Skip to content
สรุปเนื้อเรื่อง Bullet Train (2022) ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า

สรุปเนื้อเรื่อง Bullet Train (2022) ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า

Bullet Train สปอยล์ : นักฆ่าห้าคนขึ้นรถไฟหัวกระสุนชินคังเซนมุ่งหน้าสู่เกียวโต ไม่นานก็ได้รู้ว่าภารกิจที่ต่างคนต่างได้รับ เกี่ยวพันเชื่อมโยงกันอย่างน่าประหลาด …

แนว : แอคชั่น ตลก ระทึกขวัญ
เรต : 18+ (ความรุนแรง และภาษาไม่เหมาะสม)
คะแนน IMDb : 7.3/10
คะแนนรีวิว : 8/10

โปสเตอร์หนัง Bullet Train (2022)

พ่อเหยื่อ/The Father

เรื่องราวเริ่มขึ้นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในโตเกียว คิมูระ (รับบทโดย แอนดรูว์ โคจิ) เฝ้าดูอาการลูกชายที่นอนใส่ท่อช่วยหายใจไม่ได้สติอยู่ข้างเตียง ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าและคราบน้ำตา ลูกชายของเขาถูกผลักลงมาจากดาดฟ้า ในขณะที่พ่อของคิมูระเดินเข้ามาในห้อง เขาได้กล่าวว่า พ่อควรเป็นคนที่ปกป้องครอบครัว

จากนั้น คิมูระก็กลับมายังที่พัก เขาหยิบปืนกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม. ขึ้นมา เตรียมที่จะออกไปตามล่าคนที่ทำร้ายลูกชายของเขา

แบรด พิตต์ แสดงเป็น เลดี้บัค (เต่าทอง) ในหนังเรื่อง Bullet Train

เต่าทองผยองเดช/Ladybug

นักฆ่าที่มีชื่อรหัสว่า เลดี้บัค 🐞 (รับบทโดย แบรด พิตต์) กลับมารับงานอีกครั้ง หลังจากพักงานเพื่อเข้ารับการบำบัด การกลับมาคราวนี้เขาจิตใจสงบขึ้น และควบคุมความโกรธเดือดดาลได้ดีกว่าเดิมมาก แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้สึกว่าอยู่คู่กับเขาไม่เปลี่ยนไปเลยนั่นก็คือ ดวงซวย แม้ชื่อเลดี้บัคหรือเต่าทองมันจะนำโชคดีมาให้ก็เถอะ ว่าที่จริงเขาไม่ค่อยชอบชื่อนี้นักหรอก เพราะมันฟังดูตลก แต่เขาก็โอเคเพราะ มาเรีย (รับบทโดย แซนดร้า บูลล็อค) เอเย่นต์คู่บุญและผู้มอบหมายงานนี้เป็นคนตั้งให้

มาเรียแจ้งผ่านทางโทรศัพท์ว่า จริง ๆ แล้วนักฆ่าที่รับงานก่อนหน้านี้คือ “คาร์เวอร์” แต่บังเอิญมีปัญหาโรคกระเพาะกำเริบ และงานนี้เป็นงานง่าย ๆ เพียงแค่ฉกกระเป๋าเอกสารที่มีเงิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บนรถไฟหัวกระสุนชินคันเซนแล้วก็ชิ่งออกมา จากนั้นเธอก็ให้เลดี้บัคมาเอาของใช้จำเป็นในตู้ล็อกเกอร์ที่สถานีรถไฟโตเกียว เขาหยิบประทัด ยานอนหลับชนิดผง แต่เขาไม่เอาปืนไปด้วย แม้มาเรียจะแนะนำให้เขาใช้มันก็ตาม

เลดี้บัคขึ้นรถไฟหัวกระสุนจากโตเกียวมุ่งหน้าไปยังเกียวโต เขาพยายามปัดป่ายสายตามองหากระเป๋าเอกสารใบนั้น เขาเจอมันอยู่ที่ชั้นวางกระเป๋า เลดี้บัคแทบไม่เชื่อตัวเองว่าเขาจะโชคดีขนาดนี้ เขารีบเอากระเป๋านั้นไปและเตรียมลงจากรถไฟสถานีต่อไปทันที แต่ลึก ๆ เขาคิดว่างานนี้มันง่ายผิดปกติ

เลมอนกับส้มเขียวหวาน/Lemon & Tangerine

บนชินคันเซนมีนักฆ่าคู่หูสุดซี้ตัวติดกันอย่างกับฝาแฝด ชื่อรหัส เลมอน 🍋 (รับบทโดย ไบรอัน ไทรี เฮนรี) และ ส้มเขียวหวาน 🍊 (รับบทโดย แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน) เลมอนเป็นชายอเมริกันผิวดำรูปร่างอวบอ้วน มีความสามารถในการอ่านคน และใช้ชีวิตด้วยปรัชญาที่ได้จากซีรีส์การ์ตูน “Thomas the Tank Engine” (รถไฟโทมัส) ส่วนส้มเขียวหวานเป็นชายผิวขาวไว้หนวดตามสไตล์ผู้ดีอังกฤษ นอกจากฆ่าคนแล้ว เขายังมีนิสัยชอบจิ๊กของ แม้ของชิ้นนั้นจะเป็นแค่ขนมปังปลาทองที่ขายบนรถไฟก็ตาม

สองเพื่อนซี้คู่แฝดนักฆ่าถูกจ้างโดยหัวหน้าแก๊งอาชญากรสุดโหดเจ้าของฉายา มัจจุราชขาว 👹 (รับบทโดย ไมเคิล แชนนอน) ให้ช่วยลูกชายขี้ยาของเขาที่โดนพวกแก๊งอั้งยี่จับตัวไปเรียกค่าไถ่ และกระเป๋าเอกสารที่มีเงินค่าไถ่สิบล้านดอลลาร์อยู่ในนั้น ตอนนี้พวกเขาได้ทั้งลูกชายขี้ยากับกระเป๋าเอกสารเรียบร้อย รอเพียงส่งมอบเมื่อถึงสถานีเกียวโตก็เสร็จงาน ระหว่างนั้น ส้มเขียวหวานก็เล่าถึงความน่ากลัวของมัจจุราชขาว “มันเป็นคนรัสเซียร่างยักษ์สูงหกฟุต ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน มันไต่เต้าจนได้ขึ้นเป็นมือขวาของมิเนกิชิ หัวหน้าแก๊งยากูซ่าอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น แต่ระหว่างนั้น มันก็แอบสร้างแก๊งและเครือข่ายของตัวเองขึ้นมา จากนั้นมันก็สังหารมิเนกิชิ โดยการยิงหัวจากด้านหลัง มัจจุราชขาวลบชื่อมิเนกิชิออกจากโลกได้เพียงชั่วข้ามคืน และสถาปนาอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา”

จากนั้น สองนักฆ่าผลไม้ก็มาคุยกับลูกชายขี้ยาที่มีรอยสักเหนือคิ้วว่า “Trust no Bitch” (ไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น) และหางตาซ้ายมีรอยสักไม้กางเขน คุยไปคุยมาก็เถียงกันเองเรื่องจำนวนคนที่ฆ่าไประหว่างชิงตัวลูกชายขี้ยามาจากพวกแก๊งอั้งยี่ เลมอนบอก 16 ศพ แต่ส้มเขียวหวานยืนยันว่า 17 ศพ เพราะศพสุดท้ายโดนลูกหลงจากรถยนต์ที่เกิดระเบิด … เลมอนเถียงว่าศพที่สิบเจ็ดพวกเขาไม่ได้เป็นคนฆ่า แต่ส้มเขียวหวานก็ยืนยันว่าลูกหลงคนนั้นก็ตายจากการกระทำของพวกเขา เพราะฉะนั้นพวกเขาต้องรับผิดชอบนับเป็นหนึ่งในคนที่ฆ่าด้วย

เถียงกันไปเถียงกันมา ส้มเขียวหวานก็ถามถึงกระเป๋าเอกสาร ทั้งสองเดินไปที่ชั้นวางกระเป๋า แต่ปรากฏว่ากระเป๋ามันหายไปแล้ว !

และที่น่าตกใจยิ่งกว่า เมื่อสองเพื่อนซี้เดินกลับมาถึงที่นั่ง ปรากฏว่าลูกชายขึ้ยาเลือดทะลักออกจากเบ้าตา ตายไปซะแล้ว !!

โจอี้ คิง

เจ้าชาย/The Prince

คิมูระอยู่บนชินคันเซนเช่นกัน เขาได้รับข้อความจากคนที่ผลักลูกชายเขา “ฉันเป็นคนผลักลูกแก มาที่ตู้ชั้นหนึ่ง ที่นั่ง B4” คิมูระเดินไปจนถึง เขาควักปืนออกมาเล็งไปหาคนที่นั่งอยู่ที่ B4 แต่เมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่นั้นเป็นเพียงเด็กนักเรียนหญิง เขาจึงรีบเก็บปืนและกล่าวขอโทษ ทันใดนั้น เด็กหญิงก็คว้าเอาเครื่องช็อตไฟฟ้าจี้เข้าไปที่คอของคิมูระจนหมดสติไป

คิมูระฟื้นขึ้นมา เด็กหญิงก็แนะนำตัวว่าเธอชื่อ เจ้าชาย 👑 (รับบทโดย โจอี้ คิง) เหตุที่เธอชื่อนี้ก็เพราะพ่อแม่อยากได้ลูกชาย จากนั้นเธอก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้คิมูระเข้าใจ เธอเป็นคนล่อให้ลูกชายเขาขึ้นไปบนดาดฟ้าห้างและผลักลงมา ที่ทำแบบนั้นก็เพื่อบีบให้เขาขึ้นมาบนรถไฟ และยอมทำตามแผนของเธอ ไม่เช่นนั้น คนของเธอที่โรงพยาบาลจะสังหารลูกชายของเขาทันที คิมูระไม่มีทางเลือก เขาตกลงทำตามที่เธอต้องการ และสิ่งที่เธอต้องการนั่นก็คือ สังหารมัจจุราชขาว

คิมูระได้ยินเช่นนั้นก็ตวาดใส่เด็กหญิงที่พยายามทำหน้าตาไร้เดียงสา “ไอ้โง่เอ๊ย คนอย่างกูจะเอาอะไรไปฆ่ามัจจุราชขาววะ” เด็กหญิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่าเดี๋ยวเขาก็รู้เอง

ต่อมาเด็กหญิงก็เผยแผนของเธอ นั่นคือการติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างเอาไว้กับปืนของคิมูระ อุปกรณ์นี้จะระเบิดใส่หน้าผู้ที่ลั่นไก จากนั้นเด็กหญิงก็เล่าว่า เคยมีการพยายามฆ่ามัจจุราชขาวมาแล้วถึง 31 ครั้ง และทุกครั้งเขาจะฆ่าคนคนนั้นด้วยอาวุธที่มันใช้

คิมูระถึงบางอ้อ “มึงผลักลูกกูตกจากดาดฟ้า ล่อกูขึ้นรถไฟ บังคับให้กูเป็นมือสังหารเพื่อให้กูทำงานพลาด แล้วให้มัจจุราชขาวลงโทษกูโดยใช้ปืนของกูเอง ให้มันระเบิดใส่หน้า”

หมาป่าอาฆาต/The Wolf

ในมือของเลดี้บัคกำกระเป๋าเอกสารเอาไว้แน่น เขายืนอยู่หน้าประตูเตรียมลงที่สถานีชินางาวะ แต่เมื่อถึงสถานี ชายชาวเม็กซิกันโกยืนทำท่าทางเท่ ๆ ก็ยืนขวางประตูรอเขาอยู่ที่ชานชาลา

จากนั้น ภาพแฟลชแบ็กก็แสดงให้เห็นประวัติของชายชาวเม็กซิกันคนนั้นว่า เป็นนักฆ่าที่รู้จักกันในชื่อ หมาป่า 🐺 เข้าสู่วงการนักฆ่าตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งในงานแต่งงานของเขากับภรรยา ทุกคนที่มาร่วมงานถูกวางยาตายทั้งงาน รวมทั้งภรรยาของเขาด้วย และเลดี้บัคคือแค้นที่เขาต้องชำระ

ทันทีที่ประตูรถไฟเปิดออก หมาป่าก็ใช้มีดในมือแทงเข้าไปที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายของเลดี้บัค มันกะแทงเข้าไปตัดขั้วหัวใจให้ตายในมีดเดียว แต่เลดี้บัคใช้ความช่ำชอง เอี้ยวตัวหลบเพียงเล็กน้อยมีดเล่มนั้นก็พลาดเป้าแทงเข้าไปที่บริเวณหัวไหล่ มีดในมือของหมาป่าแทงโดนวัตถุบางอย่างจนทะลุ มันคือโทรศัพท์มือถือที่เลดี้บัคเก็บเอาไว้ที่ซองตรงหัวไหล่ หมาป่าถึงกับโวยลั่นออกมา “ทำไมมึงโชคดีอย่างงี้” แล้วทั้งสองก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือด กระทั่งหมาป่าปามีดเข้าใส่หมายปักมีดเข้าตัดขั้วหัวใจ จังหวะนั้นเองเลดี้บัคใช้กระเป๋าเอกสารในมือเป็นโล่กำบัง แล้วตลกร้ายก็เกิดขึ้น มีดกระแทกกระเป๋าเอกสารสะท้อนกลับไปปักเข้าที่กลางหัวใจของหมาป่า ตายไปซะอย่างนั้น … เปิดตัวอย่างเท่ ตายอย่างง่อย

หลังจากอำพรางศพเรียบร้อยแล้ว เลดี้บัคก็โทร. ถามมาเรีย ซึ่งเธอก็ทวนความจำให้ว่า ในงานแต่งงานของหมาป่า เลดี้บัคปลอมตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟ แต่ปรากฏว่ามีนักฆ่าอีกคนแอบวางยาพิษสังหารทุกคนในงานด้วยพิษจากงูบูมสแลง ซึ่งเป็นงูที่ขโมยมาจากสวนสัตว์ในโตเกียว และตอนนี้งูพวกนั้นอยู่บนรถไฟขบวนนี้ โดยอาการของคนที่โดนพิษงูบูมแสลงก็คือเลือดเป็นวุ้น เส้นเลือดตัน และเลือดทะลักออกจากเบ้าตา ถ้าไม่ได้ยาถอนพิษภายใน 30 วินาทีจะตาย

ตัดภาพมาที่เลมอนกับส้มเขียวหวานมองตากันก็รู้แล้วว่างานงอก ลูกชายขี้ยาก็ตาย กระเป๋าก็หาย ไอ้มัจจุราชขาวต้องส่งคนมาเก็บพวกเขาตายหยังเขียดอย่างแน่นอน สิ่งที่ทำได้คือตบตามัจจุราชขาวไปก่อนว่าทุกอย่างยังโอเค พวกเขาช่วยกันเช็ดเลือดที่ทะลักออกจากเบ้าตาของลูกชายขึ้ยา และจับเขาใส่แว่น จากนั้นก็จัดท่าทางให้เหมือนกับคนนอนหลับ

ระหว่างนั้น เลดี้บัคบังเอิญเห็นหน้าเลมอน เขาจำได้ในทันทีว่าเลมอนเป็นนักฆ่าที่เคยเจอที่โจฮันเนสเบิร์ก เลดี้บัคเห็นท่าไม่ดีจึงชิงลงมือซะก่อน เขาจัดการเลมอนจนสลบไป ก่อนจะเอาผงยานอนหลับใส่ลงไปในขวดน้ำเปล่าของเลมอน แล้วเอามันวางเอาไว้ที่เดิม

ส้มเขียวหวานต่อสู้กับเลดี้บัค

ส้มเขียวหวานเชื่อว่า เลดี้บัคเป็นคนวางยาพิษลูกชายขี้ยาของมัจจุราชขาว และขโมยกระเป๋าเงินไป ส้มเขียวหวานตามจนเจอว่าเลดี้บัคหลบอยู่ในห้องน้ำ ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือดสูสีต่อเนื่องกันหลายนาที แต่แล้วการต่อสู้ก็หยุดลงเมื่อเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของส้มเขียวหวานดังขึ้น ทั้งสองหยุดต่อสู้เพื่อให้สัมเขียวหวานรับโทรศัพท์ มันเป็นสายจากลูกน้องมัจจุราชขาวที่โทร. มาขอเช็กว่ากระเป๋าเดินทางกับลูกชายขี้ยายังอยู่ดีหรือไม่ ถ้ามีอะไรตุกติกจะฆ่าทุกคนบนรถไฟ

เมื่อรถไฟจอดที่สถานี เลดี้บัคบอกกับส้มเขียวหวานว่าเขาขอบายกับเรื่องบ้า ๆ นี้โดยการลงรถไฟ พร้อมกับบอกที่ซ่อนกระเป๋า แต่ส้มเขียวหวานมายืนขวางประตูไม่ให้เขาไป ทั้งสองคุยกันเกือบนาที เลดี้บัคเหลือบไปมองนาฬิกาที่ข้อมูลแวบหนึ่งก่อนจะหัวเราะใส่ “ประตูจะปิดแล้วโว้ย” แล้วเขาก็ถีบส้มเขียวหวานกระเด็นออกจากรถไฟกลิ้งไปบนพื้นชานชาลา ทันใดนั้น ประตูก็ปิดพอดี ส้มเขียวหวานโกรธจัด รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหน้าตั้งกระโดดเกาะท้ายขบวนเอาไว้ได้

ตัดภาพมาบนรถไฟ เลมอนเผชิญหน้ากับเด็กหญิง (เจ้าชาย) และคิมูระ เขาคุยเพียงแวบเดียวก็จับพิรุธได้ แต่ด้วยความที่เด็กหญิงแกล้งบีบน้ำตาและแกล้งทำเป็นไร้เดียงสา เลมอนจึงควักปืนออกมาเล็งยิงไปที่ท้องของคิมูระ ระหว่างนั้นเลมอนก็ยกขวดน้ำขึ้นมาดื่มโดยที่ไม่รู้เลยว่าน้ำมียานอนหลับผสมอยู่ เมื่อถึงช่วงจังหวะที่เขาจะลั่นไกสังหารเด็กหญิงเขาจึงล้มทั้งยืนและหลับไป เด็กหญิงเห็นเลมอนนอนกองอยู่กับพื้นจึงคว้าปืนยิงใส่เลมอนที่หน้าอกไปสามนัด ปัง ปัง ปัง !

แตนสังหาร/The Hornet

ณ เวลานี้ นักฆ่าอีกคนได้ปรากฏตัว แตนสังหาร 🐝 เธอซ่อนตัวอยู่ในชุดโมโมมอน เป็นคนฉีดพิษงูบูมสแลงใส่ลูกชายขี้ยา และเธอก็เป็นวางยาฆ่าแขกที่มาร่วมงานแต่งงานของหมาป่า

เลดี้บัคเห็นหน้าแตนสังหารก็คลับคล้ายคลับคลา เมื่อจำได้ก็ถูกแตนสังหารเข้าโจมตีซะแล้ว เธอต้องการกระเป๋าเอกสารที่อยู่กับเลดี้บัค เพราะผู้ที่จ้างเธอบอกว่าในค่าจ้างฆ่าลูกชายขี้ยาอยู่ในกระเป๋าเอกสารใบนั้น สู้กันไปพักเดียว แตนสังหารก็เอาเข็มฉีดยาบรรจุพิษงูบูมสแลงขึ้นมา แล้วเลดี้บัคก็พลาดท่าโดนเข็มพิษทิ่มใส่มือ แต่เขาหัวไวใช้มืออีกข้างดึงเข็มออกมาแล้วแทงเข้าไปที่ไหล่ของนักฆ่าสาวตอนที่เธอไม่ทันตั้งตัว ใครจะไปคาดคิดว่าเลดี้บัคจะมาไม้นี้

“มีเวลา 30 วิ ก่อนที่พิษจะออกฤทธิ์” เลดี้บัคเอ่ยขึ้น ตาของทั้งสองจ้องกันไม่กะพริบ ผ่านไป 20 วินาที แตนสังหารล้วงเข้าไปหยิบเซรุ่มในกระเป๋า จังหวะนั้นเอง เลดี้บัคใช้ความไวของปีศาจกระชากเซรุ่มเข็มนั้นมาฉีดเข้าสู่ร่างของเขา ไม่นานนัก แตนสังหารก็ตายเพราะพิษของตัวเอง เป็นการตายที่ชวนหัวร่อยิ่งนัก

ส้มเขียวหวานเกาะท้ายขบวนรถไฟ ก่อนจะใช้หมัดอันทรงพลังต่อยกระจกจนแตก และกลับเข้ามาด้านในได้อย่างเหลือเชื่อ ส้มเขียวหวานเจอร่างของเลมอนนอนอยู่ คู่หูเพื่อนซี้ที่เขารักเหมือนน้องแท้ ๆ ได้ตายไปแล้ว จากนั้นเขาก็เจอกับเด็กหญิง ซึ่งเธอก็ใช้ลูกไม้เดิมคือหลอกว่าตัวเองเป็นเหยื่อ ถูกจับเป็นตัวประกัน แต่คราวนี้ส้มเขียวหวานไม่โดนหลอก เพราะเขาเหลือบไปเห็นสติกเกอร์ที่เลมอนแบบแปะไว้ที่หลังของเธอก่อนหมดสติ สติกเกอร์ที่บ่งบอกว่าเธอเป็นตัวร้ายที่บงการทุกอย่างอยู่เบื้องหลัง ส้มเขียวหวานหยืบปืนออกจากเอวเตรียมลั่นไกสังหารเด็กหญิง ทันใดนั้น เลดี้บัคก็โผล่มาแล้วยิงส้มเขียวหวานเข้าที่คอเพื่อช่วยเด็กหญิง เลือดพุ่งกระฉูดไม่หยุด ก่อนที่ส้มเขียวหวานสิ้นชื่อในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา

เลดี้บัคมองเด็กหญิงเป็นเด็กใสซื่อ เขาบอกกับเธอว่าลงรถไฟที่สถานีหน้าแล้วทุกอย่างจะปลอดภัย แต่เมื่อถึงสถานีเด็กหญิงก็แกล้งใช้ความไร้เดียงสาของเธอหลอกล่อให้เขาอยู่บนรถไฟต่อไป

ผู้อาวุโส/The Elder

ที่สถานีนี้ พ่อของคิมูระได้ขึ้นมาบนรถไฟ เมื่อเดินผ่านและได้ยินเสียงของเด็กหญิง เขาจำได้ทันทีว่าเธอคือตัวร้ายที่ผลักหลานชายของเขาตกจากดาดฟ้าห้าง เมื่อรู้ว่าถูกจับได้ เด็กหญิงจึงรีบวิ่งหนีไป จากนั้นเขาก็แนะนำตัวเองกับเลดี้บัคว่าเขาคือ ผู้อาวุโส 🧓🏼 (รับบทโดย ฮิโรยูกิ ซานาดะ) แล้วก็เล่าเรื่องในอดีต …

ในตอนนั้น ผู้อาวุโสมีตำแหน่งระดับสูงในครอบครัวมาเฟียมิเนกิชิ กระทั่งบุรุษผู้มีฉายามัจจุราชขาวก้าวเท้าเข้ามา เขาพยายามเตือนมิเนกิชิว่าอย่าไว้ใจชายคนนี้ แล้วบทสรุปก็เป็นอย่างที่รู้กัน มิเนกิชิถูกลบชื่อเพียงชั่วข้ามคืน และสิ่งที่ผู้อาวุโสมองก็ไม่ผิด เวลานั้น เมื่อผู้อาวุโสกลับมาถึงบ้านก็พบศพภรรยานอนเสียชีวิต เหลือเพียงลูกชายคนเดียวที่หลบอยู่ในช่องลม จากนั้นผู้อาวุโสก็หลบไปซ่อนตัว แล้วหาวิธีล้างแค้นโดยไม่เอาชีวิตลูกชายของเขาไปเสี่ยง แต่ไม่มีวิธีไหนที่เข้าถึงตัวมัจจุราชขาวได้เลย

ผู้อาวุโสพูดถึงความหมายของเลดี้บัคหรือเต่าทองในภาษาญี่ปุ่น “เทนโทมูชิ ตอนเด็ก ๆ เคยได้ยินคนเขาว่ากันว่าจุดบนหลังเต่าทองหมายถึงทุกข์เจ็ดประการบนโลก ฉะนั้น มันไม่ได้ดวงดี แต่มันแบกความซวยทั้งหมดเอาไว้เพื่อให้คนอื่นอยู่อย่างสงบ …” ผู้อาวุโสกล่าวกับเลดี้บัคว่าชะตากรรมนำพาให้เขามาถึงจุดนี้ “… ที่สถานีเกียวโต มัจจุราชขาวจะขึ้นมาบนรถไฟขบวนนี้ ฉันจะจัดการมันเอง ส่วนนายก็ช่วยพาตัวลูกชายฉันลงจากรถไฟ”

เลดี้บัคกับผู้อาวุโสมาช่วยคิมูระที่นอนจมกองเลือดอยู่ จังหวะนั้น เลมอนก็ตื่นขึ้นพร้อมกับฉีกเสื้อให้เห็นว่าเขาใส่เสื้อเกราะ ทำให้เขารอดจากคมกระสุนสามนัดของเด็กหญิง ยิ่งเมื่อรู้ว่าส้มเขียวหวานตายไปแล้วด้วยมือของเลดี้บัคเขาก็คิดจะล้างแค้น แต่ผู้อาวุโสได้ห้ามเอาไว้ และเตือนสติว่าถ้าจะล้างแค้นต้องล้างแค้นกับมัจจุราชขาว ซึ่งเป็นคนวางแผนให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้น วิธีเดียวที่จะรอดคือต้องร่วมมือกัน “มัจจุราชขาวรอนายอยู่พร้อมกองทัพนักฆ่าของมัน นักฆ่าที่มาจากทุกประเทศ แต่มันไม่คิดว่าฉันอยู่บนรถไฟขบวนนี้ และถ้าชะตาลิขิตไว้ ฉันก็จะได้แก้แค้น”

มัจจุราชขาว/The White Death

ณ สถานีเกียวโต … เช้าแล้ว แสงแรกของวันเริ่มส่องออกมาจากขอบฟ้า มัจจุราชขาวนั่งรออยู่ที่ม้านั่งพร้อมกับนักฆ่านับสิบนับร้อย

มัจจุราชขาวขึ้นมาบนรถไฟ คนแรกที่เขาเจอคือเด็กหญิง เด็กหญิงเรียกมัจจุราชขาวว่า “พ่อ” ที่แท้เธอเป็นลูกของมัจจุราชขาว และที่เธอต้องทำแบบนี้ก็เป็นเพราะต้องการพิสูจน์ฝีมือให้พ่อเห็นว่าเธอมีดีกว่าพี่ชายขี้ยา ที่เธอทำไปก็เพื่อให้ได้รับการใส่ใจจากพ่อ น้ำตาไหลออกจากเบ้าตาของเด็กหญิง เธอกล่าวขึ้นด้วยความเจ็บปวด “หนูมาเพื่อฆ่าพ่อ ฆ่าหนูเลยสิ ฆ่าแบบที่ฆ่าคนอื่นที่เขาคิดฆ่าพ่อน่ะ” มัจจุราชขาวเล็งปลายปากกระบอกปืนไปที่หัวของเด็กหญิง ก่อนจะทำเสียง “ปัง” เด็กหญิงสะดุ้งจากเสียงหยอกของผู้เป็นพ่อ มัจจุราชขาวยิ้มก่อนที่จะเดินชนไหล่ลูกสาวตัวเองไปอย่างไร้เยื่อใย “ฉันรู้มาตลอดว่าแกมันเจ๋ง แต่แกก็ไม่มีบทอยู่ในแผนของฉันอยู่ดี” เด็กหญิงได้แต่ยืนนิ่งสตั๊นไปหลายวินาที

เลดี้บัครับหน้าที่เป็นเบนความสนใจมัจจุราชขาวก็ปรากฏตัวพร้อมกระเป๋าเอกสาร เขาคุกเข่าเบื้องหน้ามัจจุราชขาวที่มีนักฆ่าพร้อมอาวุธครบมือรายล้อม เลดี้บัคถามด้วยความสงสัย “คุณเป็นคนจ้างนักฆ่าให้มารวมตัวกันบนชินคันเซนใช่มั้ย ?” มัจจุราชขาวยอมรับว่าเขาเป็นจ้างทั้งหมดเพื่อหวังให้ฆ่ากันเอง เพราะต้องการแก้แค้นคนที่ฆ่าเมียของเขา (จริง ๆ ต้องการฆ่าเขาแต่ฆ่าผิดตัว) และสองเป้าหมายแรกก็คือเลมอนกับส้มเขียวหวาน ในตอนนั้นเมียของเขายังไม่ตาย แต่หมอมือดีที่สุดในการผ่าตัดเมียของเขาดันถูกแตนสังหารฆ่าตายพอดี

มัจจุราชขาวเล่าต่อ เขาเป็นคนจ้างแตนสังหารให้ฆ่าลูกชายขี้ยาของเขา เพราะไอ้ลูกชายขี้ยานี่แหละที่เป็นคนโทร. เรียกให้เมียของเขาไปประกันตัวกลางดึก จนทำให้ถูกลอบสังหารจัดฉากเป็นอุบัติเหตุโดยนักฆ่าที่ชื่อ คาร์เวอร์ แล้วมัจจุราชขาวก็วาดปืนมาจ่อที่หัวเลดี้บัค เพราะเขาเข้าใจว่าเลดี้บัคคือคาร์เวอร์ !

เลดี้บัคพยายามบอกว่าเขาไม่ใช่คาร์เวอร์ เขาเป็นเพียงคนที่มารับงานแทนคาร์เวอร์เพราะคาร์เวอร์โรคกระเพาะกำเริบ ทันใดนั้น เสียงระเบิดก็ดังขึ้น แรงระเบิดทำให้เกิดไฟลุกโชนไปทั่วสถานีเกียวโต ร่างของเลดี้บัคกระเด็นเข้ามาอยู่บนรถไฟ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เลมอนเดินเครื่องรถไฟเพื่อหนี แล้วการต่อสู้และฆ่ากันเลือดสาดก็ได้เริ่มขึ้น ผู้อาวุโสใช้ดาบซามูไรจัดการกับพวกนักฆ่า ดาบซามูไรอันคมกริบ ดาบซามูไรอันแข็งแกร่ง ดาบซามูไรที่สามารถแทงทะลุกะโหลกมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย ดาบซามูไรที่มีจิตวิญญาณของนักสู้สายเลือดบูชิโดอยู่ในนั้น ดาบในมือของผู้อาวุโสสามารถจัดการกับนักฆ่าไปได้หลายศพ จนสุดท้ายก็ได้ดวลกับมัจจุราชขาวตัวต่อตัว แต่ทว่าการปะทะจบเร็วเหลือเกิน มัจจุราชขาวจัดการกับผู้อาวุโสได้อย่างง่ายดาย ฝีมือของมันร้ายกาจขนาดนี้สินะ ถึงได้รับการยอมรับให้เป็นแก๊งมาเฟียที่โหดที่สุดในปฐพี แต่ไม่ทันที่มัจจุราชขาวจะได้สำเร็จโทษผู้อาวุโสด้วยวิธีสุดโหด “รัสเซียนรูเล็ต” รถไฟก็เกิดพลิกคว่ำตกขบวน !

ตัดภาพมาที่ห้องควบคุม จริง ๆ แล้วเลมอนขับรถไฟไม่เป็น แต่ที่รถไฟเคลื่อนไปได้เพราะเขากดมั่วและตอนนี้เขาก็กดให้มันหยุดไม่ได้ เขาจึงให้เลดี้บัคหยุดรถไฟให้ที ส่วนตัวเขาจะสกัดพวกนักฆ่าให้เอง ระหว่างที่เลดี้บัคกำลังเปิดอ่านคู่มือการขับรถไฟเพื่อหาวิธีหยุด เลมอนก็ต่อสู้กับนักฆ่าจนตกจากรถไฟร่วงไปที่แม่น้ำ อย่างไรก็ตาม เลดี้บัคก็ไม่มีปัญญาหยุดรถไฟหัวกระสุนขบวนนี้ได้อยู่ดี ในที่สุดมันก็พุ่งตกราง ด้วยความเร็วของมันทำให้พุ่งไปที่หมู่บ้านของชาวบ้านหมู่บ้านหนึ่ง

เวลานี้ ทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง แต่มัจจุราชขาวยังไม่ตาย และตอนนี้มัจจุราชขาวก็มายืนอยู่เบื้องหน้าเลดี้บัคอีกครั้งพร้อมด้วยปืนกึ่งอัตโนมัติในมือ นี่มันปืนกระบอกที่เด็กหญิงติดกลไกเอาไว้นี่ !!!

เลดี้บัคพยายามบอกเหมือนเดิมว่าเขาไม่ใช่คาร์เวอร์ แต่ความโกรธของมัจจุราชขาวมากเกินกว่าที่จะรับฟัง นิ้วในโกร่งไกกดลงไปที่ไกปืน แต่แทนที่เข็มชนวนจะแทงจุดดินระเบิดให้กระสุนวิ่งออกมาจากปากกระบอก แต่กลายเป็นว่าลูกกระสุนกลับพุ่งใส่คนที่ยิง หน้ามัจจุราชขาวหายไปครึ่งฉีก เนื้อสมองกระจายลอยขึ้นไปในอากาศ น่าสยดสยองยิ่งนัก … จังหวะนั้นเอง ผู้อาวุโสจึงรีบเดินปรี่เข้ามา เขาชักดาบซามูไรขึ้นแล้วฟันเข้าไปที่ร่างของมัจจุราชขาวอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวขึ้นมาอย่างโล่งใจว่า “เป็นอันจบเรื่อง” … แหม่ ได้ล้างแค้นสมใจแล้วสินะ

เดี๋ยว ๆ ยังไม่จบ … เด็กสาวปรากฏตัวขึ้นพร้อมปืนกลมือ เธอตวาดลั่นเสียงดังเคลมว่าพ่อของเธอตายด้วยฝีมือของเธอ แต่ก่อนที่เด็กหญิงจะกราดยิงเข้าใส่ เลดี้บัคตะโกนให้เด็กหญิงหยุดฟังเขาพูดแป๊บนึง แต่ยังไม่ทันจะพูดจบประโยค รถหกล้อบรรทุกส้มเขียวหวานก็พุ่งเข้าชนร่างของเด็กหญิงเข้าอย่างจัง ร่างเธอกระเด็นหายไปทันที … ในขณะที่เลดี้บัคยังไม่หายงง ผู้อาวุโสกับคิมูระก็ขอตัวและกล่าวคำลา

เลดี้บัคหยิบส้มเขียวหวานขึ้นมาปอกกิน แล้วมาเรียก็ขับรถสปอร์ต Audi สุดเท่เข้ามารับเลดี้บัค แวบแรกที่เลดี้บัคเห็นมาเรีย เขาน้ำตาไหลออกมาทันที เขาซาบซึ้งที่เธอมาช่วย จากนั้นก็กล่าวชื่นชมไม่หยุดปาก “เธอเป็นสุดยอดเอเย่นต์ที่วิเศษที่สุดเท่าที่ฉันเคยมีมา” แล้วมาเรียก็ทำหน้านิ่ง ๆ เตือนเขาอีกครั้งว่า คราวหน้าให้หยิบปืนมาด้วย อย่าเชื่อจิตแพทย์ที่บอกให้เขาเลือกหนทางอันสงบ

เลดี้บัคกับมาเรียกำลังเดินขึ้นรถ เขาตาลุกวาวกับรถสปอร์ตโคตรเท่ที่จอดอยู่เบื้องหน้า แต่ชมเสร็จเท่านั้นแหละ เสาไฟฟ้าที่เอนอยู่ก็ล้มลงมาทับเจ้ารถสปอร์ตสุดเฟี้ยวเข้ากลางลำ เลดี้บัคถึงกับยิ้มออกมา แล้วก็พูดขึ้นมาว่านี่อาจเป็นเรื่องที่ดีก็ได้ จากนั้นทั้งคู่ก็เดินจากไป

หลังจากเอ็นเครดิตเริ่มขึ้นประมาณ 15 วินาที … ภาพก็ตัดมาให้เห็นว่าเลมอนตกลงในแม่น้ำแต่ยังรอดชีวิต และเขาก็เป็นคนขับรถหกล้อบรรทุกส้มเขียวหวานคันที่พุ่งชนเด็กหญิง

จบบริบูรณ์

ดูหนังเรื่องนี้ที่ Netflix : คลิกที่นี่
Source: 1