Skip to content
รีแคปซีรีส์ The Law Cafe EP.13 : บางครั้งเราก็ตกหลุมพรางของชีวิต

รีแคปซีรีส์ The Law Cafe EP.13 : บางครั้งเราก็ตกหลุมพรางของชีวิต

The Law Cafe EP.13 : ซงฮวาทำหน้าที่เป็นเลขาให้กับ ส.ส.หลายสมัย มาสารภาพกับยูริว่าเธอต้องทนทุกข์เพราะโดนทำอนาจาร ยูริจึงรับปากว่าจะช่วย ในขณะที่จองโฮไม่เห็นด้วยที่ยูริรับทำคดีนี้ เพราะมันไปเกี่ยวกับอีพยอนอุงคนเดิม …

ในขณะที่จองโฮกำลังมีช่วงชีวิตที่มีความสุขที่ได้ยูริเป็นแฟน แต่เขาต้องตกตะลึง เมื่อตื่นเช้ามาเห็นยูริกำลังพิมพ์หนังสือตกลงการอยู่ร่วมกัน จองโฮถึงกับอึ้งเมื่อได้อ่านข้อตกลงแค่ข้อแรก การคุมกำเนิด “ไม่ว่าฝ่ายหญิงจะเลือกวิธีการคุมกำเนิดแบบใดก็ตาม ฝ่ายชายต้องใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ซึ่งฝ่ายชายสามารถเลือกได้ว่าจะใส่ถุงยางแบบไหน” จองโฮถึงกับอุทานในใจว่า “นังผีบ้า !!!”

ข้อต่อมา “ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงต้องพยายามสนองความต้องการของกันและกัน ต้องไม่ปิดบังว่าแต่ละฝ่ายถึงจุดสุดยอดหรือไม่ …” จองโฮเอานิ้วไปสัมผัสปากยูริด้วยท่าทางกระดากอาย เขาถามไปตรง ๆ ว่าจำเป็นขนาดนั้นเลยเหรอที่ต้องเอาเรื่องนี้มาพูดกันแบบนี้ แต่ยูริก็ยิ้มหวานใส่แล้วบอกว่าเธอต้องการอยู่กับเขาไปนาน ๆ จึงอยากให้เข้ากันได้ทุกเรื่อง

จังหวะนั้นเองที่จองโฮโน้มตัวเข้าไปจูบยูริ แล้วทั้งสองก็ศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมกันอย่างละเอียดเพื่อเอาไปใส่ในข้อตกลง 🙂

การลวนลามในที่ทำงาน

คืนนั้น หนูน้อยอีซึลเดินร้องไห้มาที่ลอว์คาเฟ่เพียงลำพัง เธอบอกว่าต้องการความช่วยเหลือเพราะคิดว่าแม่ของเธอกำลังจะตาย “แม่อ้วกแล้วก็ปวดท้องทุกวัน ไปหาหมอก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แม่แอบร้องไห้คนเดียวทุกคืน ถ้าแม่ตายอีซึลก็ต้องอยู่คนเดียว” ยูริจึงโทร. หาซงฮวา แม่ของอีซึลให้มาที่ลอว์คาเฟ่

รุ่งขึ้น ซงฮวามาหายูริที่ลอว์คาเฟ่อีกครั้ง เธอพยายามตั้งสติให้หยุดร้องไห้เพื่อที่จะได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้น … เมื่อประมาณหนึ่งปีก่อน เธอถูกลวนลามขณะที่เธอทำงานเป็นเลขาฯ ของชเวยอฮวาน ส.ส.สามสมัย “ตอนแรก ๆ ก็เป็นหัวไหล่ หู คอ แขน หน้าอกและก้น บางทีเขาก็ล้วงเข้ามาในกระโปรงของฉัน” ซงฮวาบอกว่าเธอจำเป็นต้องทนทำงานนี้ต่อไปทั้งที่รู้สึกอับอายมาก เพราะไม่ใช่งานที่หาได้ง่าย ๆ และอีซึลก็กำลังจะเข้าโรงเรียน

แต่ที่หนักที่สุดก็คือเมื่ออาทิตย์ก่อน ส.ส.ชเวยอฮวานให้ซงฮวาเอาเอกสารไปให้ที่บ้านพักตากอากาศ เมื่อไปถึงก็พบกับท่าน ส.ส.กับเพื่อน ๆ กำลังดื่มเหล้าเคล้านารีกันอยู่ (หนึ่งในนั้นมีอีพยอนอุงด้วย) จังหวะนั้นเองที่ซงฮวาถูกลวนลาม และทุกคนก็หัวเราะใส่เธอ ทำให้เธอรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก จนไม่สามารถลืมเรื่องเหตุการณ์นั้นไปได้เลย “ไม่ว่าฉันจะพยายามลืมแค่ไหนก็ลืมมันไม่ได้เลย พออยู่บ้านก็จะได้กลิ่นโคโลญจน์เขาแล้วก็เริ่มคลื่นไส้ ฉันต้องทนกับเรื่องพวกนี้อย่างกับคนโง่”

จองโฮเห็นคดีนี้อันตรายเกินไป เพราะคนที่เกี่ยวข้องนอกจาก ส.ส.ชเวยอฮวานแล้ว ยังมีผู้มีอิทธิพลหลายคนมีเอี่ยวด้วย และหนึ่งในนั้นก็คืออีพยอนอุง แต่ยูริก็คือยูริ เธอยืนกรานที่จะทำคดีนี้ เพราะถ้าเธอไม่รับก็ไม่มีทนายคนไหนรับทำคดีนี้อีกแล้ว

จากนั้นยูริก็แนะนำให้ซงฮวาไปพบกับ ส.ส.ชเวยอฮวาน โดยนำเอาปากกาบันทึกเสียงซ่อนเอาไว้ในกระเป๋า แล้วล่อหลอกให้ ส.ส.สายหื่นพูดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น

คืนนั้น หลังปิดลอว์คาเฟ่และยูริกำลังกลับบ้าน มีคนร้ายกระชากกระเป๋าของเธอ โดยกระเป๋าใบนั้นมีปากกาบันทึกเสียงที่เป็นหลักฐานสำคัญเก็บเอาไว้ ยูริได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการหกล้ม แต่ที่เป็นเดือดเป็นแค้นสุด ๆ เลยก็คือจองโฮ

จองโฮรู้ดีว่าต่อให้ช้างมาฉุด ยูริก็ยังดึงดันทำคดีนี้ต่อไป เมื่อห้ามไม่ได้ก็ต้องส่งเสริม เขาจึงบากหน้าเอาเอกสารทางคดีทั้งหมดไปปรึกษาพ่อ คำแนะนำที่ได้ก็คือ คนพวกนี้เกาะติดกันก็เพราะผลประโยชน์ วิธีการคือต้องทำให้คนพวกนี้แตกกันเอง แต่หลักฐานที่จองโฮให้มามันเล็กน้อยเกินกว่าที่จะเล่นงานคนพวกนี้ได้

คืนนั้นในการประชุมคดีที่ลอว์คาเฟ่ จองโฮและยูริวางแผนที่จะเล่นงาน ส.ส.ชเวยอฮวานในงานการกุศลที่เขาจัดขึ้นที่โรงแรม โดยยูริจะให้นักสะเดาะกุญแจ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือโจรนั่นแหละ ที่เธอเคยเป็นทนายให้มาช่วยในการเข้าไปขโมยหลักฐานปากกาบันทึกเสียงคืนมา โดยงานนี้นอกจากทีมลอว์คาเฟ่แล้ว ยังมีสองเพื่อนบ้านสายฮามาร่วมด้วย

สุดท้ายก็เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ เมื่อขโมยปากกาบันทึกเสียงมาได้แล้ว ทีมลอว์คาเฟ่ก็เปิดประจานกลางงานการกุศล ขณะที่ ส.ส.ชเวยอฮวานกำลังกล่าวสปีชอยู่บนเวที

Photos : ภาพหน้าจอจาก KBS2 Korea