Skip to content

สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ EVE (2022)

สปอยล์ซีรีส์เกาหลี EVE : เมื่อเด็กหญิงคนหนึ่งถูกพรากทุกอย่างไป เธอรู้ตัวว่าชีวิตนี้ไม่อาจพานพบความสุขได้อีกต่อไป เธอจึงตัดสินใจพาตัวเองเข้าสู่เส้นทางแห่งหายนะ ด้วยไฟแค้นแผดเผาทำลายทุกสิ่ง …

EP.1 ลากเข้ากองไฟที่แผดเผา

ภายในงานแถลงข่าวฉลองยอดส่งออก 110,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.8 ล้านล้านบาท) ของ LY Group โดยท่านประธานคังยุนกยอม (รับบทโดย พัคบยองอึน) บุคคลที่รวยที่สุดในเกาหลี กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นต่อหน้านักข่าวหลายสิบชีวิตที่อยู่เบื้องหน้า “ยอดการส่งออกของเราในปีนี้ นับเป็นสถิติทางเศรษฐกิจของเกาหลี”

เวลาเดียวกันนั้น มีข่าวฉาวเรื่องที่คังยุนกยอมมีเมียน้อยถูกปล่อยออกมา จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต ในขณะที่นักสืบในโลกโซเชียลต่างพยายามสืบว่า เมียน้อยของเขาคือใคร ?

งานแถลงข่าวจบลง ประธานคังยุนกยอมโค้งต่อหน้าทุกคนด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยและเย็นชา ก่อนที่จะก้าวเท้ายาว ๆ เดินลงจากเวที พร้อมด้วยกองทัพนักข่าวที่กรูกันเข้ามาสัมภาษณ์ถึงข่าวฉาวที่เกิดขึ้น …

“ข่าวที่ว่าท่านประธานมีเมียน้อยเป็นเรื่องจริงมั้ยคะ ?”

“คุณจะพูดอะไรกับประชาชนถึงข่าวที่ออกมาบ้าง ?”

แต่ไม่ว่านักข่าวจะยิงคำถามอะไรออกไป คังยุนกยอมก็ไม่ปริปากตอบคำถามเลยแม้แต่นิดเดียว เขารีบเดินออกจากสถานที่จัดแถลงข่าวเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แล้วภาพก็ตัดมาให้เห็นคังยุนกยอมกำลังสวมกอดหญิงสาวคนหนึ่งอย่างแนบแน่น หญิงสาวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ หญิงสาวที่ได้ชื่อว่า “เมียน้อย” (อีราเอล รับบทโดย ซอเยจี) !!!

3 เดือนก่อนหน้า …

ฮันพันโร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้มีอิทธิพลและมีจิตใจอันเหี้ยมโหด เขามักเลือกวิธีกำจัดคนทรยศด้วยวิธีที่โหดร้าย

ครั้งหนึ่ง มีคนเอาเรื่องที่ฮันพันโรกระทำความผิดไปฟ้องอัยการ เมื่อเขาจับตัวคนคนนั้นได้ ฮันพันโรสั่งให้ลูกน้องสาดเลือดทั่วร่างของชายเคราะห์ร้าย ก่อนจะปล่อยสุนัขล่าเนื้อออกมาขย้ำ

ฮันพันโรมีลูกสาวชื่อ ฮันโซรา (รับบทโดย ยูซอน) เป็นภรรยาของคังยุนกยอม ทั้งสองมีลูกสาวตัวน้อยวัยอนุบาลชื่อ ดาบี

แน่นอนว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ฮันโซรามีนิสัยเย่อหยิ่งเอาแต่ใจตัวเอง คิดว่าตัวเองสูงกว่าคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ทุกสิ่งอย่างต้องอยู่ภายใต้การคอนโทรล และถ้าไม่พอใจล่ะก็ แม่จะเหวี่ยงจะวีนออกมาทันที

วันนั้นเป็นวันปฐมนิเทศของโรงเรียนอนุบาลรียัน ซึ่งเป็นโรงเรียนชั้นนำระดับโลก คังยุนกยอมกับฮันโซราเดินทางมางานเช่นกันในฐานะผู้ปกครองของดาบี

การแสดงบนเวทีได้เริ่มขึ้น คังยุนกยองมีสีหน้าตื่นเต้นเมื่อได้เห็นแบนโดเนียน เครื่องดนตรีแทงโก้ แต่สิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้นยิ่งกว่าก็คือ สาวนักเต้นบนเวทีที่มีชื่อว่า อีราเอล ชื่อที่มีความหมายว่า “สมบัติของทวยเทพ”

อีราเอลคือใคร ?

เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อราว 13 ปีก่อน ตอนนั้นอีราเอลอายุได้เพียง 15 ปี พ่อของเธอโดนลูกน้องของฮันพันโรบีบบังคับให้เซ็นเอกสารยอมรับผิดในข้อหาการโจรกรรมข้อมูลทางเทคโนโลยี แต่ไม่ว่าจะโดนซ้อมแค่ไหนโดนทรมานแค่ไหนเขาก็ไม่ยอมเซ็น “จะให้ผมเซ็นได้ยังไง ในเมื่อผมไม่ได้เป็นคนทำ”

อีราเอลได้แต่คุกเข่าร้องไห้อยู่เคียงข้างแม่มองดูพ่อโดนซ้อมอยู่อย่างนั้น สุดท้ายแล้วพ่อของเธอก็โดนทรมานจนตาย หลังจากนั้น บริษัทของพ่อเธอก็ตกเป็นของ LY Group ส่วนตัวเธอก็โดนบังคับให้เซ็นเอกสารปฏิเสธการรับมรดกทั้งหมด

จากนั้น อีราเอลและแม่ได้ไปขอความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากซออึนพยอง (รับบทโดย อีซังยอบ) ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถคัดง้างอำนาจของฮันพันโรได้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเขาเป็นแค่ทนายความตัวเล็ก ๆ ที่ไร้อำนาจ

ในตอนนั้น สิ่งเดียวที่ซออึนพยองพอจะทำได้ก็คือ ขอทุนจากสมาคมทนายความเพื่อส่งอีราเอลไปเรียนต่อที่อเมริกา และทิ้งทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลัง … ไม่นานนัก แม่ของเธอก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย นับแต่นั้น เรื่องราวของคนทั้งสองก็ค่อย ๆ หายไปจากความทรงจำของซออึนพยอง

เหตุการณ์นี้ได้สร้างแรงผลักดันให้ซออึนพยองรู้ว่า ทนายความที่ไร้อำนาจไม่สามารถช่วยเหลือผู้คนได้ เวลาต่อมาเขาจึงทุ่มเททุกสิ่งอย่างเพื่อให้ตัวเองได้มาซึ่งตำแหน่ง ส.ส. อย่างเช่นในปัจจุบัน

และเหตุการณ์นี้อีกเช่นกันที่ทำให้อีราเอลสาบานกับตัวเองเอาไว้ว่า “เมื่อเวลาผ่านไปโลกทั้งโลกจะลืมฉัน แต่วันหนึ่งความทุกข์ของพวกมันจะปรากฏต่อหน้าทุกคน” !

กุญแจสู่ทางลัดคือหัวใจ

อีราเอลกลับมาเพื่อแก้แค้น หากเป็นแต่เพียงใบหน้าอันสวยงามเคลือบด้วยรอยยิ้ม เป็นการพรางความคั่งแค้นเอาไว้ไม่มีใครรู้ว่าเธอต้องเจ็บปวดเพียงใด ทุกข์ใจเพียงใดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต

นอกจากอีราเอลมาในงานปฐมนิเทศของโรงเรียนอนุบาลรียันในฐานะนักแสดงบนเวทีแล้ว เธอยังมาในฐานะผู้ปกครองของโบรัม ลูกสาวตัวน้อยวัยกำลังน่ารักที่เรียนในห้องรอยัล

หลังจบการแสดง อีราเอลตั้งใจทำสร้อยข้อมือหล่น เพื่อให้คังยุนกยองเก็บเอามาคืน เวลาเดียวกันนั้นเอง เธอก็ได้ชวนสามีของเธอที่เพิ่งเดินทางมาถึง ไปมีความสัมพันธ์กันในหัองพักนักแสดงหญิง ห้องที่ไม่มีแม้แต่ล็อก

จังหวะเดียวกันนั้นเอง คังยุนกยอมก็เดินเอาสร้อยข้อมือมาคืน เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปเท่านั้นแหละ ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำเอาเขาถึงกับตกตะลึง ในขณะที่หญิงสาวก็จ้องตาเขาไม่กะพริบ ขณะที่ตัวเธอกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งรับความเร่าร้อนของผู้เป็นสามี

ณ จุดนี้ คังยุนกยอมตกอยู่ในบ่วงเสน่หาที่อีราเอลวางเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว …

“ชีวิตผู้ดีอย่างพวกคุณมันอยู่ไกลเกินเอื้อม แต่กุญแจที่ไขไปสู่ทางลัดนั่นคือหัวใจของคุณ ฉันจะลากพวกคุณทุกคนเข้ากองไฟที่แผดเผาฉัน”

EP.2 สลัดภาพนั้นออกไปไม่ได้เลย

อีราเอลส่งพัสดุเป็นเงินสดจำนวนมากให้กับซออึนพยอง พร้อมด้วยกระดาษโน้ตเล็ก ๆ ที่มีข้อความว่า “เงินจำนวนนี้เป็นเงินที่ฉันเคยให้สัญญาว่า จะตอบแทนคืนให้เป็นสิบเท่า”

ถ้าไม่ได้รับพัสดุและข้อความนี้ ซออึนพยองคงจะลืมเด็กสาวที่ชื่ออีราเอลไปแล้ว เพราะหลังจากส่งเธอไปอเมริกาก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย แต่เมื่อได้รับพัสดุเขาจึงเริ่มออกตามหา ที่น่าแปลกก็คือเขาไม่พบประวัติการเดินทางเข้าประเทศ อีกทั้งบัตรประชาชนของอีราเอลและแม่ก็หมดอายุไปแล้ว !?

ประธานหุ่นเชิด

แม้คนทั้งโลกจะเข้าใจว่าคังยุนกยอมคือประธาน LY Group แต่แท้จริงแล้วเจ้าของตัวจริงคือฮันพันโร เมื่อมีปัญหาเรื่องข่าวฉาวขึ้น ฮันพันโรจึงตั้งลูกน้องคนสนิท (คนที่สังหารพ่ออีราเอล) ขึ้นนั่งตำแหน่งรองประธาน เนื่องจากกลัวว่าคังยุนกยอมจะฮุบ LY Group เอาไว้ซะเอง

จุดนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับคังยุนกยอม แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่เห็นด้วย เขาก็ไม่สามารถคัดค้านหรือโต้เถียงอะไรได้เลยแม้แต่นิดเดียว

เชื้อเพลิงพิศวาส

อีราเอลวางแผนทำให้ฮันโซราทะเลาะกับผู้ปกครองของเด็กรายหนึ่ง ด้วยความโกรธ เธอจึงตบไปที่หน้าคุณครูอย่างแรง ที่ไม่เข้าข้างเธอในฐานะผู้บริจาครายใหญ่ และเป็นคนออกเงินสร้างอาคารให้โรงเรียนแห่งนี้ เรื่องราวบานปลายใหญ่โต เพราะฝ่ายที่ถูกกระทำก็ไม่ยอม อีราเอลจึงขอเสนอตัวเข้าไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ให้

และด้วยข้ออ้างนี้เอง อีราเอลจึงนัดคังยุนกยอมให้มาพบที่โรงเรียนสอนบัลเลต์ของเธอ เพื่อปรับความเข้าใจกับผู้ปกครองคนอื่น ๆ กับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ …

แต่คังยุนกยอมไม่สนใจสิ่งที่อีราเอลพูดเลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่เขาสนใจและจับจ้องคือใบหน้าของเธอ พร้อมกับวาร์ปบทรักอันเร่าร้อนระหว่างเธอกับสามีที่ห้องพักนักแสดงหญิงในวันนั้น

ดาบีขอไปเรียนบัลเลต์กับโบรัม (ลูกสาวของอีราเอล) ซึ่งคังยุนกยอมอนุญาต ทำให้อีราเอลกับคังยุนกยอมได้มีเวลาใกล้ชิดกัน ที่สำคัญมันทำให้เชื้อไฟปรารถนาในตัวเขามันลุกโชนทุกครั้งที่ได้เจอกับเธอ เขาจึงไปรับดาบีที่โรงเรียนสอนบัลเลต์ด้วยตัวเองทุกครั้ง

แล้ววันเชื่อนแตกก็มาถึง เมื่ออีราเอลชวนคังยุนกยอมเต้นแทงโก้ด้วยกัน ความใกล้ชิดจากเนื้อสัมผัสเนื้อ ไฟราคะในตัวเขาถูกจุดจนไม่อาจควบคุมได้แล้ว … คืนนั้นเอง คังยุนกยอมจำต้องปลอดปล่อยอารมณ์ด้วยการร่วมรักกับฮันโซรา แต่ระหว่างนั้นเขากลับเห็นใบหน้าของภรรยาเป็นอีราเอล

ระหว่างนั้น ภาพจะแสดงให้ได้เห็นว่า นี่เป็นเซ็กซ์ครั้งแรกในรอบ 5 ปีระหว่างคังยุนกยอมกับฮันโซรา มันเป็นช่วงเวลาที่เธอรอคอยจากสามีมานานแสนนาน โดยช่วงเวลาที่ผ่านมา ฮันโซรามักจะแอบไปมีความสัมพันธ์กับหนุ่มบอดี้การ์ดเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ปรารถนาของตัวเอง

ห้องลับ

ด้วยความบังเอิญ ซออึนพยองเห็นอีราเอลกำลังเดินจูงมือโบรัมไปโรงเรียน เขาจำได้ในทันทีว่าคือเธอแม้ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เจอจะเป็นเมื่อสิบสามปีที่แล้วก็ตาม เขามั่นใจอย่างนั้น แต่เมื่อเขาเข้าไปทัก เธอกลับปฏิเสธว่าไม่รู้จักเขา และแนะนำตัวว่าเธอชื่อคิมซอนบิน แต่ไม่ว่าหญิงสาวจะพูดอย่างไร เขาก็เชื่อมั่นว่าเธอคืออีราเอล

ภาพตัดมาให้เห็นห้องลับที่ใช้เป็นวอรูมที่อยู่ในบ้านของอีราเอล ภายในห้องเต็มไปด้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และข้อมูลจำนวนมาก ข้อมูลที่ใช้เพื่อแก้แค้น

EP.3 ผู้ชายที่กำลังวิ่งหนีตัวเอง

แม้อีราเอลจะแนะนำตัวเองว่าชื่อ “คิมซอนบิน” (ชื่อที่เธอใช้ในปัจจุบันเพื่อปิดบังอดีต) แต่ซออึนพยองก็มั่นใจเกินร้อยว่าคืออีราเอล เป็นเพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องปลอมตัวเป็นคนอื่น เขาจึงสั่งให้ลูกน้องไปตามสืบประวัติครอบครัวของเธอ

ข้อมูลที่ซออึนพยองได้รับก็คือ อีราเอลแต่งงานกับจางจินอุคเมื่อ 3 ปีก่อน ส่วนลูกสาววัย 5 ขวบเป็นลูกที่เกิดจากภรรยาคนแรก แต่ที่น่าแปลกประหลาดก็คือ จางจินอุคเป็นคนที่มีส่วนในการโกงบริษัทของพ่อเธอ แล้วนำไปควบรวมกับ LY Group … ข้อมูลที่ได้มานี้ทำให้ซออึนพยองรู้ได้ในทันทีว่า อีราเอลกำลังกลับมาเพื่อล้างแค้นคนที่ทำลายชีวิตเธอเมื่อ 13 ปีก่อน

อีราเอลใช้เสน่ห์มารยาทำให้ฮันโซราไว้วางใจ ถึงขนาดเชิญเธอและสามีไปร่วมปาร์ตี้ของคังยุนกยอมที่วิลล่าส่วนตัว

ภายในงานปาร์ตี้ อีราเอลพยายามเข้าหาคังยุนกยอม เธอร่วมเล่นไพ่ “เท็กซัสโฮลเอ็ม” กับฮันโซราและคังยุนกยอม เมื่อมาถึงตาหนึ่ง จู่ ๆ อีราเอลก็ออลอินหมดหน้าตักโดยที่ยังไม่ได้เปิดดูหน้าไพ่ของตัวเองเลย เธอกล่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มแฝงความเจ้าเล่ห์ “ฉันขอออลอินหมดหน้าตักแบบไม่ดูไพ่ค่ะ … ถ้าไม่ทุ่มหมดตัว เกมก็ไม่มีวันจบ” แขกที่มาร่วมงานต่างโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น

ชั่วเวลาผ่านไปหลายวินาที ฮันโซราตัดสินใจออลอินตามอีราเอล “ฉันเอาด้วย” ก่อนที่คังยุนกยอมจะออลอินด้วยเช่นเดียวกัน “หมดหน้าตัก”

มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะชนะ …​ ฮันโซราหงายไพ่เป็นคนแรก เธอมี 2 คู่ คังยุนกยอมหงายเป็นคนที่สอง เขาได้เห่าเอซ (ฟูลเฮาส์) … แน่นอนว่าถ้าเป็นช่วงเวลาปกติเขาต้องเป็นผู้ชนะเงินเดิมพันไปแล้ว แต่มันไม่ใช่สำหรับตานี้ อีราเอลเปิดไฟของเธอขึ้นมา โฟร์คิงส์ !!!

บ้าไปแล้วจริง ๆ เห่าเอซเจอโฟร์คิงส์กิน

ระหว่างนั้นเองที่คังยุนกยอมเริ่มรู้สึกถึงอันตรายในตัวอีราเอล ในตอนนี้เองที่เขาพยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้รู้สึกอะไรกับเธอมากเกินไปกว่านี้ “ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณเลย อย่าเข้าใกล้ผมมากไปกว่านี้” แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะอีราเอลรู้ดีว่า ผู้ชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเธอคนนี้กำลังวิ่งหนีความรู้สึกตัวเองอยู่ “ท่านประธานไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันจริง ๆ เหรอคะ แต่ทำไมฉันรู้สึกว่าท่านประธานกำลังวิ่งหนีฉันอยู่ล่ะ”

EP.4 หลงใหลไปกับการยั่วยวน

ความไว้ใจของฮันโซราที่มีต่ออีราเอลเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงช่วงเวลาที่ฮันโซรากำลังต้องการเพื่อนคู่คิด หลังจากได้รับความกังวลใจจากแรงกดดันที่เกิดขึ้นในพิธีรำลึก (พิธีไหว้บรรพบุรุษ) ของบ้านคังยุนกยอม

เรื่องมันมีอยู่ว่า พ่อของคังยุนกยอมเอ่ยปากเรื่องอยากได้ทายาทออกมา “ฉันไม่สนใจว่าจะเป็นใคร แต่พวกแกสองคนต้องมีหลานชายให้ฉัน”

เงื่อนไขก็คือระหว่างพี่ชายกับคังยุนกยอม ใครได้ลูกชายก่อน พ่อจะยกหุ้นส่วนของท่านให้ทั้งหมด … ปัญหาคืออายุฮันโซราปาเข้าไป 45 แล้วนี่สิ !!!

ผู้หญิงวัย 45 ปีอย่างฮันโซราถ้าต้องการมีลูก สิ่งเดียวที่เธอคิดออกก็คือการทำศัลยกรรมทำสาว แต่เมื่อฮันโซราเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับอีราเอล เธอกลับได้รับคำแนะนำที่ดีอย่างเหลือเชื่อ นั่นคือการแนะนำให้ฮันโซราเต้นแทงโก้ …

“การเต้นแทงโก้ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อภายในและความยีดหยุ่นของผิว ส่วนนักเต้นก็จะได้สัมผัสร่างกายกัน มันจะช่วยพลังให้ความสัมพันธ์ ผู้หญิงบางคนตั้งท้องได้ ทั้ง ๆ ที่หมอวินิจฉัยว่าเป็นหมันด้วยซ้ำ” ฮันโซราเชื่ออีราเอลในทันที

อีราเอลสอนให้ฮันโซราเต้นแทงโก้ แต่แท้จริงแล้ว มันเหมือนเป็นการปลุกความรู้สึกอันเร่าร้อนของฮันโซราให้ลุกโชนเสียมากกว่า การได้สัมผัสใกล้ชิดในอ้อมกอดของคู่เต้นหนุ่ม ทำให้เธออารมณ์แตกกระเจิงอย่างแท้จริง ในตอนนั้นเอง ฮันโซราได้โทร. นัดบอดี้การ์ดหนุ่มคู่ขาเพื่อปลดเปลื้องอารมณ์

ลูกนอกสมรส

ระหว่างที่ซออึนพยองได้รับเชิญมาที่โรงเรียนอนุบาลรียัน เขาได้เล่าเรื่องในวัยเด็กของเขาที่ไม่มีใครรู้ให้อีราเอลฟังว่า เขาเป็นเด็กกำพร้าที่ได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากพ่ออีราเอล “ในสายตาของผมแล้ว ท่านเป็นเหมือนพ่อแท้ ๆ ของผม … แม้ตอนนี้ท่านได้จากไปแล้ว แต่ผมกำลังตามหาลูกสาวของท่านที่ชื่ออีราเอล อย่างน้อยผมก็ต้องการตอบแทนให้ลูกสาวท่าน”

อีราเอลพยายามตัดบท เพราะไม่ต้องการเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง แต่ซออึนพยองรู้อยู่แล้วว่าหญิงสาวที่เขาคุยด้วยคนนี้คืออีราเอล เขาจึงกล่าวต่อ “ผมมีเรื่องเกี่ยวกับคังยุนกยอมบอกกับคุณ” จากนั้นเขาก็ยื่นเอกสารให้

ในเอกสารระบุว่า คังยุนกยอมเป็นลูกนอกสมรสที่มีแม่เป็นคนรับใช้ !!! (แม่ของคังยุนกยอมโดนสังหารแล้วจัดฉากว่าเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ จากนั้นเขาก็ถูกเลี้ยงเหมือนลูกภรรยาหลวง)

หมายความว่า ? โดยปกติแล้วคนเกาหลีจะไม่ยอมยกบริษัทให้ลูกนอกสมรส นั่นหมายความว่าคังยุนกยอมจะไม่ได้เป็นเจ้าของ (ผู้ถือหุ้นใหญ่) LY Group ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น แผนของอีราเอลที่วางเอาไว้เพื่อทำลาย LY Group ก็จะล้มเหลวไม่เป็นท่า

ซออึนพยองพยายามเตือนอีราเอลว่าคังยุนกยอมเป็นคนอันตรายกว่าที่เธอคิด เวลาเดียวกันนั้นเอง ซออึนพยองเกิดเห็นรอยสักที่ไหล่ด้านซ้ายของอีราเอล มันเป็นรอยสักที่สักเพื่อปิดบังรอยแผลเป็นที่เกิดจากการโดนทำร้ายเมื่อ 13 ปีก่อน เขาจำรอยแผลนั้นได้ดี “อีราเอล ได้โปรดอย่าทรมานตัวเองด้วยความแค้นต่อไปอีกเลย มันจะทำให้เจ็บปวดมากไปกว่าเดิม”

อีราเอลมองซออึนพยองด้วยสายตาที่เย็นชา พร้อมกับเอ่ยปากออกไปว่า “บางทีการทำให้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดอาจจะต้องทำให้ตัวเองเจ็บปวดยิ่งกว่า” แน่นอนว่าซออึนพยองกล่าวไปด้วยความเป็นห่วง แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาก็จะคอยช่วยและปกป้องเธอเสมอ

หลงใหลไปกับการยั่วยวน

ในคืนนั้น คังยุนกยอมไปหาอีราเอลที่ห้องแต่งตัวของนักแสดงหญิงที่คลับ ก่อนที่เธอจะขึ้นทำการแสดงบนเวที “ถ้าผมเกิดหลงใหลไปกับการยั่วยวนของคุณมันจะเกิดอะไรขึ้นรู้ไหม ผมก็จะทำกับคุณเหมือนคุณเป็นผู้หญิงชั้นต่ำ แต่ผมจะให้โอกาสคุณก้าวออกไปจากผม เพื่อที่จะไม่ต้องพบจุดจบเหมือนกับสาวใช้ผู้จากไปอย่างน่าอนาถ”

แต่ดูเหมือนว่าอีราเอลจะไม่สนใจคำพูดที่ออกจากปากของคังยุนกยอมแม้แต่นิดเดียว เธอก้าวไปหาเขา พร้อมกับโถมตัวเข้าหาเขาด้วยรอยจูบอันเร่าร้อนที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา …

“ฉันไม่ไปไหนหรอกค่ะ ฉันต้องการคุณ“

EP.5 หมาที่นั่งรอเจ้าของ

อีราเอลยั่วยวนคังยุนกยอมอย่างสุดตัว เธอพร้อมยอมมอบกายพลีใจให้เขา แต่ดูเหมือนว่ารอยจูบอันร้อนแรงที่เธอทำกับเขานั้นจะยังไม่พอที่จะทำลายตบะของเขาได้ คังยันกยอมผลักอีราเอลลงไม่นั่งกองอยู่กับพื้น จากนั้นคำพูดเหยียดหยามก็พลั่งพลูออกจากปาก …

“คนอย่างเธอกล้าดียังไงมายุ่งกับฉัน จำไว้ เมื่อฉันบอกให้นั่งคุกเข่ารอก็จงรออยู่อย่างนั้น เธอต้องรอเหมือนหมารอเจ้าของ”

แม้แผนการยั่วยวนคังยุนกยอมยังไม่สำเร็จ แต่แผนการอื่นยังคงดำเนินต่อไป …

อีราเอลอาสาเป็นคนขับรถพาฮันโซราไปที่บ้านของฮันพันโร ที่นั่นเธอได้แอบติดตั้งเครื่องดักฟังเอาไว้ และมันทำให้เธอได้รู้ว่า ฮันพันโรตั้งใจจะให้สินบน ส.ส.ซออึนพยองเป็นเงินก้อนโต เพื่อดึงเอามาเป็นพวก เพราะความที่ ส.ส.ซออีนพยองเป็นนักการเมืองหนุ่ม ยังมีช่วงชีวิตที่โลดแล่นอยู่ในวงการเมืองอีกนานหลายสิบปี ทำให้การลงทุนครั้งนี้ในสายตาของฮันพันโรถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่า

ในงานเลี้ยงสุดหรูของ CL อีราเอลทำหน้าที่เป็นล่ามภาษาอิตาเลียนให้การสนทนาระหว่าง ส.ส.ซออึนพยองกับท่านประธานจีโอวานนี เธอแต่งตัวในชุดเดรสเปิดอกอย่างเต็มที่เพื่อยั่วยวนทุกสายตา โดยเฉพาะสายตาของคังยุนกยอม แต่ดูเหมือนว่าความเย้ายวนของเธอจะไปเข้าตาพี่ชายของคังยุนกยอมเช่นกัน จึงมีการถูกเนื้อต้องตัวในลักษณะเป็นการคุกคามทางเพศ เป็นเพียงแต่อีราเอลยอมให้มันเกิดขึ้น เพราะเธอต้องการให้แรงความรู้สึกของคังยุนกยอมพลุ่งพล่าน ซึ่งมันก็ได้ผลอย่างน่าเหลือเชื่อ

คังยุนกยอมเข้ามาไล่พี่ชายให้กลับบ้าน จนเกิดการทะเลาะกัน … จังหวะนั้นเอง อีราเอลเอ่ยกับคังยุนกยอมว่า “ที่คุณบอกให้ฉันรอคุณเหมือนหมาน่ะ ตอนนี้ฉันไม่สนใจคุณแล้วค่ะ …” สายตาของอีราเอลช่างเย็นชาแต่แฝงไปด้วยพลัง “… ถ้าต้องการฉัน ก็จงอ้อนวอนฉัน เพราะต่อจากนี้ไปฉันคือเจ้านาย ไม่ใช่คุณอีกต่อไป”

อีราเอลสอดนามบัตรสีดำใบเล็ก ๆ เอาไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทของคังยุนกยอม “มาเจอฉันในที่ที่ฉันเลือก ในวันเกิดของภรรยาคุณ … นี่เป็นคำสั่ง และเป็นโอกาสสุดท้ายของคุณที่จะได้ฉัน” ไม่น่าเชื่อว่าเสียงอันแผ่วเบาของหญิงสาวจะสะกดไม่ให้ประธาน LY Group ผู้ยิ่งใหญ่เอ่ยปากเป็นคำพูดออกมาแม้สักคำเดียว

สำหรับฮันโซราแล้ว ของขวัญวันเกิดที่เธออยากได้มากที่สุดสำหรับปีนี้ คือการที่ได้อยู่กันสองต่อสองกับคังยุนกยองที่ห้องสวีตของโรงแรมสุดหรู เธอต้องการให้ผู้เป็นสามีบรรเลงเพลงรักกับเธอทั้งวันทั้งคืน เหนือสิ่งอื่นใด เธอต้องการจะมีลูกชายตามที่พ่อสามีต้องการ แต่ดูเหมือนว่าความต้องการของเธออยู่ในแผนของอีราเอล ที่ต้องการให้มันพังทลายไปไม่เป็นท่า

คังยุนกยอมสั่งยกเลิกการจองห้องสวีตอย่างกะทันหัน และเขาปิดโทรศัพท์เพื่อตัดการติดต่อ จากนั้นเขาก็ตัดสินใจไปหาอีราเอลตามสถานที่ที่นัดหมาย ณ จุดนี้ ฮันโซราสติแตก มันเป็นวันเกิดที่แย่ที่สุดเท่าที่เธอประสบพบเจอ

ในอีกทางหนึ่ง คังยุนกยอมกำลังควบรถสปอร์ตสีขาวของเขาไปหาอีราเอล ในหัวของเขาเต็มไปด้วยคำพูดของหญิงสาว “ถ้าคุณมา คุณก็จะได้ตัวฉัน”

อีราเอลแต่งตัวต้อนรับการมาของคังยุนกยอม เธอมั่นใจว่าเขาต้องมา ทั้งสองเข้าสวมกอดกันด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า ในคืนนั้นเองทั้งสองก็ได้มีสัมพันธ์กันสุดแรงปรารถนา ในขณะที่ฮันโซราได้แต่โวยวายร้องไห้อย่างโดดเดี่ยวในวันเกิดของตัวเอง

EP.6 ขอเพียงคุณอยู่เคียงข้าง

คังยุนกยอมมีสัมพันธ์กับอีราเอลและนอนอยู่กับเธอทั้งคืนด้วยความอ่อนเพลีย ในตอนเช้าก่อนจากกัน เขาได้มอบสร้อยเพชรราคาแพงให้กับเธอ “แม้แต่อัญมณีที่เปล่งประกายที่สุด ยังเทียบกับคุณไม่ได้เลย” และเขาก็ได้มอบโทรศัพท์เอาไว้ใช้ติดต่อกันเป็นการส่วนตัว

คังยุนกยอมกลับมาบ้านก็เจอกับสภาพบ้านแทบไม่ต่างไปจากสนามรบ ฮันโซราโวยวายและทำร้ายร่างกายแม่บ้านและเลขาส่วนตัวของคังยุนกยอม ทั้งสองจึงโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ในตอนนั้นเองเขาได้แต่ใช้ข้ออ้างต่าง ๆ นานาสร้างความชอบธรรมให้กับความเหลวแหลกของตัวเอง

แผนการของอีราเอลเข้าใกล้ไปทุกที อีราเอลได้แฮกเข้าโทรศัพท์ของคังยุนกยอมได้สำเร็จตั้งแต่เมื่อคืน นับแต่นี้ ทุกสิ่งที่ออกจากปากของคังยุนกยอมจะเข้าหูของอีราเอล ส่วนเครื่องดักฟังที่เธอติดตั้งเอาไว้ที่บ้านของฮันพันโร ก็ทำเธอรับรู้การเคลื่อนไหวและแผนการทั้งหมด

ตอนนี้ฮันโซราไม่ต่างไปจากคนสิ้นสติ เธอใช้ค้อนทุบข้าวของภายในบ้านจนพังทลายไปทั้งหมด บรรยากาศภายในบ้านตอนนี้ไม่แตกต่างไปจากนรกเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ที่น่าสงสารมากที่สุดคือลูกสาวตัวน้อยของฮันโซรากับคังยุนกยอม ที่ต้องมาแบกรับความบ้าที่เกิดจากแม่และพ่อผู้ไม่เอาไหน …

แม่ผู้หุนหันพลันแล่นวางอำนาจกับผู้ที่ต่ำต้อยกว่า พ่อผู้หลงในกามราคะจนทำให้ครอบครัวพังทลาย

ในคืนนั้นเอง หลังฮันโซรานอนพักสงบสติอารมณ์ลงแล้ว อีราเอลกับคังยุนกยอมก็ได้มาพบกันที่รังรักบ้านลับของพวกเขา เธอได้ทำอาหารให้เขาทาน มันเป็นโมเมนต์ที่ทำให้เขารู้สึกถึงความสุขอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ได้สารภาพเป็นครั้งแรกว่า เขาลังเลที่จะเข้าหาเธอมาตลอดเพราะเขากลัวจะตกหลุมรักเธอ แล้วทั้งสองก็โอบกอดกันด้วยความรัก (หรือบางทีอาจจะเป็นเพียงความหลงที่เกิดจากความใคร่ ?)

สิ่งที่ทำให้ก้าวต่อไปได้

วันต่อมา หลังจากฮันโซราสภาพจิตใจดีขึ้น ได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างนำพาให้เธอเล่าเรื่องวิธีการกำจัดศัตรูในอดีต ซึ่งเป็นหญิงสาวสองคนเพื่อให้ได้คังยุนกยอมเป็นสามี และหนึ่งในนั้น (น่าจะเป็น) แม่ของอีราเอล !

เมื่อได้ยินเช่นนั้น อีราเอลต้องพยายามควบคุมอารมณ์อย่างหนัก ทั้งที่ในใจของเธอมีแต่เพลิงไฟแห่งความแค้นลุกโชน … ในวันเดียวกันนั้นเอง อีราเอลจึงนัด ส.ส.ซออึนพยองให้มาหาเพื่อสอบถามเรื่องราวการหายตัวไปของแม่ และดูเหมือนข้อมูลที่ได้จะทำให้เธอเข่าทรุดล้มทั้งยืนไปนั่งกองอยู่กับพื้น พร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด “ฉันแค่หวังให้แม่ยังมีชีวิตอยู่ และก็ได้แต่คิดว่าสักวันฉันจะได้เจอแม่อีกสักครั้ง นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันก้าวต่อไปได้”

ยึดทุกอย่างมาเป็นของตัวเอง

ตัดภาพมาที่คังยุนกยอม ที่ตอนนี้นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าพ่อหลังจากโดนตบหน้าอย่างแรง พ่อที่กำลังโกรธด้วยเหตุที่เขาปล่อยให้ฮันพันโรในฐานะพ่อตาเข้ามายุ่งวุ่นวายกับธุรกิจห้างสรรพสินค้า ซึ่งพ่อได้เตรียมไว้ให้กับลูกชายคนโต ด้วยเหตุนี้เองคังยุนกยอมจึงถูกบังคับให้เซ็นเอกสารสละสิทธิ์ในมรดกทั้งหมด …

“ทายาทของตระกูลนี้คือคังชีกยอม (ลูกชายคนโต) ฉันไว้ใจแกไม่ได้อีกต่อไป และฉันก็คาดเดาความคิดของพ่อตากับเมียแกไม่ได้เช่นกัน … แม่แกเป็นไพร่ชั้นต่ำ ตัวแกก็ไม่ต่างกัน แกเป็นลูกของคนรับใช้ คิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติเป็นประธานอย่างนั้นเหรอ ที่ฉันยอมให้แกขึ้นเป็นประธานก็เพราะต้องการให้แกคอยช่วยเหลือชีกยอม พี่ชายที่ไร้ความสามารถของแก ไม่ใช่ให้แกมายึดทุกอย่างของเขาไป !”

แต่คังยุนกยอมไม่ยอมทำตามคำสั่งของพ่อ เขาหนีออกจากที่นั่นไป !

คังยุนกยอมมาพบกับอีราเอลหลังการแสดงบนเวที เขาบอกกับเธอว่า เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ครอบครองทุกสิ่ง และพร้อมจะทำลายพ่อตัวเอง พ่อตาหรือแม้แต่ภรรยาของตัวเอง “… ขอเพียงคุณอยู่เคียงข้าง ไม่ว่าอะไรผมก็ทำได้”

อีราเอลตอบตกลงทันที “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณ”

EP.7 ร้องขอความตาย

คังยุนกยอมใช้มุกเดิม ๆ ในการเลี่ยงที่จะใกล้ชิดกับฮันโซรา โดยอ้างว่ามีงานด่วนต้องรีบไปจัดการ แต่แท้จริงแล้วเขาไปหาอีราเอลที่บ้านลับ ซึ่งมันถูกเรียกว่า “บ้านกุหลาบ”

อีราเอลให้คำปรึกษาคังยุนกยอมในเรื่องแผนการครอบครองหุ้นของบริษัท อีกทั้งยังเป็นที่ปรึกษาทางใจ เธอแสดงความเห็นอกเห็นใจเขาที่รู้สึกโดดเดี่ยวและเปลี่ยวเหงามาตั้งแต่เด็ก “คุณคงเหงาและโดดเดี่ยวมากเลยสินะ ที่ต้องใช้ชีวิตโดยที่ไม่สามารถไว้ใจใครได้เลย” ตั้งแต่เด็กเขาไม่สามารถไว้วางใจใครได้เลยจริง ๆ แม้แต่พ่อแท้ ๆ ของตัวเอง … จากนั้นพวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันที่นั่นสองต่อสองทั้งคืน

อีราเอลคิดแผนที่จะล้างแค้นฮันโซราเอาไว้แล้ว เธอบ่นพึมพำออกมาด้วยความแค้น “ฉันจะทำให้เธอ (ฮันโซรา) ฆ่าตัวตายด้วยวิธีที่ไร้ความปรานี ถึงเวลานั้นเธอจะต้องร้องขอความตาย” … อะไรคือสิ่งที่จะทำให้ฮันโซราเจ็บปวดขนาดต้องอ้อนวอนร้องขอความตาย มันคืออะไรกันนะ ?

ระหว่างนั้น อีราเอลได้เพาะเชื้อแห่งความสงสัยเข้าไปในหัวฮันโวราว่าคังยุนกยอมมีเมียน้อย เธอใส่ความสงสัยนี้เอาไว้ในหัวของฮันโซราเรียบร้อยแล้ว ในตอนแรกฮันโซราไม่เชื่อและไม่เคยคิดว่าสามีของเธอจะมีผู้หญิงอื่น แต่อีราเอลก็ทำให้ความไม่เชื่อกลายเป็นความเชื่อได้สำเร็จ จากนั้น อีราเอลก็เสนอตัวว่าจะช่วยสืบเรื่องนี้ให้

อีราเอลกับฮันโซราบุกเข้าไปที่ห้องทำงานของคังยุนกยอมเพื่อหาหลักฐาน หลังจากค้นหากันไปพักใหญ่ก็ไม่พบอะไร อีราเอลจึงเรียกฮันโซราให้มาดูรอยอายชาโดว์ที่ติดอยู่ที่เสื้อแจ็กเกตของคังยุนกยอม ซึ่งเป็นรอยอายชาโดว์ที่เธอแอบทำเอาไว้ตั้งแต่คืนที่อยู่กับคังยุนกยอมที่บ้านลับ …

ฮันโซราวิปขึ้นทันที สติแตกควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ โวยวายใส่อีราเอลให้บอกชื่อของผู้หญิงคนนั้นออกมา อีราเอลจึงบอกไปว่าหญิงชู้คนนั้นคือ อึนอัมรี (คู่ปรับคู่แค้นของฮันโซรา) แต่ฮันโซราไม่เชื่อ ด้วยความโมโหเธอจึงระเบิดอารมณ์ใส่อีราเอล และก็ทำลายข้าวของภายในห้องจนพังกระจัดกระจายไปทั่ว จังหวะนั้นเองเป็นจังหวะที่คังยุนกยอมกลับเข้ามาในห้องพอดี เขาจึงได้เข้าปกป้องอีราเอล และผลักร่างของฮันโซรากระเด็นออกไป

ฮันโซราอารมณ์ตีกลับทันทีที่เห็นคังยุนกยอมเป็นห่วงอีราเอลมากกว่า “นี่คุณเป็นห่วงนังนี่ จนมองข้ามความเจ็บปวดของฉันอย่างนั้นเหรอ” แต่คังยุนกยอมไม่สนใจคำพูดของภรรยาเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เขาได้แต่ตวาดใส่หน้าฮันโซรา “ออกไป ออกไปจากห้องผมเดี๋ยวนี้ !”

ฮันโซราเดินออกจากห้องไปทั้งน้ำตา ทิ้งอีราเอลไว้กับคังยุนกยอมสองคน … คังยุนกยอมเข้าปลอนโยนด้วยการเข้าสวมกอดอีราเอลอย่างทะนุถนอม จังหวะเดียวกันนั้น จางจินอุก สามีของอีราเอลก็ได้มาเห็นภาพบาดตาบาดใจที่ทั้งสองกำลังสวมกอดกัน

หลังจากเหตุการณ์ที่อีราเอลโดนฮันโซราทำร้าย คังยุนกยอมได้จัดหาบอดี้การ์ดหญิงมาคอยปกป้องเธอ อียอนอุกคือชื่อของบอดี้การ์ดหญิงคนนั้น หญิงสาวผมยาวถึงติ่งหูท่าทางทะมัดทะแมงดูแข็งแรงคนนั้นยื่นกล่องเล็ก ๆ ให้กับอีราเอล เมื่อเปิดดูเธอก็พบข้อความที่เขียนด้วยลายมือจากคังยุนกยอม “ผมจะปกป้องคุณเอง ขอโทษและขอบคุณ” ใต้กระดาษเป็นกุญแจรถเมอร์ซีดีสเอสคลาสคันใหม่ที่เขามอบให้เธอ

ระยะเวลายิ่งทอดนานไป ความโกรธแค้นก็ยิ่งก่อตัว ฮันโซราต้องการหาตัวหญิงชู้คนนั้นให้ได้ …

เมื่อเห็นว่าเป็นจังหวะเหมาะ อีราเอลจึงได้ส่งข้อมูลพร้อมรูปภาพของรถยนต์คันใหม่ที่คังยุนกยอมซื้อให้ผู้หญิงคนใหม่ของเขา ฮันโซรารีบสั่งให้บอดี้การ์ดขับรถพาเธอไปตามพิกัดที่อีราเอลส่งมาให้ทันที ฉากการขับรถไล่ล่าจึงได้เกิดขึ้น รถของฮันโซราชนพุ่งเข้าชนรถเป้าหมายคันนั้น

รถยนต์ทั้งสองคันจอดนิ่งสนิทหลังเกิดแรงปะทะจากอุบัติเหตุ ฮันโซราเดินไปที่รถคันนั้นเพื่อดูหน้าคนขับ แต่ทว่าเมื่อฮันโซราเห็นหน้าหญิงคนขับก็เกิดอาการสับสนขึ้นทันที เพราะผู้หญิงคนนั้นคือ อียอนอุก (บอดี้การ์ดของอีราเอล) !

ฮันโซราแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า สามีของเธอจะเอาหญิงสาวที่ท่าทางแข็งกระด้างแบบนี้มาเป็นเมียน้อย !!?

EP.8 สงครามประสาท

ฮันโซราสั่งให้ลูกน้องไปจับตัวบอดี้การ์ดอียอนอุก และนำไปทรมานเพื่อให้คายความจริงออกมาว่าใครคือ “เมียน้อย” ของคังยุนกยอม แต่ไม่ว่าจะทรมานสักแค่ไหน อียอนอุกก็ไม่ปริปากออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว

อย่างไรก็ตาม แม้อียอนอุกไม่ปริปาก แต่ฮันโซราก็ได้โทรศัพท์ของอียอนอุกมาแล้ว เธอจึงโทร. กลับไปหาเบอร์โทร. ติดต่อล่าสุด …

ปลายสายดังไปที่โทรศัพท์ของอีราเอล แต่ดูเหมือนว่าอีราเอลจะรู้ทัน เธอเลือกที่จะไม่รับสายแต่ส่งข้อความกลับไปแทน ข้อความระบุว่าพรุ่งนี้เธอจะไปหาฮันโซราแลกกับการปล่อยตัวอียอนอุก

รุ่งขึ้น … วันนี้เป็นงานวันเกิดของดาบี ลูกสาวฮันโซรากับคังยุนกยอมที่จัดขึ้นที่โรงเรียนอนุบาลรียัน แต่ดูเหมือนว่าฮันโซราจะไม่สนใจงานเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเธอจดจ่อเฝ้ารอการนัดหมายที่กำลังจะมาถึง เข็มนาฬิกาเดินเข้ามาใกล้เวลานัดหมายตอนเที่ยงตรง แต่ฮันโซราก็ไม่เห็นใครที่เธอไม่รู้จักอยู่บริเวณนั้นเลย … ฮันโซรายังคงเฝ้ารอต่อไป

เมื่อเข็มนาฬิกาทุกเข็มซ้อนทับกันอยู่บนเลข 12 ส่งสัญญาณบอกเวลาในตอนเที่ยงวัน อีราเอลก็ปรากฏตัวขึ้นภายในชุดสุดหรูและเครื่องประดับราคาแพงที่คังยุนกยอมเปย์ให้ … อีราเอลเดินมาหาฮันโซราด้วยใบหน้าอันเย่อหยิ่ง พร้อมกับสารภาพความจริงออกไปว่า เธอคือผู้หญิงคนนั้นของคังยุนกยอม และเป็นหญิงที่คังยุนกยอมมีความสัมพันธ์ด้วยในคืนวันเกิดของฮันโซรา

ช็อก !

ฮันโซราช็อก แต่เธอต้องควบคุมทุกอย่างเอาไว้ให้ปกติมากที่สุด เพราะภายในงานเต็มไปด้วยนักข่าวและแขกเหรื่อที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก แต่ภายในใจกลับร้อนรุ่มดังโดนไฟนรกแผนเผา

ไม่เท่านั้น อีราเอลยังทำการปั่นประสาทคังยุนกยอมอีก เธอรักษาระยะห่างกับเขา เพื่อให้เขาโหยหาในตัวเธอ … เธอบอกกับเขาว่าต่อจากนี้ไปคงพบกันอีกไม่ได้แล้ว และขอจบความสัมพันธ์เพียงเท่านี้ เพราะฮันโซรารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว

EP.9 ความเจ็บปวดที่ลึกสุดหัวใจ

ที่โรงเรียนอนุบาลรียัน ฮันโซราตบหน้าอีราเอลต่อหน้าผู้ปกครองในที่ประชุมโรงเรียน และประกาศต่อหน้าทุกคนให้คว่ำบาตรอีราเอล ถ้ามีใครช่วยเหลือหรือคบหากับอีราเอลก็เท่ากับเป็นศัตรูกับเธอด้วย

ระหว่างนั้น อีราเอลสังเกตเห็นท่าทางของฮันโซราดูมีความสุข แตกต่างจากฮันโซราคนที่รู้ว่าโดนสามีนอกใจเมื่อวันก่อนอย่างกับเป็นคนละคน … อีราเอลไม่แน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของฮันโซรากับคังยุนกยอมที่แสดงออกมาทางสื่อนั้น เป็นเพียงการเสแสร้งสร้างภาพหรือทั้งสองมีความสุขอย่างนั้นจริง ๆ ?

ความฝันของปีศาจ

อีราเอลมีผู้สมรู้ร่วมคิดที่ร่วมในแผนการล้างแค้นในครั้งนี้คือ จางมุนฮี ที่รับบทเป็นแม่ปลอม ๆ ของอีราเอล … จางมุนฮีเป็นเหยื่อของ LY Group เช่นเดียวกัน เธอตกลงร่วมมือกับอีราเอลด้วยเหตุผลเดียว ก็คือ ต้องการให้คนทำผิดได้รับการลงโทษตามกฎหมาย แต่เมื่อเห็นว่าอีราเอลกำลังไปไกลกว่าที่ตกลงกันไว้ จางมุนฮีจึงคิดจะขัดขวาง โดยการให้คนนำเอาเอกสารที่ระบุตัวตนที่แท้จริงของอีราเอลไปให้กับคังยุนกยอง

ด้าน ส.ส.ซออึนพยอง ที่ตอนนี้ตกปากรับตำแหน่งเลขาธิการของประธานาธิบดี เกิดบังเอิญไปเห็นบางอย่างผิดปกติ เขาจึงเข้าไปขัดจังหวะก่อนที่คังยุนกยอมจะได้เอกสารนั้น !

จากนั้น ซออึนพยองได้เอาซองเอกสารนั้นไปให้อีราเอล ภายในมีเอกสารทุกอย่างที่ระบุตัวตนที่แท้จริงของอีราเอล เมื่อรู้ว่าตัวเองโดนจางมุนฮีทรยศ อีราเอลถึงกับร้องตะโกนลั่นออกมาด้วยความโกรธที่เคลือบไปด้วยความผิดหวัง … อีราเอลเดินไปเดินมาทั่วทั้งห้องอย่างช้า ๆ คล้ายกับคนโกรธจนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะไปหยุดยืนตรงประตูกระจกบานใหญ่แล้วค่อย ๆ ทรุดลงมานั่งยอง ๆ กับพื้น ท่ามกลางสายตาเห็นอกเห็นใจของซออึนพยอง

คืนเดียวกันนั้น บริเวณห้องครัวที่ปกคลุมด้วยความมืด จางมุนฮีตกใจเป็นอย่างมากเมื่อกลับเข้าบ้านมาเห็นอีราเอลยืนอยู่ในมุมมืด ยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้าและท่าทางของอีราเอลในตอนนี้ไม่เหมือนอีราเอลคนเดิม …

อีราเอลเอ่ยด้วยน้ำเสียงครึ่งหนึ่ง บางคำแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบของปีศาจ “จริง ๆ แล้ว ฝันร้ายที่เล่าให้คุณฟัง มันไม่ใช่ฝันร้ายหรอก แต่มันเป็นความต้องการของฉันต่างหาก … ในฝันนั้นฉันฆ่าคนที่อยากฆ่าไปที่ละคน ๆ และฉันก็จับปีศาจตัวสุดท้ายที่น่ากลัวที่สุดเอาไว้ ปีศาจตัวนั้นก็คือตัวฉันเอง …”

ในตอนนี้ จางมุนฮีแสดงสีหน้าตกใจ เพราะไม่เคยเห็นอีราเอลในมุมนี้มาก่อน มุมที่ถูกครอบงำโดยปีศาจ แต่อีราเอลก็ไม่ปล่อยให้จางมุนฮีสับสนนานเกินไป เธอเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาต่อไป “… แม้ฉันจะมือเปื้อนเลือด แต่ฉันก็ต้องการจะเป็นคนดีต่อไป มันอาจจะฟังดูตลกร้าย แต่ความจริงอะไรที่น่ากลัวกว่าปีศาจร้ายตัวนั้นรู้มั้ย ? มันคือความพ่ายแพ้ยังไงล่ะ สิ่งสำคัญที่สุดในสงครามนี้คือเราต้องเอาชนะมันให้ได้ !”

ความเจ็บปวดที่ลึกสุดหัวใจ

ฮันโซรานั่งอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการห้างสรรพสินค้าภายใต้ร่มเงาของ LY Group ระหว่างที่เธอนั่งอยู่ภายในห้องทำงานอันหรูหราโอ่โถง ความคิดของเธอก็นึกย้อนกลับไปในอดีตอันขมขื่น อดีตที่ตรงกันข้ามกับภาพลักษณ์ที่ผู้คนมองเห็นเธอโดดเด่นอยู่ในวงสังคมไฮโซ … ฮันโซราถูกฮันพันโร พ่อแท้ ๆ ทำร้ายร่างกายและจิตใจมาตั้งแต่เด็ก แม่ของเธอโดนพ่อทำทารุณอย่างโหดร้ายต่อหน้าต่อตา ทุกอย่างก็เพื่อความอำนาจและเงินทอง พ่อต้องการเท่านั้นจริง ๆ

อีราเอล หญิงสาวผู้ไร้อำนาจกลับล้างแค้นด้วยพลังของปีศาจ ฮันโซรา หญิงสาวผู้เปี่ยมไปด้วยอำนาจกลับโดนปีศาจกดหัวจนไร้ค่า … มันเป็นเรื่องตลกร้ายจริง ๆ

ณ โรงเรียนอนุบาลรียัน ฮันโซราสั่งปลดอีราเอลออกจากตำแหน่งรองประธานสมาคมผู้ปกครอง แต่แทนที่อีราเอลจะแสดงความไม่พอใจ เธอกลับหัวเราะเยาะเย้ยออกมาด้วยความชอบใจในความพยายามที่จะเล่นงานเธอของฮันโซรา เสียงหัวเราะนั้นเป็นการบอกว่าเธอไม่สนใจเลยสักนิด … อีราเอลจ้องมองฮันโซราด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มอันแสนสุข จนชั่วเวลาหนึ่ง ฮันโซราทนไม่ไหวถึงกับลั่นออกไปว่า “นังโรคจิต” ก่อนจะเดินจากไปพร้อมด้วยลูกน้องและบอดี้การ์ดสาว

อีราเอลโทร. หาคังยุนกยอมทันที เธอนัดเขาไปเจอกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง และก็โทร. หาฮันโซรา …

“ฉันจะทำให้คุณเห็นว่า ‘นังโรคจิต’ คนนี้ทำอะไรได้บ้าง ฉันจะสอดแทรกเข้าไปในชีวิตคุณ และสร้างความเจ็บปวดที่ลึกสุดใจ … มาดูกันว่าระหว่างเราใครจะชนะ”

EP.10 ถลำลึกสู่ด้านมืด

การโดนจางมุนฮีหักหลังทำให้อีราเอลถลำลึกเข้าสู่ด้านมืดยิ่งกว่าเดิม เธอวางแผนเล่นกับความรู้สึกของคังยุนกยอม เพราะรู้ดีว่าตอนนี้เขาหลงรักเธอจนหัวปักหัวปำ เธอเตรียมจัดการเขาอย่างไร้ความปรานี

อีราเอลนัดคังยุนกยอมเจอกันที่ห้องสวีตของโรงแรมก็จริง แต่เธอก็แสดงท่าทีเย็นชาออกไป แถมยังขอตัวกลับก่อนทั้งที่ทั้งสองได้พูดคุยกันเพียงไม่กี่ประโยค … เธอต้องการให้ไฟปรารถนาในตัวเขาลุกโชน

ฮันโซราได้ขึ้นเป็นประธานห้างสรรพสินค้า LY ดังนั้น เธอจึงวางแผนกำจัดอีราเอลให้พ้นทางก่อนวันเปิดตัวห้างฯ ฮันโซราจึงใช้เรื่องทุจริตเมื่อ 13 ปีก่อนของจางจินอุก สามีของอีราเอลบีบให้เขาลาออก แล้วพาครอบครัว (รวมถึงอีราเอล) ไปอยู่อเมริกา

ฮันโซราคิดว่าแผนการกำจัดอีราเอลจะสำเร็จได้อย่างง่าย ๆ แต่กลับตรงกันข้าม เมื่อในวันเปิดตัวห้างสรรพสินค้า LY เธอเกิดเห็นอีราเอลอยู่ภายในงาน ! “หรือว่าแค่ตาฝาด ?” ฮันโซราถามตัวเอง เพราะผู้ที่สามารถเข้างานนี้ได้ต้องได้รับบัตรเชิญเท่านั้น

ฮันโซรากระวนกระวายใจเดินขึ้นมาที่ชั้นบนของห้างฯ ที่นั่นเธอได้เจอกับอีราเอลจริง ๆ เธอไม่ได้ตาฝาด มันคือหญิงสาวที่เธอเรียกว่า “นังโรคจิต” จริง ๆ … อีราเอลยิ้มเยาะที่มุมปากเดินช้า ๆ มาหาฮันโซรา ก่อนจะเยื้องหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหู ด้วยประโยคเย้ยหยัน “ดูดีมากเลยนะคะ คุณผู้หญิง” …

จังหวะนั้นเอง อีราเอลก็เดินจากไป ฮันโซราที่เห็นคังยุนกยอมเดินมาพอดีก็เลยไประบายอารมณ์โกรธใส่สามี เพราะเธอเข้าใจว่าเขาเป็นคนพาอีราเอลเข้ามาในงาน โดยที่ไม่รู้เลยว่าอีราเอลได้แอบติดไมค์เล็ก ๆ เอาไว้ที่กระเป๋าของฮันโซรา ทำให้ทุกคนที่มาร่วมงานได้ยินสิ่งที่ฮันโซราโวยวายเรื่องที่คังยุนกยอมมีเมียน้อย

ที่บ้านพักส่วนตัว ที่ซึ่งฮันโซราใช้เป็นที่ระบายความเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอถูกสอนให้เข้มแข็งและจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง ดังนั้น ไม่ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น เธอจะไม่มีทางไปบอกพ่อเป็นเด็ดขาด เพราะเธอกลัวการโดนลงโทษ เธอไม่ต้องการโดนขังอยู่ในห้องหนังสือ ห้องที่พ่อเคยทำร้ายแม่ !

ณ งานศพคุณผู้หญิงแห่งตระกูลคัง ฮันโซรากับฮันพันโรเดินทางไปร่วมงาน ส่วนอีราเอลกับ ส.ส.ซออึนพยองก็ไปร่วมงานเช่นกัน ฮันโซราไม่พอใจและพยายามไล่อีราเอลให้ออกไปจากงาน จังหวะนั้นเอง อีราเอลเยื้องใบหน้าไปที่ข้างหูของฮันพันโร พร้อมกับขยับปากพูดอะไรบางอย่างกับเขา ก่อนที่เธอจะเดินจากไปพร้อมกับทิ้งเชื้อแห่งความสงสัยเอาไว้ “ลูกสาวคุณคงมีเรื่องปิดบังคุณเยอะเลยนะคะ”

สุดท้ายแล้ว ฮันพันโรก็คาดคั้นฮันโซราจนได้รู้ความจริงว่าคังยุนกยอมมีเมียน้อย เขาจึงสั่งลูกน้องให้ไปสืบมาว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร

เชื้ออีกอย่างที่อีราเอลได้ทิ้งเอาไว้ในวันนั้น คือ เธอบีบให้คังยุนกยอมตัดสินใจเลือก … เมื่อเขากลับถึงบ้าน เขาจึงได้พูดคำนี้กับฮันโซรา …

“เราหย่ากันเถอะ” !!!

EP.11 บานปลาย

ไม่ว่ายังไง ฮันโซราก็ไม่ยอมหย่ากับคังยุนกยอม ทำให้คังยุนกยอมตัดสินใจย้ายออกไปอยู่ที่บ้านกุหลาบ รังรักของเขากับอีราเอล … ณ จุดนี้ พ่อไม่ได้ทำหน้าที่พ่อ ส่วนแม่ก็ไม่ได้ทำหน้าที่แม่ แต่ต่างฝ่ายต่างใช้ลูกสาวตัวน้อยเป็นตัวประกัน … โดยเกมนี้มีชื่อว่า ใครถึงโรงเรียนก่อนก็ได้ลูกไป !

อีราเอลและคังยุนกยอมพาดาบี (ลูกสาวของคังยุนกยอมกับฮันโซรา) กับโบรัม (ลูกติดของสามีอีราเอล) ไปอยู่ด้วยกันที่บ้านกุหลาบ และความใกล้ชิดกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสับสนในความรู้สึกของอีราเอลอีกครั้ง

ณ มุมหนึ่งของบ้านกุหลาบ อีราเอลนั่งพิงกำแพงด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความสับสน ในหัวของเธอมีความคิดต่าง ๆ นานาตีกันเต็มไปหมด … เธอเคยบอกกับซออึนพยองและจางมุนฮีว่า ทุกอย่างในชีวิตของเธอทุ่มเทไปกับการแก้แค้นให้พ่อแม่ แม้แต่หัวใจก็ไม่มีที่เว้นว่างเหลือไว้ให้กับความรัก แต่ความเป็นจริงแล้ว เธอมิอาจทานทนต่อความรู้สึกที่มีต่อคังยุนกยอมไปได้เลย

อีราเอลหยิบมีดโกนขึ้นมากรีดแขนของตัวเอง เลือดไหลออกมาเป็นทาง ระหว่างนั้นคำพูดของซออึนพยองก็ดังขึ้นในหัวของเธอ “ถ้าเกิดว่าเธอรักประธานคังขึ้นมาจริง ๆ สุดท้ายเธอเองจะเป็นฝ่ายที่เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส”

การที่คังยุนกยอมกับอีราเอลพรากและกีดกันดาบีไปจากแม่ของเธอ แม้จะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ย่อมทำให้ฮันโซรายิ่งโกรธมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ฮันโซราจึงสั่งให้ลูกน้องแอบขับรถตามอีราเอลไประหว่างกลับจากโรงเรียน อีกทางหนึ่ง ฮันพันโรก็สั่งให้ลูกน้องไปที่พังบ้านกุหลาบ แต่คังยุนกยอมกลับมาทันเวลาพอดี

ข่าวอื้อฉาวเรื่องความสัมพันธ์ของคังยุนกยอมกับอีราเอลแพร่กระจายออกไปทั่ว ส่งผลให้ราคาหุ้นของ LY Group และบริษัทในเครือตกลงอย่างหนัก

คังยุนกยอมเดินเกมหนักขึ้น เขายื่นฟ้องหย่าต่อศาล … การฟ้องหย่าของคังยุนกยอมทำให้เกิดความขัดแย้งกันของฮันโซรา ที่ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่ยอมหย่า กับฮันพันโรกลับต้องการให้หย่าและมันทำให้ฮันโซราตัดสินใจสั่งให้ลูกน้องจับตัวอีราเอลมาให้ได้ โดยที่ต้องไม่ให้พ่อของเธอและคังยุนกยอมรู้เป็นเด็ดขาด

คืนวันนั้น คังยุนกยอมจัดดอกไม้ไว้ให้อีราเอลมากมาย มีดอกคอสมอสที่เธอชอบ หัวใจของผู้หญิงถ้าเจอความเอาอกเอาใจขนาดนี้ก็มีแต่หลอมละลาย หัวใจของอีราเอลก็ไม่มีข้อยกเว้น

จากนั้น คังยุนกยอมก็พาอีราเอลไปที่โบสถ์ แล้วทำเซอร์ไพรส์อีราเอลด้วยการสวมแหวนแต่งงานให้เธอ ระหว่างนั้นเขาได้แต่พร่ำบอกรักเธอออกมาไม่หยุด เขาสาบานว่าเขาจะมีชีวิตอยู่เพื่อเธอเพียงคนเดียว …

“คุณรักผมมั้ย ?”

“ค่ะ” อีราเอลรับรัก

“คุณสาบานได้ไหมว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับผม ?”

อีราเอลไม่ทันเอ่ยปากสาบานออกมา เธอก็หมดสติล้มพับไปเสียก่อน

EP.12 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

จางมุนฮีอยู่ในโบสถ์ขณะที่อีราเอลเป็นลมล้มพับไป เมื่ออีราเอลได้สติ ทั้งสองจึงได้คุยกัน … จางมุนฮีแสดงท่าทีเห็นอกเห็นใจ “ที่ผ่านมาฉันมองอะไรแค่ผิวเผิน จนมองไม่เห็นว่าคุณได้พยายามเต็มที่แล้วที่จะเลิกรักเขา แต่มันก็ยากเกินกว่าที่คุณจะรับไหว นับแต่นี้ฉันไม่สามารถพูดอะไรกับคุณแล้ว ทุกคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง”

จากนั้น จางมุนฮ๊นัดเจอกับซออึนพยองเพื่อให้ข้อมูลว่า อีราเอลเป็นโรคตื่นตระหนกขั้นรุนแรง ซึ่งเป็นผลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอเมื่อวัยเด็ก ทำให้เธอมักจะทำร้ายตัวเอง และเคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว … จางมุนฮีต้องการให้ซออึนพยองทำให้อีราเอลตัดใจจากคังยุนกยอม เพราะความรักที่เธอมีให้เขามันทำให้สภาพจิตใจของเธอไม่มั่นคง

ซออึนพยองไปหาอีราเอลด้วยความเป็นห่วง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกน้องของฮันโซรากำลังมาจับตัวอีราเอลพอดี ซออึนพยองจึงเข้าไปช่วย ทำให้เขาโดนแทงจนได้รับบาดเจ็บ อีราเอลรู้ได้ในทันทีว่าเป็นฝีมือของฮันโซรา และตั้งใจว่านับจากนี้ไปต้องสู้แบบ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”

ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

ที่ LY Group คังยุนกยอมแนะนำอีราเอลบนเวทีต่อหน้าสื่อว่า เป็นผู้รับผิดชอบในการนำ LY Pay เข้าตลาดหุ้น …

อีราเอลกล่าวต่อหน้าทุกคนว่าเธอจะเป็นผู้นำ LY Group ฝ่าวิกฤติกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง จากนั้นเธอก็ได้พรีเซนต์สิ่งที่เรียกว่า สารกึ่งตัวนำซิลิคอนเวเฟอร์ “บริษัทใช้สารกึ่งตัวนำผลิตแผ่นดิสก์ 12 นิ้ว แต่ฉันจะนำแผ่นดิสก์ 8 นิ้วกลับมาใช้แทน”

จากนั้นเธอก็เล่าย้อนกลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน โดยอ้างว่า LY ได้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นโดยนักธุรกิจอัจฉริยะชื่ออีแทจุน (พ่อของอีราเอล) โดยอีราเอลอ้างว่ามันเป้นเทคโนโลยีพื้นฐานที่ใช้ในการพัฒนาสมาร์ตโฟน แม้กระทั่งปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ก็ยังถือว่าเป็นเทคโนโลยีระดับท็อป … การขึ้นเวทีใหญ่ครั้งแรกของอีราเอลได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก

ณ จุดนี้ อีราเอลพร้อมด้วยบอดี้การ์ดบุกไปที่บ้านคังยุนกยอมเพื่อไล่ฮันโซราออกไป ฮันโซราเดือดดาลตะโกนลั่นใส่หน้าอีราเอล “นี่บ้านฉัน กล้าดียังไงมาไล่ฉันออกจากบ้านตัวเอง” … อีราเอลไม่สนใจคำพูดนั้นแม้แต่นิดเดียว เธอสั่งให้บอดี้การํดลากตัวฮันโซราออกไป !

คังยุนกยอมเออออกับอีราเอลเพราะเข้าใจว่าเธอต้องการใช้ชีวิตอยู่กับเขา แต่แท้จริงแล้ว อีราเอลต้องการมาค้นหาเอกสารต้นฉบับบางอย่าง

ต่อมาฮันโซราได้รู้ข้อมูลบางอย่างของจางมุนฮี จนทำให้สงสัยว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอีราเอล เธอจึงสั่งให้ลูกน้องจับตัวจางมุนฮีมาทรมานเพื่อรีดข้อมูล จนได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของอีราเอล และยังได้รู้แผนการแก้แค้นทั้งหมด … ฮันโซราตัดสินไปพบคังยุนกยอมเพื่อบอกความจริง

ฮันโซรา คังยุนกยอม และอีราเอล นั่งอย่างพร้อมหน้ากันบนโต๊ะอาหาร มีเพียงคนเดียวที่ดูยิ้มแย้มมีความสุขมากที่สุด นั่นคือฮันโซรา เธอค่อย ๆ หยิบรูปถ่ายของอีราเอลสมัยยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมออกมาวางบนโต๊ะทีละรูป ๆ รูปหนึ่งชื่อ “คิมซอนบิน” อีกรูปชื่อ “อีราเอล” …​ คังยุนกยอมหันไปมองอีราเอลที่กำลังนั่งนิ่งด้วยความสงสัย !!?

EP.13 เชื้อแห่งความสงสัย

ฮันโซราแต่งงานกับคังยุนกยอมมาหลายสิบปี ทำให้เธอเข้าใจเขาเป็นอย่างดีว่า เชื้อแห่งความสงสัยเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับอดีตของอีราเอล จะทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เดินทางไปสู่ความดำมืด ฮันโซราจึงเลือกที่จะบอกกับเขาแค่ชื่อจริงของอีราเอลเท่านั้น ก่อนจะจากไปพร้อมกับประโยคที่ว่า “ถ้าคุณอยากรู้ความจริงทั้งหมด ก็ติดต่อฉันมานะคะที่รัก” ฮันโซราเดินจากไปด้วยใบหน้ารอยยิ้ม รอยยิ้มของผู้ที่กำลังจะเป็นฝ่ายชนะ

อีราเอลเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเวลาของเธอเหลือไม่มากแล้ว เธอจะต้องเร่งทำสิ่งที่ค้างคาให้เสร็จสิ้น อีกทางหนึ่งเธอก็ติดต่อเจรจากับฮันโซรา ให้ปล่อยตัวจางมุนฮีแลกกับการที่เธอจะยอมปล่อยคังยุนกยอม

เรื่องราวดำเนินไป จนถึงจุดที่คังยุนกยอมข้ามพ้นความสงสัยในตัวอีราเอล เขานำเอกสารการโอนหุ้นและทรัพย์สินทั้งหมดของเขายกให้อีราเอล “ต่อให้มีเรื่องที่คุณไม่อาจบอกผมได้ มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมเลย … เราไปอยู่ที่บัวโนสไอเรส (อาร์เจนตินา) และไปเต้นแทงโก้ด้วยกันเถอะนะ” … อีราเอลถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

ในค่ำของวันเดียวกันนั้น อีราเอลตัดสินใจจะบอกความจริงกับคังยุนกยอม เพราะเธอจะไม่มีวันทรยศต่อพ่อแม่ของตัวเอง และตัวเธอก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่รักใครได้ อีราเอลนัดเจอคังยุนกยอมที่คลับแห่งหนึ่ง แต่ทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันตามนัด เพราะเขาเกิดรู้ความจริงขึ้นมาซะก่อน

คังยุนกยอมมาที่ห้องลับในสตูดิโอของอีราเอล เขาใช้แผนหลอกล่อจนในที่สุดก็สามารถเข้ามาในห้องลับได้ คังยุนกยอมถึงกับเข่าอ่อนตาพร่ามัวกับภาพเบื้องหน้า … อุปกรณ์สะกดรอยและแอบฟังต่าง ๆ ข้อมูลของเขาและคนใกล้ชิด ภาพถ่ายสปายช็อตจากระยะไกลของบุคคลรอบตัวเขา

ไม่นานนัก อีราเอลก็เข้ามาที่ห้องลับ ทั้งสองได้เผชิญหน้ากัน อีราเอลอึ้งไร้คำพูดใด ๆ ออกมาจากปาก ขณะที่คังยุนกยอมแสดงความโกรธออกมาเป็นคำพูด “นี่มันอะไรกัน คุณทำอย่างนี้กับผมได้ยังไง …” เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา เพราะสังเกตเห็นว่ามีอุปกรณ์ดักฟังโทรศัพท์ของเขาอยู่ภายในห้อง ก่อนจะปามันลงไปบนพื้นอย่างแรง “… เพื่อคุณแล้วผมให้ได้ทุกอย่าง แต่ทำไมต้องทำกับผมแบบนี้”

น้ำตาเอ่อล้น น้ำตาของความเสียใจที่เคลือบด้วยความโกรธ คังยุนกยอมเดินเข้าไปหาอีราเอลที่แสดงท่าทางตื่นกลัว เขาเดินไปคว้าตัวเธอ “คุณทำอย่างนี้กับผมได้ยังไง” ก่อนที่เขาจะจับตัวเธอโยนไปกระแทกกับชั้นเหล็กอย่างแรง อีราเอลลงพยายามใช้มือคว้ามีด แต่ไม่ทันที่เธอจะใช้มันทำอะไร เขาก็จับตัวเธอโยนไปกระแทกเข้ากับโต๊ะอย่างแรงอีกครั้ง !

อีราเอลตัวงออยู่กับพื้นด้วยความเจ็บและจุก แต่ก็ยังฝืนตวาดออกไป “อย่ามาใกล้ฉัน !”

EP.14 คุกเข่า

อีราเอลอาศัยจังหวะทีเผลอหนีออกมาจากห้องลับ คังยุนกยอมพยายามวิ่งไล่ตาม แต่ก็พลาดท่าโดนอีราเอลผลักจนเสียหลักหัวไปฟาดเข้าไปวัตถุของแข็งจนตัวเองสลบไป

ตัดภาพมาที่ห้องใต้ดินภายในบ้านของฮันพันโร ตอนนี้จางมุนฮีโดนตีด้วยท่อนไม้หน้าสามซ้ำ ๆ ขณะที่ร่างถูกมัดอยู่กับเก้าอี้ ไม่นานนักเธอก็สิ้นลมหายใจจากความเจ็บปวดที่มิอาจทานรับได้ ด้วยน้ำมือของฮันพันโร … ลูกน้องฮันพันโรนำศพจางมุนฮีไปโยนทิ้งน้ำที่เดียวกับที่ทิ้งศพของแม่อีราเอล

ฮํนโซราท่าทางตกใจที่เห็นจางมุนฮีตายต่อหน้าต่อตา และคนที่เป็นฆาตกรก็คือพ่อแท้ ๆ ของเธอเอง ฮันโซราสติแตกเข้าไปหลบอยู่ในห้องใต้ดิน …

ฮันพันโรเดินเข้ามาที่ห้องใต้ดิน พร้อมกับไม้หน้าสามขนาดใหญ่ ฮันโซราที่นั่งคุกเข่ายกมือขึ้นพนมเพื่อขอร้องให้พ่อยกโทษให้ แต่มันไม่มีความหมายเลยแม้แต่นิดเดียว ไม้ท่อนนั้นตีลงไปที่ตัวของฮันโซราครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อลงโทษกับเรื่องที่ฮันโซราทำมันจนบานปลายลุกลามมาถึงขนาดนี้ … พ่อไปแล้ว แต่ฮันโซราก็ยังโดนจับขังอยู่ในห้องใต้ดินนั้น แล้วเธอก็เกิดภาพหลอนของจางมุนฮีและอีราเอล

รุ่งขึ้น อีราเอลเดินทางไปดูศพของจางมุนฮีที่สถาบันนิติเวช เธอพบเครื่องบันทึกเสียงขนาดเล็กซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าของจางมุนฮี เมื่อเปิดฟังก็ได้รู้เรื่องทุกอย่าง รวมถึงรู้ด้วยว่าแม่ของเธอถูกฆ่าอย่างไร มันยิ่งทำให้อีราเอลแค้นมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ

ในงานศพของจางมุนฮี คังยุนกยอมก็เดินทางมาร่วมงานนี้ด้วย เขาได้เจอกับอีราเอลอีกครั้ง ครั้งนี้ ท่าทีของเขาดูเหมือนจะงง ๆ และไม่เข้าใจกับสิ่งที่อีราเอลกำลังทำอยู่ อีราเอลจึงเปิดคลิปเสียงให้เขาฟัง … ในคลิปนั้น พูดชัดเจนว่าแม่ของอีราเอลตายด้วยน้ำมือของฮันโซรา …​ คังยุนกยอมตกใจกับเสียงที่ได้ยิน ทำให้เขานึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งเขาเข้าใจมาตลอดว่าแม่ของอีราเอลป่วยตายไปเองตามธรรมชาติ

คุกเข่า

อีราเอลดำเนินการฟ้องร้องคดีแทนจางมุนฮี เพื่อเหยื่อทั้งหมดของ LY Group

หลังผ่านการพิจารณาคดีนัดแรก คังยุนกยอมได้เข้าพบอีราเอล ขณะที่เธอกำลังตรวจเอกสารกองใหญ่ที่ใช้ในการฟ้องร้องคดีความ เขาคุกเข่าลงเบื้องหน้าเธอ พร้อมกับกล่าวว่าจะยินยอมจ่ายค่าชดเชยทั้งหมดให้เพื่อยุติเรื่องทั้งหมด

อีราเอลท่าทางเงียบขรึมและสงบนิ่ง แทบไม่สนใจข้อเสนอที่คังยุนกยอมยื่นให้เลยแม้แต่นิดเดียว เธอปรายหางตาไปมองผู้ชายที่คุกเข่ากล่าวคำขอโทษ ก่อนที่จะค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เยื้องกรายเดินไปเบื้องหน้าเขา แล้วเธอก็ค่อย ๆ คุกเข่าลงไปเช่นกัน !

อีราเอลพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและเย็นชายิ่งนัก “แค่คุกเข่ามันวิเศษตรงไหนเหรอ นี่ไง ฉันก็คุกเข่าเหมือนกัน เราต่างก็คุกเข่าเหมือนกันมันเลยไม่มีความหมายอะไร … มันจะชดเชยได้ยังไงในเมื่อคนที่ลงมือได้ทุกอย่างตามที่ตัวเองต้องการ คำขอโทษที่แท้จริงคือการทำตามที่คนเป็นเหยื่อต้องการต่างหาก”

“คุณต้องการอะไรล่ะ ?” คังยุนกยอมถามออกไปด้วยสีหน้าแปลกใจ

“ไปตายซะ เหมือนพ่อแม่ฉัน พวกคุณทั้งหมดต้องไปตายซะ ฮันพันโร ฮันโซรา ถ้าพวกมันไม่ยอมตาย คุณก็ฆ่าพวกมันให้ตาย แล้วคุณก็ฆ่าตัวตายตามไปซะ แบบนี้มันถึงจะจบ” น้ำเสียงของอีราเอลเกรี้ยวกราดดุดัน มันแสดงอย่างชัดเจนว่า สิ่งที่เธอเพิ่งพูดไปนั้นเป็นสิ่งที่เธอต้องการจริง ๆ แต่ …

แต่นั่นยังไม่ทำให้คังยุนกยอมเจ็บปวดจนสาแก่ใจ อีราเอลค่อย ๆ ลุกขึ้น มือขวาค่อย ๆ รูดแหวนแต่งงานที่นิ้วนางซ้ายออกมา เธอโยนมันทิ้งลงบนพื้นเบื้องหน้าคังยุนกยอม ทำเหมือนกับมันไม่มีความหมายอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่มีเลยจริง ๆ

อีราเอลเดินออกมาจากห้องแล้ว แต่คังยุนกยอมยังคุกเข่าอยู่อย่างนั้น เขาอึ้งสะท้านไปทั้งหัวใจ … แต่อีราเอลที่เดินออกมาแล้วก็มีสภาพไม่ต่างกัน เธอปล่อยโฮร้องไห้ออกมาทันที มันต้องเจ็บปวดแค่ไหนขมขื่นแค่ไหนที่ต้องทำกับสิ่งที่ตรงกันข้ามกับหัวใจ ความรู้สึกนี้ใช่มั้ยที่จางมุนฮีกับซออึนพยองเคยเตือน ถ้าเธอรักคังยุนกยอมสุดท้ายแล้วคนที่เจ็บปวดอย่างแสนสาหัสก็คือตัวเธอเอง !

คังยุนกยอมลงลิฟต์กำลังจะกลับ เขาเจอกับฮันโซราที่มายืนอยู่หน้าลิฟต์พอดี เขาจึงยิงคำถามออกไปทันทีว่า ทำไมฮันโซราต้องทำอย่างนั้นกับธุรกิจและครอบครัวของอีราเอล ? ฮันโซราตอบกลับแทบจะในทันที “ถ้าฉันไม่ยึดบริษัทนั่นมาให้คุณ คุณก็คงไม่แต่งงานกับฉันหรอก ที่ฉันทำไปก็เพราะรักคุณ คุณอยากได้บริษัทนั่นเพราะว่าคุณทะเยอทะยานไงล่ะ และคุณก็รู้มาตลอดว่าสิ่งที่ได้มามันต้องแลกกับการที่ฉันกับพ่อต้องมือเปื้อนเลือด คุณคงลืมไปนะว่าคนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้มากที่สุดก็คือคุณ ไม่ใช่ฉันกับพ่อ !!!”

จริง ! สิ่งที่ฮันโซราพูดทั้งหมดมันเป็นเรื่องจริง น้ำตาค่อย ๆ ไหลออกจากเบ้าตาของคังยุนกยอม ก่อนที่เขาจะพูดออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ชีวิตผมมีสิ่งเดียวที่ต้องการ ถึงเราจะไม่ได้ถูกกำหนดมาให้รักกัน ผมหวังแต่เพียงว่า เธอจะจดจำผมด้วยความรัก”

ถัดออกไปไม่ห่าง อีราเอลยืนมองและได้ยินคำพูดของคังยุนกยอมทุกคำ จากนั้นน้ำตาก็ค่อย ๆ ไหลออกมานองแก้มของเธอ

EP.15 ความแค้นที่เจือจางด้วยความรัก

ที่บริเวณบันไดทางเดินขึ้นศาล อีราเอลยืนประกาศต่อหน้านักข่าวจำนวนหลายสิบคนว่า จะแจ้งข้อหาฆาตกรรมกับ คังยุนกยอม ฮันพันโร ฮันโซรา และคิมจองชอล (ลูกน้องคนสนิทของฮันพันโร)

ภายในห้องพิจารณาคดี จู่ ๆ คังยุนกยอมก็แถลงต่อศาลขอเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ย แม้ว่าทนายความและตัวผู้พิพากษาเองจะเตือนว่าเขาไม่ควรทำอย่างนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ยืนยันที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ซึ่งอีราเอลก็ยอมรับ

ภายในห้องไกล่เกลี่ย ผู้พิพากษาที่ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยได้บอกกับอีราเอลว่า หลักฐานที่เธอใช้ยื่นต่อศาลส่วนใหญ่เป็นหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบของกฎหมาย ทั้งจากการปลอมตัว ดักฟัง และอื่น ๆ ซึ่งอีราเอลอ้างว่า เธอเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี ทำให้เธอสูญเสียตัวตน สิ่งที่เธอทำไปทั้งหมดจึงเป็นทางเดียวที่จะเปิดเผยความจริงได้

หลังจบการไกล่เกลี่ยนัดแรก อีราเอลจะไปเอาหลักฐานยืนยันการตายของแม่ที่สถานพักฟื้น คังยุนกยอมจึงอาสาขับรถไปให้ อีราเอลตอบตกลง … ความแข็งกร้าวของเธอที่มีต่อเขาค่อย ๆ อ่อนลง ยิ่งได้เห็นเขายังสวมแหวนแต่งงานเอาไว้ที่นิ้วนางซ้าย และได้ยินคำพูดที่เขาพูดออกมาก็ยิ่งทำให้เธอใจอ่อนลงไปอีก “ผมจะถอดมันก็ต่อเมื่อผมหมดรักจากคุณแล้วเท่านั้น”

วันต่อมา คังยุนกยอมออกแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนจำนวนมาก เขายอมรับความผิดทุกข้อกล่าวหาโดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ หลังจากนั้นเขาก็หายตัวไป ทิ้งไว้แค่หนังสือการส่งมอบหุ้นและทรัพย์สินทั้งหมดของเขาให้อีราเอล และเหลือบางส่วนให้ดาบี ลูกสาวตัวน้อยของเขา

จากนั้น อีราเอลก็ใช้แผนยุยงให้ฮันโซรากับฮันพันโร สองพ่อลูกแตกคอกันเอง ด้านฮันพันโรก็คิดว่าถูกลูกสาวทรยศ ส่วนฮันโซราก็คิดว่าโดนพ่อตัดหางปล่อยวัด และโยนความผิดทุกอย่างมาให้เธอรับเพียงคนเดียว

ทั้งสองเผชิญหน้ากันด้วยความที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่ากำลังโดนอีราเอลปั่นประสาทอยู่ ฮันพันโรลากค้อนปอนด์มาเตรียมที่จะตีลูกสาวของตัวเองให้ตาย แต่ฮันโซราก็หลบไปได้ เพราะค้อนมันหนักเกินไป มันช้าเกินกว่าที่จะทำร้ายใครได้ จังหวะนั้นเอง บอดี้การ์ดของฮันพันโรก็คว้าเอา “หัวไม้หนึ่ง” ฟาดเข้าที่ท้ายทอยของผู้เป็นนายจนลงไปนอนกองกับพื้นแน่นิ่งไป จากนั้นก็ลากไปขังเอาไว้ที่ห้องใต้ดิน

แผนของอีราเอลใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ถึงตอนนี้เธอกับรู้สึกเป็นห่วงคังยุนกยอมที่หายตัวไป ทำให้เธอนึกถึงคำพูดที่เธอไล่เขาให้ไปตาย

อีราเอลขับรถออกตามหาคังยุนกยอมในที่ที่เธอคิดว่าเขาจะไป ในที่สุด เธอก็ได้พบเขาที่โบสถ์ที่เขาเคยขอเธอแต่งงาน เธอค่อย ๆ เดินไปหาเขาด้วยน้ำตาที่นองหน้า แล้วก็ค่อย ๆ เปล่งเสียงออกมาสลับกับเสียงสะอื้น “ฉันกลัวมากเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น ฉันไม่น่าพูดไปแบบนั้นเลย”

ดูเหมือนว่าความแค้นในใจของอีราเอลในตอนนี้ จะโดนความรักเจือจางไปจนหมดสิ้นแล้ว คังยุนกยอมพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ แล้วค่อย ๆ เดินมาโอบกอดอีราเอลเอาไว้ในอ้อมแขน อ้อมแขนที่โอบรัดด้วยความอบอุ่น … และในคืนนั้น ทั้งสองก็มีค่ำคืนที่สุดแสนวิเศษด้วยกัน

ในขณะที่ฮันโซราและคิมจองชอล (ลูกน้องคนสนิทของฮันพันโร) กำลังขับรถพร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองไปที่นั่น ที่ซึ่งอีราเอลกับคังยุนกยอมกำลังมีความสุขด้วยกัน

EP.16 ตอนจบ

ด้านนอกบ้านพักตากอากาศ คิมจองชอลจ้องมองไปที่อีราเอลกับคังยุนกยอม จังหวะนั้น ฮันโซราได้โทร. หาคับยุนกยอมเพื่อหลอกว่าดาบีหายตัวไป ด้วยความเป็นห่วงลูกเขาจึงรีบออกมาทันที

อีราเอลอยู่คนเดียวแล้ว คิมจองชอลจึงอาศัยจังหวะนี้บุกเข้าไปหวังจะฆ่าอีราเอลให้ตายคามือ เหมือนกับที่เขาทำกับพ่อของเธอ … อีราเอลพลาดท่าล้มกลิ้งลงไปกับพื้น คิมจองชอลขึ้นคร่อมแล้วใช้สองมือบีบคออย่างแรง สายตาเธอมองไปที่คิมจองชอล สายตาที่บ่งบอกว่าอีกไม่นานเธอกำลังจะหมดลมหายใจ

ทันใดนั้นเอง คังยุนกยอมก็กลับมาพอดี เขาคว้าเอาเหล็กที่หาได้จากตรงนั้น เดินเข้าไปด้านหลังคิมจองชอล แล้วฟาดวัตถุในมือเข้าไปที่ห้วของมันอย่างแรง สองมือคลายออกจากคอของอีราเอลแล้ว ร่างของมันยังนอนดิ้นด้วยความเจ็บปวด คังยุนกยอมไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือ เขาขึ้นไปคร่อมร่างของคิมจองชอลแล้วใช้สองมือบีบเข้าไปที่คอของมัน เหมือนอย่างที่มันทำกับอีราเอล ไม่นานนัก มันก็แน่นิ่งไป “ตายซะ !!!”

คังยุนกยอมตั้งใจจะมอบตัวโดยยอมรับผิดแต่เพียงคนเดียว แต่อีราเอลไม่เห็นด้วย เขาจึงใส่ยานอนหลับในน้ำให้เธอดื่ม และโทร. หาซออึนพยอง เมื่อซออึนพยองมาถึง เขาก็แนะนำว่าคิมจองชอลบุกรุกเข้ามาในบ้าน จึงมองได้ว่าเป็นการป้องกันตัว

ตำรวจและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเดินทางมาที่บ้านพักตากอากาศ ฮันโซรายังคงนั่งอยู่บนรถเพื่อเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ไม่ไกล โดยที่เธอยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในบ้าน แต่เมื่อได้เห็นคิมจองชอลกลายเป็นศพเธอก็ตกใจเป็นอย่างมาก จังหวะนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ปลายสายเป็นเสียงทนายความของคังยุนกยอม โทร. มาแจ้งว่าการหย่าของเธอกับคังยุนกยอมสมบูรณ์แล้ว เธอจะไม่ได้ทรัพย์สินอะไรทั้งสิ้น รวมถึงสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกด้วย

ฮันโซรากลับมานั่งบนรถด้วยท่าทางแปลก ๆ ก่อนที่จะหยิบเอาตลับเครื่องสำอางมาละเลงบนใบหน้า ฮันโซราในเวลานี้สติแตกไปเสียแล้ว !

จบลงด้วยความรัก

ฮันโซราแอบเข้าไปในบ้านพักตากอากาศแล้วลักพาตัวอีราเอลออกมา อีราเอลโดนมัดมือไพล่หลังนอนอยู่ที่เบาะหลังรถ ระหว่างทางฮันโซราก็ตะโกนออกมาไม่หยุดว่าต้องการให้อีราเอลตายไปซะ แต่ไม่นานนักอีราเอลก็แกะเชือกที่มัดมือออกได้ ก่อนที่จะลุกขึ้นเอาแขนไปรัดคอฮันโซราจากทางด้านหลัง ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนข้างทาง

ชั่วเสี้ยววินาทีต่อจากนั้น ฮันโซราก็คว้ามีดแทงเข้าไปที่ท้องของอีราเอล แต่ก่อนที่ฮันโซราจะแทงซ้ำ คังยุนกยอมก็ตามมาทันพอดี เขาเข้าไปนั่งในรถ ส่วนซออึนพยองก็เข้ามาอุ้มอีราเอลออกไป … คังยุนกยอมหันไปมองอีราเอลไม่กี่วินาที แล้วเขาก็หันมาไปทางฮันโซราก่อนจะเอ่ยปากออกไปว่า “แม่ดาบี ผมขอโทษ” จากนั้นเขาก็เข้าเกียร์ D แล้วก็เหยียบคันเร่งจนมิดเพื่อพารถพุ่งตรงไปที่หน้าผา

คังยุนกยอมตัดสินใจที่จะจบเรื่องทั้งหมด เพื่อให้ชีวิตที่เหลือของอีราเอลได้เป็นไปอย่างที่เธอปรารถนา คือการมีชีวิตที่สงบสุข

คิมจองชอล คังยุนกยอม ทั้งสองตายไปแล้ว ส่วนฮันพันโรยังนอนขยับได้แค่เพียงมุมปากตายทั้งเป็นอยู่ในห้องลับชั้นใต้ดินบ้านของตัวเอง ในขณะที่ข่าวออกว่าเขาได้หนีออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนฮันโซราที่รอดชีวิตก็กลายเป็นคนบ้าเสียสติ ต้องอยู่ภายในโรงพยาบาลจิตเวช วัน ๆ ได้แต่เพ้อถึงลูกและชีวิตที่มีความสุข

คังยุนกยอมจากไปแล้ว แต่อีราเอลยังคงเสียใจ ทุกวันเธอเอาแต่ร้องไห้ เฝ้าแต่คิดถึงเขาอยู่ทุกวัน

อีราเอลจัดการปรับเปลี่ยน LY Group ใหม่ทั้งหมด โดยเปลี่ยนให้เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร หลังจากนั้น อีราเอลก็เดินทางไปกรุงบัวโนสไอเรส

ระหว่างที่อยู่บนเครื่องบินอีราเอลได้อ่านข้อความที่เขียนด้วยลายมือของคังยุนกยอม “…​ ต่อให้ผมรู้ว่าจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้ ผมก็ยังจะตกหลุมรักคุณเหมือนเดิม แล้วมันก็จะจบลงด้วยความรัก”

จบบริบูรณ์

ข้อมูลจาก : tvN Korea