ซีรีส์ Trolley สปอยล์ : โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ผู้คนหันมาจับจ้องชีวิตส่วนตัวของภรรยาสมาชิกสภาระดับสูง และบีบให้เธอต้องเผชิญหน้ากับความลับในครอบครัว รวมถึงอดีตที่ไม่อยากรื้อฟื้น …
EP.1 จุดเริ่มต้น
EP.2 อุบัติเหตุ
EP.3 คำครหา
EP.4 การมาเยือน
EP.5 การเผชิญหน้า
EP.6 ความเจ็บปวด
EP.7 คำสัญญา
EP.8 สิ่งที่ดีที่สุด
EP.9 ความจริงใจ
EP.10 ความกังวล
EP.11 ฝันร้าย
EP.12 ความเป็นจริง
EP.13 การไม่ซื่อสัตย์
EP.14 การปฏิเสธ
EP.15 ความจริง
EP.16 ทางเลือก (ตอนจบ)
เรต : 15+ คะแนน : 7.5/10 เรตติ้งเฉลี่ย : 3.9%
แนว : ดราม่า ลึกลับ
EP.1 จุดเริ่มต้น
ที่สถานีตำรวจ เวลาเที่ยงคืนครึ่งในคืนที่ฝนตกหนัก … คิมฮเยจู (รับบทโดย คิมฮยอนจู) มาแจ้งความด้วยท่าทางตื่นตระหนกว่า ลูกสาววัย 14 ปีของเธอหายตัวไป มือถือก็ปิด เจ้าหน้าที่หญิงแจ้งกับคุณแม่ว่าไม่ต้องเป็นกังวล จากสถิติเด็กสาววัยนี้ส่วนใหญ่จะหนีออกจากบ้านมากกว่าการถูกลักพาตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงถามถึงสาเหตุที่คิดว่าทำให้ลูกสาวหนีออกจากบ้าน ณ จุดนี้เอง ฮเยจูจึงได้นึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวัน เหตุการณ์ที่เธอกับลูกสาวทะเลาะกัน …
ย้อนกลับไป 13 ชั่วโมงที่แล้ว
ฮเยจูเปิดร้านซ่อมหนังสือ เมื่อลูกค้าชวนคุยเกี่ยวกับลูก ๆ เธอจึงบอกว่า ลูกชายคนโตอายุ 22 ปี และลูกสาววัย 14 ปี ลูกค้าจึงชมเป็นการใหญ่ว่ามีลูกโตขนาดนั้นแต่ยังดูเด็กมาก เธอจึงยิ้มแห้ง ๆ เพื่อตัดบท โดยไม่ได้บอกว่าจริง ๆ ลูกชายคนโตเป็นลูกเลี้ยง
ฮเยจูเป็นคนไม่ค่อยชอบเข้าสังคม แต่ด้วยความที่โดนเพื่อนสนิทรุ่นพี่คะยั้นคะยอ เธอจึงยอมไปทานข้าวกับแก๊งคุณแม่โรงเรียนลูกสาว แต่ก็อีกนั่นแหละ เมื่อถูกถามว่าสามีทำงานอะไร เธอก็ตอบเลี่ยง ๆ ไปว่าทำงานธรรมดาทั่วไป ทั้งที่จริง ๆ แล้วสามีของเธอเป็นถึง ส.ส.สองสมัย
ลูกสาววัยมัธยมต้นของฮเยจูเรียนเก่งมาก พวกแม่ ๆ จึงชวนให้ลูกสาวของเธอไปเป็นผู้เขียนวิทยานิพนธ์ร่วมที่มหาวิทยาลัยโซชร่วมกับเพื่อน ๆ แต่ฮเยจูปฏิเสธ
ตลอดทั้งวันจนถึงเย็น ฮเยจูใช้ชีวิตโลว์โปรไฟล์มาก ๆ การแต่งตัวก็แต่งแบบธรรมดาเชย ๆ ร้านอาหารที่เลือกกินก็เป็นร้านบ้าน ๆ การเลือกซื้อของก็ซื้อจากร้านค้าเล็ก ๆ
สามีของฮเยจูถูกจัดหมวดหมู่อยู่ในประเภทนักการเมืองจอมแฉ วันนี้ ส.ส.นัมจุงโด (รับบทโดย พัคฮีซุง) เปิดแถลงข่าวแฉการเก็งกำไรที่ดินผิดกฎหมายของ ส.ส. และข้าราชการระดับสูง เขาต้องการทำให้การเก็งกำไรที่ดินผิดกฎหมายนี้ให้หมดไป เพราะเขาต้องการทำให้ประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศที่ใสสะอาด ในการแถลงข่าว ส.ส.นัมจุงโดยังระบุชื่อ ญาติส.ส. 5 สมัยคนหนึ่งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าว
ส.ส.นัมจุงโดพยายามเดินอยู่บนอุดมคติบนเส้นทางการเมือง ทำทุกอย่างที่นักการเมืองที่ดีควรจะทำ ไม่เคยใช้อภิสิทธิ์ของการเป็นนักการเมืองเลยแม้แต่นิดเดียว จะมีคำครหาบ้างก็ตรงที่ภรรยาของเขาไม่เคยโผล่หัวออกมาช่วยหาเสียงเหมือนนักการเมืองคนอื่น ๆ บางคนถึงขั้นมองว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่บางคนก็ว่ามันเป็นข้อตกลงที่เขาทำกับภรรยา (ฮเยจู) ตั้งแต่ก่อนลงเล่นการเมือง “เธอจะไม่ยุ่งเรื่องการเมืองของสามีเด็ดขาด”
เย็นวันนั้น ลูกสาวของฮเยจูกลับมาถึงบ้านก็ตรงปรี่เข้ามาหาแม่ พร้อมกับคำพูดที่แสดงความไม่พอใจ ไม่พอใจที่แม่ไม่ให้ไปมหาวิทยาลัยโซลกับเพื่อน ๆ เพื่อจะได้เอาผลงานไปเขียนลงเรซูเม่ แถมยังจี้ใจดำแม่ว่าแม่ไม่รู้อะไรหรอกเพราะแม่ไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัย ฮเยจูใจเย็นพยายามอธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ให้ไป แต่ก็นั่นแหละ เด็กวัยรุ่นเมื่อถูกห้ามไม่ให้เป็นเหมือนเพื่อน ๆ ไม่ว่าเหตุผลอะไรมันก็ไม่ใช่เหตุผลที่ฟังขึ้นทั้งนั้น
“ทำไมหนูต้องอดใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นเพราะพ่อด้วยล่ะ …” ลูกสาววัยสิบสี่หันหลังให้แม่ พร้อมกับเดินกระทืบเท้าเข้าห้องและล็อกประตูอยู่ในนั้น “… ช่างเถอะ หนูไม่ไปแล้ว ไม่ไปก็จบใช่มั้ย”
ตามหาตัวคนหาย
คืนนั้น ฮเยจูเข้าไปหาลูกสาวในห้อง เธอตกใจที่ลูกสาวหายไป จากนั้นก็รีบไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือการออกตามหาในสถานที่ที่คาดว่าเด็กสาวจะไป คืนนั้นทั้งคืนฮเยจูกับสามีเดินตามหาทุกที่ที่คิดว่าจะเจอลูกสาว แต่ก็คว้าน้ำเหลว
รุ่งขึ้น ฮเยจูขอให้สามีใช้อภิสิทธิ์ความเป็น ส.ส. ทำให้เจ้าหน้าที่ระดมกำลังออกตามหาลูกสาว ตอนแรกนัมจุงโดทำท่าปฏิเสธ แต่สุดท้ายเขาก็ยอมทำตามความต้องการของภรรยา เขาได้รับการติดต่อจากผู้กำกับฯ จากนั้นการระดมกำลังออกตามหาตัวลูกสาวมัธยมต้นที่หนีออกจากบ้านก็เริ่มต้นขึ้น
การตามหายังคงดำเนินไปจนถึงค่ำของวันนั้น แต่แทนที่จะพบลูกสาวกลับมีโทรศัพท์แจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าพบศพนัมจีฮุน ลูกชายคนโตของ ส.ส.นัมจุงโด บริเวณริมแม่น้ำฮัน เวลา 20.55 น. เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเจอเมทแอมเฟตามีนปริมาณ 1 กรัมในกระเป๋าเสื้อ
นอกจากนั้น ตำรวจยังมีพยานที่ระบุว่า เห็นผู้ตายดื่มอยู่คนเดียวที่สถานบันเทิงย่านกังนัมก่อนที่เขาจะเสียชีวิตไม่กี่ชั่วโมง และมีภาพกล้องวงจรปิดยืนยัน อีกทั้งไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการทำร้ายร่างกาย ทำให้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าเป็นการพลัดตกน้ำเองเนื่องจากอาการเมา หรือไม่ก็เพราะฤทธิ์จากยาเสพติด
เจ้าหน้าที่สอบปากคำฮเยจูเพิ่มเติม หลังพบว่าผู้ตายเคยมีประวัติเมาแล้วกร่างเข้าทำร้ายร่างกายผู้ที่เดินไปมา และเพิ่งออกจากคุกเมื่อ 15 วันก่อน ฮเยจูให้ข้อมูลกับตำรวจว่าเธอเป็นคนไปรับและเช่าห้องให้เขาอยู่คนเดียว
ระหว่างนั้น ลูกสาวคนเล็กก็กลับบ้านมาเอง เธอสารภาพว่าเธอหนีออกจากบ้านเพื่อให้พ่อแม่สนใจเธอบ้างเท่านั้น ฮเยจูโผเข้ากอดลูกสาวพร้อมกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจ
2 สัปดาห์ต่อมา … มีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งมามากดกระดิ่งที่บ้าน ฮเยจูเปิดประตูแล้วกล่าวทักทายตามปกติ หญิงสาวคนนั้นพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ฉันท้องลูกของลูกชายคุณค่ะ”
EP.2 อุบัติเหตุ
การตายของลูกชายที่มีสารเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมไปถึงการใช้อภิสิทธิ์กับตำรวจในการระดมกำลังออกหาตัวลูกสาวที่หนีออกจากบ้าน กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ ส.ส.นัมจุงโดถูกกดดันให้รับผิดชอบด้วยการลาออก สถานการณ์ของเขาในตอนนี้ไม่ดีนัก ในขณะที่การเลือกตั้งทั่วไปใกล้จะมาถึง
ซูบิน (รับบทโดย จองซูบิน) เอาที่ตรวจครรภ์และผลตรวจเลือดจากโรงพยาบาล แต่เธออ้างว่าโทรศัพท์หายเมื่อวานจึงไม่มีรูปตอนที่อยู่กับจีฮุนมาแสดง ฮเยจูได้แต่นั่งนิ่งรับฟัง แต่ก็ถึงกับอึ้งอีกครั้งเมื่อเด็กสาวขออยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วย เพราะเธอไม่มีพ่อแม่หรือใครให้พึ่งพิง
นัมจุงโดกลับมาถึงบ้านด้วยอาการเมามาย ฮเยจูเล่าเรื่องซูบินให้เขาฟัง ตอนแรกเขาปฏิเสธที่จะให้เด็กสาวคนนั้นอยู่ที่นี่ แต่ฮเยจูพยายามโน้มน้าวให้เขาเห็นด้วย “เธอเหมือนฉันตอนที่มาโซลใหม่ ๆ ตัวคนเดียว ไม่มีเงิน ไม่มีพ่อแม่ และตอนที่ฉันท้องอายุก็พอ ๆ กับเธอ ต่างกันตรงที่ตอนนั้นฉันมีคุณ”
รุ่งขึ้น นักข่าวตามมาเกาะติดขอสัมภาษณ์ถึงหน้าบ้าน ส.ส.นัมจุงโดกรณีที่ลูกชายมีความเกี่ยวพันกับสารเสพติด และเขาใช้อภิสิทธิ์ใช้ให้ตำรวจระดมกำลังออกตามหาลูกสาวที่หนีออกจากบ้าน แต่เขาเลี่ยงที่จะตอบคำถาม
จากนั้น ยายคนหนึ่งที่เพิ่งจะสูญเสียหลานสาวจากการตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง หลังถูกแฟนหนุ่มนักศึกษาแพทย์ถ่ายคลิปลามก แล้วขู่ว่าจะนำไปเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต ก็ออกมาโวยวายนักข่าวที่ให้ข่าวโจมตี ส.ส.นัมจุงโด เพราะยายชื่นชม ส.ส.นัมจุงโดมาก
เมื่อ ส.ส.นัมจุงโดเห็นคลิปนั้นที่แชร์กันในอินเทอร์เน็ตเขาจึงคิดแผนการบางอย่าง แผนการที่จะเบี่ยงเบนกระแสดราม่าของประชาชนออกไปจากตัวเขา หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่ากลบข่าว
ส.ส.นัมจุงโดออกรายการทีวี ยอมรับเรื่องที่ลูกชายมีสารเสพติดไว้ในครอบครอง และเรื่องการใช้อภิสิทธิ์ในการให้ตำรวจระดมกำลังออกตามหาลูกสาว เขากล่าวขอโทษด้วยสายตาสำนึกผิด โดยอ้างว่าที่ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะสติแตกที่ลูกสาวหายไปนานกว่า 12 ชั่วโมง
จากนั้น นัมจุงโดก็ขอให้ประชาชนสนใจคดีความรุนแรงทางเพศในอินเทอร์เน็ต โดยเกาะกระแสหลานสาวที่ตกเป็นเหยื่อของยายคนนั้น เขาให้สัญญากับประชาชนว่าจะแก้กฎหมายให้มีบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น เขาทิ้งท้ายโดยการโจมตีนักศึกษาแพทย์ที่ปล่อยคลิป และกล่าวว่าจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด
ได้ผล รถทัวร์ย้ายที่ลงจากนัมจุงโดไปลงที่นักศึกษาแพทย์คนนั้นแทน และตำรวจยังเริ่งดำเนินคดีและออกหมายจับ ไม่นานนัก นักศึกษาแพทย์คนนั้นก็ตัดสินใจกระโดดตึกฆ่าตัวตาย บนโต๊ะของเขาได้เขียนโน้ตทิ้งเอาไว้ว่า …
“ฆาตกรนัมจุงโด”
EP.3 คำครหา
ฮเยจูให้ความเอ็นดูกับซูบิน ดูแลเหมือนเป็นคนในครอบครัว หาข้าวให้กิน พามาที่ทำงานจะได้ไม่รู้สึกเศร้าที่ต้องอยู่คนเดียว
การกระโดดตึกจบชีวิตตัวเองของหนุ่มนักศึกษาแพทย์ จากการที่ถูก ส.ส.นัมจุงโดชี้เป้าในรายการถ่ายทอดสด ทำให้เขาโดนกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรเลือดเย็น ที่ฆ่าเด็กหนุ่มอนาคตไกล แต่ความเห็นในโซเชียลส่วนใหญ่กลับมองว่าเด็กหนุ่มนั่นสมควรตาย และกล่าวชื่นชม ส.ส.นัมจุงโดว่าเป็นนักการเมืองน้ำดีที่หาได้ยาก อีกทั้งยังเป็นผู้ผดุงความยุติธรรม
แต่คนที่รู้ดีที่สุดคือตัว ส.ส.นัมจุงโด เพราะเจตนาเบื้องหลังของเขาคือ ต้องการให้คดีของเด็กหนุ่มนักศึกษาแพทย์มากลบข่าวฉาวของเขา เพื่อหวังคะแนนนิยมทางการเมือง เนื่องจากอีกไม่นานก็จะถึงการเลือกตั้งทั่วไป แม้เขาจะไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายถึงขนาดที่เด็กหนุ่มนั่นจะคิดสั้น … แต่ก็นั่นแหละ ในทางการเมืองไม่สำคัญหรอกว่าความจริงคืออะไร ขอให้คนจำนวนมากเชื่อก็พอ !
ส.ส.นัมจุงโดรู้สึกแย่กับการตายของเด็กหนุ่มคนนั้น เขาขอให้ผู้ช่วยยกเลิกตารางงานที่เหลือทั้งหมด และไปหาฮเยจู คำแรกที่เขาเอ่ยกับภรรยาก็คือ “ผมทรมานเหลือเกิน มีคนตายเพราะผม …” น้ำตาของ ส.ส.ไหลออกมาไม่หยุด แต่คนเดียวที่เขาจะร้องไห้แสดงความอ่อนแอให้เห็นได้คือภรรยา “… ผมทำให้พ่อแม่ต้องสูญเสียลูกไป”
EP.4 การมาเยือน
จางอูแจ (รับบทโดย คิมมูยอล) ผู้ช่วย ส.ส.นัมจุงโดเจอซูบินโดยบังเอิญ เขาจึงเรียกเธอขึ้นมาคุยกันบนรถ เขาพูดจารุนแรงใส่เธอ โดยกล่าวหาว่าเธอเป็นผู้หญิงขายตัว และลูกที่อยู่ในท้องอาจไม่ใช่ลูกของจีฮุน จากนั้น เขาก็ขู่ให้เธออยู่เงียบ ๆ “ถ้าจะอยู่บ้านนั้นก็อยู่ไปเงียบ ๆ เหมือนคนตาย หรือถ้าให้ดีก็ตายไปจริง ๆ เลยก็ได้”
ซูบินโดนดูถูกจนน้ำตาคลอเบ้า เธอรีบเปิดประตูรถและออกมาทันที มันเป็นคำพูดที่รุนแรงชนิดที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินมันออกจากปากผู้ช่วย ส.ส. แม้แต่สาววัยรุ่นกร้านโลกอย่างเธอก็ไม่อาจทานทนคำดูถูกนั่นได้
ทีนี้ ระหว่างที่คณะทำงานของ Rep. Nam Joong Do ลงพื้นที่สืบสวนเรื่องเก็งกำไรที่ดินผิดกฎหมายของน้องเมียนักการเมืองคนหนึ่ง ที่ใช้ข้อมูลของทางการเข้าซื้อที่ดินในราคาถูก ก่อนจะเกิดโครงการของรัฐ ทำให้ที่ดินราคาพุ่งขึ้นมากถึง 3 เท่า และน้องเมียของนักการเมืองคนนั้นก็ดูเหมือนจะมีอดีตบางอย่าง อดีตที่เกี่ยวกับลูกชายของเธอที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
ฮเยจูเห็นข่าวการสืบสวนเรื่องเก็งกำไรที่ดินผิดกฎหมายของสามี เธอได้ยินชื่อผู้กระทำความผิดเป็นคนที่เหมือนเธอคุ้นเคย เธอจึงไปค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เมื่อเห็นชื่อ เธอก็ถึงกับอึ้งไปในทันที !?
EP.5 การเผชิญหน้า
ขณะที่ จินซึงฮี (รับบทโดย รยูฮยอนคยอง) กำลังติดตามข่าวที่แม่ของเธอกำลังถูกกล่าวหาว่าเก็งกำไรที่ดินโดยมิชอบ เธอได้เห็นฮเยจูออกข่าวในทีวี เธอจำฮเยจูได้ทันที วันต่อมา จินซึงฮีรีบนั่งรถประจำทางข้ามจังหวัดมาที่โซล มาเคาะประตูบ้านฮเยจู
ฮเยจูช็อก ! เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอคนที่ไม่คาดหวังว่าจะได้เจอ เพื่อนรักที่เธอหนีมาตั้งแต่ตอนเรียนอยู่มัธยมปลาย และคำแรกที่เธอได้ยินจากปากของจินซึงฮีก็คือคำว่า “นังฆาตกร !”
อย่างไรก็ตาม ซูบินเดินออกมาพอดี ฮเยจูจึงพูดขอร้องจินซึงฮีให้นัดเจอกันวันหลัง
วันนั้นทั้งวัน ฮเยจูมีอาการวิตกกังวลร้อนรุ่มใจเป็นอย่างมาก ซูบินได้แต่เฝ้ามองและสังเกตด้วยความแปลกใจ … อดีตของฮเยจูมันคืออะไรกันนะ ถึงทำให้เธอตัวสั่น ปากสั่น และน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ทั้ง ๆ ที่เรื่องมันผ่านมานานกว่ายี่สิบปี
รุ่งขึ้น จินซึงฮีโทร. นัดฮเยจูให้กลับมาบ้านที่ยองซาน ฮเยจูตอบตกลงไปอย่างไม่มีทางเลือก
ฮเยจูขึ้นมาบนรถแล้วเปิดจีพีเอสนำทางไปยองซาน ระหว่างนั้น เธอก็ย้อนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนที่เธอยังเป็นนักเรียนมัธยมปลายอยู่ที่ยองซาน ในตอนนั้น ฮเยจูกับจินซึงฮีเป็นทั้งเพื่อนร่วมห้องและเพื่อนรัก จินซึงโฮซึ่งเป็นพี่ชายของจินซึงฮีมาตามจีบฮเยจู ดักรอบ้าง ไปหาที่บ้านบ้าง จนถึงคืนนั้น ฮเยจูพูดปฏิเสธเขาไปอย่างไร้เยื่อใย ด้วยความโมโหเขาจึงทำร้ายเธอ
ฮเยจูได้รับบาดเจ็บที่เข่าและตามเนื้อตามเนื้อ เธอไปฟ้องแม่ของจินซึงโฮเพื่อให้เขาขอโทษ แม่ของเขาเข้ามาไกล่เกลี่ยและขอร้องอย่าเอาเรื่องนี้ไปแจ้งความ ตอนแรกฮเยจูก็รับปาก แต่ระหว่างเดินกลับบ้าน จินซึงโฮมาพูดกับเธอว่า จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ชอบเธอสักหน่อย และดูถูกว่าที่เธอเอาเรื่องนี้มาฟ้องแม่ของเขาเพราะอยากได้เงิน
สิ่งที่ฮเยจูต้องการคือคำขอโทษและการยอมรับผิด แต่สิ่งที่ได้รับกลับตรงกันข้าม เธอจึงเอาเรื่องนี้ไปแจ้งความ ซึ่งส่งผลให้จินซึงโฮเลือกจบชีวิตตัวเองด้วยการแขวนคอ … และนั่นคือจุดเปลี่ยนของทุกสิ่ง
จินซึงฮีตบหน้าฮเยจูที่โรงเรียน พร้อมกับกล่าวหาว่า “นังฆาตกร !” อย่างไรก็ตาม การตายของจินซึงโฮทำให้ฮเยจูรู้สึกผิดอย่างมาก เธอจึงเลือกที่จะหนีออกมาและทิ้งอดีตทั้งหมดไว้ที่นั่น
ฮเยจูมาถึงที่นัดหมายเอาไว้กับจินซึงฮี แต่คนที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้เจอก็อยู่ที่นั่นดัวย ส.ส.นัมจุงโด สามีของเธอ !?
EP.6 ความเจ็บปวด
จินซึงฮี, สามี, ส.ส.นัมจุงโด และฮเยจู เข้าร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน … ระหว่างนั้น ส.ส.นัมจุงโดก็แปลกใจที่ได้รู้ว่า ทั้งจินซึงฮีและสามีเป็นอดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนของฮเยจู มันเป็นสงครามประสาทที่จินซึงฮีเล่นกับฮเยจู สงครามประสาทที่ทำเอาฮเยจูร้อนรุ่นใจจนแทบบ้า แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ไม่ให้สามีรู้
หลังทานอาหารเสร็จ จินซึงฮีชวนฮเยจูไปคุยกันเป็นส่วนตัวในห้องน้ำ “ครอบครัวฉันพังไม่เหลือชิ้นดีก็เพราะเธอ แต่เธอกลับใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มันไม่ยุติธรรมเลยนะ ว่ามั้ย” จากนั้น จินซึงฮีก็บอกให้ฮเยจูมาที่บ้านของเธออีกครั้งในวันพรุ่งนี้ เพื่อมาขอโทษแม่ของเธอ เรื่องที่ฮเยจูไปแจ้งความเท็จใส่ร้ายว่า ถูกจินซึงโฮล่วงละเมิดทางเพศจนเขาฆ่าตัวตาย
ฮเยจูพูดไม่ออก ได้แต่เงียบงันอยู่อย่างนั้น เพราะเธอรู้ดีว่าจินซึงฮีเข้าใจผิด !
ภาพแฟลชแบ็กย้อนกลับไปเมื่อกว่ายี่สิบปีก่อน … ก่อนจินซึงโฮจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง เขาได้บอกกับจินซึงฮีว่าถูกฮเยจูใส่ร้าย หลังงานศพแม่ของจินซึงฮีก็บอกกับเธออีกว่า ฮเยจูใส่ร้ายจินซึงโฮเพราะต้องการเเงินไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย เมื่อสองคนในครอบครัวพูดตรงกัน จึงทำให้จินซึงฮีเชื่ออย่างนั้นมาตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา
รุ่งขึ้น ส.ส.นัมจุงโดสั่งให้ผู้ช่วยฯ จางอูแอไปสืบอดีตของฮเยจู เพราะเขาสงสัยว่าต้องมีความลับบางอย่างที่ภรรยาของเขาต้องการปกปิด เพราะเมื่อคืนเขาเห็นความผิดปกติหลายอย่าง โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของฮเยจูกับจินซึงฮี ที่บอกว่าเป็นเพื่อนรักกันแต่ดูไม่สนิทกันแม้แต่นิดเดียว แถมยังดูไม่ชอบหน้ากันด้วยซ้ำ … ส.ส.นัมจุงโดบอกเหตุผลที่ต้องการรู้อดีตของภรรยา ก็เพราะต้องการปกป้อง แต่ไม่บอกว่าแท้จริงแล้วเขาต้องการปกป้องฮเยจู หรืออนาคตทางการเมืองของตัวเอง !?
ผู้ช่วยฯ จางอูแจใช้รูปแต่งงานปลอมที่ตัดต่อหน้าเขากับฮเยจูเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาว ไปอ้างกับซิสเตอร์ที่ดูแลสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้ายองซาน เพื่อถามข้อมูลในอดีตของฮเยจู
ฮเยจูไปที่บ้านจินซึงฮีตามนัด แต่ระหว่างนั้น เสียงกดกริ่งที่บ้านก็ดังขึ้นรัว ๆ เมื่อทั้งสองลุกขึ้นไปมองที่จออินเตอร์คอมก็ถึงกับตกใจ เพราะคนที่กดกริ่งคือ ส.ส.นัมจุงโดที่อยู่ในอาการโกรธ “จินซึงฮีเปิดประตูเดี๋ยวนี้ !”
EP.7 คำสัญญา
ผู้ช่วยฯ จางอูแอโทร. แจ้งเรื่องที่ไปสืบมาได้จากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่ฮเยจูอาศัยอยู่เมื่อตอนเป็นเด็ก … ส.ส.นัมจุงโดได้รู้ความจริงในอดีตของฮเยจูก็เกิดสติแตกขึ้นมา เขารีบขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้านจินซึงฮีทันที เขากดกริ่งไปหยุดอย่างกับคนบ้า เมื่อเห็นว่าคนในบ้านไปตอบกลับ เขาจึงขับรถพุ่งเข้าชนท้ายรถเก๋งสีขาวของฮเยจูที่จอดอยู่
ส.ส.ที่ผู้คนชื่นชม นักการเมืองน้ำดีที่ประชาชนต่างสรรเสริญ สามีที่ดูใจเย็นควบคุมอารมณ์ได้ดี ณ นาทีนี้ นัมจุงโดไม่ต่างไปจากคนบ้าที่ขาดสติ เขาขึ้นไปบนรถอีกครั้ง และตั้งท่าจะขับรถพุ่งเข้าชนประตูรั้วบ้านเพื่อเข้าไปด้านในให้ได้ แต่ก่อนที่รถจะพุ่งเข้าชน ประตูก็ถูกเปิดขึ้นมาซะก่อน
ส.ส.นัมจุงโดดึงแขนฮเยจูให้กลับบ้าน แต่เธอปฏิเสธ เธอบอกว่าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง จากนั้น ฮเยจูก็บอกกับจินซึงฮีว่า เธอถูกลวนลามจริง ๆ และการเลือกจบชีวิตของจินซึงโฮ เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย จากนั้น ทั้งสองก็เถียงกันไปมา จนฮเยจูตบหน้าจินซึงฮีไปหนึ่งฉาด แล้ว ส.ส.นัมจุงโดก็ขู่จินซึงฮีด้วยหน้าตาขมึงทึงว่า “คุณจะทำอะไรก็เป็นสิทธิ์ของคุณ แต่ถ้าทำตัวหยาบคายใส่อย่างวันนี้อีก ผมเอาเรื่องแน่”
ระหว่างทางกลับ นัมจุงโดบอกให้ฮเยจูลืมเรื่องในอดีต และทิ้งทุกอย่างเอาไว้ที่ยองซาน
จากนั้น ส.ส.นัมจุงโดก็สั่งให้ผู้ช่วยฯ จางอูแจไปขู่สามีของจินซึงฮี ไม่ให้แฉเรื่องเมื่อยี่สิบปีก่อน … เขาต้องการปกป้องภรรยา หรือจริง ๆ แล้วเขากำลังทำเพื่อปกป้องอนาคตทางการเมืองของตัวเอง !? เพราะนักการเมืองภาพลักษณ์ดีหลายคนต่างต้องมาตกม้าตายเพราะคนในครอบครัวทำเรื่องฉาวโฉ่ เขาไม่ต้องการเป็นหนึ่งในนั้น
EP.8 สิ่งที่ดีที่สุด
ณ คาเฟ่แห่งหนึ่ง … คียอง (รับบทโดย คีแทยอง) นัดเจอกับฮเยจู เขาอยากให้เธอขอโทษจินซึงฮีกับแม่ เพื่อที่เรื่องจะได้จบ ๆ ไป … คียองบอกกับฮเยจูว่าเขาเชื่อว่าเธอพูดความจริง แต่ยังไงเขาก็อยากให้เธอขอโทษ เพราะอย่างน้อยก็ช่วยบรรเทาความรู้สึกของครอบครัวที่สูญเสียลูกชายไปได้บ้าง
คำพูดจากปากคียองเป็นคำพูดที่ออกมาจากความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง เขาขอร้องฮเยจูจากใจจริง
ระหว่างนั้น ย่าของหญิงสาวที่ถูกปล่อยคลิปล่วงละเมิดพยายามฆ่าตัวตาย ส.ส.นัมจุงโดผู้ทรงเกียรติจึงใช้แผนเดิม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองดูดี โดยใช้ครอบครัวของหนุ่มนักศึกษาแพทย์เป็นที่รองรับอารมณ์ของชาวเน็ต
วันนั้นเขาไปออกทีวีรายการสดช่องเดิม เขาได้เขาเรื่องที่ย่าของเด็กหญิงที่เป็นเหยื่อไปพูด เพื่อสร้างกระแสความเกลียดชังให้พุ่งเป้าไปที่ครอบครัวของนักศึกษาแพทย์ และมันก็เป็นอย่างที่เขาต้องการ
ส.ส.นัมจุงโดพูดกับผู้ช่วยของเขา “ในโลกอินเทอร์เน็ต แค่โยนเหยื่อไปชิ้นหนึ่ง ชาวเน็ตก็จะพากันรุมทิ้งไม่หยุด”
แต่คนที่เห็นการสร้างภาพสร้างดราม่าของท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกียรติแล้วไม่เห็นด้วยก็คือฮเยจู เธอไม่ต้องการให้สามีของเธอใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เธอไม่ต้องการให้เขาเอาความเสียใจของพ่อแม่ที่สูญเสียลูกชายมาเป็นเครื่องมือ พ่อแม่ที่ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว “ฉันไม่อยากให้คุณใช้สื่อสร้างเรื่องบานปลายไปมากกว่านี้”
แต่ก็นั่นแหละ ส.ส.นัมจุงโดปฏิเสธ เขาต้องการจะเสนอร่างกฎหมาย ‘ให้มีการดำเนินคดีต่อไปแม้ผู้กระทำผิดทางเพศจะเสียชีวิตไปแล้ว’ เขาบอกกับภรรยาว่า อนาคตยิ่งจะต้องมีการด่าทอกันมากกว่านี้อีก เพราะการด่าทอจะทำให้เกิดแรงกดดันจนนำไปสู่การแก้ไขร่างกฎหมายฉบับนี้ กฎหมายที่นักกฎหมายเคยลงความเห็นไม่ให้ผ่านเพราะว่าปัญหาทางด้านข้อกฎหมาย
“ผมพยายามปกป้องไม่ให้ใครต้องทนทุกข์จากการฆ่าตัวตายของผู้กระทำผิดอยู่นะ …” แล้ว ส.ส.นัมจุงโดก็พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปฮเยจู ถ้ามีกฎหมายนี้ตั้งแต่แรก เธอก็คงไม่ต้องทนทุกข์มาตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา “… มันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้หรอก ผมต้องยอมเสียสละสิ่งที่เล็กกว่า”
รุ่งขึ้น ฮเยจูเข้าไปหาของบางอย่างในห้องทำงานของ ส.ส.นัมจุงโด เธอไปเจอโทรศัพท์ของนัมจีฮุนที่ซ่อนอยู่ในลิ้นชัก เธอจำได้ในคืนนั้นสามีของเธอบอกว่าตำรวจไม่พบโทรศัพท์ของนัมจีฮุน เมื่อปลดล็อกโทรศัพท์และเห็นข้อความที่อยู่ในนั้น ฮเยจูถึงกับตกใจจนโทรศัพท์ตกหลุดมือ !
EP.9 ความจริงใจ
ฮเยจูพบข้อความในโทรศัพท์ของจีฮุน ที่ถูกซ่อนอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของสามี ทำให้ได้รู้ว่าการตายของจีฮุนไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างที่เข้าใจมาตลอด หากแต่เป็นการฆ่าตัวตาย
ฮเยจูพยายามรวบรวมสติ และเดินไปหาซูบินที่ห้อง แต่ก็พบว่าซูบินได้เก็บข้าวของออกไปจากบ้านแล้วโดยไม่บอกใคร สิ่งที่ฮเยจูต้องการรู้ก็คือ จีฮุนพูดอะไรกับซูบินก่อนที่เขาจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง เพราะบันทึกการโทร. ซูบินเป็นคนสุดท้ายที่คุยกับจีฮุน … ฮเยจูคิดว่าซูบินคงไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว (ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ)
ซูบินไปหาแม่แท้ ๆ ของเธอที่ร้านขายของ หลังจากที่แม่ทิ้งเธอไป และไม่ได้เจอกันมานานกว่าสิบปี เธอบอกกับแม่ว่าเธอท้อง แต่แม่ดูจะไม่สนใจเลยสักนิด … จังหวะนั้นก็มีเด็กนักเรียนหญิงชั้นมัธยมต้นเดินเข้ามา เด็กหญิงคนนี้เป็นลูกสาวคนใหม่ของแม่ชื่อ “ยุนซอ” (ชื่อเดียวกับลูกสาวฮเยจู) … น้ำเสียงของแม่ที่พูดกับลูกใหม่ชั่งแตกต่างจากน้ำเสียงที่พูดกับเธอ ซูบินได้แต่คิดน้อยใจ
หลังจากนั้น ซูบินก็ไปหาแม่อีกครั้ง แต่แม่ก็ยังมีท่าทีเย็นชากับเธอเหมือนเดิม และเมื่อซูบินถามถึงลูกสาวคนใหม่ แม่ก็อารมณ์เสียขึ้นมาทันที “แกรู้จักได้ยังไง ถ้าแต่ไปตีสนิทกับยุนซอล่ะก็ ฉันเอาแกตายแน่”
เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากแม่น้ำตาก็เอ่อล้นเบ้าทันที “หนูไม่ได้ขออะไรแม่ ขอให้มีความสุขกับลูกใหม่ก็แล้วกัน” จะต้องเจ็บปวดขนาดไหน หัวใจบาดลึกสักแค่ไหนที่แม่ผู้ให้กำเนิดของตัวเอง แสดงท่าทางเหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน น้ำตาของซูบินไหลออกมาไม่หยุด เธอโยนโทรศัพท์เอาไว้ให้แม่แล้วรีบหันหลังเดินออกมาทั้งน้ำตา
มนุษย์สายพันธุ์นักการเมือง
ต่อมา ส.ส.นัมจุงโดก็สารภาพกับภรรยาที่เขาปิดบังเรื่องโทรศัพท์ของจีฮุน เพราะเขาไม่ต้องการให้เธอเสียใจจากการรู้ความจริง
ระหว่างนั้น ส.ส.ฝ่ายตรงข้ามสืบรู้มาว่า หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อนักศึกษาแพทย์เป็นหญิงบริการ เมื่อมีข่าวนี้ออกไป ความคิดเห็นในโลกอินเทอร์เน็ตก็มองกฎหมายที่ ส.ส.นัมจุงโดกำลังผลักดันเป็นเรื่องไร้สาระทันที
เมื่อเป็นเช่นนั้น นัมจุงโดจึงงัดเอาคลิปที่เขาเคยเดินทางไปเยี่ยมพ่อแม่ของนักศึกษาแพทย์ เป็นคลิปที่เขายืนเฉย ๆ ปล่อยให้พ่อของนักศึกษาแพทย์ต่อยไม่ยั้ง และให้อูแจแอบถ่ายคลิปเอาไว้เพื่อเก็บเอาไว้ใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง … มันเป็นคลิปที่ถูกจัดฉากขึ้นเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง !!
หลังจากคลิปดังกล่าวถูกปล่อยออกไป ความคิดเห็นของชาวเน็ตก็เริ่มเปลี่ยนแปลง หันกลับมาสนับสนุนนัมจุงโดอีกครั้ง นี่แหละคือการเมือง ประชาชนที่ถูกอ้างว่าเป็นเจ้าของอำนาจ แต่แท้จริงแล้วก็เป็นเพียงเครื่องมือที่นักการเมืองนำเอาไปใช้อ้าง เพื่อความชอบธรรมในการใช้อำนาจ ไม่เว้นแม้แต่ นัมจุงโด ที่ใครต่อใครต่างยกให้เขาเป็นนักการเมืองน้ำดีที่แทบหาไม่ได้ แต่มันก็เป็นเพียงฉากหน้าที่ถูกสร้างภาพเอาไว้เท่านั้น … นี่สินะที่เขาเรียกว่า “มนุษย์สายพันธุ์นักการเมือง” ที่ไม่ว่าประเทศไหน ๆ ก็เหมือนกันหมด
EP.10 ความกังวล
ชายหนุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นเพื่อนของจีฮุนโทร. หาฮเยจูเพื่อนัดเจอที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง … ชายหนุ่มอ้างว่าเดินทางไปเรียนเมืองนอก เมื่อกลับมาเกาหลีก็ได้ข่าวการเสียชีวิตของจีฮุน จากนั้น เขาก็เล่าว่าซูบินเป็นเด็กสาวที่อยู่ในแก๊งเด็กเหลือขอ และมีนิสัยขี้ขโมย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชายหนุ่มต้องการรู้จากการนัดครั้งนี้คือ เด็กในท้องซูบินเป็นลูกจีฮุนจริงหรือไม่ ? ซึ่งเขาได้รับการยืนยันจากปากของฮเยจูว่าจริง
ผู้ช่วยอูแจเตือน ส.ส.นัมจุงโดเรื่องซูบินที่อาจกลับมาเรียกร้องเงินค่าปิดปากที่ท้องกับจีฮุน และอูแจยังเตือนด้วยว่า สิ่งที่น่าเป็นกังวลคือเรื่องยาไอซ์ที่อยู่ในการครอบครองของจีฮุน ซึ่งการที่เขาเสียชีวิตทำให้ตำรวจยุติการสืบสวน ทำให้ปริศนายังไม่ได้รับการคลี่คลายว่า “ทำไมจีฮุนถึงครอบครองยา ทั้ง ๆ ที่ตัวเขาไม่ได้เสพ” และอาจจะมีเรื่องอื่น ๆ อีกที่ยังไม่รู้ เรื่องที่ทำให้เส้นทางการเมืองของ ส.ส.นัมจุงโดมีรอยด่างพร้อย
คียองเห็นซึงฮีหมกมุ่นอยู่กับเรื่องการตายของซึงโฮ และต้องการทำลาย ส.ส.นัมจุงโด และฮเยจู เขาจึงออกปากชวนภรรยาให้ย้ายไปอยู่ด้วยกันที่ออสเตรเลีย แล้วทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง แต่ซึงฮีปฏิเสธทันที เธออ้างว่าเธอจะไม่ทิ้งแม่ให้อยู่เพียงลำพัง
ในคืนนั้น คียองจึงได้ตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง เขาโทร. ไปหา ส.ส.นัมจุงโดเพื่อให้หลักฐานการเก็งกำไรที่ดินโดยมิชอบของแม่ยาย ส.ส.นัมจุงโดถึงกับตาลุกวาวที่ได้ยินเช่นนั้น … หลักฐานที่ตามสืบเสาะหาอย่างยากลำบากแต่กลับคว้าน้ำเหลวมาตลอด มาตอนนี้กลับได้มาง่าย ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ
นัมจุงโดจึงใช้หลักฐานที่ได้มาไปต่อรองกับ ส.ส.ฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างวางมือต่อกันก่อนจะถึงการเลือกตั้งทั่วไป
เมื่อกลับมาถึงบ้าน นัมจุงโดตัดสินใจขอให้ฮเยจูเปิดเผยเรื่องในอดีตสมัยมัธยมให้สาธารณชนได้รับรู้ เพื่อใช้เรื่องที่เธอเคยโดนลวนลามสมัยเรียนมัธยมเป็นตัวโน้มน้าวเสียงของประชาชน ให้เห็นด้วยกับร่างกฎหมายที่เขากำลังผลักดัน
ฮเยจูคิดตัดสินใจอยู่ค่อนคืน จึงบอกกับสามีว่า เธอยอมให้เปิดเผยเรื่องที่เธอโดนลวนลาม แต่เธอจะไม่ออกสื่อแสดงตัว เธอขอให้สามีสัญญาว่าจะไม่ให้เธอต้องออกสื่อ ซึ่งเขาก็ตกลง
รุ่งขึ้น ฮเยจูกำลังออกจากบ้านไปทำงานตามปกติ แต่เมื่อเปิดประตูบ้านออกไปก็ต้องพบกับกองทัพนักข่าวที่รออยู่พร้อมกับคำถามที่ยิงเข้าใส่รัว ๆ “จริงหรือเปล่าคะ ที่มีข่าวว่าคุณเคยทำให้คนตายเมื่อ 20 ปีก่อน !?”
แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปพุ่งเข้าตาฮเยจู สลับกับแฟลชแบ็กที่เกิดขึ้นเมื่อยี่สิบก่อนวิ่งเข้ามาในหัว
EP.11 ฝันร้าย
นัมจุงโดบอกกับฮเยจูว่าเขาตัดสินใจจะเปิดเผยเรื่องในอดีตของเธอกับนักข่าว โดยให้เหตุผลว่าถ้าเรื่องนี้ถูก ส.ส.ฝ่ายตรงข้ามเปิดเผย จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี แต่สำหรับฮเยจูแล้วมันไม่ง่ายอย่างนั้น … การที่ใครคนหนึ่งปิดบังเรื่องหนึ่งเอาไว้ แล้วยังเจ็บปวดกับเรื่องนั้นแม้จะผ่านมานานกว่ายี่สิบปี มันย่อมไม่ใช่เรื่องที่จะเปิดเผยให้ใครรู้ได้ง่าย ๆ
นัมจุงโดรู้ดีว่าสิ่งที่เขาตัดสินใจส่งผลกับความรู้สึกของภรรยา แต่เขาก็ยังเลือกที่จะทำ เพราะมันจะทำให้เขายังคงเป็นนักการเมืองภาพลักษณ์ดีในสายตาประชาชนต่อไป และนั่นจะทำให้เขาชนะการเลือกตั้งพี่กำลังจะมาถึง !
ต่อมา ฮเยจูนัดเจอกับคียอง ขณะที่กล่าวขอบคุณเรื่องที่เขาเอาหลักฐานการเก็งกำไรที่ดินโดยมิชอบของแม่ซึงฮีให้กับสามีของเธอ จังหวะนั้น แม่ของซึงฮีก็มาเจอและได้ยินเรื่องที่ทั้งสองคุยกัน ทำให้รู้ว่าเธอโดนคียอง ผู้เป็นลูกเขยหักหลัง แม่ซึงฮีโวยวายออกมาดังลั่น “ฉันไม่มีทางปล่อยแกสองคนลอยนวลเด็ดขาด”
แม่ของซึงฮีขับรถออกไปด้วยความโกรธ จนไปเกิดอุบัติเหตุหลังจากออกไปได้ไม่ไกลนัก อย่างไรก็ตาม เธออาการปลอดภัยหลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ได้สติก็ตาม
ทีนี้ การที่แม่ซึงฮีรู้ว่าคียองหักหลัง และรู้ด้วยว่าฮเยจูเป็นภรรยาของนัมจุงโด ทำให้นัมจุงโดต้องขอร้องแกมบังคับให้ฮเยจูเอาเรื่องที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศในอดีตไปออกทีวี ฮเยจูไม่ยอม เธอปฏิเสธเสียงแข็ง
แล้วจู่ ๆ ระหว่างที่ทั้งสองกำลังทะเลาะกัน ลูกสาวของฮเยจูก็เข้ามา และกล่อมแม่ให้ไปออกทีวีเล่าเรื่องในอดีตด้วยความกล้าหาญ เพื่อช่วยพ่อให้เสนอร่างกฎหมายผ่านสภา … ฮเยจูเริ่มใจอ่อน
วันต่อมา ฮเยจูได้รับโทรศัพท์จากนัมจุงโด แจ้งข่าวที่ทำให้เธอถึงกับช็อก “จีฮุนล่วงละเมิดทางเพศ ผมจะจัดแถลงข่าวเร็ว ๆ นี้”
จากนั้น ภาพในอดีตก็แสดงให้เห็นว่า ซูบินไปแจ้งความที่สถานีตำรวจว่าเธอถูกล่วงละเมิดทางเพศ !?
EP.12 ความเป็นจริง
นัมจุงโดโทร. บอกฮเยจูว่าเขาจะจัดแถลงข่าวในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า แล้วก็รีบวางสายไป … ฮเยจูพยายามโทร. กลับไปแต่นัมจุงโดไม่รับสาย เธอจึงรีบไปที่สำนักงานของเขาทันที แต่ดูเหมือนว่ามันจะสายไปเสียแล้ว
ส.ส.นัมจุงโดกล่าวบนเวทีต่อหน้านักข่าวและประชาชนทั่วประเทศ โดยยอมรับว่าลูกชายของเขาเป็นอาชญากรที่กระทำการล่วงละเมิดทางเพศแฟนสาวที่คบกันในตอนนั้น จากนั้น ท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกียรติก็ประกาศจะยื่นร่างแก้ไขกฎหมาย ให้มีการดำเนินการสืบสวนคดีต่อไป แม้ผู้กระทำผิดทางเพศจะฆ่าตัวตายหรือเสียชีวิต
เมื่อนัมจุงโดกลับมาเจอฮเยจูที่สำนักงาน ก็พบว่าภรรยาน้ำตานองหน้า เขาจึงพูดแก้ตัวออกไปว่า “เมื่อเช้า ซูบินมาขู่ผมที่นี่ จะแฉเรื่องที่เธอโดนจีฮุนข่มขืนจนตั้งท้อง”
ฮเยจูงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเธอเคยถามซูบินตั้งแต่วันแรกที่เธอขอเข้ามาอยู่ที่บ้าน แต่ซูบินก็ตอบว่าเธอสมยอม ไม่มีการล่วงละเมิดแต่อย่างใด !? ยิ่งเมื่อฮเยจูได้รู้ว่า ซูบินมาแบล็กเมลนัมจุงโดเพราะต้องการเงิน 50 ล้านวอน (ประมาณ 1.3 ล้านบาท) เพื่อนำเงินไปหาที่อยู่ให้กับตัวเอง มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่มากขึ้นไปกว่าเดิม
ในสายตาของนัมจุงโด สิ่งที่เขาทำทั้งหมดเป็นสิ่งที่เขาเรียกอย่างสวยหรูว่า “การตอบโต้เชิงรุก” มันเป็นการกำจัดจุดอ่อนทางการเมือง และทำให้จุดอ่อนนั้นกลายเป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง แต่ …
แต่ฮเยจูดูออก เธอดูออกว่าสิ่งนัมจุงโดทำไป เป็นการใช้ประโยชน์จากการตายของลูกชาย เพื่อผลักดันร่างกฎหมาย … ใช้เรื่องระยำของลูกชายเพื่อประโยชน์ทางการเมือง … บางทีการเมืองคงจะไม่เหมาะสำหรับคนอย่างฮเยจู การเมืองที่เล่นบนความเชื่อของคน การเมืองที่เล่นกับความคิดของคน
“ฉันเสียใจ ตอนนี้คุณดูแปลกไปมาก” ฮเยจูพูดทั้งน้ำตานองหน้ากับนัมจุงโด
ความจริงที่ทับซ้อนอยู่บนความเชื่อใจ
ต่อมา ฮเยจูบังเอิญเจอซูบิน เธอเลยเข้าไปถามหาความจริง ซูบินก็บอกเช่นเดิมเหมือนอย่างที่เคยบอกว่า เธอไม่ได้ถูกจีฮุนล่วงละเมิดทางเพศ และก็ไม่เคยไปขู่นัมจุงโดด้วย “ฉันไม่ได้ขู่เขา ฉันไม่ได้ต่ำขนาดนั้น”
และก่อนที่ซูบินจะเดินจากไป เธอได้บอกความจริงอันน่าตกตะลึง ความจริงที่พังทลายความเชื่อใจในหัวของฮเยจูไปจนหมดสิ้น “คืนที่จีฮุนตาย คนที่เขาเจอเป็นคนสุดท้ายก็คือคุณลุง (นัมจุงโด)”
ที่บ้านคืนนั้น … ฮเยจูได้ถามนัมจุงโดถึงสิ่งที่เธอได้ยินมาจากปากซูบินว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่เขาก็ยืนยันว่า ซูบินโกหก
วันต่อมา นัมจุงโดกำลังคุยกับอูแจ ที่กำลังเป็นห่วงว่าฮเยจูจะรู้ความจริง เรื่องที่นัมจุงโดวางแผนทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง แต่ท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกียรติตอบกลับผู้ช่วยคนสนิทว่า “ภรรยาของฉันไม่มีทางสงสัยในตัวฉันหรอก”
จากนั้น นัมจุงโดก็สั่งอูแจให้เตรียมรับมือกับการแฉของซึงฮี และเขาได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่น่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก “ยังไงก็ไม่มีทางพิสูจน์ความจริงอยู่ดี แต่ฝ่ายที่ได้ใจประชาชนคือผู้ที่กำหนดความจริง”
ล่วงละเมิดทิพย์
แล้วภาพแฟลชแบ็กก็เผยให้เห็นความจริง … ย้อนกลับไป นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามใช้คลิปเสียงที่สูตินรีแพทย์บอกว่า ซูบินมาขอทำแท้งด้วยเหตุที่อ้างว่าถูกจีฮุนล่วงละเมิดทางเพศ ทำข้อตกลงกับนัมจุงโดให้หยุดขุดคุ้ยการเก็งกำไรที่ดินโดยมิชอบ
ต่อมา นัมจุงโดได้นัดเจอกับซูบินเพื่อถามความจริง ซูบินก็ตอบว่า เธอไม่ได้ถูกจีฮุนล่วงละเมิดทางเพศ แต่ที่เธอต้องบอกแบบนั้นกับหมอก็เพราะเธอต้องการใช้เป็นเหตุผลในการขอทำแท้ง และลูกที่อยู่ในท้องก็ไม่ใช่ลูกของจีฮุน แต่เป็นลูกของแฟนเก่า แล้วนัมจุงโดก็ให้เงินก้อนหนึ่งกับซูบินเพื่อนำไปเช่าบ้าน
นั่นหมายความว่า เรื่องที่จีฮุนล่วงละเมิดทางเพศซูบิน เป็นเรื่องที่นัมจุงโดแต่งขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองล้วน ๆ ไม่มีความจริงเจือปนเลยแม้แต่นิดเดียว !!!
EP.13 ความไม่ซื่อสัตย์
ฮเยจูสืบจนแน่ใจแล้วว่าในคืนก่อนที่จีฮุนเสียชีวิต นัมจุงโดไม่ได้ไปงานศพตามที่เขาบอก ถ้างั้น สามีที่เธอเชื่อใจแอบไปเจอใครถึงขั้นที่ต้องโกหก ? หรือว่าจะไปเจอจีฮุนจริง ๆ ตามที่ซูบินบอก ?
เมื่อถึงบ้าน ฮเยจูจึงย้อนถามนัมจุงโดถึงเรื่องในคืนนั้น เขาปฏิเสธว่าไม่ได้ไปเจอจีฮุน แต่ก็อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่ยอมบอกว่าไปเจอใคร
ในคืนเดียวกัน ซึงฮีโพสต์ข้อความแฉเรื่องเมื่อยี่สิบปีก่อนลงในอินเทอร์เน็ต จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรวดเร็ว
นัมจุงโดจึงอาศัยจังหวะนั้น โน้มน้าวให้ฮเยจูออกทีวีเพื่อเล่าความจริง เขาแนะนำว่าคนที่ได้ใจประชาชนจะเป็นคนกำหนดความจริง แต่ฮเยจูก็ยังปฏิเสธ และยังกล่าวสิ่งที่นัมจุงโดไม่คิดว่าจะได้ยิน “คืนนี้แยกกันนอนนะ”
รุ่งขึ้น ฮเยจูตื่นมาด้วยความหวาดผวา เมื่อพบว่ามียูทูบเบอร์มาเฝ้าอยู่ที่หน้าบ้าน ทำให้เธอต้องอำพรางตัวและหลบออกมาอีกด้านหนึ่งของบ้าน
ยิ่งไปกว่านั้น ลูกสาววัยมัธยมต้นก็มาคาดคั้นถามหาความจริง ซึ่งแม้ว่าฮเยจูจะบอกความจริงว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศจริง แต่ดูเหมือนมันจะสวนทางกับความเชื่อของลูกสาวตัวน้อย ที่เชื่อว่าเมื่อยี่สิบปีก่อน แม่กุเรื่องเพราะต้องการเงิน จนทำให้ชายหนุ่มอนาคตไกลคนนั้นต้องฆ่าตัวตาย … และจุดที่ทำให้ฮเยจูตัดสินใจจะออกทีวีเพื่อเล่าความจริงทั้งหมด
หลังนัมจุงโดได้รับโทรศัพท์จากฮเยจูว่าตัดสินใจจะออกทีวี เขาก็สั่งอูแจให้นัดนักข่าวเพื่อออกรายการในวันพรุ่งนี้ แต่อูแจเตือนว่าการกระทำแบบนี้จะทำให้ฮเยจูถูกประณามและทุกข์ใจมากขึ้นไปกว่าเดิม แต่นัมจุงโดก็พูดเหมือนเดิม “ฉันจำเป็นต้องทำ เพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า”
วันเดียวกัน ฮเยจูก็ได้รับโทรศัพท์จากหมอสูติที่เป็นเจ้าของไข้ซูบิน ที่ติดต่อมาเพื่ออยากจะบอกความจริงบางอย่าง ฮเยจูจึงรีบไปที่โรงพยาบาลทันที … เมื่อฮเยจูไปถึง หมอสูติก็ฉีกจรรยาบรรณแพทย์ทิ้ง โดยการเปิดเผยข้อมูลการรักษาของซูบินให้ฮเยจูได้รู้ หมอระบุว่าซูบินแท้งลูกไปแล้ว และซูบินก็ตั้งครรภ์ตอนที่จีฮุนอยู่ในเรือนจำ นั่นหมายความว่า ลูกในท้องซูบินไม่ใช่ลูกของจีฮุน … หมอจึงสรุปรวมความเองเลยว่า จีฮุนไม่ได้ข่มขืนซูบิน !
ความจริงต่าง ๆ ที่ฮเยจูได้รับมันทำให้เธอรู้สึกเชื่อใจใครไม่ได้เลย ไม่ได้เลยจริง ๆ
คืนนั้น ฮเยจูจี้ถามนัมจุงโดอีกครั้งว่าคืนนั้นเขาไปเจอจีฮุนหรือไม่ ? เขานิ่งอึ้งไปพักใหญ่ จากนั้นก็ตอบออกไปทั้งน้ำตาว่า เขาไปเจอและต่อว่าจีฮุนด้วยความโมโห มันเป็นเรื่องที่เขาเสียใจมากจนลนลาน เลยทำให้ต้องพูดโกหกออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ … ฮเยจูเข้าไปสวมกอดสามีทั้งน้ำตา
ระหว่างที่ฮเยจูกำลังนอน ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก เธอจึงรีบลุกขึ้นไปที่ร้านซ่อมหนังสือเพื่อปรับเครื่องทำความชื้น ขณะที่เดินออกมาจากร้าน ซูบินก็ยืนถือร่มรออยู่ พร้อมกับบอกว่ามีเรื่องสำคัญที่ต้องการจะบอก …
“สามีคุณป้า (ฮเยจู) กับป้าร้านก๋วยเตี๋ยว (คนที่ฮเยจูเคารพรักเหมือนพี่สาว) เป็นชู้กันค่ะ …” ซูบินพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ แต่มันทำให้ฮเยจูสะท้านไปทั้งตัว “… ฉันกับจีฮุนเห็นทุกอย่าง ตอนกลางวันก่อนที่จีฮุนจะเสียชีวิต สิ่งที่ฉันอยากจะบอกก็คือ คุณลุง (นัมจุงโด) อาจเป็นคนฆ่าจีฮุนก็ได้”
“เธอกล้าดียังไงมาพูดแบบนี้” ฮเยจูตวาดกลับไป แต่ก็โดนสวนกลับมาทันที
ซูบินใช้น้ำเสียงดุดันมากขึ้นไปกว่าเดิม ในขณะที่น้ำตาเริ่มคลอเบ้า “วันนั้น จีฮุนบอกฉันว่าจะไปเจอพ่อ เพื่อบอกให้หยุดคบชู้ แล้วหลังจากนั้นเขาก็ตายทันที นั่นแหละที่ทำให้ฉันคิดว่าคุณลุงอาจจะเป็นคนฆ่าจีฮุนก็ได้”
EP.14 การปฏิเสธ
ซูบินเล่าความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น … ตอนนั้น เธอต้องการเลิกกับแฟนเก่าที่เป็นนักต้มตุ๋นและพ่อค้ายา เธอจึงมาหาจีฮุนเพื่อขอที่ซุกหัวนอน จีฮุนจึงตั้งใจจะไปขอความช่วยเหลือจากฮเยจู เมื่อมาถึงที่บ้านเขากลับได้เห็นนัมจุงโดกับผู้หญิงคนนั้น มันจึงทำให้ภาพเมื่อห้าปีก่อนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง ภาพที่เขาตื่นขึ้นมากลางดึกและเห็นพ่อกำลังทำอะไรบางอย่างกับผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงคนที่ฮเยจูนับถือไม่ต่างไปจากพี่แท้ ๆ
จีฮุนรีบพาซูบินออกมาจากบ้าน และพามาที่ที่พัก จากนั้น เขาก็เล่าเรื่องที่พ่อคบชู้กับผู้หญิงคนนั้นมันกวนใจเขามาตลอดห้าปีที่ผ่านมา ตอนนั้นเขาตื่นขึ้นกลางดึกและได้เห็นภาพอันน่าสะอิดสะเอียนของพ่อ มันทำให้เขาต้องทำตัวเกเรเพราะไม่อยากอยู่บ้าน ไม่อยากจะนึกถึงภาพที่เห็นในคืนนั้นอีก
แล้วจีฮุนก็ออกไปหานัมจุงโด เพื่อยื่นคำขาดให้พ่อเลิกคบชู้กับผู้หญิงคนนั้น ไม่เช่นนั้น เขาจะแฉเรื่องอื้อฉาวนี้ให้ประชาชนคนทั้งประเทศได้รู้
แต่กลายเป็นว่าคืนนั้นเป็นคืนสุดท้ายของจีฮุน … ก่อนตาย จีฮุนได้โทร. มาหาซูบิน มันทำให้เธอมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเขาไม่ได้ฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน และอาจจะเป็นนัมจุงโดที่เป็นฆาตกร ?
มันเป็นไปได้อย่างนั้นเหรอ พ่อฆ่าลูก !!?
อย่างไรก็ตาม ซูบินก็บอกกับฮเยจูว่าเธอเชื่ออย่างนั้น เธอเชื่อว่าคนอย่างนัมจุงโดที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง คนที่ทำได้แม้กระทั่งใส่ร้ายลูกชายผู้ล่วงลับว่าเป็นโจรข่มขืนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง สามารถที่จะเป็นฆาตกรที่ลงมือฆ่าลูกของตัวเองได้ เธอเชื่ออย่างนั้น แม้มันจะยากที่จะเชื่อก็เถอะ
ฮเยจูกลับมาที่บ้าน สีหน้าของเธอเรียบเฉย แต่ลึกเข้าไปในดวงตามีแต่ความทุกข์ใจ เธอถามนัมจุงโดถึงเรื่องคบชู้ ซึ่งเขาก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่จริง แต่ …
แต่ความจริงคือความจริง ยอจิน (ผู้หญิงคนนั้น) ก็เดินก้มหน้าเข้ามา และกล่าวยอมรับกับฮเยจูว่า “สิ่งที่เธอกำลังสงสัยเป็นเรื่องจริง” !!!
รุ่งขึ้น นัมจุงโดถามอูแจ ผู้ช่วยของเขาว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนวันที่จีฮุนเสียชีวิต อูแจจึงส่งคลิปที่บันทึกจากกล้องหน้ารถให้ดู ภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นแสดงให้เห็นว่า อูแจจับได้ว่าจีฮุนมียาไอซ์อยู่ในมือ จึงให้เขาโยนทิ้งลงแม่น้ำฮันแล้วจะขับรถพาไปส่งบ้าน ตอนแรกจีฮุนก็โยนถุงยาไอซ์ลงแม่น้ำไปตามคำสั่ง แต่เมื่ออูแจเดินขึ้นมาบนรถ จีฮุนก็เดินลงไปในแม่น้ำงมหายาไอซ์จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่สุด
คลิปจากกล้องหน้ารถมันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ จีฮุนตายเพราะอุบัติเหตุ
ภาพตัดมาที่รายการทีวี นัมจุงโด ฮเยจู และพิธีกรหญิง นั่งกันเรียงรายภายในห้องออกอากาศ … ฮเยจูกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เธอถูกล่วงละเมิดทางเพศเมื่อยี่สิบปีก่อนว่าเป็นความจริง แต่ผู้ก่อเหตุการณ์ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองไปก่อน จึงทำให้ไม่มีการสืบสวนคดีต่อ
จังหวะนั้น นัมจุงโดก็แสดงบทบาทเป็นสามีต้นแบบ เอื้อมมือของตัวเองไปกุมมือฮเยจูเป็นการให้กำลังใจด้วยภาษากายต่อหน้าคนทั้งประเทศ
ในขณะที่ ภาพแฟลชแบ็กได้เผยให้เห็นคำรับสารภาพในอดีตของยอจิน (ชู้ของนัมจุงโด) ที่พูดกับอูแจว่า “เมื่อห้าปีก่อน ฉันถูกล่วงละเมิดทางเพศโดย ส.ส.นัมจุงโด” !!?
EP.15 ความจริง
ฮเยจูยอมออกรายการทีวี เพื่อเล่าเหตุการณ์ที่เธอตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศเมื่อยี่สิบปีก่อน เหตุผลเดียวที่เธอยอมเปิดเผยเรื่องที่เก็บงำเป็นความลับมานาน ก็เพราะต้องการพิสูจน์ให้ลูกสาวเชื่อว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง แต่ …
แต่ฮเยจูไม่รู้ใจสามีเลยว่า สิ่งที่นัมจุงโดทำไปทั้งหมดเป็นเพียงเพื่อหวังผลทางการเมือง
หลังจบรายการ ฮเยจูบอกกับสามีว่าจะขอหย่าทันที ท่าน ส.ส.นัมจุงโดตีหน้าเศร้าพร้อมกับเอ่ยปากออกไปว่า การหย่าต้องเกิดขึ้นหลังจากที่กฎหมายผ่านรัฐสภา เพราะตอนนี้ฮเยจูเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของร่างกฎหมายฉบับนี้ไปแล้ว ระหว่างนี้เขาขอให้ฮเยจูทำตัวเป็นปกติต่อหน้าสาธารณะ
ฮเยจูมองหน้าสามีด้วยความผิดหวังซ้ำหนักมากไปกว่าเดิม “คุณมันหน้าด้านแบบนี้เองเหรอ”
แผลที่เกาะกินหัวใจมาตลอดห้าปี
ระหว่างนั้น ฮเยจูก็ได้โทรศัพท์แจ้งว่ายอจินกินยาฆ่าตัวตาย เธอจึงรีบไปที่โรงพยาบาลทันที
เมื่อยอจินฟื้นขึ้นมา เธอก็เล่าสาเหตุที่เธอตัดสินใจจบชีวิตตัวเองกับฮเยจู นั่นเป็นเพราะเธอถูกนัมจุงโดล่วงละเมิดทางเพศเมื่อห้าปีก่อน ซึ่งเป็นห้าปีที่เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับความทุกข์ไม่ต่างไปจากขุมนรก … ยอจินเล่าบาดแผลที่เกาะกินหัวใจมาตลอดห้าปีให้ฮเยจูฟัง
คืนนั้น หลังจากนัมจุงโดได้ล่วงละเมิดเธอเรียบร้อยแล้ว เขาก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับคุกเข่าแล้วพูดคำเดิม ๆ ที่เขาใช้เป็นประจำ “ขอโทษ”
นี่สินะวิธีการที่ท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกียรตินัมจุงโดใช้เป็นประจำ พอทำอะไรผิดแล้วก็ขอโทษ แล้วก็ทำผิดอีก แล้วก็ขอโทษอีก ทำวนไปอยู่อย่างนี้ จากนั้นก็บอกว่ามันเป็นความผิดพลาด !
แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ ซึงฮีบังเอิญได้สิ่งที่ยอจินเล่าให้ฮเยจูฟัง ได้ยินเรื่องน่าอัปยศอดสูของนัมจุงโด … ซึงฮีจึงใช้เรื่องนี้บีบให้ฮเยจูกลับไปแถลงข่าวอีกครั้ง และกลับลำในสิ่งที่เธอพูดไปก่อนหน้านี้ว่าเป็นเรื่องโกหก !?
เพื่อตัวเองหรือเพื่อประชาชน ?
คืนนั้น ฮเยจูไปเผชิญหน้ากับนัมจุงโดอีกครั้ง เขาได้แต่ก้มหน้าตีหน้าเศร้าและพูดออกมาซ้ำ ๆ ว่า มันเป็นความผิดพลาด มันเป็นอุบัติเหตุ คำพูดจากปากสามีทำให้ฮเยจูถึงกับสติแตก กรี๊ดลั่นออกมาสุดเสียง แทบไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นคำพูดจากสามีที่เธอเชื่อมาตลอดว่าเป็นสุภาพบุรุษ แต่กลับพูดประหนึ่งว่าการล่วงละเมิดทางเพศเป็นอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ทั้งที่มันคือความตั้งใจที่เลวระยำ !
แล้วคำเดิม ๆ ก็ออกจากปากของนัมจุงโดอีกครั้ง “ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว”
แต่ฮเยจูไม่สนใจคำขอโทษที่ออกมาจนเฟ้ออีกต่อไป เธอยืนกรานกับเขาว่าจะเอาเรื่องฉาวนี้เปิดเผยต่อสาธารณชน และขอให้เขาเข้ามอบตัว “คุณรู้มั้ยว่าทำไมจู่ ๆ จีฮุนถึงกลายเป็นเด็กเกเร เพราะเขาเชื่อใจคุณเหมือนฉันยังไงล่ะ เราทั้งคู่ไม่คิดไม่ฝันเลว่าคุณจะทำเรื่องบ้า ๆ แบบนี้”
การตัดสินใจครั้งสำคัญ
ฮเยจูสับสน ไม่รู้จะจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไรดี เธอจึงเดินทางไปหาท่านประธานพรรคหญิง ที่เป็นคนชักชวนนัมจุงโดให้เข้ามาลงสนามการเมือง แต่คำตอบที่ได้จากท่านประธานพรรคคือ ขอให้ฮเยจูเก็บเรื่องฉาวของนัมจุงโดไว้เป็นความลับ โดยอ้างเหตุผลร้อยแปดพันประการว่าเขาเป็นนักการเมืองที่ดี ที่สามารถสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับประเทศได้อีกมากมายในอนาคต
ด้านซูบินที่ตามมาที่โรงพยาบาลก็ได้รู้ความจริงที่นัมจุงโดล่วงละเมิดยอจิน “ไอ้สัตว์นรก !” ซูบินสบถคำหยาบออกมา แล้วขอให้ยอจินเอาเรื่องไปแจ้งตำรวจ ซึ่งฮเยจูมาถึงพอดีจึงได้ห้ามซูบินเอาไว้ และบอกว่าให้เรื่องทั้งหมดเป็นการตัดสินใจของยอจินเอง
แต่เมื่อซูบินพูดประโยคหนึ่งขึ้นมา ก็ทำเอาฮเยจูถึงกับพูดไม่ออก “คุณป้า [ฮเยจู] ทำให้คนเชื่อว่าจีฮุนเป็นโจรหื่นกาม แต่พอกับผู้กระทำความผิดทางเพศตัวจริง ทำไมคุณป้าถึงปกป้องล่ะคะ”
รุ่งขึ้น ฮเยจูออกแถลงข่าวต่อหน้านักข่าวและประชาชนทั้งประเทศ “ลูกชายฉัน [จีฮุน] ไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศแฟนสาวตามที่มีข่าวไปก่อนหน้านี้ ฉันโกหกทั้งที่รู้ความจริง และสามีของฉัน ส.ส.นัมจุงโด ล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อห้าปีก่อนค่ะ” !!!
EP.16 ทางเลือก (ตอนจบ)
ตัวแปรที่ทำให้ฮเยจูตัดสินใจยากที่สุดคือลูกสาว เพราะถ้าเธอเปิดโปงเรื่องการกระทำความผิดทางเพศของนัมจุงโด ผลกระทบจะส่งไปถึงลูกสาวอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง แต่ฮเยจูมีบทเรียนมาจากอดีต การหนีความจริงไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย เธอจึงคิดว่าบทเรียนนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญที่สอนลูกสาววัยมัธยมต้นของเธอ ให้กล้าเผชิญหน้ากับปัญหา ไม่ว่าปัญหานั้นจะหนักหนาสาหัสสักแค่ไหน
ในขณะที่วิกฤติลูกใหญ่ที่สุดในชีวิตกำลังถาโถม ผู้ช่วยอูแจก็ได้ให้คำแนะนำกับ ส.ส.นัมจุงโดว่า อย่ายอมรับข้อหาเด็ดขาด แล้วเขาจะจัดการให้ข่าวเองว่ายอจินร้อนเงินจึงกุเรื่องข่มขืนขึ้นมา “ชีวิตการแต่งงานของท่านพังไปแล้ว ท่านต้องปฏิเสธเท่านั้น เพราะถึงยังไงก็ไม่มีหลักฐานที่จะมาเอาผิด เวลาผ่านไปเดี๋ยวคนก็ลืมกันไปเอง”
ท่าน ส.ส.นัมจุงโดเงียบกริบ ไม่มีคำพูดใด ๆ หรือปฏิกิริยาใด ๆ ตอบกลับ ความรู้สึกผิดชอบกำลังต่อสู้กันในหัวของเขา เขาควรจะเลือกอนาคตของตัวเองแบบไหนกันนะ ?
ระหว่างนั้น นัมจุงโดโทร. ไปหาฮเยจู ฮเยจูที่คอยอยู่เคียงข้างเขามาตลอด มาวันนี้เธอพูดเตือนสติเขาให้ยอมก้มหน้ารับความผิดที่ตัวเอง น้ำตาของท่าน ส.ส.ไหลพรากออกมาไม่หยุด น้ำตาที่บอกให้รู้ว่าภายใต้ความชั่วที่เคลือบด้วยความดีอันจอมปลอม ลึก ๆ แล้วเขาก็ยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่
นัมจุงโดอาศัยตอนที่อูแจเผลอ แอบขับรถหนีไปนั่งเล่นอยู่ริมชายหาดคนเดียวเพียงลำพัง เพื่อจะจบชีวิตตัวเอง
อูแจรีบโทร. บอกฮเยจูทันที เมื่อได้ยินแบบนั้น ฮเยจูจึงรีบบึ่งรถไปชายหาดที่เธอคาดว่าสามีของเธอจะไปทันที และก็ไปทันเวลาก่อนที่เขาจะจมน้ำตาย เมื่อลากเขาขึ้นมาบนหาด ฮเยจูก็ตวาดลั่นที่เขาเป็นผู้ชายขี้ขลาดที่ทำความผิดแล้วเลือกที่จะหนีความผิด
“ความผิดที่ผมทำมันน่าอับอายเกินกว่าที่ผมจะรับไหวจริง ๆ” นัมจุงโดก้มหน้าก้มตาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสะอื้นไม่ต่างอะไรกับเด็ก ๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็จงอยู่กับความละอายนั้นซะ อย่าขี้ขลาดหนีไปแบบนี้” ฮเยจูตวาดกลับไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดเช่นกัน เธอพูดเตือนสติว่าที่อดีตสามี … ทั้งสองเกลือกกลิ้งอยู่บนชายหาดด้วยน้ำตา
ต่อมา ส.ส.นัมจุงโดตัดสินใจเข้ามอบตัว ยอมรับความผิดที่ก่อเอาไว้ และกล่าวขอโทษต่อประชาชนที่ให้ความเชื่อใจเลือกเขาให้ทำหน้าที่เป็นตัวแทน … หัวหน้าพรรคประกาศขับนัมจุงโดออกจากพรรค อนาคตทางการเมืองของนัมจุงโด ส.ส.น้ำดีอนาคตไกลที่ใคร ๆ ต่างกล่าวขวัญจบลงเพียงเท่านี้ จบลงบนความอัปยศอดสูอย่างที่ไม่สามารถให้อภัยได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ระหว่างนั้น ภาพแฟลชแบ็กก็แสดงให้เห็นเหตุการณ์ในคืนวันที่จีฮุนตกน้ำเสียชีวิตอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่ไม่ใช่จากกล้องหน้ารถ อูแจเห็นว่าจีฮุนกำลังจมน้ำ แต่เขาตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปช่วย เพราะเขาคิดว่าจีฮุนคืออุปสรรคในเส้นทางการเมืองของนัมจุงโด เขาจึงปล่อยให้จีฮุนจมน้ำตายไปต่อหน้าต่อตา !!!
ซูบินบอกความจริงกับจองแดว่า เด็กที่เธอไปทำแท้งคือลูกของเขา ไม่ใช่ลูกของจีฮุน และเหตุผลที่เธอตัดสินใจทำแท้งเพราะไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับคนเลว ๆ อย่างเขาอีก จากนั้น ซูบินก็ไปแจ้งความเรื่องที่จองแดค้ายาเสพติด
ด้านซึงฮีก็ได้รู้ความจริงที่แม่ปิดบังมาตลอดยี่สิบปี ความจริงที่ว่าซึงโฮลวนลามฮเยจูจริง ๆ มันทำให้ซึงฮีผิดหวังมาก ๆ ที่เธอโดนบิดเบือนความจริงจนทำให้เข้าใจผิดมาตลอดยี่สิบปี อย่างไรก็ตาม ความจริงก็คือความจริง แม้ความจริงนั้นจะเจ็บปวดแค่ไหน เธอก็ต้องยอมรับมัน
ซึงฮีไปพบกับฮเยจูเพื่อขอโทษที่เข้าใจผิดมาตลอด แล้วทั้งสองก็เหมือนได้ย้อนกลับไปมีความรู้สึกเป็นเพื่อนรักสมัยมัธยมปลายอีกครั้ง เมื่อกำแพงแห่งการบิดเบือนและคำโกหกได้ถูกทำลายลงไป
หกเดือนต่อมา ณ เรือนจำแห่งหนึ่ง … ฮเยจูไปตีเยี่ยมนับจุงโดเพื่อยื่นเอกสารหย่า ก่อนเธอจะเดินออกจากห้องเยี่ยมไป นัมจุงโดก็พูดคำเดิมขึ้นมาอีกครั้ง “ผมขอโทษ ขอโทษจริง ๆ”
ในท้ายที่สุด ลูกสาววัยมัธยมต้นของฮเยจูก็เข้าใจสิ่งที่แม่ทำ เธอวิ่งเข้ามากอดแม่และขอโทษที่โกรธแม่มาตลอด … ส่วนยอจินก็เข้าพบจิตแพทย์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบห้าปีที่เธออาการดีขึ้น จิตแพทย์ที่ให้คำปรึกษาเห็นยอจินยิ้มออกมาอย่างผ่อนคลาย
และฮเยจูก็ได้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย กับอาชีพซ่อมหนังสือ หลังจากปลดปล่อยบาดแผลในใจที่เก็บเอาไว้มานานกว่ายี่สิบปีออกไปได้ แล้วภาพก็จบลงตรงรอยยิ้มอันเปี่ยมสุขของฮเยจู
จบบริบูรณ์
ดูซีรีส์เรื่องนี้ได้ที่ Netflix : คลิกที่นี่
Photos : ภาพหน้าจอจาก SBS Korea