ลายกินรี EP.10 : ออกญาวิชาเยนทร์กดดันโรแบรต์ให้จับไอ้จั่น ฝ่ายพุดซ้อนล่วงรู้สาเหตุที่ทำให้หลวงอินทร์ตั้งแต่โกรธเคืองเธอ และได้รับข้อความสั่งเสียสุดท้ายก่อนที่พ่อจะหายตัวไป …
โรแบรต์นำหลวงอินทร์ตามรอยเลือดของไอ้จั่นมาจนถึงเรือนของกปิตันปอล ทั้งสองได้ขอเข้าค้นด้านใน แต่ค้นยังไงก็ไม่พบไอ้จั่น นั่นเป็นเพราะกปิตันปอลได้ให้ความช่วยเหลือไอ้จั่นเอาไว้ ด้วยความเสน่หาในตัวของไอ้จั่นมาตั้งแต่ก่อนหน้า
หลังโรแบรต์และหลวงอินทร์กลับไป กปิตันปอลก็เริ่มแสดงความหื่นกับไอ้จั่น แต่ไม่ทันที่จะได้ล่วงเกินอะไรมากไปกว่าใช้ลิ้นเลียไปที่แขน ไอ้จั่นก็ซัดกปิตันปอลไปนอนกองอยู่กับพื้น “ไอ้ฝาหรั่งวิตถารอย่างมึงสมควรตายไปพร้อมกับไอ้กปิตันช่อง” แล้วไอ้จั่นมันก็ปีนหนีออกไปทางหน้าต่าง
ในขณะที่ เจ้าจอมสารภีได้คำตอบแล้วว่า “ผ้าลายกินรี” ผืนนั้น เป็นผ้าที่มิได้ผ่านพระบรมราชโองการ เป็นการจัดทำขึ้นอย่างพลการ และผู้ที่ทำเช่นนี้จะต้องโทษฐานกบฏ มีความผิดถึงขั้นโดนประหารชีวิต !
ด้านออกญาวิชาเยนทร์เรียกโรแบรต์เข้าพบ เพื่อขอให้เร่งปิดคดีนี้โดยสรุปว่าไอ้จั่นเป็นคนฆ่ากปิตันฌอง แต่โรแบรต์เป็นผู้ยึดถือความถูกต้อง เขาจึงเอาเรื่องนี้มาบอกหลวงอินทร์และพุดซ้อน
ระหว่างนั้น พุดซ้อนก็ได้รู้ความจริงถึงเหตุที่ทำให้หลวงอินทร์แสดงท่าทีโกรธเคืองนางตั้งแต่แรกเจอ ก็เป็นเพราะหมอโหมด พ่อของพุดซ้อนไม่สามารถรักษาอาการป่วยไข้คนรักของหลวงอินทร์ หรือแม้แต่รักษาชีวิตเอาไว้ได้ ด้วยเหตุที่การป่วยไข้นั้นเป็นโรคติดต่อร้ายแรง นับแต่นั้น หมอโหมดก็หายตัวไปและไม่มีใครพบเจอตัวอีกเลย
ความสูญเสียในครั้งนั้นทำให้หลวงอินทร์กลายเป็นปีศาจสุรา ที่ตกค่ำก็เอาแต่ดื่มเพื่อให้ตัวเองหลุดจากความเจ็บปวด ความคิดถึง และความโหยหาคนรักที่จากไป คนรักที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
ตัดภาพมาที่วังหลวง … เจ้าจอมกินรีแอบออกมาจากวังหลวงกลางดึก โดยมีอีช้อย บ่าวคนสนิทให้ความช่วยเหลือตบตาทหารเวรยาม ผู้ที่เจ้าจอมผู้สูงศักดิ์ต้องการไปพบคือ “ซินแซฮง” ชายหนุ่มผู้ที่เจ้าจอมกินรีหลงใหลยิ่งนัก
Photos : ภาพหน้าจอจาก Ch3Thailand