Skip to content

รีแคปซีรีส์ Reborn Rich EP.10 : อย่าไว้ใจใครเด็ดขาด

Reborn Rich EP.10 : ประธานจินยังชอลเริ่มแผนการก่อตั้งบริษัทซุนยังไฟแนนเชียลโฮลดิ้ง เพื่อเริ่มกระบวนการสืบทอดกิจการ …

อัยการซอมินยองเปิดคลิปเสียงที่พิสูจน์ได้ว่า ฮวายองทำการยักยอกเงินของห้างสรรพสินค้าซุนยังที่เธอเป็นผู้บริหาร และระบุว่าผู้ที่แจ้งเบาะแสเท็จก็คือตัวฮวายองเอง

จากนั้น โดจุนจึงยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้ให้กับฮวายอง เป็นเงิน 140,000 ล้านวอนแลกกับหุ้น 25% ในมือของเธอ ซึ่งฮวายองมาถึงจุดที่ไม่มีทางเลือกจริง ๆ แล้ว เธอยอมเซ็นขายหุ้นทั้งน้ำตา

ประธานจินยังชอลพูดคุยกับโดจุน เขาบอกกับหลานชายคนเล็กว่า เขาสร้างซุนยังขึ้นมาจากสามสิ่ง หนึ่งคือความโลภ สองคือความไม่ไว้ใจลูกน้อง และสามคือความกลับกลอกที่พร้อมจะหักหลังได้ทุกคน “แกจะไว้ใจใครไม่ได้ อย่าไว้ใจใครเด็ดขาด เพราะสุดท้ายแล้วความไว้ใจมันจะกลายเป็นจุดอ่อน”

“แล้วถ้าผมหักหลังคุณปู่ แบบนั้นมันจะไม่เป็นอะไรเหรอครับ” โดจุนถามกลับ ประธานจินยังชอลหัวเราะลั่นออกมาทันที “แล้วแกคิดว่าฉันไว้ใจแกงั้นเหรอ ฮะ ฮะ ฮ่า“

อัยการซอมินยองนัดก๊งโซจูกับโดจุน เพราะคดีฮวายองที่เธอทำถูกโอนไปให้อัยการคนอื่นรับผิดชอบ เนื่องจากเธอไม่ทำตามคำสั่งหัวหน้า เธอต่อว่าที่เขาโกหกว่าเธอจะเป็นอัยการที่ดีได้ จากนั้นเธอก็เดินออกจากร้านด้วยความเสียใจ

ระหว่างนั้น โดจุนเห็นข่าวการกลับมาของนักร้องซอแทจินทางทีวี เขาจึงรีบวิ่งไปหาอัยการซอมินยองแล้วบอกกับเธอว่า “ยังหาว่าฉันโกหกเธออยู่มั้ย ?” อัยการสาวตื้นตันที่ไอดอลของเธอกลับมาอีกครั้ง สิ่งที่โดจุนบอกเกิดขึ้นจริง !เธอไม่ตอบเขาเป็นคำพูดใด ๆ เธอโน้มตัวเข้าไปจูบเขาด้วยความรัก และทั้งสองก็มีช่วงเวลาดี ๆ ต่อกันในคืนนั้น

รัฐบาลเกาหลีประกาศคืนเงินกู้ฉุกเฉินจากไอเอ็มเอฟก่อนกำหนด 3 ปี โดจุนเป็นคนเดียวที่ไม่ตื่นเต้นกับข่าวนี้เพราะเขารู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรก เขายังมองอีกว่าธุรกิจการเงินคืออนาคตของประเทศนี้ เช่นเดียวกับประธานจินยังชอลที่มองแบบเหมือนกัน เขาจึงวางแผนตั้งบริษัทซุนยังไฟแนเชียลโฮลดิ้งขึ้น ด้วยการมองที่ว่า “ยุคต่อไปการเงินจะมีความสำคัญมากกว่าการผลิต”

ตอนนี้ โดจุนกับอัยการซอมินยองคบกันแล้ว แต่เธอกลับได้รับมอบหมายให้ทำคดีการปั่นหุ้นนิวดาต้าเทคโนโลยี โดยมีมิราเคิลอินเวสต์เมนต์ของโดจุนเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง อัยการหญิงนำหมายค้นพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่บุกไปค้นหาหลักฐาน โดจุนตกใจเพราะไม่คิดมาก่อนว่าจะโดนเล่นงานไม้นี้

ในทางเทคนิคกฎหมาย การหาหลักฐานเพื่อเอาผิดในข้อหาปั่นหุ้นไม่ใช่เรื่องง่าย และผู้ที่วางแผนบงการอยู่เบื้องหลังรู้เรื่องนี้ดี เขาต้องการทำให้คดีปั่นหุ้นทำลายชื่อเสียงของมิราเคิลอินเวสต์เมนต์ ส่งผลต่อความเชื่อมั่น และทำให้ผู้ลงทุนขอถอนเงินออกเป็นจำนวนเงินรวมกันมากถึง 480,000 ล้านวอน ซึ่งไม่มีทางที่มิราเคิลจะหาเงินสดจำนวนมากขนาดนั้นได้ในระยะเวลาอันสั้น

ประธานจินยังชอลเรียกโดจุนเข้าพบเพื่อถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จินดงกี ลูกชายคนที่สองจึงเสนอว่าจะเข้าซื้อมิราเคิลอินเวสต์เมนต์ เพราะเป็นทางเดียวที่จะหยุดการถอนเงินและเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนให้กลับคืนมา แม้โดจุนจะไม่เห็นด้วยกับแผนนี้แต่เขาก็ไม่มีอะไรจะไปโต้แย้ง … แต่อย่างน้อยโดจุนก็ได้รู้ว่า ผู้ที่วางแผนทั้งหมดก็คือจินดงกี

โดจุนสั่งให้ขายหุ้นที่ลงทุนอยู่ในต่างประเทศทั้งหมด แล้วโอนกลับมาเพื่อจ่ายคืนให้กับนักลงทุนที่ยื่นคำร้องขอถอนเงิน เขาย้ำว่าจะต้องทำทุกอย่างไม่ให้มีการจ่ายเงินล่าช้าเด็ดขาด เพราะความเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในธุรกิจการเงินการลงทุน แม้จะต้องเสียภาษีจากเงินก้อนนั้นมากเท่าไรก็ตาม

แล้ววันแห่งหายนะก็มาถึง 9/11 … มิราเคิลอินเวสต์เมนต์ที่ขายหุ้นทั้งหมดไปแล้วก่อนหน้านี้ รอดพ้นจากความเสียหายอันใหญ่หลวงครั้งนี้ไปได้ แต่ไม่มีใครดีใจกับเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นกลางเมืองนิวยอร์กเลย แม้แต่โดจุนก็ยังตกอยู่ในความเศร้า ในตอนนั้นเขาได้สั่งให้ส่งเงินไปข่วยเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในนามมิราเคิลอีกด้วย

ต่อจากนั้น มิราเคิลอินเวสต์เมนต์ได้ออกกองทุนใหม่ แล้วทำการตลาดเชิงรุกเพื่อให้คนเข้าถึงการลงทุนได้ง่าย จนสามารถมียอดผู้ลงทุนมากถึง 1 ล้านล้านวอนในสัปดาห์แรกของการเปิดตัว และพุ่งไปถึง 4 ล้านล้านวอนภายในสองสัปดาห์

ตรงกันข้ามกับการลงทุนของจินดงกี ที่ขาดทุนจากการลงทุนไปกับการเล่นออปชันกว่าหมื่นล้านวอน ทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก … จังหวะนั้นเอง โดจุนก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าจินดงกี พร้อมกับยื่นข้อเสนอขอซื้อกิจการเพื่อลดความเสียหายที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยให้มิราเคิลอินเวสต์เมนต์เข้ามารับช่วงต่อ จินดงกีจำใจต้องยอมเซ็นขายหุ้นให้กับโดจุนอย่างไม่มีทางเลือก

จินดงกีที่ดื่มเหล้าจนเมามายสติแตกมาโวยวายท่านประธานจินยังชอลว่าอยู่เบื้องหลังโดจุน เขาไม่เชื่อว่าเด็กอย่างโดจุนจะทำเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ประธานจินยังชอลตัดสินใจบางอย่างขึ้นมาทันที

ท่านประธานจินยังชอลรับโดจุนมาที่งานแถลงข่าวเปิดบริษัทซุนยังไฟแนนเชียลโฮลดิ้ง ระหว่างอยู่บนรถ ท่านประธานจินยังชอลถามหลานชายคนเล็กว่าไปทำแบบนั้นกับป้ากับอาแบบนั้นมันถูกต้องแล้วเหรอ แต่โดจุนก็ใช้คำพูดของคุณปู่ตอบกลับไป เขาทำไปเพราะเขามีสามสิ่ง นั่นก็คือ ความโลภ ความไม่ไว้ใจ และการหักหลัง ท่านประธานจินยังชอลได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับหัวเราะออกมาไม่หยุดในความร้ายของหลานชาย

แล้วท่านประธานจินยังชอลก็บอกกับโดจุนว่า จะยกบริษัทซุนยังไฟแนนเชียลโฮลดิ้งให้เขาดูแล เมื่อพูดจบสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น …

รถยนต์ที่ทั้งสองนั้งเกิดอุบัติเหตุ รถคันหนึ่งพุ่งเข้าชนด้านข้างฝั่งท่านประธานจินยังชอล ส่วนรถบรรทุกหกล้อก็กำลังพุ่งเข้าชนด้านข้างฝั่งของโดจุน แล้วเสียงของโดจุนก็บรรยายขึ้นมา “ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไมความทรงจำของฉันถึงไม่มีจินโดจุนอยู่เลย นั่นเป็นเพราะฉันตายไปแล้ว”

Source : JTBC Korea