Skip to content
รีแคปซีรีส์ 1899 EP.1 : The Ship เรือลำนั้น

รีแคปซีรีส์ 1899 EP.1 : The Ship เรือลำนั้น

1899 EP.1 : มอร่าช่วยผู้หญิงท้องที่เป็นผู้โดยสารชั้นสาม กัปตันได้รับสัญญาณลึกลับที่เชื่อว่าเป็นข้อความจากเรือที่หายสาบสูญ จนนำไปสู่การค้นพบสิ่งที่แปลกประหลาดเหลือเชื่อ …

เปิดเรื่องด้วยการเสียงหญิงสาวที่อ่านบทกวี ในขณะที่ภาพที่วิ่งให้เห็นสภาพท้องฟ้าผืนดิน และจบที่ผืนมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ที่หมุนวนจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่

หญิงสาวคนหนึ่งตะโกนพูดกับพ่อ เธอพยายามเรียกหาพี่ พี่ที่เธอเชื่อว่าขึ้นเรือโพรมีเธียสมาด้วย “หนูรุ้ว่าหนูเห็นอะไร หนูไม่ได้บ้า พี่ชายหนูอยู่ไหน พี่ขึ้นเรือโพรมีเธียส พี่รู้ว่าพ่อทำอะไรบนเรือ แต่ทำไมหนูจำไม่ได้ พ่อทำอะไรกับความทรงจำหนู หนูไม่ได้บ้า” เวลาเดียวกันนั้นเธอก็โดนลากตัวเข้าไปในสถานบำบัดถูกมัดมือทั้งสองข้างและฉีดยาระงับประสาท

ตัดมาอีกช่วงเวลาหนึ่ง … มอร่า (รับบทโดย เอมิลี่ บีแชม) ตื่นขึ้นมา ข้อมือทั้งสองข้างมีรอยคล้ายถูกเชือกมัดเอาไว้เป็นเวลานาน เธอต้องใช้เสื้อแขนยาวปกปิดรอยนั้นเอาไว้ตลอดเวลา ที่ข้างเตียงมีข่าวที่ตัดจากหนังสือพิมพ์เซาแธมป์ตันโพสต์พาดหัวว่า “เรือจักรไอน้ำสาบสูญกลางทะเล สี่เดือนต่อมายังไม่พบโพรมีเธียส : ผู้โดยสารกว่า 1,400 คนและลูกเรือราว 500 คนหายสาบสูญ” จากนั้น เธอก็เดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วหยิบจดหมายที่ระบุชื่อผู้รับว่า “เฮนรี่” ขึ้นมาอ่าน ข้อความสั้น ๆ ระบุว่า “พี่รู้แล้วว่าพ่อเราทำอะไรลงไป เจอกันที่นิวยอร์ก อย่าไว้ใจใครทั้งนั้น จากพี่ชาย”

หญิงสาวเริ่มแนะนำตัวเองให้เรารู้จัก “ฉันคือมอร่า แฟรงคลิน เกิดที่มอร์ฟิลด์ วันนี้เป็นวันที่ 19 ตุลาคม 1899” และเธอย้ำอีกครั้งว่าเธอไม่ได้บ้า

มอร่าเปิดประตูออกจากหัอง 1011 ทำให้ได้รู้ว่าเธอกำลังอยู่บนเรือโดยสารขนาดใหญ่ที่ชื่อ “เคอร์เบอรอส”

สิ่งที่หายสาบสูญจะถูกค้นพบ

ผู้คนบนเรือเคอร์เบอรอส ตั้งแต่คนงานไปจนถึงผู้โดยสารชั้นหนึ่งต่างพูดถึงแต่เรื่องการหายสาบสูญไปของเรือโพรมีเธียส … มอร่าเดินมาที่ห้องอาหารของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง ไม่นานนักก็มีหญิงสาวอีกคนมานั่งคุยด้วย มอร่าเล่าว่าเธอเป็นนักเรียนแพทย์ที่ศึกษาสมองมนุษย์ แต่เธอไม่ได้เป็นหมอ “ผู้หญิงอังกฤษสามารถเรียนหมอได้แต่เป็นหมอไม่ได้” คู่สนทนาของมอร่าไม่เข้าใจว่าสมองมันมีอะไรน่าสนใจ มอร่าจึงบอกว่าสมองขับเคลื่อนความคิดและการกระทำ และมีความลับของจักรวาลอยู่ในนั้น จังหวะนั้นก็มีชายคนหนึ่งแต่งตัวคล้ายผู้โดยสารชั้นสาม เดินเข้ามาแล้วตะโกนหาคนเป็นหมอไปช่วยน้องสาวของเขาที่ตอนนี้อาการน่าเป็นห่วง แต่ไม่มีใครสนใจเขาเลยแม้แต่คนเดียว กระทั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองนายลากตัวเขาออกไป มอร่าจึงรีบเดินตามออกไปอย่างร้อนใจ

มอร่าลงไปชั้นล่างของเรือซึ่งเป็นที่สำหรับผู้โดยสารชั้นสาม หญิงสาวท้องแก่ใกล้คลอดกำลังร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน ไม่นานนักมอร่าก็ช่วยหญิงสาวท้องแก่ให้หายเจ็บปวดได้ … เมื่อรักษาเสร็จก็มีเด็กสาวคนหนึ่งเอามือสัมผัสที่ท้องของมอร่า ถามว่าเธอมีลูกหรือไม่ ? มอร่าตอบกลับไปว่าเธอมีลูกไม่ได้

กัปตันเรือ (รับบทโดย อังเดรส์ พิตช์แมนน์) เห็นมอร่าเพิ่งขึ้นมาจากชั้นล่าง เขาจึงแจ้งกับเธอว่าบนเรือมีกฎห้ามผู้โดยสารชั้นหนึ่งลงไปด้านล่าง ระหว่างนั้นลูกเรือก็รีบวิ่งหน้าตาตื่นมาแจ้งข่าวกับกัปตันว่า ได้รับข้อความโทรเลขที่เชื่อได้ว่ามาจากเรือโพรมีเธียส !

กัปตันกลับมาที่ห้องควบคุม กางแผนที่ดูพิกัดต่าง ๆ แล้วออกคำสั่งให้หันหัวเรือกลับทันที จากนั้น กัปตันก็กลับมาที่ห้องนอนส่วนตัว เขาเปิดลิ้นชักหยิบจดหมายฉบับหนึ่งขึ้นมาดู ด้านหลังซองมีข้อความเขียนเหมือนกับจดหมายพี่ชายของมอร่า ข้อความนั้นคือ “สิ่งที่หายสาบสูญจะถูกค้นพบ”

เรือโพรมีเธียส

ที่ห้องอาหาร … กัปตันมายืนต่อหน้าผู้โดยสารชั้นหนึ่งจำนวนหลายร้อยคนที่รอฟังคำชี้แจง “หกชั่วโมงก่อนเราได้รับข้อความที่เชื่อได้ว่ามาจากเรือโพรมีเธียส ซึ่งพิกัดอยู่ห่างออกไปเจ็ดชั่วโมง”

เรือโพรธีมัสมีผู้โดยสาร 1,423 คน ที่หายไปนานกว่าสี่เดือน ทำให้มีคนจำนวนมากที่ไม่เชื่อว่าข้อความที่กัปตันอ้างจะมาจากเรือโพรมีเธียส พวกเขาไม่เชื่อว่าจะมีคนรอดอยู่กลางทะเลได้นานถึงสี่เดือน

ในคืนนั้น ต้นเรือแจ้งว่าพบเรือโพรมีเธียสไร้แสงไฟลอยอยู่ไม่ห่าง กัปตันตัดสินใจนั่งเรือเล็กไปสำรวจ โดยมีลูกเรือไปด้วยไม่กี่คน หนึ่งในนั้นก็คือมอร่า ทั้งหมดขึ้นมาบนเรือโพรมีเธียส สิ่งที่เห็นไม่ต่างไปจากเรือร้าง สภาพภายในเละเทะสุดจะบรรยายว่าสิ่งใดทำให้เป็นสภาพนี้ได้ และเมื่อไปถึงห้องควบคุมก็พบเครื่องส่งโทรเลขอยู่ในสภาพพังยับเยิน คำถามที่เกิดขึ้นทันทีก็คือ “ใครเป็นคนส่งข้อความพวกนั้น ?”

ทั้งหมดเดินสำรวจไปเรื่อย ๆ กระทั่งไปเจอผู้รอดชีวิตเป็นเด็กชายที่ซ่อนอยู่ภายในตู้ เด็กชายไม่มีท่าทีตกใจหรือตื่นกลัวแต่อย่างใด เด็กชายที่ไม่ปริปากพูดออกมาแม้สักคำ เขาค่อย ๆ เอื้อมมือไปหยิบวัตถุทรงสามเหลี่ยมปิรามิดสีดำในกระเป๋าแล้วยื่นให้มอร่า

ดูซีรีสืเรื่องนี้ที่ Netflix : คลิกที่นี่