Skip to content
รีแคปซีรีส์ Today’s Webtoon EP.3 : เดดไลน์

รีแคปซีรีส์ Today’s Webtoon EP.3 : เดดไลน์

Today’s Webtoon EP.3 : อนนาอึมและกูจุนยองได้รับมอบหมายงานให้ดูแลนักเขียนเว็บตูนคนแรก อนมาอึมได้ดูแลนักเขียนคนโปรด แต่เธอก็ได้เรียนรู้ว่าการดูแลนักเขียนให้ส่งงานทันเดดไลน์มันยากเย็นกว่าที่คิด ในขณะที่กูจุนยองต้องเจอกับนักเขียนปอมม์ที่ใช้เขาทำนู่นนี่นั่นสารพัด จนเขาทนไม่ไหวถึงกับเดินเรื่องขอย้ายทีมทันที …

กูจุนยองได้รับมอบหมายให้ไปดูแลนักเขียนปอมม์ ซึ่งเป็นนักเขียนที่ชอบให้พีดีมาหาที่บ้าน เมื่อมาถึงเขาก็ถูกเธอใช้งานทำนู่นนี่นั่นสารพัด จนทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะรู้สึกว่าตัวเองโดนใช้งานเหมือนคนใช้ กูจุนยองจึงถามนักเขียนปอมม์ว่า ทำไมถึงชอบให้พีดีมาหาที่บ้าน แทนที่จะนัดเจอกันข้างนอก หรือประชุมกันทางออนไลน์เหมือนนักเขียนคนอื่น ๆ คำตอบที่ได้ทำเอาเขาอึ้งไปไม่น้อย …

นักเขียนปอมม์บอกว่า “เพราะฉันเหงา ฉันไม่มีเพื่อน ฉันต้องทำงานวันละ 16 ชั่วโมงทุกวันไม่มีวันหยุด ออกไปไหนก็จะมีแต่คนเข้ามารุมล้อม นี่แหละเป็นทางเดียวที่ทำให้ฉันได้เจอและคุยกับคนจริง ๆ”

แต่อย่างไรก็ตาม ความคิดที่จะย้ายทีม หรือไม่ก็ลาออกจากบริษัทก็ผุดขึ้นมาในหัวของกูจุนยองอย่างชัดเจน ในวันนั้นเขาไปหาหัวหน้าจางมันชอลเพื่อขอให้เดินเรื่องย้ายทีมให้เขาด้วย แต่หัวหน้าจางมันชอลพูดกับเขาประโยคหนึ่งที่เขาไม่เข้าใจความหมาย “ปลายทางของการหนีไม่มีสรวงสวรรค์หรอก”

คืนนั้น กูจุนยองจึงไปที่ ‘คาเฟ่การ์ตูนอน’ บ้านของอนมาอึมและครอบครัวที่แบ่งส่วนหนึ่งของบ้านทำเป็นคาเฟ่เล็ก ๆ โดยจะมีคอลเล็กชันหนังสือการ์ตูนจัดเรียงบนชั้นวางเอาไว้มากมาย เขาไปที่นั่นเพื่อขอเช่าหนังสือการ์ตูนเรื่อง ‘เบอร์เซิร์ก’ ซึ่งเขาเห็นว่ามีโน้ตคำคมที่เขียนด้วยลายมืออนมาอึมว่า “ปลายทางของการหนีไม่มีสรวงสวรรค์หรอก” ประโยคเดียวกับที่หัวหน้าจางมันชอลพูดกับเขาตอนที่เขาขอย้ายทีม

กูจุนยองอ่านการ์ตูนเบอร์เซิร์กด้วยความสนุกสนาน จนถึงตอนที่มีคำพูด “ปลายทางของการหนีไม่มีสรวงสวรรค์หรอก” เขาจึงเข้าใจสิ่งที่หัวหน้าจางมันชอลพยายามสื่อกับเขา

วันทำงานวันถัดไป กูจุนยองจึงบอกกับหัวหน้าจางมันชอลว่า จริง ๆ แล้วเขาไม่เคยคิดจะหนีจากสนามรบ และไม่เคยคิดจะไปถึงสรวงสวรรค์ด้วย เพียงแต่เขาพยายามหาสนามรบที่ยิ่งใหญ่กว่า มันเลยทำให้เขาคิดว่าไม่จำเป็นที่ต้องทุ่มเทให้กับทีมนี้ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่ามันเป็นความอวดดี ถ้าเขาพยายามกับทีมนี้ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนแปลง การทำให้ทีมที่กำลังโดนยุบอยู่รอด มันคือสนามรบที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

กูจุนยองตัดสินใจที่จะสู้กับทีมเว็บตูนต่อไป

ส่วนอนมาอึมได้รับมอบหมายให้ดูแลนักเขียนนา ซึ่งเป็นนักเขียนที่เธอชื่นชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เธอจึงรู้สึกมีความสุขมากเพราะเธอจะได้เป็นคนแรกที่ได้อ่านผลงาน ‘เจ้าหญิงจิ้งจอกเก้าหาง’ เป็นคนแรก เรียกว่ากรี๊ดเสียงหลงด้วยความดีใจเลยทีเดียว

แต่การดูแลนักเขียนให้ส่งผลงานทันเดดไลน์มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด สี่วันก็แล้ว สามวันก็แล้ว อนมาอึมก็ยังใจเย็น เพราะนักเขียนนารับปากกับเธอว่าจะส่งผลงานให้ทันเดดไลน์อย่างแน่นอน อีกอย่างเธอก็ไม่อยากใช้ความเป็นพีดีเข้าไปกดดันนักเขียน แต่เมื่อเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงกำหนดเวลาอัปโหลดผลงานบนหน้าเว็บตอน 5 ทุ่ม อนมาอึมจึงนั่งไม่ติด รีบไปหานักเขียนนาที่สตูดิโอทันที

อนมาอึมไปถึงสตูดิโอก็ได้รู้ว่า แฟนของนักเขียนนางอนหนีออกจากบ้านไป ทำให้เขาไม่มีสมาธิในการทำงาน อนมาอึมจึงขอร้องให้เขาเร่งปั่นงานให้เสร็จทันเดดไลน์ ส่วนเธอจะเป็นคนออกไปหาและพาตัวแฟนของเขากลับมาให้เอง ตอนแรกนักเขียนนาทำท่างอแงจะขอพักหนึ่งอาทิตย์ แต่ก็ยอมตกลงเมื่ออนมาอึมแสดงท่าทางจริงจัง ว่าเธอจะทำทุกอย่างเพื่อพาแฟนของเขากลับมาให้ได้

อนมาอึมกลับมาที่บ้าน แล้วให้น้องสาวสืบจากไอจีของแฟนนักเขียนนา จนพบเบาะแสว่าเธอทานอาหารอยู่ที่ร้านอาหารทะเลแห่งหนึ่ง เธอจึงรีบควบมอเตอร์ไซค์คันจิ๋วสีพาสเทลออกไปทันที

สุดท้าย นักเขียนนาก็ปั่นงานจนเสร็จทันเดดไลน์ ส่วนอนมาอึมก็พาตัวแฟนนักเขียนนากลับมาตามที่ให้สัญญาเอาไว้

อย่างไรก็ตาม แม้ผลงานจะทันเดดไลน์ แต่คอมเมนต์ของผู้อ่าน ‘เจ้าหญิงจิ้งจอกเก้าหาง’ ก็เป็นไปในทางลบ แถมยอดวิวยังลดลงต่อเนื่องหลายสัปดาห์ เหตุผลก็เพราะนักเขียนนาเลือกที่จะเดินเรื่องย้อนหลัง และให้ตัวละครพูดกับตัวเองติดต่อกันหลายสัปดาห์ ทำให้ผู้อ่านเบื่อที่ต้องติดตามเรื่องที่วนไปวนมาไม่มีพัฒนาการไปข้างหน้า

ผู้ช่วยบรรณาธิการซอกจีฮยองเรียกอนมาอึมมาต่อว่าเสียงดังลั่น ที่ปล่อยให้นักเขียนนาเขียนในสิ่งที่ตัวเองอยากเขียน ซอกจีฮยองอธิบายว่านักเขียนนาเป็นนักเขียนหลักของนีออนเว็บตูน ถ้าเรื่องไม่ถูกใจผู้อ่านก็จะส่งผลต่อยอดวิว และยอดวิวของผู้อ่านนี่แหละเป็นที่มาของเงินเดือนทุกคนในออฟฟิศ ดังนั้น พีดีจึงมีหน้าที่ทำให้นักเขียนเขียนในสิ่งที่ผู้อ่านอยากอ่าน ไม่ใช่เขียนในสิ่งที่ผู้เขียนอยากเขียน

อนมาอึมนั่งก้มหน้าคิดทบทวนที่ม้านั่งสวนสาธารณะ สิ่งที่เธอคิดมาตลอดว่าพีดีเปรียบเสมือนเป็นกองเชียร์ของนักวิ่งมาราธอน ที่ทำหน้าที่เพียงแค่เชียร์เท่านั้น มันเป็นความคิดที่ผิด เพราะแท้จริงแล้ว พีดีจะต้องลงไปวิ่งคู่กับนักเขียน เพื่อที่จะก้าวไปสู่เส้นชัยด้วยกัน

เมื่อคิดได้เช่นนั้น อนมาอึมจึงไปหานักเขียนนาที่สตูดิโอทันทีเพื่อขอร้องให้เขาแก้ไขเรื่องให้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่เขียนเรื่องวนอยู่ในอ่างอย่างที่ทำอยู่ซ้ำ ๆ มาหลายอาทิตย์

Photos: ภาพหน้าจอจาก SBS Korea