Mr. Harrigan’s Phone สปอยล์ : มิตรภาพระหว่างเด็กชายกับมหาเศรษฐีวัยชรา ที่เกิดจากหนังสือและไอโฟน แต่เมื่อชายชราจากไป สายสัมพันธ์ของทั้งสองกลับยังคงอยู่ ไม่ได้ตัดขาดจากกันไปไหน …
แนว : สยองขวัญ
เรต : 13+
IMDb เรตติ้ง : 6/10
คะแนนรีวิว : 7/10
เรื่องเริ่มต้นด้วยเสียงบรรยายของเด็กหนุ่มวัยมหาวิทยาลัยคนหนึ่งชื่อ เคร็ก (รับบทโดย เจเดน มาร์เทลล์) ที่ยกเอาท่อนหนึ่งของหนังสือที่เขียนขึ้นโดย ออสการ์ ไวลด์ (นักเขียนและกวีคนสำคัญชาวไอริช) ขึ้นมา “เมื่อพระเจ้าอยากลงโทษเรา พระองค์จะทรงตอบรับคำอธิษฐานของเรา” จากนั้นเคร็กก็กล่าวว่า “เราไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนั้น แต่บางทีเราควรจะอ่านมัน”
หนังสือ
ณ เมืองฮาร์โลว์ เมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งในรัฐเมน …
เคร็ก ในวัยประถมไปโบสถ์กับพ่อในวันอาทิตย์ตามปกติ จังหวะที่ทุกคนกำลังร่วมร้องเพลง ชายชราผมขาวสวมสูทดูภูมิฐานคนหนึ่งเดินเข้ามา ทุกคนหันไปมองด้วยความสนใจ เพราะเขาคือ คุณฮาร์ริแกน (รับบทโดย โดนัลด์ ซัทเธอร์แลนด์) คนที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐเมน
หลังเสร็จพิธีในโบสถ์ คุณฮาร์ริแกนก็มาคุยกับพ่อของเคร็ก เพื่อขอจ้างเคร็กไปอ่านหนังสือให้เขาฟังเนื่องจากเขาเริ่มสายตาไม่ดี แต่ที่เคร็กไม่เข้าใจก็คือทำไมคุณแฮร์ริแกนถึงเลือกเขา ในเมืองมีเด็กที่โตกว่าและคนที่อ่านหนังสือเก่งกว่าเขามากมาย
เคร็กไปที่คฤหาสน์หลังโตของคุณฮาร์ริแกนเพื่ออ่านหนังสือสัปดาห์ละสามวัน มันเหมือนเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เขาปลดปล่อยจิตใจออกจากความหงอยเหงาไปได้ จิตใจที่คิดถึงแม่ที่จากไป
วันนั้น ด้วยความสงสัยแบบเด็ก ๆ เคร็กทำท่าจะเปิดตู้ที่อยู่ในห้องอ่านหนังสือ เขาอยากรู้ว่าข้างในนั้นมันมีอะไรอยู่ แต่ก็โดนเสียงของคุณฮาร์ริแกนขัดขึ้นก่อนที่เขาจะเปิดมัน “จะทำอะไรน่ะ มันไม่ใช่เรื่องของเธอนะ ถ้ามีคำถามก็ถามมาได้ ฉันจะตอบให้” เคร็กจึงถามออกไปว่ามีอะไรอยู่ในนั้น ซึ่งคุณฮาร์ริแกนก็ตอบกลับในทันทีว่า “ความลับ ความลับแย่ ๆ” … และในวันเดียวกัน คุณฮาร์ริแกนได้อธิบายถึงสิ่งที่เคร็กอ่านในหนังสือเรื่องดอมบีย์แอนด์ซัน (Dombey and Son) ว่า คุณค่าของเงินที่แท้จริงไม่ได้วัดที่มูลค่า แต่คุณค่าที่แท้จริงของเงินวัดกันที่อำนาจ
เคร็กเข้าไปใช้ห้องสมุดเพื่อค้นหาข่าวของคุณฮาร์ริแกนในอินเทอร์เน็ต มันทำให้เขาได้รู้ว่า คุณฮาร์ริแกนเป็นเศรษฐีที่ไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน เขาไม่เคยแต่งงาน ไม่เคยมีลูก และไม่เคยติดต่อกับญาติ ๆ ที่มีอยู่คนไหนเลย เป็นคนโดดเดี่ยวเหงาหงอยอย่างสมบูรณ์แบบ
ในวันพิเศษต่าง ๆ ของเคร็ก คุณฮาร์ริแกนมักจะให้ของขวัญเป็นการ์ดอวยพรพร้อมด้วยการ์ดขูดเลขลอตเตอรี่ “เรดเดวิล” ราคาหนึ่งเหรียญ ที่เอาไว้ขูดเพื่อเสี่ยงโชคปีละ 4 ครั้ง วันวาเลนไทน์ วันเกิดของเคร็ก วันขอบคุณพระเจ้า และวันคริสต์มาส แม้พ่อจะมองว่ามันเป็นของขวัญไร้ค่าราคาถูก แต่สำหรับเคร็กแล้วมันเป็นของที่เขาตื่นเต้นและรอคอยที่จะได้มัน
ไอโฟน
ปี 2007 …
ตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมา เคร็กไปอ่านหนังสือให้คุณฮาร์ริแกนฟังสามครั้งต่อสัปดาห์ไม่เคยขาด โดยหยุดไปแค่ครั้งเดียวคือตอนที่เขาเป็นไข้หวัดใหญ่ เขารู้สึกแย่ที่จะหยุดเพราะเขาเริ่มรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่คุณฮาร์ริแกนมีความสุข ชีวิตจะมีความหมายหากได้เฝ้ารออะไรสักอย่าง
เคร็กขึ้น ม.ปลาย ต้องนั่งรถโรงเรียนไปเรียนที่เมืองเกตส์ฟอลส์ เพราะที่ฮาร์โลว์ไม่มีโรงเรียนมัธยมปลาย ที่นั่นเขาต้องเผชิญกับโลกที่แตกต่างออกไป สิ่งแรกที่เขาได้เรียนรู้ก็คือเด็กป๊อปคือเด็กที่มีสมาร์โฟนใช้โดยเฉพาะไอโฟน และก็ได้เจอกับรุ่นพี่จอมเกเรที่ชื่อ เคนนี่ ยานโควิช ที่บังคับให้เขาขัดรองเท้าเป็นการรับน้อง (ทั้งที่โรงเรียนสั่งห้ามรับน้อง) แต่เคร็กปฏิเสธ
ต่อมา เคร็กได้ไอโฟนเป็นของขวัญจากพ่อ และเขายังถูกรางวัลลอตเตอรี่เรดเดวิลได้เงินรางวัล 3,000 ดอลลาร์อีกด้วย
ด้วยไอโฟนที่ได้เป็นของขวัญจากพ่อ ทำให้เคร็กกลายเป็นหนึ่งในเด็กป๊อปของโรงเรียนทันที และด้วยเงินที่ได้จากลอตโต้ เคร็กซื้อไอโฟนไปให้คุณฮาร์ริแกน แต่แทนที่คุณฮาร์ริแกนจะรับเอาไว้ เขากลับพูดปรัชญาใส่หนุ่มน้อยเคร็ก “จริง ๆ แล้วเราไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งต่าง ๆ หรอก แต่สิ่งต่าง ๆ เป็นเจ้าของเรา ฉันไม่มีโทรทัศน์ เพราะถ้ามีฉันจะเสียเวลาดูมัน มันจะทำให้เราเสียเวลามากขึ้น” แต่ก็นั่นแหละ เคร็กตั้งใจจะซื้อมันให้กับคุณฮาร์ริแกนจริง ๆ เขาจึงโชว์ฟีเจอร์ดูราคาหุ้นแบบเรียลไทม์บนไอโฟน (รุ่นแรก) เครื่องนั้น มันทำให้คุณฮาร์ริแกนถึงกับทึ่งที่มีกระดานหุ้นส่วนตัวบนฝ่ามือ
แล้วเคร็กก็สอนคุณฮาร์ริแกนให้อ่านข่าวบนอินเทอร์เน็ตที่รายงานข่าวแบบเรียลไทม์ แตกต่างจากข่าวในหนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นข่าวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เมื่อเจอเทคโนโลยีเด็ดแบบนี้เข้าไป คุณฮาร์ริแกนถึงกับยอมรับว่าตัวเองอวดดี และยอมกลับลำ เอ่ยปากขอเก็บไอโฟนเครื่องนี้เอาไว้
หลังจากนั้นในทุก ๆ ครั้งหลังจากอ่านหนังสือเสร็จ เคร็กก็จะสอนฟีเจอร์อื่น ๆ และแนะนำให้คุณแฮร์ริแกนรู้จักกับโลกของอินเทอร์เน็ต กูเกิ้ล และยูฮู
ผ่านไปกว่าเดือนที่คุณฮาร์ริแกนได้ใช้ไอโฟนเครื่องนั้นในการอ่านข่าว มันทำให้ชายชรามองเห็นบางอย่าง และได้ทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เขาบอกกับเคร็กว่าเมื่อทุกคนเข้าใจว่าทุกอย่างมันฟรีบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งความเป็นจริงแล้วมันไม่ฟรี เมื่อทุกคนใช้มัน วันหนึ่งข่าวปลอมหรือข้อมูลเท็จก็จะกลายเป็นเรื่องปกติ และมันจะถูกยอมรับว่าเป็นความจริง แล้วถึงเวลาหนึ่งเราจะใช้เจ้าสิ่งนี้เผยแพร่เรื่องไร้สาระมากเท่าที่จะมากได้ “ฉันว่าเราควรจะกลัวเจ้าสิ่งนี้ให้มาก ๆ นะ” ตลกร้ายก็คือ หลังพูดจบ คุณฮาร์ริแกนก็ก้มหน้ากดไอโฟนของเขาต่อไป โดยไม่สนใจเคร็กที่เป็นคู่สนทนาของเขาอีกเลย ส่วนเคร็กก็ได้แต่ทำหน้าเหมือนรู้แล้วว่าสิ่งที่คุณฮาร์ริแกนพูดมันกำลังจะเกิดขึ้น แต่รู้ทั้งรู้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะแม้แต่ตัวของคนที่พูดเองยังก้มหน้าจ้องสิ่งที่เขาเพิ่งบอกว่าเป็นอันตรายอยู่นั่นแหละ
ความตาย
วันนี้เป็นวันอังคาร เคร็กมาที่คฤหาสน์หลังโตตามปกติที่ทำมาตลอดห้าปี แต่วันนี้แตกต่างออก เขาเห็นชายชรากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม สายระโยงระยาง ข้าง ๆ ตัวมีถังออกซิเจนวางอยู่ เคร็กพยายามเข้าไปปลุกชายชราให้ตื่น แต่ดูเหมือนว่าคุณฮาร์ริแกนจะไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นเป็นเพราะว่าคุณฮาร์ริแกนตายแล้ว !
เคร็กตกใจเป็นอย่างมาก สิ่งแรกที่เขาทำเขาคือไปหาพ่อ สิ่งที่สองคือเขาหยิบไอโฟนในมือของคุณฮาร์ริแกนเก็บไว้ ไม่นานนักรถเจ้าหน้าที่ก็มาถึงคฤหาสน์
ลึกลงไปกว่าความตกใจคือความเสียใจ เคร็กเสียใจที่เขาต้องสูญเสียเพื่อน อาจจะเป็นเพื่อนคนเดียวที่เขามีไป … เคร็กทิ้งดิ่งตัวเองให้จมอยู่ในความเศร้า สิ่งที่เขาทำได้เพื่อระบายความเศร้าออกไปจากหัวใจคือการพิมพ์ข้อความไปหาคุณฮาร์ริแกน “ผมจะคิดถึงช่วงบ่ายที่เราอยู่ด้วยกัน”
ด้วยความคิดแบบเด็ก ๆ เคร็กแอบเอาไอโฟนใส่ใสเสื้อสูทของคุณฮาร์ริแกนก่อนที่เข้าสู่พิธีการฝังศพ อาจจะเป็นเพราะเขาหวังลึก ๆ ว่า เพื่อนต่างวัยของเขาจะได้อ่านข้อความที่เขาส่งไปถึง … และในวันเดียวกันนั้น เคร็กก็ได้รับแจ้งจากผู้จัดการด้านการเงินของคุณฮาร์ริแกนว่า เขาได้มรดกเป็นเงิน 800,000 ดอลลาร์ที่ฝากอยู่ในกองทุนทรัสต์ เพื่อเป็นทุนการศึกษาจนกว่าเขาจะเรียนจบมหาวิทยาลัย
ในคืนนั้นเอง เคร็กกระสับกระส่ายนอนไม่หลับ เขาโทร. ไปหาคุณฮาร์ริแกน “ผมคิดถึงคุณ คุณฮาร์ริแกน ขอบคุณมากสำหรับเงินที่คุณให้ผม แต่ผมอยากให้คุณยังมีชีวิตอยู่มากกว่า ผมพูดจริง ๆ” ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ไม่มีใครฟังอยู่ที่ปลายสาย
แต่รุ่งเช้า เมื่อเคร็กหยิบไอโฟนขึ้นมาดูข้อความก็ถึงกับตกใจ มีข้อความส่งกลับมาจากคุณแฮร์ริแกน “C C C aa” ด้วยความตกใจ เคร็กรีบเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อทันที ซึ่งพ่อของเขาก็อธิบายว่ามันอาจมีใครสักคนแฮกและแกล้งเล่น ถึงมันจะดูไม่ค่อยมีเหตุผลก็เถอะ แต่เคร็กก็เชื่อว่าคุณแฮร์ริแกนเป็นส่งข้อความนั้นมาหาเขา
ผีเครื่องกล
ในงานปาร์ตี้ฤดูหนาวของโรงเรียนที่มีชื่อว่าสโนว์บอล เคร็กมีเรื่องชกต่อยกับเคนนี่ รุ่นพี่จอมเกเรที่โดนไล่ออกเพราะขายกัญชาในโรงเรียน เคนนี่คิดว่าเคร็กเป็นคนไปฟ้องครู เคร็กพยายามสู้ด้วยแล้ว แต่ด้วยขนาดตัวที่เล็กกว่ามาก เคร็กก็ลงไปนอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นหลังโดนหมัดเคนนี่กระแทกเข้าหน้าไม่กี่หมัด ยังดีที่ครูฮาร์ท ครูสาวใจดีมาช่วยเคร็กได้ทันก่อนที่จะโดนหนักกว่านี้
ระหว่างที่ครูฮาร์ททำแผลให้ เคร็กบอกความต้องการที่จะไม่เอาเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจ เขาคิดว่าการที่เคนนี่โดนไล่ออกจากโรงเรียนก็หนักมากพอแล้วสำหรับเด็กคนหนึ่ง
แล้วคืนนั้น เคร็กก็โทร. ไปหาคุณฮาร์ริแกน “คุณฮาร์ริแกน นี่ผมเองเคร็ก ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ฟังข้อความนี้หรอก แต่คืนนี้มีเรื่องเกิดขึ้นและผมแค่อยากจะคุยกับใครสักคน วันนี้ผมโดนไอ้โง่ เคนนี่ ยานโควิช ซ้อมหนักมาก ผมกลัวจริง ๆ ว่าเรื่องนี้จะไม่จบ ผมอยากให้คุณอยู่ตรงนี้เพื่อแนะนำผมว่าควรจะทำยังไง”
รุ่งขึ้น เคร็กตื่นมาพร้อมกับข่าวอันน่าตกใจ เคนนี่ตายแล้ว !!!
ข่าวหนังสือพิมพ์ลงข่าวการตายของ เคนนี่ ยานโควิช เพียงว่า “เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ” มันยิ่งทำให้เคร็กยิ่งสงสัยว่าเขามีส่วนกับการตายของเคนนี่หรือไม่ ว่าที่จริง เขาสงสัยว่าคุณฮาร์ริแกนเป็นคนฆ่าเคนนี่ !?
ในคืนนั้น เขาตัดสินโทร. หาคุณฮาร์ริแกนอีกครั้ง “โทรศัพท์ที่ไม่มีแบตจะใช้งานไม่ได้ แต่มันสามารถส่งข้อความได้ คุณทำใช่ไหม ? ผมอยากรู้ว่าคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ เคนนี่ ยานโควิช หรือเปล่า ? ผมเคยบอกกับคุณว่าผมกลัว แต่ผมไม่ได้อยากให้เขาตาย ถ้าคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริง ๆ ส่งสัญญาณให้ผมรู้ด้วยนะ”
แล้วทันใดนั้นเองเสียงเตือนข้อความก็ดังขึ้น “A a. C C C x” ข้อความถูกส่งมาจากไอโฟนของคุณฮาร์ริแกน !!?
เคร็กตัดสินใจไปหาบาทหลวงที่โบสถ์เพื่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น บาทหลวงท่านจึงบอกว่าสิ่งที่ การตายของเคนนี่เป็นอุบัติเหตุ คืนนั้นเขาเมามากและกำลังจะปีนหน้าต่างหนีไปเที่ยวนอกบ้าน ด้วยความเมาทำให้เขาพลาดตกลงมาคอหักตาย
วันต่อมา เคร็กจึงไปที่ร้านโทรศัพท์เพื่อซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่เป็นไอโฟน 4 เอส พนักงานขายบอกกับเคร็กว่า ไอโฟนรุ่นแรกอาจจะมีปัญหาด้านซอฟต์แวร์เกิดขึ้นได้เพราะเป็นรุ่นที่เร่งการผลิต อาจมีข้อความค้างอยู่ในระบบ แล้วอยู่ดี ๆ มันก็โผล่ขึ้นมาเอง พนักงานขายคนนั้นเรียกสิ่งนี้ว่า “ผีเครื่องกล” (Ghost Machine)
ทันทีที่ออกมาจากร้าน เขาลองใช้โทรศัพท์เครื่องใหม่โทร. หาคุณฮาร์ริแกน ปรากฏว่ามันโทร. ไม่ติด เคร็กถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกพร้อมกับเอ่ย “ขอบคุณพระเจ้า”
ตู้แห่งความลับ
เรื่องราวผ่านไป เคร็กสอบติดมหาวิทยาลัยบอสตัน เขาคร่ำเคร่งกับการเรียนเพื่อตอบแทนพ่อและคุณฮาร์ริแกน แต่ระหว่างนั้นเขาได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวร้าย ครูฮาร์ทอันเป็นที่รักของนักเรียนทุกคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ประสานงา ระหว่างไปท่องเที่ยวในวันหยุดยาวกับคู่หมั้น คู่กรณีเป็นไอ้งั่งหน้าโง่ที่เมาแล้วขับ
ในพิธีศพของครูฮาร์ท เคร็กได้รู้ว่าคู่กรณีชื่อดีน เคยถูกจับข้อหาเมาแล้วขับมาแล้วสี่ครั้ง ตอนนี้ก็ไม่มีใบขับขี่ แต่ศาลกลับพิพากษาให้พักโทษจำคุก 4 ปีเอาไว้ แลกกับการที่เขายอมเข้ารับการบำบัดเป็นเวลา 6 เดือน … สถานบำบัดที่ดีนถูกส่งตัวไปเหมือนคันทรีคลับมากกว่าจะเป็นคุก
เคร็กขับรถกลับไปที่บ้านทันที เขาตรงไปที่ไอโฟนเครื่องเก่าที่เก็บเอาไว้ในตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบมันออกมาชาร์จแบต ก่อนจะโทร. หาคุณฮาร์ริแกนอีกครั้ง “คุณฮาร์ริแกนครับ มีผู้ชายคนหนึ่งชื่อดีน วิธมอร์ มันทำให้ครู ม.ปลายของผมตาย เธอเป็นครูที่ดี คอยช่วยผมทุกครั้งที่ผมต้องการ และมันไม่ได้รับโทษอย่างที่ควรได้รับ ผมอยากให้มันตาย”
หลังจากวางสาย เคร็กก็รู้สึกผิดทันที เขาเริ่มเป็นกังวลว่าสิ่งที่พูดจะเป็นจริง แม้อีกใจหนึ่งจะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ อีกไม่กี่วันต่อมา เขาก็เจอข่าวการตายของดีน วิธมอร์ แต่ในเนื้อหาข่าวไม่ได้ลงรายละเอียดการตาย เคร็กจึงไปตามสืบกับนักข่าวที่ทำข่าวนั้น จนได้รู้ความจริงอันน่าตกตะลึง …
ดีน วิธมอร์ ฆ่าตัวตายด้วยวิธีการทำให้ตัวเองสำลักจนตายในห้องอาบน้ำ เขาดื่มแชมพูเข้าไปเพื่อให้ลื่น ก่อนจะกลืนสบู่เข้าไป สบู่ก้อนโตยี่ห้อ “บูธเบย์” … วินาทีนั้น เคร็กรู้ได้ในทันทีว่าคุณฮาร์ริแกนเป็นคนทำ และตัวเขาเองที่เป็นคนขอให้คุณฮาร์ริแกนทำ
ภาพตัดไปที่เคร็กกำลังนั่งอยู่หน้าหลุมฝังศพของคุณฮาร์ริแกน “หลังจากคุณตาย ผมเปิดเข้าไปดูตู้ของคุณ ตู้แห่งความลับใบนั้น มันไม่ใช่ความลับแย่ ๆ อย่างที่คุณเคยบอกเอาไว้ มันเป็นแค่ความทรงจำ … แม่คุณตายตอนคุณยังเด็ก เหมือนกับผม นั่นเป็นเหตุผลที่คุณเลือกให้ผมอ่านหนังสือให้คุณฟัง … คุณรู้ว่าความเหงามันเป็นยังไง เหมือนกับผม มันคงเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณยังพยายามติดต่อผม”
เคร็กคิดออกแล้วว่า ข้อความล่าสุดที่คุณฮาร์ริแกนส่งให้เขาในวันนี้มีความหมายว่าอะไร “C C C s T” มันหมายว่า เคร็กหยุดได้แล้ว (Craig stop) “คุณบอกให้ผมหยุดเพราะผมกำลังทำร้ายคุณ หรือคุณบอกใ้ห้ผมหยุดเพราะผมกำลังทำร้ายตัวเอง ?”
จากนั้นเคร็กก็วิ่งไปที่ที่เรียกว่าทะเลสาบแคสเซิล ที่นั่นเขาตัดสินใจโยนไอโฟนเครื่องนั้นทิ้งน้ำไป ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาว่า “เมื่อถึงเวลาที่ผมต้องจากไป ผมอยากถูกฝังโดยไม่มีอะไรในกระเป๋าเสื้อ”
สร้างจากเรื่องสั้นของ สตีเฟ่น คิง
จบบริบูรณ์
ดูหนังเรื่องนี้ได้ที่ Netflix : คลิกที่นี่