Skip to content
รีแคปซีรีส์ The Law Cafe EP.5 : รอยจูบอันชอบธรรม

รีแคปซีรีส์ The Law Cafe EP.5 : รอยจูบอันชอบธรรม

The Law Cafe EP.5 : ยูริพยายามอธิบายเหตุผลว่าทำไมเธอถึงจูบจองโฮ มันทำให้จองโฮรู้สึกสับสนกับการสารภาพรักอันง่ายดายของเธอ แต่ก็รู้สึกขมในใจ เพราะคิดว่าความรู้สึกของเธออาจจะไม่ลึกซึ้งเท่าที่เขามีให้กับเธอ …

หลังจากโดนยูริจูบและสารภาพว่าชอบเขา จู่ ๆ จองโฮก็เกิดกล้ามเนื้อเป็นตะคริวที่บริเวณต้นคออย่างกะทันหัน จึงต้องไปนอนให้แพทย์แผนตะวันออกฝังเข็มให้

ยูริตามไปที่คลินิกแพทย์แผนตะวันออก เพื่ออธิบายว่าทำไมเธอจึงจูบเขา ซึ่งมันเกิดจากความรู้สึกที่เธอชอบเขานั่นเอง แต่ทว่าจองโฮกลับไม่รู้สึกดีใจ ว่าที่จริงมันทำให้เขารู้สึกขมในใจซะมากกว่า เพราะอะไรน่ะเหรอ ? เพราะเขารู้สึกว่าความรู้สึกชอบที่เธอมีให้เขา มันไม่ได้ลึกซึ้งเท่ากับที่เขามีให้เธอน่ะสิ (คือแบบแอบชอบมา 17 ปี ไม่กล้าสารภาพเพราะมัวแต่คิดนู่นนี่นั่นแบบนี้เนี่ย ที่เขาคิดว่าลึกซึ้ง แต่ถ้าชอบแล้วสารภาพออกมาเลยแบบยูริเนี่ย เรียกว่าไม่ลึกซึ้ง)

ปัญหาที่แก้ได้ด้วยเงิน

ที่สำนักงานเขต … ยูริไปอาละวาดเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก ที่ปล่อยให้ซูอาและจีอาอยู่กับแม่ที่มีประวัติทำทารุณกรรม ทำให้เด็กทั้งสองต้องอยู่กับแม่ใจร้ายอย่างทุกข์ทรมานที่บ้านหลังนั้น

การไปอาละวาดที่สำนักเขตของยูริกลายเป็นข่าวใหญ่โตขึ้นมา ทำให้มีชาวเน็ตจำนวนมากตำหนิที่เธอไปอาละวาดเจ้าหน้าที่แบบนั้น ตำหนิทำนองว่า การโยนความผิดทั้งหมดไปให้เจ้าหน้าที่ตัวเล็ก ๆ คนเดียวเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ถ้าต้องการทำให้อะไร ๆ ดีขึ้น ควรจะแก้ที่ระบบมากกว่า (คือถ้าระบบดี ทุกอย่างจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนคนเดียว)

วันต่อมา เจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นที่ยูริไปอาละวาดได้มาหายูริที่คาเฟ่ เธอมาสารภาพว่าเธอได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่ตอนนั้นไม่มีศูนย์พักพิงสำหรับเด็กที่ไหนว่างเลย ทำให้ไม่กี่วันต่อมา พวกเด็ก ๆ ก็ถูกส่งกลับไปอยู่กับแม่ตามเดิม ซึ่งเธอก็รู้สึกผิดที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็ก ๆ ต้องอยู่กับแม่ใจร้ายอย่างนั้นเช่นกัน แต่ด้วยปัญหาของระบบ ตัวเธอเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน

เมื่อได้ฟังมุมมองที่ต่างออกไปจากหลาย ๆ ฝ่าย ยูริก็เริ่มเข้าใจอะไร ๆ มากขึ้น ทำให้เมื่อมีรายการโทรทัศน์ติดต่อขอให้ไปออกรายการ เธอจึงรีบตอบตกลงทันที ในรายการเธอได้กล่าวปกป้องเจ้าหน้าที่หญิงคนนั้น และเสนอวิธีแก้ปัญหาโดยการใช้เงิน นั่นก็คือเธอเสนอให้รัฐบาลเพิ่มเงินงบประมาณขยายศูนย์พักพิงให้เพียงพอ

รอยจูบอันชอบธรรม

วันถัดมาหลังจากไปออกรายการโทรทัศน์ ยูริมาที่คาเฟ่ตามปกติ แต่วันนี้ไม่ปกติเพราะมีลูกค้าเต็มร้าน หนึ่งในนั้นคือคังยองบุน ที่เข้ามาปรึกษากฎหมายกับยูริ …

คังยองบุนมีอาชีพเป็นแม่บ้าน เธอทำงานอยู่ที่บ้านหลังมานานกว่าหนึ่งปี วันหนึ่งเธอโดนเจ้าของบ้านเข้ามาลวนลาม เธอจึงป้องกันตัวโดยใช้น้ำร้อนสาด เป็นเหตุให้เธอโดนฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกายนายจ้าง ซึ่งถ้าว่ากันในทางคดีอัยการดำเนินการระงับการสั่งฟ้องไปแล้ว แต่คังยองบุนรู้สึกว่าแบบนี้มันไม่เป็นธรรมกับเธอ เพราะเธอเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไรเลย (คือ คังยองบุนรู้สึกเหมือนเธอเป็นอาชญากรที่ได้รับการระงับโทษจากอัยการ)

ยูริจึงแนะนำว่า เรื่องแบบนี้ต้องยื่นอุทธรณ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญขอเพิกถอนระงับการสั่งฟ้อง แต่ตัวคังยองบุนจะไม่ได้ค่าชดเชยอะไรเลยจากการยื่นเพิกถอนนี้

ยูริขอให้จองโฮช่วยทำคดีนี้ และขอให้เขาไปเป็นเพื่อนในวันนัดไกล่เกลี่ยกับตาลุงเจ้าของบ้าน สิ่งที่ยูริต้องการในการไกล่เกลี่ยคือให้ตาลุงนั่นถอนฟ้องในคดีอาญา และคดีแพ่งที่เรียกร้องค่าเสียหายทั้งหมด เพื่อที่จะได้จบเรื่องไปโดยไม่ต้องเสียเวลายื่นเพิกถอนที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ตาลุงนั่นดื้อแพ่ง อ้างว่าตัวเองเป็นผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บจากการกระทำของคังยองบุน แถมยังอ้างด้วยว่าที่เขาจูบเธอ ก็เป็นเพียงการแสดงความรักกันตามปกติเท่านั้น

จองโฮจึงกระเถิบเข้าไปนั่งข้าง ๆ ตาลุง และทำท่าจะเข้าจูบ ตาลุงจึงตกเก้าอี้ด้วยความตกใจ จองโฮจึงพูดขึ้นมาว่า “ต่อให้ลุงชอบคนคนนั้นแค่ไหน แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ชอบ เขาไม่เรียกว่าการแสดงความรู้สึกนะ เขาเรียกว่าอาญชากรรม (คุกคามทางเพศ)” สุดท้ายตาลุงก็ต้องยอมถอนฟ้องไปตามที่ยูริต้องการ

ระหว่างเดินกลับ จู่ ๆ ยูริก็นึกถึงคำพูดของจองโฮขึ้น คำพูดที่เขาบอกหลังจากที่เธอจูบเขาว่า “สำหรับฉัน จูบนั้นมันผิดกฎหมาย” เมื่อนึกคำพูดนี้ขึ้นมา ยูริก็ถึงกับออกอาการกังวลทันที เพราะเธอรู้สึกว่ารอยจูบที่เธอจูบเขาเมื่อวันก่อนนั้น เป็นรอยจูบอันไม่ชอบธรรม หรือที่เรียกในภาษากฎหมายว่า “การคุกคามทางเพศ” !?

ยูริกลับมาที่ตึก เจอแบจุน อึนกัง (บาริสต้า) และคุณป้าเพื่อนบ้านทั้งสองคนกำลังนั่งก๊งโซจูกันอย่างสนุกสนาน ด้วยมารยาทคุณป้าคนหนึ่งจึงยื่นโซจูให้เธอดื่ม ยูริก็รับมาอย่างเขินอาย ปากก็บอกไปว่า “ฉันดื่มไม่ค่อยได้หรอกค่ะ”

หลังจากกระดกไปทีเดียวจนหมดแก้ว โรคเมาเรื้อนก็ตามมาล่ะสิ (555) ยูริเอาร้องไห้งอแงออกมา ปากก็เอาแต่พล่าม “… มาตรา 298 ประมวลกฎหมายอาญา …” เอาแต่พูดประโยคนี้ซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น แบจุนจึงเปิดเน็ตหาข้อมูลก็พบว่า 298 เป็นมาตราที่ว่าด้วยการล่วงละเมิดทางเพศ จากนั้นไม่นาน ภาพของยูริก็ตัดไป

เช้ารุ่งขึ้น ยูริตกใจที่เห็นตัวเองใส่เสื้อซับในเพียงตัวเดียวนอนอยู่บนเตียง พยายามคิดทบทวนเหตุการณ์เมื่อคืนว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อจำสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ เธอก็พูดกับตัวเองว่า “เมาเหมือนหมาเลยล่ะ” …

ยูริเดินไปหาจองโฮบนดาดฟ้า เธอพูดด้วยสำเนียงคนเมาที่กำลังเสียการทรงตัว เป็นเหมือนคำแถลงศาลว่า “เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2022 เวลาประมาณแปดโมงเช้า ข้าพเจ้าจูบคู่กรณีสองครั้งหน้าสถานีตำรวจฮงซาน โดยที่คู่กรณีไม่ยินยอมพร้อมใจ การกระทำนี้เข้าข่ายการทำอนาจารโดยการข่มขืนใจ ตามมาตรา 298 ประมวลกฎหมายอาญา ข้าพเจ้าเสียใจอย่างสุดซึ้งกับสิ่งที่ได้ทำลงไป อย่าฟ้องฉันเลยนะ …”

ยังไม่จบแค่นั้น ยูริยังไปคว้าเอาไม้กวาดมาทำเป็นไมค์ แหกปากร้องเพลงอย่างกับกำลังขึ้นคอนเสิร์ต จนจองโฮต้องลากตัวกลับเข้ามานอน แล้วตอนนั้นเองที่ความบรรลัยมาเยือน ยูริอ้วกใส่ทุกสิ่ง !!!

เมื่อรำลึกเหตุการณ์ความบรรลัยที่ตัวเองได้ทำเมื่อคืนได้แล้ว ยูริก็รีบไปขอโทษจองโฮทันที “ที่ผ่านมาฉันเอาแต่คิดถึงแต่ตัวเอง จนทำให้นายอึดอัดมาตลอด ฉันขอโทษนายจริง ๆ นะ” จองโฮหัวเราะหึ ๆ ใส่ยูริ แล้วบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเมาเรื้อนขนาดนี้นะ

ไม่ใช่ ยูริไม่ได้ขอโทษเรื่องที่เธอเมา เธอกำลังขอโทษที่เรื่องที่เธอจูบเขาโดยที่ไม่ขอก่อน จองโฮพยายามกลั้นขำ แต่ถึงกับขำไม่ออกเมื่อยูริพูดว่า “ฉันรู้ว่านายไม่ชอบฉัน ต่อนี้ไปฉันจะไม่เอาเรื่องนี้มากวนใจนายแล้ว แต่ฉันยังตัดใจจากนายไม่ได้ จากนี้ไปฉันจะค่อย ๆ เข้าหานาย ให้โอกาสฉันอีกหน่อยนะ”

คนที่ห้ามแตะต้อง

ประธานฮวังนัดเจอกับยูริเพื่อเตือนว่าให้ระวังตัว และขอให้เธออย่าเข้าไปยุ่งกับบริษัทก่อสร้างโดฮันเลย แล้วประธานฮวังก็ให้หนังสือนิยาย “ผู้ลงทัณฑ์องค์กรทมิฬ” ให้ยูริเอาไปอ่าน

จองโฮให้คนตามสืบจนเจอตัวคนที่แอบเข้ามาทำลายข้าวของที่คาเฟ่ และฆ่าน้องหมาของเขา มันเป็นอาชญากรชั้นปลายแถวที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อแลกกับยา … คืนนั้น จองโฮไปดักเจอมัน และอัดมันจนน่วมให้สาสมกับที่มันทำน้องหมาของเขา

แล้วจองโฮก็ไปที่บ้านประธานอี ซึ่งก็คืออาแท้ ๆ ของเขา (ญาติฝ่ายแม่) จองโฮเดือดดาลใส่ประธานอี และย้ำว่าอย่ามาแตะต้องยูริ ไม่เช่นนั้นเขาจะทำลายทุกสิ่งจนสิ้นซาก

ยูริเดินมาเจอจองโฮนั่งอยู่หน้าตึกใบหน้ายับเยินก็ตกใจ เธอลืมตัวเดินไปสัมผัสเขาด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อเธอพยายามจะถอยออก จองโฮก็เอื้อมมือจับเธอเมาไว้ให้มาสัมผัสที่ใบหน้าที่บอบช้ำของเขา จากนั้น เขาก็เอ่ยปากออกไปด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา …

“ผมรู้ว่าผมไม่ควรทำแบบนี้ แต่วันนี้ผมเหนื่อยมากเลย ขอกอดหน่อยได้ไหม แค่แป๊บเดียว”

Source : KBS2 Korea