Skip to content
รีแคปซีรีส์ The Law Cafe EP.9 : คำโกหกอายุสิบเจ็ดปี

รีแคปซีรีส์ The Law Cafe EP.9 : คำโกหกอายุสิบเจ็ดปี

The Law Cafe EP.9 : เนติบัณฑิตยสภาเรียกตัวยูริไปพบจากเหตุละเมิด พ.ร.บ.ทนายความ จองโฮก็เข้าไปช่วยเธอ ขณะเดียวกัน เหล่าพี่สาวจากแฮปปี้มาร์ตก็มาขอความช่วยเหลือจากยูริเรื่องคดีต้มตุ๋น …

เช้าวันนั้น ยูริเดินทางไปที่เนติบัณฑิตสภาแห่งเกาหลี เพื่อเข้าพบคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เนื่องจากเหตุละเมิด พ.ร.บ.ทนายความ ยูริพยายามโต้เถียงว่าเธอไม่ได้ให้คำปรึกษาทางกฎหมายโดยที่ไม่รู้กฎหมาย แถมการให้คำปรึกษาของเธอยังไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยซ้ำ แต่คณะกรรมการก็ยกกฎหมายขึ้นมาอ้างว่า คนที่ไม่ใช่ทนายความไม่มีสิทธิ์ให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายได้ และการเข้าไปขอรับคำปรึกษาที่คาเฟ่ก็ต้องมีการสั่งกาแฟดื่ม ซึ่งในทางกฎหมายก็ถือว่าเป็นการเสียค่าใช้จ่ายเช่นกัน เมื่อโดนไม้นี้ ยูริก็โวยวายขึ้นมาว่า “ทำไมไม่คิดบ้างล่ะว่ากฎหมายต่างหากที่ผิด …” ข้ออ้างของเธอทำเอาคณะกรรมต่างพากันส่ายหัว จังหวะนั้นเองจองโฮก็ปรากฏตัวขึ้น

จองโฮอ้างว่าเขาเองที่เป็นคนทำผิด พ.ร.บ.ทนายความ ที่ให้คำปรึกษากฎหมายที่ลอว์คาเฟ่ทั้งที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนทนายความ ไม่น่าเชื่อว่าจองโฮพูดไม่กี่ประโยค เหล่าคณะกรรมการก็ตัดบท โดยสรุปคือให้มีการตักเตือนยูริ แล้วก็ปิดประชุมไปทันที …​ แหม่ การมีพ่อเป็นอัยการสูงสุดมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

อย่างไรก็ตาม ยูริก็ยังคงเย็นชากับจองโฮ เธอมองว่าสิ่งที่จองโฮทำไม่ต่างอะไรไปจากนักต้มตุ๋น นักต้มตุ๋นที่หลอกลวงเธอมาอย่างยาวนาน เธอเรียกมันว่า “คำโกหกอายุสิบเจ็ดปี” ส่วนจองโฮก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับ “ฉันคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่างแต่มันไม่ใช่เลย ฉันขอโทษนะที่หลอกเธอมาตั้งหลายปี”

แชร์คริปโต

คุณนายชเวและคุณนายคิมเพื่อนบ้านสายฮาของลอว์คาเฟ่ ทั้งสองมีเรื่องสำคัญมาปรึกษายูริ โดยไม่ต้องการให้เรื่องนี้เข้าถึงหูจองโฮกับหมอพัค เพราะทั้งสองเอาเงินของตึกไปลงทุนซื้อเหรียญคริปโตตามคำชักชวนของเจ้าของร้านเสริมสวย ทั้งสองอ้างว่าตอนแรก ๆ พวกเธอก็ไม่ได้สนใจจะลงทุนอะไรพวกนี้หรอก เพราะเห็นว่ามันเป็นเงินที่เสกกันขึ้นมาเอง แต่เมื่อโดนกรอกหูทุกวัน ๆ ก็เลยอยากจะลองตามเทรนด์ที่วัยรุ่นสมัยนี้เขานิยมเล่นกัน

ยูริไปที่ร้านเสริมสวยร้านนั้น ซึ่งเจ๊เจ้าของร้านเสริมสวยก็อ้างว่ามีอาจารย์ (ร่างทรง) คนหนึ่งเป็นคนสอนการลงทุน แถมยังเป็นหมอดูที่ทำนายโชคชะตาได้แม่นยำอีกด้วย โดยปกติแล้วยูริไม่ใช่คนเชื่อเรื่องหมอดูหมอเดา แต่อาจารย์ร่างทรงคนนี้ทำนายทายทักเรื่องของเธอได้ถูกต้องแม่นยำอย่างกับตาเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพูดถึงเรื่องที่เธอเสียน้ำตาให้กับจองโฮ มันทำให้ยูริเริ่มเชื่ออาจารย์ร่างทรงคนนี้ … ต่อมา ยูริไปหาอาจารย์ร่างทรงอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เขาได้แนะนำให้เธอทำพิธีไล่ผี

ผ่านไปไม่นาน เจ๊เจ้าของร้านเสริมสวยก็มาหายูริที่ลอว์คาเฟ่ มาถึงก็ออกอาการเข่าทรุดร้องห่มร้องไห้ออกมาเป็นการให้ เธอบอกกับยูริว่าเหรียญคริปโตที่ลงทุนเอาไว้โดนถอดออกจากตลาด เท่ากับตอนนี้เหรียญคริปโตพวกนั้นก็กลายเป็นโค้ดที่ไร้ค่าทันที

ยูริพาผู้เสียหายทุกคนไปแจ้งความที่โรงพัก แหม่ แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่น่าเป็นเหยื่อได้เลยก็คือหมอพัค ! หมอพัคยิ้มอาย ๆ ที่ตัวเองเป็นจิตแพทย์แท้ ๆ แต่กลับอ่านคนไม่ออก โดนหลอกซะอย่างนั้น แต่ …

แต่คนที่น่าตกใจยิ่งกว่าหมอพัคคือตัวยูริเอง ยูริเองก็ตกเป็นเหยื่อที่สูญเงินไป 3 ล้านวอนเป็นค่าครูในการทำพิธีไล่ผี !

เมื่อยูริเองก็ยังเผลอใจตกเป็นเหยื่ออาจารย์ร่างทรงเข้าซะงั้น จองโฮจึงต้องเข้ามาจัดการเรื่องนี้ เขาให้ลูกน้องไปสืบประวัติอาจารย์ร่างทรงคนนั้นมา แล้วก็พบว่าเป็นนักต้มตุ๋นที่มีประวัติก่อคดีมาอย่างโชกโชนหลายสิบคดี ยูริจึงอยากได้ข้อมูลคดีเพิ่มเติม จองโฮจึงพาเธอไปที่สำนักพิมพ์ของเขา ตรงจุดนี้เองที่ทำให้เธอรู้ว่าเขาเป็นคนเขียนนิยายเรื่อง “ผู้ลงทัณฑ์องค์กรทมิฬ” การได้รู้ว่าเขาเป็นคนเขียนนิยายเรื่องนี้ ทำให้เธอรู้ความจริงอีกด้วยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจองโฮต่อสู้กับพ่อ และพยายามหาหลักฐานที่นำมาใช้ในเปิดโปงพฤติกรรมของพ่อในคดีไฟไหม้โดฮันกรุ๊ป

เมื่อจองโฮมีข้อมูลของอาจารย์ร่างทรงหรือ “นักต้มตุ๋นมารู” มากพอแล้ว และรู้ว่าเขาชอบไปเล่นการพนันในบ่อน จองโฮจึงวางแผนปลอมตัวเป็นเซียนพนันเข้าไปเล่นกับนักต้มตุ๋นมารู ร่วมด้วยเหยื่อที่โดนหลอก โดยวางแผนโกงไพ่เพื่อเอาเงินมาคืนเหยื่อที่ถูกโกงไป เรียกว่างานนี้เป็นความร่วมมือกันของคนหลายสิบชีวิต และสุดท้ายตำรวจหญิงฮันเซยอนคนดีคนเดิม ก็เข้ามาจับกุมตัวนักต้มตุ๋นมารูเข้าซังเตไปตามระเบียบโดยละม่อม แถมยังสามารถติดตามเส้นทางการเงินจนสามารถเอาเงินทั้งหมดมาคืนให้กับเหยื่อที่โดนโกงเงินไปได้อีกด้วย

ต่อมา จองโฮได้รู้ความจริงว่า หลักฐานที่ใช้เปิดโปงพ่อจนต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งอัยการสูงสุด ที่จริงแล้วตัวพ่อเองนั่นแหละที่เป็นคนเอาหลักฐานนั้นให้กับเพื่อนอัยการของจองโฮ เรื่องทั้งหมดนี้มันทำให้จองโฮรู้สึกว่าตัวเองโดนพ่อหลอกใช้ เพราะต้องการปลดปล่อยความรู้สึกผิดที่เก็บมานาน

ณ จุดนี้เอง ทำให้จองโฮเข้าใจความรู้สึกของการโดนคนที่ไว้ใจหักหลังว่ามันรู้สึกแย่แค่ไหน

ในคืนนั้น ยูริโทร. หาจองโฮขณะที่กำลังเดินข้ามถนน แต่ก็ให้บังเอิญว่าจองโฮก็อยู่อีกฟากของถนนเช่นกัน ทั้งสองยืนอยู่กันคนละฟากถนนโดยที่ทางม้าลายคั่นกลาง “ขอโทษนะ ขอโทษนะยูริ …” จองโฮน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ในขณะที่ปากก็พร่ำบอกขอโทษไม่หยุดเช่นกัน “… ฉันนึกว่าฉันรู้ทุกอย่าง ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ ฉันไม่รู้อะไรเลย ขอโทษจริง ๆ นะที่หลอกเธอมาตั้งหลายปี ขอโทษนะ”

ยูริได้ยินคำขอโทษผ่านโทรศัพท์ ส่วนสายตาก็มองไปที่จองโฮที่ยืนอยู่อีกฟากถนน ยูริตัดสินใจวางโทรศัพท์และข้ามทางม้าลายเพื่อไปหาเขา จองโฮเองก็ทำเช่นเดียวกัน ทั้งสองจึงมายืนมองหน้ากันที่บริเวณทางม้าลายกลางสี่แยกไฟแดง ทันใดนั้นเอง รถเก๋งที่เร่งเครื่องมาด้วยความเร็วที่พุ่งเข้าหาคนทั้งสอง !

Photos : ภาพหน้าจอจาก KBS2 Korea