เรื่องย่อละคร ลายกินรี (2022)

ลายกินรี เรื่องย่อ : ความตายของกปิตันฌองที่มีผ้าของชนชั้นสูงมาเกี่ยวพัน อาจทำให้อโยธยาลุกเป็นไฟ เขาและเธอจึงต้องร่วมมือกันสืบสวนหาสาเหตุนั้น เพื่อความอยู่รอดของแผ่นดินสยาม …

เรื่องย่อ ลายกินรี

ณ กรุงเทพทวารวดีศรีอยุธยา พ.ศ. 2230 ปีที่ 30 ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์

พุดซ้อน (รับบทโดย อุรัสยา เสปอร์บันด์ ) เป็นธิดาของ หมอโหมด (รับบทโดย โอ อนุชิต) หลังจากที่หมอโหมดเสียชีวิตไป เธอก็ทำหน้าที่รักษาคนไข้ต่อจากพ่อ แต่ด้วยคนในสมัยนั้นไม่เชื่อมั่นในหมอผู้หญิง เธอจึงใช้ชื่อ หมอมี (รับบทโดย ส้วม สุขพัฒน์) ผู้เป็นพี่ชายบังหน้า

วันหนึ่ง ผัวเมียคู่หนึ่งกำลังตกปลาเพื่อนำไปขาย แต่สิ่งที่พวกเขาตกได้ในวันนี้ไม่ใช่ปลา แต่เป็นศพของฝรั่งคนหนึ่ง จึงไปตามพุดซ้อนมาช่วยดูศพให้ พุดซ้อนพบว่าชายผู้ตายแต่งกายคล้ายสตรี และนุ่งผ้าซิ่นยาวลายกินรีซึ่งเป็นผ้าลายอย่างที่มีใช้เฉพาะในวังเท่านั้น อีกทั้งพุดซ้อนยังตรวจพบว่าชายคนนี้เสียชีวิตก่อนที่จะถูกลากลงมาทิ้งในน้ำ

ในระหว่างการตรวจศพ หลวงอินทร์ หรือ ออกหลวงอินทราชภักดี (รับบทโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ ) เจ้ากรมพระตำรวจนอกขวา และ เมอซีเออร์โรแบรต์ (รับบทโดย นิว ชัยพล) เลขานุการของกปิตันฟอร์แบง หรือออกพระศักดิ์สงครามก็มาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี หลวงอินทร์ไม่เชื่อมั่นในตัวหมอผู้หญิงตามค่านิยมของคนในสมัยนั้น อีกทั้งพุดซ้อนยังเป็นธิดาของหมอโหมด ผู้ที่รักษาภรรยาของเขาไม่หาย จนต้องตายไปเมื่อหลายปีก่อน แต่โรแบรต์ต้องการให้มีการตรวจศพเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง แม้ว่าหลวงอินทร์จะไม่พอใจแต่ก็ไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมให้พุดซ้อนเป็นผู้ตรวจศพตามที่โรแบรต์ต้องการ

พุดซ้อนและโรแบรต์เดินทางไปแจ้งข่าวให้ คลาร่า (รับบทโดย เดียร์น่า ฟลีโป) รับทราบถึงข่าวการเสียชีวิตของสามี คือ กปิตันฌอง (รับบทโดย เดวิด อัศวนนท์) จากนั้นคลาร่าได้เล่าว่าเมื่อคืนฌองเข้านอนตามปกติ แต่ตื่นเช้ามาเธอก็ไม่พบเขาเสียแล้ว โรแบรต์สั่งให้คนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าฌองและเก็บใส่โลงไม้เอาไว้ แล้วให้คนเก็บผ้าลายกินรีผืนนั้นไว้ให้พุดซ้อน เพื่อทำการตรวจสอบในภายหลัง

หลวงอินทร์เดินทางมาหาพุดซ้อนที่บ้านเพื่อคุยเรื่องการตรวจศพฌอง เขาไม่ต้องการให้มีการตรวจศพ เพราะถ้าหากฌองถูกฆ่าตายและผู้ฆ่าเป็นชาวสยาม ฝรั่งเศสอาจยกเรื่องนี้เป็นเหตุให้เกิดสงครามได้ แต่พุดซ้อนยืนยันที่จะตรวจศพ เพราะคิดว่าคนร้ายอาจจะเป็นชาวฝรั่งก็ได้ และเรื่องราวอาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิด

พุดซ้อนสงสัยเกี่ยวกับผ้าลายกินรี จึงเดินทางไปหา เจ้าจอมสารภี (รับบทโดย เจี๊ยบ กาญจนาพร) เจ้าจอมในรัชกาลก่อน ผู้มีศักดิ์เป็นป้าของเธอเพื่อสอบถามว่าผ้าแบบนี้เป็นของใคร ซึ่งเจ้าจอมสารภีกล่าวว่าอาจจะเป็นของ เจ้าจอมกินรี (รับบทโดย พิ้งกี้ สาวิกา) เจ้าจอมคนโปรดในรัชกาลปัจจุบัน เจ้าจอมสารภีสัญญาว่าจะช่วยสืบให้ นอกจากนี้ พุดซ้อนยังฝากมีผู้เป็นพี่ชายไปสืบข่าวจากเพื่อนว่าฌองไปที่ซ่องบุรุษหรือไม่ เพราะฌองอาจจะเป็นพวกที่ชอบผู้ชายด้วยกัน แต่เพื่อนของมีบอกว่าคืนนั้นฌองไม่ได้ไปที่ซ่องบุรุษ แต่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าฌองมีเรื่องกับ กปิตันปอล (รับบทโดย อเล็กซ์ ทวีศักดิ์) เรื่องแย่งตัวเด็กผู้ชายกัน พุดซ้อนจึงไปหาคลาร่าที่บ้านอีกครั้งเพื่อขอตรวจศพ แต่คลาร่าปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่ต้องการให้สามีถูกหยามเกียรติไปมากกว่านี้

ระหว่างนั้น จีบ (รับบทโดย อาตุ๊ยตุ่ย พุทธชาติ) คนรับใช้คนสนิทของพุดซ้อนไปเดินตลาด ก็ได้พบกับเด็กแขกคนหนึ่งกำลังจะถูกนำไปขายที่ซ่อง จีบสงสารจึงขอซื้อตัวเอาไว้ด้วยเงิน 4 ตำลึง แต่จีบไม่มีเงินพอจึงให้พวกนักเลงมารับเงินที่บ้านของพุดซ้อนภายหลัง เด็กแขกคนนั้นชื่อ อะมีนะห์ พูดภาษาสยามไม่ได้ วันถัดมาพวกนักเลงตามมาเอาเงิน และเพื่มค่าไถ่ตัวเป็นเงิน 12 ตำลึงแทน บังเอิญหลวงอินทร์แวะมาพอดีจึงไล่พวกนักเลงไป ที่หลวงอินทร์แวะมาก็เพื่อขอความช่วยเหลือจากพุดซ้อน เพราะ จวง (รับบทโดย ศิรินทรา นิยากร) คนไข้รายหนึ่งของพุดซ้อน เป็นแม่ของ จั่น (รับบทโดย ก๊อต จิรายุ) ฆาตกรที่ฆ่าฝรั่งคนหนึ่งตายและรอโทษประหารอยู่ แต่จั่นแหกคุกออกมา และหลวงอินทร์เชื่อว่าจั่นจะต้องกลับไปหาแม่อย่างแน่นอน หากจั่นหนีไปได้ ฝรั่งเศสอาจยกเป็นเหตุให้เกิดสงครามได้ อีกทั้งจั่นยังแหกคุกออกมาวันเดียวกับที่ฌองเสียชีวิต จั่นจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ด้วย หลวงอินทร์ต้องการให้พุดซ้อนช่วยพูดให้จวงกล่อมลูกชายให้มอบตัว พุดซ้อนทำตามที่หลวงอินทร์ต้องการ แต่จวงบอกว่าจั่นยังไม่กลับมาที่บ้าน

หลังจากตรวจจวงเสร็จ พุดซ้อนและจีบเดินทางไปที่วัดยอเซฟที่เป็นที่เก็บศพของฌองเพื่อแอบตรวจศพอีกครั้ง โชคดีที่โรแบรต์สั่งน้ำแข็งมารักษาสภาพศพทำให้ศพยังไม่เน่ามากนัก พุดซ้อนเจอรอยเส้นเชือกที่ใต้รักแร้ รอยถลอกยาวและรอยเปื้อนโคลนที่กลางหลัง และมีซี่โครงหักด้วย พุดซ้อนยิ่งมั่นใจว่าฌองถูกคนฆ่าก่อนทิ้งน้ำ จึงผ่าท้องเพื่อเอาสารในกระเพาะอาหารเก็บไปตรวจด้วย บังเอิญโรแบรต์เข้ามาดูศพพอดี โรแบรต์จึงมอบผ้าลายกินรีให้พุดซ้อนตรวจสอบ และทั้งสองได้พูดคุยกันว่าผู้ต้องสงสัยที่โรแบรต์พบเพิ่มคือ ปอลที่เคยมีปากเสียงกัน ตรงตามข่าวที่พุดซ้อนได้ยินมา ฌองเคยมีข่าวนอกใจเมียและทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังมี นางเอี้ยง (รับบทโดย มะปราง กุลภัสสรณ์) ทาสในบ้านฌอง ที่ถูกข่มขืนทั้ง ๆ ที่กำลังท้องอยู่ด้วย

เจ้าจอมสารภีและ ลูกจัน (รับบทโดย นีน ชัชชญา) ลูกพี่ลูกน้องของเธอ ไปสืบข่าวเรื่องผ้ากินรีมาได้จึงรีบมาบอกพุดซ้อนที่บ้าน บังเอิญหลวงอินทร์มาที่บ้านเพื่อถามเรื่องจวงจึงได้ฟังข่าวพร้อมกัน เจ้าจอมสารภีพบว่าผ้าลายกินรีเป็นของเจ้าจอมกินรีคนเดียว และยังได้รู้อีกว่าเคยมีผ้าหายไปหลายผืนแต่ไม่รู้ว่าหายไปไหน อีกทั้งเจ้าจอมกินรียังรู้จักกับปอลและฌอง เพราะผ้าถูกส่งมาด้วยเรือของทั้งสองคน และได้ยินว่าเจ้าจอมกินรียังเคยมีปากเสียงกับทั้งสองคนเรื่องค้างเงินค่าสินค้าด้วย พุดซ้อนจึงฝากผ้าลายกินรีไว้กับเจ้าจอมสารภีเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม

โรแบรต์มาชวนให้พุดซ้อนไปหาคลาร่าด้วยกันอีกครั้ง แต่พุดซ้อนต้องไปดูนางจวง จึงให้โรแบรต์ไปดูนางจวงก่อนแล้วค่อยไปหาคลาร่าด้วยกัน จั่นปลอมเป็นหญิงเพื่อดูแลแม่อยู่ในบ้านแต่ไม่มีใครรู้ เมื่อเห็นพุดซ้อนมา จวงจึงไล่ให้จั่นลงไปก่อน แต่หลวงอินทร์ปลอมตัวเพื่อดักจับอยู่ เมื่อเห็นจั่นลงมาก็รีบเข้าจับกุม โรแบรต์เห็นก็เข้าใจผิดคิดว่ามีผู้ชายลวนลามผู้หญิงจึงเข้าไปช่วย ทำให้จั่นสบโอกาสแล้วหนีไปได้ หลวงอินทร์โมโหมากจึงเข้าไปจับจวงข้อหาให้ที่อยู่คนร้าย

หลังจากนั้น โรแบรต์ไปบ้านของคลาร่าพร้อมกับพุดซ้อน คลาร่าเล่าเรื่องที่ฌองมีปัญหากับเจ้าจอมกินรี เพราะเจ้าจอมเล่นพนันแล้วมายืมเงินฌองอยู่บ่อยครั้ง ฌองจึงไปยึดผ้าลายกินรีมาจากเรือปอล อีกทั้งยังเล่าว่าสามีของเธอเป็นคนมีนิสัยประหลาดชอบแต่งหญิง เพื่อเพิ่มอารมณ์ทางเพศของตนเอง เมื่อเสร็จธุระกับคลาร่า พุดซ้อนก็กลับมาที่บ้านแล้วพบว่าหลวงอินทร์ได้นำนางจวงมาไว้ที่บ้านของเธอ ความจริงแล้วหลวงอินทร์ต้องการล่อให้จั่นไปมอบตัวจึงต้องทำเป็นจับนางจวง และที่นำจวงมาไว้ที่บ้านของพุดซ้อนเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ พุดซ้อนเข้าใจจึงหายโกรธและเล่าเรื่องที่รู้มาจากคลาร่าให้หลวงอินทร์ฟัง เธอขอให้หลวงอินทร์ร่วมมือกับตนและโรแบรต์เพื่อสืบหาคนร้ายที่ฆ่าฌองให้เร็วที่สุด หลวงอินทร์ตอบตกลง

พุดซ้อนแวะไปหาเจ้าจอมสารภีและลูกจันในวังเพื่อถามข่าวเรื่องผ้าลายกินรี เธอขอผ้าลายกินรีกลับไปเพื่อสืบเพิ่มเติม ก่อนออกจากวัง โขลน ได้ขอตรวจดูห่อผ้าลายกินรี แต่ก็ปล่อยตัวเธอออกมาตามปกติ แต่โขลนคนนั้นกลับไปแจ้ง คุณท้าวนกแก้ว ซึ่งเป็นตำรวจในวังและเป็นคนของเจ้าจอมกินรี คุณท้าวนกแก้วจึงไปแจ้งเจ้าจอมกินรีเรื่องที่พุดซ้อนนำผ้าลายกินรีติดตัวออกจากวังไป เจ้าจอมกินรีร้อนใจมาก รีบไปหาเจ้าจอมสารภีในคืนนั้น แต่เจ้าจอมสารภีมีประสบการณ์มาก เธอทำตัวสงบนิ่งและยืนยันเสียงแข็งว่าตนไม่รู้เห็น หากจะกล่าวหากันก็ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน เจ้าจอมกินรีทำอะไรไม่ได้จึงกลับไปด้วยความแค้นใจ

พุดซ้อนกลับมาที่บ้าน ไม่ทันระวังตัวก็ถูกจั่นจับตัวไว้ และจะนำตัวพุดซ้อนไปแลกกับนางจวง หลวงอินทร์ที่เฝ้าจวงอยู่ที่เรือนคนไข้ได้ยินเสียงเอะอะจึงตามมาช่วยได้ทัน แต่ก็ถูกจั่นแทงเข้าที่ท้องแล้วหนีไป พุดซ้อนให้อะมีนะห์ไปหาสมุนไพรห้ามเลือด อะมีนะห์ที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ภาษาสยามกลับทำตามคำสั่งได้ทันที ส่วนมีก็ไปตาม หลวงพ่อโปมาร์ค มาช่วยทำแผล เนื่องจากแผลมีดแทงต้องใช้หมอสองคนช่วยกันห้ามเลือดและดึงมีดออก เมื่อทำแผลเสร็จ หลวงอินทร์ก็พ้นขีดอันตรายเพราะไม่ได้แทงถูกจุดสำคัญ

โรแบรต์ไปสืบคดีจากปอล ซึ่งยืนยันว่าคืนนั้นตนอยู่กับ อุสมาน เพื่อนชายคนสนิท และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของฌอง แต่ปอลยอมรับว่ามีปัญหากับฌองจริง เพราะฌองมาเอาผ้าลายกินรีที่มากับเรือของตนไป ตนจึงไม่ได้รับเงินจากเจ้าจอมกินรี และไม่สามารถฟ้องร้องกับใครได้ เพราะการทำผ้าลายกินรีโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพระเจ้าอยู่หัวถือว่ามีความผิด หลังจากนั้นยังมีข่าวว่าเจ้าจอมกินรียังได้ส่งคนไปรุมทำร้ายฌองด้วย

พุดซ้อนนำสารในกระเพาะอาหารของฌองมาตรวจ พบว่าในกระเพาะอาหารมีว่านเลือดอยู่ ซึ่งทำให้มีอาการ หน้ามืด วิงเวียน หัวใจเต้นผิดปกติ และอาการคล้ายคนเมาเหล้า และยังมีฤทธิ์ฆ่าคนได้อีกด้วย พุดซ้อนได้ลองเอายางของว่านเลือดไปเทียบกับรอยแปลก ๆ บนผ้าลายกินรีและได้ผลตรงกัน ทำให้เธอแน่ใจว่ามีคนตั้งใจผสมว่านเลือดในอาหารให้ฌองกินอย่างแน่นอน เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากตรวจคนไข้เสร็จ พุดซ้อนจึงรีบนำข่าวนี้ไปบอกหลวงอินทร์และโรแบรต์ พุดซ้อนตั้งใจจะไปหาคลาร่าอีกครั้งเพื่อถามถึงอาหารมื้อสุดท้ายที่ฌองได้กินเข้าไป จึงขอให้โรแบรต์ไปด้วยเพื่อให้คลาร่ายอมให้เข้าพบ

ในคืนนั้น อะมีนะห์ได้ยอมเล่าเรื่องของตนเองให้พุดซ้อนฟัง ว่าเธอเป็นคนในเมืองสุรัต บ้านของเธอทำผ้าลายกินรีผืนนี้ เธอจำได้เพราะผ้าผืนนี้ถูกสั่งทำขึ้นพิเศษเพียงชิ้นเดียว ต่อมาพ่อของเธอให้แต่งงานกับเศรษฐีแก่ แต่คืนเข้าหอเศรษฐีคนนั้นก็ตาย ทำให้เธอต้องเข้าพิธีสตีที่ต้องตายตามสามีไป เธอไม่อยากตายจึงต้องหนีขึ้นเรือของปอลโดยปลอมเป็นชาย โดยเพื่อนของเธอให้ความช่วยเหลือ แต่เพื่อนถูกจับได้และโยนทิ้งทะเลไปกลางทาง เมื่อถึงสยามจะถูกนำไปขายและได้เจอกับจีบ

เช้าวันถัดมา คนของปอลมาแจ้งให้โรแบรต์ไปที่บ้านของปอลโดยด่วน เมื่อไปถึงโรแบรต์ก็ได้พบศพของปอลถูกเชือดคอ โดยคนของเขาคิดว่าอุสมานเป็นคนทำเพราะเห็นรีบร้อนหนีไปกลางดึก

ด้านพุดซ้อนเอง เจ้าจอมกินรีก็มาหาที่บ้านเพื่อขอผ้าของเธอคืน แต่หลวงอินทร์ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนคนไข้ออกมาช่วยออกหน้ารับแทน โดยอ้างว่าเป็นหลักฐานในคดี ทำให้คืนให้ไม่ได้ เจ้าจอมกินรีโกรธมาก หลวงอินทร์ขออยู่ที่บ้านพุดซ้อนต่อเพื่อรักษาความปลอดภัย แต่ แม่พิกุล (รับบทโดย นัฏฐา ลอยด์) ไม่ยอมให้หลวงอินทร์อยู่ เพราะอาจจะทำให้พุดซ้อนเสื่อมเสียได้

หลวงอินทร์จึงไปเรียน คุณหญิงแสร์ (รับบทโดย นก จริยา) ให้มาสู่ขอพุดซ้อน และเล่าเรื่องเจ้าจอมกินรีให้คุณหญิงแสร์ฟัง คุณหญิงห่วงลูกที่ไปยุ่งเกี่ยวกับเจ้าจอมกินรี ทำให้เธอตัดสินใจจะเปิดโปงความชั่วที่เจ้าจอมกินรีได้ก่อเอาไว้

โรแบรต์ตัดสินใจรีบปิดคดีให้เสร็จก่อนที่จะต้องกลับฝรั่งเศส โรแบรต์ไปหาพุดซ้อน แต่วันนั้นเป็นวันหมั้นของพุดซ้อนและหลวงอินทร์พอดีทำให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน โรแบรต์แจ้งข่าวเรื่องปอลเสียชีวิต และอุสมานได้หนีไปอยู่ที่เกาะทุ่งแก้วที่เดียวกับที่จั่นกบดานอยู่ ทั้งสามคนจึงไปเกาะทุ่งแก้วด้วยกันพร้อมกับนางจวง แต่เมื่อไปถึงพบว่าอุสมานผูกคอตาย พุดซ้อนตรวจพบว่าอุสมานถูกรัดคอแล้วนำศพมาผูกคอเพื่ออำพราง และมีว่านเลือดเลอะที่ศพด้วย จึงมั่นใจว่าเกี่ยวข้องกับการตายของฌองอย่างแน่นอน ฝ่ายหลวงอินทร์ก็ได้บุกไปจับจั่น โดยให้จวงช่วยกล่อมจั่นจึงยอมออกมามอบตัว

เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ? ใครคือฆาตกรตัวจริง ? และเหตุใดจึงมีเรื่องผ้าลายกินรีเข้ามาเกี่ยวข้อง ? ติดตามความเข้มข้นกันต่อได้ในละคร “ลายกินรี”

นักแสดงนำ

หลวงอินทร์ : ณเดชน์ คูกิมิยะ
พุดซ้อน : ญาญ่า อุรัสยา
โรแบรต์ : นิว ชัยพล
เจ้าจอมกินรี : พิ้งกี้ สาวิกา
คลาร่า : เดียร์น่า ฟลีโป
จั่น : ก๊อต จิรายุ
จีบ : อาตุ๊ยตุ่ย พุทธชาติ

Source: IG @actart_gen