Skip to content
รีแคปซีรีส์ The Law Cafe EP.2 : วิธีรักคนคนเดียวให้ได้สิบเจ็ดปี

รีแคปซีรีส์ The Law Cafe EP.2 : วิธีรักคนคนเดียวให้ได้สิบเจ็ดปี

The Law Cafe EP.2 : ยูริตัดสินใจยอมรับกฎทุกข้อที่จองโฮกำหนดไว้ในสัญญาเช่า แต่ถึงพวกเขาจะมีข้อตกลงกัน จองโฮก็เข้าไปยุ่งเรื่องของยูริแทบจะทุกเรื่อง ระหว่างนั้นยูริได้พบลูกความคนแรกที่ต้องการคำปรึกษาเรื่องเสียงดังรบกวนจากห้องด้านบน …

จองโฮหันมาพูดกับกล้อง ขณะที่เขานั่งชิลอยู่บนดาดฟ้าในวันที่ท้องฟ้าโปร่งและอากาศกำลังดี เขาเล่าให้เราฟังว่าเริ่มตกหลุมรักยูริตั้งแต่เมื่อไร …

ย้อนกลับไปเมื่อฤดุใบไม้ผลิ ปี 2006 หรือกว่า 17 ปีที่แล้ว ในตอนนั้นจองโฮย้ายโรงเรียนและยูริก็อยู่ห้องเดียวกับเขา จองโฮเป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก เก่งแบบโคตรเก่ง ทำให้ยูริมักจะถามปัญหาที่ไม่เข้าใจในเรื่องจากการเรียนกับเขาเสมอ ๆ ทำให้ทั้งสองเริ่มสนิทกัน และก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เขาแอบชอบเธอ …

“ผมแอบรักคนคนหนึ่งมา 17 ปีได้ยังไงน่ะเหรอครับ ก็แค่ไม่ต้องเจอเธอไง …” จองโฮยิ้มเล็ก ๆ ท่าทางเขินอายขณะที่พูดกับกล้อง “… ต่อให้ผมไม่เจอเธอ แต่เธอก็โผล่มาทุกที่อยู่ดี” ในห้วงความคิดของจองโฮนั้น ไม่ว่าจะตอนตื่นหรือว่าหลับฝัน เขาจะเห็นภาพยูริอยู่กับเขาเสมอ ๆ ตื่นก็ตื่นด้วยกัน แปรงฟันก็ยืนแปรงข้าง ๆ กัน แต่ …

แต่การคิดถึงแบบนั้นมันก็ทำให้จองโฮปวดใจไม่น้อย อย่างไรก็เถอะ ด้วยความที่ทั้งสองไม่เคยมีเรื่องไม่ดีให้คิดร้ายต่อกัน มันก็เลยดีและยังดำเนินต่อไปอย่างนั้น คิดถึงไปอย่างนั้น มีความสุขในจินตนาการความฝันไปแบบนั้น

ยอมรับเงื่อนไข

ยูริยอมรับเงื่อนไขในสัญญาเช่าทั้งหมด จากนั้นก็รีบจัดแจงเตรียมความพร้อมในการเปิดคาเฟ่ทันที โดยมีบาริสต้าระดับเทพอย่างซออึนกัง (รับบทโดย อันดงกู) ที่ฝึกปรือฝีมือมาจากในคุก คอยชงกาแฟเสิร์ฟลูกค้า และแบจุน (รับบทโดย คิมโดฮุน) เป็นพนักงานประจำร้าน

ทุกอย่างก็เหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ไหง จู่ ๆ จองโฮก็เดินเข้ามาที่คาเฟ่ของยูริ พร้อมกับพูดนู่นบ่นนี่สารพัด ทำอย่างกับตัวเองเป็นเจ้าของร้านซะอย่างนั้น คือเป็นห่วงแหละดูออก แต่ยูริไม่คิดอย่างนั้น เธอมองว่าเป็นเรื่องน่ารำคาญที่เจ้าของตึกจะเข้ามาวุ่นวายกับผู้เช่าขนาดนี้

ยูริเลยตวาดลั่นกรอกหูของจองโฮ “ไอ้เปรตเวรตะไลปลาไหลกลับชาติมาเกิดเอ๊ย ที่ยอมให้มาตลอดนี่ก็เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกันนะ คิดว่านี่เป็นเรื่องตลกหรือไง อย่าเยอะขอร้อง อย่าเยอะ !!!” แล้วเธอก็เอานิ้วจิ้มไปที่หน้าผาก เหมือนผู้ใหญ่กำลังสั่งสอนเด็กให้จำ หือ โดนชุดใหญ่เข้าไปจองโฮถึงกับทำหน้าเป็นปลาจวดสองนิ้วเลยทีเดียว (555)

จองโฮขึ้นมานั่งจ๋อยอยู่บนดาดฟ้า แล้วก็ได้เห็นภาพบาดตาบาดใจ เมื่อหมอพัคซึ่งเช่าเปิดคลินิกอยู่ตึกเดียวกันได้เข้ามาทักทายยูริ ซึ่งหมอพัคเองก็ดูจะชอบยูริอยู่เหมือนกัน

ลูกความรายแรก

คืนแรกของการเปิดร้าน เป็นคืนที่ฝนเทลงมาหนักมาก บรรยากาศก็ดูจะอึมครึมชวนขนหัวลุก เวลานั้นเองยูริก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ ที่มาจากห้องด้านบน ด้วยความตกใจเธอจึงรีบวิ่งขึ้นไปหาหมอพัคที่คลินิกชั้นบน แต่คำตอบที่ได้คือไม่มีใครอยู่ห้องนั้น !

โจซอกจุนเป็นคนไข้ของหมอพัคได้ยินยูริพูดเรื่องเสียงที่ดังจากด้านบน เขาจึงมาหายูริที่คาเฟ่ โดยในมือถือค้อน แถมยังใส่ฮูดกันฝนสีดำอย่างกับฆาตกรในหนังสยองขวัญไม่มีผิด เอาล่ะสิ ยูริจึงร้องกรี๊ดจนเสียงหลงเพราะเข้าใจว่าโจซอกจุนเป็นฆาตกรที่จะเข้ามาทำร้าย จองโฮเมื่อได้ยินเสียงก็รีบวิ่งมาช่วยยูริและได้เกิดการต่อสู้กันนิดหน่อย สุดท้ายแล้วก็ถึงบางอ้อว่าโจซอกจุนไม่ใช่คนร้าย แต่เป็นลูกความที่ต้องการมาปรึกษากฎหมาย ยูริจึงขอโทษเขาเป็นการใหญ่

โจซอกจุนมาปรึกษาเรื่องเสียงรบกวนจากห้องอพาร์ตเมนต์ชั้นบน เขาบรรยายว่าเสียงมันเหมือนกับมีการฆาตกรรมเกิดขึ้นบนนั้น ทำให้เขานอนไม่หลับมาสามวันแล้ว แต่เนื่องจากยูริเห็นจองโฮบาดเจ็บ เธอจึงตัดบทไปว่าคืนนี้ดึกมากแล้ว ขอให้คำปรึกษาในวันพรุ่งนี้แทน แล้วเธอก็ไปดูอาการของจองโฮ

ยูริประคองจองโฮขึ้นไปบนห้องดาดฟ้าของเขา แต่บังเอิญมือเกิดไปถูกหน้าอก จองโฮเลยโวยวายขึ้นโดยอ้างกฎหมายมาตรา 298 ว่ายูริกำลังล่วงละเมิดเขา ยูริรำคาญหนักมากจึงตวาดกลับไปเสียงดังลั่น “จะอะไรนักหนา ถ้าไม่พอใจก็มาจับคืนเลยมา !!!” ทำเอาจองโฮถึงกับนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออกกันเลยทีเดียว (555)

ในที่สุดยูริก็ประคองจองโฮขึ้นมาที่ห้อง เธอพยายามเปิดตู้เพื่อหาชุดปฐมพยาบาล แต่ก่อนที่เธอจะเปิดตู้ตู้หนึ่ง จองโฮก็รีบมาปิดตู้นั้นก่อนที่เธอจะได้เห็นเอกสารบางอย่างที่อยู่ในตู้นั้น มันเป็นเอกสารทางคดีที่เขาไม่ต้องการให้เธอรู้ … ช็อตนี้เองทำให้ทั้งสองใกล้ชิดจนเกือบจะได้จุมพิตกัน

สรุปแล้วในคืนนั้นจองโฮก็นอนหลับฝันดีเป็นพิเศษ ว่าที่จริงการที่ยูริเข้ามาในห้อเขา มันเป็นการละเมิดกฎที่ระบุเอาไว้ในสัญญาเช่า แต่จองโฮไม่สนใจหรอก เพราะเขารู้สึกได้ถึงความสุขที่มีเธอดูแลอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้

โจ๊กผักที่กระเดือกไม่ลง

จองโฮตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่น ยิ่งเขาได้พบกับยาและโจ๊กผักที่ยูริมาวางเอาไว้ให้ พร้อมข้อความที่เขียนด้วยลายมือบนกระดาษ Post-it มันยิ่งทำให้เช้านี้ของเขายิ่งสดใสมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ แต่ให้ตายเถอะ ช้อนแรกที่เขาตักโจ๊กใส่ปากก็ถึงกับสำลักออกมา เพราะรสชาติมันแย่จนกระเดือกไม่ลงจริง ๆ

“โจ๊กนี่ทำให้ไม่อร่อยจนกินไม่ลงนี่ยากนะ แต่ยัยนั่นทำได้จริง ๆ” คำสารภาพจากปากจองโฮ (555)

วันนี้หมอพัคเข้าไปหายูริที่คาเฟ่ (เพื่อจะขอตามไปบ้านโจซอกจุน) จองโฮที่เห็นก็เกิดอาการหึงขึ้นมา เขาจึงรีบเข้าไปขัดจังหวะ จนยูริถามกลับไปว่า “ทำไมถึงชอบเผือกเรื่องของฉันขนาดเน้ (เสียงสูง)”

จริง ๆ แล้วหมอพัคกับจองโฮมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกันและยังเป็นเพื่อนสนิทกันด้วย เขาจึงขอตามไปที่บ้านโจซอกจุนเพื่อฟังเสียงรบกวนที่เกิดจากห้องชั้นบนด้วย โดยอ้างว่าตอนที่เป็นอัยการ เขามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับคดีประเภทนี้เป็นอย่างมาก การที่เขาไปด้วยย่อมมีประโยชน์แน่นอน

ที่ห้องอพาร์ตเมนต์ของโจซอกจุน … ยูริเอาเครื่องวัดเสียงไปด้วย ค่าความดังที่ได้มากถึง 103 เดซิเบล ซึ่งเกินกว่าค่ามาตรฐานเสียงที่ยอมรับได้ในช่วงกลางคืนที่ 52 เดซิเบล

อย่างไรก็ตาม คำแนะนำที่ยูริให้ได้เบื้องต้นคือทำหนังสือร้องเรียนตามกฎหมายเป็นลายลักษณ์อักษร แต่โจซอกจุนก็บอกว่าเขาเคยร้องเรียนไปนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่เคยมีอะไรดีขึ้นเลย ยูริพูดอะไรไม่ออก เห็นได้ชัดว่าเธอสีหน้าไม่สู้ดี เพราะเธอรู้ดีว่าเรื่องเสียงรบกวนกฎหมายทำอะไรไม่ได้มาก แต่จองโฮมองต่างออกไป …

เมื่อกลับมาที่ตึก จองโฮได้บอกกับยูริว่า เขาเห็นห้องชั้นบนและห้องข้าง ๆ ทั้งซ้ายขวาของโจซอกจุนปิดไฟมืดเหมือนไม่มีคนอยู่ … สิ่งที่เขากำลังจะบอกก็คือ มีความเป็นไปได้ที่ตัวโจซอกจุนเองนั่นแหละที่เป็นคนทำเสียงรบกวนคนอื่น เพราะเป็นคนเดียวที่เที่ยวเดินถือค้อนไปทั่ว และถ้าเป็นอย่างที่เขาพูดจริง ๆ ก็เท่ากับว่ายูริเป็นคนส่งเสริมให้โจซอกจุนทำความผิดไปด้วย

บาดแผลในอดีต

หรือมันจะเป็นอย่างที่จองโฮคิดจริง ๆ เมื่อยูริได้ยินลูกค้าคุยกันว่าอพาร์ตเมนต์แห่งนั้นไม่มีคนอยู่ชั้น 11 เลย เพราะคนที่อยู่ชั้น 10 ส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย

ยูริรีบไปที่อพาร์ตเมนต์นั้นอีกที แต่ถามใครก็ไม่มีใครรู้ว่าเสียงที่ว่านี้ดังมาจากที่ไหน เธอจึงพยายามตามสืบหาต้นตอของเสียงปริศนานั้นให้เจอ จนได้ความว่า เสียงอาจจะเกิดจากความบางของพื้นปูนที่ใช้ในการก่อสร้าง ซึ่งเป็นการลดต้นทุนของบริษัทผู้รับเหมาในสมัยนั้น

สืบไปสืบมากลับพบว่า อพาร์ตเมนต์นี้บริษัทก่อสร้างโดฮันเป็นผู้ก่อสร้าง เจ้าของคือประธานอีซึ่งเป็นคู่กรณีกับพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วของเธอ ยูริถึงกับเข่าทรุดที่ต้องหวนกลับไปคิดถึงเรื่องราวในอดีตอีกครั้ง เธอจึงแนะนำให้โจซอกจุนฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายกับบริษัทก่อสร้างโดฮัน

ยูริเล่าเรื่องบริษัทก่อสร้างโดฮันให้จองโฮฟัง เขาจึงเตือนว่าอย่าเอาคดีพ่อ ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับงาน

ภาพแฟลชแบ็กย้อนกลับไปตอนที่เกิดเรื่องคดีพ่อของยูริ ในตอนนั้นพ่อของจองโฮเป็นอัยการรับผิดชอบคดี แต่ดูเหมือนจะมีหลักฐานบางอย่างที่ผิดไปจากความเป็นจริง จึงทำให้ยูริไม่พอใจแล้วเข้าไปต่อว่าพ่อของจองโฮอย่างรุนแรง ตัวจองโฮเองก็ไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่นานนักยูริก็เข้าใจและคิดว่าพ่อของจองโฮก็แค่ทำตามหน้าที่ เธอจึงขอให้จองโฮกลับมาเป็นเหมือนเดิม

วันเวลาผ่านไป จองโฮได้เป็นอัยการ ตอนนั้นเขาได้รู้ความจริงว่า พ่อของเขาเป็นคนสั่งให้เลิกสอบสวนบริษัทก่อสร้างโดฮัน ในคดีลอบวางเพลิงเมื่อปี 2006 เพราะความสัมพันธ์ส่วนตัว (คือแม่ของจองโฮเป็นคนในตระกูลโดฮัน) … พูดง่าย ๆ ก็คือจองโฮคิดว่าพ่อของเขาใช้ช่องทางของกฎหมายช่วยเหลือคนผิด เพราะคนนั้นเป็นญาติ

และนี่เองทำให้จองโฮหมดศรัทธากับการเป็นอัยการ เขาจึงตัดสินใจลาออกนับแต่นั้น

จองโฮในปัจจุบันนอกจากมีรายได้จากการเก็บค่าเช่า เขายังเป็นนักเขียนนิยายอีกด้วย นิยายของเขาตั้งชื่อเรื่องว่า “ผู้ลงทัณฑ์องค์กรทมิฬ” พล็อตเรื่องเกี่ยวกับบริษัทก่อสร้าง ที่ดำเนินเรื่องคล้ายกับชีวิตของประธานอีแห่งบริษัทก่อสร้างโดฮัน

ทีนี้ ประธานอีได้จ้างประธานฮง (อดีตหัวหน้ายูริที่สำนักงานกฎหมาย) ให้สืบหาตัวคนเขียนนิยายเรื่องนี้

โจซอกจุนมืดแปดด้านกับสิ่งที่ต้องเผชิญ ยิ่งคำแนะนำของยูริคือการให้ฟ้องบริษัทก่อสร้างโดฮันด้วยแล้ว เขาจึงรู้สึกว่าโอกาสยิ่งมืดมนไปกันใหญ่

ในคืนเดียวกันนั้น โจซอกจุนขึ้นไปบนดาดฟ้าอพาร์ตเมนต์ เขาคิดจะกระโดดลงไปเพื่อจบปัญหา จองโฮรู้ข่าวก็รีบไปที่นั่นและเข้าไปเกลี้ยกล่อมให้เขามีแรงฮึดสู้ เพราะถ้าการต่อสู้ครั้งนี้ชนะ บริษัทก่อสร้างโดฮันก็จะไม่สามารถไปสร้างอพาร์ตเมนต์แบบนี้ได้อีก โจซอกจุนมีท่าทีอ่อนลง และเชื่อในคำพูดของจองโฮ

ยูริตามมาที่หลัง แต่เธอได้ยินทุกอย่างที่จองโฮพูด คำพูดเหล่านั้นมันเป็นคำพูดที่เธอจำได้เป็นอย่างนี้ เพราะเธอเคยพูดกับจองโฮเมื่อเห็นเขาท้อแท้ … มันทำให้ความรู้สึกเก่ากลับมา และความรู้สึกนั้นมันก็ทำให้ยูริหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง

ดูซีรีส์เรื่องนี้ที่ : VIU Thailand
Photos : ภาพหน้าจอจาก KBS2 Korea