Skip to content
รีแคปซีรีส์ Little Women EP.8 : เด็กน้อยที่ทำของเล่นหาย

รีแคปซีรีส์ Little Women EP.8 : เด็กน้อยที่ทำของเล่นหาย

Little Women EP.8 : อินจูเดินทางไปสิงคโปร์ ที่นั่นเธอได้รับการต้อนรับอย่างที่คาดไม่ถึง จนนำไปสู่คำถามมากมายที่ตามมา ส่วนพัคฮโยรินร่วมมือกับอินฮเยเพื่อช่วยแม่ของเธอหนีออกมาจากบ้านหลังนั้น …

ผู้จัดการชเวโดอิลชวนอินจูไปสิงคโปร์ เพื่อเช็กว่าเพื่อนรุ่นพี่ยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ หรือไม่ อินจูตอบตกลงทันที

ที่โรงแรมฟูลเลอร์ตัน สิงคโปร์ … อินจูตื่นเต้นมากที่ได้เห็นโรงแรมที่เธอกำลังจะเข้าพักในคืนนี้ เธอเดินเข้าไปเช็กอินเหมือนลูกค้าปกติของโรงแรม แต่เมื่อพนักงานต้อนรับรู้ชื่อของเธอก็ทำท่าลนลานรีบไปตามผู้จัดการมาทันที เพราะสำหรับที่นี่ อินจูคือลูกค้าระดับ MIP หรือลูกค้าคนสำคัญที่สุดในโลก !

ในคืนนั้น อินจูนอนหลับไปด้วยรอยยิ้มพร้อมกับคำว่า “คนสำคัญที่สุดในโลก”

จริง ๆ แล้วอินจูเป็นคนไม่รู้ภาษาอังกฤษ การสื่อสารของเธอทุกประโยคต้องผ่าน Google Translate แม้มันจะติด ๆ ขัด ๆ บ้างแต่มันก็ทำให้สามารถสื่อสารกันได้ วันนี้เธอกับผู้จัดการชเวโดอิลจะไปตามสืบเรื่องเพื่อนรุ่นพี่ และเข้าไปทำการประมูลกล้วยไม้ที่งานของสมาคมกล้วยไม้นานาชาติ ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่จะมีคนเข้ามาทักเธอตลอดเวลาเหมือนคนรู้จัก เธอถูกทำให้เชื่อว่ามีคนที่หน้าตาเหมือนเธอที่ใช้ชื่ออินจูอาศัยอยู่ที่สิงคโปร์ และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็เท่ากับว่าเพื่อนรุ่นยังไม่ตาย !?

เพื่อนรุ่นพี่ยังไม่ตายจริง ๆ เหรอ ?

อินจูเชื่อว่าเพื่อนรุ่นพี่ยังไม่ตาย และมาอยู่ที่สิงคโปร์โดยใช้ชื่ออินจู แถมยังไปผ่าตัดศัลยกรรมยกหน้าใหม่ให้เหมือนกับเธอเป๊ะ ส่วนผู้จัดการชเวโดอิลไม่เห็นด้วย เขาบอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะมีคนทำศัลยกรรมให้หน้าเหมือนอีกคนได้เป๊ะ ๆ เหมือนกับฝาแฝดคลอดตามกันมา อินจูไม่รู้ แต่เธอเชื่ออย่างนั้นไปแล้ว เธอเชื่อไปหมดใจแล้วว่าเพื่อนรุ่นพี่ยังมีชีวิตอยู่

ผู้จัดการชเวโดอิลบอกให้อินจูทำตามแผน นั่นคือการถอนเงิน 7 หมื่นล้านจาก 7 ธนาคารให้ได้เร็วที่สุด ก่อนที่จะมีคนสังเกตเห็นความผิดปกติ เร็วที่สุดของเขาคือทำให้เสร็จภายใน 2 ชั่วโมง จากนั้นก็จะเดินทางไปยังมาเลเซีย

ทุกอย่างเป็นไปตามแผน การถอนเงินเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ ผ่านไป 6 ธนาคารทุกอย่างยังคงดำเนินไปได้ด้วยดี แต่เมื่อถึงธนาคารสุดท้าย มีหญิงชราคนหนึ่งแกล้งเดินมาชนกับอินจู จากนั้นก็ยื่นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ที่มีข้อความเขียนด้วยลายมือให้กับเธอ ในจดหมายเริ่มต้นด้วยคำที่เพื่อนรุ่นพี่ชอบใช้ … มันเป็นจดหมายจากเพื่อนรุ่นพี่จริง ๆ เหรอ ?

ข้อความในจดหมายระบุว่า “ฉันไม่นึกเลยว่าเธอจะมาถึงจุดนี้ อินจู แต่ผู้ชายที่ชื่อชเวโดอิลเป็นคนอันตรายมาก เธอต้องหนีออกมาให้ได้นะ เดี๋ยวนี้เลย …” ต่อจากนั้น ก็เป็นข้อความที่เขียนแผนการหนีเอาไว้ให้อินจูทำตาม โดยให้หนีออกมาทางประตูข้างธนาคารพร้อมกับเงินสดที่ใส่อยู่เต็มกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ ที่นั่นจะมีรถจอดรออยู่ คนขับจะพาเธอมาที่อพาร์ตเมนต์ เธอสามารถเข้ามาได้เลย ประตูทุกบานสามารถใช้ลายนิ้วมือของเธอสแกนเข้าไปได้เลย

แต่มันไม่เป็นตามแผนที่ระบุเอาไว้ ระหว่างทางอินจูถูกรถไล่ตาม ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถพ่วงขนาดใหญ่พุ่งเข้าชนกลางลำ อินจูนอนสลบไม่ได้สติอยู่บนรถคันนั้น ไม่นานนักเธอถูกนำตัวมาที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

ที่นั่น เธอนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงผู้ป่วยฉุกเฉิน เธอนอนนิ่งไม่ได้สติอยู่อย่างนั้น ที่ข้างเตียงมีกระเป๋าเดินทางวางอยู่ ระหว่างนั้น ภาพหลอนหรือวิญญาณของเพื่อนรุ่นพี่ก็มาปลุกอินจู มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ไม่มีใครรู้ว่ามันคือภาพหลอนหรือวิญญาณเพื่อนรุ่นพี่มาปลุกอินจูให้เธอรีบหนีไป แม้แต่อินจูก็ไม่รู้ … อินจูอิดออดในตอนแรกแต่สุดท้ายก็ฝืนตัวเองลุกขึ้นมา จุดหมายคืออพาร์ตเมนต์ที่เพื่อนรุ่นพี่ระบุให้เป็นจุดนัดพบ อินจูค่อย ๆ เดินลากกระเป๋าไปที่นั่น ระหว่างทางเธอก็ตั้งคำถามขึ้นมาตลอดว่า ทำไมต้องเป็นเธอด้วย ? ทำไมต้องเป็นเธอที่ได้เงินจำนวนมากมายมหาศาลขนาดนี้ ? ชีวิตที่มีเงินมหาศาลต่อจากนี้จะเป็นยังไงนะ ?

อินจูมาถึงอพาร์ตเมนต์ เธอสแกนลายนิ้วมือเข้าไปอย่างง่ายดาย เมื่อเข้ามาภายในห้อง สิ่งแรกที่เธอทำคือรีบวิ่งเข้าไปดื่มน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะ หรือมันจะเวลคัมดริงก์ เวลคัมดริงก์น้ำสีน้ำเงินชวนน่าดื่ม อินจูดื่มมันไปรวดเดียวแทบไม่หยุดหายใจ อาจเป็นเพราะความกระหายจากความเหนื่อยล้าที่เธอต้องเผชิญมาทั้งวัน

อินจูนั่งรออยู่ที่เก้าอี้ที่เข้าชุดกับโต๊ะตัวนั้น ที่มีน้ำสีน้ำเงินเหลืออยู่เกือบครึ่งแก้ว เธอนั่งรอเพื่อนรุ่นพี่อยู่บนเก้าอี้ตัวนั้น ในมือของเธอก็พับกระดาษเป็นรูปจรวดเพื่อฆ่าเวลา แต่หน้าตาของเธอตอนนี้ดูอ่อนล้าเหลือเกิน ดูเพลียเหลือเกิน ทันใดนั้น ประตูอพาร์ตเมนต์ก็ถูกเปิดขึ้น … เพื่อนรุ่นพี่มาแล้ว ?

ผู้กำกับการแสดง

ระหว่างนั้น อินฮเยได้พูดกับพัคแจซัง เธอสารภาพตามตรงว่าเธอสามารถทรยศคนที่เธอรักที่สุดในโลกได้ เพราะความรักของทั้งแม่และพี่ ๆ มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนจะตาย ซึ่งพัคฮโยรินก็เป็นแบบเดียวกับที่เธอเป็น “ขอร้องเถอะค่ะ อย่ามายุ่งเรื่องของพวกเราเลย เพราะเราก็ไม่สนใจเรื่องของผู้ใหญ่เหมือนกัน”

มันเป็นอย่างที่อินฮเยพูดจริง ๆ ผู้ใหญ่ควรเลิกเอาเรื่องของผู้ใหญ่มาใส่หัวเด็กได้แล้ว เพราะสิ่งที่ผู้ใหญ่เรียกว่าการแก้ปัญหา แท้จริงแล้ว มันคือการสร้างปัญหาใหม่เพื่อมากลบปัญหาเก่า เป็นเพียงแต่ว่าปัญหานั้นจะมีใครมองเห็น หรือจะเกิดขึ้นเมื่อไรเท่านั้นเอง มันเป็นอย่างนั้นมาตลอด และก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไป

หลังกลับจากโรงเรียน อินฮเยแอบเข้าไปเปิดคอมพิวเตอร์ในห้องทำงานพัคแจซัง เธอเชื่อว่าเขาแอบติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ในห้องของแม่พัคฮโยริน มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ … อินฮเยไล่ดูไฟล์บันทึกภาพไปถึงวันที่ 17 เดือนที่แล้ว วันที่เพื่อนรุ่นพี่ตาย แล้วอินฮเยก็ถึงกับตกตะลึงกับภาพที่เห็น

อินฮเยเอาไฟล์นั้นมาให้พัคฮโยรินดู … คลิปแสดงให้เห็นว่า ในคืนวันนั้นแม่พัคฮโยรินใส่เสื้อเฟอร์ออกไปจากบ้าน แต่กลับมาโดยไม่มีเสื้อเฟอร์ตัวนั้น แต่เสื้อเฟอร์ตัวนั้นกลับไปอยู่ที่ศพของเพื่อนรุ่นพี่ แต่นั่นมันยังไม่น่าตกใจเท่ากับสิ่งที่พวกเธอได้เห็นมาก่อนหน้านี้ โรงละครโรงเล็กที่แม่ของเธอทำขึ้นตอนเรียนการแสดงอยู่ที่นิวยอร์กเมื่อหลายสิบปีก่อน มันตรงกับฉากฆาตกรรมเพื่อนรุ่นพี่ทุกประการ ศพที่สวมเสื้อเฟอร์รองเท้าส้นสูงสีแดงแขวนคอตายอยู่ในตู้เสื้อผ้า ที่ห้อยเท้าลงมาให้เห็นแค่ขาเบื้องล่าง

ฉากในละครโรงเล็กกลายมาเป็นฉากฆาตกรรมในชีวิตจริง ! แม่พัคฮโยรินคือผู้กำกับการแสดงทางฉากที่เกิดขึ้นอย่างนั้นเหรอ ?

ตัดภาพกลับมาที่สิงคโปร์ … อินจูกำลังตื่นเต้นกับคนที่เปิดประตูอพาร์ตเมนต์เข้ามา เธอดีใจเพราะเธอเชื่อว่าเพื่อนรุ่นพี่ยังไม่ตาย แต่หญิงสาวที่เปิดประตูเข้ามากลับเป็นหญิงสาวที่ยืนยิ้มแฉ่งเหมือนคนโรคจิต แม่พัคฮโยริน !

อินจูช็อก หลังจากแม่พัคฮโยรินได้เผยความจริงออกมาทั้งหมด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เธอเซตเอาไว้ทั้งหมด “รู้อะไรมั้ย มันเป็นความผิดของเธอทั้งหมดที่เกิดมาจน คนจนที่พยายามกระเสือกกระสนพาตัวเองมาถึงจุดนี้”

รอยยิ้มบนใบหน้าของแม่พัคฮโยรินไม่เหมือนกับรอยยิ้มของคนอายุใกล้เข้าเลข 50 เลยแม้แต่นิดเดียว ดูเหมือนรอยยิ้มของเด็กน้อยที่เวลาเล่นเกมชนะ แต่เมื่อรอยยิ้มนั้นมันมาอยู่บนใบหน้าของคนที่อายุขนาดนี้ มันทำให้รู้สึกได้ว่าเป็นรอยยิ้มของคนโรคจิต “ฉันแค่เล่นเป็นผู้กำกับฯ ที่ทำให้โลกน่าเบื่อนี้น่าอยู่ขึ้น”

แม่พัคฮโยรินบอกด้วยว่าทุกอย่างตั้งแต่อินจูเริ่มเข้าทำงานล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ถูกจัดฉากขึ้น การสั่งให้คนในแผนกทำให้อินจูกลายเป็นหมาหัวเน่า แล้วก็เฝ้าดูผ่านหน้าจอด้วยความสนุกสนาน แล้วเพื่อนรุ่นพี่ล่ะ ? เพื่อนรุ่นพี่ก็เป็นหนึ่งในนักแสดงที่แม่พัคฮโยรินกำหนดบทบาทเอาไว้เช่นกัน บทบาทที่คำคัญ บทบาทที่ต้องเป็นเพื่อนสนิทของหมาหัวเน่าในบริษัทอย่างอินจู

อินจูท่าทางอู้อี้เหมือนกำลังจะหลับ นั่นเป็นเพราะน้ำที่เธอดื่มไปเป็นน้ำจากกล้วยไม้ผีสีน้ำเงิน อินจูพยายามอ้าปากเอ่ยขออะไรบางอย่างเป็นครั้งสุดท้าย “ฉันขอดูเงิน 7 หมื่นล้านสักครั้งได้มั้ยว่าหน้าตามันเป็นยังไง ?” แม่พัคฮโยรินตอบตกลงด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนเธอจะเกิดไปเปิดกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ขึ้นมา แต่สิ่งที่อยู่ในกระเป๋าไม่ใช่เงิน มันคือก้อนอิฐ !

ตอนนี้เงิน 7 หมื่นล้านที่ควรจะอยู่ในกระเป๋าใบนี้กลับกลายเป็นก้อนอิฐไปเสียแล้ว

ปืนรีวอลเวอร์ขนาดลำกล้อง 2 นิ้วอยู่ในมือของอินจู ปลายปากกระบอกปืนเล็งมาที่แม่พัคฮโยริน ปืนที่ผู้จัดการชเวโดอิลให้เธอพกติดตัวไว้ ตอนนี้มันได้ใช้แล้ว ท่าทางที่อ่อนแรงของอินจูไม่ใช่อุปสรรคที่เธอจะใช้นิ้วโป้งออกแรงง้างนก นกถูกง้างแล้ว นิ้วชี้อยู่ที่โกร่งไกแล้ว กระสุนอยู่ในรังเพลิงแล้ว เหลือเพียงแค่อินจูออกแรงกระดิกนิ้วชี้เพียงเล็กน้อย ผู้กำกับการแสดงละครโรงนี้ก็จะตายดับดิ้นไป แต่เธอยังไม่เหนี่ยวไก เหมือนเธออยากชื่นชมใบหน้าตอนนี้ของแม่พัคฮโยรินให้เต็มที่ อินจูยิ้มเยาะ มันเป็นรอยยิ้มของผู้ชนะอย่างแท้จริง เวลาเดียวกันนั้นเธอก็ค่อย ๆ อ้าปากเอ่ยคำพูดออกมาทีละคำ …

“ฉัน … ชอบสีหน้านี้ที่สุดเลย อย่างกับเด็กน้อย … ที่ทำของเล่นหาย” !!!

ซีรีส์ Little Women สามพี่น้อง EP.8 : ดูได้ที่ Netflix
Photos : ภาพหน้าจอจาก tvN Korea