Skip to content

สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ Today’s Webtoon (2022)

Today’s Webtoon สปอยล์ : 15 ปีที่ของ ‘มาอึม’ ต้องสูญเปล่า เมื่อไม่สามารถร่วมแข่งโอลิมปิกในฐานะนักกีฬายูโดได้ เธอจึงสมัครเป็นพนักงานชั่วคราวที่นีออนเว็บตูน …

EP.1 ชีวิตและอนาคตที่ไม่อาจคาดเดา

อนมาอึม (รับบทโดย คิมเซจอง) สาวฟีลกู๊ดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังบวก อดีตนักกีฬายูโดระดับชาติ ที่ตัดสินใจเลิกเล่นเพราะอาการบาดเจ็บอย่างหนักที่ข้อเท้า ปัจจุบันเธอทำงานเป็นไรเดอร์ของแอปส่งอาหาร

วันหนึ่งเธอได้รับการติดต่อให้ไปทำงานพาร์ตไทม์ เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในงานประกาศรางวัลนักเขียนของนีออนเว็บตูน เว็บตูนน้องใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

ด้วยความที่เป็นแฟนเว็บตูนอยู่แล้ว ทำให้อนมาอึมปลื้มที่ได้เจอนักเขียนเว็บตูนหลายคนที่เธอชื่นชอบ แต่ระหว่างนั้นก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เมื่อมีเกรียนเข้ามาป่วนและเข้าไปคุกคามนักเขียนปอมม์ นักเขียนเว็บตูนสาวชื่อดัง อนมาอึมจึงใช้สกิลยูโดขั้นเทพจัดการเกรียนคนนั้นไปได้ จากเหตุการณ์นี้เอง ทำให้เธอไปเข้าตาผู้ช่วยบรรณาธิการซอกจีฮยอง (รับบทโดย ชเวแดเนียล) เขาจึงให้นามบัตรแนะนำตัว เพื่อจะได้ติดต่อส่งลายเซ็นของนักเขึยนปอมม์แบบลิมิเต็ดไปให้ และมันก็จุดประกายให้เธออยากเข้าทำงานที่นีออนเว็บตูน

อนมาอึมผ่านการสัมภาษณ์รอบไปได้ และในการสัมภาษณ์รอบสอง หัวหน้าบรรณาธิการจางมันชอลที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการคัดเลือกได้เห็นทัศนคติเชิงบวกของอนมาอึมก็เกิดชอบใจเป็นอย่างมาก จึงคิดอยากดึงเข้ามาทำงานในทีม แต่อนมาอึมไม่ผ่านการสัมภาษณ์ เพราะบริษัทต้องการรับพนักงานแค่คนเดียว คนที่ผ่านการสัมภาษณ์คือกูจุนยอง (รับบทโดย นัมยุนซู) หนุ่มเทพด้านเทคโนโลยี แต่มีบุคลิกที่ค่อนข้างเงียบขรึม

อย่างไรก็ตาม หัวหน้าจางมันชอลพยายามไฟต์กับผู้บริหารระดับสูง ขอพนักงานตำแหน่งพีดีเพิ่มอีกหนึ่งคน และคนนั้นก็คืออนมาอึม โดยเธอจะได้รับสัญญาจ้างชั่วคราวเป็นเวลาหนึ่งปี

หน้าที่ของพีดีเว็บตูน

ในการทำงานวันแรก อนมาอึมได้เรียนรู้หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของพีดีจากเพื่อนร่วมงาน นั่นก็คือ การทำให้นักเขียนส่งงานให้ทันเดดไลน์ เพราะถ้าอัปเดตตอนใหม่ช้าเพียงแค่ตอนเดียว ก็อาจจะส่งผลทำให้บริษัทเจ๊งได้เลย “ถ้าพลาดไปแค่หนึ่งตอน มันจะเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่เหมือนกับทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีก หนึ่งเลยคือเสียค่าปรับจากลูกค้าที่ซื้อโฆษณาเอาไว้แล้ว และลูกค้าที่จะซื้อโฆษณาในอนาคต รวมถึงความรู้สึกของผู้อ่านที่รู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้อ่านเรื่องตามกำหนดเวลา พวกเขาจะย้ายเว็บและไม่กล้บมาอีกเลย”

ช่วงแรกอนมาอึมต้องฝึกงานกับซอกจีฮยอง ซึ่งวันนี้เป็นวันที่เดินทางมาประชุมส่วนตัวกับนักเขียนแบคออจิน นักเขียนระดับปรมาจารย์ และเป็นนักเขียนเพียงคนเดียวที่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการส่งผลงานเลย เพราะเขาจะส่งผลงานก่อนล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์เสมอ อย่างไรก็ตาม นักเขียนแบคเป็นนักเขียนรุ่นเก่าที่นิยมการใช้ดินสอกับกระดาษ ผลงานของเขาจะถูกแปลงเป็นรูปแบบดิจิตอลโดยผู้ช่วย

จากสีหน้าและแววตาทำให้อนมาอึมเห็นอย่างชัดเจนว่า นักเขียนแบคเป็นคนที่มีพรสวรรค์ และมีความสุขกับผลงานที่ได้สร้างสรรค์ออกมาเป็นอย่างมาก และมันยังคงเป็นอย่างนั้นตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ก่อนกลับอนมาอึมได้กล่าวกับนักเขียนแบคให้รออ่านคอมเมนต์ของเธอได้เลย โดยไม่รู้ว่าเขาไม่เคยเข้าไปอ่านคอมเมนต์มาก่อนเลย

ซอกจีฮยองเตือนอนมาอึมว่า พีดีเข้าไปคอมเมนต์ผลงานที่ตัวเองดูแลถือเว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ส่วนการให้นักเขียนแบคอ่านคอมเมนต์อาจทำให้เขาเสียความรู้สึกและเสียสมาธิในการทำงาน แต่อนมาอึมก็ให้มุมมองว่าคอมเมนต์คือจุดเด่นของเว็บตูน ที่นักเขียนสามารถรับรู้ความรู้สึกของผู้อ่านได้โดยตรง

แล้วในคืนนั้น นักเขียนแบคก็กดเข้าไปอ่านคอมเมนต์เป็นครั้งแรก ซึ่งมันเต็มไปด้วยคำวิจารณ์เชิงลบ ส่วนใหญ่จะวิจารณ์อัตราส่วนหน้าตาของตัวละครหลัก หน้ายาว คางยื่น บ้างก็วิจารณ์ไปไกลถึงขนาดที่ว่าเขาเป็นนักเขียนที่อยู่ในช่วงขาลง

หลังจากนั้น พนักงานทุกคนก็ได้รับข้อความจากหัวหน้าจางมันชอลให้มาที่ออฟฟิศโดยด่วน เมื่อทุกคนมาพร้อมหน้ากันแล้ว เขาก็ถามว่าวันนี้ ซอกจีฮยองกับอนมาอึมไปพูดอะไร นักเขียนแบคจึงขอสำเนาที่ส่งแล้วทั้งหมดคืน และต้องการให้เอาทุกตอนที่คนซื้อไว้แล้วลงจากเว็บทั้งหมด

อนมาอึมแสดงสีหน้าตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น !

EP.2 องศาที่แตกต่าง

สำหรับผู้ที่เคยอ่านคอมเมนต์ในอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรก ถ้าได้เจอคอมเมนต์ที่ร้ายกาจก็จะทำให้รู้สึกแย่ทันที นักเขียนแบคก็เช่นกัน มีคอมเมนต์จำนวนมากบอกว่าเขาเป็นนักเขียนล้าหลังตกยุค มันทำให้เขาคิดว่าตัวเองควรจะเกษียณจริง ๆ เสียที

นีออนเว็บตูนประกาศหยุดอัปเดตผลงานนักเขียนแบคเป็นการชั่วคราว ทำให้ผู้อ่านที่เป็นแฟนเว็บตูนเรื่องนี้รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก

ระหว่างรอรถเมล์หลังจากเลิกงาน ซอกจีฮยองบอกกับอนมาอึมว่า “นักเขียนเว็บตูนต้องทำงานให้ทันเดดไลน์ทุกอาทิตย์ เมื่อส่งงานเสร็จก็จะผ่อนคลายได้พักหนึ่ง แล้วเดดไลน์ต่อไปก็จ่อมาอีก ต้องคิดเรื่อง วาดรูป และแก้งานทุกอาทิตย์ ทำงานวนลูปไปแบบนี้ … แต่สำหรับนักเขียนแบคที่ทำทุกอย่างเองเป็นระยะเวลาต่อเนื่องยาวนานกว่า 30 ปี ถ้าคนที่ทำมายาวนานขนาดนี้ตัดสินใจจะหยุดทำ เราจะพูดอะไรได้นะ” แต่อนมาอึมไม่เห็นเช่นนั้น เธอคิดว่าอีกไม่นานนักเขียนแบคก็จะกลับมาสร้างสรรค์ผลงานอีกครั้ง เพียงแค่ต้องรอเวลานั้นที่จะมาถึง

วันหนึ่ง แม่ของอนมาอึมเปิดทีวีดูสารคดีรูปปั้นเดวิดของไมเคิลแองเจโล ในสารคดีได้อธิบายถึงองศาและมุมมองของรูปปั้นชิ้นนี้ว่า ถ้ามองในระดับสายตาปกติจะเป็นรูปปั้นที่สัดส่วนร่างกายดูผิดเพี้ยนไป หัวจะดูโต แขนยาว ส่วนมือกับเท้าก็จะใหญ่ผิดปกติ มันเป็นความตั้งใจของไมเคิลแองเจโล เพราะถ้าเรามองรูปปั้นโดยการเงยหน้ามองขึ้นไปจากด้านล่าง สัดส่วนร่างกายก็จะสมบูรณ์แบบ … อนมาอึมร้องกรี๊ดออกมาลั่นบ้าน โผเข้าไปกอดแม่ทันที

อนมาอึมกับซอกจีฮยองเดินทางไปพบนักเขียนแบคทันที เธอได้บอกกับนักเขียนแบคว่าเขาไม่ได้ทำงานผิดพลาด แต่ที่ลายเส้นดูหน้ายาวคางยื่นก็เป็นเพราะเขาหลังค่อม เมื่อหลังค่อมแต่โต๊ะทำงานยังคงเป็นที่เดิม ลายเส้นที่ได้ก็ผิดเพี้ยนไป วิธีแก้คือการปรับเปลี่ยนองศาของกระดานวาดรูป

แล้วผลงานของนักเขียนแบคก็กลับมาโลดแล่นในโลกของเว็บตูนอีกครั้ง พร้อมด้วยคอมเมนต์ดี ๆ ที่ส่งเป็นกำลังใจให้เขาได้สร้างสรรค์ผลงานต่อไป

เมื่อผลงานดีจากการทำงานอย่างหนัก ในค่ำวันนั้นทุกคนก็ออกไปเลี้ยงฉลองกัน อนมาอึมโชว์สกิลการดื่มเบียร์ขั้นเทพแบบที่ผู้ชายอกสามศอกหอกสามเสายังอาย เธอดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าแต่ก็ยังรักษาทรงอยู่ได้ ตรงกันข้ามกับกูจุนยองที่เป็นคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อน ๆ จึงแซวว่าเขาเป็นคออ่อน แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อเขาหยิบแก้วขึ้นมาจะดื่มน้ำ แต่ดันหยิบแก้วผิดเป็นแก้วเบียร์ขึ้นมาดื่มซะอย่างนั้น ผลก็คือ เพียงอึกเดียวก็ทำเอาหน้าแดงก่ำเมาฟุบไปกับโต๊ะแบบไม่ร่ำไม่ลาใครเลย

หลังจากดื่มกันจนหนำใจ อนมาอึมก็อาสาแบกพากูจุนยองขึ้นรถแท็กซี่พาไปส่งที่บ้านด้วยตัวเอง … “มาอึม เธอคิดบ้างไหมนั่นว่าจะพาเขาไปส่งที่ไหน รู้จักบ้านเขาเหรอ ?” ปัดโธ่ บ้านเขาก็ไม่รู้จักแต่อาสาจะพาไปส่งบ้าน สรุปแล้วก็เลยต้องพามาที่บ้านตัวเองซะอย่างนั้น

กูจุนยองสร่างเมาขึ้นมาตอนเช้าตรู่ ก็เจอพ่อของอนมาอึมที่กลับบ้านมาไวกว่ากำหนด เขาจึงโดนพ่อเล่นงานเพราะคิดว่าเป็นขโมย ส่วนอนมาอึมที่เห็นพ่อกลับมาเร็วก็รีบหนีออกจากบ้านไปทำงาน เพราะกลัวว่าพ่อจะรู้ สุดท้ายเหตุการณ์ในเช้าวันนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดี แลกกับการที่กูจุนยองโดนเล่นงานนิดหน่อย

เมื่อมาถึงที่ทำงาน อนมาอึนจึงได้ขอโทษกูจุนยอง พร้อมกับสารภาพว่าคนที่กระชากคอเสื้อของเขาก็คือพ่อของเธอเอง และบังเอิญว่าวันนั้นเป็นวันที่ทั้งสองต้องทำงานร่วมกันในวันแจกลายเซ็นของนักเขียนชิน ทั้งสองจึงได้มีโอกาสพูดคุยกันและสนิทกันมากขึ้น ยิ่งได้รู้จักกันมากขึ้นก็ยิ่งทำให้กูจุนยองเริ่มแปลกใจในพลังบวกที่มีอยู่ในตัวของอนมาอึม ที่ไม่ว่าเรื่องร้ายแค่ไหนเธอก็มองเป็นเรื่องดีไปซะหมด ในขณะที่ตัวเขาเองเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้าย เขาเรียนจบพร้อมกับเกียรติบัตรหลายใบ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทุ่มสุดตัวกับสิ่งที่ทำไปจนถึงเมื่อไร และมันจะจบที่ตรงไหน การที่ต้องทุ่มเททำทุกสิ่งอย่างมันทำให้เขาเบื่อหน่ายชีวิต

แล้ววันทำงานวันต่อมาก็เกิดเรื่องขึ้นที่ออฟฟิศจนได้ เมื่อกูจุนยองโกรธที่เพื่อนร่วมงานพูดจาดูถูกเขา ด้วยความโกรธเขาจึงโทร. ไปหารุ่นพี่เพื่อขอย้ายออกจากแผนกเว็นตูนทันที ถ้าไม่ให้ย้ายเขาจะลาออก

อนมาอึมได้ยินเรื่องที่กูจุนยองจะลาออกก็มาขอร้องเขาให้อยู่ช่วยกันทำงานต่อไป เขาจึงบอกให้เธอเลิกพยายามซะ เพราะไม่ว่าอย่างไรแผนกเว็บตูนก็จะถูกยุบภายในหนึ่งปี เพราะเป็นแผนกที่มีผลงานต่ำมาก ดังนั้นไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน เธอก็ไม่มีทางได้เป็นพนักงานประจำของนีออน !?

EP.3 เดดไลน์

กูจุนยองได้รับมอบหมายให้ไปดูแลนักเขียนปอมม์ ซึ่งเป็นนักเขียนที่ชอบให้พีดีมาหาที่บ้าน เมื่อมาถึงเขาก็ถูกเธอใช้งานทำนู่นนี่นั่นสารพัด จนทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะรู้สึกว่าตัวเองโดนใช้งานเหมือนคนใช้ กูจุนยองจึงถามนักเขียนปอมม์ว่า ทำไมถึงชอบให้พีดีมาหาที่บ้าน แทนที่จะนัดเจอกันข้างนอก หรือประชุมกันทางออนไลน์เหมือนนักเขียนคนอื่น ๆ คำตอบที่ได้ทำเอาเขาอึ้งไปไม่น้อย …

นักเขียนปอมม์บอกว่า “เพราะฉันเหงา ฉันไม่มีเพื่อน ฉันต้องทำงานวันละ 16 ชั่วโมงทุกวันไม่มีวันหยุด ออกไปไหนก็จะมีแต่คนเข้ามารุมล้อม นี่แหละเป็นทางเดียวที่ทำให้ฉันได้เจอและคุยกับคนจริง ๆ”

แต่อย่างไรก็ตาม ความคิดที่จะย้ายทีม หรือไม่ก็ลาออกจากบริษัทก็ผุดขึ้นมาในหัวของกูจุนยองอย่างชัดเจน ในวันนั้นเขาไปหาหัวหน้าจางมันชอลเพื่อขอให้เดินเรื่องย้ายทีมให้เขาด้วย แต่หัวหน้าจางมันชอลพูดกับเขาประโยคหนึ่งที่เขาไม่เข้าใจความหมาย “ปลายทางของการหนีไม่มีสรวงสวรรค์หรอก”

คืนนั้น กูจุนยองจึงไปที่ ‘คาเฟ่การ์ตูนอน’ บ้านของอนมาอึมและครอบครัวที่แบ่งส่วนหนึ่งของบ้านทำเป็นคาเฟ่เล็ก ๆ โดยจะมีคอลเล็กชันหนังสือการ์ตูนจัดเรียงบนชั้นวางเอาไว้มากมาย เขาไปที่นั่นเพื่อขอเช่าหนังสือการ์ตูนเรื่อง ‘เบอร์เซิร์ก’ ซึ่งเขาเห็นว่ามีโน้ตคำคมที่เขียนด้วยลายมืออนมาอึมว่า “ปลายทางของการหนีไม่มีสรวงสวรรค์หรอก” ประโยคเดียวกับที่หัวหน้าจางมันชอลพูดกับเขาตอนที่เขาขอย้ายทีม

กูจุนยองอ่านการ์ตูนเบอร์เซิร์กด้วยความสนุกสนาน จนถึงตอนที่มีคำพูด “ปลายทางของการหนีไม่มีสรวงสวรรค์หรอก” เขาจึงเข้าใจสิ่งที่หัวหน้าจางมันชอลพยายามสื่อกับเขา

วันทำงานวันถัดไป กูจุนยองจึงบอกกับหัวหน้าจางมันชอลว่า จริง ๆ แล้วเขาไม่เคยคิดจะหนีจากสนามรบ และไม่เคยคิดจะไปถึงสรวงสวรรค์ด้วย เพียงแต่เขาพยายามหาสนามรบที่ยิ่งใหญ่กว่า มันเลยทำให้เขาคิดว่าไม่จำเป็นที่ต้องทุ่มเทให้กับทีมนี้ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่ามันเป็นความอวดดี ถ้าเขาพยายามกับทีมนี้ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนแปลง การทำให้ทีมที่กำลังโดนยุบอยู่รอด มันคือสนามรบที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

กูจุนยองตัดสินใจที่จะสู้กับทีมเว็บตูนต่อไป

สิ่งที่นักเขียนอยากเขียน vs สิ่งที่ผู้อ่านอยากอ่าน

ส่วนอนมาอึมได้รับมอบหมายให้ดูแลนักเขียนนา ซึ่งเป็นนักเขียนที่เธอชื่นชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เธอจึงรู้สึกมีความสุขมากเพราะเธอจะได้เป็นคนแรกที่ได้อ่านผลงาน ‘เจ้าหญิงจิ้งจอกเก้าหาง’ เป็นคนแรก เรียกว่ากรี๊ดเสียงหลงด้วยความดีใจเลยทีเดียว

แต่การดูแลนักเขียนให้ส่งผลงานทันเดดไลน์มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด สี่วันก็แล้ว สามวันก็แล้ว อนมาอึมก็ยังใจเย็น เพราะนักเขียนนารับปากกับเธอว่าจะส่งผลงานให้ทันเดดไลน์อย่างแน่นอน อีกอย่างเธอก็ไม่อยากใช้ความเป็นพีดีเข้าไปกดดันนักเขียน แต่เมื่อเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงกำหนดเวลาอัปโหลดผลงานบนหน้าเว็บตอน 5 ทุ่ม อนมาอึมจึงนั่งไม่ติด รีบไปหานักเขียนนาที่สตูดิโอทันที

อนมาอึมไปถึงสตูดิโอก็ได้รู้ว่า แฟนของนักเขียนนางอนหนีออกจากบ้านไป ทำให้เขาไม่มีสมาธิในการทำงาน อนมาอึมจึงขอร้องให้เขาเร่งปั่นงานให้เสร็จทันเดดไลน์ ส่วนเธอจะเป็นคนออกไปหาและพาตัวแฟนของเขากลับมาให้เอง ตอนแรกนักเขียนนาทำท่างอแงจะขอพักหนึ่งอาทิตย์ แต่ก็ยอมตกลงเมื่ออนมาอึมแสดงท่าทางจริงจัง ว่าเธอจะทำทุกอย่างเพื่อพาแฟนของเขากลับมาให้ได้

อนมาอึมกลับมาที่บ้าน แล้วให้น้องสาวสืบจากไอจีของแฟนนักเขียนนา จนพบเบาะแสว่าเธอทานอาหารอยู่ที่ร้านอาหารทะเลแห่งหนึ่ง เธอจึงรีบควบมอเตอร์ไซค์คันจิ๋วสีพาสเทลออกไปทันที

สุดท้าย นักเขียนนาก็ปั่นงานจนเสร็จทันเดดไลน์ ส่วนอนมาอึมก็พาตัวแฟนนักเขียนนากลับมาตามที่ให้สัญญาเอาไว้

อย่างไรก็ตาม แม้ผลงานจะทันเดดไลน์ แต่คอมเมนต์ของผู้อ่าน ‘เจ้าหญิงจิ้งจอกเก้าหาง’ ก็เป็นไปในทางลบ แถมยอดวิวยังลดลงต่อเนื่องหลายสัปดาห์ เหตุผลก็เพราะนักเขียนนาเลือกที่จะเดินเรื่องย้อนหลัง และให้ตัวละครพูดกับตัวเองติดต่อกันหลายสัปดาห์ ทำให้ผู้อ่านเบื่อที่ต้องติดตามเรื่องที่วนไปวนมาไม่มีพัฒนาการไปข้างหน้า

ผู้ช่วยบรรณาธิการซอกจีฮยองเรียกอนมาอึมมาต่อว่าเสียงดังลั่น ที่ปล่อยให้นักเขียนนาเขียนในสิ่งที่ตัวเองอยากเขียน ซอกจีฮยองอธิบายว่านักเขียนนาเป็นนักเขียนหลักของนีออนเว็บตูน ถ้าเรื่องไม่ถูกใจผู้อ่านก็จะส่งผลต่อยอดวิว และยอดวิวของผู้อ่านนี่แหละเป็นที่มาของเงินเดือนทุกคนในออฟฟิศ ดังนั้น พีดีจึงมีหน้าที่ทำให้นักเขียนเขียนในสิ่งที่ผู้อ่านอยากอ่าน ไม่ใช่เขียนในสิ่งที่ผู้เขียนอยากเขียน

อนมาอึมนั่งก้มหน้าคิดทบทวนที่ม้านั่งสวนสาธารณะ สิ่งที่เธอคิดมาตลอดว่าพีดีเปรียบเสมือนเป็นกองเชียร์ของนักวิ่งมาราธอน ที่ทำหน้าที่เพียงแค่เชียร์เท่านั้น มันเป็นความคิดที่ผิด เพราะแท้จริงแล้ว พีดีจะต้องลงไปวิ่งคู่กับนักเขียน เพื่อที่จะก้าวไปสู่เส้นชัยด้วยกัน

เมื่อคิดได้เช่นนั้น อนมาอึมจึงไปหานักเขียนนาที่สตูดิโอทันทีเพื่อขอร้องให้เขาแก้ไขเรื่องให้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่เขียนเรื่องวนอยู่ในอ่างอย่างที่ทำอยู่ซ้ำ ๆ มาหลายอาทิตย์

EP.4 ค่ายเว็บตูนกับนักเขียนประหลาด

อนมาอึมดีใจสุด ๆ เมื่อเว็บตูน ‘เจ้าหญิงจิ้งจอกเก้าหาง’ ตอนที่ 213 กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง คอมเมนต์ชื่นชมของแฟน ๆ เข้ากันมาอย่างล้นหลาม

หัวหน้าจางมันชอลของบพิเศษจากผู้บริหารระดับสูง เพื่อใช้ในการเปิดค่ายเว็บตูนเฟ้นหานักเขียนหน้าใหม่เข้าสังกัด แต่ผู้บริหารตั้งเงื่อนไขกับหัวหน้าจางมันชอลว่า ถ้าการเปิดค่ายเว็บตูนในครั้งนี้ไม่ทำให้ยอดขายกระเตื้อง ครั้งนี้ก็จะเป็นการเปิดค่ายเว็บตูนครั้งสุดท้าย

ระหว่างนั้นได้เกิดเรื่องประหลาดขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่นำส่งผู้ป่วย (เวรเปล) ชินแดรยุก เป็นคนที่ชอบวาดการ์ตูน แต่ชีวิตประจำวันของเขาเห็นแต่คนป่วย คนป่วยที่ใกล้ตาย กับหมอที่ทำหน้าตานิ่ง ๆ มันทำให้เขาไม่สามารถวาดหน้าของคนทั่วไป หรือหน้าของคนที่แสดงความรู้สึกได้ วันหนึ่งเขาจึงออกตระเวนไปตามที่สาธารณะเพื่อหาหน้าคนที่เขาอยากวาด จนได้มาเจอกับอนมาอึม เขาเห็นว่าเป็นหน้าที่น่าสนใจ เขาจึงวาดหน้าของเธอลงไปในสมุดสเก็ตช์ภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต อนมาอึมได้แต่แปลกใจแต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเขาเป็นแค่ชายท่าทางประหลาดคนหนึ่งเท่านั้น

ต่อมา ชินแดรยุกได้ส่งผลงานของเขาที่มีชื่อว่า ‘สรรพาวุธฟีบ’ เพื่อสมัครเข้าค่ายเว็บตูน อนมาอึมเห็นผลงานชิ้นนี้เนื้อหาน่าสนใจ จึงเสนอให้รับชินแดรยุกเข้าค่ายเว็บตูนด้วย แม้ว่าลายเส้นของเขาจะดูน่ากลัวและไม่ได้ลงสีน่ารัก ๆ เหมือนเว็บตูนของคนอื่นก็ตาม อีกอย่างเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าชินแดรยุกคือชายแปลกประหลาดที่วาดรูปเธอวันนั้น

ภายในค่ายเว็บตูน อนอาอึมเกิดเห็นภาพหนึ่งที่ชินแดรยุกวาด ทำให้เธอรู้ว่าเขาคือชายแปลกประหลาดคนนั้น เขาจึงสารภาพว่าที่ต้องทำอย่างนั้นเพราะเขาต้องการเข้าใจสีหน้าของคน เธอจึงเปิดใจรับเขาในฐานะนักเขียนเว็บตูนแม้ว่าเขาจะท่าทางแปลก ๆ ก็ตาม

ชินแดรยุกให้เธอช่วยวิจารณ์ผลงานของเขาที่มีชื่อว่า ‘สรรพาวุธฟีบ’ พร้อมกับอธิบายว่า ฟีบคือสัตว์ประหลาดที่คอยควบคุมศักยภาพของเรา โดยความกลัวและความเกลียดชังเป็นตัวที่สร้างฟีบขึ้นมา … มันเป็นเรื่องที่มีตัวละครเป็นผู้นำทางศาสนาที่มีผู้คนต่อต้าน

ตัดภาพมาที่กูซึลอา นักเขียนหน้าใหม่ที่ดูไม่ค่อยมีความมั่นใจ เธอได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในค่ายเว็บตูน วันนี้เธอได้เจอกับนักเขียนโอยุน ซึ่งเป็นนักเขียนคนโปรดของเธอ เธอสารภาพกับเขาว่าเธอไม่มั่นใจว่าจะทำได้ดีหรือเปล่า แต่นักเขียนโอยุนได้บอกว่า “นักเขียนเว็บตูนไม่มีสิทธิ์ถามคำถามว่าตัวเองทำได้ดีหรือเปล่า เพราะคนที่ตัดสินเรื่องนี้คือผู้อ่าน นักเขียนเว็บตูนต้องตอบคำถามเดียว นั่นก็คือ อยากเป็นนักเขียนเว็บตูนจริงหรือเปล่า ถ้าคำตอบคือใช่ก็จงลงมือทำ”

จริงสินะ นักเขียนไม่สามารถบอกว่าผลงานของตัวเองดีหรือไม่ดี แต่ผู้อ่านต่างหากที่จะเป็นคนตัดสิน

ระหว่างนั้นนักเขียนหน้าใหม่ทุกคนต่างก็จริงจังกับการวาดรูป เพื่อนำไปพรีเซนต์ต่อหน้าคณะกรรมการ แต่คนที่น่าจะมีปัญหามากที่สุดคือ ชินแดรยุก เพราะแม้เนื้อเรื่องของเขาจะน่าสนใจ แต่ฝีมือการวาดของเขาไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย ทำให้เขาต้องเขียนบรรยายด้วยตัวอักษรราวกับหนังสือนิยาย

เมื่อถึงช่วงพรีเซนต์งาน ชินแดรยุกโดนคณะกรรมการวิจารณ์ โดยพุ่งเป้าไปที่ทักษะในการวาดรูป “แม้เนื้อเรื่องน่าสนใจ แต่นักเขียนเว็บตูนต้องเอาชนะผู้อ่านด้วยภาพวาด ไม่มีผู้อ่านคนไหนชอบอ่านตัวหนังสือไปเรื่อย ๆ”

หลังการพรีเซนต์ ชินแดรยุกโดนพวกนักเขียนเกรียนสองคนเข้ามาพูดจาดูถูกว่าผลงานของเขาเป็นขยะ กูจุนยองเข้ามาห้ามไม่ให้เรื่องบานปลาย แต่ก็โดนเหวี่ยงจนล้มไป อนมาอึมจึงรีบวิ่งเข้ามาห้าม แต่ดูเหมือนว่าเธอจะโดนทำร้ายด้วยการตบหน้า

เมื่อเห็นเช่นนั้น ฟีบในร่างของชินแดรยุกก็เริ่มเข้าครอบงำตัวตนของเขาเสียแล้ว !?

EP.5 สุสานสำหรับนักเขียนหน้าใหม่

เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันในค่ายเว็บตูนก็จบลงด้วยดี ต่างฝ่ายต่างยอมความกันไป

จากนั้น อนมาอึมเลือกดูแลนักเขียนกูซึลอา และขอดูแลชินแดรยุกเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ แม้ว่าเขาจะเป็นมีบุคลิกแปลกประหลาด แถมฝีมือการวาดรูปห่วยแตกก็ตาม

ทีนี้สิ่งที่อนมาอึมต้องจัดการกับกูซึลอาก็คือ เธอเป็นนักเขียนที่วาดรูปสวยมาก ๆ แต่การจัดวางองค์ประกอบและอื่น ๆ รวมถึงการเล่าเรื่องยังทำได้ไม่ดี ทำให้เธอต้องรับฟีดแบ็กนำกลับไปแก้สตอรี่บอร์ดซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อเนื่องหลายเดือน โดยยังไม่ได้เดบิวต์ผลงาน แต่เธอก็ยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาฝีมือต่อไป … ผู้ช่วยบรรณาธิการซอกจีฮยองเตือนอนมาอึมว่า นักเขียนประเภทนี้จะหมดไฟเร็วกว่านักเขียนทั่วไป

ส่วนชินแดรยุกนั้นเป็นอะไรที่แตกต่างจากนักเขียนทุกคน เขามีพรสวรรค์ในเรื่องการเล่าเรื่องและการจัดฉากติดตัวมาตั้งแต่เกิด เขาจัดวางองค์ประกอบได้เป็นอย่างดีแม้ไม่เคยเรียนมาก่อน แต่สิ่งที่เป็นจุดอ่อนของเขาก็คือ เขาวาดรูปได้ห่วยมาก ห่วยขนาดที่ว่าวาดวงกลมให้กลมยังทำไม่ได้เลย แถมตัวละครทุกตัวยังเหมือนกัน แยกไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร … ชินแดรยุกยอมรับกับอนมาอึมด้วยว่า เขาไม่สามารถแยกใบหน้าและความรู้สึกของคนได้ เพราะเขาไม่รู้จักความรู้สึกพวกนั้น

นักเขียนแบคเห็นพรสวรรค์ในตัวของชินแดรยุก ส่วนจุดอ่านเรื่องการวาดรูปเป็นอะไรที่ฝึกกันได้ เขาจึงเสนอให้อนมาอึมพาชินแดรยุกมาเป็นผู้ช่วยของเขาที่สตูดิโอเพื่อฝึกฝน … ตอนแรกชินแดรยุกปฏิเสธ โดยอ้างความต้องการของตัวเองว่า อยากเล่าเรื่องด้วยการ์ตูน แต่ไม่ได้อยากวาดรูปให้สวย แต่อนมาอึมก็บอกว่า นักเขียนแบคเป็นนักเขียนเว็บตูนอันดับหนึ่งของประเทศ การเป็นผู้ช่วยของนักเขียนระดับนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และเธอก็กล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า “ฉันจะเดิมพันด้วยโชคทั้งหมดที่ฉันมีกับคุณค่ะ”

สุดท้ายแล้ว ชินแดรยุกตกลงตามคำแนะนำของอนมาอึม แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะวันเวลาผ่านไปฝีมือของชินแดรยุกก็ดูจะไม่พัฒนาไปไหน แถมเขายังประกาศด้วยว่า ถ้าไม่ได้เดบิวต์ภายในปีนี้เขาจะทิ้งทุกอย่าง แล้วกลับไปทำงานที่โรงพยาบาล และยังบอกด้วยว่า การวาดการ์ตูนอยู่ที่บ้านยังสบายในกว่าต้องมาเป็นผู้ช่วยอยู่ที่นี่

ระหว่างนั้น พีดีควอน (พีดีขี้อิจฉาในนีออนเว็บตูน) ก็เกิดต้องการคนวาดภาพประกอบแทนคนเดิมที่ออกไป เขาเล็งไปที่ผู้ที่ใช้นามแฝงว่าคริสตัล เมื่อนัดเจอตัว คริสตัลก็คือนามแฝงของกูซึลอานั่นเอง พีดีควอนจึงยื่นข้อเสนอให้ แต่ต้องแลกกับการทิ้งโปรเจกต์ที่ทำกับพีดีอนมาอึม “จะเป็นนักวาดภาพประกอบให้กับผลงานที่กำลังเดบิวต์ หรือจะนั่งแก้สตอรี่บอร์ดต่อไป โดยไม่รู้ว่าจะได้เดบิวต์เมื่อไร ?”

หลังตัดสินใจอยู่หลายวัน สุดท้ายแล้วกูซึลอาตัดสินใจทำงานให้กับพีดีควอน … พีดีที่เธอไม่รู้เลยว่ามีฉายาในวงการเว็บตูนว่า ‘สุสานสำหรับนักเขียนใหม่’ !

เช้าวันต่อมา กูจุนยองเห็นคราบน้ำตาของอนมาอึม แต่เธอก็บอกปัดไปว่าเพิ่งกินรามยอนมา ส่วนเรื่องที่ตัดสินใจปล่อยกูซึลอาไป ก็เพราะต้องการให้เธอได้ในสิ่งที่ต้องการมากที่สุด

ตัดกลับมาที่บ้าน เรื่องราวดำเนินมาจนถึงจุดที่อนมาอึมต้องตัดสินใจบอกพ่อเรื่องงานพีดีที่นีออนเว็บตูน เพราะเธอต้องการใช้ชีวิตของตัวเอง เรียนรู้และเผชิญกับปัญหาด้วยตัวเอง ที่ตัดสินใจบอกพ่อไปตรง ๆ เพราะเธอมั่นใจว่าพ่อจะสนับสนุน แต่มันตรงกันข้าม พ่อเธอรู้สึกผิดหวังเพราะพ่ออยากให้เธอเป็นนักยูโดเหรียญทองโอลิมปิก เหรียญทองที่เขาไม่เคยได้มีโอกาสได้มัน …

EP.6 ตัวร้ายที่สำคัญของทีม

กูซึลอารู้สึกผิดที่ตัดสินใจทิ้งโปรเจกต์เพื่อไปวาดภาพประกอบให้พีดีควอน จึงนัดอนมาอึมมาทานข้าวเพื่อขอโทษ อีกทางหนึ่งก็เป็นการขอบคุณที่ทำให้เธอมาไกลได้ขนาดนี้

ระหว่างนั้น กูซึลอาก็ได้รับแจ้งจากพีดีควอนให้แก้งานทั้งหมด เนื่องจากตัวละครหลักมีบุคลิกเหมือนกับนักแสดงในซีรีส์เกินไป ทำให้เธอต้องแก้งานเก่าทั้งหมด และต้องเริ่มต้นวาดใหม่เพื่อให้ทันเดดไลน์ซึ่งใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว

อนมาอึมพยายามเอาเรื่องนี้มาคุยกับพีดีควอน แต่มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เธอโดนพีดีควอนตอกกลับและต่อว่าหาว่าล้ำเส้น

แม้มันจะไม่ใช่ความผิดของเธอเลย แต่อนมาอึมก็รู้สึกอดเป็นห่วงกูซึลอาไม่ได้ เธอรู้ดีว่าการแก้งานทั้งหมดให้ทันเดดไลน์เป็นเรื่องร้ายกาจมากแค่ไหน เธอจึงไปปรับทุกข์กับกูจุนยอง

หลายวันต่อมา อนมาอึมแวะไปหากูซึลอาที่บ้าน เมื่อเข้าไปในห้องก็ได้เห็นกูซึลอาเป็นลมหมดสติคาโต๊ะทำงาน เนื่องจากโหมทำงานหนักจนไม่ได้พักผ่อน

หลังจากพากูซึลอาเข้าโรงพยาบาล อนมาอึนก็เอาเรื่องที่เกิดขึ้นเข้าที่ประชุมโดยด่วน ทำให้เธอเกิดมีปากเสียงกับพีดีควอน ที่สำคัญ พีดีควอนไม่แสดงท่าทางเป็นห่วงหรือแม้แต่จะสนใจอาการป่วยของกูซึลอาเลย เขาคิดง่าย ๆ ว่าจะหาคนวาดภาพประกอบคนใหม่มาแทนเพื่อแก้ปัญหา

จากนั้น ผู้ช่วยบรรณาธิการซอกจีฮยองก็เล่าเรื่องพีดีควอนให้อนมาอึมกับกูจุนยองฟัง สมัยก่อนทีมนีออนเว็บตูนทำงานให้กับจินเจอร์ตูน ในตอนนั้น พีดีควอนทุ่มเทอย่างหนักเพื่อให้ผลงานของนักเขียนเก่ง ๆ ได้ขึ้นแพลตฟอร์ม แต่เขาทำไม่สำเร็จเพราะโดนขวางโดยผู้บริหารระดับสูง ทำให้เขาโดนนักเขียนต่อว่าที่รับปากแล้วทำไม่ได้ นักเขียนเหล่านั้นเสียหายทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย ยิ่งไปกว่านั้น การทุ่มเทให้กับงานของพีดีควอนยังส่งผลให้เขาโดนภรรยาฟ้องหย่า เพราะทำงานจนไม่มีเวลาให้กับครอบครัว …

สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้พีดีควอนเปลี่ยนไป เขากลายเป็นคนเลิกงานตรงเวลาและกลับบ้านไปหาครอบครัวทันที ส่วนเรื่องการทำงาน เขาจะหานิยายออนไลน์ดัง ๆ เอามาทำเว็บตูน ผลลัพธ์

EP.7 เผชิญหน้ากับความจริงอันเจ็บปวด

ไม่ว่าอย่างไร ชินแดรยุกก็ดูจะเป็นนักเขียนที่มีบุคลิกท่าทางแปลก ๆ แม้ว่าจะเป็นคนมีพรสวรรค์ทางด้านการวาดเว็บตูน แต่เขาจะตกใจกลัวเมื่อมีผู้หญิงมาสัมผัสเนื้อต้องตัว ทว่าผู้หญิงที่ชื่ออนมาอึมกลับแตกต่างออกไป เพราะเธอเปรียบเสมือนเป็นผู้เสกปั้นเขาขึ้นมาให้เปล่งประกายในวงการเว็บตูน ว่าที่จริง เธอเป็นคนเพียงไม่กี่คนที่เห็นคุณค่าในสิ่งที่เขาทำ

พรสวรรค์ในตัวของชินแดรยุกเฉิดฉายจนทำให้อิมดงฮี ผู้ช่วยของนักเขียนแบครู้สึกแย่ ถึงขนาดรู้สึกด้อยค่าตัวเอง เพราะเขาไม่สามารถเดบิวต์ผลงานได้แม้เขาจะพยายามมานานนับสิบปี ในขณะที่แม่ของอิมดงฮีก็โทรศัพท์มาขอร้องให้กลับไปอยู่บ้าน และให้เลิกตั้งความหวังกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ความกดดันยิ่งถาโถมเข้าใส่มากเป็นเท่าทวีคูณ

อิมดงฮีเอางานมาให้อนมาอึมช่วยดู ลึก ๆ ก็หวังให้เธอชมผลงานของเขา แต่ทว่าไม่มีคำชมออกจากปากของพีดีสาวเลยแม้แต่คำเดียว จะมีก็เพียง ‘โมจุก’ ตุ๊กตาไม้ไผ่ที่เธอมอบให้ พร้อมด้วยคำพูดให้กำลังใจที่ว่า การทำอะไรอย่างต่อเนื่องยาวนานก็เหมือนดั่งรากที่จมดิน เมื่อรากมันงอกเต็มที่แล้ว ทักษะฝีมือก็จะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในอีกทางหนึ่ง แม้อนมาอึมอยากสนับสนุนให้อิมดงฮีได้ไปถึงฝั่งฝัน แต่ผู้ช่วยบรรณาธิการซอกจีฮยองกลับมองต่างออกไป เขามองว่าอิมดงฮีควรรู้ได้ด้วยตัวเองว่าทำไมไม่เคยชนะการประกวดเลยสักครั้ง

และครั้งนี้ก็เป็นเช่นเดียวกับครั้งก่อน ๆ เมื่อถึงวันประกาศรายชื่อผู้ชนะ ในรายชื่อก็ไม่มีชื่อของอิมดงฮีเช่นเดิม … คืนนั้น อิมดงฮีกำลังแบกความผิดหวังที่มีอยู่เต็มอก เขาเข้าไปอ่านเว็บตูนของชินแดรยุก ทันใดนั้นเอง ‘ฟีบ’ ก็เข้าครอบงำเขา ฟีบซึ่งเป็นสัตว์ประหลาดตัวแทนของความโกรธและริษยาในเว็บตูนของชินแดรยุก !?

เช้ารุ่งขึ้น อิมดงฮีไม่มาทำงาน ส่วนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของชินแดรยุกก็พังเสียหายยับเยิน ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ผลงาน ‘สรรพาวุธฟีบ’ เสียหายทั้งหมด !

อีกไม่กี่วัน ผลงานของชินแดรยุกจะได้เข้ารับการพิจารณาคัดเลือก แต่ไฟล์ทั้งหมดเสียหาย อนมาอึมรู้ข่าวก็ตกใจ แต่ก็โชคดีอยู่บ้างที่เธอมีไฟล์ที่เขาเคยส่งมาให้ดูเก็บไว้บางส่วน ทำให้ชินแดรยุกวาดผลงานใหม่เพียงบางส่วนเท่านั้น

ต่อมา อิมดงฮีสารภาพกับนักเขียนแบคว่า เขาทั้งเกลียดและอิจฉาชินแดรยุกมากจนแทบบ้า เพราะเขาอยากมีพรสวรรค์อย่างนั้นบ้าง (และก็ยอมรับว่าเป็นพังคอมพิวเตอร์ของชินแดรยุก) … จากนั้นก็บอกกับตัวเองว่า ที่ผ่านมาเป็นเพียงช่วงเวลาแห่งการหลอกตัวเอง เขาได้แต่บอกตัวเองอยู่เสมอ ๆ ว่าพยายามอีกนิดก็จะสำเร็จ แต่มันไม่เคยเป็นอย่างนั้นเลย …​ เว็บตูนคือความฝันที่ต้องไขว่คว้าสำหรับอิมดงฮี แต่ …

แต่ไม่ใช่สำหรับชินแดรยุก เพราะเว็บตูนสำหรับชินแดรยุกคือทั้งหมดของชีวิต การวาดเว็บตูนเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย … การที่คิมดงฮีได้อ่าน ‘สรรพาวุธฟีบ’ ทำให้เขาเข้าใจแล้วว่า พรสวรรค์เป็นสิ่งที่ไม่มีทางฝึกฝนได้ !

ณ จุดนี้ อิมดงฮีก้มหน้ายอมรับความจริง เขาเก็บข้าวของที่สตูดิโอและกล่าวลานักเขียนแบค …​ นักเขียนแบคยิ้มให้ พร้อมกับกล่าวดีใจที่เขายอมรับและกล้าเผชิญหน้ากับความจริง

ทุกคนมองว่าอิมดงฮีไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะเป็นนักเขียนเว็บตูน ส่วนอนมาอึมไม่มองเช่นนั้น เธอยังคงเชื่อมั่นว่าสักวันความพยายามของเขาจะเป็นจริงขึ้นมาได้

อิมดงฮีกล่าวลาเพื่อน ๆ เพื่อกลับบ้านเกิดที่ปูซาน … ตอนนั้นเอง ชินแดรยุกกล่าวชื่นชมผลงานของเขา … ชินแดรยุกเป็นคนแรกที่เข้าใจพล็อตเรื่องและสิ่งที่เขาพยายามจะสื่อ

EP.8 ย้ายไปหาสิ่งที่ดีกว่า ?

นักเขียนนาถูกทาบทามให้ย้ายไปอยู่กับยองตูน คู่แข่งของนีออนเว็บตูน แต่เขายังไม่ได้ตัดสินใจ ซึ่งถ้าตัดสินใจย้าย เว็บตูนเรื่องเจ้าหญิงจิ้งจอกเก้าหาง ที่เขาเขียนมาห้าปีนับตั้งแต่เดบิวต์ก็จะต้องตัดจบ เพราะจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่แนวที่เขาชอบเลย

ปัญหาต่าง ๆ ถาโถมเข้าใส่ไม่หยุด หัวหน้าจางมันซอลถูกผู้บริหารระดับสูงเตือนอีกครั้งถึงผลงาน (ยอดขาย) ที่ย่ำแย่ของนีออนเว็บตูน สวนทางกับบริการอื่น ๆ ของนีออนที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและก้าวกระโดด … เมื่อถูกกดดัน หันหน้าจางมันชอลจึงขอร้องอนมาอึมให้โน้มน้าวนักเขียนนาให้อยู่กับนีออนเว็บตูนต่อไป เพราะนักเขียนนาเป็นนักเขียนหลักที่นีออนเว็บตูนจะเสียไปไม่ได้

ความเสียหายถ้านีออนเว็บตูนต้องเสียนักเขียนนาไปคือหลายหมื่นล้านวอน ยังไม่นับนักเขียนโอยุนที่เปลี่ยนแนวการเขียนจนส่งผลกระทบต่อยอดวิว ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่หัวหน้าจางมันชอลคิดไม่ตก

ส่วนจีฮันซึลแฟนสาวของนักเขียนนาก็แฮปปี้มาก ๆ ที่เรื่องเจ้าหญิงจิ้งจอกเก้าหางจะจบได้สักที เพราะมันจะทำให้เธอกับนักเขียนนามีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น อย่างไรก็ตามเธอก็อดเป็นห่วงอนมาอึมไม่ได้ เพราะเคยช่วยเหลือเธอจากผู้ชายบ้ากามที่ร้านอาหารทะเลเมื่อคราวก่อน

ระหว่างนั้นเรื่องราวแปลกประหลาดก็เกิดขึ้น ขณะที่นักเขียนนากับจีฮันซึลกำลังเดินช็อปปิ้งด้วยกัน เขาก็เห็นภาพหลอนของนางเอกของเรื่องโผล่เข้ามา และมันคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้นักเขียนนาตัดสินใจเขียนเรื่องเจ้าหญิงจิ้งจอกเก้าหางต่อไป โดยจะเขียนคู่ขนานไปกับเรื่องใหม่ ที่เป็นแนวสยองขวัญ เพราะมันเป็นแนวที่เขาชอบ และมีร่างที่ร่างเอาไว้หลายสิบตอนอยู่ในมือแล้ว แต่เรื่องใหม่นี้เขาตั้งใจจะขึ้นที่ยองตูน

อีกทางหนึ่ง นักเขียนปอมม์ก็ได้รับข้อเสนอให้ย้ายไปยองตูนเช่นกัน …

ขณะที่ผู้ช่วยบรรณาธิการซอกจีฮยองนั่งบนรถยนต์กับประธานยองตูน เขาได้รับข้อเสนอให้เป็นหัวหน้าบรรณาธิการที่นั่น !?

EP.9 โปรเจกต์รีเมกการ์ตูนดังในอดีต

‘สรรพาวุธฟีบ’ ผลงานเดบิวต์ของชินแดรยุกได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี มันยิ่งทำให้ชินแดรยุกมองอนมาอึมเป็นเหมือนพระเจ้า แม้เขาจะเป็นคนมีบุคลิกแปลกประหลาด แต่คนที่เขาเชื่อใจและเชื่อฟังมีเพียงคนเดียวก็คืออนมาอึม

หัวหน้าจางมันชอลพากูจุนยองกับอนมาอึมไปพบนักเขียนมาแฮกยู เพื่อขอให้เขารีเมกการ์ตูนดังระดับตำนานในรูปแบบเว็บตูน แต่ภาพที่ทั้งสามเห็นกลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่คาด มาแฮกยูในตอนนี้กลายเป็นชายที่ติดเหล้าอย่างงอมแงม ใช้ชีวิตไปข้างหน้ากับอดีตแล้วโยนอนาคตทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง … ยูนา ลูกสาวของมาแฮกยูก็คิดว่าพ่อของเธอคงไม่มีทางกลับไปเขียนการ์ตูนได้อีก และกล่าวโทษว่าพ่อเป็นคนที่ทำให้แม่ของเธอต้องตาย

โปรเจกต์รีเมกการ์ตูนดังของหัวหน้าจางมันชอลดูเหมือนจะล้มเหลว แต่อนมาอึมไม่คิดเช่นนั้น เธอยื่นนามบัตรให้กับยูนา พร้อมกับหยิบยื่นไมตรีและพลังบวกให้ “ถ้าเธอมีเรื่องอะไรอยากจะปลดปล่อย ติดต่อมาได้ตลอดนะ”

นับแต่นั้น ยูนามักจะโทร. หาอนมาอึมเสมอ ๆ เพราะคิดว่าเป็นผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่ไว้ใจได้ ซึ่งเธอคิดว่าคุณสมบัตินี้ไม่มีแม้แต่ในตัวพ่อของเธอเลย ที่สำคัญ ยูนาไม่ใช่เด็กสาวที่ชอบอ่านการ์ตูน ไม่แม้แต่ผลงานดังระดับตำนานของพ่อเธอเอง

เย็นวันหนึ่ง กูจุนยองไปที่ ‘คาเฟ่การ์ตูนอน’ ของอนมาอึม เขาได้แนะนำให้อนมาอึมลองพายูนามาที่นี่ เพราะมันอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ยูนาเริ่มสนใจอ่านการ์ตูนเหมือนกับที่เขาเคยเป็น อนมาอึมซื้อความคิดนี้ทันที

แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ยูนาได้อ่านการ์ตูนซึ่งเป็นผลงานของนักเขียนมาแฮกยู พ่อของเธอเอง

อนมาอึมพายูนาไปส่งที่บ้าน ระหว่างทางก็เจอกับภาพที่น่ารันทดหดหู่ใจ เมื่อพบมาแฮกยูเดินเป๋ไปเป๋มาขณะที่ในมือกำขวดเหล้าเอาไว้แน่น ในตอนนั้นเอง ยูนาจึงเผยความในใจออกไปว่า จริง ๆ แล้วเธอไม่สนใจเลยแม้แต่นิดเดียวว่าพ่อจะกลับไปเป็นนักเขียนอีกหรือเปล่า สิ่งที่เธอต้องการคือ พ่อที่ทำให้เธอรู้สึกมีชีวิตปกติเหมือนคนอื่น

เช้าวันต่อมา หัวหน้าจางมันถึงกับตกใจ ที่ได้เห็นนักเขียนมาแฮกยูมาออฟฟิศนีออนเว็บตูนเพื่อเซ็นสัญญารีเมกการ์ตูน

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หัวหน้าจางมันชอลงงเป็นอย่างมาก เขาไม่รู้จริง ๆ ว่า อนมาอึมไปพูดหรือทำอะไร ถึงทำให้นักเขียนขี้เมาและท้อแท้กับชีวิตกลับมีพลังขึ้นมาอีกครั้ง

EP.10 ความก้าวหน้าในอาชีพ

นักเขียนมาแฮกยูเข้ารับการบำบัดโรคแอลกอฮอลิสชึ่ม ก่อนจะเริ่มรีเมกการ์ตูนตามสัญญาที่เซ็นไว้กับนีออนเว็บตูน

ผู้ช่วยบรรณาธิการซอกจีฮยองแจ้งกับหัวหน้าจางมันซอลถึงข้อเสนอที่เขาได้รับจากยองตูน มันเป็นข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธได้สำหรับผู้ที่รักความก้าวหน้าในอาชีพ แต่ตอนนี้เขายังไม่ได้ตัดสินใจ หัวหน้าจางมันชอลจึงแนะนำให้คิดถึงตัวเองก่อนก็พอ

อนมาอึมรู้ข่าวเรื่องที่ผู้ช่วย บ.ก.ซอกจีฮยองมีแนวโน้มที่จะออกจากนีออนเว็บตูน ทำให้เธอเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูกที่ออฟฟิศแห่งนี้จะขาดคนฝีมือดีไป ที่สำคัญเขายังเป็นคนปลุกปั้นและเป็นพี่เลี้ยงคนแรกของเธออีกด้วย … เมื่อเห็นอนมาอึมดูเศร้า ๆ ซอกจีฮยองจึงบอกกับเธอว่า ตอนนี้เขายังไม่ได้ตัดสินใจอะไรทั้งนั้น แม้ตำแหน่งหัวหน้าบรรณาธิการยองตูนจะเป็นข้อเสนอที่ไม่มีใครคิดจะปฏิเสธ แต่มันไม่ใช่เป้าหมายสำหรับเขา

ไม่กี่วันต่อมาก็มีงานกินเลี้ยงที่ทีมจัดขึ้น ทุกคนต่างมากันอย่างพร้อมหน้าเพราะเข้าใจว่าเป็นงานเลี้ยงอำลาซอกจีฮยอง แต่มันกลับตรงกันข้าม ซอกจีฮยองตัดสินใจที่จะอยู่นีออนเว็บตูนต่อไปเพื่อสานต่อโปรเจกต์ที่ได้เริ่มไว้ให้สำเร็จ … “ผมต้องการทำให้ผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเป็นดั่งดอกไม้ที่เติบโตขึ้นอย่างสวยงาม ในสวนที่ชื่อว่านีออนเว็บตูน”

ระหว่างนั้น ลุงของกูจุนยองมาขอเงินที่ออฟฟิศ โดยอ้างเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพพี่สาวของเขา ที่จ่ายแทนให้ตอนที่กูจุนยองยังอยู่ที่ต่างประเทศ ทำให้ทั้งสองเกิดโต้เถียงกัน จังหวะนั้นเองที่หัวหน้าจางมันชอลเดินมาทักทาย ลุงของเขาจึงบอกกับกูจุนยองว่า “ไอ้นี่แหละ [จางมันชอล] เป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่สาวของแกต้องตาย”

EP.11 รอยยิ้มของวิญญาณที่จากไป

กูแอรี เป็นพี่สาวแท้ ๆ ของกูจุนยอง ที่เคยร่วมงานกับหัวหน้าจางมันชอลและผู้ช่วย บ.ก.ซอกจีฮยองที่จินเจอร์ตูน ในตอนนั้นเธอเป็นเพียงพนักงานสัญญาจ้าง ซึ่งต่อมาเธอก็กลายเป็นคนแรกที่ถูกไล่ออก

ต่อมาเมื่อกูแอรีเสียชีวิต กูจุนยองไม่ได้มางานศพเพราะตอนนั้นเขากำลังเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ

วันต่อมาที่ออฟฟิศ … กูจุนยองเห็นอนมาอึมทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ เขาจึงพูดออกไปว่า เธอเป็นเพียงแค่พนักงานสัญญาจ้าง และอนาคตอาจจะลงเอยเหมือนกูแอรี

อย่างไรก็ตาม วันต่อมากูจุนยองก็ขอโทษอนมาอึมที่พูดไม่ดีแบบนั้นออกไป แต่อนมาอึมก็คืออนมาอึม เธอไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแบบนี้ และยังคงยิ้มให้เขาด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังบวกเสมอ ส่วนกูจุนยองก็สารภาพว่าเขามีความสุขมากที่ได้ร่วมงานกับเธอ

วันรุ่งขึ้นกูจุนยองวางจดหมายลาออกเอาไว้ที่โต๊ะ เมื่อหัวหน้าจางมันชอลเห็นจดหมายลาออกก็รีบขับรถไปหากูจุนยองที่เก็บอัฐิของกูแอรี หัวหน้าจางมันชอลขอร้องให้กูจุนยองกลับไปทำงานอีกหนึ่งวัน เพื่อไปเก็บของของกูแอรี และถ้าตอนนั้นเขายังตัดสินใจลาออกก็จะไม่มีใครรั้ง

ผู้ช่วย บ.ก.ซอกจีฮยองเล่าความจริงให้อนมาอึมฟัง ตอนนั้น กูแอรีเป็นพนักงานสัญญาจ้างที่จินเจอร์ตูน ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่จินเจอร์ตูนกำลังจะปิดตัว หัวหน้าจางมันชอลจึงไม่ต่อสัญญาจ้างกับเธอ แต่ก็ให้สัญญาว่าสักวันจะต้องได้ร่วมงานกันอีก ซึ่งกูแอรีก็สัญญาว่าเธอจะอ่านเว็บตูนต่อไป กูแอรีรักษาสัญญาที่ให้ไว้ เธอยังอ่านเว็บตูนต่อไปและมักจะเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก ๆ แต่หลังจากออกจากจินเจอร์ตูน กูแอรีก็ต้องทำงานหลายที่เพื่อหาเงินให้พอกับค่าใช้จ่าย เพราะต้องส่งเสียกูจุนยองที่เรียนอยู่ต่างประเทศ … จากนั้นไม่นานหัวหน้าจางมันชอลก็ได้รับข้อเสนอให้มาทำนีออนเว็บตูน แต่น่าเสียดายที่กูแอรีประสบอุบัติเหตุโดนรถชนไปเสียก่อน

กูจุนยองกลับมาที่ออฟฟิศเพื่อเอาข้าวของของกูแอรี ของต่าง ๆ เหล่านี้หัวหน้าจางมันชอลเก็บเอาไว้ตั้งแต่เธอทำงานอยู่ที่จินเจอร์ตูน และของเหล่านั้นก็มีไดอารีเล่มหนึ่ง …

กูจุนยองน้ำตาไหลออกมาไม่หยุดเมื่อได้อ่านไดอารีของพี่สาว เขาได้แต่โทษตัวเองว่าที่กูแอรีต้องตายก็เพราะต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินส่งเสียเขา ทั้งที่จริง ๆ แล้วที่ตรงนี้ที่เขานั่งอยู่ควรเป็นที่ของเธอ จังหวะนั้นอนมาอึมก็เข้ามาปลอม ซึ่งเธอก็เสียน้ำตาเช่นกัน ในขณะที่ …

ในขณะที่วิญญาณของกูแอรีที่ยืนมองกูจุนยองอยู่ใกล้ ๆ ก็ได้แต่ยิ้มออกมาด้วยใบหน้าอันเปี่ยมสุข ก่อนที่วิญญาณจะสลายไปอย่างหมดห่วง

EP.12 ร่วมแรงร่วมใจ

กูจุนยองสารภาพกับอนมาอึมจากใจว่า จริง ๆ แล้วเขาไม่เคยชอบเว็บตูนเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเขาคิดว่ามันเป็นการหลอกลวง ที่สำคัญคือมันทำให้คิดถึงพี่สาวที่จากไป แต่ดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้วเขาจะไม่สามารถหนีวงการนี้ไปได้ ดังนั้นเขาจะกลับมาทำงานเหมือนเดิม

ส่วนอนาคตของทีมเว็บตูนในตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว เพราะยอดขายยังคงต่ำเตี้ยเรี่ยดินเมื่อเทียบกับมาตรฐานของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างนีออน ในขณะที่หัวหน้าฝ่ายฮอ ผู้บริหารระดับสูงของนีออนที่ต้องการเขี่ยทีมเว็บตูนทิ้ง กำลังยื่นซื้อกิจการยองตูนเข้ามาแทน … หัวหน้าจางมันชอลบอกกับทุกคนในทีมว่า เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้นในการพิสูจน์ฝีมือและสร้างผลงานให้ผู้บริหารยอมรับ ทุกคนในทีมตกลงร่วมแรงร่วมใจกันฮึดสู้เฮือกสุดท้าย

หัวหน้าจางมันชอลบอกกับทุกคนว่า โมยองซูเป็นนักเขียนหลักที่ทำให้ยองตูนขึ้นแท่นเป็นแพลตฟอร์มเว็บตูนอันดับหนึ่ง แต่ตอนนี้โมยองซูเลิกเขียนเว็บตูนแล้ว โดยหันไปเปิดบริษัททำธุรกิจของตัวเองแทน ดังนั้น ถ้าสามารถถึงโมยองซูให้มาร่วมงานกับนีออนเว็บตูนได้ การแย่งเบอร์หนึ่งมาจากยองตูนก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แต่ …

แต่เรื่องของเรื่องก็คือ โมยองซูกับหัวหน้าจางมันชอลเคยมีประเด็นขัดแย้งกันเมื่อตอนที่อยู่ที่จินเจอร์ตูน มันจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ที่ตั้งอยู่บนความเป็นไปไม่ได้อีกทีหนึ่ง !?

ในตอนแรก โมยองซูยอมรับนัดกับหัวหน้าจางมันชอล โดยแสร้งทำเป็นบอกว่าไม่ติดใจเรื่องในอดีต แต่เมื่อมาพบกันตามนัด โมยองซูก็ทำเรื่องบางอย่างเพื่อให้หัวหน้าจางมันชอลรู้สึกแย่

อย่างไรก็ตาม หัวหน้าจางมันชองไม่ละความพยายาม เขายังคงเดินหน้าตามตื๊อโมยองซูต่อไป ด้วยการยื่นข้อเสนอที่ให้ผลประโยชน์ให้มากกว่าปกติ ทำให้โมยองซูรับข้อเสนอไปพิจารณา

ระหว่างนั้น กูจุนยองกำลังหาเหตุผลว่าทำไมหัวหน้าฝ่ายฮอต้องการเขี่ยทีมเว็บตูนทิ้ง และยื่นซื้อกิจการยองตูน ?

EP.13 เว็บตูนที่สภาพง่อนแง่น

ชินแดรยุก ตอนนี้กลายเป็นนักเขียนเว็บตูนชื่อดังไปแล้วจากผลงาน ‘สรรพาวุธฟีบ’ อนมาอึมจึงพาเขามาพบกับผู้กำกับฯ ชินแจวอน เพื่อคุยโปรเจกต์การนำสรรพาวุธฟีบมาทำเป็นซีรีส์

ชินแดรยุกพรีเซนต์ถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาเขียนเรื่องนี้ ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง จังหวะนั้นเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อผู้กำกับฯ ชินแจวอนที่ปกติเป็นคนพูดจาห้วน ๆ สไตล์ขวานผ่าซากอยู่แล้ว ได้พูดประโยคบางประโยคที่ไปแทงใจดำปมในใจของชินแดรยุก จึงทำให้ชินแดรยุกเกิดสติแตก วิ่งเตลิดออกไปนอกถนนขณะที่ยังคุยงานกันไม่จบ และเกือบถูกรถชน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้อนมาอึมตัดสินใจจะเว้นระยะห่างกับชินแดรยุก เพราะดูเหมือนว่าการที่เธอพยายามผลักดันเขาในขณะที่ยังไม่พร้อม จะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่ทำให้นีออนเว็บตูนตกอยู่ในสภาพง่อนแง่น … ชินแดรยุกก็ดูจะเป็นนักเขียนที่มีจิตใจไม่มั่นคง นักเขียนนาก็ต้องการจะลดงานของตัวเอง เพื่อจะได้มีเวลาใช้ชีวิตกับแฟนสาวที่กำลังตั้งครรภ์ ส่วนนักเขียนแบคก็เป็นโรคกระดูกสันหลัง

ต่อมา ชินแดรยุกพยายามบอกอะไรบางอย่างกับอนมาอึมด้วยการ์ตูนที่เขาวาด เขาต้องการให้เธอรู้ว่าเขาต้องเจออะไรมาบ้างในวัยเด็ก เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นเขาไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ภาพที่เขาเขียนขึ้นมาดาร์กเกินกว่าที่เด็กคนหนึ่งจะรับได้ โซ่ที่ล่ามเขาไว้อย่างกับสัตว์เลี้ยง ความรุนแรงที่เขาต้องรับ แม่ที่ทิ้งเขาไป จนต้องไปอยู่กับญาติ และในที่สุดเขาก็ต้องอยู่ตัวคนเดียวเมื่อคุณปู่ของเขาจากไป

อนมาอึมกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ มันทำให้เธอเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า ชินแดรยุกมองเธอเป็นพระเจ้าที่ช่วยให้เขาพ้นกับความโชคร้ายที่ต้องเผชิญมาทั้งขีวิต พระเจ้าที่ช่วยให้เขาได้รู้จักความสุข แม้มันจะเป็นความสุขเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ แต่มันก็เป็นความสุขที่เขาไม่เคยรู้จักนับตั้งแต่เกิดมา

จากนั้น อนมาอึมพาชินแดรยุกไปพบกับผู้กำกับฯ ชินแจวอนอีกครั้ง หลังจากขอโทษขอโพยเหตุการณ์ในครั้งก่อน การประชุมก็เริ่มต้นขึ้นและจบลงด้วยการเซ็นสัญญา

ขณะเดียวกันที่ออฟฟิศนีออนเว็บตูน แม่ของชินแดรยุกก็โผล่มาอย่างไม่ได้นัดหมาย !

EP.14 ผลักไสไล่ส่ง

ชินแดรยุกเริ่มคิดงานไม่ออก หัวไม่แล่น ความคิดสร้างสรรค์ไม่มี เพราะปัญหาส่วนตัวที่รุมเร้า อนมาอึมจึงพยายามหาวิธีแก้ปัญหาให้ ปัญหาที่เป็นบาดแผลในใจของเขามาตลอดว่า ทำไมแม่ต้องทำกับเขาแบบนั้นในวัยเด็ก แต่แทนที่เขาจะวิ่งเข้าชนปัญหาเพื่อคลี่คลายมัน เขากลับหนีปัญหาโดยการปฏิเสธที่จะเจอแม่

คยองจา แม่ชินแดรยุกพยายามตามหาว่าลูกชายอยู่ที่ไหน เธอจึงตามอนมาอึมไปจนเจอชินแดรยุก แต่แทนที่เขาจะดีใจที่ได้เจอแม่ เขากลับแสดงท่าทางตกใจและหวาดกลัว แถมยังผลักไสไล่ส่งให้เธอไป ๆ ซะ

การเป็นพีดีเว็บตูนมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด กูจุนกยองพยายามให้กำลังใจอนมาอึมเพื่อให้ก้าวข้ามปัญหาต่าง ๆ ไปให้ได้ และเขาก็เชื่อว่าเธอสามารถผ่านพ้นมันไปได้เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา

ภาพแฟลชแบ็กย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ชินแดรยุกยังเป็นเด็ก คยองจาต้องล่ามเขาไว้ในตอนนั้น เพราะเธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องออกไปทำงาน เธอเกรงว่าลูกจะออกไปเล่นซนข้างนอกจนเกิดอันตราย หรือถูกลักพาตัวไป แต่มีเหตุการณ์ที่เขาจำไม่ได้คือ เขาเล่นไฟจนทำให้บ้านไฟไหม้

ในเวลาเดียวกัน ก็มีคนโพสต์ข้อความหาว่าชินแดรยุกลวนลามผู้หญิง เพื่อหาหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ทั้งกูจุนยองและอนมาอึมจึงต้องออกตามล่าหาภาพจากกล้องวงจรปิด เพราะอนมาอึมจำได้ว่าเหตุการณ์ในวันนั้น ชินแดรยุกน่าจะเป็นฝ่ายถูกกระทำเสียมากกว่า

สุดท้ายเรื่องราวก็คลี่คลายไปได้เมื่อมีภาพจากกล้องวงจรปิดมายืนยัน

วันหนึ่ง อนมาอึมเดินทางไปเยี่ยมคยองจา หลังจากได้รับแจ้งว่าเธอประสบอุบัติเหตุ ในตอนนั้นเองทำให้อนมาอึมได้รู้ว่าเธอเป็นโรคอัลไซเมอร์

หลังจากออกจากโรงพยาบาล คยองจาทำอาหารไปให้ชินแดรยุกกิน แต่เมื่อเขารู้ว่าเป็นฝีมือแม่ เขาก็เอาอาหารพวกนั้นไปเททิ้งทั้งหมด

อนมาอึมเล่าเรื่องเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อวัยเด็กให้ชินแดรยุก แต่เขากลับจำมันไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว อนมาอึมจึงบอกไปว่าแม่ของเขาเป็นโรคอัลไซเมอร์ และเธอกำลังตัดสินใจจะไปจากชินแดรยุกจริง ๆ

ณ จุดนี้ ชินแดรยุกเริ่มเข้าใจอะไร ๆ มากขึ้น เขากับอนมาอึมไปตามแม่ให้มาอยู่ด้วยเพื่อรักษาตัว จากนั้นบาดแผลในใจของเขาก็ค่อย ๆ ดีขึ้น และจางหายไปตามลำดับเมื่อได้รู้ความจริงจากปากของพระเจ้าของเขา … อนมาอึม

EP.15 การเข้าซื้อกิจการที่มีเงื่อนงำ

ในการประชุมบอร์ดผู้บริหาร หัวหน้าจางมันชอลเสนอให้ต่อยอดผลงาน “สรรพาวุธฟีบ” ของชินแดรยุก โดยการทำซีซั่นสอง หลังจากผลงานเรื่องนี้ได้ถูกนำไปสร้างซีรีส์เป็นที่เรียบร้อย เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท และเขายังได้เสนอแผนการเปิดบริษัทลูก ที่จะรับผิดชอบการรวบรวมผลงานทั้งหมดของนักเขียนนา โดยให้ผู้ช่ายฯ ซอกจีฮยองนั่งตำแหน่งประธานบริหารร่วมกับนักเขียนนา ที่สำคัญ หัวหน้าจางมันชอลประกาศจุดยืนชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการยื่นเสนอซื้อกิจการยองตูน เพราะการทำให้นีออนเว็บตูนมีทั้งคุณภาพและผลตอบแทนในระยะยาว ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าการเข้าซื้อกิจการยองตูนมาก

บอร์ดบริหารต่างพากันยอมรับและชื่นชมโปรเจกต์ของหัวหน้าจางมันชอล แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ สิ่งที่บอร์ดต้องการคือบรรทัดสุดท้ายของยอดขาย เพราะไม่ว่าโปรเจกต์จะดีแค่ไหน ถ้าไม่สามารถทำเงินได้ก็ไม่มีความหมายในเชิงธุรกิจ

ภาพตัดมาการพูดคุยกันอย่างลับ ๆ ของประธานยองตูนกับหัวหน้าฮอ ทำให้เราได้รู้ว่า ที่หัวหน้าฮอพยายามดันโปรเจกต์การเข้าซื้อกิจการยองตูนมาโดยตลอด ก็เพราะเขาแอบถือหุ้นอย่างลับ ๆ อยู่ในยองตูน ที่แท้ที่เขาพยายามผลักดันมาตลอดก็เพื่อผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง

ส่วนตอนนี้คนที่ดีใจมีความสุขมากที่สุดเห็นจะเป็นอนมาอึม เพราะตอนนนี้เธอได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำ ไม่ต้องอยู่ในสถานะสัญญาจ้างอีกต่อไป

ท่ามกลางข่าวดีก็มีข่าวร้ายโผล่ขึ้นมา นักเขียนแบคที่มีกำหนดการผ่าตัดหลัง ทำให้เขาจะต้องพักฟื้นหลังจากนั้นเป็นเวลานาน ดังนั้น ผลงานของเขาจะหยุดชะงักไป เพื่อให้ไม่ให้ยอดขายร่วง ทีมเว็บตูนจึงต้องหาเรื่องอื่นมาเติมเต็ม

แต่สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าสำหรับทีมนีออนเว็บตูนก็ได้เกิดขึ้น เมื่อทุกคนไปเยี่ยมนักเขียนแบคที่เข้ากับการผ่าตัดหลังที่โรงพยาบาล และได้ยินคำบอกเล่าจากปากภรรยานักเขียนแบคว่า จนถึงตอนนี้เขายังไม่ฟื้น !?

EP.16 ตอนจบ

นักเขียนแบคฟื้นขึ้นมาอย่างปลอดภัยท่ามกลางความดีใจของทุกคน

ด้านชินแดรยุกเองในตอนนี้ก็กลายเป็นคนที่มีบุคลิกใหม่ สดใส ไม่จมอยู่กับความมืดดำในอดีตอีกต่อไป

ในการยื่นข้อเสนอให้นักเขียนที่ชนะการประกวด อนมาอึมกับพีดีควอนดันเลือกผลงานของนักเขียนคนเดียวกัน ทำให้ทั้งสองต้องยื่นข้อเสนอเพื่อให้นักเขียนคนนั้นเลือก ซึ่งนักเขียนคนนั้นก็คือกูซึลอา ที่กลับมาเขียนเว็บตูนเรื่องใหม่นั่นเอง ในการกลับมาคราวนี้เธอได้พัฒนาลายเส้นของตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก

กูซึลอาอ่านข้อเสนอที่เธอได้รับอย่างละเอียด สุดท้ายก็เลือกร่วมงานกับอนมาอึม ว่าที่จริง กูซึลอาตั้งใจที่จะร่วมงานกับอนมาอึมตั้งแต่แรก ถึงอย่างนั้นก็ตาม พีดีควอนเสียความรู้สึกกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก

กูซึลอากับอนมาอึมรู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของพีดีควอน และว่ากันตามตรง กูซึลอาชอบข้อเสนอของเขาไม่น้อยเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ อนมาอึมจึงเสนอให้พีดีควอนมาร่วมเป็นพีดีให้กับกูซึลอา ซึ่งพีดีควอนก็รับข้อเสนอนี้ด้วยความเต็มใจ

จากนั้น ท่าทีในการทำงานของพีดีควอนก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่ได้รับฉายาว่า “สุสานของนักเขียนใหม่” ในตอนนี้เขายืดหยุนกับนักเขียนใหม่มากขึ้น

ผู้ช่วยบรรณาธิการซอกจีฮยองมีเวลาทำงานที่นีออนเว็บตูนอีกไม่กี่วัน ระหว่างนั้น อนมาอึมได้ใช้เวลาที่เหลือขอบคุณเขา เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาทำให้เธอมีความสุขที่ได้ทำงานร่วมกันเป็นทีม

อนมาอึมสารภาพกับกูจุนยองว่า จริง ๆ แล้วที่เธอตัดสินใจเลิกเล่นยูโดไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บ แต่เป็นเพราะที่เธอรู้สึกผิดต่อคู่แข่งคนหนึ่ง ที่เป็นเพื่อนรักของเธอด้วย วันนั้นเป็นการแข่งขันชิงเหรียญทอง เธอเล่าว่าเตะเข้าไปที่ข้อเท้าของคู่ต่อสู้คนนั้น ย้ำเข้าไปที่แผลเดิม เหตุผลเดียวเลยคือต้องการเอาชนะ เพราะในวันนั้น เธอรู้สึกว่ากรรมการตัดสินไม่เป็นธรรม

วันนี้เธอกลับไปหาเพื่อนรักคนนั้นอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกันนับจากเหตุการณ์ในวันนั้น แต่แม้มันจะผ่านมานานแล้ว อนมาอึมก็ยังได้รับการโอบกอดจากเพื่อนรักเกมือนเดิม

เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ กูจุนยองจึงสารภาพความรู้สึกที่เขามีต่ออนมาอึมออกไป เขาบอกว่าจะรอคำตอบจากเธอ

ประธานยุนเห็นตัวเลขต่าง ๆ ก็พอใจที่หัวหน้าจางมันชอลทำให้นีออนเว็บตูนดีขึ้น เธอจึงตกรางวัลให้ทีมโดยให้ย้ายเข้ามาอยู่ที่สำนักงานใหญ่

ว่าที่จริง ความฝันของหัวหน้าจางมันชอลคืออะไรน่ะเหรอ บางคนก็บอกว่าการที่เขาสามารถพิสูจน์ตัวเอง จนได้ย้ายออฟฟิศเข้ามาที่สำนักงานใหญ่เป็นที่สิ่งที่เขาปรารถนา ใช่ มันเป็นหนึ่งในความฝันของเขา แต่ความฝันที่แท้จริงของหัวหน้าจางมันชอลก็คือ การนำนีออนเว็บตูนก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่งของโลก

จบบริบูรณ์

Source : SBS Korea