Skip to content
สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ The Recruit (2022) ทนายซีไอเอ

สรุปเนื้อเรื่องซีรีส์ The Recruit (2022) ทนายซีไอเอ

ซีรีส์ The Recruit สปอยล์ : ทนายมือใหม่ที่ทำงานให้ซีไอเอ กำลังถลำลึกเข้าสู่วงการจารกรรมข้ามชาติที่เต็มไปด้วยอันตราย เมื่ออดีตเจ้าหน้าที่กำลังจะเปิดโปงความลับบางอย่างของหน่วยงาน …

EP.1 ผมเป็นทนาย ไม่ได้เป็นสายลับ

โอเว่น เฮ็นดริกซ์ (รับบทโดย โนอาห์ เซนตินีโอ) เพิ่งจบคอร์สซีไอเอพื้นฐาน และทำงานที่ซีไอเอได้สองวัน เขาประจำอยู่สำนักงานที่ปรึกษาทั่วไป ซึ่งต้องดูแลด้านกฎหมายทั้งหมดขององค์กร

จริง ๆ แล้วโอเว่นมีแววตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา มีสำนักงานกฎหมายหลายแห่งทาบทามเขาด้วยรายได้ก้อนโต แต่เขาก็ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ว่าเขาเป็นคนชอบความตื่นเต้นและท้าทาย นั่นอาจจะเป็นเพราะพ่อของเขาถูกระเบิดที่อัฟกานิสถาน

เนื่องจากเป็นน้องใหม่ โอเว่นจึงโดนรุ่นพี่รับน้องโดยมอบหมายงานชั้นต่ำที่สุดให้ทำ นั่นคือการนั่งอ่านจดหมายที่คนเขียนมาขู่ว่าจะเปิดเผยข้อมูลลับของซีไอเอ ซึ่งเขาจะต้องอ่านทีละฉบับ และตรวจสอบว่าผู้ส่งมีหลักฐานจริงตามที่ขู่หรือไม่ โอเว่นนั่งอ่านทีละฉบับอย่างจริงจัง แต่ก็พบว่าส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดเป็นการอ้างลอย ๆ จนมาถึงจดหมายฉบับหนึ่งที่ทำให้เขาสะดุด​ ข้อความระบุชื่อรหัสบางอย่าง “ฉันชื่อ แม็กซ์ เมลาดเซ่ (รับบทโดย ลอร่า แฮดด็อก) ตอนนี้อยู่ในเรือนจำที่ฟีนิกซ์ ช่วยฉันออกไปจากที่นี้ ไม่งั้นฉันจะแฉเรื่อง เชลบี้ ชอว์, พีดับเบิลยู บุตเชอร์ และคนอื่น ๆ พวกคุณติดค้างฉันอยู่”

โอเว่นนำเอาข้อมูลที่มีไปสืบเบื้องต้น จึงได้รู้ว่า พีดับเบิลยู บุตเชอร์ เป็นรหัสของปฏิบัติการในเบลารุสปี 2009 ส่วน เชลบี้ ชอว์ เป็นนามแฝงของเจ้าหน้าที่ภาคสนามที่ออกปฏิบัติงานตอนนั้น มีชื่อจริงว่าเจ้าหน้าที่หญิง กิลเบน (รับบทโดย เอนเจิล พาร์กเกอร์) ปฏิบัติงานอยู่ที่ฐานลับที่เยเมน ที่สำคัญคือไม่มีทางเป็นไปได้ที่คนนอกองค์กรจะรู้รหัสของปฏิบัติการและนามแฝงของเจ้าหน้าที่ นั่นหมายความว่าจดหมายฉบับนี้มีมูลให้สืบต่อ

ด้วยความน้องใหม่ไฟแรง เมื่อได้ข้อมูลสำคัญโอเว่นจึงรีบเอามันไปแจ้งหัวหน้า ไนแลนด์ (รับบทโดย วอนดี้ เคอร์ติส-ฮอลล์) ทันที ซึ่งเขาได้รับคำสั่งให้สืบสวนต่อไป

ฐานลับเยเมน

คืนนั้น โอเว่นเตรียมเก็บเสื้อผ้าเพื่อเดินทางไปฐานปฏิบัติการลับที่เยเมน อดีตแฟนและรูมเมทของเขาตื่นเต้นเป็นการใหญ่ แต่โอเว่นก็บอกว่าเขาเป็นทนายไม่ได้เป็นสายลับ เพราะฉะนั้นการเดินทางของเขาจากคำแนะนำจากสองรุ่นพี่ที่ทำงานก็คือ ให้นั่งเครื่องบินชั้นประหยัดและเก็บใบเสร็จเอาไว้มาเบิกเงิน ไม่ได้นั่งชั้นเฟิร์สคลาสพักโรงแรมห้าดาวอย่างที่เห็นในหนังสายลับอะไรแบบนั้น

โอเว่นไปถึงฐานลับที่เยเมน เขาสวมสูทใหม่เอี่ยมเข้าไปทักทายเพื่อนร่วมองค์กรที่ยืนรออยู่หน้าฐาน แต่สิ่งที่ได้ตอบแทนคำทักทายคือหมัดที่ตุ๊ยเข้าไปที่ท้อง น้องใหม่โอเว่นถึงกับเข่าทรุดลงไปกองกับพื้น ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ เขาก็ถูกลากเข้าไปที่ห้องสืบสวน และโดนทรมานโดยการดึงเล็บไปหนึ่งนิ้วเบาะ ๆ วินาทีนั้นเขากลัวจนฉี่ราดกางเกง ในที่สุด กิลเบนก็สั่งลูกน้องให้แก้มัดและปล่อยตัวโอเว่น หลังแน่ใจแล้วว่าเขาไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นเพียงน้องใหม่ไฟแรงที่โดนรุ่นพี่ที่สำนักงานเหม็นขี้หน้า จึงปล่อยให้เขามาฐานลับโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า

จากนั้น เจ้าหน้าที่หญิงกิลเบนก็กล่าวขอโทษเบา ๆ กับการสอบสวนที่เข้มข้นเมื่อกี๊ … ส่วนเรื่องแม็กซ์นั้น เธอให้ข้อมูลไม่ได้มากนัก เพราะเป็นปฏิบัติการที่ผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่จำได้ราง ๆ ว่าแม็กซ์เป็นสายข่าวคนสำคัญ เป็นตัวการระดับสูงในแก๊งมาเฟียรัสเซียในเบลารุส และมีเส้นสายในหน่วยข่าวกรองรัสเซีย

ก่อนจาก กิลเบนได้สอนการทำงานในซีไอเอให้กับโอเว่น “การทำงานที่ซีไอเอก็เหมือนกับการเล่นเก้าอี้ดนตรีที่ไม่มีวันจบ ทุกคนวางแผนเพื่อจะได้นั่งเมื่อเพลงหยุด วิธีที่ง่ายที่สุดที่ทำได้ก็คือการเตะตัดขาคนข้าง ๆ ถ้านายยังไม่มีแผนสำหรับตัวเอง นายเดือดร้อนแน่” แล้วเธอก็บอกเขาว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเล็บ เพราะเล็บมันงอกใหม่ได้

น็อตบ็อบ

วันที่สี่ในการทำงานที่ซีไอเอ … เช้ารุ่งขึ้นหลังกลับจากเยเมน หัวหน้าไนแลนด์เรียกตัวโอเว่นให้เข้าพบเป็นการด่วน เมื่อโอเว่นแจ้งว่าแม็กซ์เคยเป็นสายลับให้ซีไอเอจริง ไนแลนด์จึงสั่งให้เขาไปที่เรือนจำฟินิกซ์ทันที

แม็กซ์เป็นผู้ต้องขังรอการพิจารณาคดีฆาตกรรม สิ่งที่เธอต้องการคือทำให้คดียกฟ้อง … เธอเห็นโอเว่นแวบแรกก็รู้ได้ในทันทีเลยว่าเขาเป็นมือใหม่ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แม็กซ์มีทางเลือกไม่มาก เพราะเขาเป็นคนเดียวที่สนใจจดหมายที่เธอส่งไป สุดท้ายทั้งสองตกลงที่จะร่วมมือกัน แม็กซ์ให้ข้อมูลว่าคนที่เธอทำงานให้คือ “น็อตบ็อบ”

ที่แลงลีย์ … โอเว่นเอาเรื่องน็อตบ็อบไปถามคนรู้จักที่สำนักงาน ทำให้ได้รู้ว่าน็อตบ็อบคือตำนานของซีไอเอ คุมปฏิบัติการที่อันตรายที่สุด ที่เรียกว่าน็อตบ็อบเพราะเขาไม่ใช้นามแฝงว่าบ็อบหรือโรเบิร์ต แต่คำพูดจากเพื่อนร่วมงานที่ทำให้โอเว่นถึงกับอึ้งก็คือ “สายข่าวจะไม่รู้ชื่อจริงของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลตัวเอง และไม่มีทางรู้นามแฝงที่เรียกกันเฉพาะภายในสำนักงาน” คำถามคือ แม็กซ์รู้ได้ยังไง !?

และที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ ปัจจุบัน น็อตบ็อบคือหัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา

EP.2 ความซวยจากการรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้

ที่เบลารุสเมื่อ 5 ปีก่อน … แม็กซ์ถูกตั้งค่าหัวเนื่องจากไปทับเส้นผู้มีอำนาจเข้า เธอหนีหัวซุกหัวซุนเอาตัวรอดมาได้จากความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ซีไอเอคนหนึ่ง จากนั้นเธอก็มากบดานอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ในฟินิกซ์ สหรัฐอเมริกา แต่การกบดานอยู่ในอพาร์ตเมนต์แคบ ๆ เป็นเดือน ๆ เริ่มทำให้แม็กซ์สติแตก

ปัจจุบัน … โอเว่นโดนคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภาเรียกไต่สวน จากการไปปากแจ๋วใส่วุฒิสมาชิกที่ต้องการจะเปิดเผยเอกสารลับด้านความมั่นคง แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่โอเว่นควรกังวล แต่เขาดูไม่ค่อยกังวลเท่าไรนักเพราะมีเรื่องอื่นที่น่ากังวลยิ่งกว่า

การประชุมครั้งแรก

แลงลีย์ … วันนี้เป็นวันที่โอเว่นต้องเข้าประชุมครั้งแรก บรรยากาศภายในห้องประชุมไม่ต่างไปจากโรงเย็น ระหว่างนั้นโอเว่นก็ต้องงงกับบทสนทนาที่ไนแลนด์ใช้คุยกับลูกน้องในที่ประชุม ทุกคนคุยกันโดยใช้รหัสแทนสิ่งที่พวกเขากำลังพูดอยู่ เช่น “เพื่อนเราบอกว่าทะเลคลื่นแรงแต่ไม่มีพายุ” เช่น “มีปัญหาเกี่ยวกับการขนส่งสินค้ามั้ย ?” และเช่น “เรื่องท้องเสียในประเทศอูฐเป็นยังไงบ้าง ?”

ทีนี้ถึงตอนที่ไนแลนด์ยิงคำถามใส่โอเว่นบ้าง “คุณได้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับล้อที่ดังเอี๊ยดอ๊าดนั่นมั้ย ?”

งงสิ อะไรวะล้อเอี๊ยดอ๊าด ผ่านไปหลายวินาทีโอเว่นก็นึกขึ้นได้จึงตอบไปตรง ๆ โดยไม่ได้ใช้รหัสเหมือนที่คนอื่น ๆ ทำ “เราได้คุยกับอดีตสายข่าวคนนั้นแล้ว …” พูดยังไม่ทันจบประโยคแรก เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในห้องประชุมพากันร้องอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ โอเว่นที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยก็พูดต่อ “… ผมกำลังทำความเข้าใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับพวกมาเฟียรัสเซียยังไง” พูดถึงประโยคนี้เท่านั้นแหละ ทุกคนลุกขึ้นและเดินออกจากห้องประชุมทันที

โอเว่นหน้าเอ๋อรับประทานอยู่อย่างนั้น เขาพูดอะไรผิดวะเนี่ย !? เมื่อไนแลนด์เห็นเด็กใหม่โอเว่นทำหน้าเอ๋อ เขาจึงพูดขึ้นว่า “พวกนั้นไม่อยากให้สิ่งปฏิกูลของคุณเปื้อนรองเท้าพวกเขา”

บทเรียนที่เขาได้รับในวันนี้คือ ทุกอย่างที่ทำมีโอกาสที่จะโดนลากไปยืนต่อหน้าคณะกรรมาธิการ ดังนั้น มารยาทพื้นฐานของการเข้าประชุมที่นี่คือการไม่บอกข้อมูลมากเกินไป ไม่มีใครอยากรู้เรื่องที่ไม่จำเป็น เพราะเรื่องทุกเรื่องที่รู้อาจนำความซวยเข้าตัว

ระหว่างนั้น แม็กซ์โดนคู่อริส่งคนเข้ามาสังหารถึงในคุก แต่ด้วยสกิลการต่อสู้ระดับเทพทำให้เธอเอาตัวรอดมาได้ แม้จะโดนแทงเข้าท้องไปหนึ่งทีก็ตาม แต่ที่เหลือเธอก็แทงใส่คืนไม่ยั้งจนมือสังหารปางตาย

เมื่อโอเว่นรู้ข่าวจึงรีบบินมาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลในเรือนจำ เขาช่วยเอากระเป๋าเงินไปคืนให้กับพวกมาเฟียรัสเซียที่เป็นอริกับแม็กซ์เพื่อสงบศึก จากนั้น เขาก็เดินเรื่องขอโอนคดีของแม็กซ์มาที่รัฐบาลกลาง เพื่อดำเนินการถอนฟ้องต่อไป

โอลิมปิกของเหล่าสายลับ

วันเดียวกันนั้น โอเว่นก็ได้ความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับแม็กซ์ มีเจ้าหน้าที่ภาคสนามคนหนึ่งในเวียนนาเกี่ยวข้องกับเธอที่เบลารุสปี 2014

ไนแลนด์อนุมัติให้โอเว่นไปเวียนนาทันที แต่ก่อนไปโอเว่นได้รับคำเตือนว่าจากหัวหน้าว่า “เวียนนาคือเวทีโอลิมปิกของเหล่าสายลับ หน่วยข่าวกรองต่างชาติทุกแห่งส่งมือดีไป ฉะนั้นอย่างทำเป็นเล่น”

กรุงเวียนนา ออสเตรีย … สิ่งที่โอเว่นต้องการจากภารกิจครั้งนี้คือ ข้อมูลมากพอที่ทำให้เขารู้ว่า “ความลับ” ที่แม็กซ์รู้อยู่ในระดับที่อันตรายแค่ไหน และที่แน่ ๆ การเดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนการไปเยเมนที่ไปแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย การเดินทางครั้งนี้มีเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เซ็นอนุมัติ และเขามีหนังสือเดินทางทางการทูตเล่มสีดำ ที่อย่างน้อยเขาก็ไม่โดนรัฐบาลท้องถิ่นของประเทศนั้น ๆ เป่าหัวเมื่อถูกจับได้

ที่ห้องประชุมลับในสถานทูต โอเว่นได้ข้อมูลจากปากเจ้าหน้าที่คนนั้นที่ชื่อ แซนเดอร์ (รับบทโดย ไบรอน แมนน์) แม็กซ์เป็นคนจัดหาสิ่งที่พวกนักการเมืองรัสเซียและเบลารุสต้องการ แต่ความสามารถของเธอก็ไปเข้าตากับพวกแก๊งมาเฟียคู่อริ แล้วเจ้าหน้าที่คนนั้นก็กล่าวกับโอเว่นว่า “เธอตั้งเครือข่ายสายข่าวของตัวเอง” นั่นหมายความว่า เธอรู้ตัวตนของสายข่าวส่วนใหญ่หรืออาจจะทั้งหมดของซีไอเอในเบลารุสและรัสเซีย !!!

เมื่อได้ข้อมูลที่ต้องการโอเว่นจึงเดินทางกลับ โดยตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบเวียนนาจนถึงตอนนี้ เขาไม่รู้เลยว่ามีสายลับนักฆ่าจากสหประชาชาติ (หลายชาติ) แอบสะกดรอยเขาอยู่

โอเว่นนั่งแท็กซี่จากโรงแรมไปสนามบิน ระหว่างนั้นเขาก็โทร. หาแม็กซ์ ระหว่างนั้น เขาเหลือบไปเห็นใบอนุญาตขับรถกับหน้าคนขับไม่เหมือนกัน แม็กซ์รู้ได้ในทันทีว่าคนขับรถแท็กซี่เป็นนักฆ่า เธอจึงบอกให้โอเว่นฆ่าคนขับรถซะ ก็อย่างว่าอะนะ โอเว่นเป็นทนายไม่ใช่สายลับ เขาจึงไม่ทำตามที่แม็กซ์บอก แต่ใช้วิธีพูดให้คนขับจอด ตอนนั้นเองที่นักฆ่าคว้าปืนหมายสังหารโอเว่น แม็กซ์ที่อยู่ปลายสายก็ช่วยบอกว่าต้องทำยังไง ใช้เข็มขัดนิรภัยรัดคอบ้างล่ะ ใช้ปากกาแทงเบ้าตาแทงคอบ้างล่ะ สุดท้ายเขาก็เปิดประตูออกจากรถระหว่างที่รถติดและวิ่งหนีไปได้ เขาวิ่งมาถึงสะพาน แม็กซ์ตะโกนผ่านทางโทรศัพท์ให้เขากระโดดลงไปในน้ำถ้ายังไม่อยากตาย

อะไรวะเนี่ย ทนายนะเว้ยไม่ใช่สายลับ ถึงอย่างนั้นก็เถอะเมื่อสถานการณ์บีบ โอเว่นไม่มีทางเลือกจึงต้องกระโดดสะพานที่โคตรสูง เพื่อหนีเอาชีวิตรอดจากคมกระสุนของนักฆ่า

EP.3 เมืองที่ไม่มีอูฐ

โอเว่นขึ้นมาจากน้ำอย่างทุลักทุเล สภาพไม่ต่างจากลูกหมาตกน้ำ เมื่อขึ้นมาก็เจอกับสายลับสารพัดชาติชายหญิงยืนรอเขาอยู่ คุยได้ไม่กี่ประโยคโอเว่นก็แสดงให้เห็นว่า ตัวเขาไม่มีสกิลของการเป็นสายลับเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อพวกสายลับเหล่านั้นรู้ว่าโอเว่นเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ห่วย ๆ คนหนึ่ง จึงบ่นออกมาอย่างหัวเสียที่เขาทำให้เสียเวลา

ที่แลงลีย์ … โอเว่นรายการไนแลนด์ว่า แม็กซ์รู้ความลับที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับปฏิบัติการในรัสเซียและเบลารุส หรืออาจจะมากกว่านั้น ไนแลนด์จึงสั่งให้เขาดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและย้ำว่าห้ามผิดพลาดเด็ดขาด

โอเว่นไปที่ศาลเพื่อฟังการไต่สวนขอย้ายคดีฆาตกรรมของแม็กซ์ ให้มาอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลกลาง … ที่นั่น เขาเจอผู้หญิงคนหนึ่ง คนเดียวกับที่เคยพบและคุยด้วยตอนเขาพักอยู่ที่โรงแรมในฟีนิกซ์ โอเว่นเข้าไปทักทายจึงรู้ว่าเธอมาฟังการไต่สวนฉุกเฉินคดีฆาตกรรมพ่อของเธอ ซึ่งจำเลยก็คือแม็กซ์ … โอเว่นเห็นแววตาของหญิงสาวที่รู้สึกว่าความยุติธรรมกำลังหลุดลอยไป เขารู้สึกผิดต่อหญิงสาว แต่เขาเก็บความรู้สึกนั้นไว้

แม็กซ์ถูกพาตัวไปที่เรือนจำกลาง ที่นั่นเธอได้พบกับนักโทษหญิงคนหนึ่งชื่อ คอร่า ทั้งสองทักทายเหมือนรู้จักกันเป็นอย่างดี แม้ต่างฝ่ายจะบอกว่าไม่ใช่เพื่อนกัน จากนั้นภาพก็แฟลชแบ็กกลับไป …

ตอนนั้น แม็กซ์เปิดเซฟเฮาส์ผิดกฎหมายเพื่อให้อาชญากรเช่า คอร่าเป็นหนึ่งในผู้เช่าของเธอ ระหว่างนั้นคอร่าพยายามผูกมิตรสัมพันธ์กับแม็กซ์ จนวันหนึ่งคอร่าทำผิดกฎ เธอพาผู้ชายเข้ามาอยู่ที่เซฟเฮาส์ ต่อมาผู้ชายคนนั้นก็ซ้อมเธอจนแทบปางตายก่อนจะหนีไป แม็กซ์เข้ามาเห็นจึงโทร. 911 เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งทำให้คอร่าโดนตำรวจจับ

ต่อมา แม็กซ์จึงไปดักรอชายคนนั้นอยู่ที่จุดพักคนขับรถบรรทุก เธอใช้ท่อนเหล็กฟาดเขาจนตายคาที และเอากระเป๋าที่บรรจุเงินของแก๊งอาชญากรรมไปด้วย (กระเป๋าเดียวกับที่โอเว่นเอาไปคืนแก๊งมาเฟียรัสเซีย) โดยชายคนนั้นเป็นพวกเดียวกับแก๊งมาเฟียที่ขับรถบรรทุกบังหน้า

เมืองที่ไม่มีอูฐ

กลางดึกคืนเดียวกัน โอเว่นได้รับคำสั่งด่วนจากไนแลนด์ให้เดินทางไปเบรุตทันที ภารกิจด่วนสุดพิเศษนี้ เขาต้องไปเจรจาให้เจ้าหน้าที่ภาคสนามของซีไอเอคนหนึ่งที่ชื่อเดฟ เซ็นยินยอมหักเงินเดือนเป็นค่าเลี้ยงดูบุตร เพื่อที่เมียเก่าจะได้ไม่แฉความลับของสำนักงาน เมื่อรู้ภารกิจที่ตัวเองต้องไปทำ โอเว่นถึงกับเอ่ยปากออกมาว่า เป็นงานง่ายงานแรกตั้งแต่เข้ามาทำงานที่นี่

ภารกิจที่เบรุต โอเว่นต้องไปกับ เลสเตอร์ (รับบทโดย โคลตัน ดันน์) หนึ่งในสองรุ่นพี่ที่แกล้งรับน้องแรง ๆ กับเขาตั้งแต่ตอนที่เข้ามาทำงานวันแรก เลสเตอร์เคยเป็นเจ้าหน้าที่ภาคสนามที่เบรุต เมืองที่เลสเตอร์บอกว่าเป็นเมืองในดินแดนตะวันออกกลางที่ไม่มีอูฐ !?

เบรุต เลบานอน … เมื่อไปถึงโรงแรม โอเว่นกับเลสเตอร์ก็โดนเดฟและลูกน้องสองคนเซอร์ไพรส์ พวกเขานั่งรออยู่ในห้อง โอเว่นไม่รอช้ายื่นเอกสารยินยอมให้หักเงินเดือนในซองสีน้ำตาลให้ พร้อมกับบอกว่าเรื่องนี้จะจบลงง่าย ๆ เพียงปักปากกาเซ็นชื่อลงในกระดาษ เดฟขอเวลาอ่านเอกสารหนึ่งคืน

วันรุ่งขึ้นก็เป็นตามคาด เดฟเบี้ยวไม่เซ็นเอกสาร โอเว่นกับเลสเตอร์จึงต้องนั่งรถไปหาเดฟที่ฐานลับ ตอนแรกเดฟยืนกระต่ายขาเดียวว่าจะไม่เซ็น แต่โอเว่นก็ใช้สกิลปาก งัดกฎหมายและเรื่องแย่ ๆ ที่จะตามมาถ้าเขากลับไปแลงลีย์โดยไม่ได้ลายเซ็นบนเอกสาร สุดท้ายแล้วเดฟก็ยอมเซ็น

EP.4 โอเว่นมันเป็นใครวะ ?

โอเว่นอารมณ์ดีสุด ๆ ที่ภารกิจเบรุตลุล่วงไปได้ด้วยดี ระหว่างนั้นก็มีชายวัยกลางคนสวมแว่นท่าทางเนิร์ด ๆ ยัดเอกสารบางอย่างใส่ในมือเขาแล้วบอกว่า เป็นเอกสารเกี่ยวกับอุปกรณ์บางอย่างที่ใช้ AI ในการรวบรวมข่าวกรองของ OTS หรือสำนักงานบริหารด้านเทคนิคของซีไอเอ พูดจบชายคนนั้นก็รีบเดินจากไป แล้วบอกให้โอเว่นอ่านรายละเอียดเอาเอง

โอเว่นเปิดอ่านเอกสารคร่าว ๆ ก็พบว่ามันเกี่ยวกับโครงการที่เกี่ยวกับ “หุ่นยนต์ทรมาน” เขาจึงคิดว่าจะเสนอไนแลนด์มอบหมายเคสนี้ให้หนึ่งในรุ่นพี่ตัวแสบ ไวโอเล็ต (รับบทโดย อาร์ที แมนน์) เป็นคนดูแล เพราะเขาเห็นเธอบ่น ๆ ว่าต้องการความท้าทายในการทำงาน

โอเว่นไปที่ห้องทำงานของไนแลนด์ ซึ่งกำลังคุยอยู่กับเจ้าหน้าที่ดอว์นจากเยเมน คนเดียวกับที่เคยถอดเล็บเขานั่นแหละ โอเว่นแปลกใจที่ดอว์นมาที่นี่ และต้องแปลกใจมากไปกว่าเดิมเมื่อรู้ว่า ดอว์นต้องการส่งแม็กซ์กลับไปเป็นสายลับ เนื่องจากเธอใกล้ชิดกับนายพลคนหนึ่งที่ตอนนี้มีตำแหน่งเป็นเบอร์สองของ FSB หน่วยงานด้านความมั่นคงรัสเซีย การได้เธอกลับมาจะทำให้เข้าถึงหน่วยข่าวกรองรัสเซียได้โดยตรง ดังนั้น โอเว่นจะต้องหาวิธีเอาแม็กซ์ออกจากคุกโดยเหมือนไม่มีใครช่วยเธอ นั่นหมายความว่าแผนเดิมที่เขาจะขอให้อัยการยกฟ้องใช้ไม่ได้

จากนั้น โอเว่นก็บินไปหาแม็กซ์ที่เรือนจำกลางฟินิกซ์ เขาบอกกับเธอว่าเรื่องมันเริ่มซับซ้อนมากขึ้น และก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ พวกนั้นถึงต้องการเธอกลับไปเป็นสายลับ แม็กซ์รู้ทันทีว่าเรื่องนี้ต้องเป็นความคิดของแซนเดอร์ (เจ้าหน้าที่ที่โอเว่นไปพบที่เวียนนา) อย่างแน่นอน

ที่ว่าซับซ้อนนั้น นอกจากจะใช้อัยการมาช่วยทำให้คดีหายไปไม่ได้แล้ว ยังมีพยานเห็นแม็กซ์ฆ่าชายขับรถบรรทุกคนนั้นด้วย โอเว่นเตือนแม็กซ์ว่าห้ามสั่งฆ่าพยานคนนั้นเด็ดขาด

แต่ก็นั่นแหละ ห้ามได้ซะที่ไหนล่ะคนนี้ แม็กซ์ใช้เส้นสายตำรวจของคอร่าหาชื่อพยานในคดี และส่งนักฆ่าไปสังหารพยานโดยไม่สนใจคำเตือนของโอเว่นเลยแม้แต่นิดเดียว

หุ่นยนต์ทรมาน

ระหว่างนั้นที่สำนักงานบริหารด้านเทคนิคของซีไอเอ (OTS) เซาท์คาโรไลนา … ไวโอเล็ตไปตรวจสอบโครงการหุ่นยนต์ AI ที่ใช้ในการสอบสวน หุ่นตัวนี้มีชื่อเรียกว่าทิม สามารถพูดได้ร้อยภาษา และสามารถปรับเปลี่ยนโทนเสียงได้พันระดับ ตั้งแต่โทนนุ่มไปจนถึงเสียงน่ากลัว … ไวโอเล็ตเห็นห้องทดลองก็ถึงกับตกตะลึง เจ้าหุ่นทิมยืนนิ่งโดยมีฉากหลังเป็นเลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่วห้องทดลองที่ทาด้วยสีขาว เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหุ่นทิมได้ฉีกแขนเจ้าหน้าที่ระหว่างการทดลอง

ไวโอเล็ตกลับมาที่แลงลีย์พร้อมกับโจทย์สำคัญที่คิดไม่ตกว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง เธอระบายเรื่องที่กำลังเผชิญให้เลสเตอร์ฟัง “แทนที่คนพวกนั้นจะศึกษาก่อน ว่าการทำหุ่นยนต์เอไอเพื่อใช้ในการสอบสวนเป็นเรื่องที่ดีหรือเปล่า พวกเขากลับลงมือสร้างหุ่นเหล็กมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ขึ้นมาเฉยเลย …” เลสเตอร์ไม่เห็นว่าจะเป็นความผิดของไวโอเล็ตตรงไหน เธอจึงกล่าวต่อ “… มันผิดตรงที่มีชื่อฉันอยู่ในบันทึกทางกฎหมาย พอเรื่องนี้ถูกเปิดเผยจนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวระดับโลก ฉันจะกลายเป็นคนแรกที่ตกเป็นแพะรับบาป”

จากนั้น เลสเตอร์จึงช่วยไวโอเล็ตหาช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อจบเรื่องนี้แบบเนียน ๆ จนเธอไปพบเข้ากับกฎบัตรข้อหนึ่งที่ระบุว่า OTS ไม่จำเป็นต้องส่งรายงานจนกว่าการทดลองจะจบ ซึ่งในทางเทคนิคการทดลองยังไม่สิ้นสุดอย่างเป็นทางการ จนกว่าเจ้าหุ่นทิมจะถูกปิดสวิตช์

เมื่อปิ๊งไอเดียขึ้นมา ไวโอเล็ตจึงโทร. ไปสั่งเจ้าหน้าที่ที่ทำการทดลองทันที “สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ขังเจ้าหุ่นทิมเอาไว้ในตู้จนกว่าฉันจะเกษียณ” เจ้าหน้าที่ที่ห้องทดลองได้ยินก็ได้แต่ทำหน้างง ๆ

โปรแกรมคุ้มครองพยาน

โอเว่นกลับมาที่ห้องพัก ฮันนาห์ (รับบทโดย ไฟเวิล สตวร์ท) แฟนเก่าและรูมเมตกำลังเตรียมตัวไปงานระดมทุนเพื่อการกุศล เขาจึงขอไปกับเธอด้วย ในงานมี ส.ว.คนที่ส่งหนังสือเรียกเขาไปไต่สวนต่อหน้าคณะกรรมาธิการ โอเว่นกับฮันนาห์จึงคิดวางแผนบางอย่างขึ้นมา โดยฮันนาห์จะใช้ความที่พ่อแม่เป็นกรรมการสมาคม พาโอเว่นแนะนำให้เขาพูดคุยกับแขกวีไอพี เพื่อให้ ส.ว.คนนั้นสงสัยว่า “โอเว่นมันเป็นใครวะ ?” (แบบเดียวกับ “โน้สเพื่อนตุ้ม” นั่นแหละ 😂) … มันได้ผลจริง ๆ ส.ว.สั่งให้เลขาฯ เลื่อนการไต่สวนของโอเว่นออกไปก่อน ระหว่างที่สืบว่าเจ้าหนุ่มโอเว่นคือใครกันแน่ ใหญ่มาจากไหนถึงได้รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่มากมายขนาดนี้

หลังจากงานเลี้ยง โอเว่นก็ไปต่อที่บ้านของกิ๊กรุ่นพี่ที่ซีไอเอ คืนนั้น เขาก็ได้รู้ว่าซีไอเอมีโครงการให้ถิ่นที่อยู่กับสายลับที่ปลดเกษียณ ซึ่งคล้ายกับโปรแกรมคุ้มครองพยาน โอเว่นจึงเกิดไอเดียบรรเจิดขึ้นมาทันที เขาจะเอาพยานในคดีของแม็กซ์เข้าโปรแกรมย้ายถิ่นที่อยู่ โดยทำเนียนระบุในเอกสารว่าเป็นสายลับ

รุ่งขึ้น โอเว่นรีบไปหาพยานคนนั้นทันที โดยอ้างว่าจะพาเข้าโปรแกรมคุ้มครองพยาน ทุกอย่างกำลังไปได้สวย แต่จู่ ๆ ชายร่างยักษ์ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับอาวุธครบมือ ขายคนนี้เป็นนักฆ่าที่แม็กซ์จ้างมาปิดปากพยาน เวลานั้นเอง โอเว่นที่ต้องหนีเอาตัวเองให้รอด แถมยังต้องพาพยานหนีคมกระสุนอย่างทุลักทุเล โดยการทะลวงโพรงโถชักโครกแล้วรอดออกไป ก่อนจะพากันขึ้นรถขับหนีออกไปได้

ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ศาลยกฟ้อง แม็กซ์จะถูกปล่อยตัวคืนนี้ … หลังการพิจารณาคดี โอเว่นลงไปหาแม็กซ์ที่ใต้ถุนศาล เขาด่าเธอที่ไม่ไว้ใจเขาที่ส่งนักฆ่าไปสังหารพยานจนทำเขาเกือบตาย แม็กซ์กล่าวขอโทษโอเว่นจากใจจริง แต่โอเว่นโกรธจัดไม่ยอมรับคำขอโทษ เขาตวาดกลับไป “พอเถอะ ผมจะไม่ยุ่งกับคุณอีกแล้ว จากนี้ไปชีวิตคุณจะขึ้นอยู่กับฝ่ายปฏิบัติการภาคสนาม พวกนั้นจะไปรับตอนคุณปล่อยตัว”

ที่จริงแล้ว โอเว่นรู้สึกผิดกับผู้หญิงที่เป็นลูกสาวของเหยื่อที่แม็กซ์ฆ่า เขาเห็นหญิงสาวคนนั้นวิ่งร้องไห้ออกไปจากศาลหลังจากแม็กซ์พ้นผิด มันทำให้เขารู้สึกผิด รู้สึกผิดที่พรากความยุติธรรมไปจากคนที่สมควรจะได้รับ เขาคิดเช่นนั้น … ระหว่างขับรถกลับ เขาแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เขาจึงโทร. หาฮันนาห์ เวลาที่เขาไม่สบายใจเขามักจะโทร. หาฮันนาห์เสมอ เพราะฮันนาห์จะทำให้เขารู้สึกดีขึ้น

แม็กซ์เปลี่ยนชุดเตรียมตัวออกจากเรือนจำ วินาทีแรกที่ประตูเรือนจำเปิดออก แม็กซ์หลับตาและสูดกลิ่นของอิสรภาพเข้าเต็มปอด

EP.5 คุณเป็นคนเดียวที่ฉันพึ่งพาได้

เจ้าหน้าที่สองนายรอรับตัวแม็กซ์หลังออกจากเรือนจำ พวกเขาพาเธอกลับมาที่บ้าน บ้านที่ข้าวของภายในถูกรื้อค้นกระจัดกระจายเละเทะ แม็กซ์รู้สึกไม่โอเคจึงขอเข้าไปนอนในห้อง เมื่อปิดประตู เธอก็เอนหลังพิงประตูและทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ ในขณะที่น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด แต่แม็กซ์เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมากพอที่จะไม่ให้ความเศร้าครอบงำนานเกินไป ไม่ถึงนาทีเธอก็ลุกขึ้นไปเปิดช่องลับที่ซ่อนหลังตู้เสื้อผ้า เธอใช้มีดคัตเตอร์กรีดวอลล์เปเปอร์และค่อย ๆ เปิดออก ด้านในเป็นโพรงเล็ก ๆ มีกระเป๋าเก็บเงิน ปืนกึ่งอัตโนมัติ และรูปลูกสาวของเธออยู่ในนั้น ในโพรงลับมีช่องลับใต้ดินที่เชื่อมต่อกับโรงรถของบ้านที่อยู่ถัดออกไปสองสามหลัง โรงรถมีรถที่แม็กซ์เตรียมเอาไว้สำหรับหลบหนีจอดอยู่ แม็กซ์หนีไปได้อย่างชิล ๆ สมแล้วกับสายลับระดับแนวหน้าของซีไอเอ !

หลังผ่านเรื่องแย่ ๆ โอเว่นกลับมาวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วยความอ่อนล้า แต่ก่อนที่เขาจะออกไปทำงาน เจ้าหน้าที่ลับก็มาเชิญตัวเขาไปพบกับหัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดี หรือ “น็อตบ๊อบ” มันเป็นการนัดพบอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อที่จะบอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนดูแลแม็กซ์ แต่มีคนบางคนเอาฉายาที่เรียกกันภายในสำนักงานของเขาไปบอกเธอ ซึ่งเขาขอให้โอเว่นตามหาว่า “คนคนนั้น” คือใคร ? โอเว่นปฏิเสธทันที โดยอ้างว่าเขาถอนตัวจากเรื่องนี้แล้ว แต่ก็นั่นแหละ คำปฏิเสธไม่ใช่สิ่งที่น็อตบ็อบคาดหวังที่จะได้ยิน โอเว่นจึงจำใจตกลง

จากนั้น แม็กซ์ก็ไปเสนอขายเซฟเฮาส์กับคู่อริมาเฟียรัสเซียเป็นเงิน 6 ล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการกลับเข้าแก๊งที่เบลารุสได้อย่างปลอดภัย แต่พวกมันกลับหักหลังและคิดจะจับเธอ จึงทำให้เกิดการต่อสู้กัน อย่างไรก็ตาม ด้วยปืนที่อยู่ในมือทำให้แม็กซ์หนีไปได้

เมื่อแผนขายเซฟเฮาส์ไม่ได้ผล แม็กซ์จึงติดต่อกลับไปที่ซีไอเอโดยยืนกรานว่าจะดีลกับโอเว่น ทนายคนดีคนเดิมเท่านั้น ณ จุดนี้ โอเว่นไม่มีทางเลี่ยง ไนแลนด์สั่งให้เขาบินไปฟินิกซ์เพื่อเคลียร์เรื่องทั้งหมดทันที

ใคร ๆ ก็อยากเป็นน็อตบ็อบ

ที่โรงแรมฟินิกซ์ออโรร่า … แม็กซ์ในชุดเดรสเปิดหลังสีแดงสดนั่งจิบค็อกเทลรออยู่ที่บาร์ เธอยืนยันจะให้โอเว่นเปิดห้องสวีตของโรงแรมนี้ แต่พ่อทนายโอเว่นของเราก็ประหยัดเกิ๊น จะไปเปิดโรงแรมจิ้งหรีดราคาถูกที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ แม็กซ์ก็ดื้อสุดฤทธิ์ เธออ้างว่าพรุ่งนี้เช้ามีเรื่องบางอย่างต้องทำที่นี่ โอเว่นจึงจำใจกัดฟันเปิดห้องสวีตราคา 1,700 ดอลลาร์ (ประมาณ 6 หมื่นบาท) แต่บัตรเครดิตวงเงินเต็ม เขาจึงต้องโทร. ไปยืมใช้บัตรเครดิตของฮันนาห์

เมื่อมาถึงห้อง แม็กซ์ก็ปลดชุดเดรสสีแดงแล้วชวนโอเว่นให้อาบน้ำด้วยกัน แต่เขาปฏิเสธเพราะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก แม็กซ์จึงตะโกนออกมาจากห้องน้ำด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงคนยุโรปตะวันออก “คิดว่าการไม่มาอาบน้ำกับฉันจะทำให้คุณดูเป็นคนดีหรือไง”

“เปล่า คุณไม่ใช่สเปกผม” โอเว่นตอบ

“นี่เป็นครั้งแรกที่คุณพูดโกหกฉันสินะ ทำไมต้องเป็นกังวลเรื่องเซ็กส์ เราโต ๆ กันแล้วนะ เราก็แค่สนุกด้วยกัน” แม็กซ์พูดขณะที่นอนอยู่ในอ่างน้ำที่ตีฟองจนท่วม

แม็กซ์อาบน้ำเสร็จแล้วก็กินอาหารที่รูมเซอร์วิสเอามาเสิร์ฟ เธอพยายามเรียนรู้โอเว่นมากขึ้น ทั้งสองผลัดกันถามเรื่องที่ตัวเองอยากรู้ จนโอเว่นยิงคำถามว่าเธอเรียกให้เขามาทำไม คำตอบที่จริงจังก็ออกจากปากของเธอ “เพราะคุณเป็นคนเดียวที่ฉันพึ่งพาได้”

รุ่งเช้า ในทีวีมีภาพข่าวการประชุมคณะทำงานประธานาธิบดี โอเว่นจึงถามแม็กซ์ว่าคนไหนคือน็อตบ็อบ ซึ่งเธอตอบไม่ได้ จากนั้นก็สารภาพว่าเธอได้ยินชื่อ “น็อตบ็อบ” มาจากแซนเดอร์ตอนเมา “ไม่มีใครในองค์กรของคุณไม่รู้จักน็อตบ็อบ แซนเดอร์ต้องการเป็นน็อตบ็อบ แต่เขาไม่ใช่”

EP.6 ไว้ใจใครได้บ้าง

แม็กซ์ขอร้องให้โอเว่นเข้าไปเจรจาขายเซฟเฮาส์กับหัวหน้าแก๊งมาเฟียสุดโหด แม้จะสุ่มเสี่ยงกับการเอาชีวิตตัวเองไปทิ้งได้ง่าย ๆ แต่โอเว่นก็ยอมทำตามคำขอ เขาใช้ความเป็นทนายปากแจ๋ว และอ้างถึงผลประโยชน์ทางอ้อมที่หัวหน้าแก๊งมาเฟียจะได้รับ ถ้าแม็กซ์กลับเข้าแก๊งมาเฟียรัสเซียที่เบลารุส สุดท้ายโอเว่นเจรจาจนขายเซฟเฮาส์ได้เงิน 7 ล้าน

หลังจบเรื่องขายเซฟเฮาส์ โอเว่นก็พาแม็กซ์นั่งเครื่องบินทหารมาที่เวอร์จิเนีย ที่นั่น ดอว์นมารอรับแม็กซ์เข้าบรรจุเป็นสายลับใหม่ด้วยตัวเอง … ดอว์นพาแม็กซ์ขึ้นรถขับไปแลงลีย์ ทิ้งให้โอเว่นหาทางกลับเองซะอย่างนั้น

ขณะที่แม็กซ์กับดอว์นอยู่บนรถ ทั้งสองก็คุยกันเหมือนกับคนที่รู้จักกันมานาน ที่แท้ดอว์นก็คือ “ผู้ดูแล” ของแม็กซ์ที่เบลารุส !

เมื่อกลับมาที่วอชิงตัน ดี.ซี. โอเว่นก็ถูก “น็อตบ็อบ” เรียกตัวไปพบแบบลับ ๆ โอเว่นแจ้งไปว่า แซนเดอร์เป็นคนเอาชื่อน็อตบ็อบไปบอกกับสายข่าว จากนั้นน็อตบ็อบก็ขอให้เขาเป็นสายใน OGC ให้ แต่โอเว่นปฏิเสธ

ณ สำนักงาน OGC แลงลีย์ … โอเว่นเข้าพบไนแลนด์แจ้งเรื่องที่เขาพบกับน็อตบ็อบ และถูกทาบทามให้สอดแนมภายในสำนักงาน ซึ่งไนแลนด์บอกว่ารู้เรื่องนี้แล้ว เพราะน็อตบ็อบเป็นคนโทร. มาบอกเขาเองว่าเป็นการทดสอบ และโอเว่นก็ผ่านการทดสอบ … โอเว่นรู้สึกสับสนมาก กับการทำงานท่ามกลางความไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรโกหก แต่นี่แหละคือซีไอเอ

อย่างไรตาม แม็กซ์ก็ผ่านการทดสอบการวัดผลด้านจิตวิทยาและการเข้าเครื่องจับเท็จไปได้ แม็กซ์ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังไปหลายขวดและอั้นฉี่ เพื่อให้อัตราการเต้นของหัวใจแกว่ง จนสุดท้ายก็ผ่านเครื่องจับเท็จได้

ระหว่างนั้น โอเว่นสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง เขาเชื่อว่าดอว์นกับแม็กซ์มีความลับบางอย่างปกปิดเอาไว้ ซึ่งก็เป็นเหตุผลเดียวกับที่ไนแลนด์ส่งโอเว่นไปปฏิบัติภารกิจส่งแม็กซ์กลับเข้าแก๊งมาเฟียรัสเซียด้วย เขาต้องการให้โอเว่นจับตาดูดอว์นเอาไว้ และกำชับให้เขาหาหลักฐานเอาผิดถ้าดอว์นทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อองค์กร

บนเครื่องบินทหาร … ดอว์นแจ้งแผนอีกครั้ง แม็กซ์กับโอเว่นจะถูกส่งไปที่อิตาลี ที่นั่นทั้งสองจะเดินทางด้วยรถยนต์ไปถึงเจนีวา เพื่อไปเบิกเงินสดออกจากบัญชีที่อยู่ในชื่อของแม็กซ์ จากนั้นทีมของดอว์นจะถือกระเป๋าเงินสดนั้นแล้วมุ่งหน้าไปเยอรมนี และจะเริ่มวางแผนภารกิจให้แม็กซ์กลับไปที่เบลารุส

และที่ซับซ้อนมากขึ้นไปอีกก็คือ ไนแลนด์ส่งเลสเตอร์กับไวโอเล็ตไปช่วยโอเว่นอย่างลับ ๆ โดยไนแลนด์ย้ำสิ่งที่สำคัญที่สุดของภารกิจในกรณีที่เกิดปัญหาก็คือปกป้ององค์กร และถ้าในกรณีที่ไม่สามารถช่วยโอเว่นได้ก็ไม่เป็นไร เพราะทนายใหม่มีอีกเยอะแยะ !

EP.7 อย่าเปิดโอกาสให้ใครทรยศเรา

เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ … แม็กซ์กับโอเว่นมาถึงห้องพัก โดยมีแซนเดอร์นั่งรออยู่ ทั้งสามตกลงกันที่จะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จโดยจะไม่ก่อปัญหา จากนั้น โอเว่นก็ไปสถานกงสุลเพื่อทำธุระบางอย่าง

ค่ำวันเดียวกัน แม็กซ์กับโอเว่นไปดินเนอร์ด้วยกัน เธอได้มอบนาฬิกาเป็นของขวัญให้เขา โดยไม่ได้บอกว่าเป็นนาฬิกาที่ติดตั้งจีพีเอสซ่อนอยู่ และคืนนั้นทั้งสองก็มีความสัมพันธ์กัน

รุ่งขึ้น ที่ธนาคารเจนีวา … โอเว่นกับแม็กซ์ไปเบิกเงินจากบัญชีตามแผน แต่พนักงานกลับแจ้งว่า “บัญชีถูกอายัดโดยรัฐบาลสหรัฐฯ” !

งานงอกล่ะสิ ระหว่างที่โอเว่นกำลังคิดไม่ตกว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไง แม็กซ์ก็คิดแผนบางอย่างขึ้นมาได้ เธอดึงตัวโอเว่นกลับเข้าไปในธนาคารอีกครั้ง และขอเปิดตู้นิรภัยที่เธอเช่าเอาไว้ ในนั้นมีหนังสือเดินทางหลายเล่ม ปืนกึ่งอัตโนมัติ ซองสีน้ำตาล ซึ่งแม็กซ์บอกว่าเป็นซองที่กุมความลับมูลค่า 2 ล้านยูโร ในนั้นยังมีรูปแม็กซ์อุ้มลูกสาว และสมุดบันทึกเล่มเล็ก ๆ เล่มหนึ่ง ซึ่งโอเว่นแอบหยิบใส่กระเป๋าตอนที่แม็กซ์เผลอ

แม็กซ์โทร. นัดเจอมาเฟียใหญ่ที่ชื่อ คิริลล์ จากนั้น เธอบอกให้โอเว่นเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ และจะแอบออกไปทางประตูหลังโดยไม่ให้ใครรู้ เธอโน้มน้าวให้เขาอย่าบอกอะไรกับใครในเรื่องที่ไม่จำเป็น “คุณคิดจริง ๆ หรือว่าเพื่อนร่วมงานจะไม่หักหลังคุณ อย่าเปิดโอกาสให้ใครทรยศเรา ไว้รอดแล้วค่อยมาขอโทษ ยังดีกว่าต้องตายเพราะเชื่อใจคนผิด”

แม็กซ์เจอกับศิริลล์ เธอเผยความลับที่เขาอยากรู้มานาน ความลับที่ว่า “ใครเป็นชู้กับเมียของเขา” แม็กซ์ยื่นซองสีน้ำตาลให้มาเฟียใหญ่ แลกเงินค่าหัวที่เขาตั้งเอาไว้ 2 ล้านยูโร … เมื่อศิริลล์เปิดซองสีน้ำตาลนั้นก็ถึงกับร้องลั่นออกมาด้วยความโกรธ ชายชู้คนนั้นคือแซนเดอร์ !

ในคืนนั้น แซนเดอร์กำลังเปิดเข้าห้องพักของโอเว่นกับแม็กซ์ เขาโดนแทงที่ท้องและถูกผลักตกลงมาจากระเบียง ร่างของแซนเดอร์ร่วงลงกระแทกกระโปรงหน้ารถคันที่จอดอยู่

EP.8 ครั้งแรกสำหรับคุณเป็นเรื่องที่น่าเศร้า

แม็กซ์กับโอเว่นเดินกลับมาใกล้ถึงโรงแรม ตำรวจและคนมุงดูศพของแซนเดอร์ที่เสียชีวิตอยู่บนหน้ากระโปรงรถ แม็กซ์จึงดึงมือโอเว่นให้รีบออกไปจากที่นั่น ในขณะที่เลสเตอร์กับไวโอเล็ตเตรียมทำในสิ่งที่ต้องทำเพื่อปกป้ององค์กร นั่นก็คือทำลายหลักฐานภายในห้องพักโรงแรมไม่ให้เชื่อมโยงมาถึงซีไอเอ

แต่สิ่งที่วุ่นวายซับซ้อนขึ้นมาอีกหนึ่ง ฮันนาห์นั่งเฟิร์สคลาสบินตรงมาที่เจนีวา เพราะเธอเป็นห่วงโอเว่น และเมื่อมาถึงที่หน้าโรงแรมฮันนาห์ก็พบกับศพอยู่หน้าโรงแรม มันยิ่งทำให้เธอเป็นห่วงโอเว่นมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ แต่ปัญหาก็คือเธอติดต่อโอเว่นไม่ได้นี่สิ

บนรถบัสโดยสารประจำทางสายยูโรปามุ่งหน้าไปเยอรมนี โอเว่นเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา เมื่อแม็กซ์เห็นเธอจึงคว้าโทรศัพท์ของเขาโยนทิ้งออกไปนอกรถทันที จากนั้นเธอก็บอกสิ่งที่เธอเป็นกังวล ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องหนีอยู่ในตอนนี้ นั่นก็คือ คนที่ฆ่าแซนเดอร์ไม่ใช่ศิริลล์ และเป้าหมายที่แท้จริงของมือสังหารก็ไม่ใช่แซนเดอร์ “เป็นไปได้ว่าแซนเดอร์ไม่ใช่เป้าหมาย มือสังหารอาจจะตั้งใจฆ่าฉันหรือเรา เขาซวยเองที่ไปที่นั่นตอนนั้น”

ระหว่างนั้นมีการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กันอย่างเคร่งเครียดที่แลงลีย์ … การตายของแซนเดอร์และปฏิบัติการที่ดูเหมือนจะล้มเหลวทำให้ผู้อำนวยการซีไอเอไม่พอใจ แต่ดอว์นยังเชื่อว่าสายข่าว (แม็กซ์) ยังคงทำงานอยู่ และการตายของแซนเดอร์เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการ “เราต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาปฏิบัติการนี้ไว้ สายข่าวคนนี้เข้าถึงตัวนายพลที่เป็นเบอร์สองของหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ถ้าสายข่าวกลับเข้าไปได้สำเร็จ จะกลายเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 40 ปีต่อหน่วยข่าวกรองรัสเซีย” ดอว์นขอเวลา 24 ชั่วโมงในการจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย

กลับบ้าน

แม็กซ์กับโอเว่นมาถึงฐานลับที่เยอรมนี ณ จุดนี้ ดอว์นกับลูกน้องเตรียมพร้อมกับปฏิบัติการส่งแม็กซ์กลับบ้าน มีโดรน RQ-4 Global Hawk คอยสอดแนม มีรถบรรทุกปฏิบัติการเคลื่อนที่ และกองกำลังอาวุธครบมือที่เฝ้าระวังและคุ้มกันให้ทางภาคพื้นดิน ทั้งหมดเตรียมการไว้เพื่อให้แม็กซ์ไปพบมาเฟียระดับสูงชื่อเล็ฟ ที่กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก

ทุกพื้นที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน บนถนนมีการโรยเกลือเพื่อไม่ให้หิมะปกคลุมถนน ดอว์นสั่งให้ลูกน้องเข้าประจำจุดดูแลความปลอดภัยให้แม็กซ์จากระยะไกล ส่วนทนายโอเว่นก็อยู่เฝ้ารถปฏิบัติการเคลื่อนที่ … แม็กซ์ขับรถ BMW มุ่งหน้าไปพบเล็ฟที่สถานที่นัดหมาย

แต่สิ่งที่แปลกสำหรับครั้งนี้ก็คือ เป็นครั้งแรกที่แม็กซ์บอกกับโอเว่นว่าเธอกลัว เธอกลัวว่าจะไม่ได้กลับบ้าน เพราะเป็นไปได้สูงที่เล็ฟจะฆ่าเธอทิ้งหลังได้เงิน แต่มันก็เป็นทางเดียวที่เธอจะได้กลับบ้าน

ผิดคาด เงิน 2 ล้านยูโรก่อนหน้านี้ที่แม็กซ์ส่งให้เล็ฟ รวมกับเงินสดในกระเป๋าอีก 7 ล้านดอลลาร์ทำให้เล็ฟดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ แม้เขาจะบอกกับเธอว่า ยังมีคนที่ไม่ว่าให้เงินเท่าไรก็ไม่ยอมให้แม็กซ์กลับไปอยู่ดี แต่แม็กซ์ยืนยันว่านั่นเป็นปัญหาที่เธอต้องจัดการต่อไป

การเจรจาดำเนินไปเหมือนจะจบลงแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่จู่ ๆ กองกำลังจากไหนไม่มีใครรู้ นั่งรถ SUV มาเต็มคันรถทั้งหมดสามคัน มุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่แม็กซ์กำลังเจรจากับเล็ฟ เมื่อมาถึงก็สาดกระสุนเข้าใส่ทันที ทีนี้เล็ฟก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าแม็กซ์ทรยศ ก็เลยกลายเป็นว่าแม็กซ์ต้องเจอศึกสองหน้า

ด้านโอเว่นที่อยู่ในรถปฏิบัติการเมื่อเห็นความผิดปกติ เขาจึงรีบวิ่งไปช่วยแม็กซ์ทันที ณ จุดนี้ ถึงจะเป็นแค่ทนายที่ไม่มีสกิลการต่อสู้ใด ๆ แต่เขาก็อยากจะช่วยแม็กซ์ เขาคว้าท่อนเหล็กฟาดเข้าที่ด้านหลังของหนึ่งในกองกำลัง แล้วก็หยิบเอาปืนกลมาไว้ในมือ

โอเว่นเข้าไปข้างในเพื่อช่วยแม็กซ์ โดยได้รับการคุ้มกันจากดอว์นและลูกน้อง ภายในห้องเจรจา ชายสองคนกำลังถือปืนไปหาแม็กซ์ที่โดนยิงจนได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ เธอกำลังเข้าตาจนซะแล้ว จังหวะนั้น โอเว่นที่ท่าทางจับปืนงก ๆ เงิ่น ๆ ก็ตัดสินใจสาดกระสุนเข้าใส่ชายคนนั้น ปืนในมือสะบัดยิงออกไปรัว ๆ ทันใดนั้นเอง กระสุนเข้าไประเบิดสมองหนึ่งในสอง ชายอีกคนก็พุ่งเข้ามาจะทำร้ายโอเว่น แม็กซ์ก็ตามมาซัลโวลูกปืนเข้าสมองคนชายคนนั้น เนื้อสมองและเลือดกระจายไปทั่วตัวโอเว่น สุดท้าย แม็กซ์ก็เดินไปหาเล็ฟที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ก่อนยิงเธอบอกกับเล็ฟว่าเธอไม่ได้หักหลังเขา เล็ฟกลายเป็นศพ

ความคิด เหตุผล และความรู้สึก

จากนั้น แม็กซ์ก็ลากโอเว่นขึ้นมาบนรถ BMW ก่อนจะบึ่งหนีไป แต่อาการแพนิกของเขากำเริบ เขาพยายามควบคุมมัน ผ่านไปนานนับชั่วโมงเขาก็คุมมันไม่อยู่ เขาเปิดประตูกระโดดลงจากรถขณะที่รถยังวิ่งอยู่ด้วยความเร็ว โอเว่นสติแตกไปแล้ว !!!

แม็กซ์รีบจอดรถแล้วลงไปหาโอเว่นทันที เธอพยายามพูดปลอบประโลมเขาว่า “เป็นครั้งแรกของคุณ ฉันรู้ว่ามันน่าเศร้า”

แต่โอเว่นสติแตกเกินกว่าจะปลอมประโลมได้ด้วยประโยคเพียงประโยคเดียว เขาลั่นออกมาด้วยสายตาของคนสติแตกอย่างแท้จริง “ผมเหนี่ยวไกใส่หัวคน หัวคนที่ระเบิดเศษสมองกระจายออกมาเป็นชิ้น ๆ ภาพนั้นยังติดอยู่ในหัวผมอยู่เลย” เขาเดินหนีไปพร้อมกับบอกว่าจะเลิกยุ่งกับเรื่องทั้งหมด และตะโกนว่าจะเลิกทำงานให้กับซีไอเอด้วย

แม็กซ์ตะโกนให้โอเว่นกลับขึ้นรถ เธอควักปืนออกมาเล็งไปที่เขา ในขณะเดียวกับที่น้ำตาของเธอก็เอ่อล้น ภายในหัวของเธอกำลังต่อสู้กับความคิดเหตุผลและความรู้สึก จริง ๆ เธอควรลั่นไกใส่เขาไปเรื่องจะได้จบ ๆ แต่เธอทำไม่ได้ เพราะความรู้สึกบางอย่างเข้าครอบงำ เธอปล่อยให้โอเว่นเดินจากไป

แม็กซ์โทร. หาดอว์นแจ้งว่าโอเว่นคือตัวปัญหา และบอกว่าสามารถติดตามตัวเขาได้จากนาฬิกาจีพีเอส … น้ำตายังคงเอ่อล้นอยู่ที่เบ้าของแม็กซ์ มันเอ่อล้นอยู่อย่างนั้น

โอเว่นหาตู้โทรศัพท์สาธารณะโทร. หาฮันนาห์ ไม่น่าเชื่อว่าฮันนาห์อยู่ที่ปราก เธอได้รับข้อมูลจากกิ๊กของโอเว่นที่ซีไอเอ (อมีเลีย) ว่าเขาอยู่ที่ปราก เธอเป็นห่วงจึงมาหาเขาที่นี่ ทั้งสองจึงนัดเจอกัน

ฮันนาห์นั่งรอโอเว่นอยู่ที่จุดนัดหมาย โอเว่นกำลังเดินมาถึงเธออีกเพียงไม่กี่สิบก้าว แล้วรถ SUV สีดำคันหนึ่งก็มาจอดตัดหน้าแล้วมีคนพาตัวเขาขึ้นรถไป … ฮันนาห์ได้แต่ยืนงงงันอยู่อย่างนั้น

ภาพตัดมายังสถานที่หนึ่ง แม็กซ์กับโอเว่นถูกจับมัดเอาไว้กับเก้าอี้ สักพักหญิงสาววัยรุ่นผมทองก็เดินเข้ามา แม็กซ์ตกใจอุทานออกไปว่า “คาโรลิน่า …” แล้วก็พูดภาษารัสเซียนออกมาหนึ่งประโยค แต่สายตาของคาโรลิน่าเย็นชายิ่งนัก เธอยกปืนในมือขึ้นมา ก่อนจะลั่นกระสุนเข้ากลางอกแม็กซ์ แม็กซ์หน้าฟุบลงไปทันที

โอเว่นที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ส่วนคาโรลิน่าก็ยกแขนขึ้นมาใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาก่อนที่จะเดินมาหาโอเว่น เธอย่อตัวลงเพื่อจ้องตาของโอเว่นแล้วพูดขึ้นว่า …

“แกเป็นใคร แล้วมายุ่งวุ่นวายบ้าบออะไรกับแม่ฉัน !?”

จบซีซั่น 1

ดูซีรีส์เรื่องนี้ที่ Netflix : คลิกที่นี่