั้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่า วอนกีชุนไม่ได้เสียขาไปจริง ๆ “วีรบุรุษทุ่นระเบิด” เป็นเรื่องหลอกลวงคนเกาหลีทั้งประเทศ เป็นแต่เพียงว่า คลิปแอบถ่ายนี้เป็นหลักฐานที่ผิดกฎหมาย ไม่สามารถนำไปใช้ในศาลได้ ชาอูอินจึงต้องใช้ลูกเล่นและชั้นเชิงของอัยการทหารในการต้อนวอนกีชุนให้จนมุม

ในห้องพิจารณาคดี … ชาอูอินซักวอนกีชุนในฐานะพยาน เธอจี้ไปที่พิรุธ 3 ข้อที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์วันนั้นในเขตทุ่งระเบิด …

หนึ่ง ทำไมวันนั้นวอนกีชุนถึงไม่สั่งให้ยกเลิกภารกิจการเดินลาดตระเวนในเขตปลอดทหาร เพราะวันนั้นเป็นวันที่มีสภาพอากาศไม่ดี ยากที่จะแยกออกว่าใครเป็นใคร ทั้งที่ก่อนหน้านั้นทุกครั้งวอนกีชุนจะสั่งยกเลิกภารกิจ ?

สอง ทำไมวันนั้นวอนกีชุนถึงเดินลาดตระเวนเข้าไปในเขตทุ่นระเบิด นับตั้งแต่สงครามเกาหลีมีการคาดการณ์ว่า มีระเบิดประมาณ 2 ล้านลูกถูกฝังอยู่ในเขตปลอดทหาร จุดนั้นมันคือสถานที่ที่มีระเบิดหนาแน่นมากที่สุดในโลก ดังนั้น ใคร ๆ ก็รู้ว่าการเดินต้องเดินอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดเอาไว้เท่านั้น แต่จุดเกิดเหตุกลับเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกเขตปลอดภัย คำถามคือจะเดินเข้าไปในเขตทุ่นระเบิดทำไม ?

สาม วอนกีชุนออกมาจากเขตทุ่นระเบิดด้วยวิธีไหน ทั้งที่ตัวเองต้องทนความเจ็บปวดจากการเสียขาไปหนึ่งข้าง แล้วยังต้องคลานแบกลูกน้องที่มีน้ำหนักกว่า 80 กิโลกรัมออกมาด้วย ?

วอนกีชุนโดนชาอูอินไล่ต้อนจนตอบคำถามใด ๆ ไม่ได้เลย เขาจึงลุกจากคอกพยานและใช้ไม้ค้ำยันเดินออกห้องพิจารณาคดีไปด้วยความเดือดดาล แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเดินพ้นออกจากประตูศาล โดแบมันพร้อมด้วยนักข่าวหลายสิบคนได้มายืนดักรออยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับประกาศว่าจะรื้อคดีทุ่นระเบิดขึ้นมาสืบสวนใหม่

โดแบมันคว้าเอามีดกรีดขากางเกงด้านซ้ายของวอนกีชุนออก ก่อนที่เขาจะคว้าเอาค้อนตีเข้าไปที่ขาข้างนั้นของ “วีรบุรุษทุ่นระเบิด” อย่างแรง แต่สิ่งที่ปรากฏกลับเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม …

โดแบมันถึงกับหน้าถอดสีเมื่อได้เห็นว่า ขาข้างซ้ายของวอนกีชุนเป็นขาเทียม !!!

EP.8 ขาเทียม

โดแบมันกับชาอูอินถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย กรณีไปทุบขาเทียมและกระทำเหยียดหยามเกียรติวีรบุรุษของชาติต่อหน้าสาธารณชน โดแบมันยืดอกรับผิดชอบความผิดที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว ในฐานะที่เขาเป็นผู้บังคับบัญชาของชาอูอิน บทลงโทษคือ โดแบมันถูกสั่งพักงานเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนชาอูอินโดนทัณฑ์บนเป็นเวลา 10 วัน

ระหว่างนั้น คดีที่ค้างอยู่ในความรับผิดชอบของชาอูอิน นายทหารพระธรรมนูญจะเป็นผู้ทำคดีแทน ซึ่งการทำหน้าที่ของนายทหารพระธรรมนูญก็เป็นอย่างที่คาด พลทหารที่ยิงวอนกีชุนได้รับโทษจำคุก 5 ปี ส่วนโนแทนัมกลับโดนตัดสินจำคุก 1 เดือน แถมยังให้รอลงอาญาเอาไว้ด้วย

คนที่ดูจะเจริญก้าวหน้ามากที่สุดจากเรื่องที่เกิดก็คือ วอนกีชุน ที่ได้รับคะแนนสงสารจากประชาชนเป็นอย่างมาก ทำให้มีพรรคการเมืองต่าง ๆ รุมทาบทามเขาให้มาลงเล่นการเมือง

ด้านโดแบมันที่โดนพักงานก็ยังดำเนินการสืบคดีของวอนกีชุนต่อไปในฐานะพลเรือน ระหว่างนั้นเขาก็ได้รับโน้ตที่เขียนด้วยลายมือระบุว่า “วอนกีชุนไม่ได้ช่วย แต่เป็นคนยิงพลทหารคนนั้นต่างหาก”

โดแบมันตามหาคนที่เขียนโน้ตจนเจอ ซึ่งเป็นอดีตทหารลาดตระเวนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดในวันนั้น ความจริงคือ ในวันนั้นเป็นการเดินลาดตระเวนตามปกติ แต่สภาพอากาศมีหมอกลงจัด ระหว่างทางวอนกีชุนเกิดปวดหนัก เขาจึงสั่งให้ทุกคนพักชั่วคราว ตอนนั้นเองที่เขาเดินไปถ่ายหนักในเขตทุ่นระเบิด แต่ความตลกร้ายก็บังเกิด เมื่อทหารคนหนึ่งเห็นกวางเดินไปบริเวณที่วอนกีชุนไปถ่ายหนัก ทำให้ทหารนายนั้นกลัวว่าวอนกีชุนจะเป็นอันตรายจากการที่กวางตัวนั้นจะไปเหยียบทุ่นระเบิด เขากับทหารอีกนายจึงเดินไปหาวอนกีชุนเพื่อเตือนภัย ปรากฏว่าเสียงทุ่นระเบิดเกิดดังขึ้น “ตูม !” วอนกีชุนตกใจเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เขาเห็นทหารนายหนึ่งมุ่งมาทางเขา วอนกีชุนพยายามตะโกนถามชื่อแต่ก็ไร้เสียงตอบกลับ ด้วยความกลัวว่าเป็นทหารฝ่ายเหนือเขาจึงยิงปืนกล M-16 ในมือสวนกลับไป ผลก็คือกระสุนเข้าไปทำลายสมองของพลทหารนายนั้นจนลงไปนอนกองกับพื้น !

แล้วก็ให้บังเอิญว่า วันที่เกิดเหตุเป็นวันเดียวกับที่ท่านนายพลหญิงโนฮวายองเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลพอดิบพอดี ทำให้สถานการณ์บีบให้ท่านนายพลหญิงโนฮวายองต้องช่วยวอนกีชุน เพราะไม่เช่นนั้น ตัวเธอเองก็ต้องกระเด็นออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลที่เธอฝันมาทั้งชีวิต ทั้งที่อยู่ในตำแหน่งได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง

ท่านนายพลหญิงโนฮวายองจึงจัดฉากให้วอนกีชุนกลายเป็นวีรบุรุษทุ่นระเบิด ส่วนตัวเองก็ได้อยู่ในตำแหน่งต่อไป

โดแบมันปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ตกก็คือ ทำไมวอนกีชุนจึงขาขาด เพราะเขาได้ทำการตรวจสอบคลิปที่ชาอูอินแอบถ่ายก็ไม่มีการตัดต่อแต่อย่างใด เขาจึงคิดขึ้นได้ว่า วอนกีชุนต้องตัดขาก่อนวันขึ้นพิจารณาคดี เมื่อคิดได้เช่นนั้น โดแบมันถึงกับเอ่ยปากออกมาว่า “นี่เรากำลังต่อสู้กับปีศาจที่ร้ายกาจกว่าที่คิด”

ในตอนท้าย ภาพจึงเฉลยให้เห็นว่า คนที่ตัดขาวอนกีชุนก็คือท่านนายพลหญิงโนฮวายอง !!!

EP.9 ทุ่นระเบิดที่แท้จริง

ท่านนายพลหญิงโนฮวายองยอมรับกับทนายยงมุนกูว่า เธอเป็นคนตัดขาวอนกีชุนด้วยตัวเอง และเธอก็รู้มานานแล้วว่าชาอูอินเป็นลูกสาวของอดีตประธานบริษัท IM แต่ที่ยังปล่อยไว้เพราะต้องการรู้ว่าชาอูอินจะทำอะไรต่อไป

ระหว่างนั้น โดแบมันก็ได้เตรียมให้พยานปากเอกที่เห็นเหตุการณ์ในคดีทุ่นระเบิดออกแถลงข่าวต่อหน้าคนทั้งประเทศ คนที่เห็นว่าวอนกีชุนยิงใส่พลทหารนายนั้นที่เขตทุ่นระเบิด

แต่ระหว่างที่พยานคนนั้นกำลังเดินทางมายังสถานที่แถลงข่าว วอนกีชุนกับลูกน้องนับสิบคนได้เข้าไปขัดขวาง แล้วอุ้มพยานคนนั้นขึ้นรถตู้พาไปยังโกดังร้างแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ชาอูอินในลุคของสาวผมแดงก็เข้ามาช่วยและพาพยานคนนั้นไปงานแถลงข่าวได้สำเร็จ

เมื่อความจริงจากปากของพยานถูกเปิดเผยต่อหน้าประชาชนคนทั้งประเทศ และหลักฐาน “หัวกระสุน” ที่ผ่าตัดออกมาจากหัวของพลทหารนายนั้น ซึ่งมันไม่ใช่เศษสะเก็ดระเบิดตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ เพราะทั้งหมดเป็นการจัดฉากสร้างวีรบุรุษลวงโลกเพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง

หลังจบการแถลงข่าว มีนักข่าวตั้งคำถามกับโดแบมันเรื่องขาเทียมของวอนกีชุน แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้ ขอให้นักข่าวรออีกไม่นาน ความจริงทั้งหมดก็จะปรากฏออกมา บางทีแล้วเรื่องนี้อาจมีตัวการใหญ่ที่ชักใยบงการอยู่เบื้องหลัง

ณ จุดนี้ คนที่สติแตกมากที่สุดก็คือวอนกีชุน เขาไปหาท่านนายพลหญิงโนฮวายองพร้อมกับโวยวายไม่หยุด “ผมยอมเป็นสุนัขรับใช้ให้คุณมานานกว่า 20 ปี ทุกอย่างผมทำตามที่สั่งแม้แต่ยอมเสียขาของตัวเอง แต่ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ ผมไม่ยอมตกนรกไปคนเดียวแน่นอน” จากนั้นวอนกีชุนก็ขอให้ช่วยกู้ชื่อเสียงของเขากลับมา แต่ …

คนอย่างท่านนายพลหญิงโนฮวายองไม่มีทางยอมให้ลูกน้องมาข่มขู่ เธอจึงสั่งให้นายทหารพระธรรมนูญออกหมายจับวอนกีชุนทันที โดยอ้างว่า ที่วอนกีชุนเข้ามาพบเธอก็เพื่อสารภาพความผิด เรื่องที่ยิงพลทหารลูกน้องของตัวเองแล้วจัดฉากว่าโดนทุ่นระเบิด

แล้วในคืนเดียวกันนั้นเอง ข่าวการเสียชีวิตของวอนกีชุนก็กลายเป็นข่าวดังขึ้นมา ด้วยการจบชีวิตตัวเองด้วยอาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ โดยข่าวได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยของการฆาตกรรม และญาติก็ตัดสินใจที่จะไม่ให้ทำการชันสูตรพลิกศพ

การแถลงข่าวที่เกิดขึ้นสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสมาคมรักชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างท่านนายพลหญิงโนฮวายองกับรัฐมนตรีอีแจชิก ตรงนี้แหละที่สมาชิกเบอร์สองของสมาคมรักชาติจะเข้ามามีบทบาท นั่นก็คือ ผบ.ทบ. ฮงมูซอบ ผู้เป็นไม้เบื่อไม้เมาของท่านนายพลหญิงโนฮวายอง

ผบ.ทบ.ฮงมูซอบยกเลิกคำสั่งลงโทษทางวินัยของโดแบมันและชาอูอินทันที … โดแบมันอาศัยจังหวะนั้นเองในการเข้าหา ผบ.ทบ.ฮงมูซอบ โดยเขากล่าวว่าจะรับใช้และภักดีต่อท่าน ผบ.ทบ.ฮงมูซอบและภรรยาตลอดไป

ในตอนท้าย ภาพจึงเฉลยออกมาว่า ท่านนายพลหญิงโนฮวายองเป็นคนที่เอาปืนยิงจ่อปากวอนกีชุน แล้วจัดฉากว่าเป็นการฆ่าตัวตาย

EP.10 เป้าหมายที่สอง

เป้าหมายต่อไปของโดแบมันและชาอูอินคือ ผบ.ทบ.ฮงมูซอบ ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน ฮงมูซอบเป็นอัยการทหารที่รับผิดชอบคดีพ่อของโดแบมัน ผบ.ทบ. คนนี้เป็นคนสองบุคลิก ซึ่งเขาจะเปลี่ยนไปเป็นบุคลิกร้ายกาจทันทีเมื่อมีคนขัดคำสั่งเขา หรือจะเรียกว่าเป็น “ทหารบ้าอำนาจ” ก็ไม่ผิดนัก ซึ่งเขามักจะชอบรังแกลูกน้องตัวเอง โดยคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุก

จุดอ่อนของ ผบ.ทบ.ฮงมูซอบก็คือ การที่เขาและคนในครอบครัวนิยมใช้ความรุนแรงกับทหารรับใช้ ทำให้มีการเปลี่ยนทหารรับใช้มากจนผิดสังเกต

โดแบมันวางแผนเข้าหาท่าน ผบ.ทบ.ฮงมูซอบ และกล่าวว่า “ผมจะจงรักภักดีต่อท่าน ผบ.ทบ. ตลอดไปครับ”

โดแบมันสังเกตเห็นทหารรับใช้ภายในบ้านของฮงมูซอบมีท่าทางผิดปกติ เขาพยายามเกลี้ยกล่อมทหารรับใช้นายนั้นเอาผิด ผบ.ทบ.ฮงมูซอบ ในข้อหาใช้อำนาจรังแกลูกน้องโดยมิชอบ แต่ทว่าทหารรับใช้นายนั้นกลับปฏิเสธว่าไม่เคยโดนรังแกจากท่าน ผบ.ทบ. หรือคนในครอบครัวเลยแม้แต่นิดเดียว มันทำให้โดแบมันงงเป็นไก่ตาแตก ว่าทำไมทหารรับใช้นายนั้นถึงไม่ยอมพูดความจริง

ต่อมา ชาอูอินจึงเตือนความทรงจำของโดแบมัน ว่าแท้จริงแล้ว เมื่อปีกลายโดแบมันเคยเป็นอัยการทำคดีให้กับเพื่อนของทหารรับใช้นายนั้นในคดีโดนผู้บังคับบัญชาทำร้ายร่างกายและจิตใจ แต่โดแบมันกลับแกล้งแพ้คดี

ความจริงที่โดแบมันได้รับรู้มันทำให้เขาปวดใจยิ่งนัก เขาเคยเป็นอัยการที่รักเงินมากกว่าความถูกต้อง ทำให้ทหารคนหนึ่งทนทุกข์จนเสียชีวิตในที่สุด เขาแทบไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่า ในเวลานั้นเขาหลงตัวเองถึงขนาดคิดว่าตัวเองเป็นอัยการทหารที่ฝีมือดีที่สุดในกองทัพ แต่แท้จริงแล้วเขาก็เป็นเพียงอัยการหิวเงินคนหนึ่งก็เท่านั้น … โดแบมันนั่งดื่มอยู่คนเดียวด้วยความเศร้าใจกับสิ่งที่เขาได้ก่อเอาไว้ในอดีต ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ชาอูอินก็ได้แต่แอบมองดูเขาด้วยความเป็นห่วงอยู่ห่าง ๆ

รุ่งขึ้น โดแบมันตัดสินใจแก้ไขสิ่งที่ตัวเองเคยทำผิดพลาดเอาไว้ในอดีต เขามุ่งมั่นหาข้อมูลเพื่อเปิดโปงสิ่งที่ฮงมูซอบได้กระทำข่มเหงทหารใต้บังคับบัญชา เพื่อเป็นการไถ่โทษ

ในตอนท้าย ท่านนายพลหญิงโนฮวายองเผชิญหน้ากับโดแบมัน เธอยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกับรอยยิ้มเมื่อ 20 ปีก่อน “แกคือเด็กคนนั้นสินะ เด็กที่ฉันช่วยชีวิตเอาไว้”

EP.11 สัตว์ประหลาดเหยียบย่ำผู้ชาย

ท่านนายพลหญิงโนฮวายองมาหาโดแบมันที่ห้องทำงานด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกับรอยยิ้มเมื่อ 20 ปีก่อน “โดแบมัน แกคือเด็กคนนั้นสินะ เด็กที่ฉันช่วยชีวิตเอาไว้ … แล้วทำไมไม่เคยพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเลยล่ะ” ประโยคนี้ทำให้เขารู้ในทันทีว่าตัวตนของตัวเองถูกเปิดเผยแล้ว โดแบมันจึงยิ้มเพื่อเสแสร้งแกล้งทำเป็นมิตร ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่แสดงความนอบน้อม “ใช่ครับ ที่ไม่พูดเพราะเรื่องมันเกิดขึ้นมานานมากแล้ว แต่ผมยังรู้สึกขอบคุณที่ท่านได้ช่วยผมเอาไว้ในวันนั้น”

โดแบมันได้ข้อมูลสำคัญจากเพื่อนทหารของพ่อ ในตอนนั้นพ่อของโดแบมันพบความผิดปกติของระเบิดที่มีการจัดซื้อจัดจ้างมาใช้ในกองทัพ ทำให้ทหารฝึกหัดหลายรายต้องเสียชีวิต แต่กองทัพก็โบ้ยให้การเสียชีวิตเป็นความผิดพลาดของตัวทหารฝึกหัดเอง พ่อโดแบมันจึงเอาหลักฐานที่ยืนยันว่าระเบิดมีปัญหาไปรายงานต่อฮงมูซอบ แต่ทว่า ฮงมูซอบกลับสั่งให้เขาหยุดการสืบสวน และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่พ่อโดแบมันเป็นทหารที่รักความถูกต้อง เขาจึงขัดคำสั่งดื้อดึงที่จะสืบสวนคดีนี้ต่อไป

จุดนี้แหละที่จะไปเชื่อมโยงกับพ่อของชาอูอิน ผู้ก่อตั้งบริษัท IM ด้วยความเชี่ยวชาญทางด้านยุทโธปกรณ์ทางด้านทหาร พ่อโดแบมันจึงไปขอความช่วยเหลือ เพื่อพิสูจน์ต่อสาธารณชนว่าระเบิดผลิตมาไม่ได้มาตรฐาน

แล้วตอนนี้เองที่ชื่อของอีแจชิก (ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม) โผล่เข้ามา เพราะเขาเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดซื้อจัดจ้างระเบิดเหล่านั้น

อีแจชิกใช้ให้โนฮวายองไปเจรจากับพ่อแม่โดแบมันเพื่อให้หยุดการสืบสวน แต่โนฮวายองกลับทำเกินคำสั่ง จัดการฆ่าปิดปากซะเลย ด้วยวิธีใช้รถบรรทุกทหารขับชนประสานงา แล้วจัดฉากว่าเป็นอุบัติเหตุ ว่าที่จริงที่โนฮวายองทำไปนั้น เธอต้องการจะให้การตายของพ่อแม่โดแบมันเป็นเชือกมัดคออีแจชิก เผื่ออนาคตเรื่องเกิดปูดขึ้นมาจะได้ลากอีแจชิกไปด้วย

ภาพแฟลชแบ็กย้อนกลับเมื่อ 20 ปีก่อน ยิ่งทำให้รู้ว่าโนฮวายองมีเป้าหมายอะไร ในตอนนั้นโนฮวายองบอกกับตัวเองว่า “ฉันจะต้องเป็นสัตว์ประหลาดเหยียบย่ำพวกผู้ชาย และขึ้นไปยืนอยู่จุดสูงสุด”

ตัดภาพมาที่ยงมุนกู ที่ตอนนี้ใคร ๆ ต่างก็มองเขาเป็นเพียงประธานหุ่นเชิดบริษัท IM ให้กับท่านนายพลหญิงโนฮวายอง และตัวเขาเองก็อยากให้คนเชื่อเช่นนั้น เพราะแท้จริงแล้วเขามีแผนที่จะทำให้ตัวเองขึ้นเป็นประธานตัวจริงให้ได้ ยงมุนกูนัดเจอกับท่านรัฐมนตรีอีแจชิกเพื่อยื่นข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธได้ เขาจะใช้ IM เป็นฐานในการสนับสนุนด้านการเงินเพื่อให้ท่านรัฐมนตรีอีแจชิกต่อสู้ในสนามการเมือง … ดันดีล !

โดแบมันไปพบกับทหารรับใช้นายนั้นอีกครั้ง เขาพยายามขอโอกาสให้ได้แก้ตัวจากความผิดที่เขาทำไว้ในอดีต ในที่สุด ทหารรับใช้นายนั้นก็ตอบตกลง

เมื่อเรื่องถึงสำนักงานผู้พิทักษ์สิทธิ์ในกองทัพ จึงได้เริ่มการสืบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง และกลายเป็นดราม่า ประชาชนในโลกโซเชียลพากันวิพากษ์วิจารณ์กองทัพอย่างหนัก

หลายวันต่อมาในการพิจารณาคดี ผบ.ทบ.ฮงมูซอบ จู่ ๆ ท่านนายพลหญิงโนฮวายองก็ปรากฏตัวในฐานะพยานฝ่ายโจทก์ ท่ามกลางความแปลกใจของ ผบ.ทบ.ฮงมูซอบและทนายยงมุนกู ที่ตอนนี้นั่งอยู่ในคอกจำเลย !?

EP.12 อย่าเชื่อแค่สิ่งที่ตามองเห็น

ทหารรับใช้นายนั้นเล่าความลับที่อัดอั้นในใจให้โดแบมันฟัง ตลอดระยะเวลากว่า 6 เดือนที่เป็นทหารรับใช้ในบ้านพักของ ผบ.ทบ.ฮงมูซอบ นอกจากจะถูกใช้งานเยี่ยงทาสและโดนรังแกต่าง ๆ นานา ในทุกคืนวันอาทิตย์เวลาเที่ยงคืน เขาจะต้องให้ ผบ.ทบ.ฮงมูซอบทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง คำถามคือทำไมเขายอมทนอยู่อย่างนั้นมานานหลายเดือน นั่นก็เป็นเพราะเขาต้องการเงินไปรักษาลูกวัยสามขวบที่ป่วยเป็นโรคหัวใจตั้งแต่เกิด

การพิจาราณาคดีได้เริ่มต้นขึ้น ฝ่าย ผบ.ทบ.ฮงมูซอบและทนายยงมุนกูกดูจะกุมความได้เปรียบอยู่มาก เพราะผู้พิพากษาอยู่ฝ่ายเดียวกับ ผบ.ทบ.ฮงมูซอบ แม้ว่าโดแบมันกับชาอูอินจะมีหลักฐานแน่นหนา แต่ผู้พิพากษากลับไม่รับหลักฐานเหล่านั้น ด้วยเหตุผลที่ว่าทหารรับใช้นายนั้นมีสภาพจิตใจไม่ปกติ ทำให้เกิดการประท้วงวุ่นวายภายในศาล ผู้พิพากษาจึงเลื่อนการพิจารณาคดีออกไป

ระหว่างนั้นเอง ขณะที่ชาอูอินกำลังมืดแปดด้านกับคดี จู่ ๆ เธอก็ได้รับสายโทรศัพท์จาก ท่านนายพลหญิงโนฮวายองเรียกให้ไปหาที่ห้องทำงาน เพื่อยื่นหลักฐานในการเอาผิด ผบ.ทบ.ฮงมูซอบให้ แต่ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นคือคำพูดที่พูดกับชาอูอิน “เธออาจมองฉันเป็นศัตรู แต่สิ่งที่ตามองเห็นไม่ใช่ทุกอย่างเสมอไป ที่ฉันจะบอกก็คือมีบางอย่างที่เธอยังไม่รู้ เพราะตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ไม่อย่างนั้นเราจะมีความสัมพันธ์ที่ต่างไปจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิงเลยล่ะ” ชาอูอินได้แต่สงสัยสิ่งที่ท่านนายพลหญิงพูด

การพิจารณาคดีครั้งที่สองได้เริ่มต้นขึ้น ในครั้งนี้ท่าทีของผู้พิพากษาเปลี่ยนไปจากเดิม เนื่องจากท่านนายพลหญิงโนฮวายองมีคำสั่งโดยตรงให้พิจารณาคดีอย่างยุติธรรม ไม่เช่นนั้นจะโดนขุดเรื่องที่เขารับเงินสินบน

ชาอูอินเบิกความพยานปากเอก ทหารหญิงคนสนิทของโนฮวายอง โดยเธอเบิกความว่า เมื่อปีที่แล้วเธอถูก ผบ.ทบ.ฮงมูซอบล่วงละเมิดทางเพศและทำร้ายร่างกาย พร้อมหลักฐานทางการแพทย์ที่แน่นหนา งานนี้ ผบ.ทบ.ฮงมูซอบไม่รอด ผู้พิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก 3 ปี ส่วนคดีล่วงละเมิดทางเพศจะถูกตั้งเป็นอีกคดี

เรียกว่างานนี้ท่านนายพลหญิงโนฮวายองจัดการเสี้ยนหนามของตัวเองได้สำเร็จ

EP.13 เหตุสะเทือนขวัญที่กองสิบสี่

โดแบมันและชาอูอินดีใจที่สามารถจัดการส่ง ผบ.ทบ.ฮงมูซอบเข้าซังเตได้สำเร็จ แต่ที่น่าดีใจยิ่งกว่าคือการที่ทำให้สมาคมรักชาติเกิดรอยร้าวขึ้นภายใน นั่นเป็นผลจากการที่ท่านนายพลหญิงโนฮวายองเลือกที่จะหักหลัง ผบ.ทบ.ฮงมูซอบ ซึ่งทำให้ท่านรัฐมนตรีอีแจชิกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

ท่านรัฐมนตรีอีแจชิกเดินทางไปหาท่านนายพลหญิงโนฮวายองเพื่อจะเอาเรื่อง แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันเมื่อท่านนายพลหญิงส่งรายงานข่าวจากทำเนียบประธานาธิบดีให้รัฐมนตรีอีแจชิกดู ในรายงานข่าวระบุว่า “การกระทำอันกล้าหาญของ ผบ.พล.โนฮวายอง ที่ทำเพื่อลูกน้อง ด้วยเหตุนี้ทำให้ประชาชนไม่ออกมาเรียกร้องให้ปลดผู้นำกองทัพ ซึ่งท่านประธานาธิบดีพอใจกับการดำเนินการอย่างรวดเร็วของรัฐมนตรีอีแจชิก ที่พยายามปฏิวัติวัฒนธรรมทหาร …” พูดง่าย ๆ คือเรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็นผลดีกับท่านรัฐมนตรีอีแจชิกอย่างไม่น่าเชื่อ

ระหว่างนั้นเอง ด้วยความแค้นของ ผบ.ทบ.ฮงมูซอบ ที่ตอนนี้กลายเป็นหมาหัวเน่าและโดนถีบออกจากสมาคมรักชาติ ทำให้เขาติดต่อขอพบโดแบมันเพื่อบอกความลับของท่านนายพลหญิง ที่จัดฉากฆ่าพ่อของชาอูอิน ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้โค่นสมาคมรักชาติได้

อย่างไรก็ตาม หลักฐานต่าง ๆ ได้ตกไปอยู่ในมือของทนายยงมุนกู ส่วน X-File ซึ่งเป็นเอกสารที่พ่อของชาอูอินรวบรวมเอาไว้เพื่อเอาผิดคนในสมาคมรักชาติ ตอนนี้ได้หายสาบสูญไป

ตัดภาพมาที่กอง 14 … เพื่อนสนิทของโนแทนัมที่กอง 14 กำลังตกอยู่ในสภาวะกดดันที่โดนจ่ากลั่นแกล้งมาตลอด ความกดดันของเขาในตอนนี้ไม่ต่างจากภูเขาไฟที่กำลังระเบิด มันหนักหนาเกินกว่าที่จะทานทนได้แล้ว พลทหารหนุ่มอ้วนแว่นจึงคว้าเอาระเบิดและอาวุธปืนสงครามก่อเหตุยิงกราดเพื่อนทหาร ตอนนี้เขากลายเป็นคนสติแตกโดยสมบูรณ์แล้ว เขาออกตามไล่ล่าหาตัวจ่าเพื่อชำระแค้น เขาฆ่าทุกคนที่ขวางหน้า ยกเว้นเพียงคนเดียวนั่นก็คือโนแทนัมเพราะเป็นเพียงคนที่เดียวที่มองเขาเป็นมนุษย์ สุดท้ายจ่าก็โดนสังหารอย่างโหดเหี้ยม

ต่อมา สห. ก็บุกเข้ามาจับกุมตัว ซึ่งโนแทนัมติดร่างแหเรื่องนี้ด้วย

EP.14 มิอาจทานทนความอยุติธรรม

ท่านนายพลหญิงโนฮวายองพยายามปกปิดการบูลลี่ที่เกิดขึ้นในกองทัพ เพราะไม่ต้องการให้ตัวเองโดนปลดออกจากตำแหน่ง เธอจึงต่อรองกับโนแทนัมผู้เป็นลูกชายว่า จะเดินเรื่องปลดประจำการและคืนตำแหน่งประธานบริษัท IM ให้ แลกกับการที่โนแทนัมต้องให้การต่อศาลว่าไม่มีการกลั่นแกล้งเกิดขึ้นที่กอง 14

เมื่อการสอบสวนดำเนินไป ผู้รอดชีวิตจากเหตุสะเทือนขวัญต่างให้การตรงกันว่า ไม่มีการกลั่นแกล้งใด ๆ เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ท่านรัฐมนตรีอีแจชิกก็ใช้เหตุสะเทือนขวัญนี้บีบให้ท่านนายพลหญิงโนฮวายองออกจากตำแหน่ง โดยอ้างสัญญาที่เธอเคยรับปากเอาไว้ว่าจะลาออกถ้าลูกชายของเธอก่อเรื่องอีกครั้ง แต่สัจจะไม่มีในหมู่โจรฉันใด การยอมลงจากตำแหน่งก็ไม่มีในหมู่ผู้มีอำนาจฉันนั้น ท่านนายพลหญิงโนฮวายองจึงงัดเอาคลิปเสียงที่ทั้งสองคุยกันเพื่อขู่ และยังใช้บังคับให้ท่านรัฐมนตรีอีแจชิกทำตามคำสั่งเธอ

ด้วยเหตุนี้ ท่านรัฐมนตรีอีแจชิกที่ร่วมมือกับทนายยงมุนกู โดยเซ็นโครงการของรัฐให้กับบริษัท IM เพื่อโกงกินเงินงบประมาณ จึงได้ขอให้ทนายยงมุนกูกำจัดท่านนายพลหญิงโนฮวายองซะ … ในทางกลับกัน การเซ็นสัญญาทำโครงการรัฐผ่านบริษัท IM ทำให้ท่านนายพลหญิงโนฮวายองไม่พอใจที่ทนายยงมุนกูทำไปโดยพลการ

การสืบสวนคดียังคงดำเนินต่อไป ในที่สุดพลพลทหารผู้ก่อเหตุกราดยิงก็ยอมรับสารภาพว่า ชนวนเหตุที่ทำให้เขาก่อเหตุ เกิดจากความกดดันที่โดนจ่าและทหารคนอื่น ๆ บูลลี่กลั่นแกล้งมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

ในวันพิจารณาคดี โนแทนัมก็ได้ทำสิ่งที่ไม่คาดคิด เขาทนต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในกองทัพไม่ได้จนเอ่ยปากสารภาพออกมาต่อหน้าศาล แถมยังต่อว่าท่านนายพลหญิงโนฮวายองผู้เป็นแม่ด้วยว่า ใช้วิธีสกปรกเพื่อรักษาตำแหน่งของตัวเอง โดยไม่สนใจว่าสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นในกองทัพ ก่อนที่เขาจะโดนควบคุมตัวออกไปจากห้องพิจารณาคดี

บทสรุปของคดี ศาลพิพากษาตัดสินประหารชีวิตพลทหารผู้ก่อเหตุ

จากนั้นการสืบสวนเรื่องการทุจริตของท่านนายพลหญิงโนฮวายองก็เริ่มต้นขึ้น โดยมีโดแบมันและชาอูอินเป็นคนนำทีม

EP.15 ลูกชายที่หัวใจแตกสลาย

ในการพิจารณาคดีเพื่อเอาผิดท่านนายพลหญิงโนฮวายอง พยานปากเอกของฝ่ายอัยการก็คือโนแทนัม เขาขึ้นให้การปรักปรำแม่ของตัวเอง แต่ด้วยความที่เขามีอาการ PTSD หรืออาการช็อกหลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ทำให้คำให้การดังกล่าวขาดความน่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ตาม โดแบมันและชาอูอินก็ยังคงทำการสืบเรื่องสัญญาค้าอาวุธที่รัฐมนตรีอีแจชิกทำกับทนายยงมุนกู คู่ขนานไปกับการเกลี้ยกล่อมให้ทหารหญิงคนสนิทของท่านนายพลหญิงโนฮวายอง เป็นพยานในการเอาผิดผู้เป็นเจ้านายในคดีฆาตกรรม

ณ จุดนี้ ทนายยงมุนกูเดินเกมเต็มกำลังเพื่อให้ตัวเองก้าวขึ้นเป็นประธานบริษัท IM อย่างเป็นทางการ โดยไม่ต้องเป็นประธานหุ่นเชิดอีกต่อไป เขาติดสินบนอัยการเพื่อให้ปิดปากเรื่องการเซ็นสัญญาค้าอาวุธระหว่างบริษัท IM กับกระทรวงกลาโหม จากนั้นก็ล็อบบี้ผู้ถือหุ้นให้เลือกเขาเป็นประธานบริษัท IM แม้ว่าท่านนายพลหญิงโนฮวายองจะแสดงความไม่พอใจ แต่ทนายยงมุนกูก็งัดเอาหลักฐานการกระทำความผิดของเธอขึ้นมา และประกาศกร้าวว่านับจากนี้ไปเขาจะไม่อยู่ใต้ร่มเงาของเธออีกต่อไป

ระหว่างนั้นเอง โดแบมันก็ใช้แผนซ้อนแผน เขาไปพบกับอัยการที่ทนายยงมุนกูติดสินบน และโน้มน้าวให้มาอยู่ฝ่ายเดียวกับเขา แลกกับข้อมูลและหลักฐานที่ใช้เอาผิดรัฐมนตรีอีแจชิก ซึ่งอัยการก็ตอบตกลงเพราะมันจะเป็นคดีใหญ่ที่ไม่มีอัยการคนไหนปฏิเสธได้

ในวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัท IM วันที่ทนายยงมุนกูเฝ้ารอคอยมานาน แต่โดแบมันกำลังทำให้เป็นวันที่ยงมุนกูจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต เมื่อโดแบมันได้เปิดคลิปเสียงของทนายยงมุนกูที่พูดคุยเรื่องแผนการคอร์รัปชันงบประมาณของรัฐ หลังเปิดคลิปเสียงจนจบ อัยการก็เข้ามาลากคอทนายยงมุนกูไป ส่วนรัฐมนตรีอีแจชิกก็โดนควบคุมตัวไปสอบสวนด้วย … อย่างไรก็ตาม หลังทำการสอบสวนเสร็จทนายยงมุนกูก็ได้รับประกันตัวออกมา

ท่านนายพลหญิงโนฮวายองสั่งทหารผู้ช่วยหญิงไปเก็บชาอูอิน เพราะมองว่าชาอูอินเป็นภัยเกินกว่าที่จะให้มีชีวิตอยู่ต่อไป

ด้านโนแทนัมที่ตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลหลังจากรักษาอาการ PTSD จนอาการดีขึ้น แต่ในใจแตกสลายเกินกว่าที่หัวใจอันบอบบางของเขาจะรับไหว โนแทนัมแบกความผิดหวังที่แม่ทำเหมือนเขาเป็นเพียงเครื่องมือในการก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุด โดยไม่ได้มองเขาเป็นลูกเหมือนแม่คนอื่น ๆ

โนแทนัมเขียนจดหมายลาตายเอาไว้ให้โดแบมันและชาอูอิน พร้อมทั้ง X-File ที่บันทึกอยู่ในแฟลชไดรฟ์ จากนั้นเขาก็ไปที่บังเกอร์ที่แม่เคยขังเขาไว้พร้อมกับระเบิดมือที่ถอดสลักออก …

ท่านนายพลหญิงโนฮวายอง โดแบมัน และชาอูอิน มาที่บังเกอร์อย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย … ท่านนายพลหญิงมาถึงเป็นคนแรก เธอยืนประจันหน้าพร้อมกับฟังคำพูดที่จากปากของลูกชายที่หัวใจแตกสลาย “ขอโทษที่เกิดมาเป็นลูกแม่” พูดจบโนแทนัมก็ถอดสลักระเบิดมือที่ถืออยู่เพื่อจบชีวิตตัวเอง ทันใดนั้นโดแบมันที่เพิ่งมาถึงก็พุ่งเข้าชาร์จด้านหลังโนแทนัม ก่อนจะคว้าเอาระเบิดโยนทิ้งไป

ในขณะที่ชาอูอิน โดนทหารผู้ช่วยหญิงลั่นไกสังหาร !!!

EP.16 ตอนจบ

กระสุนที่ออกจากปากกระบอกปืนในมือของทหารผู้ช่วยหญิงพุ่งเข้าไปที่หัวไหล่ของชาอูอิน เป็นการเล็งที่ตั้งใจให้ไกลหัวใจ จากนั้นเธอก็โทร. เรียกรถฉุกเฉินให้มานำตัวชาอูอินส่งโรงพยาบาล

โนแทนัมอยู่ในอาการโคม่าเนื่องจากโดนสะเก็ดระเบิดเข้าจุดสำคัญ … ส่วนโดแบมันได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

ด้านทนายยงมุนกูก็ยังดิ้นรนกับการตามหา X-File ต่อไป แต่ดูเหมือนจะคว้าน้ำเหลว เขาจึงคิดแผนที่จะโค่นท่านนายพลหญิงโนฮวายอง โดยใช้เรื่องที่เคยตัดขาวอนกีซุน ในขณะที่ตัวเองก็หนีศาลเพราะเกรงกลัวโทษจากการตัดสินคดี แต่สุดท้ายแล้วก็โดนโดแบมันจับตัวได้ในที่สุด

คำตัดสินของศาล ลงโทษทนายยงมุนกูและรัฐมนตรีอีแจชิกจำคุกคนละ 15 ปี ด้วยข้อหาทุจริต โดยหลักฐานสำคัญที่สามารถมัดตัวคนทั้งสองก็คือ X-File

ระหว่างนั้น ชาอูอินได้แอบบันทึกเสียงคำพูดที่ท่านนายพลหญิงโนฮวายองขู่เอาชีวิตเธอ และกล่าวว่า “ยังจงซุก (ทหารผู้ช่วยหญิง) เป็นเพียงเครื่องมือที่หมดประโยชน์”

ในห้องพิจารณาคดี ท่านนายพลหญิงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และดูท่าจะชิงความได้เปรียบได้ แต่ทว่า “หมองูตายเพราะงู” เมื่อชาอูอินสามารถเกลี้ยกล่อมให้ผู้ช่วยหญิงขึ้นเป็นพยานให้การปรักปรำนายของตัวเอง โดยเปิดคลิปเสียงที่ท่านนายพลหญิงกล่าวว่ายังจงซุกเป็นเพียงเครื่องมือที่หมดประโยชน์ให้ฟัง

ไม่เพียงเท่านั้น ทนายยงมุนกูก็มาเป็นพยานในศาลอีกด้วย ทำให้พยานหลักฐานแน่นหนายากที่ท่านนายพลหญิงโนฮวายองจะดิ้นหลุด … ศาลตัดสินประหารชีวิตโนฮวายองในฐานความผิดหลายข้อหา

เวลาผ่านไป 1 ปี …

ชาอูอินได้บริษัท IM คืน โดยโนแทนัมที่รักษาตัวจนหายเป็นปกติได้โอนหุ้นทั้งหมดคืนให้ชาอูอิน และเธอก็ขึ้นนั่งตำแหน่งประธานในเวลาต่อมา

ท่านนายพลหญิงโนฮวายองใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในเรือนจำ และปฏิเสธการเข้าเยี่ยมของโนแทนัม เธอเพียงแต่อ่านจดหมายที่โนแทนัมเขียนถึง ส่วนโนแทนัมก็ทำงานที่ศูนย์ดูแลสุนัขอย่างที่เขารัก

ด้านโดแบมันก็ยังคงทำงานเป็นอัยการทหารต่อไป แม้จะได้รับการโปรโมตให้เลื่อนตำแหน่งแต่เขาก็ปฏิเสธ โดยยังคงมุ่งมั่นในการผดุงความยุติธรรมต่อไป

ในตอนท้าย โดแบมันไปหาชาอูอิน จากนั้นทั้งสองก็จุมพิตกันด้วยความรัก …

จบบริบูรณ์

Source : tvN Korea
ดู Military Prosecutor Doberman ที่ Netflix : คลิกที่นี่