Skip to content
สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ The King of Pigs (2022)

สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ The King of Pigs (2022)

สปอยล์ The King of Pigs (2022) : จุดเริ่มต้นมาจากข้อความของเพื่อนเก่าเมื่อ 20 ปีก่อน ปริศนาคดีฆาตกรรมต่อเนื่องกำลังจะเปิดเผย “ความทรงจำอันโหดร้าย” ในอดีตของพวกเขา …

คะแนน 7.5/10
สนุกไหม ? : เป็นซีรีส์เรต 18+ ที่ดำเนินเรื่องด้วยความกดดันและความเครียดตลอดทั้งเรื่อง ว่าด้วยความรุนแรงในโรงเรียนของเด็กมัธยมต้น … ถ้าคิดว่าไม่พร้อม อย่าดู !

EP.1 หน้ากากหมู

กลางดึกคืนหนึ่ง สารวัตรหญิงคังจินอา (รับบทโดย แชจองอัน) จากสถานีตำรวจซอดง เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุที่บ้านพักแห่งหนึ่ง พบหญิงสาววัยสามสิบกว่านอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นภายในห้องที่ปิดทึบ อากาศภายในห้องตลบอบอวลไปด้วยควันถ่าน ทำให้เบื้องต้นสันนิษฐานได้ว่าเป็นเหตุฆ่าตัวตาย

อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบละเอียดมากไปกว่านั้น คังจินอากลับพบว่า คดีนี้ไม่ใช่คดีฆ่าตัวตายธรรมดา ๆ ซะแล้ว แต่มันคือคดีการฆ่าตัวตายที่มีเงื่อนงำ เพราะในสถานที่เกิดเหตุตรวจสอบพบคราบอ้วก ที่เป็นของบุคคลอีกคนหนึ่งที่ได้สูดดมสารพิษของควันถ่านเข้าไป และยังพบร่องรอยการต่อสู้อีกด้วย แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่า คือบนหน้าต่างห้องนั่งเล่นมีข้อความที่เขียนด้วยลิปสติกสีแดง …

“ถึงสายสืบจองจงซอก เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ฉันฮวังคยองมันเอง นายสบายดีไหม”

หลังจากปล่อยให้เจ้าหน้าที่นิติเวชเข้าจัดการศพ สารวัตรคังจินอาก็สั่งให้ลูกน้องสืบหาประวัติของสองบุคคลที่ถูกระบุชื่อบนข้อความ …

หนึ่งคือ จองจงซอก (รับบทโดย คิมซองกยู) เรียนโรงเรียนมัธยมชินซอก ตั้งแต่ มีนาคม 2000 ถึง พฤษภาคม 2001 สาเหตุการออกคือ ย้ายโรงเรียน

สองคือ ฮวังคยองมิน (รับบทโดย คิมดงอุค) เรียนโรงเรียนมัธยมชินซอก ตั้งแต่ มีนาคม 2000 ถึง พฤษภาคม 2001 สาเหตุการออกคือ ลาออก

ข้อมูลเบื้องต้นทำให้เห็นว่าบุคคลสองคนนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี คังจินอาจึงโทร. ติดต่อไปหาสายสืบจองจงซอกในทันทีเพื่อขอเจอตัวในทันที จากนั้นเธอก็เล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้จองจงซอกฟัง “เมื่อ 5 ชั่วโมงที่แล้ว มีสามีภรรยาคู่หนึ่งพยายามฆ่าตัวตายด้วยกันในเขตพื้นที่ที่ฉันรับผิดชอบ สามีของหญิงที่ตายคือ ฮวังคยองมิน เพื่อนนักเรียนโรงเรียนมัธยมชินซอกของนาย”

จองจงซอกพยายามใช้ความคิดก่อนจะเอ่ยออกไปว่า “แสดงว่าฮวังคยองมินยังไม่ตาย ?”
“ใช่ เขาฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ หลังจากนั้นเขาก็หนีหายไปเลย”
“ตั้งแต่เรียนจบมัธยมต้น ผมก็ไม่ได้เจอ ไม่เคยติดต่อกันเลย มันผ่านมา 20 ปีแล้วนะ ตอนนี้ถึงเขาจะมายืนอยู่ตรงหน้าผมก็จำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ”

คังจินอาหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของเธอให้เขาดูรูปภาพที่เกิดเหตุ จองจงซอกมองดูรูปภาพด้วยท่าทางใช้ความคิด โดยเฉพาะข้อความที่เขียนบนหน้าต่าง คังจินอาจึงเอ่ยถึงข้อสันนิษฐานของเธอออกมา “ฉันคิดว่าข้อความนี้เป็นลายเซ็น ลายเซ็นที่ฆาตกรชอบทิ้งเอาไว้เพื่อแสดงความสำเร็จของตัวเอง” … คังจินอาไม่เชื่อว่ามันเป็นการฆ่าตัวตายธรรมดา !?

ทำไมคังจินอาถึงตั้งข้อสงสัยว่าคดีนี้มันไม่ใช่คดีฆ่าตัวตาย เพราะมันมีหลักฐานหลายอย่างที่ทำให้เธอเชื่อแบบนั้น คือร่างของภรรยามีรอยช้ำเลือดและมีร่องรอยการต่อสู้ เธอคิดว่ามันมีความเป็นได้สองอย่าง หนึ่ง ฮวังคยองมินฆ่าภรรยาแล้วจัดฉากให้เป็นการฆ่าตัวตาย หรือสอง อาจเป็นการฆ่าตัวตายแบบไม่เต็มใจ

จองจงซอกยังคงมองรูปภาพในโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น เขาสงสัยเหลือเกินว่า เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมากว่า 20 ปี รู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้เขาเป็นตำรวจสายสืบ ?

เวลาผ่านไปกว่า 8 ชั่วโมง ผลการชันสูตรพลิกศพออกมาแล้ว …

  • สาเหตุการตายเกิดจากหัวใจหยุดเต้น เนื่องจากได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์มากเกินไป (ควันถ่าน)
  • พบยานอนหลับโซลพิเดมปริมาณมากในร่างกาย (เช่นเดียวกับที่พบในคดีฆ่าตัวตายทั่วไป)
  • รอยช้ำเลือดบริเวณคอ รอยจางเกินกว่าจะเป็นการโดนรัด และส่วนอื่นของร่างกายก็ไม่มีรอย ถ้าเป็นการโดนรัดคอ ต้องมีร่องรอยการป้องกันตัวที่ชัดเจนกว่านี้
  • กระดูกซี่โครงหัก เป็นรอยแตกที่เพิ่งเกิดขึ้น

ณ จุดนี้ คังจินอาเชื่อ 99 เปอร์เซ็นต์ว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีฆ่าตัวตาย แต่เป็นคดีฆาตกรรม สวนทางกับจองจงซอกที่คิดว่ายังไม่มีหลักฐานที่บอกได้ชัดเจนขนาดนั้น การสืบสวนจึงต้องดำเนินต่อไป ทั้งสองเดินทางไปที่คลินิดจิตเวชที่ฮวังคยองมินเข้ารับการรักษา จึงทำให้รู้ว่า ฮวังคยองมินเข้ารับการรับการรักษาตั้งแต่แต่งงานกับพัคมินจู (ผู้ตาย) ใหม่ ๆ เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ด้วยอาการซึมเศร้าอย่างรุนแรง จากบาดแผลในใจที่เกิดขึ้นในวัยเด็กที่ต้องเผชิญกับความรุนแรงในครอบครัว หลังรับการรักษาทำให้อาการของเขาดีขึ้นมาก จนกระทั่ง …

เมื่อปีกลาย อาการของฮวังคยองมินก็แย่ลงอีกครั้ง ในตอนนั้น เขากับพัคมินจูเดินทางไปเยี่ยมแม่ (แม่ของฮวังคยองมิน) คืนนั้น พัคมินจูเดินลงไปที่ห้องเก็บของ เจอเข้ากับอัลบั้มรูปเก่าสมัยที่ฮวังคยองมินยังเรียนอยู่มัธยมต้น เธอจึงนั่งดูรูปเหล่านั้นด้วยความเพลิดเพลิน จังหวะนั้นเองที่ฮวังคยองมินเดินเข้ามาพอดี ณ วินาทีนั้น บาดแผลในวัยเด็กก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวเขาทันที เขาตวาดใส่ภรรยาของเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนภรรยาของเขาต้องรีบออกไปจากห้องด้วยความตกใจ

ไม่เท่านั้น ฮวังคยองมินเหลือบตาไปเห็น “หน้ากากหมู” ที่วางอยู่ในลังเก่า เขาถึงกับผวาทรุดลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น แล้วภาพหลอนบางอย่างก็ปรากฏขึ้น !

ในตอนนั้นภาพแฟลชแบ็กได้ปรากฏขึ้น เด็กชายฮวังคยองมินในวัยมัธยมต้นโดนพ่อแท้บังเกิดเกล้าใช้ความรุนแรงที่บ้าน ส่วนที่โรงเรียนก็โดนเพื่อนที่โรงเรียนบูลลี่อย่างรุนแรง เขาถูกตั้งฉายาว่า “ไอ้แมงดา” และยังโดนพวกหัวโจกบังคับให้ถอดกางเกงช่วยตัวเองให้คนอื่นดู !!!

ตัดภาพกลับมาที่ปัจจุบัน การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป แล้วความจริงก็ปรากฏเมื่อลูกน้องของคังจินอารายงานว่า สองวันก่อนเกิดเหตุ พัคมินจูไปคลินิกจิตเวชถึง 5 แห่ง และทุกแห่งได้สั่งยานอนหลับโซลพิเดมให้เธอ ที่สำคัญในวันเกิดเหตุเธอได้ใช้บัตรเครดิตที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแถวบ้าน ซึ่งเมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก็พบว่า ของสิ่งหนึ่งที่เธอซื้อก็คือ “ควันถ่าน”

จากหลักฐานที่ได้นั่นหมายความว่า พัคมินจูเป็นคนวางแผนการฆ่าตัวตาย !

ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุ พัคมินจูวางยานอนหลับในน้ำดื่มของฮวังคยองมินระหว่างการรับประทานอาหารค่ำ เมื่อเขาหมดสติ เธอก็ลากเขาเข้าไปที่ห้องที่ปิดทึบ ก่อนที่จะจุดควันถ่าน จากนั้นเธอก็กินยานอนหลับแล้วลงไปนอนข้าง ๆ เขาเพื่อที่จะตายไปด้วยกัน แต่ทว่า ความที่ฮวังคยองมินเป็นคนดื้อยานอนหลับ เพราะเขากินยาจิตเวชซึ่งมีส่วนผสมของยานอนหลับเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขารู้สึกตัวก่อน ตอนนั้นเองด้วยความตกใจที่เห็นภรรยานอนนิ่งหมดสติ เขาจึงทำการปั๊มหัวใจจนทำพัคมินจูซี่โครงหัก

EP.2 ลูกแมงดา

เริ่มต้นด้วยภาพแฟลชแบ็ก ย้อนกลับไปตอนที่ฮวังคยองมินไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลในวาระสุดท้าย พ่อในเวลานี้อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ เขาจึงขอให้ภรรยาและแม่ออกไปจากห้องเพื่อจะได้อยู่กับพ่อเพียงลำพัง และนี่คือคำพูดของฮวังคยองมินที่พูดกับพ่อที่กำลังจะจากไป …

“ธุรกิจที่คุณสร้างขึ้นมามันพังไปหมดแล้ว ในที่สุดผมก็ได้รู้ว่าชีวิตคุณมันไร้ค่าแค่ไหน ไม่มีใครเสียใจที่คุณตายหรอก ทุกคนดีใจอย่างกับได้เจออิสรภาพ การตายที่ทุกคนดีใจมันน่าจะเป็นการตายที่ดีนะ ผมอ้อนวอนต่อพระเจ้าให้คุณตายทุกคืน สุดท้ายท่านก็ตอบกลับคำขอของผม ตายซะเถอะ !”

ฮวังคยองมินเอื้อมมือไปปิดเครื่องช่วยหายใจด้วยสายตาที่เย็นชา สายตาที่ซ่อนความเจ็บปวดมาตลอดชีวิต นาทีนี้มันเหมือนได้ปลดปล่อยความเจ็บปวดที่เก็บกดมานานแสนนานให้เป็นอิสรภาพ

ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน คังจินอาและจองจงซอกยังคงสืบสวนคดีต่อไป ในวันนี้ทั้งสองไปตรวจสอบบริษัทรถแท็กซี่ที่ฮวังคยองมินเป็นเจ้าของ เป็นบริษัทแท็กซี่ที่ค่อนข้างใหม่ มีรถแท็กซี่ให้บริการประมาณ 90 คัน ทุกอย่างดูเป็นปกติ เป็นเพียงแต่ว่าฮวังคยองมินใช้ชื่อ “นัมคีชอล” เป็นนามแฝงในการทำธุรกิจแทนชื่อจริง คังจินอาตั้งคำถามกับตัวเองด้วยความสงสัยว่าทำไมเขาต้องใช้นามแฝงด้วย ?

ด้านจองจงซอกเอง เมื่อได้สืบคดีของเพื่อนเก่าในวัยเด็กก็ทำให้ภาพจำในอดีตย้อนกลับมาในหัวของเขา ภาพที่เขาเห็นฮวังคยองมินแอบไปนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวในห้องน้ำด้วยความทุกข์ทรมานจากการโดนบูลลี่ ภาพที่ฮวังคยองมินโดนเด็กหัวโจกในห้องตบหน้าเพื่อระบายความโกรธ ภาพฮวังคยองมินคลานอยู่กับพื้นห้องเป็นหมูเป็นหมา ภาพที่ฮวังคยองมินโดนเรียกว่า “ลูกแมงดา” เนื่องจากพ่อของเขาเปิดร้านบาร์คาราโอเกะ

ในเวลาเดียวกันนั้น ฮวังคยองมินเข้าไปพบกับเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่ง ที่นั่นเขาได้รับการต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี “ท่านประธานนัมคีชอล เชิญนั่งครับ”

ถ้าจะไม่ให้งง ต้องเล่าย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ตั้งแต่ต้น เพราะทั้งหมดมันเป็นแผนของฮวังคยองมินที่วางเอาไว้ตั้งแต่แรก เขาเข้าซื้อกิจการบริษัทรถแท็กซี่แห่งหนึ่งแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทรถแท็กซี่ชินซอก ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับโรงเรียนมัธยมต้นที่เขาเรียน เหมือนกับเป็นการเตือนความจำว่าการแก้แค้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ฮวังคยองมินใช้ชื่อนัมคีชอลเป็นนามแฝงเพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริง จากนั้นก็เข้าไปติดต่อกับอันจองฮี เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์เพื่อให้เป็นพาร์ตเนอร์ในการซ่อมบำรุงรถยนต์ให้เขา ซึ่งเจ้าอันจองฮีนี่แหละคือหัวโจกที่รังแกเขาในวัยเด็ก

ฮวังคยองมินขอไปดื่มที่บ้านของอันจองฮี ระหว่างดื่มกันอย่างเพลิดเพลิน ฮวังคยองมินก็แอบใส่ยานอนหลับเข้าไปในเครื่องดื่มของอันจองฮี เมื่อยานอนหลับเริ่มออกฤทธิ์ ฮวังคยองมินก็เผยตัวตนที่แท้จริงออกมา “ฉันคือฮวังคยองมินที่เคยเป็นของเล่นให้แกไง จำไม่ได้เหรอ ฉันเคยช่วยตัวเองให้แกดู แล้วแกก็หัวเราะชอบใจอย่างกับพวกโรคจิต … ฉันจะตัดไอ้นั่นของแกออก ถ้าลูกเมียแกกลับมาบ้านเมื่อไร พวกเขาจะได้เห็นแกถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ และตายไปต่อหน้าต่อตาลูกเมียของแก”

ร่างที่ไร้สติของอันจองฮีถูกทาด้วยกาวอุตสาหกรรมเอาไว้ทั่วหลัง จากนั้นก็นำร่างไปติดไว้กับผนังบ้าน แล้วความโหดเลือดสาดก็เกิดขึ้น ฮวังคยองมินใช้มีดในมือปาดเข้าไปที่แขนทั้งสองข้างของอันจองฮี ที่ขา และปาดไอ้นั่นขาดจนร่วงหล่นลงไปอยู่กับพื้น ดาบสุดท้ายปาดที่ท้องเพื่อปลิดชีวิต

คังจินอากับจองจงซอกรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้งเหตุ ทั้งสองตกตะลึงกับภาพที่เห็นเบื้องหน้า พร้อมด้วยข้อความที่เขียนด้วยเลือด …

“จงซอก ตอนพวกเราอยู่มัธยมต้น จำได้ไหม ต้องมาทำด้วยกันสิ”

EP.3 ลูกหมากับลูกหมู

ภาพอันน่าสยดสยองเบื้องหน้าทำให้จองจงซอกนึกถึงบาดแผลในใจที่เกิดขึ้นในอดีต นาทีนี้ จองจงซอกถึงกับสติแตก เขารีบวิ่งออกมาจากสถานที่เกิดเหตุ ก่อนที่เขาจะไปนั่งดื่มอยู่คนเดียวที่บาร์เพื่อให้ตัวเองลืมเรื่องที่วนเวียนอยู่ในหัว ความเมามายอาจจะช่วยให้เขาผ่านพ้นความเจ็บปวดไปได้ อย่างน้อยก็ในคืนนี้

วันต่อมา คังจินอากับจองจงซอกเดินทางไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อฟังผลชันสูตรพลิกศพเหยื่อรายล่าสุด อันจองฮี

  • สาเหตุการตายคือขาดเลือด (เสียเลือดมากเกินไป)
  • สันนิษฐานว่าคนร้ายตัดอวัยวะเพศเหยื่อเป็นอย่างสุดท้าย หมอนิติเวชให้ความเห็นว่า “คนร้ายใช้มีดกรีดให้โดนแต่หลอดเลือดดำ แต่เลี่ยงไม่ให้โดนหลอดเลือดแดง ทำให้เหยื่อเสียเลือดอย่างช้า ๆ และค่อย ๆ ตาย สันนิษฐานว่าคนร้ายนั่งดูเหยื่อทรมาน และพอถึงช่วงเวลาที่เหยื่อจะตาย ถึงตัดอวัยวะเพศของเหยื่อ”
  • พบสาร GHB (หรือรู้จักกันในชื่อยาเสียสาว) ในเลือดของผู้ตาย

หมอนิติเวชผู้ทำการผ่าศพให้ความเห็นว่า “มีความเป็นแบบแผนบนศพ กล่าวคือคนร้ายมีความรู้ทางการแพทย์และกายวิภาคเป็นอย่างดี และสาร GHB ก็เป็นสารที่คนทั่วไปหาได้ยากมาก อีกทั้งเขายังนั่งจ้องมองเหยื่อตายไปอย่างช้า ๆ จะด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบได้ เขาฟันอวัยวะเพศในตอนสุดท้าย”

จองจงซอกใช้ความคิดอยู่ชั่วเวลาหนึ่งก่อนที่เขาจะบอกกับคังจินอาว่า เมื่อตอนเด็ก อันจองฮี​ (ผู้ตาย) คุกคามทางเพศฮวังคยองมิน เขาคิดว่าการตัดอวัยวะเพศมันเป็นการชำระแค้น “ผมไม่รู้ว่าข้อความที่ฮวังคยองมินเขียนถึงผมมันหมายความว่ายังไง แต่ที่ผมมั่นใจก็คือ เขาไม่หยุดเพียงเท่านี้แน่ เพราะคนที่รังแกเขาไม่ได้มีแค่อันจองฮีเพียงคนเดียว”

ภาพแฟลชแบ็กย้อนกลับไปเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน โดยตอนนี้จะโฟกัสไปที่หัวหน้าห้องที่ชื่อ “คังมิน” เด็กบ้านรวยแถมเรียนเก่ง ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของครู คังมินที่ดูจะเป็นเด็กเรียนแต่แท้จริงแล้ว เขาเป็นเด็กเรียนดีที่ชอบบูลลี่เด็กที่อ่อนแอกว่า และฮวังคยองมินคือเด็กที่คังมินเลือกที่จะรังแกต่าง ๆ นานา

เด็กชายจองจงซอกเห็นฮวังคยองมินโดนรังแกหนักเข้า เขาก็เอ่ยปากบอกให้ฮวังคยองมินเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปฟ้องครู แต่คำตอบที่ได้รับคือ “ตอน ม.1 ฉันเคยบอกพ่อเรื่องนี้แล้ว แต่กลับโดนพ่อด่า หาว่าฉันเป็นคนอ่อนแอเลยโดนคนอื่นแกล้ง ส่วนครูก็สนใจแต่เด็กที่เรียนเก่งและมองว่า การแกล้งกันมันเป็นเรื่องของเด็ก ๆ”

วันนั้นเองมีเด็กปริศนาคนหนึ่ง นั่งอยู่ตรงขั้นบันไดตึกเรียน เขาพูดกับจองจงซอกที่เดินผ่านมาว่า “ไอ้คังมินมันเป็นแค่ลูกหมา แต่ที่ตลกก็คือพวกแกมันเป็นแค่ลูกหมู”

อย่างไรก็ตาม เด็กชายจองจงซอกก็ยังคิดว่าการบอกครูเป็นทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด เขาจึงตื่นขึ้นกลางดึก เพื่อไปหย่อนบัตรสนเท่ห์ในตู้รับร้องเรียน ซึ่งมีข้อความว่า “คังมินไม่เหมาะสมจะเป็นหัวหน้าห้อง เขาเป็นเด็กไม่ดี ขอบข่มขู่และแกล้งคนอื่น ช่วยจัดการด้วยครับ”

แต่เรื่องที่ไม่ควรเกิดมันก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อครูประจำชั้นกลับมองว่าบัตรสนเท่ห์ใบนั้นเป็นเพียงการใส่ร้ายคังมิน เมื่อเป็นเช่นนั้น คังมินจึงไปข่มขู่ฮวังคยองมินเพื่อถามว่าใครเป็นคนเขียนบัตรสนเท่ห์นั้นขึ้นมา จนเมื่อจองจงซอกจะยอมรับว่าเป็นตัวเขา ฮวังคยองมินจึงเอ่ยปากยอมรับผิดแทนว่าเขาเป็นคนเขียนเอง คังมินจึงลงโทษโดยการสั่งให้ฮวังคยองมินทำให้สิ่งที่เรียกว่า “เล่นฆ่าตัวตาย” !!!

การเล่นฆ่าตัวตายคือ คนเล่นจะใช้มือบีบคอตัวเองจนหายใจไม่ออก ทำอย่างนั้นจนกว่าจะมีคำสั่งให้หยุด WTF !!!

ตัดกลับมาปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่น ๆ ในทีมของคังจินอาต่างมองว่า จองจงซอกเป็นผู้ต้องสงสัยในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดในการฆาตกรรมของฮวังคยองมิน ในมีชื่อของเขาปรากฏอยู่ในเหตุฆาตกรรมถึงสองครั้ง เขาจึงโดนจับและถูกนำตัวมายังห้องสอบสวน แม้คังจินอาจะไม่เห็นด้วยแต่เธอก็ไม่อาจทัดทานได้ ภายในห้องสอบสวน จองจงซอกได้กล่าวขึ้นมาว่า …

“ผมคิดว่าฮวังคยองมินต้องมาจับตัวผม”

EP.4 เป้าหมายลวง

มีคำสั่งด่วนจากเบื้องบนให้ตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อคลี่คลายคดี เป็นความร่วมมือระหว่างสถานีตำรวจนครซอดง โดยมีคังจินอาเป็นตัวแทน และสถานีตำรวจนครบาลโซล โดยมีจองจงซอกเป็นตัวแทน การตามล่าตัวฮวังคยองมินจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อเป็นเช่นนั้น จองจงซอกจึงหลุดจากการเป็นผู้ต้องสงสัยในทันที

ณ แผนกคดีความรุนแรงในโรงเรียน สถานีตำรวจนครบาลโซล แผนผังบนกระดานที่มีรูปของนักเรียนชั้น ม.2/5 โรงเรียนมัธยมชินซอก รุ่นปี 2001 จำนวน 33 คน ตัดอันจองฮีที่เสียชีวิตไป กับจองจงซอกก็เหลือ 31 คน นั่นหมายความว่าเหยื่อรายต่อไปต้องเป็นหนึ่งในจำนวนนี้ ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ไปหาทั้ง 31 คนเพื่อหาว่าใครจะเป็นเหยื่อรายต่อไป

ด้านคังจินอาพุ่งเป้าไปที่ ผอ.ชเวซอกกี (อดีตครูประจำชั้น) เพราะมีเบาะแสว่าโดนขู่ฆ่าจากบุคคลปริศนา ซึ่งเธอมั่นใจว่าต้องเป็นฮวังคยองมินอย่างแน่นอน

ระหว่างนั้นชุดสืบสวนได้พบจุดผิดสังเกตของเส้นทางการเงินบางอย่างของบริษัทแท็กซี่ชินซอก มีการโอนเงินเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่องให้กับคนขับแท็กซี่คนหนึ่งของบริษัท ซึ่งมีประวัติอาชญากรรมเกี่ยวกับยาเสพติด จองจงซอกคิดว่าคนขับแท็กซี่คนนี้น่าจะเป็นคนหายา GHB หรือยาเสียสาวให้กับฮวังคยองมิน

ตอนนี้เองที่ทำให้เราได้รู้ว่า ฮวังคยองมินใช้บริษัทแท็กซี่ชินซอกเป็นแหล่งรวบรวมอาชญากร เพื่อใช้เป็นไม้เป็นมือให้แผนการชำระแค้นของเขาลุล่วง

จองจงซอกบุกไปที่ห้องพักคนขับแท็กซี่ดังกล่าว แต่คำสารภาพจากปากของคนขับแท็กซี่ทำเอาจองจงซอกถึงกับตกตะลึง เป้าหมายต่อไปคือ คังมิน (หัวหน้าห้อง) ในขณะที่เวลานั้น คังจินอาและกำลังตำรวจโดนหลอกให้พุ่งเป้าไปที่ ผอ.ชเวซอกกี !

EP.5 คิมชอล

ฮวังคยองมินเจาะยางรถของคังมินที่ลานจอดรถ จากนั้นเขาก็ขับรถแท็กซี่ดักรอคังมินที่ด้านหน้าโรงพยาบาล คังมินขึ้นรถไปโดยที่ไม่รู้แม้แต่นิดเดียวว่า คนขับรถเบื้องหน้าเป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยม

ระหว่างทาง ฮวังคยองมินได้เผยตัวตนที่แท้จริงออกมา ทำให้คังมินโต้เถียงด่าทอออกมา “นี่มันเรื่องบ้าอะไรของแกเนี่ย” แต่ทันใดนั้นเอง คุณอาจารย์หมอคังมินก็ต้องสงบปากสงบคำเงียบกริบในทันที เมื่อฮวังคยองมินให้เขาดูคลิปแอบถ่ายตอนที่คังมินเสพยาในโรงพยาบาล และในสถานที่ต่าง ๆ

ที่แท้แล้ว ฮวังคยองมินเป็นคนวางแผนให้คังมินติดยาเสพติด โดยใช้ผู้หญิงบาร์ที่คังมินชอบเป็นเหยื่อล่อ … ณ จุดนั้น คังมินไม่มีทางเลือก นอกจากทำตามที่ฮวังคยองมินบอก เพื่อแลกกับการที่คลิปอื้อฉาวของเขาจะถูกเก็บเป็นความลับ … คังมินถูกพาไปขังไว้ที่เรือยอชต์ลำหนึ่ง

ฮวังคยองมินมาพบกับจองจงซอก ทั้งสองเผชิญหน้ากันในวันนี้ วันที่อยู่กันต่างสถานะ …

“นายเป็นเพื่อนแท้คนเดียวของฉัน …” ฮวังคยองมินมองไปที่จองจงซอกด้วยสายตาที่แข็งกร้าว แต่ยังคงเคลือบไว้ด้วยความเจ็บปวด “… จริง ๆ แล้วนายต้องมาร่วมมือกับพวกเราสิ นายลืมชอลไปแล้วเหรอ ?” ชอลคือเด็กปริศนาที่นั่งอยู่ที่บันไดทางเดินขึ้นอาคารเรียนแล้วพูดกับจองจงซอกว่า “คังมินมันเป็นพวกลูกหมา แต่พวกแกมันเป็นแค่ลูกหมู”

เมื่อได้ยินชื่อ “ชอล” ทำเอาจองจงซอกถึงกับอึ้งไปในทันที จังหวะนั้นเองที่จองจงซอกได้คว้าปืนขึ้นมาเล็งไปที่ฮวังคยองมิน พร้อมกับเอ่ยปากให้มอบตัว แต่ดูเหมือนว่าฮวังคยองมินจะไม่คิดเช่นนั้น … แวบเดียว อิฐตัวหนอนก็กระแทกเข้าที่หัวของจองจงซอก !

ผ่านไปพักใหญ่ จองจงซอกได้สติฟื้นขึ้นมา เขาก็พบว่าปืนประจำตัวของเขาได้หายไปเสียแล้ว แต่เมื่อล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ กลับพบรูปถ่าย “ชอล” ณ วินาทีนั้นเอง ภาพในหัวเก่า ๆ เกี่ยวกับชอลก็ผุดขึ้นมา …

ชอล หรือ คิมชอล เป็นเด็กนักเรียนหลังห้อง นั่งโต๊ะติดกับพวกคังมิน ในมือของเขาจะถือลูกเบสบอลเอาไว้ตลอดเวลา ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร … วันนั้นวันที่จองจงซอกกับฮวังคยองมินโดนรังแกอย่างรุนแรง ชอลเห็นก็ทนไม่ไหวจึงยืนมือเข้ามาช่วย และด้วยสกิลการต่อสู้ที่เหนือกว่าเด็กมัธยม ทำให้คังมินลงไปกองอยู่กับพื้น “แกอย่ามายุ่งกับสองคนนี้อีกถ้ายังไม่อยากตาย เข้าใจมั้ย !!!” … นับแต่นั้น ทั้งสามคนก็กลายเป็นเพื่อนรักกัน กินด้วยกัน เดินด้วยกัน ไปไหนด้วยกันตลอด

EP.6 หมาหรือแมว ?

เย็นวันหนึ่งหลังเลิกเรียน ชอลพูดกับจองจงซอกและฮวังคยองมิน “ฉันจะสอนวิธีเอาชนะพวกมันให้” จากนั้นเขาก็พาไปที่โบสถ์ร้างแห่งหนึ่ง ท่ามกลางบรรยากาศหม่นทะมึนภายในที่ปราศจากแสงไฟ มีเพียงแสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องเข้ามา ชอลได้หยิบเอาหน้ากากหมูหน้าตาน่ากลัวขึ้นมาใส่ …

“พวกนายรู้ไหม หมากับหมูต่างกันตรงไหน หมาน่ะคนเห็นต่างก็พากันรักใคร่ แต่พวกหมูน่ะ คนจะเห็นคุณค่าก็ต่อเมื่อร่างของมันถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ เพื่อเป็นอาหารให้คนกิน เพราะงั้นพวกมันจึงเชื่อว่าการเพิ่มน้ำหนักเป็นสิ่งเดียวที่จะเพิ่มคุณค่าให้กับตัวมันเอง …” ชอลหัวเราะออกมาภายใต้หน้ากากหมูที่ใส่อยู่ “… พวกหมูน่ะจะโดนจับกินตอนไหนก็ไม่รู้ ในแต่ละวันมันจึงพยายามกินให้เต็มที่แล้วก็พอใจกับชีวิตไปวัน ๆ ที่ฉันจะบอกก็คือ พวกนายน่ะไม่มีวันชนะไอ้คังมินได้อยู่แล้ว เพราะมันเป็นหมาที่มีแต่คนรัก ส่วนพวกนายน่ะเป็นแค่หมูที่รอวันโดนเชือด”

ชอลคว้ามีดขึ้นมา ในขณะที่จองจงซอกกับฮวังคยองมินแสดงท่าทางตื่นกลัว “วิธีที่จะเอาชนะคืออะไรรู้มั้ย คือพวกนายต้องเป็นสัตว์ประหลาดที่ร้ายยิ่งกว่ายังไงล่ะ” !

จากนั้นชอลก็ยื่นมีดไปให้จองจงซอกเพื่อให้ฆ่าแมวตรงหน้า “นายจะเป็นสัตว์ประหลาดที่มีชีวิตรอด หรือจะโดนทรมานอย่างหมูล่ะ เลือกเอา” วินาทีนั้น จองจงซอกถึงกับหน้าถอดสีด้วยความกลัว มันต้องโหดเหี้ยมแค่ไหนถึงใช้มีดฆ่าแมวอย่างเลือดเย็นได้ …

จองจงซอกใช้มีดเล่มนั้นแทงเข้าไปที่ตัวแมวไม่ยั้ง เลือดแมวสาดกระเซ็นไปทั่วทั้งบริเวณ เพียงอึดใจจากนั้น ฮวังคยองมินก็คว้าเอามีดในมือของจองจงซอกแล้วฟันศพแมวตัวนั้นอย่างไม่ยั้ง “ฉันจะฆ่าแก” !!!

ตัดกลับมาปัจจุบัน …

ฮวังคยองมินใช้จิตวิทยาปั่นประสาทคังมินบนเรือยอชต์ ในขณะที่จองจงซอกกับทีมก็ออกตามหาตัวคังมิน ว่าที่จริงเบาะแสที่จองจงซอกได้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเบาะแสที่ฮวังคยองมินวางเอาไว้ให้ ในที่สุด จองจงซอกก็เจอเรือยอชต์ลำที่ใช้ขังคังมิน แต่ …

จังหวะนั้นเอง เสียงปืนบนเรือก็ดังขึ้นหนึ่งนัด คังมินลั่นกระสุนปืนกรอกปากจบชีวิตตัวเอง !!!

ก่อนหน้านั้น ฮวังคยองมินปล่อยคลิปคังมินเสพยาในเว็บบอร์ดของโรงพยาบาล พร้อมกับวางปืนและโทรศัพท์เอาไว้ให้คังมิน ทุกสิ่งทุกอย่างรวมถึงอนาคตของคังมินมันจบลงแล้วจริง ๆ อาจารย์หมอที่ติดยาเสพติด พ่อที่ติดยาของลูก สามีที่ติดยาของภรรยา ลูกที่ติดยาของพ่อแม่ … ความตายจึงเป็นสิ่งที่ฮวังคยองมินขีดไว้ให้คังมินต้องเลือก

EP.7 ภาพหลอน

จองจงซอกเห็นร่างคังมินนอนไร้ลมหายใจอยู่กับพื้น ด้วยฉากหลังที่เต็มไปด้วยมันสมองที่กระจายเกลื่อนพื้นและผนังเรือยอชต์ มันทำให้เขาช็อกสติแทบหลุด แผลใจในอดีตอันขมขื่นตามมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง และครั้งนี้มันหนักหนากว่าครั้งไหน ๆ

จองจงซอกจุดบุหรี่สูดควันพิษเข้าไปในปอด มวนต่อมวน มวนแล้วมวนเล่า แต่มันไม่อาจคลายใจให้เขาผ่อนคลายได้เลยแม้แต่นิดเดียว … ทันใดนั้น ภาพหลอนของ “ชอล” ก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของจองจงซอก !

คืนนั้น จองจงซอกไปนอนที่หน้าคลินิกสุขภาพจิตที่ให้คำปรึกษาฮวังคยองมิน ในตอนเช้าเขาจึงเข้าพูดคุยกับจิตแพทย์ ว่าที่จริงเขาไม่ได้ต้องการรู้ข้อมูลการรักษาของฮวังคยองมิน แต่เขาต้องการรับคำปรึกษาต่างหาก “ถ้าเริ่มเห็นภาพหลอน จะเป็นยังไงครับ ?”

จิตแพทย์หญิงมองด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจ พลางตอบด้วยน้ำเสียงที่เสนาะหู “การเห็นภาพหลอนเป็นอาการเริ่มต้นของโรคหลงผิด เกิดจากความเจ็บปวดในจิตใจที่ลืมไม่ลง มันหนักหนาจนรับไม่ไหวหากหวนกลับไปคิดถึงมันอีกครั้ง …” จิตแพทย์หญิงหยุดชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าเดิม “… จำไว้นะคะ ถ้าคุณเห็นภาพหลอนเมื่อไร อย่าคุยกับมันเด็ดขาด เพราะเมื่อไรที่คุณคุยกับมัน ภาพหลอนนั้นจะกลายเป็นความจริงขึ้นมาทันที และมันอันตรายมาก”

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จองจงซอกต้องการมากกว่าคำปรึกษาคือยากล่อมประสาท จิตแพทย์หญิงจึงจัดยาให้ พร้อมกับบ่นออกมาเล็กน้อย “คุณสองคน (ฮวังคยองมินกับจองจงซอก) นี่เหมือนกันจริง ๆ ถามอะไรก็ไม่ค่อยตอบ เอาแต่ขอยาอย่างเดียว”

หลังจากได้ยา จองจงซอกก็เข้าจับกุมพัคซองจิน ผู้จัดการบริษัทแท็กซี่ชินซอก ในข้อหาดำเนินกิจการแท็กซี่อย่างผิดกฎหมาย โดยจ้างคนขับที่ไม่มีใบอนุญาต และสั่งให้หยุดดำเนินกิจการชั่วคราว

ระหว่างการสอบปากคำ ทำให้เราได้รู้เรื่องของผู้จัดการพัคซองจิน ว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นอดีตตำรวจที่หลานสาวของเขาโดนเพื่อนบูลลี่ จนในที่สุดก็ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการกระโดดจากอพาร์ตเมนต์ โชคดีที่เธอไม่ตายแต่ก็ต้องรักษาตัวอยู่ในอาการโคม่า ในตอนนั้นเองที่ฮวังคยองมินยื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลหลานสาวของเขา ซึ่งเป็นจำนวนเงินมหาศาล

ในอีกทางหนึ่ง คังจินอาที่สงสัยในตัวของจองจงซอก เธอคิดว่าเขาอาจเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับฮวังคยองมิน เธอจึงขุดคุ้ยเรื่องต่าง ๆ โดยเริ่มจากการสอบปากคำเพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ ซึ่งทำให้ได้รู้ความจริงอันน่าตกตะลึงเกี่ยวกับ “ชอล” …

ชอลเข้าไปอัดคังมินจนเลือดสาด หลังเห็นฮวังคยองมินกับจองจงซอกโดนรังแก เหตุการณ์นั้นยุติลงด้วยการที่รุ่นพี่ ม.3 เข้ามาห้าม และไปฟ้องครูประจำชั้น … วันถัดมา แม่ของฮวังคยองมินกับจองจงซอกคุกเข่าขอโทษต่อหน้าพ่อของคังมินภายในห้องครูใหญ่ แม่ทั้งสองขอโอกาสให้ลูก ๆ ของเธอได้เรียนต่อ แต่ชอลที่เป็นคนก่อเรื่อง ไม่มีผู้ปกครองมาที่โรงเรียน

พ่อของคังมินโกรธจัด เดินเข้าไปตบหน้าชอลนับครั้งไม่ถ้วน โดยที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม หลังจากนั้นไม่กี่วัน ขณะที่นักเรียนทุกคนกำลังรวมตัวกันที่หน้าเสาธง ชอลก็ได้ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด …

ชอลขึ้นไปบนดาดฟ้าของอาคารเรียน แล้วกระโดดลงมาร่างกระแทกพื้นต่อหน้าทุกคน !!!

EP.8 สาเหตุที่ทำให้จบชีวิตคือ ?

คนที่อยู่บนยอดพีระมิดเหนือคังมิน ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของการทำให้เกิดความรุนแรงในโรงเรียนขึ้น คือ ประธานนักเรียนคิมจงบิน (รุ่นพี่ ม. 3 ในตอนนั้น) ผู้ซึ่งสร้างอิทธิพลขึ้นมาในโรงเรียน และบังคับให้คังมินกลั่นแกล้งเพื่อนนักเรียนในห้อง

ฮวังคยองมินตามหาตัวคิมจงบินจนพบ ปัจจุบันเป็นนักข่าวมือรางวัลอยู่ที่ดงจินอิลโบ แต่ที่น่าสนใจก็คือ เขาเป็นนักข่าวที่ทำข่าวความรุนแรงในโรงเรียนมากเป็นพิเศษ และยังสนับสนุนองค์กรที่มีโครงการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในโรงเรียนอีกด้วย … นั่นหมายความว่า คิมจงบินรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำในอดีต แต่ฮวังคยองมินไม่เชื่อ เขาจึงนัดเจอกับคิมจงบินเพื่อฆ่าทิ้ง

คิมจงบินในปัจจุบันแตกต่างกับคิมจงบินในวัยมัธยมอย่างสิ้นเชิง แววตาของเขาเคลือบไปด้วยความรู้สึกหม่นหมองเศร้าสร้อย มันเป็นสายตาของคนที่ใช้ชีวิตด้วยความสำนึกผิดอย่างแท้จริง และเมื่อฮวังคยองมินเผยตัวตนและถามว่าเขาจำ​ “ชอล” ได้ไหม ? คิมจงบินก็ตอบกลับไปว่า “ผมไม่เคยลืมเลยแม้วินาทีเดียว คิมชอล หลังจากเหตุการณ์นั้นผมรู้สึกผิดมาตลอดชีวิต ถ้าผมสามารถช่วยชีวิตของเขาได้ในวันนั้น แม้จะต้องขายวิญญาณของตัวเองผมก็จะทำ”

จากเดิมที่ฮวังคยองมินตั้งใจฆ่าคิมจงบินทิ้งเสียตรงนี้ แต่เมื่อได้เห็นแววและคำพูดที่แสดงความรู้สึกผิดจากใจจริง เขาก็เปลี่ยนใจ “ฉันเกลียดแกถึงขนาดที่อยากฉีกร่างแกออกเป็นชิ้น ๆ เพราะแกอยู่บนยอดสุดของความเลวทรามต่ำช้าที่เกิดขึ้นกับฉันและเพื่อน ๆ”

คิมจงบินพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาจากเบ้า ก่อนที่จะเดินไปอยู่เบื้องหน้าฮวังคยองมินแล้วก็คุกเข่าลง “ถึงมันจะสายไปมาก แต่ผมก็อยากขอโทษจากใจจริง ตอนนั้นผมได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ขอโทษจริง ๆ ครับ”

ระหว่างที่คิมจงบินก้มหน้าคุกเข่าสำนึกผิดอยู่นั้น ฮวังคยองบินได้หยิบสมุดบันทึกที่หน้าปกเขียนว่า “ราชาหมู” (The King of Pigs) ยื่นให้คิมจงบิน “ในนี้คือสิ่งที่พวกแกทำกับฉันเมื่อ 20 ปีก่อน ฉันต้องการให้แกเขียนเรื่องที่ฉันต้องเจอในนี้ให้คนทั้งโลกได้รับรู้ … ที่สำคัญคือ แกต้องเขียนว่าทำไมชอลถึงตาย ตายได้ยังไง เขียนให้ละเอียดที่สุด ซึ่งแกจะต้องไปถามจากจองจงซอก เพราะเขาเป็นคนรู้เรื่องการตายของชอลดีที่สุด และนี่คือสิ่งเดียวที่แกจะทำเพื่อชดใช้ความผิดที่แกก่อเอาไว้ได้”

ตัดกลับมาที่จองจงซอก เขายังคงจำรูบิกที่เกรอะกรังไปด้วยเลือดของคังมินได้ (รูบิกที่ฮวังคยองมินตั้งใจวางเอาไว้ในเรือยอชต์) รูบิกอันนั้นมันเป็นของคิมจงบิน เขาจึงยกกำลังตำรวจไปบุกที่สำนักข่าวดงจินอิลโบเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม แต่ทว่า เมื่อเขาได้เจอกับคิมจงบินพร้อมกับคำถามที่ว่า “อะไรคือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ชอลเลือกที่จะจบชีวิตแบบนั้น ? … ความจริงที่ถูกซ่อนเอาไว้ ผมต้องให้โลกรู้ความจริงให้ได้” จองจงซอกถึงกับสั่งลูกน้องให้กลับทันที !!?

จองจงซอกท่าทางตื่นกลัวเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินคำถามนั้น ทำไม ? ความจริงที่เขาเก็บซ่อนไว้มันคืออะไรกันนะ ?

EP.9 ถูกใช้เป็นทาส

คังจินอาติดรูป “ชอล” เอาไว้บนบอร์ดแผนผังการสืบสวน จองจงซอกมาเห็นก็เกิดอาการไม่พอใจขึ้นมาทันที เขาอ้างว่าไม่มีประโยชน์ที่จะสืบสวนเรื่องของคนที่ตายไปแล้วเมื่อ 20 ปีก่อนจากเหตุความรุนแรงในโรงเรียน แต่คังจินอาก็กล่าวว่า เธอต้องการสืบให้รู้ว่าอะไรกันแน่ที่ชอลต้องการทำก่อนตาย เพราะสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ฮวังคยองมินกำลังทำแทนชอลให้สำเร็จ “ฉันต้องการรู้ว่าอะไรเป็นชนวนเหตุของคดีว่ามันเริ่มต้นที่ตรงไหน”

คังจินอารู้ได้ในทันทีจากเซนส์ความเป็นตำรวจว่า จองจงซอกกำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งเธอต้องรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไรกันแน่

ระหว่างนั้น ฮวังคยองมินก็วางแผนจัดการล้างแค้นกับ “พัคชานยอง” เด็กแว่นที่ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่ …

สมัยที่พัคชานยองเป็นนักเรียนชั้น ม.2 เขามักจะไรท์แผ่นซีดีหนังโป๊มาขายให้เพื่อน ด้วยความกลัวจะโดนแกล้งและเอาเรื่องนี้ไปฟ้องครู เขาจึงยอมให้คังมินไถเงิน และยอมถูกใช้เป็น “ทาส” ความหมายของการยอมเป็นทาสก็คือ ทำตามคำสั่งของคังมิน และคำสั่งนั้นก็คือการทำร้ายจองจงซอกและฮวังคยองมินโดยใช้เครื่องช็อตไฟฟ้า

เมื่อพัคชานยองโตขึ้นมา เขาสร้างตัวตนขึ้นมาในชื่อ “ด็อกพัค” โดยใช้ดาร์กเว็บเป็นสื่อกลางในการจ้างผู้คนให้มาเป็นทาส ทาสที่ทำร้ายคนตามคำสั่งของเขา … มันเป็นการกระทำที่เรียกว่าโรคจิตอย่างแท้จริง

ฮวังคยองมินจับตัวพัคชานยองมาขังเอาไว้ เขาตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาลกับคำถามที่ทำเอาฝ่ายตรงข้ามถึงกับตกตะลึง “แกทำอย่างนั้นกับชอลทำไม !!?”

EP.10 ราชาหมู

คังจินอาดูบัญชีทรัพย์สินของฮวังคยองมิน จนไปสะดุดตาเข้ากับสถานที่แห่งหนึ่ง จึงเดินทางไปตรวจสอบเพียงคนเดียว ที่นั่นมีหลักฐานเอกสารหลายอย่างของฮวังคยองมิน รวมถึงแผนที่แผนผังในการก่อเหตุ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สมุดบันทึกที่หน้าปกเขียนว่า “ราชาหมู เล่ม B” (The King of Pigs B) … คังจินอาค่อย ๆ เปิดอ่านด้วยความสนใจ เนื้อหาเล่าเรื่องเกี่ยวกับชอล ช่วงก่อนที่เขาจะเสียชีวิต …

ชอลเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่น พ่อออกไปทำงานและหายไปโดยติดต่อไม่ได้อีกเลยตั้งแต่เขาอายุได้เพียง 6 ขวบ ส่วนแม่ก็ทำงานกลางคืนเป็นเด็กนั่งดริ๊งค์ที่ร้านของพ่อฮวังคยองมิน ชอลจึงเติบโตขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ว่าอนาคตของตัวเองอยู่ตรงไหน สิ่งเดียวที่เขารู้คือต้องแสดงออกให้คนอื่นมองว่าเขาเข้มแข็ง ดังนั้น สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการที่คนมองว่าเขาเป็นคนอ่อนแอน่าสงสาร

วันนั้นเป็นวันที่ชอลถูกยกจากพวกหมู (เด็กที่โดนรังแก) ให้เป็นราชาของพวกหมู คือวันที่เขาเข้าไปช่วยฮวังคยองมินและจองจงซอกจากการโดนรังแก ด้วยสกิลการต่อสู้ที่เกินอายุ ทำให้เขาสามารถจัดการอัดพวกคังมินและรุ่นพี่ ม. 3 (ปัจจุบันคือนักข่าวคิมจงบิน) ลงไปนอนกองกับพื้น ชัยชนะในครั้งนี้ทำให้พวกหมูไม่ต้องกลัวที่จะโดนรังแกอีกต่อไป

ชอลถูกยกเป็นราชาหมู แต่มีอยู่คนหนึ่งที่เทิดทูนชอลมากกว่านั้นก็คือ จองจงซอก ที่มองชอลเป็นเหมือนพระเจ้า … คำพูด การกระทำ ทุกการเคลื่อนไหวของชอลมีอิทธิพลกับจองจงซอกเป็นอย่างมาก

กระทั่งวันหนึ่ง สิ่งที่ชอลไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อตำรวจมาหาเขากับแม่ที่บ้านเพื่อแจ้งข่าวการตายของพ่อ พ่อที่หายไปนานกว่า 8 ปี พ่อตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการกินยาพิษ แน่นอนว่าชอลเสียใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็เก็บความเสียใจนั้นเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ผ่านใบหน้าอันแข็งกร้าว

ทีนี้ พัคชานยองก็คิดแผนที่จะเอาคืนชอล คังมินเห็นด้วยกับแผนนั้นทันที แผนคือการประกาศข่าวเรื่องเสียพ่อของชอลให้ทุกคนในโรงเรียนได้รับรู้ และเปิดให้มีการบริจาคเพื่อช่วยเหลือค่าทำศพ ครูประจำชั้นให้เพื่อนร่วมชั้นเข้าไปกอดชอลและกล่าวแสดงความเสียใจ … ใช่ มันเป็นเรื่องที่ดี แต่มันไม่ใช่สำหรับชอล เพราะเขาเกลียดการที่คนอื่นมองเขาเป็นคนน่าสงสารมากที่สุดในชีวิต ชอลโกรธจัด ตะโกนด่าทอทุกคนไม่เว้นแม้แต่ครูประจำชั้น ก่อนจะเตะโต๊ะเก้าอี้จนล้มระเนระนาดแล้วเดินออกจากห้องเรียนไปด้วยความโมโห

ในเย็นวันนั้นที่โบสถ์ร้าง ชอลได้บอกกับจองจงซอกและฮวังคยองมินว่า “ฉันจะฆ่าตัวตายต่อหน้าทุกคน ตอนที่ทุกคนไปรวมตัวกันที่สนาม ฉันจะกระโดดลงมาจากดาดฟ้าโรงเรียนต่อหน้าไอ้พวกสารเลวนั่น … ฉันจะไม่มีวันยอมให้ชีวิตฉันเป็นเหมือนหมูตัวอื่น ๆ หรอก ฉันจะทำให้ทุกครั้งที่พวกมันนึกถึงฉันด้วยความหวาดกลัวไปชั่วชีวิต แม้แต่ในฝันฉันก็จะตามไปหลอกหลอนพวกมัน” ฮวังคยองมินได้ยินสิ่งที่ชอลพูดถึงกับแสดงออกด้วยท่าทางหวาดกลัว ตรงกันข้าม จองจงซอกกับมองว่ามันเป็นการตัดสินใจที่น่ายกย่อง

อย่างไรก็ตาม ใจคืนนั้น ชอลแอบเห็นแม่ร้องไห้อยู่ในห้องเพียงลำพัง ณ วินาทีนั้น เขาตัดสินใจยกเลิกแผนการในทันที เขาจึงเอาเรื่องนี้ไปบอกกับจองจงซอก “ฉันเปลี่ยนแผน ฉันจะไม่กระโดดลงมาจริง ๆ ฉันคิดว่าแค่นี้ก็ทำให้พวกมันกลัวจนไม่กล้ามายุ่งเราแล้วล่ะ”

แทนที่จองจงซอกจะดีใจ แต่สีหน้าของเขาแสดงออกมาชัดเจนว่าผิดหวัง เขาได้แต่คิดว่า “พระเจ้าอย่างนาย ทำไมถึงเลือกทำสิ่งที่ง่ายและธรรมดาแบบนี้ล่ะ”

เสียงตามสายประกาศให้เด็กทุกคนไปรวมตัวกันที่สนาม ชอลขึ้นไปบนดาดฟ้าทำท่าจะกระโดดลงมา ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่ชอลกำลังจะทำ … ชอลยังคงยืนอยู่อย่างนั้น แต่ …

แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จองจงซอกผลักชอลตกลงไปต่อหน้าต่อตาฮวังคยองมินจ้องมองด้วยความตกตะลึง …​

จองจงซอกเป็นคนฆ่าชอล !!!

EP.11 เปิดเผยความจริงให้โลกรู้

การตายอย่างน่าอนาถของพัคชานยอง หรืออาชญากรฉายา ด็อกพัค กลายเป็นข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจ เพราะนอกจากถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมจากการโดนไฟฟ้าช็อต เขายังเป็นอาชญากรที่น่ารังเกียจที่ตำรวจตามล่าตัวมานาน ทำให้ผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติลงมาดูคดีนี้ด้วยตัวเอง และได้จัดแถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี โดยมีนักข่าวเข้าร่วมนับร้อยชีวิต

ในเวลาเดียวกันนั้น ฮวังคยองมินถือเงินสดเต็มกระเป๋าเอาไปให้แม่ของชอล ก่อนที่เขาจะนั่งรถแท็กซี่ออกไป โดยมีจุดหมายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ฮวังคยองมินปรากฏตัวขึ้นในงานแถลงข่าว ณ นาทีนั้น นักข่าวทุกคนที่อยู่ในห้องต่างกรูกันเข้าไปหาฮวังคยองมิน … เสียงนักข่าวคนหนึ่งดังขึ้นมา “คุณเป็นฆ่าด็อกพัคจริงเหรอครับ ?” … ฮวังคยองมินตอบด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย “ใช่ครับ ผมเป็นคนฆ่าเขาเอง นอกจากเขาแล้ว อันจองฮีกับคังมินที่ตายไปก่อนหน้าก็เป็นฝีมือผม”

เสียงนักข่าวหญิงยิงคำถามขึ้นมาอีก “ทำไมถึงฆ่าคะ ?” ฮวังคยองมินตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเช่นเดิม “พวกเขาเป็นผู้กระทำความรุนแรงในโรงเรียน พวกเขาคุกคามทางเพศผม และทำร้ายร่างกายผมมาตลอด”

นักข่าวยังคงยิงคำถามต่อเนื่อง “ทำไมคุณถึงเข้ามอบตัวครับ ?” … ฮวังคยองมินตอบคำถามนี้ด้วยน้ำเสียงที่เน้นหนักเป็นพิเศษ เหมือนกับเป็นคำถามที่เขาต้องการตอบมากที่สุด “เพื่อเปิดเผยความจริงที่เกิดขึ้นในวันนั้น …” แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ จองจงซอกก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกุญแจมือ และพาตัวฮวังคยองมินออกไปจากกลุ่มนักข่าว

จองจงซอกตอนนี้คล้ายกับคนสติหลุดไปหมดแล้ว อะไรกันแน่นะที่เขาพยายามปกปิดเอาไว้ หรือมันจะเกี่ยวกับการตายของชอล !?

ในห้องสอบสวน ฮวังคยองมินร้องขอให้คนสืบสวนเป็นจองจงซอก และขอให้เป็นการพูดคุยแบบส่วนตัว …

“จงซอก หยุดเถอะ เปิดเผยความจริงให้โลกรู้ได้แล้ว”
“นายพูดเรื่องอะไร ?”
“วันนั้นฉันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดบนดาดฟ้า ฉันเห็นนายฆ่าชอล นายทำมันโดยที่ไม่รู้สึกลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันยังรู้อีกด้วยว่านายเขียนจดหมายลาตายของซอลขึ้นมา แล้วเอาไปวางไว้ที่โบสถ์ร้าง นายทำอย่างนั้นทำไม !!”

ระหว่างนั้น คังจินอาก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทั้งหมดแล้ว เธอไปพบกับจองจงซอกพร้อมกับขู่ว่าจะเอาผิดเขา โดยใช้จดหมายลาตายของชอล ที่เขาเป็นปลอมมันขึ้นมา และสมุดบันทึกเหตุการณ์ (ราชาหมู เล่ม B) พร้อมทั้งพยานผู้เห็นเป็นการซึ่งก็คือฮวังคยองมิน

เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ จองจงซอกรู้ดีว่าทางเดียวที่เขาจะรอดพ้นจากความผิดในอดีตได้ก็คือต้องกำจัดฮวังคยองมินทิ้ง

จองจงซอกออกอุบายหลอกผู้บังคับบัญชาว่ามีเหยื่ออีกคนที่ฮวังคยองมินขังเอาไว้บนภูเขาอูจี “เขาต้องการพาผมไปคนเดียว” … จองจงซอกพาตัวฮวังคยองมินขึ้นรถ SUV ขนาดกลาง โดยใส่กุญแจมือไว้กับมือจับที่เบาะด้านหลัง

ฮวังคยองมินยังคงมีสีหน้าที่เรียบเฉย โดยไม่มีท่าทีแปลกใจแม้แต่น้อย เพราะเขาคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วว่า จองจงซอกต้องเลือกวิธีกำจัดเขาทิ้ง จังหวะนั้นเองที่รถกำลังพุ่งทะยานขึ้นไปบนเขา จองจงซอกก็ตัดสินใจหักพวงมาลัยบังคับให้รถพุ่งตกลงไปสู่แม่น้ำเบื้องล่าง … ขณะที่รถกำลังจมลงสู่ก้นทะเล จองจงซอกก็พาตัวขึ้นสู่ผิวน้ำได้สำเร็จ ทิ้งให้ฮวังคยองมินติดอยู่ในรถเพียงลำพัง

EP.12 ตอนจบ

พัคซองจินที่ตามมากระโดดลงน้ำไปช่วยฮวังคยองมินที่ติดอยู่ในรถออกมาได้สำเร็จ หลังจากนั้น ฮวังคยองมินก็ได้บอกกับพัคซองจินให้ดำเนินตามแผนในขั้นตอนสุดท้าย

กลางดึกคืนนั้น ฮวังคยองมินกลับไปที่โรงเรียนมัธยมชินซอก สถานที่ที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด และเขาตั้งใจจะใช้สถานที่นี้เป็นจุดจบของเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน … จองจงซอกตามฮวังคยองมินมาที่ดาดฟ้าของโรงเรียน ที่เดียวกับที่ชอลโดนจองจงซอกผลัก ฮวังคยองมินเอากุญแจมือที่อยู่ที่ข้อมือของเขาใส่อีกด้านเข้ากับข้อมือของจองจงซอก แล้วเขาก็กระโดดจากดาดฟ้า

ร่างของจองจงซอกกับฮวังคยองมินกระแทกพื้นซีเมนต์ด้านล่างอย่างแรง ทั้งสองตายคาที่ จุดเดียวกับที่ชอลเอาจบชีวิต

จองจงซอกได้รับเกียรติจากการเสียชีวิตในหน้าที่ และถูกสดุดีในฐานะตำรวจที่จับฆาตกรต่อเนื่องฮวังคยองมินได้

ในตอนท้าย ภาพได้แสดงให้เห็นมุมสดใสของเด็ก ๆ ที่แม้ว่าทั้งเรื่องจะปูให้เด็ก ๆ มีแต่ความรุนแรง แต่จริง ๆ พวกเขาก็ยังเป็นเด็กที่สดใส ที่มีรอยยิ้มแห่งความบริสุทธิ์

จบบริบูรณ์

Source : TVING Korea