Skip to content
สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Adamas (2022)

สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Adamas (2022)

Adamas สปอยล์ : สองพี่น้องฝาแฝดกำลังตามหาฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าพ่อของพวกเขาเมื่อ 22 ปีก่อน กับปริศนาที่ซ่อนอยู่ในลูกธนูเพชรที่ชื่อ อดามัส …

EP.1 อดามัส ลูกธนูเพชร

ฮาอูชิน (รับบทโดย จีซอง) หรือนักเขียนฮา เป็นนักเขียนนิยายแนวลึกลับที่ประสบความสำเร็จระดับ best seller เขามีแฝดผู้พี่ชื่อซงซูฮยอน (รับบทโดย จีซอง) หรืออัยการซง เป็นอัยการอยู่ที่สำนักงานอัยการกลางกรุงโซล ทั้งสองมีใบหน้าเหมือนกัน ตัดผมทรงเดียวกัน รูปลักษณ์ทางกายภาพแทบจะเหมือนกันทุกประการ แต่สิ่งที่ต่างกันคือ นักเขียนฮาจจะออกแนวง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่พิถีพิถันกับการแต่งตัว แตกต่างกับอัยการซงที่จะเนี้ยบ และมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ๆ

วันนี้ก็เป็นวันธรรมดา ๆ อีกวันหนึ่ง แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือ นักเขียนฮาได้รับจดหมายที่เขียนด้วยลายมือระบุว่า อดามัสคืออาวุธที่ใช้สังหารพ่อของเขาที่หายไปจากสำนวนคดีเมื่อ 22 ปีก่อน !

โทษประหารชีวิต

กลางดึกคืนหนึ่ง ณ ทัณฑสถานคังซอน ความมืดปกคลุมไปทั่วบริเวณ ความมืดที่ผิดปกติ ไฟที่เคยส่องสว่างกลับมืดมิด ผู้คุมหน้าละอ่อนคนหนึ่งกำลังเดินตรวจตราด้วยความแปลกใจ เพราะมันไม่เพียงแค่มืด แต่มันยังเงียบจนวังเวงไม่ต่างไปจากสุสานฝังร่างมนุษย์ ผู้คุมใช้ไฟฉายส่องไปที่ห้องขังรวมห้องหนึ่ง ภาพเบื้องหน้าทำเอาเขาตกตะลึงไฟฉายแทบหลุดร่วงออกจากมือ นักโทษ 7 รายนอนจมกองเลือดอยู่บนที่นอน แต่ไม่ทันที่ผู้คุมจะได้ทำอะไรต่อ เหล็กแหลมจากมือของนักโทษคนหนึ่งได้แทงเข้าสู่ร่างของเขา มันแทงซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนเป็นสิ่งที่มันอยากกระหายมานาน !

นักโทษอีด็อกซู คือชื่อของมัน หลังจากฆ่าจนหนำใจมันได้แต่บ่นออกมาว่า “ยังไงฉันก็ไม่โดนโทษประหารอยู่แล้ว ถึงฉันจะฆ่าคนอีกกี่คน ฉันก็ได้รับโทษเหมือนเดิม” !!!

“นักโทษตายไปเจ็ด ผู้คุมตายไปหนึ่ง” เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ประชาชนจำนวนหนึ่งออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลนำโทษประหารกลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากเกาหลีใต้ยกเลิกโทษประหารไปตั้งแต่ปี 1997

จากเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฮวังบยองชอล ตัวเต็งอันดับสองที่จะชนะการเลือกตั้ง ได้ตัดสินใจออกนโยบายว่า จะนำเอาโทษประหารกลับมาใช้อีกครั้งถ้าเขาได้เป็นประธานาธิบดี ทำให้คะแนนนิยมของเขาเพิ่มขึ้น 4%

คฤหาสน์ประธานควอน แห่งแฮซงกรุ๊ป

ที่สำนักพิมพ์ นักเขียนฮาได้รับข้อเสนอให้เป็นนักเขียนเงาของประธานควอนแห่งแฮซงกรุ๊ป ซึ่งเขาก็เซ็นรับข้อเสนอท่ามกลางความแปลกใจของคนรอบข้าง แปลกใจที่เห็นเขายอมลดศักดิ์ศรีไปเป็นนักเขียนเงาแลกกับเงินก้อนโต โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า สิ่งที่นักเขียนฮาต้องการนั้นไม่ใช่เงิน แต่มันคืออดามัส

อดามัสคือลูกธนูเพชร 300 กะรัต มูลค่าหลายหมื่นล้านวอน ที่ถูกสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษในช่วงวิกฤติศรัทธาของแฮซงกรุ๊ป ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีรากฐานมาจากรุ่นคุณปู่ที่ทำโรงงานผลิตอาวุธในญี่ปุ่นเมื่อ 80 ปีก่อน วิกฤติในตอนนั้นเกี่ยวกับสงครามและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ประธานควอนจึงใช้ความยิ่งใหญ่ของอดามัสเบี่ยงเบนความสนใจของผู้คน ทำให้ต่อมาแฮซงกรุ๊ปกลายเป็นกลุ่มธุรกิจอันยิ่งใหญ่และแข็งแกร่ง ดุจดั่งลูกธนูเพชรที่อยู่ในโลโก้ของบริษัทนั่นเอง

นักเขียนฮาได้รับอนุญาตให้เข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ของประธานควอน แห่งแฮซงกรุ๊ปเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพื่อเก็บข้อมูลเอาไปเขียนหนังสือชีวประวัติ ..​. คฤหาสน์ที่เขาเชื่อว่าอดามัสอยู่ที่นั่น

คฤหาสน์ตั้งอยู่ในพื้นที่ขนาดใหญ่ รอบล้อมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่มากมาย คล้ายกับคฤหาสน์ตั้งอยู่กลางป่าเขาแห่งธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกออกแบบเป็นอย่างดีจากนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก สวยงามอลังการ แม้แต่มองจากบนท้องฟ้าลงมาก็ยังคงสวยงามจับใจ

สิ่งแรกที่นักเขียนฮาแปลกใจคือบริเวณทางเข้าที่เต็มไปด้วยกล้องวงจรปิด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีเครื่องทันสมัยจำนวนมาก นักเขียนฮาได้รับการบอกเล่าจากเจ้าหน้าที่คนหนึ่งว่า มันเป็นเทคโนโลยีแบบจดจำใบหน้า ใครก็ตามที่ไม่มีข้อมูลอยู่ในระบบ กล้องจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนผู้บุกรุกทันที ดังนั้น นักเขียนฮาจึงต้องเข้าเครื่องสแกนร่างกายเพื่อให้ระบบรู้จัก … จากนั้นเขาก็ได้แปลกใจเป็นครั้งที่สอง เมื่อได้รู้ว่าภายในคฤหาสน์ไม่มีกล้องวงจรปิดเลยแม้แต่ตัวเดียว เพราะประธานควอนเป็นคนที่รักษาความเป็นส่วนตัว นั่นเองจึงเป็นเหตุผลที่ระบบรักษาความปลอดภัยภายนอกจึงเข้มงวดเป็นอย่างมาก

แต่เมื่อได้เข้ามาในบริเวณคฤหาสน์ นักเขียนฮากลับต้องประหลาดใจเป็นครั้งที่สาม เมื่อเขาได้เจอกับแม่บ้านควอน หัวหน้าแม่บ้านที่ทำตัวเป็นกล้องวงจรปิดชีวภาพ เป็นหมาเฝ้าบ้านที่จับจ้องและจับตาทุกอย่างภายในบ้าน ผ่านดวงตาของทุกคนที่ทำงานภายในคฤหาสน์หลังนี้ … ถ้านึกไม่ออกว่าแม่บ้านควอนเป็นยังไง ก็ให้นึกถึงป้าของบ้าน ที่รู้เรื่องของเรามากกว่าตัวเราซะอีก !

หัวหน้าแม่บ้านควอนไม่ได้เป็นญาติ แต่รับใช้ประธานควอนมาหลายชั่วอายุคน เธอภาคภูมิใจเป็นอย่างมากกับการที่นักการเมือง ผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาล รัฐมนตรี ต่างต้องเข้าหาเธอก่อนที่จะเข้าหาประธานควอน มันเป็นอย่างนั้นมาตลอด แต่ไม่ใช่สำหรับนักเขียนฮา ที่ไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลยแม้แต่นิดเดียว … แม่บ้านควอนจึงเริ่มสงสัยถึงการมาของนักเขียนฮาในทันที

คดีเมื่อ 22 ปีก่อน

ที่สำนักงานอัยการ คิมซอฮี (รับบทโดย อีซูคยอง) หรือนักข่าวคิม นักข่าวท้องถิ่นของสถานี TNN มาขอพบอัยการซงโดยไม่ได้นัดหมายไว้ล่วงหน้า แต่แค่ประโยคแรกที่เธอเอ่ยก็ทำให้อัยการรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่เธอมโนขึ้นมา “กระแสเรียกร้องให้มีการเอาโทษประหารกลับมาใช้ เป็นเกมที่ผู้สมัครฮวังบยองชอลสร้างขึ้นมาเพื่อคะแนนนิยม …”

แต่ประโยคถัดไปที่นักข่าวคิมพูด กลับทำให้อัยการซงถึงกับหัวเสียทันที “… ถ้าเขาได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีก็จะมีการนำโทษประหารกลับมาใช้ และคนแรก ๆ ที่จะถูกประหารก็คือ อีชางอู ฆาตกรที่ฆ่าพ่อของคุณ”

“ออกไปได้แล้ว ยัยบ้าเอ๊ย !” อัยการซงตวาดใส่หน้านักข่าวคิม เขารู้สึกว่าเธอล้ำเส้นและพูดจาเพ้อเจ้อไปเรื่อย นักข่าวคิมจึงพุ่งตรงเข้าประเด็น … เธอบอกกับเขาว่า อีชางอูเป็นผู้บริสุทธิ์ ก่อนจะวางเอกสารหลักฐานในคดีที่เธอรวบรวมไว้วางบนโต๊ะ พร้อมกับใบ้ว่า “คดีนี้ไม่มีอาวุธสังหาร เพราะมีคนเอาไป และถ้าอีชางอูถูกประหารคุณก็จะไม่มีวันเจอฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าพ่อของคุณ”

ผู้สมัครประธานาธิบดีหุ่นเชิด

ภาพตัดมาที่สำนักงานลับแห่งหนึ่ง สภาพภายในสำนักงานเต็มไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทคต่าง ๆ ตอนนี้ทุกคนกำลังสาละวนอยู่กับการ seeding ความคิดเห็นเข้าไปในโลกโซเชียล เพื่อโน้มน้าวให้คนเห็นด้วยกับการนำโทษประหารกลับมาใช้อีกครั้ง หน้าที่ของสำนักงานลับแห่งนี้ไม่ใช่เพียงเท่านี้ ยังเรื่องการคุมสื่อ คุมนักการเมือง คุมอัยการ และที่สำคัญคือ การสังหาร

สำนักงานนี้ควบคุมโดยหัวหน้าทีมอี ขึ้นตรงกับควอนฮยอนโจ ลูกชายคนโตของประธานควอน … นั่นหมายความว่า สำนักงานลับแห่งนี้ทำหน้าที่เหมือน CIA ของแฮซงกรุ๊ป !

ระหว่างนั้นข่าว breaking news รายงานด่วนว่า ผู้สมัครฮวังบยองชอลถูกคนร้ายที่ไม่เห็นด้วยกับการนำเอาโทษประหารกลับมาใช้แทงเข้าที่ต้นขา ตอนนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อาการปลอดภัยดี

หัวหน้าทีมอียิ้มให้กับผลงานาของตัวเอง ทั้งหมดมันเป็นแผนที่มีการวางเอาไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อสร้างให้ฮวังบยองชอลขึ้นเป็นประธานาธิบดีหุ่นเชิดของแฮซงกรุ๊ป !

EP.2 ความร่วมมือ

เช้าตรู่ของอีกวัน อัยการซงนั่งจิบกาแฟอยู่ที่คอนโด พร้อมกับเปิดทีวีดูข่าวคลอไปกับการอ่านเอกสารที่นักข่าวคิมเอามาให้เมื่อวาน หลังประมวลเหตุการณ์ต่าง ๆ แล้ว เขาจึงติดต่อหานักข่าวคิมอีกครั้ง และก็ได้ข้อมูลสำคัญว่า พยานคนหนึ่งในคดีฆาตกรรมพ่อของเขาเมื่อ 22 ปีก่อนให้การเท็จ

อัยการซงตามไปหาพยานคนนั้นที่อาศัยอยู่กับภรรยาที่เป็นอัมพาต แล้วมันก็เป็นจริง ๆ ตามที่นักข่าวคิมบอก พยานคนนั้นยอมรับว่าเขาให้การเท็จในคดีเมื่อ 22 ปีที่แล้ว แต่พยานคนนั้นก็ยิงคำถามกลับ​ “ผมยอมรับว่าผมทำผิดจริง แต่ผมทำเพื่อครอบครัว แล้วคุณจะทำอะไรได้กับคดีที่ตัดสินไปแล้วเมื่อ 22 ปีก่อน อีกอย่างทำไมคุณไม่ไปทำตัวฆาตกรล่ะว่าทำไมเขารับสารภาพ ถ้าคุณคิดว่าเขาบริสุทธิ์”

ใช่ ถ้าอีชางอูไม่ใช่ฆาตกร แล้วทำไมเขาต้องรับสารภาพด้วย ? อัยการซงคิดไม่ตกว่าทำไม

วันถัดมา อัยการชงถูกปลุกให้ตื่นจากเสียงรายงานข่าวทางทีวี ข่าวการตายของชายคนหนึ่งกับภรรยาอัมพาตที่กระโดดตึกฆ่าตัวตาย อัยการซงตื่นจากภวังค์ทันทีเมื่อรู้ว่า ผู้ตายคือพยานกับภรรยาที่เขาเพิ่งไปพบเมื่อวานนี้ … เขารู้ได้ในทันทีว่ามันต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็นอย่างแน่นอน !

ตัดภาพมาที่หัวหน้าทีมอี เขาคือคนที่ส่งคนไปฆ่าตัดตอนพยานคนนั้น แล้วจัดฉากว่าเป็นการฆ่าตัวตาย

แม่บ้านหรือป้าข้างบ้าน

ภายในคฤหาสน์ นักเขียนฮาพยายามเดินสำรวจภายในเพื่อดูว่า อดามัสถูกเก็บเอาไว้ที่ไหน และอีกอย่างที่ต้องตามหาคือ ใครคือผู้ที่เขียนจดหมายบอกเรื่องอดามัส รวมถึงช่วยให้เขาเข้ามาอยู่ภายในคฤหาสน์แห่งนี้

ระหว่างนั้น นักเขียนฮาได้เจอหญิงสาวคนหนึ่งในเรือนเพาะชำ เธอคืออึนฮเยซู ทายาทเจ้าของศูนย์การแพทย์อึนกุก และเป็นสะใภ้ใหญ่ของคฤหาสน์แห่งนี้ แววตาของนักเขียนฮาดูเหมือนจะประทับใจอะไรบางอย่างในตัวอึนฮเยซู แต่เขาพยายามซ่อนมันเอาไว้

แต่ทุกการกระทำและคำพูดของนักเขียนฮาดูเหมือนจะอยู่ในสายตาของแม่บ้านควอนทั้งสิ้น เธอรู้พฤติกรรมของเขาทุกอย่างผ่านสายตาและหูของแม่บ้านที่ดูแลนักเขียนฮา มันยิ่งทำให้เธอยิ่งสงสัยในตัวเขามากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังหาหลักฐานที่จะเอาผิดเขาไม่ได้

วันหนึ่ง นักเขียนฮาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่บ่งบอกว่า อึนฮเยซูเป็นคนที่เขียนจดหมายบอกเขาเรื่องอดามัส เขาจึงเข้าไปหาเธอที่เรือนเพาะชำ เธอยอมรับว่าเป็นคนเขียนจดหมายนั้นจริง เพราะเธอได้ยินสามีของเธอ (ควอนฮยอนโจ) พูดตอนเขาเมา จากนั้นเธอก็ยิงคำถาม “แล้วคุณมาที่นี่ทำไม ?”

นักเขียนฮานิ่งไปพักใหญ่ก่อนจะตอบ “ผมมาขโมยอดามัส เพื่อเอาไปพิสูจน์ว่ามันเป็นอาวุธในการฆาตกรรมจริง ๆ แล้วคุณก็ต้องเป็นคนช่วยผม เพราะคุณเป็นคนพาผมมาที่นี่”

สะใภ้ใหญ่ของแฮซงกรุ๊ปถึงกับหน้าถอดสี “ฉันเขียนจดหมายหาคุณ แต่คนที่แนะนำให้คุณมาที่นี่ไม่ใช่ฉัน นี่แหละปัญหา”

แล้วคนนั้นคือใคร ?

EP.3 ภาพสเก็ตช์หน้าคนร้าย

นักเขียนฮาต้องการให้อึนฮเยซูช่วยเขาขโมยอดามัส แต่เมื่อเธอปฏิเสธ เขากลับงัดเอาคลิปเสียงที่แอบบันทึกตอนที่เธอบอกเขาเรื่องอดามัสขึ้นมาแบล็กเมล อย่างไรก็ตามอึนฮเยซูก็ยังคงปฏิเสธอยู่ดี แถมเธอตอบโต้สิ่งที่เขาทำด้วยความโกรธและเดือดดาล

ถึงอย่างไรนักเขียนฮาก็ต้องการคนช่วย เขาจึงเข้าหาชเวแทซอง หรือหัวหน้าชเว หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์แห่งนี้ และวิธีที่เลือกใช้ก็เหมือนเดิม นั่นคือการแบล็กเมล …

หัวหน้าชเวแท้จริงแล้วเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อสืบเรื่องราวภายในของแฮซง นักเขียนฮาจึงใช้จุดนี้แหละมาแบล็กเมล โดยเขาบอกจุดประสงค์ชัดเจนว่าต้องการมาขโมยอดามัส เพื่อไปใช้พิสูจน์ว่าเป็นอาวุธสังหารที่ใช้ฆ่าพ่อของเขาเมื่อ 22 ปีก่อน ตอนแรกหัวหน้าชเวก็ตั้งท่าเป็นปฏิปักษ์ แต่เมื่อได้รู้จักกันมากขึ้น หัวหน้าชเวก็เริ่มมีท่าทีอ่อนลง

ในตอนนี้หัวหน้าชเวนัดใ้ห้นักเขียนฮามาเจอกันในที่ปลอดคน เพื่อจะบอกข้อมูลบางอย่าง … แฮซงกรุ๊ปเป็นหนึ่งใน ‘แอรีส’ กลุ่มค้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดของประเทศ เป็นกลุ่มบริษัทที่ผลิตทุกอย่างตั้งแต่อุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันตัวไปจนถึงอาวุธทางการทหาร ซึ่งก็บังเอิญกับที่ก่อนหน้านี้ ผู้ช่วยของนักเขียนฮาเกิดไปเห็น เลขาฯ สาวใบ้ของประธานควอนใช้ภาษามือคุยเรื่อง แฮซงสนับสนุนอยู่เบื้องหลังฮวังบยองชอลให้ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดี หลังจากนั้นจะมีการผลักดันนโยบายให้ประชาชนสามารถใช้อาวุธปืนได้อย่างเสรี

เมื่อหัวหน้าชเวได้รู้ว่าแฮซงต้องการทำให้ประชาชนเข้าถึงอาวุธปืนได้อย่างเสรี ก็ทำเอาเขาพรั่งพรูคำด่าหยาบคายออกมาไม่หยุด เขาด่าว่าพวกนี้มันเป็นพวกชั่วร้าย และเขาจะไม่มีวันยอมให้วันนั้นมาถึง วันที่ประเทศนี้จะมีปืนวางขายอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อ เขาจะไม่มีวันปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้นอย่างแน่นอน

พยานเมื่อ 22 ปีที่แล้ว

นักข่าวคิมไปหาอัยการซงด้วยสภาพน้ำตาเปรอะสองแก้ม เธอเผยความจริงว่า พยานเท็จที่เธอบอกให้เขาไปหาเมื่อวันก่อน แท้จริงแล้วเป็นพ่อและแม่ของเธอ นักข่าวคิมบอกกับอัยการซงด้วยน้ำเสียงอันขมขื่นว่า “ฉันมั่นใจว่าพวกท่านทั้งสองไม่ได้ฆ่าตัวตายตามที่เป็นข่าวอย่างแน่นอน” สิ่งที่เธอพูดมันเป็นแบบเดียวกับที่เขาคิด คนที่ฆ่าพ่อของเขาเป็นพวกเดียวกับที่จัดฉากฆ่าพ่อแม่ของเธอ !

จากนั้น นักข่าวคิมได้สารภาพความจริงในคืนนั้น เธอเห็นหน้าคนร้ายที่ฆ่าพ่อของอัยการซง !!! แต่ที่เธอต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็เป็นเพราะพ่อสั่งอย่าบอกใคร ไม่อย่างนั้นมันจะพาเรื่องซวยมาให้ครอบครัว และเธอก็เก็บมันเอาไว้มาตลอดระยะเวลา 22 ปีเต็ม ภาพคนร้ายยังคงชัดเจนอยู่ในหัวของเธอ

นักข่าวคิมวาดภาพสเก็ตช์คนร้ายในวันนั้นออกมาให้อัยการซง !?

EP.4 สร้างสถานการณ์

อัยการซงยังคงสับสนกับภาพสเก็ตช์หน้าคนร้ายที่วาดขึ้นจากความทรงจำของนักข่าวคิม เขาจึงนำภาพสเก็ตช์นั้นไปหาอีชางอู แต่ไม่ว่าเขาจะเค้นความจริงอย่างไร คำตอบก็ยังคงเหมือนเดิม อีชางอูยืนยันว่าเขาเป็นฆาตกรตัวจริง และไม่รู้จักชายในภาพสเก็ตช์นั้นเลย

อย่างไรก็ตาม การที่อัยการซงมาตีเยี่ยมอีชางอูพร้อมกับภาพสเก็ตช์ ทำให้หัวหน้าทีมอีรู้ความจริงว่า พยานที่เห็นหน้าของเขาเมื่อ 22 ปีก่อนก็คือนักข่าวคิม ที่ตอนนั้นเป็นเด็กหญิงวัยเพียง 7 ขวบ เขาจึงสั่งทีมให้ลงมือปิดปากอัยการซงกับนักข่าวคิมเพื่อตัดปัญหา

พ่อที่แท้จริง

ที่คฤหาสน์ประธานควอน … นักเขียนฮาเปิดคลิปเสียงที่แอบบันทึกไว้ให้หัวหน้าชเวฟัง ในคลิปเป็นเสียงของอึนฮเยซูที่กำลังพูดว่า “สิ่งที่ฉันได้ยินสามีฉันพูดก็คือ ‘พ่อของผมฆ่าคนด้วยอดามัส และอีชางอูเป็นผู้ที่ต้องรับผิด’” … เมื่อได้ยินคลิป หัวหน้าชเวจึงตกลงจะร่วมมือกับเขา เพราะมองว่ามีเป้าหมายเดียวกันคือประธานควอน

ในคืนนั้น นักเขียนฮาก็นึกถึงคำสั่งเสียของแม่ที่บอกว่า “อีชางอูเป็นพ่อแท้ ๆ ของแก” !

ที่แท้อีชางอูคือพ่อแท้ ๆ ของนักเขียนฮา (และด้วยเหตุผลบางอย่าง จึงทำให้เขาปิดบังเรื่องนี้กับอัยการซง) นั่นหมายความว่าเขาต้องขโมยอดามัสให้ได้เพื่อนำไปใช้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพ่อ ก่อนที่ฮวังบยองชอลจะได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เพราะนโยบายแรกที่เขาประกาศจะทำก็คือ การเซ็นคำสั่งให้โทษประหารกลับมาใช้อีกครั้งและมีผลในทันที และอีชางอูก็จะกลายเป็นนักโทษคนแรก ๆ ที่โดนประหารตามคำสั่งนี้ … เวลาของนักเขียนฮาเหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว เมื่อเวลาเหลือน้อย นักเขียนฮาจึงวางแผนหาที่ซ่อนอดามัสทันที

เช้าวันรุ่งขึ้น นักเขียนฮาจึงบอกกับหัวหน้าชเวถึงแผนที่เขากำลังจะทำ นั่นคือการทำให้ระบบดับเพลิงในคฤหาสน์ทำงาน แล้วอาศัยจังหวะนั้นเข้าไปหาที่ซ่อนของอดามัส แต่สิ่งที่เขาต้องการรู้ก็คือ ระบบดับเพลิงของคฤหาสน์ทำงานอย่างไร ?

หัวหน้าชเวเล่าถึงความล้ำสมัยของระบบดับเพลิงภายในคฤหาสน์ ด้วยความที่ภายในคฤหาสน์มีผลงานศิลปะล้ำค่าอยู่มากมาย ระบบดับเพลิงจึงใช้แบบก๊าซฮาโลเจน “เมื่อระบบตรวจพบควันและความร้อนพร้อมกัน ทุกคนจะต้องอพยพออกจากคฤหาสน์ภายใน 3 นาที หลังจากนั้นระบบจะใช้ไฟร์วอลล์ (ประตู​กันไฟ) ปิดกั้นในแต่ละชั้น และจะปล่อยก๊าซฮาโลเจนออกมากันก๊าซออกซิเจนออกไปเพื่อดับไฟ”

เมื่อถึงเวลาลงมือ หลังจากหัวหน้าชเวจัดการกับระบบดับเพลิงให้เกิดการขัดข้องแล้ว นักเขียนฮาก็จัดการสับสวิตช์สัญญาณเตือนภัยดับเพลิง ทุกคนรีบวิ่งออกมาอยู่ด้านนอกคฤหาสน์ด้วยความตื่นตกใจ แต่อยู่ดี ๆ แม่บ้านควอนก็พูดขึ้นมาว่า เลขาฯ ของประธานควอนที่หูหนวกหายไป นักข่าวฮาจึงตกใจรีบวิ่งเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อหาตัวเลขาฯ สาวทันที

แต่ดูเหมือนว่ามันจะช้าไปเสียแล้ว ไฟร์วอลล์ปิด ก๊าซฮาโลเจนถูกปล่อยออกมา นักเขียนฮาขาดอากาศหายใจจนนอนสลบไปกองอยู่กับพื้น ในขณะที่แม่บ้านควอนยืนยิ้มอยู่ด้านนอก ส่วนอึนฮเยซูก็รีบตะโกนโวยวายออกมาให้เจ้าหน้าที่ปิดระบบดับเพลิง เพราะยังมีคนอยู่ในคฤหาสน์ … แต่มันจะสายไปหรือเปล่านะ ?

EP.5 ที่ซ่อนอดามัส

นักเขียนฮานอนหมดสติอยู่ภายในห้องทำงานของประธานควอน ระบบดับเพลิงด้วยก๊าซฮาโชเจนถูกปิดก่อนที่เขาจะเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ

นักเขียนฮาฟื้นได้สติโดยมีหัวหน้าชเวยืนอยู่ข้างเตียง เขาแจ้งข่าวทันทีว่ายังขโมยอดามัสไม่สำเร็จตามแผน แต่เขารู้แล้วว่ามันซ่อนอยู่ที่ไหน “อดามัสอยู่บนเพดาน พรมที่ปูตรงนั้นเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในวันเปิดตัวอดามัส เขา (ประธานควอน) ทำแบบนั้นก็เพื่อจะได้ชื่นชมมันทุกครั้งที่ต้องการ เพราะอดามัสเป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จของเขา”

นักเขียนฮาตั้งใจจะขโมยอดามัสในคืนนั้นทันที เพราะวันนี้ทั้งประธานควอนและหัวหน้าแม่บ้านไม่อยู่ที่คฤหาสน์ จะหาโอกาสดี ๆ แบบนี้ได้เมื่อไรอีก

นักเขียนฮาบอกกับหัวหน้าชเวถึงสิ่งที่เขาวิเคราะห์ออกมาอย่างกับตาเห็น เขาเชื่อว่ามีปุ่มที่กดเพื่อให้กลไกเลื่อนอดามัสลงมาจากเพดาน ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ได้มาจากการที่เขาวิเคราะห์นิสัยของประธานควอน ไม่เท่านั้น นักเขียนฮายังรู้ถึงรหัสปลดล็อกต่าง ๆ ของท่านประธานควอนอีกด้วย

ด้านอัยการซงในตอนนี้ โดนนักข่าวคิมที่ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่คังฮยอกพิล แห่งหน่วยสืบสวนคดีพิเศษ พาตัวมาซ่อนที่เซฟเฮาส์ ที่นี่อัยการซงจึงได้รู้ถึงสิ่งที่น้องฝาแฝดของเขากำลังทำอยู่ นั่นคือการเข้าไปขโมยอดามัสภายในคฤหาสน์แฮซง เพราะเชื่อว่าประธานควอนเป็นฆาตกรที่ใช้อดามัสเป็นอาวุธสังหารพ่อเลี้ยงของเขา

อัยการซงไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่นักเขียนฮาทำอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะการขโมยอดามัสมันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ที่สำคัญ ถึงขโมยมาได้จริงก็ไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันว่าประธานควอนเป็นฆาตกร สำหรับอัยการซงแล้ว เขาไม่เชื่อว่าประธานควอนจะเป็นคนลงมือ เพราะรูปสเก็ตช์หน้าคนร้ายจากนักข่าวคิมไม่ใช่ใบหน้าของประธานควอน

ตัดกลับมาที่คฤหาสน์แฮซง ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามแผน นักเขียนฮาเข้าไปภายในห้องทำงานของประธานควอน ปุ่มลับอยู่ที่ใต้โต๊ะทำงานจริง ๆ เมื่อเขากดปุ่มนั้น กลไกบนเพดานก็เลื่อนออกอย่างช้า ๆ แท่นอดามัสค่อย ๆ ลงมาอยู่เบื้องหน้า แต่ …

แต่มันมีเพียงแท่นที่ปราศจากอดามัส !?

EP.6 อดามัสที่หายไป

หน่วยสืบสวนคดีพิเศษจับตัวน้องชายของหัวหน้าทีมอีเอาไว้ได้ ขณะที่เขากำลังแอบเข้าไปทำร้ายอัยการซงภายในบ้านพัก คังฮยอกพิลสั่งให้ลูกน้องทรมานโดยการใช้ไฟช๊อตเพื่อให้คายความลับ แต่ดูเหมือนว่าน้องชายของหัวหน้าทีมอีจะไม่ปริปากพูดออกอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว

อัยการซงขอลองสอบสวนน้องชายของหัวหน้าทีมอีด้วยตัวเอง เขาใช้ยาฉีดคลายกล้ามเนื้อเพื่อขู่ แต่ก็เหมือนเดิม ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกจากปากของเชลยแม้แต่คำเดียว … ยาถูกฉีดเข้าเส้นไปแล้ว อัยการซงเข้าใจว่ามันเป็นเพียงยาชาที่เอาไว้ขู่เท่านั้น แต่ไม่ใช่ เพราะมันเป็นยาคลายกล้ามเนื้อจริง ๆ ยาที่อาจทำให้เหยื่อขาดอากาศหายใจจนตาย !

คังฮยอกพิลหลอกอัยการซง … นี่หรือวิธีการทำงานของตำรวจหน่วยสืบสวนคดีพิเศษ !? แต่คำพูดตอบกลับก็คือ “มันไม่มีดีหรือชั่วหรอก มันมีแต่ทางที่ชั่วน้อยที่สุดเท่านั้น”

ทันใดนั้นเองเรื่องราวก็บานปลายใหญ่โต เมื่อหัวหน้าทีมอีระดมลูกน้องพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้ามาที่เซฟเฮาส์ของหน่วยสืบสวนคดีพิเศษ ด้วยกำลังและอาวุธที่เหนือกว่า ฝ่ายของหัวหน้าทีมอีจึงจัดการกับพวกตำรวจได้ไม่ยากเย็นนัก … จังหวะนั้นเอง หัวหน้าทีมอีกได้เห็นภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดที่น้องชายของเขาถูกทรมานก็โกรธมาก และยิ่งเห็นอัยการซงฉีดยาคลายกล้ามเนื้อเข้าเส้นน้องชายเขาก็ยิ่งโกรธเป็นเท่าทวีคูณ แต่ไม่ไรสัญญาณระเบิดก็ดังขึ้น หัวหน้าทีมอีและลูกน้องจึงรีบวิ่งหนีออกมาจากเซฟเฮาส์ ไม่กี่วินาทีนับจากนั้นเซฟเฮาส์ก็ระเบิดเป็นจุณ

อัยการซงกับนักข่าวคิมรอดมาได้ ทั้งสองเข้าไปหลบที่บ้านของนักเขียนฮา

ในเวลาเดียวกันนั้น หัวหน้าชเวรู้ข่าวที่เกิดขึ้นด้านนอกคฤหาสน์ เขาก็รีบบอกกับนักเขียนฮาให้หนีออกไปจากที่นี้ทันที แต่นักเขียนฮายังอยากอยู่ต่อ เขาต้องการรู้ให้ได้ว่าอดามัสถูกย้ายเอาไปไว้ที่ไหน

การแต่งงานที่พ่อต้องการ

ภาพแฟลชแบ็กย้อนกลับไปวันแต่งงานของควอนฮยอนโจกับอึนฮเยซู มันเป็นการแต่งงานเพื่อธุรกิจโดยไม่มีเรื่องความรักเข้ามาเจือปนเลยแม้แต่นิดเดียว ควอนฮยอนโจให้สัญญากับอึนฮเยซูว่า จะหย่ากับเธอทันทีที่พ่อของเขา (ประธานควอน) จากไป

ด้วยความสงสัยอึนฮเยซูจึงถามควอนฮยอนโจว่าทำไมถึงเลือกเธอเป็นภรรยา เขาตอบกลับไปทันทีว่า “เพราะพ่อของผมเป็นคนเลือก”

ส่วนคนรักจริง ๆ ของควอนฮยอนโจคือเลขายุน เลขาใบ้ของประธานควอนนั่นเอง

EP.7 คนละเป้าหมายเดียวกัน

อึนฮเยซูบอกกับนักเขียนฮาว่า ประธานควอนสั่งให้เอาอดามัสไปทำใหม่ เพื่อใช้ในงานฉลองครบรอบ 80 ปี ซึ่งจะเป็นวันเดียวกับที่เขาจะประกาศลงจากตำแหน่ง แล้วให้ควอนฮยอนโจขึ้นสืบทอดตำแหน่งประธานแฮซงกรุ๊ปแทน “นับเป็นข่าวร้ายสำหรับคุณนะ ถ้ารูปทรงอดามัสเปลี่ยนไปหลังทำใหม่ มันก็ไม่สามารถเอาไปเทียบกับผลชันสูตรได้”

ใช่ สิ่งที่อึนฮเยซูพูดถูกต้อง ดังนั้นนักเขียนฮาต้องเอาหาอดามัสให้เจอก่อนที่มันจะถูกทำใหม่

จากนั้นอึนฮเยซูก็เปิดอกเล่าเรื่องควอนมินโจ ลูกชายคนรองของประธานควอนที่เป็นคนรักของเธอ ทุกคนรู้จากข่าวว่าเขาตายจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก แต่เบื้องหลังมันมีเงื่อนงำมากกว่านั้น และอึนฮเยซูก็เชื่อว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของควอนมินโจก็คือประธานควอน “มินโจพยายามเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับคดีของพ่อคุณ มันทำให้เขาถูกฆ่า”

อึนฮเยซูเชื่อมาตลอดว่า เธอกับนักเขียนฮามีเป้าประสงค์เดียวกันคือเล่นงานประธานควอน แต่แท้จริงแล้วเป้าหมายของนักเขียนฮาไม่ใช่ประธานควอน แต่คือการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับนักโทษประหารอีชางอู (แม่ของนักเขียนฮาบอกก่อนที่ท่านจะจากไปว่าอีชางอูเป็นพ่อแท้ ๆ ของเขา แต่อัยการซงไม่รู้ความจริงข้อนี้)

จากนั้น นักเขียนฮาก็ตามสืบเรื่องความสัมพันธ์ของแม่บ้านควอนกับประธานควอน จนได้รู้ว่าทั้งสองเติบโตมาด้วยกันเป็นเหมือนเงาตามตัว แต่เธอจะเป็นคนที่โดนลงโทษแทนประธานควอนอยู่เสมอ ด้วยความจงรักภักดีขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะครอบครัวของเธอรับใช้ตระกูลนี้มาหลายชั่วอายุคน … แต่สิ่งที่น่าตกตะลึงก็คือ ประธานควอนเคยผ่าตัดหัวใจ และผู้บริจาคก็คือลูกชายของแม่บ้านควอน ลูกชายที่ผูกคอตายแต่ไม่สำเร็จ ทำให้สมองตายแต่หัวใจยังใช้งานได้ปกติ !

ด้วยหัวใจดวงนั้นที่อยู่ในร่างของประธานควอน ความรักและความภักดีที่แม่บ้านควอนให้กับประธานควอนมันจึงไม่ใช่ความสัมพันธ์ธรรมดาทั่วไป แต่มันเป็นความสัมพันธ์ที่เหนือสิ่งอื่นใด

ที่สำนักงานใหญ่ของหน่วยสืบสวนคดีพิเศษ … อัยการซงและนักข่าวคิมถูกพาตัวมา ที่นี่ทั้งสองได้รู้ความลับทางคดีอันน่าตกตะลึงของทีมเก็บกวาดของแฮซง

ทีมเก็บกวาดแฮซงหรือรู้จักกันในชื่อทีมเอ ปัจจุบันมีหัวหน้าทีมอีเป็นหัวหน้าผู้สั่งการทั้งหมดอย่างเป็นอิสระ ทีมมีหน้าที่ทำงานสกปรกต่าง ๆ ให้กับแฮซง ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าอำพรางคดีต่าง ๆ จัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุทางการแพทย์ อุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือหายสาบสูญ เป้าหมายคือกำจัดศัตรูและอุปสรรคของแฮซง

คังฮยอกพิลหัวหน้าหน่วยสืบสวนคดีพิเศษบอกกับอัยการซงว่า เป้าหมายของเขาคือการจับประธานควอน โค่นทีมเอ และหยุดอิทธิพลของแฮซง แต่ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไรก็ตาม อัยการซงก็ดูจะไม่สนใจเลยสักนิด ว่าที่จริงแล้วเขาแทบไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยินมาเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะมันเป็นเรื่องเกินจริงกว่าที่จะเชื่อได้

คังฮยอกพิลจึงบอกกับอัยการซงว่า เป้าหมายของประธานควอนคือการทำให้อาวุธปืนถูกกฎหมาย ประชาชนสามารถซื้อได้อย่างเสรี และถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ มันจะเกิดขึ้นทันทีหลังจบการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อผู้สมัครที่เขาสนับสนุนชนะการเลือกตั้ง เมื่อได้ยินเช่นนั้น อัยการซงจึงตกลงร่วมมือด้วยทันที …

และแผนของคังฮยอกพิลก็คือการหาอดามัสให้เจอ เพื่อใช้มันเอาผิดประธานควอน แต่ปัญหาคือแม้แต่หน่วยสืบสวนคดีพิเศษเองไม่รู้ว่าตอนนี้มันอยู่ที่ไหน !!?

EP.8 เพาะเชื้อความไม่ไว้ใจ

นักเขียนฮาเขียนเรื่องสั้นเทียบเคียงเรื่องราวลูกชายที่จากไปของแม่บ้านควอนให้เธออ่าน โดยมีเนื้อหาชวนให้เข้าใจว่า ประธานควอนจงใจสังหารลูกชายของเธอเพื่อให้ได้รับบริจาคหัวใจ “สร้างคนบริจาคง่ายกว่าการรอคนบริจาค”

แม่บ้านควอนอ่านไปมือก็สั่นสะท้านไป เธออ่านแต่ละตัวอักษรด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง จนมาถึงประโยคที่ว่า “พี่เลี้ยงผู้ภักดีย่อมเต็มใจมอบหัวใจของลูกชายที่นอนอาการโคม่าให้กับลูกชาย” ดวงตาของเธอก็เบิกโพลง แทบทุกส่วนสัดอวัยวะของร่างกายสั่นไปทั้งร่าง แล้วความรู้สึกต่อต้านก็พรั่งพรูออกมา “ไม่จริง ๆ” แม่บ้านควอนพูดไปพร้อมกับฉีกกระดาษขนาด A4 จำนวนหลายสิบแผนในมือทิ้ง คำพูด “ไม่จริง” และ “เป็นไปไม่ได้” ออกมาจากปากเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ณ เวลานี้ แม่บ้านควอนแทบเป็นบ้า ไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่า การได้อ่านนิยายเรื่องสั้นที่แต่งขึ้นโดยคนที่เธอเกลียด มันจะทำเธอออกอาการได้มากมายขนาดนี้ ปากได้แต่พูดว่ามันไม่จริง แต่ในหัวของเธอก็รู้ว่ามันจริง !

ปฏิกิริยาของแม่บ้านควอนที่เกิดขึ้นหลังจากอ่านเรื่องสั้น เป็นสิ่งที่นักเขียนฮาคาดเอาไว้อยู่แล้ว เขารู้อยู่แล้วว่าเธอจะต่อต้าน แต่สิ่งที่เขาต้องการก็คือ เมื่อแม่บ้านควอนได้มีเวลาทบทวนเรื่องราวในอดีต ความฉลาดของเธอจะนำทางเธอไปสู่ความจริงเอง เมื่อนั้นนักเขียนฮาก็จะได้แม่บ้านควอนมาเป็นพวก และถึงตอนนั้นแม่บ้านควอนก็จะตอบคำถามสิ่งที่เขาอยากรู้มากที่สุด นั่นก็คือ “อดามัสอยู่ที่ไหน ?”

เมื่อปล่อยให้แม่บ้านควอนอ่านนิยายจนจบและปล่อยเวลาให้คิด จากนั้นนักเขียนฮาก็มาปั่นหัวแม่บ้านควอน โดยเขาพยายามเพาะเชื้อความไม่เชื่อใจที่มีต่อประธานควอนให้เข้าไปในหัวเธอ แล้วก็รอให้เชื้อมันเติบโตขึ้นมาเอง

แต่เรื่องตลกก็คือ ประธานควอนเตรียมจะใช้คฤหาสน์เป็นสถานที่จัดงานครบรอบ 80 ปี นั่นหมายความว่า อดามัสน่าจะถูกนำกลับมาเก็บที่คฤหาสน์ … ทำไปทำมาเรื่องราวก็เหมือนกับวนกลับมาที่จุดเดิม !!!

แล้วจู่ ๆ นักเขียนฮาก็เอ่ยปากพูดกับตัวเองด้วยความสงสัยว่า “ทำไมพวกนั้นถึงปล่อยอีชางอูให้มีชีวิตจนถึงตอนนี้ ?”

ขณะเดียวกัน อัยการซงและนักข่าวคิม รวมทั้งหัวหน้าหน่วยสืบสวนคดีพิเศษคังฮยอกพิลต้องปวดหัวกับสำนวนคดี และหลักฐานผลชันสูตรพลิกศพที่หายไป อีกทั้งพวกทีมเอยังมาทำลายศพพ่อเลี้ยงของอัยการซงที่หลุมฝังศพอีกด้วย เพราะถ้าศพถูกทำลาย แม้ได้อดามัสมาก็ไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกับศพได้นั่นเอง แต่ …

แต่นักเขียนฮาคาดเอาไว้อยู่แล้ว ก่อนที่จะเริ่มแผน เขาได้สับเปลี่ยนป้ายหลุมศพเอาไว้ ทำให้ตอนนี้ศพที่เป็นหลักฐานสำคัญยังคงอยู่

ระหว่างที่อัยการซงกำลังเข้าไปตรวจสอบหลุมฝังศพ ระเบิดที่ใส่เอาไว้ท้ายรถก็ได้ระเบิดขึ้น ผ่านไปหลายชั่วโมงถึงจะมีคนนำตัวเขาไปส่งโรงพยาบาล

EP.9 นักฆ่าสาวโรคจิต

แม่บ้านควอนเชื่อว่านักเขียนฮาเข้ามาในคฤหาสน์แฮซงด้วยเจตนาแอบแฝง เธอคิดว่าเขาต้องการหาข้อมูลของควอนมินโจ ลูกชายคนรองของประธานควอนที่มีข่าวว่าเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก เพื่อเอาไปเขียนหนังสือเล่มต่อไป … แต่เมื่อแม่บ้านควอนเอาเรื่องนี้ไปบอกกับท่านประธานควอน เขาก็ถึงกับอารมณ์เสียขึ้นมาทันที และมันไม่ใช่แค่อารมณ์เสียธรรมดาเสียด้วย

ประธานควอนตวาดลั่นใส่หน้าของแม่บ้านควอนด้วยอารมณ์เดือดดาล “นี่เธอคิดว่าฉันฆ่าลูกตัวเองอย่างนั้นเหรอ ต่อให้คนทั้งโลกจะคิดว่าฉันฆ่ามินโจ แต่เธอก็ควรเป็นคนเดียวที่ไม่คิดแบบนั้น” เวลานี้แม่บ้านควอนลงไปคุกเข่าหัวก้มลงสัมผัสพื้น เป็นภาษากายที่บอกอย่างชัดเจนว่าเธอรู้สึกผิดกับสิ่งที่พูดออกไปเมื่อครู่ เธอรู้สึกผิดจากใจจริง จากนั้นเธอก็คลานเข้าไปกอดขาของนายที่เธอรักและภักดีที่สุดในชีวิต

หลังจากนั้น แม่บ้านควอนก็สั่งให้คนงานตัดต้นไม้ต้นที่ลูกชายของเธอผูกคอตายทิ้ง มันเป็นการตอกย้ำว่า เวลานี้เธอได้ปล่อยวางจากความเจ็บปวดเรื่องการตายของลูกชายได้แล้ว

นักฆ่าซอน

อัยการซงปลอดภัยจากแรงระเบิด เพราะเจ้าหน้าที่หน่วยสืบสวนคดีพิเศษใช้ร่างของตัวเองเป็นโล่มนุษย์ให้เขา และตอนนี้อัยการซงก็ถูกพามาพักรักษาตัวอยู่ที่เซฟเฮาส์ … ขณะที่เขานอนอยู่บนเตียง เขาได้แต่คิดถึงเสียงของหญิงสาวที่เขาได้ยินผ่านลำโพงโทรศัพท์ที่บอกว่าเธอชื่อ “ซอน” ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาที

ซอนเป็นนักฆ่าสาววัยยี่สิบกลาง ๆ ที่หัวหน้าทีมอีจ้างมาให้จัดการกับอัยการซงกับนักข่าวคิม เธอเป็นนักฆ่าโรคจิตที่มองเห็นความตายเป็นเรื่องสนุก และเธอชอบทำงานคนเดียว … แต่ดูเหมือนเธอจะพลาดเสียแล้ว เพราะอัยการซงยังไม่ตาย !

และไม่เพียงไม่ตาย อัยการซงยังเดินป๋อครบสามสิบสอง ไม่เหมือนกับคนเพิ่งโดนลอบวางระเบิดมาเลยแม้แต่นิดเดียว จะมีให้เห็นร่องรอยบ้างก็ที่บริเวณแก้ม เป็นแผลถาก ๆ เล็ก ๆ จุดสองจุด

ที่บ้านของคุณจาง (ดีไซเนอร์เครื่องประดับหญิงที่ทำหน้าที่ออกแบบอดามัส) … หัวหน้าทีมอีไปหาคุณจางเพื่อเอาอดามัส ทั้งสองคุยกันไม่กี่คำ และเมื่อหัวหน้าทีมอีเดินออกมาพร้อมกับกล่องขนาดใหญ่ในมือ คุณจางก็กลายเป็นศพอยู่ในสภาพแขวนคอ !

ในเวลาใกล้เคียงกัน อัยการซงก็แอบปีนเข้ามาในบ้านของคุณจาง และได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้​น แต่ด้วยความซุ่มซ่าม เขาทำแจกันหล่นแตก ทีนี้แหละพวกทีมเอที่รออยู่นอกบ้านจึงรู้ว่ามีคนอยู่ในบ้าน อัยการซงจึงต้องหนีหัวซุกหัวซุน ยังดีที่ได้นักข่าวคิมมาช่วยเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่ทั้งสองจะวิ่งตัดหน้ารถของอึนฮเยซูที่ขับผ่านมาพอดี !

มันเป็นความบังเอิญที่เหลือเชื่อ อึนฮเยซูที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยคนขับจ้องมองไปที่อัยการซงด้วยความตกตะลึง หน้าตาของชายคนนี้เหมือนกับนักเขียนฮาไม่มีผิดเพี้ยน … แต่ก่อนที่พวกทีมเอจะไล่มาทัน นักข่าวคิมกับอัยการซงก็ถือวิสาสะเปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง แล้วอึนฮเยซูก็รีบเหยียบคันเร่งออกไป

อึนฮเยซูบอกว่านักเขียนฮาขอให้เธอมาที่บ้านคุณจางเพื่อสังเกตการณ์อดามัส เมื่ออัยการซงปะติดปะต่อเรื่องราวก็เข้าในเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด หัวหน้าอีมาเอาอดามัสไป แล้วฆ่าคุณจางก่อนที่จะจัดฉากว่าเป็นการฆ่าตัวตาย

ตัดภาพกลับมาที่หน่วยสืบสวนคดีพิเศษ … อัยการซงแจ้งเรื่องการตายของคุณจางให้คังฮยอกพิลได้รู้ และบอกให้นำกำลังบุกรังของทีมเอเพื่อจับหัวหน้าอี เพราะเขาเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมคุณจางด้วยตาของตัวเอง แต่คังฮยอกพิลกลับบอกว่า คุณจางโดนฆ่าก็เพราะนักเขียนฮาไปปล่อยข่าวว่าอดามัสอยู่ที่เธอ นักเขียนฮาคาดว่าทีมเอจะนำอดามัสกลับไปที่คฤหาสน์เพื่อความปลอดภัย โดยไม่คิดไม่ถึงว่าคุณจางจะโดนฆ่าเพื่อเป็นการลงโทษที่ละเมิดกฎความปลอดภัย …

“อย่ารื้อฝอยหาตะเข็บเลย ถ้าไม่ใช่เพราะนักเขียนฮา คุณจางก็ยังไม่ตาย” คำพูดจากปากของหัวหน้าหน่วยสืบสวนคดีพิเศษคังฮยอกพิลดังกึกก้องให้หัวของอัยการซง เขานิ่งไปพักใหญ่เหมือนกำลังใช้ความคิด ก่อนจะตวาดกลับไปว่า ทีมเอจงใจฆ่าคุณจางอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับน้องชายเขาเลย แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร คังฮยอกพิลก็ปฏิเสธที่จะส่งกำลังเข้าไปจับตัวหัวหน้าอีตามที่อัยการซงต้องการอยู่ดี

เวลาเดียวกันนั้น ซอนสามารถหาทางเข้าเซฟเฮาส์ได้สำเร็จ อาคารที่ตั้งของหน่วยสืบสวนคดีพิเศษมีทางลับใต้ดินที่เชื่อมต่อถึงเซฟเฮาส์ ทางนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1970 แต่เวลานี้ ทางลับแห่งนี้ถูกนักฆ่าสาวโรคจิตค้นพบเสียแล้ว

นักข่าวคิมกับตำรวจหญิงกำลังเดินไปเซฟเฮาส์ผ่านทางลับใต้ดิน ทั้งสองเดินโดยไม่ได้ระวังตัว เพราะมันเป็นทางลับ ทางลับที่ไม่มีใครล่วงรู้ แต่เมื่อตำรวจหญิงเปิดประตูออกไปก็พบเข้ากับซอน ซอนที่ทำทีเป็นตกใจ แล้วก็ทักทายด้วยคำสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า “สวัสดี” แต่ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้พูดอะไร ซอนก็กะซวกแทงเข้าใส่ตำรวจหญิงไม่ยั้ง แผลแล้วแผลเล่าที่เธอกระหน่ำแทงเข้าไป เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ ในขณะนี้ นักข่าวคิมพยายามมุดตัวเข้าไปหลบอยู่ในซอกหลืบเล็ก ๆ เพื่อหวังให้ความมืดอำพรางตัวเธอจากมัจจุราชที่อยู่ในร่างของสาววัยรุ่น ที่ยิ้มออกมาด้วยความสุขที่มีเลือดเปรอะไปทั่วตัว

เวลานี้นักข่าวคิมตัวสั่นไปทั้งร่างด้วยความกลัว แต่ก็ยังมีสติมากพอที่จะกดโทรศัพท์ไปหาอัยการซงเพื่อขอความช่วยเหลือ ทันใดนั้นเอง ซอนก็โผล่หน้ามาพร้อมกับมีดสเตนเลสที่ทำขึ้นมาเป็นอย่างดี มองผ่าน ๆ มีดในมือของเธออาจจะคล้าย ๆ กับมีดทำครัวราคาเล่มละไม่กี่ร้อย แต่แท้จริงแล้วมันเป็นมีดอย่างดี มีดที่ใช้ฆ่าคน !!!

แต่ครั้งนี้ซอนไม่ใช่มีดในมือฆ่านักข่าวคิม เธอเลือกใช้ลูกเตะคาราเต้คิกให้หน้าของนักข่าวคิม !?

ตัดภาพมาที่ห้องเยี่ยมภายในเรือนจำ … ได้มีการขุดคุ้ยประวัติของนักโทษอีชางอูขึ้นมา เมื่อก่อนเขามีฉายาว่ ‘จอมโจรผู้ฉาวโฉ่’ เขาเป็นโจรที่เหนือกว่าโจรทั่วไป เขาจะเลือกปล้นแต่ผู้มีอิทธิพล และสิ่งของที่เขาปล้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งของที่มีมูลค่ามหาศาล เช่น หลักฐานการทุจริต ดังนั้น ใครก็ตามที่ถูกเขาปล้นจะถูกมองจากสังคมว่าเป็นพวกทุจริต โกงกิน หรือไม่ก็พวกรับสินบนใต้โต๊ะ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่มีใครรู้ก็คือ อะไรคือจุดเชื่อมโยงระหว่างอีชางอูกับทีมเอ ?

หัวหน้าทีมอีเข้าเยี่ยมนักโทษอีชางอู การพูดคุยของทั้งคู่ทำให้ได้รู้ความจริงอันน่าตกตะลึง “อดามัสที่อยู่นี้เป็นของปลอม” ส่วนอดามัสของจริงมีเพียงคนเดียวที่รู้ว่ามันถูกเก็บซ่อนเอาไว้ที่ไหน คนคนนั้นคือนักโทษอีชางอู

EP.10 ดีเดย์

ภาพแฟลชแบ็กย้อนกลับไปในอดีต ตอนนั้นอีชางอูนั่งหลับอยู่ที่ป้ายรถเมล์หน้าเรือนจำ หลังจากถูกปล่อยตัวออกมา อีจุนกยอง (หัวหน้าอี) เดินเข้าไปทำท่าจะเอื้อมมือไปสะกิดเพื่อปลุก แต่อีชางอูก็สะบัดขาตัวเองไปเตะตัดขาอีจุนกยองจนล้มลงไปนอนคลุกฝุ่นอยู่กับพื้น แล้วอีชางอูก็พูดขึ้นมาว่า “ไปบอกท่านประธาน (ควอน) ว่าอย่ามายุ่งกับฉันอีก ฉันจะหุบปากตามที่สัญญา เหมือนอย่างที่ทำมาตลอด 15 ปีที่ผ่านมา”

อีจุนกยองรีบลุกขึ้นโดยไม่แสดงท่าทีโกรธแต่อย่างใด แล้วเอ่ยปากกลับไปอย่างนอบน้อมว่า ประธานควอนไม่ได้สั่งให้เขามา แต่ที่มาก็เพื่อเสนอให้อีชางอูขโมยอดามัสโดยเขาจะให้ความช่วยเหลือ

ตัดกลับมาปัจจุบัน … หัวหน้าอีต้องการรู้ที่ซ่อนอดามัสของจริงจากนักโทษอีชางอู โดยขู่ว่าจะฆ่านักเขียนฮาทิ้ง หลังจากที่เขา (เข้าใจว่า) ฆ่าอัยการซง ลูกชายคนโตของอีชางอูไปแล้ว แต่อีชางอูหัวเราะเยาะใส่ แล้วตอกกลับไปว่า “แกมั่นใจแล้วเหรอว่าอัยการซงตายแล้ว” แล้วเขาก็เดินออกจากห้องเยี่ยมไปโดยไม่สนใจคำขู่เลยแม้แต่นิดเดียว

เรื่องราวดำเนินไปเกือบจะปกติ กระทั่งถึงวันดีเดย์ วันครบรอบ 80 ปีของท่านประธานควอนที่จัดขึ้นที่คฤหาสน์แฮซงวอน งานเอ็กคลูซีฟสุดพิเศษที่เชิญแขกคนสำคัญมาร่วมงานเพียง 80 คน และหนึ่งในนั้นก็คือนักเขียนฮา

ในขณะที่ซอนพาตัวนักข่าวคิมมาขังเอาไว้ รอจนถึงวันดีเดย์ วันที่ซอนวางแผนจะทำลายหน่วยสืบสวนคดีพิเศษให้สิ้นซาก โดยใช้นักข่าวคิมเป็นระเบิดมนุษย์ !

นักข่าวคิมสวมเสื้อกั๊กที่ติดระเบิดจำนวนมากเอาไว้ ในมือของเธอถือเครื่องจุดชนวนระเบิดเอาไว้ นิ้วโป้งทั้งสองข้างของเธอกดปุ่มนั้นเอาไว้ ถ้าเธอเผลอปล่อยมันแม้เพียงแค่เสี้ยววินาที อาคารแห่งนี้ที่เป็นสำนักงานใหญ่ของหน่วยสืบสวนคดีพิเศษก็จะราพณาสูรไปทันที

นักข่าวคิมยืนอยู่ภายในอาคาร เธอค่อย ๆ ขยับปากพูดให้คนที่กำลังเดินเข้าใกล้ให้รีบหนีไป เสียงพูดที่แผ่วเบาเหมือนคนอ่อนแรง แม้แต่เสียงพูดที่จะเปล่งออกมายังยากลำบาก แล้วนิ้วโป้งที่กดปุ่มชนวนระเบิดอยู่ล่ะ มันจะกดเอาไว้ได้นานอีกแค่ไหน !?

EP.11 เซอร์ไพรส์ของแม่บ้านควอน

ที่ล็อบบี้ชั้นหนึ่งของสำนักงานใหญ่หน่วยสืบสวนคดีพิเศษ ทุกคนแตกตื่นกับระเบิดที่ติดกับตัวนักข่าวคิม นิ้วโป้งของเธอยังคงกดที่ปุ่มทั้งสองมือ เพราะถ้าเธอปล่อยนิ้วเมื่อไร วงจรระเบิดจะทำงานโดยสมบูรณ์ … คังฮยอกพิลสั่งให้อพยพคนออกจากอาคาร จากนั้นก็เรียกหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD มาทันที

ใช้เวลาไม่กี่นาที เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดก็เข้าประจำการตามที่ถูกฝึกมา แต่ดูเหมือนว่าวงจรที่ซอนได้วางเอาไว้ในตัวของนักข่าวคิมจะซับซ้อน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่าที่คิด เวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง นักข่าวคิมจึงคิดขึ้นมาได้ว่า ซอนและพวกทีมเอคงไม่คิดจะฆ่าเธอด้วยวิธีที่ซับซ้อนขนาดนี้ เธอจึงคิดขึ้นมาได้ว่า ปุ่มจุดชนวนระเบิดในมือของเธอต้องเป็นรีโมตที่ใช้สั่งให้ระเบิดที่ติดตั้งเอาไว้ที่อื่น

คังฮยอกพิลและหัวหน้าหน่วย EOD เห็นตรงกันว่าสิ่งที่นักข่าวคิมพูดมีความเป็นไปได้ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดระดมออกค้นหาระเบิดตามสถานที่ต่าง ๆ ในรัศมี 5 กิโลเมตร

ช่วงที่สำคัญที่สุดในงานฉลอง 80 ปี

ภายในงานครบรอบ 80 ปี ที่มีแขกคนสำคัญถูกเชิญมา 80 คน งานที่มีหนังสือชีวประวัติของประธานควอน ‘เส้นทางของฉัน’ (My Way) ที่เขียนขึ้นโดยนักเขียนเงาอย่างนักเขียนฮาถูกแจกเป็นของที่ระลึก

แม่บ้านควอนที่มาในชุดเดรสสีแดงเบอร์กันดีได้ขึ้นเวทีเป็นคนแรก เธอแนะนำและกล่าวต้อนรับท่านประธานควอน เขาขึ้นเวทีกล่าวคำพูดสั้น ๆ เพียงไม่กี่ประโยคที่แกมไปด้วยมุกตลก ก่อนจะประกาศลงจากตำแหน่งประธาน และส่งต่อให้ควอนฮยอนโจ ลูกชายของเขา ซึ่งได้ขึ้นบนเวทีเพื่อแนะนำตัวกับแขกที่มาร่วมงานอย่างเป็นทางการ

ระหว่างนั้น ประธานควอนพูดคุยเรื่องต่าง ๆ กับนักเขียนฮา แต่อยู่ดี ๆ ประธานควอนก็พูดขึ้นมาว่า “รู้ไหมทำไมผมถึงใช้เพชรทำอดามัส เพราะผมต้องการเป็นคนที่ไม่มีวันพังทลาย มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จ้องจะทำลายผม เพราะสุดท้ายคนพวกนั้นก็จะพังไปซะเอง”

ตามแผนการขโมยอดามัสที่นักเขียนฮาวางเอาไว้กับหัวหน้าชเว คือ หัวหน้าชเวจะทำการปิดระบบรักษาความปลอดภัย โดยจะตั้งให้ขึ้นโค้ดเออเรอร์ เพื่อให้มีการส่งตำรวจเข้ามารักษาความปลอดภัยภายในคฤหาสน์ ซึ่งในนั้นจะมีคนของหน่วยสืบสวนคดีพิเศษอยู่ด้วย เมื่อถึงขั้นตอนนี้ นักเขียนฮาจะเข้าไปที่ห้องทำงานของประธานควอนเพื่อขโมยอดามัส แต่แผนทุกอย่างที่วางเอาไว้พังทลายลง อดามัสไม่อยู่ !

ตัดภาพมาที่บนเวทีอีกครั้ง แม่บ้านควอนยืนอยู่บนโพเดียมด้วยสีหน้าขึงขังจริงจัง เธอตวาดเสียงใส่ไมโครโฟนให้บอกให้ทุกคนอยู่ในความเงียบ เพราะเป็นเวลาที่สำคัญที่สุดของงาน เวลาเผยโฉมอดามัส แขกเหรื่อทุกคนที่มาร่วมงานต่างจับจ้องไปที่แม่บ้านควอน ห้องจัดเลี้ยงที่บรรจุคนนับร้อย ๆ คนเงียบกริบ แม่บ้านควอนค่อย ๆ เปิดกล่องสีดำแล้วหยิบอดามัสขึ้นมากำเอาไว้ในมือ แล้วเธอก็ยกมือชูอดามัสขึ้นเหนือหัวแล้วกล่าวดังลั่นว่า …

“อดามัสคืออาวุธสังหาร ในคดีที่อีชางอูก่อเหตุฆาตกรรมเมื่อ 22 ปีก่อน แต่เขาไม่ใช่ฆาตกรตัวจริง ส่วนฆาตกรตัวจริงยังคงลอยนวลอยู่ในห้องนี้กับพวกเรา คนคนนั้นคือประธานควอนแจกยู ไอ้ฆาตกร …” แม่บ้านควอนหันหัวอดามัสในมือไปทางประธานควอนที่นั่งอยู่โต๊ะแถวหน้า “… เป็นยังไงคะนายท่าน ชอบเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ ของฉันไหม ฉันจะเปิดโปงให้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกความเลวทรามของแก ฉันจะบอกชื่อทุกคนที่แกเคยฆ่าให้โลกได้รู้”

ณ เวลานั้น ทุกคนต่างตกตะลึงกับการกระทำและคำพูดที่ออกจากปากของแม่บ้านควอน มีเพียงคนเดียวที่ยังคงนั่งนิ่งด้วยความสุขุมและเยือกเย็น คนคนนั้นคือประธานควอน เขาสั่งหัวหน้าชเวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “โทร. แจ้งตำรวจ บอกว่าเราจับโจรขโมยอดามัสได้แล้ว”

แล้วตำรวจก็เอาอดามัสไปเพื่อเป็นหลักฐานในคดีลักทรัพย์ พร้อมกับจับตัวแม่บ้านควอนใส่กุญแจมือไปที่สถานีตำรวจ

เวลานี้ ประธานควอนอนุญาตให้นักเขียนฮาออกจากคฤหาสน์ได้ ที่แรกที่นักเขียนฮาไปคือที่สถานีตำรวจ ที่นั่นเขาได้พบกับหัวหน้าอีที่รออยู่ในห้องเก็บหลักฐาน หัวหน้าอีที่ตอนนี้ถืออดามัสอยู่ในมือ ทันใดนั้นเองหัวหน้าอีก็ผลักนักเขียนฮาไปติดผนังห้อง ก่อนที่เอาหัวอดามัสกระแทกอย่างแรงเข้ากับกำแพงห้อง หัวอดามัสที่ทำจากเพชรมูลค่ามากที่สุดในโลกแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ !

ใช่ มันเป็นของปลอม อดามัสที่อยู่ในมือหัวหน้าอีไม่ใช่ของจริง และอดามัสที่อยู่ในมือประธานควอนมาตลอดก็ไม่ใช่ของจริงอีกเช่นกัน แล้วหัวหน้าอีก็เฉลยความจริงกับนักเขียนฮา “นี่คือเหตุผลที่ประธานควอนยังไว้ชีวิตแกมาจนถึงตอนนี้ ไปเอาอดามัสของจริงมา พ่อแกรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน”

EP.12 คนที่อยากถูกลืม

อัยการซงโทร. แจ้งกับคังฮยอกพิลว่าเป้าหมายการระเบิดคือฮวังบยองชอล ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ที่ตอนนี้กำลังหาเสียงอยู่ที่ตลาดแห่งหนึ่งใจกลางกรุงโซล คังฮยอกพิลจึงรีบพาเจ้าหน้าที่ทั้งหมดไปที่ตลาดแห่งนั้นทันที แล้วก็ปล่อยนักข่าวคิมให้อยู่เพียงลำพัง

นักข่าวคิมอยู่เพียงลำพังจริง ๆ ไม่นานนักก็มีชายในชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดยื่นน้ำให้เธอดื่ม จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ เอาเทปที่พันมือเธอกับปุ่มรีโมตระเบิดออก ไม่กี่นาที นักข่าวก็เริ่มมีอาการวิงเวียนและสลบในที่สุด จังหวะนั้นเองระเบิดก็เกิดระเบิดขึ้นบริเวณตลาดที่ผู้สมัครฮวังบยองชอลไปหาเสียงอยู่จริง ๆ แต่โชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ที่แท้แล้วมันเป็นแผนจัดฉากของทีมเอ โดยได้รับไฟเขียนจากควอนฮยอนโจ ลูกชายผู้โง่เขลาของประธานควอน ที่สร้างสถานการณ์ให้คะแนนนิยมของผู้สมัครฮวังบยองชอลเพิ่มขึ้น ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอีก 3 วันข้างหน้า

คนที่อยากถูกลืม

วันรุ่งขึ้น นักเขียนฮาถูกเรียกตัวให้มาพบประธานควอนที่คฤหาสน์แฮซงวอน แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป ประธานควอนยอมรับว่าทั้งหมดเป็นแผนที่วางเอาไว้ตั้งแต่ต้น เขารู้อยู่แล้วว่านักเขียนฮาเป็นลูกชายของอีชางอู จากนั้นก็เล่าความจริงที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับอีชางอูเมื่อ 22 ปีก่อนให้นักเขียนฮาฟัง …

เมื่อก่อนทีมเอถูกเรียกว่าทีมเฉพาะกิจ มีอีชางอูเป็นหัวหน้าทีม ทำงานขึ้นตรงกับประธานควอน จนวันหนึ่ง ผู้หญิงที่อีชางอูคบด้วยเกิดท้อง (แม่ของนักเขียนฮากับอัยการซง) จึงทำให้เขาอยากออกจากทีมเฉพาะกิจ อีชางอูคุกเข่าขอร้องประธานควอนให้ปล่อยเขาไป “ผมต้องการเป็นคนที่ถูกลืมครับ” … แต่กฎคือคนที่ออกจากทีมจะต้องตายสถานเดียว ไม่มีข้อยกเว้น ประธานควอนนิ่งใช้ความคิดพักหนึ่งก่อนที่จะสั่งให้อีชางอูไปติดคุก 15 ปี (ในข้อหาลักทรัพย์ 9 คดี) เมื่อถึงตอนนั้นค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะทำอย่างไร และเมื่ออีชางอูพ้นโทษออกมา เขาจึงวางแผนสับเปลี่ยนอดามัสเพื่อเป็นการล้างแค้น

เล่าจบ ประธานควอนก็ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้ให้นักเขียนฮา​ “ฉันให้เวลานายสองวัน ไปเอาอดามัสของจริงมาให้ได้”

คืนนี้ นักเขียนฮากลับมานอนที่บ้าน และคืนนี้ ก็เป็นคืนแรกในรอบหลายเดือนที่เขากับอัยการซงได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ทั้งสองคุยกันถึงเรื่องราวในวัยเด็ก แล้วนักเขียนฮาก็บอกความจริงกับพี่ชายฝาแฝด ความจริงที่เขาปิดบังมาตลอดนับตั้งแต่แม่บอกเรื่องนี้กับเขาก่อนตาย “อีชางอูเป็นพ่อแท้ ๆ ของเรานะ” !!!

ระหว่างนั้น อยู่ดี ๆ ควอนฮยอนโจก็สารภาพกับอึนฮเยซูว่าเขาเป็นคนฆ่าควอนมินโจ (ไม่ใช่ประธานควอนอย่างที่เธอเข้าในมาตลอด) เขาพูดแล้วก็ยิ้มเยาะ ก่อนจะแก้ตัวแบบน้ำขุ่น ๆ ออกไปว่า ที่ต้องทำอย่างนั้นเพราะโดนบีบ คนที่เธอควรจะไปล้างแค้นก็คือพ่อของเขา … ประธานควอน !

อึนฮเยซูเมื่อได้ยินคำรับสารภาพจากปากของควอนฮยอนโจว่าเป็นคนฆ่าคนรักของเธอ ในคืนนั้นเอง เธอจึงมาเยี่ยมแม่บ้านควอนที่สถานีตำรวจ “บอกทุกอย่างที่รู้มาให้หมด ฉันจะเป็นคนทำลายประธานควอนกับแฮซงด้วยมือของฉันเอง”

วันถัดมา อึนฮเยซูเข้าพบกับประธานควอนเพื่อขอให้เขาจัดการกับควอนฮยอนโจ เพราะเธอรู้แล้วว่าควอนฮยอนโจฆ่าคนรักของเธอ โดยเธอยอมแลกทุกอย่างที่ประธานควอนต้องการ แต่ประธานควอนปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่ามันสายเกินไปแล้ว ตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะควอนฮยอนโจคือทายาทคนเดียวของแฮซง

คำตอบของประธานควอนทำให้สายตาของอึนฮเยซูแข็งกร้าวขึ้นทันที แล้วเธอก็เอ่ยประโยคที่ท่านประธานแห่งแฮซงไม่เคยคาดคิด “คิดถึงมินโจเมื่อไรก็บอกนะคะ ฉันจะส่งท่านไปอยู่กับเขาด้วยตัวเอง” !

ประธานควอนผู้เยือกเย็นสุขุมไม่มีปฏิกิริยากับคำพูดของอึนฮเยซูเลยแม้แต่นิดเดียว เขาตอบตกลงรับข้อเสนอ โดยเขาขอให้เธอทำในสิ่งที่เขาต้องการก่อน (ซึ่งยังไม่รู้ว่าคืออะไร)

จากนั้น อึนฮเยซูก็ไปหานักเขียนฮาเพื่อต่อรองให้เขาเอาอดามัสของจริงมาให้เธอ แล้วเธอจะทำให้อีชางอูพ้นข้อกล่าวหา

EP.13 กระสุนสังหาร !?

เมื่ออัยการซงรู้ความจริงที่อีชางอูเป็นพ่อแท้ ๆ เขาจึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นอัยการทันที จากนั้นก็มาที่เรือนจำเพื่อขอเป็นทนายความให้อีชางอู แลกกับการที่อีชางอูต้องเล่าความจริงทั้งหมด

ณ ห้องสอบสวนที่สถานีตำรวจ … นักข่าวคิมกำลังให้การกับตำรวจว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นฝีมือของเธอ แต่เธอเป็นเหยื่อที่ถูกลักพาตัว และถูกบังคับให้ใส่เสื้อกั๊กระเบิดฆ่าตัวตาย (suicide bombing) โดยคนร้ายคือคนที่เธอเห็นว่าเป็นฆาตกรในคดีฆาตกรรมเมื่อ 22 ปีก่อน นั่นก็คือหัวหน้าอี

ที่แพตกปลาอันห่างไกลผู้คน … หัวหน้าอีถูกจับมัดมือไพล่หลัง มีถุงสีน้ำตาลคลุมศีรษะ ประธานควอนเดินอาด ๆ มายืนเบื้องหน้าหัวหน้าอี “แกเป็นคนชี้เป้าให้อีชางอูขโมยอดามัสใช่มั้ย”

ทั้งสามคนกำลังเล่าความจริงที่เกิดขึ้นในอดีตผ่านมุมมองของแต่ละคน อีชางอู, นักข่าวคิม และหัวหน้าอี เมื่อนำเรื่องราวมาประกอบก็จะได้ภาพที่สมบูรณ์ ดังนี้ …

อีชางอูเป็นหัวหน้าทีมเฉพาะกิจที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นทีมเอ คอยทำงานสกปรกทุกอย่างให้แฮซง โดยขึ้นตรงกับประธานควอน วันหนึ่งผู้หญิงที่เขารักเกิดตั้งท้อง อีชางอูจึงคุกเข่าขอประธานควอนออกจากทีม ซึ่งกฎมีอยู่ว่าคนที่ออกจากทีมต้องตายสถานเดียว แต่ประธานควอนต้องการไว้ชีวิต เลยสั่งให้รับสารภาพคดีลักทรัพย์ 9 คดี แล้วเข้าไปอยู่ในคุก 15 ปีแทน

อีชางอูรักษาสัญญาและเก็บความลับไว้ตลอด 15 ปีที่อยู่ในเรือนจำ เมื่อถึงวันปล่อยตัว หัวหน้าอีได้มาแนะนำให้อีชางอูขโมยอดามัส ซึ่งเขาก็ปฏิเสธมาตลอด แต่ภาพที่เขาเห็นซ้ำ ๆ ทุกวัน ๆ จากการไปแอบดูลูก ๆ มีชีวิตอย่างขัดสน มันทำให้อีชางอูหดหู่ใจจนคล้อยตามคำชวนของหัวหน้าอี เขาต้องการเงินมาทำให้ชีวิตของลูก ๆ ดีขึ้น จุดนี้เองที่เขาตกลงขโมยอดามัสตามคำชวนของหัวหน้าอี โดยทั้งสองตกลงจะแบ่งเงินที่ได้มากันคนละครึ่ง

ทุกอย่างเป็นไปตามแผน อีชางอูขโมยอดามัสมาแล้ว … คืนนั้น หัวหน้าอีมาที่บ้านอีชางอูเพื่อจะมาเอาอดามัส ทีนี้ ก็ให้บังเอิญว่าคนที่อยู่ในบ้านกลับไม่ใช่อีชางอู (แต่เป็นพ่อเลี้ยงของนักเขียนฮากับอัยการซง) หัวหน้าอีจึงใช้อดามัสปลอมแทงไปที่ชายคนนั้น และเมื่อเดินออกมาจากบ้าน ตำรวจก็เข้าจับกุมตัวของอีชางอู และโยนความผิดให้เขาว่าเป็นฆาตกร แต่ …

แต่ในคืนนั้นเวลาเกิดเหตุ นักข่าวคิมในวัยเจ็ดขวบก็เกิดไปเห็นหัวหน้าอีเดินเลือดท่วมตัวออกมาจากบ้านหลังนั้น และการมีพยานรู้เห็นนี่แหละ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายที่ตามมามากมายจากการปกปิดคดีของหัวหน้าอี (จริง ๆ แล้ว หัวหน้าอีตั้งใจหักหลังอีชางอู โดยเอาอดามัสของจริงไป ฆ่าพ่อเลี้ยงของเด็กแฝดแล้วจัดฉากให้อีชางอูเป็นฆาตกร แต่มันผิดแผนที่อีชางอูรู้ทันเอาอดามัสของจริงไปซ่อน และนักข่าวคิมก็เกิดมาเห็นเขาในคืนนั้น … ส่วนอดามัสปลอมก็เป็นหัวหน้าอีทำขึ้นมาหลอกประธานควอน เพื่อซื้อเวลาระหว่างหนีออกนอกประเทศ)

อีชางอูบอกกับอัยการซงถึงเหตุผลที่เขาต้องยอมรับสารภาพว่าเป็นฆาตกร ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนทำ ก็เพื่อปกปิดเรื่องอดามัสปลอมไม่ให้ประธานควอนได้รู้ เพราะเมื่อไรก็ตามที่ประธานควอนรู้ก็จะตามล่าลูก ๆ ของเขา เพื่อบีบให้เขาบอกที่ซ่อนอดามัสของจริง เหมือนอย่างที่นักเขียนฮากับอัยการซงโดนอยู่ตอนนี้

อีชางอูเล่าความจริงทุกอย่างให้อัยการซงรู้หมดแล้ว เพียงคำถามเดียวที่เขาไม่ตอบ คำถามนั้นก็คือ “อดามัสของจริงอยู่ที่ไหน ?” … อีชางอูรู้ดีว่า ประธานควอนจะไม่ฆ่าคนที่มีสิ่งที่เขาต้องการ มันพิสูจน์มาตลอด 22 ปีว่าเป็นความจริง

ภาพตัดกลับมาที่แพตกปลากลางแม่น้ำ … ประธานควอนเดินออกมาขึ้นเรือยอชต์สุดหรู ก่อนที่จะพูดกับหัวหน้าชเวว่า “นี่เป็นโอกาสของนายแล้ว”

โอกาสที่ประธานควอนพูดกับหัวหน้าชเวก็คือ โอกาสที่จะได้เข้าไปอยู่ในทีมเอ โอกาสนั้นต้องแลกด้วยการลงมือสังหารหัวหน้าอีผู้ทรยศเดี๋ยวนี้ มันไม่ง่ายเลยสำหรับหัวหน้าชเวที่จะฆ่าคน แต่มันก็ไม่ยากเกินไป หัวหน้าชเวถีบหัวหน้าอีลงไปในแม่น้ำ พร้อมกับสบถออกมา “ไอ้บ้าเอ๊ย”

กระสุนสังหาร !?

ควอนฮยอนโจเดินเกมกำจัดคังฮยอกพิลให้พ้นทาง โดยให้ประธานาธิบดีมีคำสั่งโดยตรงให้เขาลาออกจากตำแหน่งหน่วยสืบสวนคดีพิเศษ … ควอนฮยอนโจพูดกับคังฮยอกพิลด้วยน้ำเสียงดูถูกเย้ยหยัน “คุณควรจะดีใจนะว่ามันจบแค่การที่คุณลาออก”

แล้วจู่ ๆ ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ตำรวจก็ปล่อยตัวนักข่าวคิมแบบไม่มีสาเหตุ เพียงแค่อ้างว่ารู้ตัวผู้ต้องสงสัยตัวจริงแล้ว

ส่วนแม่บ้านควอนก็ถูกวางยาพิษขณะอยู่ในห้องควบคุมตัวระหว่างการสอบสวน แต่เธอรอดเพราะเจ้าหน้าที่พาตัวส่งโรงพยาบาลทันเวลา ที่โรงพยาบาลยังมีคนมาตามฆ่าเธออีก แต่ก็ชายคนหนึ่งเข้ามาช่วยเอาไว้ ก่อนจะพาเธอไปพบกับอึนฮเยซู

ในขณะที่อีชางอูก็ถูกพาตัวขึ้นรถพาตัวไปที่ไหนสักแห่ง เขาไม่รู้ว่าตัวเองถูกพาไปที่ไหน แต่ที่เขารู้แน่ ๆ คือมันต้องไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน

แล้วเรื่องแปลกอีกเรื่องก็เกิดขึ้น หัวหน้าชเวที่อดทนเข้ามาแฝงตัวอยู่ในคฤหาสน์แฮซงวอนยาวนานถึง 3 ปี มาบัดนี้เมื่อเห็นข่าวคังฮยอกพิลลาออกจากตำแหน่ง ผบ.หน่วยสืบสวนคดีพิเศษก็เกิดสติแตกขึ้นมาซะอย่างนั้น เขาคว้าเอาปืนกึ่งอัตโนมัติเข้าไปที่ห้องทำงานประธานควอน เขาใช้เท้าถีบประตูเข้าไป แล้วลั่นไกใส่ประธานผู้ยิ่งใหญ่แห่งแฮซง !!!

ข่าวรายงานการถูกลอบยิงของประธานควอน ซึ่งขณะนี้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

และคนที่ถูกฆ่าแล้วไม่ตายคนสุดท้ายก็คือ หัวหน้าอี ที่รอดตายเพราะมีคนช่วยเขาขึ้นจากน้ำก่อนจมน้ำตาย

ภาพตัดกลับมา นักเขียนฮาเผชิญหน้ากับอีชางอู เขาพูดกับพ่อแท้ ๆ ของเขาว่า “คุณจะไม่ต้องกลับเข้าไปอยู่ในคุกอีก” !?

EP.14 หัวใจลูกชาย

นักเขียนฮาถูกจับใส่กุญแจมือล็อกไว้กับเก้าอี้ภายในตู้คอนเทนเนอร์ เบื้องหน้าคืออีชางอู พ่อแท้ ๆ ของเขาก็ถูกจับใส่กุญแจมือด้วยเช่นกัน ทั้งสองคุยกันได้ไม่กี่ประโยค คนของทีมเอก็เข้ามาพร้อมกับถามคำถามเดิม “อดามัสอยู่ที่ไหน ?” แต่ผู้ถามก็ได้รับคำตอบเดิม ๆ จากปากของอีชางอูเช่นกัน “ไม่รู้”

คนของทีมเอทรมานนักเขียนฮาจนสลบไป แต่อีชางอูก็ยังปิดปากเงียบ ได้แต่พูดออกมาว่า “แล้วแกจะต้องเสียใจ” ผ่านไปไม่กี่นาที อีชางอูสามารถหลุดออกจากพันธนาการของกุญแจมือได้ จากนั้นเขาก็จัดการสังหารคนของทีมเอเพื่อชำระแค้น … ชายฉกรรจ์มือดีจากทีมเอต้องมาตายง่าย ๆ ด้วยน้ำมือของนักโทษวัยชราอย่างอีชางอู !

ระหว่างนั้น อัยการซงและนักข่าวคิม พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ 3-4 นายจากหน่วยสืบสวนคดีพิเศษ ก็ตามมาช่วยนักเขียนฮาโดยอาศัยตำแหน่งจาก GPS แต่เมื่อมาถึงตู้คอนเทนเนอร์ที่นักเขียนฮาถูกขังเอาไว้ ก็ปรากฏร่างของอีชางอูที่เลือดท่วมตัวกำลังแบกร่างที่แทบไม่ได้สติของนักเขียนฮาออกมา ทุกคนมึนงงกับภาพที่เห็น

แต่คนที่มึนงงยิ่งกว่าคือคังฮยอกพิล ที่ได้รู้ข่าวว่าหัวหน้าชเวเป็นคนลั่นกระสุนสังหารประธานควอน แม้ว่าตอนนี้ในทางเทคนิคเขายังไม่ตายก็ตาม

หัวใจลูกชาย

ที่โรงพยาบาล … ควอนฮยอนโจขอให้หมอยื้อชีวิตประธานควอนเอาไว้จนกว่าการสืบทอดตำแหน่งประธานจะสมบูรณ์ ส่วนอึนฮเยซูก็รู้สึกผิดหวังที่ประธานควอนยังไม่ตาย อย่างไรก็ตามสายตาของเธอดูจะมั่นใจเป็นพิเศษ เหมือนว่าเธอมีไพ่สำคัญเก็บเอาไว้ในมือ

ระหว่างนั้น หัวหน้าชเวตามมาที่โรงพยาบาลเพื่อเก็บงานที่เขาเป็นคนเริ่ม แต่คังฮยอกพิลได้มาห้ามเอาไว้ และแนะนำให้เขาหนีออกไปนอกประเทศ “ฉันไม่อยากเห็นนายต้องมาตายไปอีกคน” อย่างไรก็ตาม หัวหน้าชเวยืนกราน เขาบอกว่าพร้อมตายตั้งแต่วินาทีที่ตัดสินใจเหนี่ยวไกสังหารประธานควอนแล้ว และสิ่งที่เขาทำก็เพื่อเพื่อน ๆ ที่เสียชีวิตไปในปฏิบัติการนี้ทุกคน ถัาเขาหยุดทุกอย่างที่ทุกคนทุ่มเทมาก็จะไร้ประโยชน์

เมื่อห้ามไม่ได้ก็ต้องส่งเสริม คังฮยอกพิลบอกหัวหน้าชเวให้ไปที่หน่วยสืบสวนคดีพิเศษ มีเจ้าหน้าที่ 4 คนที่ไว้ใจได้ในการทำภารกิจให้สำเร็จ … ภารกิจช่วยอัยการซงโค่นแฮซงและทีมเอ

ตัดภาพกลับมาที่หน่วยสืบสวนคดีพิเศษ … นักข่าวคิม ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าอีชางอูที่เธอทุ่มสุดตัวเพื่อช่วยเขามาตั้งแต่ต้นเป็นอดีตหัวหน้าทีมเอ ทำงานสกปรกรับใช้ประธานควอน มันทำให้เธอรู้สึกผิดหวังมากที่ต้องช่วยคนแบบนี้ “ฉันต้องเสียพ่อแม่ไป ต้องยอมให้พวกมันเอาระเบิดมาติดตัว โดยที่ฉันไม่รู้ว่าเลยว่าคนที่ฉันช่วยก็คือคนที่เคยทำงานให้ทีมเอ” อัยการซงรับรู้ความรู้สึกของเธอ แต่ก็พูดอะไรไม่ออก จังหวะนั้นเอง อีชางอูก็โผล่เข้ามาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด และบอกว่าเขาจะรับผิดในสิ่งที่ก่อเอาไว้หลังจากจบเรื่อง

จากนั้นทุกคนก็มาประชุมกัน หัวหน้าชเวเสนอให้ใช้ทุกวิธีไม่ว่าจะต้องล้ำเส้นกฎหมายไปแค่ไหนก็ตาม อัยการซงเห็นด้วยและตกลงที่จะร่วมมือ จังหวะนั้น นักเขียนฮาก็โพล่งเข้ามาแล้วพยายามจะเสนอให้ใช้วิธีตามกฎหมาย เพราะหลักฐานสุดท้ายที่ใช้เอาผิดประธานควอนยังอยู่ นั้นคือหัวหน้าอี … ทุกคนตกตะลึงเมื่อได้รู้ว่านักเขียนฮาเป็นคนขอให้อึนฮเยซูช่วยหัวหน้าอี

ณ แฮซง อึนฮเยซูนั่งบนเก้าอี้ของประธานควอน ท่าทางของเธอในตอนนี้ไม่แตกต่างไปจากนางพญาที่พร้อมจะผงาดขึ้นที่สูง นางพญาที่พร้อมจะเข้าควบคุมองค์กรยักษ์ใหญ่อย่างแฮซง … เบื้องหน้าของเธอคือหัวหน้าอี ที่กำลังกล่าวคำขอบคุณที่ช่วยชีวิตเขา จากนั้นอึนฮเยซูก็ได้ยืนข้อเสนอให้เขากำจัดหน่วยสืบสวนคดีพิเศษทิ้งซะ เพราะมันคือหน่วยงานที่เป็นภัยคุกคามแฮซงมาตลอด

และอึนฮเยซูก็ได้ถามคำถามที่อยากรู้มากที่สุด ใครเป็นคนฆ่าควอนมินโจ คนรักของเธอ ซึ่งคำตอบที่ได้จากปากของหัวหน้าอีก็คือ “ซอน”

ที่ห้องวีไอพีของโรงพยาบาล … ประธานควอนฟื้นได้สติขึ้นมา โดยมีอึนฮเยซูยืนอยู่ข้าง ๆ “ฉันแปลกใจมากเลยนะคะที่ท่านไม่ได้ตายไปอย่างสงบตั้งแต่ตอนนั้น ตอนนี้เลยมีคนหนึ่งอยากเจอท่านค่ะ”

แม่บ้านควอนก็ค่อย ๆ เดินขากะเผลกเข้ามาข้าง ๆ เตียง ในมือถือมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุตอยู่ในมือ ก่อนจะแทงเข้าไปหัวใจของประธานควอน “หัวใจดวงนี้เป็นหัวใจของลูกชายฉัน ฉันจะเป็นคนหยุดมันเอง” … ประธานควอนสิ้นใจไปด้วยคมมีดจากมือของแม่บ้านควอนตอนนั้นเอง

อีกด้านหนึ่ง อัยการซง หัวหน้าชเวและลูกน้องอีก 4 คน ไปสำรวจตึกร้างแห่งหนึ่ง ภายในชั้นใต้ดิน พวกเขาได้พบกับภาพอันน่าสยดสยอง มีร่างมนุษย์จำนวนมากถูกโบกปูนเอาไว้ในถังน้ำมัน 200 ลิตร วางเรียงรายอยู่เต็มห้อง !!?

EP.15 หุ่นฟิกเกอร์

อัยการซงสงสัยว่าสถานที่นี้มันคืออะไร ถึงได้มีศพคนถูกโบกปูนอยู่ในถัง 200 ลิตร หัวหน้าชเวจึงบอกว่า ที่นี่เป็นสถานที่ที่ทีมเก็บกวาดใช้กำจัดศพ ซึ่งปกติเอาไปทิ้งทะเลก็น่าจะจบ เขาจึงสันนิษฐานว่าพวกทีมเอลืมกำจัดศพเหล่านี้ตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนที่สับเปลี่ยนจากทีมเฉพาะกิจเป็นทีมเอ

ระหว่างนั้น อัยการซงก็ออกเดินสำรวจตามพื้นที่ต่าง ๆ ในอาคาร จนไปพบเข้ากับเอกสาร “รายงานภารกิจ” หัวหน้าชเวที่เดินตามเข้ามาเมื่อเห็นเอกสารนั้นก็แสดงสีหน้าตกใจทันที

รายงานภารกิจคือเอกสารรายงานการทำเรื่องสกปรกของทีมเฉพาะกิจ (หรือทีมเอในปัจจุบัน) แต่อัยการซงบอกกับทุกคนว่า เอกสารนี้ใช้ดำเนินคดีกับใครไม่ได้เพราะมันหมดอายุความไปแล้ว

ตัดภาพมาที่โรงพยาบาล … ควอนฮยอนโจรู้เรื่องการตายของประธานควอนแล้ว เขาได้แต่ทรุดเข่าอยู่ข้างเตียงร้องไห้ออกมาไม่หยุด หมอเจ้าของไข้ ซึ่งก็คือพ่อของอึนฮเยซู ได้แจ้งว่าประธานควอนเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด

ควอนฮยอนโจร้องได้ไม่นาน จู่ ๆ เขาก็ลุกขึ้นมาด้วยท่าทางปกติ ท่าทางเสียใจหายไปหมดแล้ว เขาหันไปถามอึนฮเยซูว่า “เธอฆ่าเขาเหรอ ? เร็วกว่าที่คิดเอาไว้นะ” แต่ก่อนที่ควอนฮยอนโจจะลงมือทำอะไรต่อไป ลูกน้องของอึนฮเยซูก็เดินเข้ามาเกือบสิบคน เขาจึงต้องออกจากห้องไปอย่างไม่มีทางเลือก

จากนั้น ข่าวก็รายงานการเสียชีวิตของประธานควอน จากการติดเชื้อในกระแสเลือดและโรคประจำตัวเรื้อรัง

ที่แฮซง หัวหน้าอีล็อบบี้ผู้บริหารให้สนับสนุนอึนฮเยซูขึ้นเป็นประธานคนใหม่ เพราะเธอคือวีไอพีที่ทีมเอให้การสนับสนุน เมื่ออคนฮเยซูได้ทุกอย่างตามที่ต้องการแล้ว หัวหน้าอีจึงได้ขอให้เธอฆ่าคนที่ฆ่าน้องชายเขา คนคนนั้นคืออัยการซง

นักเขียนฮาไปหาอัยการซงเพื่อบอกว่าเขารู้ที่ซ่อนอดามัสแล้ว มันอยู่ในฟิกเกอร์ที่พ่อซื้อให้อัยการซงก่อนตาย “คนที่เอาฟิกเกอร์มาให้คืนนั้น ไม่ใช่พ่อ แต่เป็นอีชางอู อดามัสอยู่ในฟิกเกอร์อันนั้น”

อัยการซงเดินมาเปิดท้ายรถแล้วหยิบหุ่นฟิกเกอร์นั้นขึ้นมา เป็นจังหวะเดียวกับที่อีชางอูเดินมาพอดี และเขาก็ยอมรับว่าอดามัสซ่อนอยู่ในหุ่นฟิกเกอร์นั้นจริง ๆ อัยการซงโกรธจัด ปาหุ่นตัวนั้นลงบนพื้นอย่างแรง ทำให้เห็นอดามัสซ่อนอยู่ในตัวหุ่นจริง ๆ หุ่นฟิกเกอร์ที่เขารักมากที่สุด !

อัยการซงน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด เขาหันไปพูดกับอีชางอู “นี่บ้าไปแล้วเหรอ เอาของแบบนี้ใส่ไว้ในของขวัญที่ให้กับลูกชาย” อัยการซงกระชากคอเสื้อพ่อตัวเองด้วยความโกรธ “ไอ้บ้าเอ๊ย … ของที่ทำให้คนหลายคนต้องตายอยู่ในห้องนอนฉันมาตลอด” แล้วอัยการซงก็กระทืบหุ่นฟิกเกอร์ที่เขารักมากที่สุดจนแตกเป็นชิ้น ๆ ด้วยหัวใจที่แตกสลาย

เมื่อมีอดามัสของจริงอยู่ในมือ นักเขียนฮาก็ไปต่อรองแลกเปลี่ยนอดามัสกับหัวหน้าอีตามที่เคยตกลงไว้กับอึนฮเยซู เขาต้องการเอาตัวหัวหน้าอีซึ่งเป็นฆาตกรตัวจริงเข้ากระบวนการตามกฎหมาย เพื่อให้อีชางอูพ้นข้อกล่าวหา ซึ่งมันก็คือเป้าหมายของเขาตั้งแต่ต้น อึนฮเยซูตอบตกลง

ตัดกลับมาที่เซฟเฮาส์ของหน่วยสืบสวนคดีพิเศษ … หัวหน้าชเวและอัยการซงเตรียมความพร้อมของแผนในการเข้าจัดการกับทีมเอ ดูเหมือนว่าแผนที่เตรียมไว้จะไม่จะเป็นเสียแล้ว เมื่อหัวหน้าอีและพวกทีมเอกำลังรวมคนบุกล้างบางหน่วยสืบสวนคดีพิเศษให้สิ้นซาก และการดวลปืนต่อสู้ก็ได้เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่เสียชีวิตไปหลายนาย แต่สุดท้ายแล้ว นักข่าวคิมกับคังฮยอกพิลก็มาช่วยเอาไว้ได้ทัน

EP.16 ตอนจบ ???

หัวหน้าชเวกับลูกน้องคนสุดท้ายที่ยังมีลมหายใจอยู่ รอดตายจากการช่วยเหลือของคังฮยอกพิลที่พากำลังเสริมมาได้ทันเวลา

อัยการซงโดนหัวหน้าอีสาดกระสุนเข้าใส่ ร่างของเขาลงไปนอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น !

นับจากนั้น ก็ไม่มีใครรู้ว่าอัยการซงหายไปไหน แม้หลายคนจะเชื่อว่าเขาตายไปแล้ว แต่นักข่าวคิมยังเชื่อว่าเขาแค่หายตัวไป !?

ซอนเล็งปืนติดลำกล้องเก็บเสียงจ่อปลายปากกระบอกไปที่หัวของอึนฮเยซู แต่ก่อนจะเหนี่ยวไก นักฆ่าสาวโรคจิตให้โอกาสอึนฮเยซูพูดอะไรก่อนตาย “ฉันว่าเธอวางปืนลง แล้วฟังข้อเสนอของฉันดีกว่า ฉันเชื่อว่ามันดีสำหรับเธอมากกว่าข้อเสนอของควอนฮยอนโจ” ซอนลดปืนลง

อึนฮเยซูเสนอให้ซอนวางยาควอนฮยอนโจ ทำให้เขาเป็นอัมพาตนอนโคม่าเป็นผู้ป่วยติดเตียงไปตลอดชีวิต

ในตอนนั้น ข่าวทางทีวีก็รายงานการเข้าจับตัวสมาชิกทีมเอ ในเวลาไม่นาน อึนฮเยซูก็ออกแถลงข่าวขอโทษต่อหน้าสื่อทันที เธอยอมรับว่าแฮซงมีคำสั่งให้ทีมเอทำเรื่องผิดกฎหมายจริง แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดจากคำสั่งของประธานควอนผู้ล่วงลับ จากนี้ไปเธอจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการสืบสวนทุกอย่าง และเธอก็ประกาศว่าควอนฮยอนโจช็อกกับการจากไปของพ่อ ทำให้เขาต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล

นักเขียนฮาที่ดูข่าวนี้ทางทีวีก็ถึงกับแปลกใจที่อึนฮเยซูเดินเกมเหนือชั้นแบบนี้ โดยการโยนความผิดทั้งหมดไปให้คนตาย หัวหน้าชเวได้แต่ถอนหายใจ “ความตายของประธานควอนไม่ได้เป็นการจบปัญหา”

ที่ห้องพักของควอนฮยอนโจ เลขายุน (เลขาใบ้ของประธานควอน คนรักของควอนฮยอนโจ และเป็นพี่สาวของซอน) เธอเดินเข้ามาด้วยท่าทางตกใจที่เห็นคนรักของเธอนอนน้ำลายฟูมปากอยู่บนโซฟา โซฟาที่ซอนนั่งอยู่ข้าง ๆ …

จริง ๆ แล้ว ซอนอยากฆ่าเลขายุนซึ่งเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของตัวเองมาตลอด ด้วยเหตุผลความแค้นบางอย่างในวัยเด็ก แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเลขายุนเป็นคนรักของควอนฮยอนโจนั่นเอง และนี่คือข้อเสนอที่อึนฮเยซูมอบให้ซอน คือการทำให้พี่สาวของเธอต้องทนทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต กับการต้องดูแลคนรักของตัวเองที่เป็นอัมพาตติดเตียงจนวันตาย … ซอนค่อย ๆ เดินออกจากห้องไปด้วยความสะใจที่ได้ล้างแค้น

นักเขียนฮาเอาอดามัสไปให้อึนฮเยซูที่คฤหาสน์แฮซงวอน เพื่อแลกกับการที่เธอจะรักษาชีวิตของหัวหน้าอีต่อไป ต่อไปจนกว่าเขาจะหาทางนำหัวหน้าอีขึ้นศาลเพื่อลงโทษ แม้เขาจะรู้ดีว่าตอนนี้อึนฮเยซูกุมความได้เปรียบทุกอย่างอยู่ในมือทั้งหมดแล้วก็ตาม แต่อย่างน้อยเขาก็เชื่อใจเธอ

ที่คฤหาสน์แฮซงวอนเวลานี้ แม่บ้านควอนได้กลับอยู่ที่นี่แล้ว ที่เปลี่ยนไปคือเธอมีเจ้านายคนใหม่ที่ชื่ออึนฮเยซู ประธานคนใหม่ของแฮซง

จากนั้น นักข่าวคิมก็เขียนรายงานข่าวเปิดโปงเรื่องที่เกิดขึ้นเบื้องหลังแฮซง เขียนทุกอย่างที่เธอเจอและเชื่อว่ามันเป็นความจริง แต่ดูเหมือนว่ากระแสตอบรับจากสังคมจะตรงกันข้าม มีคอมเมนต์ทางลบจำนวนมากในข่าวที่เธอเขียน

วันหนึ่งหลังจากนั้น นักข่าวคิมนัดเจอกับนักเขียนฮาที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง และได้ระบายความรู้สึกบางอย่างกับเขา “ตลกดีนะ ที่คนเราไม่ชอบที่จะเชื่อความจริง แต่กลับเชื่อเรื่องโกหกที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างง่ายดาย ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ทำให้ฉันได้รู้ว่าความจริงมันไม่มีอำนาจอะไรเลย ยกเว้นว่าจะมีคนเชื่อว่ามันเป็นความจริง”

นักเขียนฮาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จากสิ่งที่นักข่าวคิมพูด เขาจะเขียนหนังสือเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น โดยทำสิ่งที่ตรงกันข้าม นั่นคือทำให้ผู้คนเชื่อว่าเรื่องแต่งเป็นเรื่องจริง “ผมจะเน้นใช้คำว่า ‘เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง’ คนอ่านก็จะเริ่มสงสัยและคิดขึ้นได้เองว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับใคร เกิดขึ้นเมื่อไร มีเบื้องหลังเป็นอย่างไร จากนั้นพวกเขาก็จะเริ่มสืบหาความจริง”

ผ่านไปหลายวัน นักข่าวคิมมาที่บ้านของนักเขียนฮา เพื่อให้สัมภาษณ์เป็นข้อมูลเขียนหนังสือ เธอเหลือบไปเห็นจดหมายฉบับหนึ่งที่เขียนข้อความด้วยลายมือว่า “ซงซูฮยอน (อัยการซง)” เธอจึงหยิบขึ้นมาอ่าน มีข้อความสองบรรทัด “ซงซูฮยอนยังไม่ตาย ตามหาอดามัส”

ภาพตัดไปที่อึนฮเยซูยืนมองอดามัสที่วางอยู่ในแท่นด้วยท่าทางชื่นชม

ตอนจบ นักเขียนฮายืนถืออดามัสอยู่ในมือ ขณะยืนอยู่บนชายหาดและทอดสายตาออกไปด้วยรอยยิ้ม

จบบริบูรณ์

Photos : ภาพหน้าจอจาก tvN Korea